20.12.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
20.03.87 Om Shanti Madhuban
ความสมดุลของอำนาจแห่งความรักและความจริง
วันนี้พ่อที่แท้จริงครูที่แท้จริงและสัตกูรูได้มาพบกับลูกที่แท้จริงของท่านซึ่งเต็มไปด้วยสัจจะอันทรงพลัง
พลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและอำนาจของทั้งหมดคือสัจจะ สัจจะมีสองความหมาย 1.
สัจจะหมายถึงความจริง 2. สัจจะหมายถึงไม่สูญสลาย
ในทั้งสองความหมายพลังแห่งสัจจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
พ่อได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพ่อที่แท้จริง มีพ่อมากมายนับไม่ถ้วน
แต่มีพ่อที่แท้จริงเพียงผู้เดียว มีครูที่แท้จริงเพียงผู้เดียวและสัตกูรูผู้เดียว
สัจจะเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุด
นั่นคือคุณสมบัติพิเศษของดวงวิญญาณสูงสุดคือสัจจะนั่นคือความจริง ลูกมีเพลง:
ชีว่าคือสัจจะ ชีว่าคือผู้ที่สวยงาม…. โลกก็ร้องเพลงด้วยว่า: สัตยัม (สัจจะ), ชีวัม
(ผู้ให้คุณประโยชน์), ซุนดาราม (ผู้ที่สวยงาม)
นอกจากนั้นพวกเขายังกล่าวถึงพ่อดวงวิญญาณสูงสุดว่าท่านเป็นสัจจะ ผู้มีชีวิต
และผู้มีความปิติสุข ลูกดวงวิญญาณก็เรียกอีกอย่างว่าสัจจะ สิ่งมีชีวิต
และเป็นตัวของความปิติสุขด้วยเช่นกัน มีการร้องสรรเสริญคำว่า "สัจจะ" เป็นอย่างมาก
ในงานใดก็ตามเมื่อใครบางคนพูดกับผู้มีอำนาจ เขาจะพูดว่า "ฉันเป็นคนสัตย์จริงและด้วยเหตุนี้เองที่ฉันพูดกับผู้มีอำนาจ"
เป็นที่จดจำของสัจจะ เรือแห่งสัจจะจะโคลงเคลงไปมา แต่จะไม่จม
นอกจากนี้ลูกยังพูดด้วยว่า: เมื่อมีสัจจะดวงวิญญาณก็ร่ายรำ
คนที่มีพลังแห่งสัจจะจะเฝ้าแต่ร่ายรำ เขาจะไม่มีวันห่อเหี่ยว สับสน หวาดกลัว
หรืออ่อนแอ คนที่มีพลังแห่งสัจจะจะเฝ้าแต่ร่ายรำอย่างมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ
เขาจะมีพลัง มีพลังที่จะเผชิญหน้าและดังนั้นจึงไม่มีความกลัว
สัจจะถูกกล่าวว่าเหมือนทองคำ ในขณะที่ความหลอกลวงกล่าวว่าเหมือนโคลน
ในความเลื่อมใสศรัทธาเช่นกันผู้ที่มีความรักที่ตรงไปยังพระเจ้ากล่าวได้ว่าเป็น "satsangi"
ผู้ที่รักษาความเป็นมิตรแห่งสัจจะ ในตอนท้ายเมื่อดวงวิญญาณออกจากร่าง
พวกเขาจะพูดอย่างไร? "ชื่อของสัจจะอยู่กับท่าน"
ดังนั้นสัจจะเป็นสิ่งที่ไม่สูญสลายและสัจจะก็คือความจริง
พลังแห่งสัจจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่พูดว่าอย่างไรเมื่อพวกเขาเห็นลูก?
ลูกมีพลังแห่งสัจจะและนี่คือสาเหตุที่ลูกยังคงก้าวไปพร้อมกับการเติบโตอย่างมากมาย
สัจจะไม่เคยแปรปรวน มันไม่สั่นคลอน สัจจะคือหนทางสู่ความก้าวหน้า
ลูกสร้างยุคทองด้วยพลังแห่งสัจจะ
ลูกเองกลายเป็นนารายณ์ที่แท้จริงและเป็นลักษมีที่แท้จริง
นี่คือความรู้ที่แท้จริงของพ่อที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้จึงน่ารักและพิเศษสุดไม่เหมือนใครในโลก
วันนี้บัพดาดากำลังดูลูกๆทุกคนเพื่อดูว่าลูกได้ดูดซับพลังแห่งสัจจะของความรู้ที่แท้จริงมากแค่ไหน
สัจจะดึงดูดทุกดวงวิญญาณ
แม้ว่าโลกปัจจุบันจะเป็นดินแดนแห่งความหลอกลวงและทุกสิ่งไม่เป็นจริง
นั่นคือทุกสิ่งปะปนไปด้วยความไม่จริง
อย่างไรก็ตามผู้ที่มีพลังแห่งสัจจะจะได้รับชัยชนะ
การบรรลุผลของสัจจะคือความสุขและความไม่หวาดกลัว
ผู้ที่พูดความจริงจะไม่เกรงกลัวเสมอ พวกเขาจะไม่มีวันกลัว
ผู้ที่ไม่มีสัจจะย่อมมีความกลัวแน่นอน
ดังนั้นลูกทุกคนคือดวงวิญญาณที่สูงส่งซึ่งเต็มไปด้วยพลังแห่งสัจจะ
ลูกมีการบรรลุผลทั้งหมดของ ความรู้ที่แท้จริง พ่อที่แท้จริง การบรรลุผลที่แท้จริง
การจดจำระลึกถึงที่แท้จริง คุณธรรมที่แท้จริง และพลังที่แท้จริง
ดังนั้นลูกมีความซาบซึ้งของผู้มีอำนาจเช่นนั้นหรือไม่?
อำนาจไม่ได้หมายถึงความหยิ่งยโส ยิ่งบางคนมีอำนาจมากเท่าไหร่
พวกเขาก็จะยิ่งมีทัศนคติที่มีอำนาจทางจิตวิญญาณมากขึ้นเท่านั้น
เขาจะมีความรักและความถ่อมตนในคำพูดของเขา นั่นคือสิ่งชี้บอกของผู้มีพลัง
ลูกยกตัวอย่างของต้นไม้
เมื่อต้นไม้มีอำนาจของการมีผลไม้อย่างเต็มเปี่ยมมันก็จะโน้มกิ่งลง
นั่นคือมันทำงานรับใช้ด้วยความ "ถ่อมตน" (เป็นตัวอย่าง)
ในทำนองเดียวกันสำหรับลูกที่มีอำนาจทางจิตวิญญาณ ยิ่งพวกเขามีอำนาจมากเท่าไหร่
พวกเขาก็จะรับใช้ด้วยความถ่อมตนมากขึ้นและพวกเขาก็จะรักทุกคนมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ที่มีอำนาจแห่งสัจจะจะไม่มีความหลงทะนงตน ดังนั้นขอให้มีอำนาจ ความซาบซึ้ง
และสภาพที่ไม่มีความหลงทะนงตน นี่เรียกว่ารูปในทางปฏิบัติของความรู้ที่แท้จริง
ลูกได้เห็นรูปที่มีตัวตนในทางปฏิบัติของผู้มีอำนาจแห่งสัจจะในพ่อบราห์มาในดินแดนแห่งความหลอกลวงนี้
คำพูดที่มีอำนาจของท่านไม่เคยให้ความรู้สึกของความหยิ่งยโส เมื่อลูกฟัง Murli
คำพูดเหล่านั้นมีอำนาจมาก! อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านั้นไม่ใช่คำพูดของความหยิ่งยโส
ความรัก ความถ่อมตนและความไม่หลงทะนงตนรวมอยู่ในคำพูดของผู้มีอำนาจ
ด้วยเหตุนี้เองคำพูดของผู้มีอำนาจจึงเป็นที่รัก ซึ่งไม่ใช่แค่รัก แต่น่าประทับใจ
ลูกกำลังตามพ่ออยู่ใช่ไหม? ในงานรับใช้และในการกระทำ,ลูกกำลังทำตามพ่อบราห์มา
เพราะในโลกที่มีตัวตนลูกเป็นตัวอย่างทางกายภาพและเป็นตัวอย่าง
ดังนั้นเช่นเดียวกับที่ลูกเห็นรูปแบบที่มีอำนาจในใบหน้าและในกิจกรรมของพ่อบราห์มาผ่านการกระทำและงานรับใช้ของท่าน
ในทำนองเดียวกันผู้ที่ทำตามพ่อจะแสดงความรักและอำนาจ ความถ่อมตน และความยิ่งใหญ่
ไม่ควรมีเพียงความรักที่มองเห็นได้และอำนาจขาดหายไปหรืออำนาจนั้นมองเห็นได้และความรักขาดหายไป
ลูกเห็นพ่อบราห์มาและเวลานี้ลูกยังคงได้ยินเสียงเมอร์ลี
นั่นคือตัวอย่างที่มองเห็นได้ ท่านจะพูดว่า "ลูกๆ" และแสดงอำนาจของท่านด้วย
ด้วยความรักท่านจะพูดว่า"ลูก" และด้วยผู้มีอำนาจเขาจะให้คำสอนด้วยเช่นกัน
ท่านจะเปิดเผยความรู้ที่แท้จริงและในขณะที่พูดว่า "ลูกๆ"
ก็จะอธิบายความรู้ใหม่ทั้งหมดให้เข้าใจอย่างชัดเจน
นี่เรียกว่าการมีความสมดุลระหว่างอำนาจแห่งความรักและความจริง
ดังนั้นในปัจจุบันให้ขีดเส้นใต้ความสมดุลในงานรับใช้นี้
ห้าสิบปี(ตอนนั้นปี 1987) (ตอนนี้ 83 ปี)
ได้เสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันเพื่อเตรียมพื้นดิน
มีการเตรียมพื้นดินค่อนข้างมากในต่างประเทศเช่นกัน แม้ว่าจะผ่านมาไม่ถึง 50
ปีแล้วก็ตาม
แต่พวกเขาก็มาในช่วงเวลาที่สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดพร้อมและนี่คือเหตุผลว่าทำไม
50 ปีก่อนหน้านี้จึงเท่ากับห้าปีของปัจจุบัน ดับเบิ้ลฟอรเรนเนอร์ทุกคนกล่าวว่า:
เราเป็นคนที่มาสุดท้ายและกำลังไปอย่างรวดเร็วและจะมาก่อนเป็นอันดับแรก
ดังนั้นในแง่ของเวลาลูกจะไปเร็วและมาเป็นอันดับแรกใช่ไหม?
รักษาอำนาจของความไม่ขลาดกลัวอย่างแน่นอน
ความรู้ใหม่ของพ่อผู้เดียวคือความรู้ที่แท้จริง
และโลกใหม่ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยความรู้ใหม่
ให้อำนาจและความซาบซึ้งนี้ปรากฏในรูปแบบของลูก ลูกเก็บสิ่งนี้หลอมรวมไว้เป็นเวลา 50
ปี
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ได้หมายความว่าลูกควรสร้างความสับสนว่าใครก็ตามที่มาอยู่ตรงหน้าลูกโดยการให้ความรู้ใหม่นั้นทันที
มันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ให้ความรู้โดยพิจารณาจากพื้นดิน จับชีพจรของเขาและเวลา
นี่คือสิ่งชี้บอกของการเต็มไปด้วยความรู้ พิจารณาความปรารถนาของดวงวิญญาณนั้น
จับชีพจรของเขา เตรียมพื้นดิน
แต่ต้องมีพลังแห่งความไม่ขลาดกลัวในการมีสัจจะอย่างแน่นอน
อย่าให้มีความกลัวใดๆในสิ่งที่ผู้คนจะพูด ลูกอาจจะไม่มีความกลัวและเตรียมพื้นดิน
ลูกบางคนรู้สึกว่าเพราะนี่เป็นความรู้ใหม่บางคนจะไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย
อย่างไรก็ตามลูกต้องอธิบายให้คนที่ไม่เข้าใจเท่านั้น
แน่นอนลูกต้องเตรียมรูปแบบภายนอกตามบุคคล แต่อย่าได้รับอิทธิพลจากบุคคลนั้น
อย่าลืมจุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนแปลงบุคคลด้วยอำนาจแห่งความรู้ที่แท้จริงของลูกอย่างแน่นอน
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่ลูกทำมาจนถึงตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกต้องทำสิ่งนั้น
มันจำเป็นเพราะลูกต้องเตรียมพื้นดิน อย่างไรก็ตามลูกจะเตรียมพื้นดินถึงเมื่อไหร่?
ลูกต้องการเวลาอีกเท่าไหร่?
เมื่อลูกได้รับยาลูกจะไม่ได้รับยาที่มีพลังในช่วงเริ่มต้น
ก่อนอื่นลูกจะได้รับยาเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามอย่าเพียงแค่ให้ยาเพียงเล็กน้อยและอย่าให้ยาในปริมาณที่รุนแรง
หากลูกให้คนที่อ่อนแอในปริมาณมากนั่นก็ผิดเช่นกัน ลูกต้องมีพลังในการแยกแยะด้วย
แต่ลูกจำเป็นต้องมีอำนาจจากความรู้ใหม่ที่แท้จริงของลูก
ทัศนคติที่ละเอียดอ่อนของผู้มีอำนาจจะเปลี่ยนทัศนคติของพวกเขาอย่างแน่นอน
พื้นดินนี้จะถูกเตรียมไว้
ดังนั้นเมื่อลูกทำงานรับใช้และพวกเขาไปถึงมธุบันก็จงแจ้งให้พวกเขารู้อย่างน้อยก็เรื่องนี้:
บนแผ่นดินนี้ แผ่นดินของพวกเขาก็ถูกเตรียมไว้เช่นกัน
ไม่ว่าพื้นดินจะหนักแค่ไหนหรือนับถือศาสนาใดหรือตำแหน่งของพวกเขาจะเป็นอย่างไร
พวกเขาก็จะอ่อนโยนลงบนพื้นดินนี้เช่นกัน และแล้วเนื่องจากพื้นดินเริ่มอ่อนนุ่ม
ไม่ว่าลูกจะหว่านเมล็ดพืชอะไรผลของสิ่งนั้นก็จะปรากฏออกมาอย่างง่ายดาย
เพียงแค่ไม่ต้องกลัวสิ่งใด กลายเป็นคนที่ปราศจากความกลัวอย่างแน่นอน
ให้สิ่งนี้กับพวกเขาอย่างมีกลยุทธ์
อย่าให้มันเป็นเช่นนั้นที่คนเหล่านั้นมาพร่ำบ่นกับลูกว่าพวกเขาก็มาถึงดินแดนนี้เช่นกันแต่พวกเขาไม่รู้ว่าความรู้ของพระเจ้าคืออะไร
เมื่อมาถึงดินแดนของพระเจ้าให้พวกเขากลับไปอย่างแน่นอนเมื่อได้รับสาส์นของการเปิดเผยของพระเจ้า
เป้าหมายจะต้องเต็มไปด้วยอำนาจนี้
ในแง่ของโลกปัจจุบันความใหม่เป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น
แม้ว่าใครบางคนอาจคิดค้นแฟชั่นที่ผิดพลาด แต่ผู้คนก็ยังคงตามแฟชั่น
ดูสิว่างานศิลปะในสมัยก่อนนั้นสวยงามเพียงใด
เมื่อเทียบกับสิ่งนั้นศิลปะในปัจจุบันเป็นเพียงเส้น
อย่างไรก็ตามผู้คนยังคงชอบศิลปะสมัยใหม่
ทางเลือกของผู้คนในทุกสถานการณ์ขึ้นอยู่กับความใหม่และความใหม่จะดึงดูดเข้าหาตนเองโดยอัตโนมัติ
ดังนั้นจงมีความซาบซึ้งในความใหม่ ความจริง และความยิ่งใหญ่
จากนั้นพิจารณาเวลาและบุคคลและทำงานรับใช้
แน่นอนให้รักษาเป้าหมายที่จะเปิดเผยความรู้ใหม่ของโลกใหม่อย่างแน่นอน
ตอนนี้ความรักและความสงบสุขได้ถูกเปิดเผยแล้ว
ลูกได้เปิดเผยรูปของมหาสมุทรแห่งความรักและมหาสมุทรแห่งความสงบของพ่อ
แต่ลูกไม่ได้วางแผนมากมายขนาดนั้นที่จะให้ความรู้ใหม่แก่พวกเขาว่าดวงวิญญาณเป็นตัวของความรู้อย่างไรและพ่อเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้อย่างไร
เวลานั้นจะมาถึงเมื่อปรากฏออกมาจากริมฝีปากของทุกคนว่านี่คือความรู้ใหม่สำหรับโลกใหม่
ปัจจุบันพวกเขาเพียงแค่พูดกันว่านี่เป็นสิ่งที่ดี
พวกเขาไม่ได้พูดว่ามันเป็นเรื่องใหม่
ลูกได้เปิดเผยเรื่องของการการจดจำระลึกถึงเป็นอย่างดี
และนี่คือเหตุผลที่พื้นดินได้รับการเตรียมไว้เป็นอย่างดี
งานแรกของการเตรียมพื้นดินก็จำเป็นเช่นกัน ไม่ว่าลูกจะทำอะไรก็ตามสิ่งนั้นก็ดีมาก
และลูกก็ทำได้ดีมาก ลูกทำได้โดยใช้ร่างกายจิตใจและทรัพย์สมบัติของลูก
และลูกกำลังขอบคุณสำหรับสิ่งนั้น
เมื่อลูกไปต่างประเทศครั้งแรก ลูกเคยพบว่ามันยากมากที่จะอธิบายภาพของตรีมูรติ
ตอนนี้พวกเขาถูกดึงดูดด้วยภาพตรีมูรติ
พวกเขาคิดว่าภาพของบันไดเป็นเรื่องราวของบารัต
แต่พวกเขาถูกดึงดูดของภาพนี้ในต่างประเทศ
เช่นที่ลูกวางแผนว่าจะถ่ายทอดสิ่งใหม่ๆให้กับพวกเขา
ดังนั้นเวลานี้จงสร้างสิ่งประดิษฐ์นี้ด้วย อย่าคิดว่าจะต้องทำอย่างนั้น ไม่เลย
เป้าหมายของบัพดาดาคือลูกต้องซึมซับพลังของความยิ่งใหญ่ของความใหม่ อย่าลืมสิ่งนี้
ลูกต้องอธิบายให้โลกรู้ อย่ากลัวสิ่งใดๆในโลก
สร้างวิธีการของลูกเองเพราะลูกๆเท่านั้นที่เป็นนักประดิษฐ์
เพียงลูกเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับแผนงานรับใช้
หากลูกรักษาเป้าหมายของลูกแล้วแผนการที่ดีที่สุดทั้งหมดจะถูกสร้างขึ้นและความสำเร็จก็คือสิทธิ์โดยกำเนิดของลูกอยู่ดี
ดังนั้นจงแสดงความใหม่ ลูกมีวิธีที่ดีมากในการชี้แจงประเด็นความรู้ที่ลึกล้ำทั้งหมด
ลูกสามารถอธิบายได้ ลูกสามารถอธิบายแต่ละประเด็นให้เข้าใจอย่างมีเหตุผล
ลูกมีอำนาจของลูกเอง
ไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นด้วยจิตใจของลูกเองหรือเป็นเพียงเรื่องของจินตนาการ
มันเป็นความจริง มันเป็นประสบการณ์ของลูก ลูกมีอำนาจแห่งประสบการณ์
อำนาจแห่งความรู้ และอำนาจแห่งสัจจะ ลูกมีอำนาจมากมาย
ดังนั้นใช้ทั้งอำนาจและความรักในเวลาเดียวกัน
บัพดาดามีความยินดีที่โดยการรับใช้ด้วยความพยายามอย่างเต็มที่ลูกจึงมีการเติบโตอย่างมากและจะเติบโตต่อไปทั้งในดินแดนนี้และในต่างแดน
ในดินแดนนี้มีความสำเร็จผ่านบุคคลและจับชีพจรของเขาแล้วรับใช้เขา
ในต่างประเทศก็ประสบความสำเร็จเช่นกันด้วยวิธีนี้
ก่อนอื่นลูกต้องติดต่อกับบุคคลนั้นและเตรียมพื้นดินไว้ในลักษณะนั้น
หลังจากทำการติดต่อแล้วให้นำบุคคลนั้นเข้ามาสู่ความสัมพันธ์
อย่าเพียงแค่ปล่อยให้เขาเป็นผู้ติดต่อ นำคนนั้นเข้ามาสู่ความสัมพันธ์
แล้วขั้นตอนสุดท้ายคือการทำให้เขาอุทิศตนด้วยสติปัญญาของเขา
เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องนำใครสักคนเข้ามามีการติดต่อ
และจากนั้นลูกต้องนำเขาเข้ามาสู่ความสัมพันธ์
ในขณะที่เข้ามามีความสัมพันธ์ให้เขาอุทิศสติปัญญาของเขาด้วยความรู้สึกว่า "สิ่งที่พ่อพูดไว้คือสัจจะ"
แล้วจะไม่มีคำถามเกิดขึ้น สิ่งที่บาบาพูดนั้นถูกต้อง
เพราะพวกเขาจะมีประสบการณ์กับสิ่งนั้นและคำถามของพวกเขาก็จะจบสิ้นลง
สิ่งนี้เรียกว่าการอุทิศสติปัญญาซึ่งทุกสิ่งมีประสบการณ์อย่างชัดเจน
รักษาเป้าหมายว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้พวกเขาอุทิศสติปัญญา
แล้วเมื่อนั้นก็สามารถพูดได้ว่าตอนนี้ไมค์พร้อมแล้ว ไมค์จะทำเสียงอะไร?
ไม่ใช่แค่ว่าความรู้ของพวกเขาเป็นสิ่งที่ดี ไม่นะ! ขอให้มีเสียงว่า "นี่เป็นความรู้ใหม่และสิ่งนี้จะนำมาซึ่งโลกใหม่"
เมื่อนั้นกุมภกรรณจะตื่นขึ้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็แค่ลืมตาขึ้นมาและพูดว่า "ดีมากดีมาก"
แล้วพวกเขาก็กลับไปนอน
ดังนั้นเมื่อลูกกลายเป็นเด็กและเป็นนายก็ต้องทำให้พวกเขาเป็นเช่นนั้นเช่นกัน
อย่าทำให้คนยากไร้และหมดหนทางเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ปวงประชา
แต่จงทำให้พวกเขาเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในอาณาจักร วางแผนสำหรับสิ่งนี้:
เราควรใช้วิธีใดเพื่อไม่ให้พวกเขาสับสน แต่พวกเขาก็อุทิศสติปัญญาของพวกเขาด้วย?
ให้พวกเขาพบว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งใหม่และไม่ต้องสับสน
ให้พวกเขารู้สึกถึงอำนาจแห่งความรักและความใหม่
ผลลัพธ์จนถึงตอนนี้จากการเติบโตของงานรับใช้และการเพิ่มขึ้นของจำนวนบราห์มินนั้นดีมาก
เพราะตอนแรกลูกเก็บเมล็ดไว้อย่างแฝงตัว นั่นก็สำคัญเช่นกัน
เมล็ดจะต้องถูกเก็บไว้อย่างแฝงตัว โดยการเก็บไว้อย่างมองเห็นได้มันจะไม่เกิดผล
ต้องเก็บเมล็ดไว้ใต้ดิน แต่อย่าเพียงแค่ทิ้งไว้ใต้ดิน จะต้องมีการเปิดเผยภายนอก
มันควรจะกลายเป็นรูปของผลไม้นั่นคือขั้นสูง ลูกเข้าใจไหม?
รักษาเป้าหมายที่จะทำสิ่งใหม่ๆ อย่าคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในปีนี้
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของลูกจะเปิดเผยเมล็ดภายนอกด้วยเช่นกัน
อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกไปและเริ่มบรรยายให้พวกเขาฟังทันที
ก่อนอื่นลูกต้องพูดคุยเพื่อให้พวกเขารู้สึกถึงพลังแห่งสัจจะ
ให้มันออกมาจากปากของทุกคนว่า "ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง ... "
ลูกแสดงละครที่ทุกศาสนามารวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน: "เราเป็นหนึ่งเดียวกัน
เราเป็นของหนึ่งเดียว" นั่นเป็นเพียงการแสดงละคร
แต่นี่คือทุกคนจากทุกศาสนาที่มารวมตัวกันในทางปฏิบัติบนเวทีและพูดเป็นเสียงเดียวว่า
“พ่อคือหนึ่งเดียว มีเพียงความรู้นี้เท่านั้น มีเพียงเป้าหมายเดียว เพียงบ้านเดียว
แค่นี้แหละ” สิ่งนี้จะต้องมีการได้ยินในเวลานี้
เมื่อฉากเช่นนั้นปรากฏบนเวทีที่ไม่มีขีดจำกัด ธงแห่งการเปิดเผยจะถูกยกขึ้น
ทุกคนที่อยู่ภายใต้ธงนี้จะร้องเพลงนี้
เสียงเดียวกันจะดังออกมาจากริมฝีปากของทุกคนว่า: "บาบาของเรา"
แล้วเมื่อนั้นก็จะกล่าวได้ว่าลูกเฉลิมฉลองชีพราตรีในทางปฏิบัติ
ความมืดจะสิ้นสุดลงและจะมองเห็นฉากของรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่
สิ่งนี้เรียกว่าเกมของวันนี้และวันพรุ่งนี้
วันนี้มีความมืดและพรุ่งนี้จะมีรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่ นี่คือม่านสุดท้าย
ลูกเข้าใจไหม?
แผนการทั้งหมดที่ลูกทำไว้นั้นดี แผนจะต้องทำตามแผ่นดินในแต่ละสถานที่
หากเป็นไปตามแผ่นดินแล้วต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการบางอย่างก็ไม่เป็นไร
ในท้ายที่สุดทุกคนจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมและแน่นอนว่าจะต้องนำมายังดินแดนมธุบันเพื่อที่จะได้รับการประทับตรา
ทุกอาชีพที่แตกต่างกันจะต้องเตรียมพร้อมและประทับตราให้กับพวกเขา
ลูกจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนได้โดยที่หนังสือเดินทางของลูกยังไม่ได้รับการประทับตราก่อน
ดังนั้นตราประทับจะเกิดขึ้นที่มธุบัน
ลูกทุกคนอุทิศตนอยู่แล้ว
ถ้าลูกไม่อุทิศตนลูกจะกลายเป็นเครื่องมือในการรับใช้ได้อย่างไร?
เป็นเพราะลูกอุทิศตนที่ลูกได้กลายเป็นบราห์มากุมารและกุมารีและกลายเป็นเครื่องมือในการรับใช้
ไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนนี้หรือในต่างแดนลูกไม่ได้รับใช้ในฐานะคริสเตียนกุมารีหรือพุทธกุมารีใช่หรือไม่?
ลูกรับใช้อย่างเป็นบราห์มากุมาร/กุมารีใช่หรือไม่?
ดังนั้นในรายชื่อของบราห์มินทุกคนอุทิศตน เวลานี้ลูกต้องทำให้คนอื่นอุทิศตน
ลูกตายในขณะที่มีชีวิต ลูกกลายเป็นบราห์มินแล้ว ลูกๆพูดว่า "บาบาของฉัน"
และดังนั้นบาบาก็พูดว่า: พ่อกลายเป็นของลูกแล้ว ดังนั้นลูกอุทิศตนแล้วใช่ไหม?
ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูกหรืออยู่ที่ศูนย์
ใครก็ตามที่พูดจากหัวใจของพวกเขาว่า "บาบาของฉัน" พ่อจะทำให้พวกเขาเป็นของท่าน
นี่คือข้อตกลงที่ทำด้วยหัวใจ ไม่ใช่การต่อรองทางกายภาพที่ทำเพียงแค่คำพูด
แต่ทำด้วยหัวใจ การอุทิศตนหมายถึงการอยู่ภายใต้ศรีมัท
ทั้งชุมนุมเป็นของผู้ที่อุทิศตนแล้วใช่ไหม? ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการถ่ายภาพ
ตอนนี้ลูกถูกถ่ายภาพแล้ว ดังนั้นลูกจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
การได้ถ่ายภาพในบ้านของพระเจ้าไม่ใช่โชคเล็กน้อยเลย
ภาพที่ถ่ายนี้ไม่ใช่ภาพถ่ายทางกายภาพ แต่เป็นภาพถ่ายที่อยู่ในหัวใจของพ่อ อัจชะ
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งที่มีอำนาจแห่งสัจจะ
ถึงลูกผู้รับใช้ที่แท้จริงที่แสดงความใหม่และความยิ่งใหญ่
ถึงผู้ที่รักษาสมดุลของความรักและอำนาจ
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งซึ่งประกาศสิทธิ์ในการได้รับพรจากพ่อในทุกย่างก้าว
ถึงผู้ที่จริงแท้ทั้งหมดนั่นคือเพชรพลอยที่ไม่มีวันสูญสลาย
ถึงผู้ที่เล่นบทบาทที่ไม่สูญสลายของพวกเขา
ถึงลูกๆที่เป็นเจ้านายของสมบัติที่มีค่าที่ไม่มีวันสูญสลาย ด้วยความรัก ระลึกถึง
และ นมัสเต จากผู้สร้างโลก พ่อที่แท้จริง ครูที่แท้จริง และสัตกูรู
พร:
ขอให้ลูกรับใช้ด้วยความเงียบสงบในจิตใจและกลายเป็นตัวของความสำเร็จที่สร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่
ในตอนแรกเมื่อลูกทุกคนรักษาความสงบ ลูกก็มีอิสระและประหยัดเวลา
ในทำนองเดียวกันรักษาความเงียบสงบของจิตใจเพื่อที่ลูกจะได้ไม่มีความคิดที่ไร้ประโยชน์
เช่นที่ไม่มีเสียงใดๆปรากฏออกมาจากริมฝีปากของลูก
ในทำนองเดียวกันก็อย่าให้มีความคิดที่ไร้ประโยชน์
นี่คือความเงียบของจิตใจที่ช่วยให้ลูกประหยัดเวลาของลูก
ด้วยความเงียบของจิตใจสิ่งประดิษฐ์ใหม่จะปรากฏขึ้นซึ่งลูกจะต้องใช้ความพยายามให้น้อยลงและประสบความสำเร็จมากขึ้น
เช่นที่สิ่งอำนวยความสะดวกของวิทยาศาสตร์ทำให้ลูกสามารถค้นหาวิธีการได้ในหนึ่งวินาที
ในทำนองเดียวกันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งความเงียบเหล่านี้ลูกจะพบวิธีการได้ในหนึ่งวินาที
คติพจน์:
ความร่วมมือของทุกคนจะมอบให้กับผู้ที่อยู่ในสภาพที่อุทิศตนแล้ว
หมายเหตุ:
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 3 ซึ่งเป็นชั่วโมงแห่งการทำสมาธิของโลก
และพี่น้องหญิงชาวชาวราชโยคี ทาปาสวีทุกคนจะทำสมาธิร่วมกันตั้งแต่เวลา 18.30 -
19.30 น. ในช่วงเวลาของการโยคะพิเศษ จงมีความมั่นคงในรูปของแสงและพลังของลูก
และในขณะที่ปลุกเรียกบัพดาดาที่กึ่งกลางหน้าผาก
จงสัมผัสกับรูปรวมและทำงานรับใช้ของการกระจายรัศมีของแสงและพลังออกไปในทุกหนแห่ง