27.11.20       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ลูกรู้ว่าละครนี้เป็นการละเล่น ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องที่จะต้องให้การขอบคุณ

คำถาม:
นิสัยอะไรที่ลูกผู้ทำงานรับใช้ไม่ควรมีเลย?

คำตอบ:
นิสัยของการร้องขอบางสิ่ง ลูกต้องไม่ร้องขอพรหรือความเมตตาจากพ่อ ฯลฯ ลูกต้องไม่ขอเงินกับใคร ตายเสียดีกว่าที่จะร้องขออะไรบางอย่าง ลูกรู้ว่าตามละครผู้ที่หว่านเมล็ดในวงจรก่อนหน้านี้จะทำสิ่งนั้นอีกครั้ง ผู้ที่ต้องการสร้างสถานภาพที่สูงสำหรับอนาคตจะต้องทำสิ่งนั้นอย่างแน่นอน พวกเขาจะให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน หน้าที่ของลูกคือทำงานรับใช้ ลูกต้องไม่ขออะไรจากใคร มันอยู่ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ไม่ใช่ในหนทางของความรู้ที่ลูกจะร้องขอสิ่งต่างๆ

เพลง:
หัวใจบอกว่า “ขอบคุณ” แก่ผู้ที่ให้การค้ำจุนแก่ฉัน...

โอมชานติ
ลูกต้องไม่พูด “ขอบคุณ” กับพ่อ ครู หรือกูรู เพราะลูกรู้ว่านี่เป็นการละเล่นที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดว่า“ขอบคุณ” ลูกๆ เข้าใจว่าสิ่งนี้เป็นไปตามละคร คำว่า“ละคร”เข้าไปในสติปัญญาของลูก ทันทีที่ลูกพูดว่า“การละเล่น” การละเล่นทั้งหมดก็เข้าสู่สติปัญญาของลูก นั่นคือลูกดวงวิญญาณกลายเป็นสวาดาร์ชันจักรดารี ทั้งสามโลกอยู่ในสติปัญญาของลูก: โลกที่ไม่มีตัวตน โลกที่ละเอียดอ่อน และโลกที่มีตัวตน ลูกรู้ว่าเวลานี้การละเล่นกำลังจะจบลง พ่อมาและทำให้ลูกเป็นตรีกาลดาชิ ท่านมาและให้ความรู้ของกาลสามเวลา สามโลก และความลับของตอนต้น ตอนกลาง และตอนจบของโลก เวลาเรียกว่า“กาล” ลูกจะไม่สามารถจดจำสิ่งเหล่านี้ได้หากไม่จดลงไป ลูกๆลืมหลายประเด็น ลูกรู้ระยะเวลาของละคร เมื่อลูกได้รับดวงตาที่สามของความรู้ ลูกจะกลายเป็นตรีเนตร และตรีกาลดาชิ สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกกลายเป็นผู้เชื่อในพระเจ้า มิฉะนั้นลูกจะเป็นเด็กกำพร้า ลูกๆกำลังได้รับความรู้นี้ สติปัญญาของนักเรียนไตร่ตรองความรู้อยู่ตลอดเวลา สิ่งนี้ก็เป็นความรู้เช่นกัน พ่อสูงสุดเหนือสิ่งใดให้ความรู้นี้แก่ลูกตามละคร คำว่า “ละคร” ควรจะออกจากปากของลูกเท่านั้น ในสิ่งนั้นเช่นกันลูกๆเท่านั้นที่ไม่ว่างเว้นในการทำงานรับใช้ เวลานี้ลูกรู้แล้วว่าลูกเคยเป็นเด็กกำพร้า เวลานี้ลูกได้พบพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดผู้เป็นนายแล้ว ลูกเป็นของทั้งเจ้าและนาย ก่อนหน้านี้ลูกเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีขีดจำกัด พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดคือผู้เดียวที่ให้ความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูก ไม่มีพ่อคนไหนที่สามารถให้ความสุขเช่นนี้ได้ ลูกๆ มีโลกใหม่และโลกเก่าอยู่ในสติปัญญาของลูก อย่างไรก็ตามลูกต้องไม่ว่างเว้นในธุรกิจทางจิตในการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจอย่างถูกต้อง ทุกคนมีสถานการณ์ของตนเอง ผู้ที่อยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงเท่านั้นที่จะสามารถอธิบายได้ ด้วยการจดจำระลึกถึงที่ลูกจะได้รับพลัง พ่อคือดาบที่ทรงพลัง ลูกๆ ต้องเติมพลังให้กับตนเอง ลูกได้รับอำนาจเหนือโลกด้วยพลังโยคะ ลูกได้รับพลังผ่านโยคะ ไม่ใช่ผ่านความรู้ มีการอธิบายให้ลูกกๆรู้ว่าความรู้เป็นแหล่งแห่งรายได้ของลูก โยคะกล่าวได้ว่าเป็นพลัง มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน โยคะดีกว่าหรือความรู้ดีกว่ากัน? โยคะเป็นที่รู้จักกันดีมาก โยคะหมายถึงการจดจำระลึกถึงพ่อ พ่อพูดว่า: บาปของลูกจะถูกตัดออกไปด้วยการจดจำระลึกถึงนี้ นี่แหละคือสิ่งที่พ่อเน้นย้ำ ความรู้นั้นง่ายดาย พระเจ้าพูด: พ่อมาบอกความรู้ที่ง่ายดายแก่ลูก เรื่องราวของวงจร 84 ชาติเกิด ทุกสิ่งรวมอยู่ในสิ่งนี้ นั่นคือประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ ความรู้และโยคะเป็นเพียงแค่หนึ่งวินาที ฉันคือดวงวิญญาณและฉันต้องจดจำพ่อ สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายาม เมื่อลูกอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงก็เหมือนราวกับว่าลูกได้ลืมร่างกาย ถ้าลูกต้องนั่งอยู่ในสภาพของการปราศจากร่างเป็นเวลาแม้กระทั่งหนึ่งชั่วโมงลูกจะกลับมาบริสุทธิ์มาก เมื่อผู้คนไปนอนตอนกลางคืน พวกเขากลับมาปราศจากร่างเป็นเวลา 6 ถึง 8 ชั่วโมง ในเวลานั้นพวกเขาไม่ได้กระทำบาป ดวงวิญญาณเหนื่อยล้าและเข้านอน ไม่ใช่ว่าบาปของพวกเขาจะถูกปลดเปลื้อง ไม่เลย นั่นคือการนอนหลับ ไม่มีการทำบาป ถ้าพวกเขาไม่เข้านอน พวกเขาก็ยังคงทำบาปต่อไป ดังนั้นการนอนหลับก็ยังเป็นสิ่งป้องกันการทำบาปเช่นกัน เมื่อทำงานมาทั้งวันดวงวิญญาณพูดว่า: เวลานี้ฉันกำลังจะนอนและกลับมาปราศจากร่าง ลูกต้องกลับมาปราศจากร่างในขณะอยู่ในร่างกาย ฉัน ดวงวิญญาณ ละวางจากร่างกายนี้ ฉันเป็นตัวของความสงบ ลูกจะไม่เคยได้ยินคำสรรเสริญของดวงวิญญาณนี้: ดวงวิญญาณคือสัจจะ เป็นสิ่งมีชีวิต และเป็นตัวของความสงบ การยกย่องของดวงวิญญาณสูงสุดคือ: เป็นสัจจะและมีชีวิต ท่านเป็นมหาสมุทรแห่งความสงบและความสุข ท่านถูกเรียกว่านาย ลูกๆ เช่นกันถูกเรียกว่านาย พ่อเฝ้าแต่แสดงวิธีการจดจำระลึกถึง ไม่ใช่ว่าลูกต้องนอนหลับทั้งวัน ไม่เลย ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึงและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง มากเท่าที่เป็นไปได้ เฝ้าแต่จดจำพ่อให้มากเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ใช่ว่าพ่อจะมีความเมตตาหรือให้พรแก่ลูก ไม่เลย ท่านถูกเรียกว่า “จักรพรรดิที่มีเมตตา” เป็นเพียงการยกย่องของพ่อ การที่จะทำให้ลูกสะโตประธานจากตาโมประธานคือบทบาทของพ่อเช่นกัน ผู้เลื่อมใสศรัทธาร้องเพลงยกย่องพ่อ แต่ลูกไม่ได้ทำสิ่งนั้นอีกต่อไปและเหตุนี้เองเพลงจึงค่อยๆหยุดลง พวกเขาร้องเพลงในโรงเรียนหรือไม่? ลูกๆ นั่งในความเงียบสงบ ทันทีที่ครูมาถึงพวกเขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วก็นั่งลงอีกครั้ง พ่อพูดว่า: พ่อได้รับบทบาทที่จะสอนลูกๆ ดังนั้นพ่อก็ต้องสอนพวกเขา ไม่จำเป็นที่ลูกๆ จะต้องยืนขึ้น ลูกดวงวิญญาณต้องนั่งฟัง หนทางของลูกแตกต่างจากของทางโลกอย่างสิ้นเชิง พ่อจะขอให้ลูกของเขห้ยืนขึ้นหรือไม่? ไม่เลย ลูกทำสิ่งนั้นบนหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ไม่ใช่ที่นี่ พ่อเองยืนขึ้นและพูดว่า: “นมัสเต!” ถ้านักเรียนมาโรงเรียนสาย ครูจะลงโทษพวกเขาโดยการให้ไปยืนข้างนอก เหตุนี้เองนักเรียนจึงกลัวว่าจะมาไม่ตรงเวลา ที่นี่ไม่มีเรื่องของความกลัว พ่อเฝ้าแต่อธิบายให้กับลูกและลูกยังคงได้รับมุรลีต่อไป ลูกต้องศึกษาสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ เมื่อลูกศึกษาสิ่งเหล่านี้สม่ำเสมอลูกจะได้รับคะแนนเข้าชั้นเรียน มิฉะนั้นแล้วลูกจะได้รับคะแนนขาดเรียน พ่อพูดว่า: พ่อมาบอกลูกถึงประเด็นที่ลึกล้ำ ถ้าลูกขาดมุรลี ลูกจะขาดประเด็นเหล่านั้น สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นใหม่ที่ไม่มีใครในโลกรู้ เมื่อพวกเขาเห็นภาพของลูกๆพวกเขาก็จะประหลาดใจ เพราะไม่มีการกล่าวถึงในคัมภีร์ใดๆ พระเจ้าสร้างภาพเหล่านี้ นี่คือห้องแสดงภาพศิลปะแห่งใหม่ของลูก สิ่งนี้จะนั่งอยู่ในสติปัญญาของสกุลบราห์มินผู้ที่จะกลายเป็นเทพ พวกเขาจะพูดว่า: สิ่งนี้ถูกต้อง เราศึกษาสิ่งนี้ในวงจรที่แล้ว ดังนั้นพระเจ้าคือผู้สอนเราอย่างแน่นอน กีตะคือคัมภีร์อันดับหนึ่งของคัมภีร์ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา เพราะนี่คือศาสนาแรก จากนั้นหลังจากผ่านไปครึ่งวงจรคัมภีร์อื่น ๆ อีกมากมายก็ปรากฏขึ้น อับราฮัมมาเป็นคนแรก เขาคนเดียวโดยลำพัง แล้วก็เป็นสองจากหนึ่ง จากนั้นก็เป็นสี่จากสอง เมื่อศาสนาเติบโตขึ้น 100,000 ถึง 150,000 คัมภีร์ศาสนาและอื่น ๆ จะถูกสร้างขึ้น เป็นช่วงที่ศาสนาเติบโตขึ้นครึ่งหนึ่งจึงมีการเขียนคัมภีร์ มีการคำนวณที่ถูกต้อง ลูกๆควรมีความสุขอย่างมาก เรากำลังได้รับมรดกของเราจากพ่อ ลูกรู้ว่าพ่อกำลังอธิบายความรู้ของทั้งวงจรโลกแก่ลูก นี่คือประวัติศาสตร์และภูมิศาตร์ที่ไม่มีขีดจำกัด บอกทุกคน: ประวัติศาสตร์และภูมิศาตร์ของโลกที่ไม่มีใครอื่นสามารถสอนลูกได้กำลังอธิบายให้แก่ลูก แม้ว่าคนอื่นๆจะสามารถแสดงแผนที่โลกให้ลูกดูได้ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแสดงให้ลูกเห็นว่าเป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์เมื่อใดหรือเป็นเวลานานแค่ไหน มีเพียงโลกเดียว พวกเขาปกครองในบารัต แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสติปัญญาของใคร พวกเขาพูดว่าช่วงระยะเวลาของวงจรเป็นเวลาแสนปี บาบาไม่ได้ให้ความยากลำบากแก่ลูกที่สุดแสนหวานมากขนาดนั้น พ่อพูดว่า: ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์ ลูกได้ล้มลุกคลุกคลานมาเป็นเวลาที่ยาวนานบนหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์ เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วเป็นเวลา 2,500 ปีมาแล้วที่ลูกเริ่มสะดุดและล้มลุกคลุกคลาน เวลานี้บาบาได้มาอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้โชคของอาณาจักรของลูกแก่ลูก ลูกจดจำสิ่งนี้ โลกกลับมาใหม่จากเก่า และเก่าจากใหม่อย่างแน่นอน เวลานี้ลูกเป็นนายของบารัตเก่า และลูกกำลังกลายเป็นนายของบารัตใหม่ ในด้านหนึ่งพวกเขาร้องเพลงยกย่องบารัตอย่างมาก และอีกด้านหนึ่งพวกเขาก็เฝ้าแต่ประณามบารัต ลูกมีเพลงนี้ ลูกสามารถอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ให้ผู้คนได้ยินทั้งสองเพลงนี้ ลูกสามารถแสดงความแตกต่างระหว่างเวลาของอาณาจักรของราม(พระเจ้า)กับเวลานี้ พ่อคือพระเจ้าของคนจน ลูกสาวของคนจนเท่านั้นที่จะมาหาบาบา ผู้คนที่ร่ำรวยมีความซาบซื้งกับตนเอง ผู้ที่มาในวงจรที่แล้วจะทำสิ่งนี้อีกครั้ง ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล ชีพบาบาไม่ได้มีความกังวลในสิ่งใด เป็นดาด้าที่ต้องกังวล เขามีความกังวลในตัวเองที่จะกลายเป็นดวงวิญญาณบริสุทธิ์อันดับหนึ่ง สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายามที่แฝงตัว เมื่อลูกเขียนชาร์ทของลูก ลูกสามารถเข้าใจได้ว่าความเพียรพยายามของผู้นี้ยิ่งใหญ่กว่า พ่อพูดเสมอว่า: จงเขียนบันทึกประจำวัน! ลูกๆ มากมายเขียนบันทึกประจำวัน และพวกเขาได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมากจากการเขียนชาร์ท วิธีนี้ดีมาก ดังนั้นทุกคนควรทำเช่นนี้ ลูกจะได้รับประโยชน์มากมายด้วยการเขียนบันทึก การเขียนบันทึกหมายถึงการจดจำพ่อ ลูกต้องเขียนว่าลูกจดจำระลึกถึงพ่อมากแค่ไหน บันทึกประจำวันจะช่วยลูกอย่างมากในการทำความเพียรพยายาม มีการพิมพ์สมุดบันทึกหลายแสนเล่มเพื่อให้ลูกจดบันทึกสิ่งเหล่านี้ นี่คือสิ่งหลักที่จะจดลงไป ลูกจะต้องไม่ลืมสิ่งนี้ เขียนสิ่งนี้ไว้ในสมุดบันทึกประจำวันในเวลานั้น เขียนบัญชีเต็มของลูกในเวลากลางคืน แล้วลูกจะตระหนักว่าลูกกำลังจะสูญเสีย เพราะลูกยังต้องมีบาปของหลายต่อหลายชาติเกิดที่ต้องเผาไป พ่อแสดงหนทางแก่ลูก จงเมตตาตนเอง! ครูสอนลูก ท่านไม่ได้ให้พร ตายดีกว่าที่จะขอพรหรือความเมตตา ฯลฯ ลูกจะต้องไม่ขอเงินจากใคร ลูกๆ ห้ามทำเช่นนั้นโดยเด็ดขาด พ่อพูดว่า: ตามละครผู้ที่หว่านเมล็ดในวงจรก่อนหน้านี้และประกาศสิทธิ์ในมรดกของเขาก็จะทำสิ่งนั้นอีกครั้ง ลูกต้องไม่ขออะไรจากใครสำหรับงานใดๆ ถ้าใครไม่ทำอะไรก็จะไม่ได้รับอะไรเลย เมื่อผู้คนให้ทานหรือบริจาคและทำบุญอย่างมาก พวกเขาจะได้รับสิ่งตอบแทน พวกเขาจะใช้ชาติเกิดเป็นกษัตริย์หรือครอบครัวที่ร่ำรวย ผู้ที่ต้องการทำบางสิ่งจะทำสิ่งนั้นด้วยตนเอง พวกเขาไม่จำเป็นต้องร้องขอใคร ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรในวงจรก่อนหน้านี้,ละครก็จะสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาทำเช่นเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องขออะไร บาบาเฝ้าแต่บอกลูกว่าคลังสมบัติที่มีค่าจะยังคงเต็มเปี่ยมสำหรับงานรับใช้อยู่เสมอ พ่อจะไม่ขอให้ลูกๆให้เงินพ่อ สิ่งที่อยู่บนหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจะต้องไม่ดำเนินต่อไปบนหนทางของความรู้เสมอ ผู้ที่ช่วยในวงจรที่แล้วจะยังคงทำสิ่งนั้นอีกครั้ง ลูกเองจะต้องไม่ร้องขอสิ่งใดเลย บาบาพูดว่า: ลูกๆ ลูกไม่ได้รับอนุญาตให้เรี่ยไรเงิน เป็นซันยาสซีที่ทำเช่นนั้น ไม่ว่าผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจะให้อะไรก็ตามเพียงเล็กน้อย พวกเขาก็จะได้รับตอบแทนของสิ่งนั้นในชาติเกิดเดียว ที่นี่ลูกได้รับชาติแล้วชาติเล่า ดังนั้นจึงเป็นสิ่งดีที่จะให้ทุกสิ่งในชาติเกิดนี้และได้รับผลตอบแทนชาติแล้วชาติเล่า ชื่อของผู้เดียวนั้นคือพระเจ้าผู้ไร้เดียงสาของคลังสมบัติที่มีค่า ทำความเพียรพยายามและลูกจะถูกร้อยเข้าไปในสร้อยประคำแห่งชัยชนะ เมื่อคลังสมบัติเต็มเปี่ยม ความทุกข์และความเจ็บปวดจะถูกขจัดออกไป ไม่มีการตายก่อนถึงเวลาอันควรที่นั่น ที่นี่ผู้คนกลัวตาย ทันทีที่บางสิ่งเกิดขึ้นพวกเขาระลึกถึงความตาย ลูกไม่มีความคิดเช่นนั้นที่นั่น เพราะลูกจะอยู่ในดินแดนแห่งความเป็นอมตะ นี่คือดินแดนแห่งความตายที่สกปรก บารัตเคยเป็นดินแดนแห่งความเป็นอมตะ และเวลานี้เป็นดินแดนแห่งความตาย ครึ่งหลังของวงจรสกปรกมากสำหรับลูก ลูกยังคงลงมาเรื่อยๆ พวกเขามีรูปปั้นเคารพที่สกปรกมากมายในวัดของจากานาท บาบามีประสบการณ์ว่าท่านเดินทางไปทุกที่ ท่านกลับมาน่าเกลียดจากสวยงาม ท่านเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ในความเป็นจริงทั้งบารัตคือหมู่บ้านเล็กๆ ลูกคือเด็กเล็กๆ ในหมู่บ้าน เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าลูกกำลังกลายเป็นนายของโลก อย่าได้คิดว่าลูกเป็นชาวบอมเบย์ บอมเบย์เมื่อเทียบกับสวรรค์แล้วเป็นอย่างไร? ไม่มีอะไรเลย! ไม่มีค่าแม้แต่หิน! เราเด็กหมู่บ้านซึ่งกลายเป็นลูกกำพร้า เวลานี้กลายเป็นนายแห่งสวรรค์ ดังนั้นขอให้มีความสุขนั้น สวรรค์มีชื่อเสียงมาก ราชวังประดับด้วยเพชรและอัญมณีมากมาย วัดโสมนาทประดับด้วยเพชรและอัญมณีเช่นกัน ก่อนอื่นพวกเขาสร้างวัดให้กับชีวา พวกเขามั่งคั่งมาก! เวลานี้บารัตเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในยุคทองนั้นเจริญรุ่งเรืองมาก ไม่มีใครในโลกนอกจากลูกที่รู้สิ่งนี้ ลูกพูดว่า: เมื่อวานเราเป็นจักรพรรดิและวันนี้เราเป็นขอทาน เราได้กลายเป็นนายของโลกอีกครั้งหนึ่ง ลูกๆ ควรจะเห็นคุณค่าในโชคและความยิ่งใหญ่ของลูก เรามีโชคหลายล้านเท่า อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เพื่อที่จะปลอดภัยจากการกระทำบาป เพียรพยายามที่จะกลับมาปราศจากร่างขณะที่อยู่ในร่างกาย อยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง ในลักษณะที่ลูกจะลืมร่างกายของลูก

2. ไตร่ตรองความรู้และกลับมานับถือในพระเจ้า อย่าได้ขาดมุรลี เพื่อที่จะทำความก้าวหน้า จดบันทึกชาร์ทของการจดจำระลึกถึงไว้ในสมุดบันทึกประจำวันของลูก

พร:
ขอให้ลูกได้รับสมบัติที่มีค่าแห่งโชคที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยกุญแจแห่งความรู้และกลับมาเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมด

ในยุคบรรจบพบกันลูก ๆ ทุกคนจะได้รับกุญแจแห่งความรู้ที่จะสร้างโชคของลูก ใช้กุญแจนี้และรับสมบัติที่มีค่าแห่งโชคมากเท่าที่ลูกต้องการ ทันทีที่ลูกได้รับกุญแจลูกก็เต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมด ยิ่งลูกเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมดมากเท่าไหร่ลูกก็จะยิ่งมีความสุขมากโดยอัตโนมัติมากเท่านั้น ลูกจะสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นราวกับเป็นน้ำตกแห่งความสุขที่ไหลรินตลอดไปไม่หยุดหย่อน ดูเหมือนว่าลูกจะเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมดโดยไม่ขาดการบรรลุผลประเภทใดเลย

คติพจน์:
รักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อและลูกจะเฝ้าแต่ได้รับกระแสพลังทั้งหมด