09.12.20       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ความคิดที่ลูกมีต่องานรับใช้ของพระเจ้านั้นเรียกว่าความคิดที่บริสุทธิ์ แล้วลูกจะเป็นอิสระจากความคิดอื่นๆพวกเขาไม่ไร้ประโยชน์

คำถาม:
เพื่อที่จะปลอดภัยจากการกระทำที่เป็นบาป ลูกควรเป็นอิสระจากการดึงดูดจากอะไร แม้ในขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ของลูก?

คำตอบ:
ลูกอาจจะรับใช้เพื่อนฝูงและญาติมิตรของลูกได้ แต่ทำสิ่งนั้นด้วยสายตาทางจิตของพระเจ้า ลูกไม่ควรมีสายใยของความผูกพันยึดมั่นกับพวกเขา หากลูกมีความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ใดๆบนพื้นฐานของกิเลสแล้วการกระทำที่ลูกทำจะกลายเป็นบาป ดังนั้นเป็นอิสระจากแรงดึงดูดใด ๆ และปฏิบัติหน้าที่ของลูก จงเพียรพยายามให้มากเท่าที่เป็นไปได้ที่จะอยู่อย่างมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ

โอมชานติ
วันนี้ปรัชญาของความคิด ความคิดที่เป็นบาปและการเป็นอิสระจากความคิดธรรมดา นั่นคือปรัชญาของกรรม กรรมที่เป็นกลางและกรรมที่เป็นบาปได้มีการอธิบายให้แก่ลูกแล้ว ในขณะที่ลูกอยู่ที่นี่(ในโลกนี้)ลูกจะมีความคิดแน่นอน ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถอยู่ได้โดยไม่มีความคิดแม้ชั่วขณะเดียว ลูกมีความคิดที่นี่และในยุคทองด้วยเช่นกันและในหนทางของความไม่รู้เช่นกัน แต่เมื่อลูกเข้ามาสู่หนทางของความรู้ ความคิดไม่ควรเป็นเพียงความคิดธรรมดาเพราะลูกได้กลายเป็นเครื่องมือเพื่องานรับใช้ของพระเจ้า ดังนั้นความคิดที่ลูกมีต่อยักย่ะจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ความคิด มันคือการเป็น“นิรสังกัลป์”(เป็นอิสระจากความคิด) อย่างไรก็ตามความคิดที่ไร้ประโยชน์ที่ลูกมีนั่นคือความคิดใดๆที่ลูกมีเกี่ยวกับโลกยุคเหล็กและเพื่อนฝูงญาติมิตรของยุคเหล็กกล่าวได้ว่าเป็นบาป เพราะด้วยความคิดเหล่านั้นที่มีการทำบาปและลูกได้รับความทุกข์จากสิ่งเหล่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อลูกมีความคิดเกี่ยวกับยักย่ะและงานรับใช้ของพระเจ้า ลูกก็จะได้รับการกล่าวขานว่าเป็น“นิรสังกัลป์”(อิสระจากความคิด) ลูกอาจมีความคิดที่บริสุทธิ์ของงานรับใช้ ดูสิบาบากำลังนั่งดูแลลูกอยู่ที่นี่ พ่อแม่มีความคิดที่จะปรนนิบัติรับใช้ลูกๆของพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ความคิดเหล่านั้นไม่ใช่ความคิดที่จะกระทำบาป อย่างไรก็ตามหากใครบางคนมีความคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์บนพื้นฐานของกิเลสแล้วสิ่งนั้นจะสะสมบาปอย่างแน่นอน บาบาบอกลูกๆว่า: ลูกอาจรับใช้เพื่อนฝูงญาติมิตรของลูกได้ แต่ให้ทำเช่นนั้นด้วยสายตาของพระเจ้าทางจิต ไม่ควรมีสายใยของความผูกพันยึดมั่น ลูกควรทำหน้าที่ของลูกในขณะที่เป็นอิสระแรงดึงดูดใดๆ อย่างไรก็ตามหากบางคนที่นี่ไม่สามารถตัดความสัมพันธ์ทางกรรมออกไปได้ พวกเขาก็ไม่ควรที่จะละทิ้งพระเจ้า หากลูกจับมือของท่านไว้เสมอ ลูกจะได้มาซึ่งสถานภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง ลูกแต่ละคนรู้ว่าลูกมีกิเลสอะไรในตัวลูก หากใครบางคนมีกิเลสแม้แต่ตัวเดียวคนนั้นมีสำนึกที่เป็นร่างอย่างแน่นอน ผู้ที่ไม่มีกิเลสจะมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ หากใครบางคนมีกิเลสใดๆจะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอนในขณะที่ผู้ที่ปราศจากกิเลสจะได้รับการปลดปล่อยจากการลงโทษ ยกตัวอย่างเช่นมีลูกบางคนที่ไม่มีตัณหาราคะ ความโกรธ ความละโมบหรือความผูกพันยึดมั่น พวกเขาสามารถทำงานรับใช้ได้ดีมาก สภาพของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยโยคะและความรู้อย่างมาก ลูกๆทุกคนจะโหวตให้คนนั้นด้วยเช่นกัน เช่นที่พ่อรู้ ลูกๆก็รู้เช่นกันที่ทุกคนจะพูดว่า“คนนี้ดี”ของคนที่ดี หากใครบางคนมีข้อบกพร่องผู้อื่นก็จะโหวตให้กับคนนั้นตามนั้น จงมีศรัทธาที่มั่นคงว่า: ผู้ที่มีกิเลสใดก็ตามไม่สามารถทำงานรับใช้ได้ ผู้ที่ปราศจากกิเลสสามารถทำงานรับใช้และทำให้ผู้อื่นทัดเทียมกับเขา ด้วยเหตุนี้เองลูกจึงต้องมีชัยชนะอย่างสมบูรณ์เหนือกิเลส ต้องมีชัยชนะอย่างสมบูรณ์เหนือความคิดที่เป็นบาป เมื่อลูกมีความคิดในนามของพระเจ้า ลูกได้รับการกล่าวว่าเป็นอิสระจากความคิดธรรมดา ในความเป็นจริงการเป็น“นิรสังกัลป์”คือสภาพที่ลูกไม่มีความคิดใดๆเลยและลูกจะอยู่เหนือความสุขและความทุกข์ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในเวลาสุดท้ายเมื่อลูกจากไปไหลังจากชำระสะสางบัญชีของลูกและอยู่ในสภาพที่เหนือความสุขและความทุกข์ที่นั่นเบื้องบนนั้น ลูกจะไม่มีความคิดใดๆในตอนนั้น เมื่อถึงเวลานั้นลูกอยู่ในสภาพที่อยู่เหนือการกระทำทั้งสองและการกระทำที่เป็นกลาง ที่นี่ลูกจะมีความคิดอย่างแน่นอนเพราะลูกได้กลายเป็นเครื่องมือในการชำระทั้งโลกให้บริสุทธิ์ ดังนั้นแน่นอนที่ลูกจะมีความคิดที่บริสุทธิ์เกี่ยวกับสิ่งนั้น ในยุคทองเพราะลูกมีความคิดที่บริสุทธิ์ ความคิดที่ไม่ใช่แค่ความคิด ในขณะที่ทำสิ่งใดลูกไม่ได้สร้างบ่วงกรรมใดๆ ลูกเข้าใจไหม? เพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถอธิบายปรัชญาของกรรม กรรมที่เป็นกลางและกรรมที่เป็นบาปให้แก่ลูก ท่านผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถปลดปล่อยเราจากบาป และดังนั้นท่านจึงสอนเราในยุคบรรจบพบกัน ดังนั้นลูกๆจงให้ความใส่ใจต่อตนเองให้มาก สังเกตบัญชีกรรมของลูกต่อไป ลูกมาที่นี่เพื่อชำระสะสางบัญชีกรรมของลูก ไม่ควรเป็นเช่นนั้นที่ลูกมาที่นี่และเฝ้าแต่สร้างบัญชีกรรมเพิ่มมากขึ้นและลูกจะต้องได้รับการลงโทษ การลงโทษในกรงขังของครรภ์ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ด้วยเหตุนี้ลูกจึงต้องทำความเพียรพยายามอย่างมาก จุดหมายปลายทางนั้นสูงมากและดังนั้นลูกต้องเคลื่อนไปด้วยความระมัดระวัง ลูกต้องเอาชนะความคิดที่เป็นบาปได้อย่างแน่นอน ลูกเอาชนะความคิดที่เป็นบาปได้มากแค่ไหน? ลูกคงอยู่ในสภาพของการเป็นอิสระจากความคิดนั่นคืออยู่ในสภาพของการอยู่เหนือความสุขและความทุกข์ได้มากแค่ไหน? ลูกสามารถรู้สิ่งนี้ได้ด้วยตัวลูกเอง ผู้ที่ไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้ด้วยตนเองสามารถถามมาม่าและบาบาได้เพราะลูกคือทายาทของพวกเขาและดังนั้นพวกเขาสามารถบอกลูกได้ ด้วยสภาพของการเป็นอิสระจากความคิดธรรมดา ลูกสามารถป้องกันไม่เพียงแค่บาปของลูกเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบาปของคนอื่นๆด้วยเช่นกัน เพื่อที่ว่าคนที่มีตัณหาราคะใดๆเข้ามาอยู่เบื้องหน้าลูกจะไม่มีความคิดที่ชั่วร้ายใดๆ เมื่อผู้คนไปอยู่หน้ารูปบูชาของเทพ พวกเขาก็อยู่อย่างสงบ ในทำนองเดียวกันลูกคือเทพในรูปที่แฝงตัว ไม่มีใครที่มีความคิดที่ชั่วร้ายที่มีกิเลสสามารถมาอยู่เบื้องหน้าลูกได้ หากลูกยืนอยู่ที่นั่นอย่างโยคยุกต์ แม้ว่าจะมีคนที่มีตัณหาราคะด้วยความคิดเช่นนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถจู่โจมลูกได้ ดูสิลูกๆมาที่นี่มาหาพระเจ้าเพื่อที่จะสังเวยกิเลสให้กับท่าน แต่ลูกบางคนยังไม่ได้ทำการสังเวยอย่างถูกต้อง โยคะของเขาไม่ได้เชื่อมโยงกับพระเจ้า ตลอดทั้งวันโยคะในสติปัญญาของเขายังคงล้มลุกคลุกคลานอยู่เรื่อยๆ นั่นคือพวกเขาไม่ได้กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ เนื่องจากการมีสำนึกที่เป็นร่างพวกเขาจึงได้รับอิทธิพลจากธรรมชาติของผู้อื่นที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถเติมเต็มความรับผิดชอบในความรักของพวกเขาต่อพระเจ้าได้ นั่นคือพวกเขาไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในการทำงานรับใช้เพื่อพระเจ้าได้ ผู้ที่รับงานรับใช้จากพระเจ้าแล้วก็รับใช้ผู้อื่น นั่นคือผู้ที่ทำให้ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์คือลูกๆที่พักก้า(ที่เข้ม)และลูกที่แท้จริงของท่าน พวกเขาได้รับสถานภาพที่สูงมาก เวลานี้พระเจ้าเองได้มาและกลายเป็นพ่อของลูก หากลูกสร้างความคิดประเภทอื่นใดเพราะไม่ตระหนักรู้จักพ่อในรูปธรรมดานั้นหมายถึงการนำไปสู่การทำลายล้าง ขณะนี้เวลาจะมาถึงเมื่อคงคาแห่งความรู้ 108 จะบรรลุถึงสภาพที่สมบูรณ์พร้อมของพวกเขา แต่ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนเลยจะทำลายตนเอง จงเข้าใจสิ่งนี้อย่างมั่นคงว่า: จานีจานันฮาร์ (ผู้ที่รู้ทุกสิ่งภายในแต่ละคน) บาบากำลังเฝ้าดูทุกสิ่งผู้ของที่ทำกรรมที่ผิดอย่างลับๆในยักย่ะ จากนั้นเขาก็จะสัมผัสบาบา รูปที่มีตัวตนของท่านเพื่อที่จะเตือนพวกเขา ดังนั้นลูกต้องไม่ปิดบังซ่อนเร้นสิ่งใด แม้ว่าจะมีการทำผิดพลาดเกิดขึ้นด้วยการบอกท่านเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น ลูกจะได้รับการปกป้องในอนาคต ดังนั้นลูกๆ อยู่อย่างระมัดระวัง ลูกๆแต่ละคนก่อนอื่นใดควรเข้าใจตนเองว่า: ฉันคือใคร? ฉันคืออะไร? เมื่อลูกพูดว่า“ฉัน” นั่นไม่ได้หมายถึงร่างกาย แต่หมายถึงดวงวิญญาณ ฉันดวงวิญญาณมาจากไหน? ฉันเป็นลูกของใคร? เมื่อดวงวิญญาณรู้ว่าฉันซึ่งเป็นดวงวิญญาณคือลูกของพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ก็จะมีความสุขในการจดจำระลึกถึงพ่อ ลูกๆจะมีประสบการณ์ของความสุขเมื่อพวกเขาได้รู้จักอาชีพหน้าที่การงานของพ่อ เมื่อเด็กยังเล็กและไม่รู้จักหน้าที่การงานของพ่อของเขาก็จะไม่มีความสุขมากขนาดนั้น เมื่อเด็กโตขึ้นเขารู้ถึงอาชีพหน้าที่การงานของพ่อของเขาและดังนั้นความสุขหรือความซาบซึ้งก็เพิ่มขึ้น ดังนั้นก่อนอื่นใดจงรู้ถึงอาชีพของท่านว่าบาบาคือใครและท่านอยู่ที่ไหน เมื่อลูกพูดว่าดวงวิญญาณจะหลอมรวมเข้ากับท่าน นั่นหมายความว่าดวงวิญญาณสูญสลายและดังนั้นใครจะมีความสุขในสิ่งนั้น? ลูกควรถามนักเรียนใหม่ที่มาหาลูกว่า: คุณกำลังศึกษาอะไรที่นี่? คุณจะได้รับสถานภาพอะไรจากสิ่งนี้? ผู้ที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยทางโลกก็บอกลูกว่าพวกเขากำลังจะกลายเป็นหมอหรือวิศวกร ดังนั้นลูกควรมีศรัทธาว่าพวกเขากำลังศึกษาสิ่งนั้นอย่างแท้จริง ที่นี่เช่นกันนักเรียนพูดว่านี่คือโลกแห่งความทุกข์ ซึ่งเรียกว่านรก นั่นคือโลกของปีศาจ ตรงกันข้ามคือสวรรค์ที่เรียกว่าโลกของเทพ,สวรรค์ ทุกคนรู้สิ่งนี้เพราะลูกสามารถเข้าใจได้ว่านี่ไม่ใช่สวรรค์ นี่คือนรกนั่นคือโลกแห่งความทุกข์ เป็นโลกของดวงวิญญาณบาป และเหตุนี้เองพวกเขาจึงร้องเรียกหาท่าน: โปรดพาเราไปสู่โลกแห่งบุญด้วย ลูกๆที่กำลังศึกษาเล่าเรียนที่นี่รู้ว่าตอนนี้บาบากำลังพาพวกเขาไปสู่โลกนั้น นักเรียนใหม่ที่มาที่นี่ควรถามคำถามกับลูกๆ พวกเขาควรเรียนรู้จากลูกๆ ลูกๆ สามารถที่จะบอกถึงอาชีพหรือหน้าที่การงานของพ่อและครูให้กับพวกเขาได้ พ่อจะไม่นั่งและยกย่องตนเอง ครูจะยกย่องตัวเขาเองหรือไม่? นักเรียนจะบอกว่าครูของเขาเป็นอย่างนี้ เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่า: นักเรียนเปิดเผยครูของเขา ลูกๆ ได้เรียนหลักสูตรนี้มาแล้วและดังนั้นเป็นหน้าที่ของลูกที่จะอธิบายให้กับคนใหม่ที่มาเรียนรู้ ครูที่สอนนักเรียนระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทจะสอน ABC (เอบีซี) ให้กับนักเรียนใหม่หรือไม่? นักเรียนบางคนฉลาดมากและพวกเขายังสอนผู้อื่นด้วย กูรูผู้เป็นแม่ได้รับการจดจำสำหรับสิ่งนั้น เธอเป็นแม่คนแรกของศาสนาเทพและมีชื่อว่าจากัดอัมบ้า มีคำยกย่องแม่มากมาย ในเบงกอล กาลี ดุรกา สรัสวตี และลักษมี ทั้งสี่นี้ได้รับการกราบไหว้บูชาเป็นอย่างมาก เราควรรู้ถึงอาชีพหรือหน้าที่การงานของทั้งสี่ท่าน ยกตัวอย่างเช่นลักษมีลักษมีเป็นเทพีแห่งความมั่งคั่ง เธอได้ปกครองที่นี่และจากไป อย่างไรก็ตามชื่อกาลี ดุรกา ฯลฯ ก็ได้ให้ไว้กับคนนี้ หากมีแม่ทั้งสี่ (เจ้าแม่ทั้งสี่) ก็ควรมีคู่ครองของทั้งสี่ด้วยเช่นกัน นารายณ์ของลักษมีเป็นที่รู้จักกันมาก ใครคือคู่ครองของกาลี? (ชังก้า) อย่างไรก็ตามชังก้าร์ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นคู่ครองของปารวตี ปารวตีไม่ใช่กาลี มีผู้คนมากมายที่กราบไหว้บูชากาลี พวกเขาจดจำเจ้าแม่ได้แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องคู่ครองของเธอ กาลีจะต้องมีคู่ครองหรือพ่อ แต่ไม่มีใครรู้สิ่งนั้น ลูกต้องอธิบายว่ามีเพียงโลกเดียวนี้ซึ่งในบางช่วงเวลาก็กลายเป็นโลกแห่งความทุกข์นั่นคือนรก และโลกเดียวกันนั้นก็กลายเป็นสวรรค์หรือดินแดนสุขาวดีในยุคทอง ลักษมีและนารายณ์เคยปกครองโลกนี้ในยุคทอง ไม่มีสวรรค์ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนที่จะมีรูปที่ละเอียดอ่อนของลักษมีและนารายณ์ ภาพลักษณ์ของพวกเขาอยู่ที่นี่และดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาได้ปกครองที่นี่และจากไป การละเล่นทั้งหมดเกิดขึ้นในโลกของร่างกายที่มีตัวตน ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์เป็นของโลกที่มีตัวตนเช่นกัน ไม่มีประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน อย่างไรก็ตามลูกต้องวางทุกสิ่งไว้ก่อน และก่อนอื่นใดให้สอนนักเรียนใหม่เกี่ยวกับอัลฟ่าและเบต้า อัลฟ่าคือพระเจ้า ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด จนกระทั่งพวกเขาได้เข้าใจสิ่งนี้อย่างสมบูรณ์ไม่เช่นนั้นความรักต่อพระเจ้าของพวกเขาก็จะไม่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นและพวกเขาก็จะไม่มีความสุขนั้น นี่เป็นเพราะประการแรกเมื่อพวกเขารู้จักพระเจ้าแล้วเท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถรู้ถึงหน้าที่การงานของท่านและมีความสุขเช่นนั้น ดังนั้นจึงมีความสุขในการทำความเข้าใจในประเด็นแรกนี้ พระเจ้าคือผู้ที่มีความสุขและมีความปีติสุขเสมอ เราเป็นลูกของท่านและดังนั้นทำไมเราจึงไม่มีความสุขนั้น? ทำไมถึงไม่รู้สึกถึงฟองของความสุข? ฉันเป็นลูกของพระเจ้า ฉันคือผู้เป็นนายที่มีความสุขตลอดไป เมื่อไม่มีความสุขนั้นก็พิสูจน์ได้ว่าลูกไม่คิดว่าตนเองเป็นลูกของพระเจ้า พระเจ้ามีความสุขเสมอ แต่ฉันไม่มีความสุขเพราะฉันไม่รู้จักพ่อ นี่เป็นเรื่องที่ง่ายมาก แทนที่จะฟังความรู้นี้ บางคนก็ชอบความสงบมากกว่า เพราะมีหลายคนที่ไม่สามารถรับความรู้นี้ได้ มีเวลาไม่มากนัก แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจอัลฟ่าและอยู่ในความเงียบสงบ นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นแม้แต่ซันยาสซีก็ไปที่ภูเขาและนั่งในถ้ำในการจดจำระลึกถึงพระเจ้า ในทำนองเดียวกันถ้าลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้เป็นแสงสูงสุด ก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน แม้กระทั่งซันยาสซีก็สามารถอยู่อย่างปราศจากกิเลสได้โดยการจดจำระลึกถึงท่าน อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถจดจำท่านได้หากพวกเขาอยู่ที่บ้าน ความผูกพันยึดมั่นของพวกเขาต่อลูกๆ ฯลฯ ของพวกเขาจะดึงรั้งพวกเขา เหตุนี้เองพวกเขาจึงละทิ้งทุกสิ่ง พวกเขากลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และจึงมีความสุขในสิ่งนั้น ซันยาสซีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อดิเทพก็กลายเป็นซันยาสซีเช่นกันใช่ไหม? เช่นที่ตรงข้ามกับวัดดิลวาลาเป็นวัดของอดิเทพที่ซึ่งเขาได้แสดงให้เห็นการทำทาปาเซีย ในกีตะเช่นกันมีคำกล่าวว่า: ละทิ้งศาสนาทางร่างทั้งหมด เมื่อผู้คนเหล่านั้นจากไปและมีการสละละทิ้ง พวกเขาก็กลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งผิดที่จะเรียกผู้ครองเรือนว่าดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าได้มาและดลใจลูกให้มีการสละละทิ้ง เราได้มีการสละละทิ้งด้วยความสุข ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ไม่มีวันอยู่อย่างไม่มีความสุข ราชาบางองค์ก็ละทิ้งทุกสิ่งเช่นกันและดังนั้นพวกเขาจึงได้ทิ้งมงกุฎ ฯลฯ ยกตัวอย่างราชาโกปิจันด์ได้ละทิ้งทุกสิ่ง ดังนั้นต้องที่มีความสุขแน่นอนในสิ่งนั้น อัจชะ

ถีงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทาจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1 อย่าได้กระทำกรรมใดๆที่ไม่ถูกต้องอย่างลับๆ อย่าได้ปิดบังซ่อนเร้นสิ่งใดจากบัพดาดา อยู่อย่างระมัดระวังมากๆ

2 นักเรียนแสดงให้เห็นผู้เป็นครู สอนผู้อื่นในสิ่งที่ลูกได้ศึกษาเล่าเรียนมา ลูกเป็นลูกของพระเจ้าที่มีความสุขเสมอ จงอยู่ในความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดด้วยสำนึกรู้นี้

พร:
ขอให้ลูกเป็นมีความคิดที่บริสุทธิ์และความคิดที่เป็นบวกต่อผู้อื่นและให้ความเอาใจใส่กับพวกเขาด้วยความตั้งใจที่จะยกระดับดวงวิญญาณแต่ละดวง

การมีความรู้สึกที่สูงส่งสำหรับแต่ละดวงวิญญาณนั่นคือการมีความรู้สึกที่จะยกระดับแต่ละดวงวิญญาณและการทำให้ดวงวิญญาณก้าวไปข้างหน้าหมายถึงการเป็นคนที่มีความคิดในเชิงบวกที่บริสุทธิ์สำหรับทุกคน ด้วยทัศนคติที่บริสุทธิ์ของลูกและด้วยสภาพของการเป็นคนที่มีความปรารถนาดีจงเปลี่ยนแปลงข้อบกพร่องของผู้อื่น พิจารณาความอ่อนแอหรือข้อบกพร่องของผู้อื่นว่าเป็นของลูกเองแทนที่จะพูดถึงเรื่องนี้และกระจายออกไป การยอมรับปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้คือการมีความเอาใจใส่ การทำให้เรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก การทำให้ดวงวิญญาณที่ท้อแท้กลับมามีพลังและไม่ได้รับการแต่งแต้มสีสันจากมิตรของพวกเขา แต่การทำให้พวกเขามีความจริงจังและความกระตือรือร้นอยู่เสมอคือการเอาใจใส่ เพียงผู้ที่ให้ความเอาใจใส่เช่นนั้นคือผู้ที่มีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกต่อผู้อื่น

คติพจน์:
ธรรมชาติเก่าและซันสการ์เก่าจบสิ้นโชคที่ได้รับผ่านการสละละทิ้ง และดังนั้นจงสละละทิ้งแม้กระทั่งสิ่งเหล่านี้