22.11.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
21.01.87 Om Shanti Madhuban
ผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเองมีสิทธิ์ในอาณาจักรของโลก
วันนี้พ่อผู้ประทานโชคกำลังมองดูลูกๆที่สูงส่งที่สุดและลูกที่มีโชคที่สุดของท่าน
ไม่ใช่เพียงแค่ชุมนุมนี้ที่อยู่เบื้องหน้าบัพดาดา แต่ลูก ๆ
ที่มีโชคจากทุกหนแห่งเวลานี้ก็อยู่เบื้องหน้าท่านด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่มุมไหน ไม่ว่าจะอยู่ในดินแดนนี้หรือในต่างประเทศ
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดก็มองเห็นลูก ๆ ที่ไม่มีขีดจำกัด
ในโลกที่มีตัวตนนี้มีพื้นที่ที่จำกัด
แต่โลกแห่งดริชติของพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดนั้นไม่มีขีดจำกัด
โลกของดวงวิญญาณบราห์มินทั้งหมดถูกหลอมรวมอยู่ในดริชตีของพ่อ
ดังนั้นในโลกของดริชตีทุกคนอยู่เบื้องหน้าบาบา
พระเจ้าผู้ประทานโชคมีความสุขที่ได้เห็นลูกๆทุกคนที่มีโชค
เช่นเดียวกับที่ลูกๆดีใจที่จะได้เห็นพ่อ พ่อก็ดีใจที่ได้เห็นลูกๆเช่นกัน
เมื่อได้เห็นลูก,พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดก็มีความซาบซึ้งและความภาคภูมิใจทางจิตที่ลูก ๆ
ของท่านแต่ละคนอยู่ในรายชื่อของดวงวิญญาณพิเศษเบื้องหน้าโลก
แม้ว่าใครบางคนจะเป็นลูกประคำเม็ดสุดท้ายของ 16,000
อย่างไรก็ตามการมาอยู่เบื้องหน้าพ่อและโดยการเป็นของพ่อ,เขาก็เป็นดวงวิญญาณพิเศษเบื้องหน้าโลก
ดังนั้นแม้ว่าลูกจะไม่สามารถรู้รายละเอียดของความรู้ใดๆก็ตาม
เมื่อลูกยอมรับคำเดียวว่า "บาบา" ด้วยหัวใจของลูก
และลูกถ่ายทอดสิ่งนี้ให้กับผู้อื่นด้วยหัวใจของลูก
ลูกก็จะกลายเป็นดวงวิญญาณที่พิเศษ ลูกกลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เบื้องหน้าโลก
ลูกกลายเป็นดวงวิญญาณที่ควรค่าแก่การจดจำระลึกถึงในฐานะเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ในโลก
ลูกรู้สึกว่าลูกได้รับโชคที่สูงส่งเช่นนี้อย่างง่ายดายหรือไม่? คำว่า "บาบา"
คือกุญแจสำคัญ กุญแจเพื่ออะไร? เพื่อสมบัติที่มีค่าทั้งหมดและโชคที่สูงส่ง
เมื่อลูกได้รับกุญแจลูกจะได้รับโชคและสมบัติที่มีค่าทั้งหมดอย่างแน่นอน
ดังนั้นลูกผู้เป็นแม่และพันดาวาสทุกคนประกาศสิทธิ์ในกุญแจแล้วหรือยัง?
ลูกรู้วิธีใช้กุญแจด้วยเช่นกันหรือไม่?
หรือบางครั้งลูกไม่รู้วิธีว่าจะใช้มันอย่างไรหรือไม่?
วิธีที่จะใช้กุญแจคือการรู้และยอมรับด้วยใจ ถ้าลูกเพียงแค่พูดออกมาเป็นคำพูดเฉยๆ
แม้ว่าลูกจะมีกุญแจแต่มันก็ใช้ไม่ได้
แต่เมื่อลูกพูดออกมาจากใจสมบัติที่มีค่าทั้งหมดก็จะปรากฏเบื้องหน้าลูกเสมอ
สิ่งเหล่านั้นเป็นสมบัติที่มีค่าที่ไม่มีที่สิ้นสุด เพราะสมบัตินั้นไม่มีที่สิ้นสุด,ไม่ว่าจะมีลูกมากแค่ไหนก็ตามพวกเขาทุกคนมีสิทธิ์
สมบัติที่มีค่าเป็นสมบัติเปิด เป็นสมบัติที่เปี่ยมล้น
ไม่ใช่ว่าสมบัตินั้นจะหมดลงสำหรับผู้ที่มาในตอนท้าย
อย่างไรก็ตามมีหลายคนที่มาจนถึงตอนนี้
นั่นคือมีหลายคนมาเป็นของพ่อและจะมีอีกมากมายแค่ไหนก็ตามที่จะมาเป็นของพ่อในอนาคต
ก็ยังมีสมบัติมากมายเกินพอสำหรับพวกเขาทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้เองบัพดาดาจึงให้โอกาสทองแก่ลูก ๆ
ทุกคนที่จะรับสมบัติที่มีค่ามากมายเท่าที่เขาต้องการด้วยการเปิดใจ(โดยไม่ลังเล)
ผู้ประทานไม่ขาดสิ่งใด
ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความกล้าหาญและความเพียรพยายามของผู้ที่จะรับมัน
ไม่มีพ่อเช่นนี้ในทั้งวงจรที่จะมีลูกมากมายที่แต่ละคนจะมีโชคขนาดนี้
ด้วยเหตุนี้เองลูกจึงได้รับการบอกว่าบัพดาดาทางจิตมีความซาบซึ้งทางจิต
ความปรารถนาของทุกคนที่จะมาที่มธุบันและจะมีการพบปะขณะนี้ได้รับการเติมเต็มแล้ว
เมื่อเทียบกับการจาริกแสวงบุญตามหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาที่นี่ในมธุบันอย่างน้อยลูกก็มีพื้นที่สำหรับนั่งและยังคงสบาย
ในวัดพวกเขามีเพียงแวบเดียวในขณะที่ยืนอยู่ ที่นี่อย่างน้อยลูกก็นั่งอย่างสบาย
ที่นั่นพวกเขาจะบอกอยู่ตลอดเวลาว่า "วิ่ง วิ่ง
เลื่อนไปข้างหน้าหรือเคลื่อนย้ายออกไป" ในขณะที่ลูกกำลังนั่งอยู่ที่นี่อย่างสบาย ๆ
และดังนั้นลูกจึงมีความสุขกับการอยู่ในความทรงจำระลึกถึงอย่างสบายใจ
ลูกมาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลองอย่างมีความสุขในยุคบรรจบพบกันใช่ไหม? ดังนั้นในทุกขณะ
ในขณะที่เดินเหินและเคลื่อนไหวไปมา ในขณะที่รับประทานอาหารและดื่ม
ลูกได้สะสมสมบัติแห่งความสุขหรือไม่? สะสมมากเท่าไหร่?
ลูกสะสมเพียงพอที่จะสามารถรับประทานจากสิ่งนั้นได้อย่างสบายเป็นเวลา 21
ชาติเกิดหรือไม่? มธุบันเป็นสถานที่พิเศษที่ลูกสามารถสะสมสมบัติที่มีค่าทั้งหมด
เพราะที่นี่ลูกได้สัมผัสกับการเป็นของพ่อผู้เดียวและไม่มีใครอื่นในทางกายภาพเช่นกัน
ที่นั่นลูกสัมผัสกับสิ่งนี้ด้วยสติปัญญาของลูก
ในขณะที่ที่นี่ในชีวิตในทางปฏิบัติของลูก
ลูกเห็นใครนอกจากพ่อผู้เดียวและครอบครัวบราห์มินหรือไม่?
มีเพียงความรักความใส่ใจในเรื่องเดียว ครอบครัวเดียว และสภาพที่สม่ำเสมอและมั่นคง
ไม่มีสิ่งอื่นใดให้ลูกสนใจ เพื่อที่จะศึกษาเล่าเรียนและมีพลังโดยการศึกษาเล่าเรียน:
นี่เป็นงานเดียวที่ลูกต้องทำในมธุบัน ลูกมีคลาสกี่คลาส?
ดังนั้นที่นี่ลูกมีวิธีพิเศษในการสะสม ด้วยเหตุนี้ที่ลูกทุกคนวิ่งมาที่นี่
บัพดาดาเตือนลูก ๆ ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
จงเดินหน้าต่อไปอย่างสม่ำเสมอพร้อมกับสภาพของการมีอำนาจในการปกครองตนเอง
การเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองเป็นสิ่งชี้บอกของการเป็นหนึ่งเดียวกันที่มีสิทธิ์ในอาณาจักรของโลก
ขณะที่มีการสนทนาจากใจถึงใจกับพ่อ ลูกบางคนถามว่า: ในอนาคตฉันจะเป็นอะไร?
ฉันจะกลายเป็นราชาหรือปวงประชา? บัพดาดาตอบลูกๆว่า:
ตรวจสอบตนเองแม้กระทั่งในหนึ่งวัน แล้วลูกจะรู้ว่าลูกจะได้เป็นราชา
ปวงประชาที่มั่งคั่ง หรือปวงประชา ก่อนอื่นใดตั้งแต่เวลาอมฤต
ให้ตรวจสอบคนงานหลักทั้งสามของลูก มิตรที่ให้ความร่วมมือของลูก พวกเขาเป็นใคร? 1.
จิตใจ นั่นคือพลังแห่งความคิดของลูก 2. สติปัญญา นั่นคืออำนาจในการตัดสินของลูก 3.
ซันสการ์ที่สูงส่งในอดีตและปัจจุบัน ทั้งสามนี้คือคนงานหลักของลูก
ในโลกปัจจุบันราชามีหัวหน้ารัฐมนตรีหรือที่ปรึกษาพิเศษและอาณาจักรดำเนินไปด้วยความร่วมมือของเขา
ในยุคทองจะไม่มีที่ปรึกษาใดๆ แต่จะมีญาติสนิทมิตรสหาย
คิดว่าพวกเขาเป็นอะไรก็ได้ที่ลูกต้องการ เป็นมิตรหรือที่ปรึกษา แต่จงตรวจสอบว่า:
ทั้งสามนี้ทำงานภายใต้การควบคุมของลูกหรือไม่?
ลูกมีอำนาจในการปกครองตนเองเหนือทั้งสามสิ่งนี้หรือลูกทำงานภายใต้การควบคุมของพวกเขา?
จิตใจของลูกควบคุมลูก หรือลูกควบคุมจิตใจของลูก?
ลูกสามารถมีความคิดประเภทใดก็ตามที่ลูกต้องการและเมื่อใดก็ตามที่ลูกต้องการหรือไม่?
ลูกสามารถจดจ่อสติปัญญาของลูกไปที่ไหนก็ตามที่ลูกต้องการหรือสติปัญญาของลูกทำให้ลูกผู้เป็นราชาเร่ร่อนไปทั่วหรือไม่?
ลูกควบคุมซันสการ์ของลูกหรือลูกได้รับอิทธิพลจากซันสการ์ของลูก?
การมีอาณาจักรหมายถึงการมีสิทธิ์
ลูกซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองมีอำนาจที่จะสั่งการให้ปฏิบัติงานอย่างถูกต้องในทางที่ถูกต้องในเวลาที่ลูกขอหรือไม่
หรือลูกขอให้พวกเขาทำสิ่งหนึ่งแต่พวกเขาทำสิ่งอื่นหรือไม่?
วิธีพิเศษสำหรับการเป็นโยคีที่สม่ำเสมอซึ่งมีอำนาจในการปกครองตนเองคือการใช้จิตใจและสติปัญญาของลูก
มันตราที่ลูกได้รับคือ “มานมานาบาฟ” โยคะกล่าวได้ว่าเป็นโยคะของสติปัญญา
ดังนั้นหากเสาหลักของการค้ำจุนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของลูก
หรือบางครั้งก็อยู่ภายใต้การควบคุมของลูกและในบางครั้งก็ไม่อยู่ภายใต้การควบคุม
หากพวกเขาอยู่ภายใต้การควบคุมของลูกในช่วงเวลาหนึ่งและไม่ใช่ในช่วงเวลาต่อไป
หากแม้แต่หนึ่งในสามนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของลูกในระดับที่น้อยกว่าแล้วลูกสามารถตรวจสอบได้จากสิ่งนั้นว่าลูกจะกลายเป็นราชาหรือปวงประชา
ซันสการ์ของการเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองเป็นระยะเวลาที่ยาวนานจะทำให้ลูกมีสิทธิ์ในอาณาจักรในอนาคตในระยะเวลาที่ยาวนาน
หากลูกสามารถควบคุมได้ในบางครั้ง แต่ได้รับอิทธิพลในช่วงเวลาอื่นแล้ว
ลูกจะไม่สามารถได้รับสิทธิ์อย่างเต็มที่ในโชคของอาณาจักรเป็นเวลาครึ่งวงจร
หลังจากเวลาผ่านไปครึ่งหนึ่งลูกสามารถกลายเป็นราชาในยุคเงินได้
แต่ลูกจะไม่มีสิทธิ์ในอาณาจักรตลอดเวลานั่นคือลูกจะไม่สามารถเข้ามามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักรได้
หากลูกได้รับอิทธิพลซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วก็แสดงว่าซันสการ์ของลูกไม่ใช่ผู้ที่ควบคุม
แต่เป็นซันสการ์ของผู้ที่เข้ามาในอาณาจักรของผู้ที่มีสิทธิ์ในอาณาจักร
แล้วพวกเขาคือใคร? พวกเขาคือปวงประชา
ลูกเข้าใจหรือไม่ว่าใครจะได้เป็นราชาและใครจะเป็นปวงประชา?
มองภาพแห่งโชคของลูกในกระจกของลูกเอง ความรู้นี้คือกระจก
ดังนั้นลูกทุกคนมีกระจกนี้ใช่ไหม? ลูกสามารถเห็นใบหน้าตนเองใช่ไหม?
เวลานี้จงฝึกฝนการมีสิทธิ์เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
อย่าคิดว่าลูกจะกลายเป็นเช่นนั้นในตอนท้าย หากลูกเป็นเช่นนั้นในตอนท้าย
ลูกจะสามารถปกครองได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ในชาติเกิดสุดท้าย
อย่างไรก็ตามโปรดจำไว้ว่าหากลูกไม่ได้ฝึกฝนสิ่งนี้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานนับจากนี้
หรือหากลูกไม่ได้พัฒนาการฝึกฝนนี้มาตั้งแต่ต้น
ถ้าหากตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้คนงานพิเศษเหล่านี้ควบคุมลูก
หรือเคยทำให้สภาพของลูกขึ้นๆลงๆ นั่นคือหากพวกเขาหลอกลวงลูก
หากพวกเขาทำให้ลูกประสบกับคลื่นแห่งความทุกข์โศกแล้ว
ลูกก็อาจถูกหลอกลวงได้ในเวลาสุดท้ายเช่นกัน
การหลอกลวงหมายถึงจะต้องประสบกับคลื่นแห่งความทุกข์อย่างแน่นอน
ดังนั้นแม้กระทั่งในเวลาสุดท้ายก็จะมีคลื่นแห่งความทุกข์ของการสำนึกผิดและเสียใจ
นี่คือเหตุผลที่บัพดาดาเตือนลูกๆทุกคนอีกครั้งให้กลับมาเป็นราชาและทำให้คนงานที่ให้ความร่วมมือเป็นพิเศษของลูกและมิตรร่วมทางที่ทำงานในอาณาจักรของลูกทำงานภายใต้การควบคุมของลูก
ลูกเข้าใจไหม?
บัพดาดากำลังเห็นว่าใครเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองและมีในระดับใด อัจชะ
แล้วลูกทุกคนต้องการเป็นอะไร? ลูกต้องการเป็นราชาหรือไม่?
ดังนั้นเวลานี้ลูกกลายเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองแล้วหรือยังหรือลูกยังคงพูดว่า:
“ฉันจะกลายเป็นสิ่งนั้น ฉันจะกลายเป็นสิ่งนั้นในตอนท้าย”? อย่าพูดว่า "ฉันจะกลายเป็นสิ่งนั้นในอนาคต"
ถ้าลูกบอกว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคตพ่อก็จะบอกเช่นกันว่า: อัจชะ
เราจะได้เห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อพูดถึงการให้โชคของอาณาจักร
ลูกได้รับการบอกว่าซันสการ์เป็นระยะเวลาที่ยาวนานจำเป็นนับจากนี้
ที่จริงแล้วเหลือเวลาอีกไม่มาก เวลาเหลือน้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามหากลูกไม่ได้ฝึกฝนสิ่งนี้มาเป็นเวลานานพอ
อย่าได้พร่ำบ่นในช่วงเวลาสุดท้าย: “ฉันคิดว่าฉันจะกลายเป็นอย่างนั้นในตอนท้าย”
ด้วยเหตุนี้เองจึงกล่าวว่า: ไม่ใช่บางครั้ง แต่เดี๋ยวนี้ตอนนี้ อย่าคิดว่า:“มันจะเกิดขึ้นในบางช่วงเวลา”
มันต้องเกิดขึ้นในตอนนี้ ลูกต้องกลายเป็นสิ่งนี้เดี๋ยวนี้ ปกครองตนเอง.
อย่าเริ่มปกครองเพื่อนของลูก มิตรทั้งหมดของผู้ที่มีอำนาจในการปกครองเหนือตนเอง -
ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางจิต - แม้กระทั่งเวลานี้เพราะความรักก็พูดว่า "ขอรับเจ้านาย,
ฮาจี" และยังคงเป็นมิตรของพวกเขา
พวกเขายังคงเป็นมิตรที่รักและแสดงให้เห็นในทางปฏิบัติโดยพูดว่า "ฮาจี"
เช่นที่ปวงประชาให้ความร่วมมือและรักราชา
ดังนั้นเช่นกันประสาทสัมผัสทั้งหมดของลูกโดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังก็จะยังคงรักและร่วมมือกับลูกและสิ่งนี้จะส่งผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมต่อมิตรในงานรับใช้และญาติมิตรทางโลกของลูก
ในขณะที่อยู่ในครอบครัวที่สูงส่งของพระเจ้าจะไม่เป็นคนที่ควบคุมที่ออกคำสั่งกับผู้อื่น
เพียงแค่รักษาอวัยวะทางกายของลูกเองให้อยู่ภายใต้การควบคุมของลูก
และก่อนที่ลูกจะออกคำสั่ง เพื่อนของลูกทั้งหมดจะร่วมมือในงานของลูกโดยอัตโนมัติ
หากพวกเขาให้ความร่วมมือก็ไม่จำเป็นต้องออกคำสั่ง
พวกเขาจะเสนอความร่วมมือของเขาเพราะลูกเป็นผู้ปกครองตนเอง ราชาหมายถึงผู้ประทาน
และผู้ประทานไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเลย นั่นคือเขาไม่จำเป็นต้องถาม
ลูกกลายเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองตนเองเช่นนั้นแล้วหรือยัง? อัจชะ
เมล่านี้ถูกกำหนดไว้ในละครเช่นกัน ลูกพูดว่า “ว้าละคร!” ใช่ไหม? คนอื่นๆ
บางครั้งจะพูดว่า "โอ้! ละคร!" และบางครั้งก็ "ว้า ละคร!"
ในขณะที่ลูกพูดอะไรตลอดเวลา? “ว้า ละคร ว้า!” เมื่อลูกได้มาซึ่งการบรรลุผลแล้ว
ที่ใดมีการบรรลุผลก็ไม่มีอะไรเป็นเรื่องยาก
ในทำนองเดียวกันเมื่อลูกมีการบรรลุผลของการพบปะกับครอบครัวที่สูงส่งเช่นนั้นแล้วสิ่งที่ยากก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก
รู้สึกยากไหม? ลูกต้องรออาหารของลูกหรือไม่?
เมื่อลูกรับประทานอาหารจงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าและแม้ว่าลูกจะรอคิวก็ร้องเพลงสรรเสริญของพระเจ้า
นี่คือทั้งหมดที่ลูกต้องทำใช่ไหม? นี่ก็เป็นการซักซ้อมที่กำลังเกิดขึ้นเช่นกัน
นี่ยังไม่มีอะไร จะมีการขยายตัวมากยิ่งขึ้น
เวลานี้จงปลูกฝังนิสัยที่จะสามารถหล่อหลอมตนเองเพื่อที่ลูกจะได้เคลื่อนไปตามเวลา
ดังนั้นเวลานี้เช่นกันลูกได้พัฒนานิสัยของการนอนบนพื้นแล้วหรือยัง?
มันไม่ใช่ว่าเพราะลูกไม่มีเตียงลูกจึงไม่สามารถนอนหลับใช่ไหม?
ลูกพัฒนานิสัยการพักอาศัยในเต็นท์แล้วหรือยัง? ลูกชอบมันไหม? ลูกไม่หนาวใช่ไหม?
เวลานี้เราควรกางเต็นท์ในทั่วทั้งอาบูหรือไม่? ลูกชอบนอนในเต็นท์หรือลูกต้องการห้อง?
ลูกจำได้ไหมตอนที่ลูกอยู่ในปากีสถานในตอนแรกที่มหาระตีต้องนอนบนพื้น?
บรรดาผู้ที่เป็นมหาระตีที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจะได้รับพื้นที่สามฟุตเพื่อนอนบนพื้น
เมื่อครอบครัวบราห์มินเติบโตขึ้นทุกอย่างเริ่มต้นอย่างไร? มันเริ่มด้วยเต็นท์
ผู้ที่มาในตอนแรกเคยอาศัยอยู่ในเต็นท์ และผู้ที่อาศัยอยู่ในเต็นท์ได้กลายเป็นนักบุญ
(ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่)
พวกเขาเคยอาศัยอยู่ในเต็นท์แม้กระทั่งในช่วงบทบาทของสะคาร์บาบา
ดังนั้นลูกจะได้สัมผัสกับสิ่งนั้นใช่หรือไม่?
แล้วทุกคนมีความสุขในทุกๆรูปแบบหรือไม่? อัจชะ เราจะเชิญอีก 10,000
คนมาและเตรียมเต็นท์ให้พวกเขา
ลูกทุกคนกำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการอาบน้ำและสิ่งเหล่านี้ก็จะถูกจัดเตรียมไว้เช่นกัน
ลูกจำสิ่งที่ทุกคนพูดเมื่อสร้างฮอล(ห้องโถง)นี้ได้หรือไม่?
เราจะทำอย่างไรกับห้องน้ำมากมาย?
ฮอลนี้สร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์นี้และเวลานี้ก็กลายเป็นห้องเล็กๆไปแล้ว
ไม่ว่าลูกจะสร้างมันใหญ่แค่ไหน มันก็จะกลับมาเล็ก
เพราะในเวลาสุดท้ายลูกต้องเข้าไปสู่ความไม่มีขีดจำกัด อัจชะ
ลูก ๆ จากทุกหนแห่งได้มาถึงแล้ว
ดังนั้นนี่คือเครื่องประดับฮอลที่ไม่มีขีดจำกัดนี้เช่นกัน
บางคนแม้กระทั่งนั่งอยู่ข้างล่างด้วยซ้ำ (บางคนกำลังฟังเมอร์ลีใน ฮิสทรี่ ฮอล
History Hall, เมดดิเทเชิ่น ฮอล Meditation Hall ฯลฯ )
สำหรับการขยายตัวที่จะเกิดขึ้นนี้ถือเป็นสัญญาณของการมีโชคเช่นกัน
มีการขยายตัวเกิดขึ้น แต่เวลานี้ลูกต้องเคลื่อนไปตามระบบ อย่าคิดว่าลูกมาที่มธุบัน
ลูกเคยเห็นบาบาแล้ว
ลูกเคยเห็นมธุบันแล้วและดังนั้นเวลานี้ลูกสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่ลูกต้องการ
อย่าทำอย่างนี้
ลูกบางคนเป็นเช่นนั้นที่มีความเข้มแข็งมากจนกระทั่งพวกเขาจะได้รับโอกาสมาที่มธุบัน
จากนั้นเมื่อพวกเขาได้เห็นมธุบันแล้วพวกเขาก็กลับมาไม่ระมัดระวังเล็กน้อย
ดังนั้นอย่าได้ไม่ระมัดระวัง การเป็นบราห์มินหมายถึงการมีชีวิตแบบบราห์มิน
และชีวิตเป็นไปตลอดเวลาที่ลูกยังมีชีวิตอยู่ ลูกสร้างชีวิตนี้ขึ้นใช่ไหม?
ลูกได้สร้างชีวิตของลูกหรือลูกกลายเป็นบราห์มินในช่วงเวลาสั้นๆ?
จงรักษาคุณสมบัติพิเศษของชีวิตบราห์มินไว้กับลูกเสมอ
เพราะคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้ทำให้ปัจจุบันของลูกสูงส่งและอนาคตของลูกก็จะสูงส่งด้วยเช่นกัน
อัจชะ มีอะไรอีกหรือไม่? โทลี (พร) พรคือการที่ลูกกลายเป็นลูกของผู้ประทานพร
ผู้ที่เป็นลูกของผู้ประทานพรจะได้รับพรโดยอัตโนมัติในทุกย่างก้าวจากผู้ประทานพร
พรคือการหล่อเลี้ยงของลูก ลูกได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยการหล่อเลี้ยงของพร
มิฉะนั้นลองคิดดูว่า: ลูกได้รับการบรรลุผลที่สูงส่งเช่นนี้และลูกทำความพยายามอะไร?
สิ่งใดก็ตามที่ลูกได้มาโดยไม่ต้องลำบากตรากตรำกล่าวได้ว่าเป็นพร
แล้วลูกทำความพยายามอะไร? แต่การบรรลุผลที่ลูกได้รับนั้นก็สูงส่งมาก!
ลูกได้ประกาศสิทธิ์เป็นเวลาชาติแล้วชาติเล่า
ลูกได้รับพรจากผู้ประทานพรในทุกย่างก้าวและลูกจะได้รับสิ่งเหล่านี้เสมอต่อไป
ผ่านดริชตี ผ่านคำพูด และผ่านความสัมพันธ์
ลูกมีพรอย่างสม่ำเสมอและพรที่มากขึ้นเรื่อย ๆ อัจชะ
เวลานี้ลูกกำลังเตรียมการเพื่อเฉลิมฉลองโกลเด้นจูบีลี่ (ครบรอบ 50 ปี)
ลูกกำลังเฉลิมฉลองโกลเด้นจูบีลี่
นั่นคือการเฉลิมฉลองที่จะอยู่อย่างมั่นคงตลอดเวลาในสภาพที่เป็นทอง
อยู่อย่างเป็นทองที่แท้จริงเสมอโดยไม่มีอัลลอยปะปนหรือโลหะผสมแม้แต่น้อย
สิ่งนี้เรียกว่าโกลเด้นจูบีลี่
ดังนั้นเพื่อที่จะเปิดเผยให้โลกรู้ในฐานะผู้ที่เป็นทองคำที่แท้จริงด้วยสภาพที่เป็นทอง
ลูกกำลังสร้างวิธีการรับใช้เหล่านี้ทั้งหมดเพราะสภาพที่เป็นทองของลูกจะนำมาซึ่งยุคทอง
มันจะนำมาซึ่งโลกที่สวยงาม เวลานี้ทุกคนต้องการให้โลกเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นลูกคือดวงวิญญาณพิเศษที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโลกผ่านการเปลี่ยนแปลงตนเอง
ขอให้ดวงวิญญาณที่เห็นลูกทุกคนมีศรัทธาและความหวังอันบริสุทธิ์ว่าโลกเป็นเช่นทองที่สวยงามกำลังจะมาถึงแล้วจริงๆ
เมื่อเห็นตัวอย่างพวกเขาจะมีศรัทธาว่านั่นเป็นสิ่งที่ดี
ดังนั้นลูกคือตัวอย่างของโลกยุคทอง ลูกคือผู้ที่มีสภาพที่เป็นทอง
เมื่อพวกเขาเห็นลูกผู้เป็นตัวอย่าง ปล่อยให้พวกเขามีความศรัทธานี้:
ใช่ตอนนี้ตัวอย่างพร้อมแล้ว โลกเช่นนั้นก็กำลังจะมาถึงอย่างแน่นอน
ลูกจะทำงานรับใช้เช่นนั้นในโกลเด้นจูบีลี่ใช่ไหม?
กลายเป็นผู้ที่ให้ความหวังกับผู้ที่ไม่มีความหวัง อัจชะ
ถึงผู้ที่มีอำนาจอำนาจในการปกครองตนเอง
ถึงดวงวิญญาณที่ได้พัฒนาการฝึกฝนของการมีอำนาจควบคุมตนเองเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
ถึงดวงวิญญาณพิเศษทั้งหมดของโลก
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งทั้งหมดที่ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพรจากผู้ประทานพร
ด้วยความรัก ความทรงจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
พร:
ขอให้ลูกเป็นประภาคารแห่งแสงและพลังที่มีชีวิต
ที่แสดงให้เห็นถึงจุดหมายปลายทางที่ถูกต้องของพวกเขา
เพื่อที่จะแสดงให้ดวงวิญญาณที่เร่ร่อนได้เห็นจุดหมายปลายทางที่ถูกต้องของเขา
จงกลายเป็นประภาคารแห่งแสงและพลังที่มีชีวิต สำหรับสิ่งนี้ให้ใส่ใจกับสองสิ่ง: 1)
การแยกแยะความปรารถนาของแต่ละดวงวิญญาณ
เช่นที่แพทย์ที่มีความสามารถคือผู้ที่รู้ว่าจะจับชีพจรของใครบางคนอย่างไร
ในทำนองเดียวกันจงใช้พลังในการแยกแยะของลูกอยู่เสมอ 2)
เก็บประสบการณ์ของสมบัติที่มีค่าทั้งหมดไว้กับลูกเสมอ
ตั้งเป้าหมายไว้เสมอว่าไม่ต้องบอกสิ่งใดกับผู้คน
แต่ต้องให้ประสบการณ์ของทุกความสัมพันธ์และทุกทั้งหมด
คติพจน์:
แทนที่จะแก้ไข (correcting) ผู้อื่น ให้มีการเชื่อมโยงสายใย (connection)
ที่ดีกับพ่อ