20.10.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ลูกคือหน่วยกู้ภัยทางจิตที่แฝงตัว
ลูกต้องกอบกู้ทั้งโลกและนำเรือที่กำลังจะจมข้ามฟากไป
คำถาม:
มหาวิทยาลัยใดที่ไม่มีอยู่ตลอดทั้งวงจรที่พ่อเปิดขึ้นในยุคบรรจบพบกัน?
คำตอบ:
ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่พ่อเปิดมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยของพระเจ้าสำหรับการศึกษาเพื่อให้ได้มาซึ่งอาณาจักร
มหาวิทยาลัยเช่นนี้ไม่ได้เปิดตลอดทั้งวงจร
ด้วยการศึกษาในมหาวิทยาลัยนี้ที่ลูกจะกลายเป็นราชาเหนือราชาที่มีมงกุฎสองชั้น
โอมชานติ
ก่อนอื่นใดบาบาถามลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวานว่า: เมื่อลูกมานั่งที่นี่
ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อหรือไม่?
เพราะที่นี่ลูกไม่มีธุรกิจใดที่ต้องทำหรือมีเพื่อนฝูงหรือญาติมิตร ฯลฯ ใดๆ
ลูกมาที่นี่ด้วยความคิดที่ว่าลูกจะพบพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ใครพูดเช่นนี้?
ดวงวิญญาณพูดผ่านร่างกาย พ่อเหนือโลกได้ยืมร่างนี้มาใช้และกำลังอธิบายผ่านร่างนี้
เมื่อพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดมาและสอนลูกให้พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
และจดจำพ่อเพื่อที่เรือของลูกจะข้ามฟากไป เรือของทุกคนกำลังจมลง
ลูกทำความเพียรพยายามมากเพียงใด เรือของลูกจะข้ามฟากมากตามนั้น มีคำกล่าวว่า: โอ้
คนพายเรือ พาเรือของฉันข้ามฟากด้วย ในความเป็นจริงแล้ว
ลูกแต่ละคนต้องข้ามฟากด้วยความเพียรพยายามเพื่อตนเอง
เมื่อลูกได้เรียนรู้วิธีที่จะว่ายน้ำ ลูกว่ายน้ำด้วยตนเอง
เหล่านั้นคือเรื่องที่เกี่ยวกับร่างกาย ที่นี่เป็นเรื่องทางจิต
ลูกรู้ว่าดวงวิญญาณติดกับอยู่ในหนองน้ำที่สกปรกในเวลานี้
มีตัวอย่างของกวางที่ทะยานไปข้างหน้าเพราะคิดว่ามีน้ำอยู่ข้างหน้า
แต่ไม่มีสิ่งใดนอกจากหนองน้ำที่นั่น และก็ติดกับอยู่ในนั้น
แม้กระทั่งเรือกลไฟและรถยนต์ก็ติดอยู่โคลนเป็นบางครั้ง
แล้วพวกมันก็ต้องถูกกู้ขึ้นมา นั่นคือหน่วยกู้ภัย ลูกคือกองทัพทางจิต
ลูกรู้ว่าทุกคนติดกับอยู่ในหนองน้ำของมายาอย่างสิ้นเชิง
นี่เรียกว่าเป็นหนองน้ำของมายา
พ่อมาและอธิบายว่าลูกจะออกมาจากหนองน้ำนั้นได้อย่างไร ท่านกอบกู้ลูก ที่นั่นคนๆ
หนึ่งต้องอาศัยความช่วยเหลือจากอีกคนหนึ่ง ที่นี่ดวงวิญญาณติดกับอยู่ในหนองน้ำ
พ่อแสดงวิธีที่จะออกมาจากหนองน้ำนั้นให้แก่ลูก
แล้วลูกก็สามารถแสดงหนทางนี้ให้แก่ผู้อื่น
ลูกแต่ละคนต้องมองเห็นวิธีที่จะนำเรือของลูกข้ามมหาสมุทรแห่งยาพิษไปสู่มหาสมุทรแห่งน้ำนมแล้วแสดงหนทางนี้แก่ผู้อื่น
ยุคทองถูกเรียกว่ามหาสมุทรแห่งน้ำนมที่หมายถึงมหาสมุทรแห่งความสุข ที่นี่คือ
มหาสมุทรแห่งความทุกข์ ราวันทำให้ลูกจมอยู่ในมหาสมุทรแห่งความทุกข์
พ่อมาและพาลูกไปสู่มหาสมุทรแห่งความสุข ลูกถูกเรียกว่าหน่วยกู้ภัยทางจิตเช่นกัน
ลูกแสดงหนทางแก่ทุกคนตามศรีมัท ลูกอธิบายให้ทุกคนฟังเกี่ยวกับพ่อทั้งสอง
หนึ่งคือพ่อทางร่างกาย และอีกหนึ่งคือพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
แม้ว่าทุกคนจะมีพ่อทางร่าง พวกเขาก็ยังคงจดจำพ่อเหนือโลก
อย่างไรก็ตามไม่มีใครรู้จักท่านเลย
บาบาไม่ได้ประณามใครนอกจากกำลังอธิบายความลับของละคร
เพื่อที่จะอธิบายสิ่งนี้เท่านั้นท่านจึงพูดว่า:
เวลานี้มนุษย์ทั้งหมดติดกับอยู่ในทรายดูดของกิเลสทั้งห้าอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นพวกเขาเป็นของชุมนุมปีศาจ
ผู้ที่เป็นของชุมนุมปีศาจจะก้มลงให้กับผู้ที่เป็นของชุมนุมของเทพ
เพราะชุมนุมของเทพปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง
ผู้คนยังโค้งคำนับให้กับซันยาสซีผู้ที่ทิ้งบ้านเรือน
และครอบครัวและคงอยู่อย่างบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามมีความแตกต่างราวกับกลางวัน และกลางคืนระหว่างซันยาสซีและเหล่าเทพ
เหล่าเทพใช้ชาติเกิดด้วยพลังโยคะ ไม่มีใครรู้สิ่งเหล่านี้เลย ทุกคนพูดว่า:
หนทางและวิธีการของพระเจ้านั้นพิเศษสุดโดยแท้จริง
ไม่มีใครเข้าถึงความลึกล้ำของพระเจ้าได้ ด้วยการพูดว่า “อิศวร”หรือ“พระเจ้า”
ลูกไม่มีประสบการณ์ของความรักมากขนาดนั้น คำพูดที่ดีที่สุดคือ “พ่อ”
มนุษย์ไม่รู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเลย ราวกับว่าพวกเขาเป็นลูกกำพร้า
นิตยสารได้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบอกสิ่งที่มนุษย์พูดและสิ่งที่พระเจ้าพูด
พ่อไม่ได้กำลังดูถูกใคร ท่านกำลังอธิบายแก่ลูกๆ เพราะท่านรู้จักทุกคน
ในการที่จะอธิบาย ท่านพูดว่า: นี่คือลักษณะนิสัยที่ชั่วร้ายเช่นปีศาจ
พวกเขาเฝ้าแต่ต่อสู้กันและกัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้กันที่นี่
นั่นคือชุมนุมของฆราวาส นั่นคือชุมนุมที่เป็นปีศาจ นี่คือชุมนุมเทพ พ่ออธิบายว่า:
เป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ที่จะสอนราชาโยคะให้แก่มนุษย์ไปสู่การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
ในเวลานี้เท่านั้นที่พ่อมาและสอนลูกๆดวงวิญญาณ
ดูซิว่ามีความแตกต่างระหว่างผู้ที่มีสำนึกที่เป็นร่างและผู้ที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณมากเพียงใด
ลูกได้ตกลงมาเพราะสำนึกที่เป็นร่าง
พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและทำให้ลูกอยู่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ไม่ใช่ว่าลูกจะไม่มีความสัมพันธ์ทางร่างใดๆในยุคทอง
ที่นั่นลูกไม่มีความรู้ว่าลูกคือลูกของพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด
ในเวลานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับความรู้นี้ จากนั้นความรู้นี้ก็หายไป
ลูกทำตามศรีมัทและได้รับรางวัลด้วยความรู้นี้ พ่อมาเพื่อสอนราชาโยคะแก่ลูก
ไม่มีการศึกษาอื่นใดเหมือนการศึกษานี้ ราชาที่มีมงกุฎสองชั้นคงอยู่ในยุคทอง
มีอาณาจักรของผู้ที่มีมงกุฎเดียวเช่นกัน
แม้กระทั่งอาณาจักรเหล่านั้นก็ไม่ได้คงอยู่ในเวลานี้
มันคือการปกครองของประชาชนโดยประชาชน
ลูกๆกำลังศึกษาในมหาวิทยาลัยของพระเจ้าผู้เป็นพ่อนี้เพื่อรับอาณาจักร
ชื่อของลูกถูกเขียนไว้ภายนอก แม้ว่าผู้คนเหล่านั้นจะเขียนชื่อของ“กีตะพาทชาลา”ด้วยเช่นกัน
ใครที่สอนพวกเขา? พวกเขาเพียงแค่พูดว่าคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวไว้โดยพระเจ้ากฤษณะ
อย่างไรก็ตามกฤษณะไม่สามารถสอนใครได้
กฤษณะเองก็เคยไปที่โรงเรียนเพื่อศึกษาเล่าเรียนเช่นกัน
โรงเรียนใดที่เจ้าชายและเจ้าหญิงไป? ภาษาที่นั่นมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ไม่ใช่ว่าเขาพูดกีตะเป็นภาษาสันสกฤต ที่นี่มีภาษามากมาย
ราชาทุกคนนำภาษาของตนเองมาใช้ ภาษาสันสกฤตไม่ใช่ภาษาของราชา
บาบาไม่ได้สอนภาษาสันสกฤต พ่อสอนราชาโยคะเพื่อยุคทอง พ่อพูดว่า:
ตัณหาราคะคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด: ลูกต้องเอาชนะสิ่งนี้
ท่านทำให้ลูกทำสัญญาเพื่อทำสิ่งนี้ ทุกคนที่มาที่นี่ถูกขอให้ทำสัญญานี้
ด้วยการเอาชนะตัณหาราคะ ลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะโลก นี่คือกิเลสตัวหลัก
ความก้าวร้าวรุนแรงได้ดำเนินมาตั้งแต่ยุคทองแดง ตั้งแต่หนทางบาปได้เริ่มต้นขึ้น
มีวัดที่แสดงว่าเหล่าเทพตกลงไปสู่หนทางบาปได้อย่างไรด้วยเช่นกัน
พวกเขาได้สร้างรูปปั้นที่สกปรกมากมายที่นั่น
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีวันหรือเวลาที่แสดงว่าเมื่อไรที่เทพเหล่านั้นไปสู่หนทางบาป
มีการพิสูจน์ว่าพวกเขากลับมาน่าเกลียดด้วยการนั่งอยู่บนกองไฟของตัณหาราคะ
ชื่อและรูปของเขาเปลี่ยนไป ด้วยการนั่งอยู่บนกองไฟของตัณหาราคะ
พวกเขาก็กลายเป็นของยุคเหล็ก เวลานี้แม้กระทั่งวัตถุธาตุทั้งห้าก็ตาโมประธาน
เหตุนี้เองร่างกายที่ถูกสร้างที่นี่จึงตาโมประธานด้วยเช่นกัน
ตั้งแต่ช่วงเวลาแรกเกิด พวกเขาทั้งหมดล้วนมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน
ที่นั่นร่างกายของทุกคนสวยงามอย่างแน่นอน เนื่องจากเวลานี้ทุกสิ่งตาโมประธาน
ร่างกายก็เป็นเช่นนั้นด้วย ผู้คนจดจำพระเจ้าด้วยชื่อที่ต่างๆ เช่น “อิศวร” และ “พระภู่”
ฯลฯ อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสงสารเหล่านั้นไม่รู้อะไรเลย ดวงวิญญาณจดจำพ่อของเขา
และพูดว่า: โอ้ บาบา จงมาและให้ความสงบแก่ฉันด้วย
ที่นี่ลูกกำลังเล่นบทบาทด้วยอวัยวะทางกาย
แล้วลูกจะมีประสบการณ์ของความสงบที่นี่ได้อย่างไร?
เคยมีความสงบในโลกเมื่อเป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ อย่างไรก็ตาม
เนื่องจากมีการกล่าวไว้ว่าระยะเวลาของวงจรนั้นหลายแสนปี
มนุษย์ที่ยากจนจะสามารถเข้าใจได้อย่างไร? เมื่อเคยเป็นอาณาจักรของเหล่าเทพ
เคยมีเพียงอาณาจักรเดียวและศาสนาเดียว
ไม่มีดินแดนอื่นกล่าวได้ว่ามีอาณาจักรเดียวศาสนาเดียว
ที่นี่ดวงวิญญาณร้องขออาณาจักรเดียว ลูกๆ
ดวงวิญญาณรู้ว่าเวลานี้เรากำลังก่อตั้งอาณาจักรเดียวนั้น
ที่นั่นเราจะเป็นนายของทั้งโลก พ่อได้ให้ทุกสิ่งแก่เรา
ไม่มีใครจะสามารถช่วงชิงอาณาจักรนั้นไปจากเราได้ เรากลายเป็นนายของทั้งโลก
อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนและโลกที่ไม่มีตัวตนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกทางวัตถุนี้
วงจรโลกนี้หมุนอยู่ที่นี่เท่านั้น พ่อ ผู้สร้างเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้
ไม่ใช่ว่าท่านสร้างสิ่งสร้างใด
พ่อมาในยุคบรรจบพบกันเพื่อทำให้โลกเก่ากลายเป็นโลกใหม่อีกครั้ง
บาบามาจากดินแดนที่ไกลโพ้น ลูกรู้ว่าโลกใหม่กำลังถูกสร้างขึ้นมาเพื่อลูก
บาบากำลังตกแต่งประดับประดาพวกเราดวงวิญญาณ
พร้อมกันนั้นร่างกายของลูกก็จะถูกประดับประดาด้วยเช่นกัน
เมื่อลูกดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ลูกก็จะได้รับร่างกายที่สะโตประธาน
ร่างกายจะถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุธาตุที่สะโตประธาน
พวกเขามีร่างที่สะโตประธานใช่ไหม พวกเขามีความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ มีคำกล่าวว่า:
“ศาสนาคืออำนาจ” พวกเขาได้รับอำนาจมาจากไหน?
ศาสนาของเหล่าเทพเท่านั้นที่จะทำให้ลูกได้รับอำนาจ
เหล่าเทพเท่านั้นที่จะกลายเป็นนายของทั้งโลก ไม่มีใครอื่นกลายเป็นนายของโลกได้
ลูกได้รับอำนาจอย่างมาก
มีการเขียนไว้ว่าชีพบาบาก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปผ่านบราห์มา
ไม่มีใครอื่นในโลกรู้สิ่งเหล่านี้ บาบาพูดว่า:
พ่อก่อตั้งสกุลบราห์มินแล้วนำพวกเขาไปสู่สุริยวงศ์
ผู้ที่ศึกษาอย่างดีจะสอบผ่านและไปสู่สุริยวงศ์ ทุกสิ่งคือเรื่องของความรู้
ผู้คนเหล่านั้นได้วาดภาพธนู ลูกศร และอาวุธทางวัตถุ
พวกเขาเรียนรู้วิธีที่จะยิงธนูและลูกศร พวกเขาสอนเด็กเล็กๆ
ถึงวิธีที่จะยิงปืนด้วยเช่นกัน ลูกธนูของลูกคือโยคะ พ่อพูดว่า:
จดจำพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอแล้วบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
ไม่มีเรื่องของความก้าวร้าวรุนแรงใด การศึกษาของลูกนั้นแฝงตัว
ลูกคือหน่วยกู้ภัยทางจิต ไม่มีใครรู้ว่าอะไรคือกองทัพทางจิตนี้
ลูกคือหน่วยกู้ภัยทางจิตที่แฝงตัว ลูกให้การกอบกู้แก่ทั้งโลก เรือของทุกคนกำลังจม
อย่างไรก็ตามไม่มีลังกาทองคำ
ไม่ใช่ว่าดวาราก้าทองคำจมลงไปเบื้องล่างและจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ไม่เลย
เคยมีอาณาจักรของพวกเขาในดวาราก้า แต่สิ่งนั้นหมายถึงยุคทอง
เครื่องแต่งกายของราชายุคทองแตกต่างจากเครื่องแต่งกายของราชายุคเงิน
มีเครื่องแต่งกายที่ต่างกันและขนบธรรมเนียมประเพณีที่ต่างกัน
ธรรมเนียมและประเพณีของราชาแต่ละองค์นั้นต่างกัน ทันทีที่กล่าวถึงชื่อ “ยุคทอง”
หัวใจก็มีความสุข มนุษย์พูดถึงสวรรค์และดินแดนสุขาวดี แต่พวกเขายังคงไม่รู้สิ่งใด
สิ่งหลักคือวัดดิลวาลาแห่งนี้ เป็นอนุสรณ์ของลูก แบบจำลองนั้นเล็กเสมอ
นี่คือแบบจำลองที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด มีชีพบาบาและอดิเทพ
และบนเพดานด้านบนมีภาพสวรรค์ดินแดนสุขาวดี เมื่อพวกเขาแสดงให้เห็นชีพบาบา
ก็จะมีพาหนะของท่านที่นั่นด้วยเช่นกัน อดิเทพกำลังนั่งที่นั่น
ไม่มีใครอื่นเข้าใจสิ่งนี้ นี่คือพาหนะของชีพบาบา มหาวีระได้รับอาณาจักร
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกได้รับพละกำลังได้อย่างไร
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เมื่อฉันดวงวิญญาณเคยสะโตประธานฉันก็บริสุทธิ์
ในดินแดนของความสงบและดินแดนของความสุข ดวงวิญญาณอยู่อย่างบริสุทธิ์อย่างแน่นอน
เวลานี้เรื่องราวทั้งหมดนี้เข้าไปสู่สติปัญญาของลูก นี่คือประเด็นที่ง่ายดายมาก
บารัตเคยบริสุทธิ์ในยุคทอง ดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์ไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้
ดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์เหล่านี้ทั้งหมดจะกลับบ้านได้อย่างไร?
พวกเขาต้องกลับมาบริสุทธิ์ก่อนที่จะกลับบ้านได้ เมื่อโลกถูกจุดให้ลุกเป็นไฟ
ดวงวิญญาณทั้งหมดจะกลับบ้าน ร่างกายของพวกเขาจะอยู่ที่นี่
มีสัญลักษณ์เหล่านี้ทั้งหมด ไม่มีใครเข้าใจความหมายของโฮลิกะ
ทั้งโลกจะถูกสังเวยเข้าไปในไฟนั้น นี่คือไฟบูชายัญของความรู้ พวกเขาได้เอาคำว่า“ความรู้”ออกไปและเรียกสิ่งนั้นว่าไฟบูชายัญของรูดร้า
ในความเป็นจริง นี่คือไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้า สิ่งนี้ถูกสร้างโดยลูกๆบราห์มิน
ลูกคือบราห์มินที่แท้จริง ลูกทั้งหมดเป็นลูกของประชาบิดาบราห์มา
โลกมนุษย์ถูกสร้างขึ้นผ่านบราห์มา บราห์มาถูกเรียกว่าปู่ทวด
มีต้นไม้เผ่าพันธุ์ของเขา
พวกเขาเก็บต้นไม้เผ่าพันธุ์ที่แสดงถึงคนทุกรุ่นที่แตกต่างกัน
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่ามีต้นไม้เผ่าพันธุ์ของดวงวิญญาณที่เป็นระบบในโลกที่ไม่มีตัวตน
มีชีพบาบาแล้วก็บราห์มา วิษณุและชังการ์ จากนั้นก็เป็นลักษมีและนารายณ์ฯลฯ
นี่คือต้นไม้เผ่าพันธุ์มนุษย์ อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. กลายเป็นหน่วยกู้ภัยทางจิต และแสดงหนทางที่ถูกต้องนี้ให้แก่ตนเองและผู้อื่น
เพื่อที่จะกอบกู้ทั้งโลกจากมหาสมุทรแห่งยาพิษ จงกลายเป็นผู้ช่วยอย่างสมบูรณ์ของพ่อ
2. กลับมาบริสุทธิ์ด้วยความรู้และโยคะ และประดับตกแต่งดวงวิญญาณไม่ใช่ร่างกาย
เมื่อดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ ร่างกายก็จะได้รับการตกแต่งโดยอัตโนมัติ
พร:
ขอให้ลูกกลายเป็นแสงที่เบาสบายเป็นสองเท่าและสัมผัสกับอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนที่ทำให้จิตใจและสติปัญญาของลูกเป็นอิสระจากการบงการของจิตใจของลูก
เพียงแค่รักษาพลังแห่งความคิดของลูกไว้นั่นคือจิตใจและสติปัญญาของลูกให้เป็นอิสระจากการบงการจิตใจของลูกอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าลูกจะอยู่ที่นี่
ลูกจะได้สัมผัสกับฉากและทิวทัศน์ของอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนอย่างชัดเจนเช่นเดียวกับที่ลูกเห็นฉากต่างๆของโลกนี้อย่างชัดเจน
อย่าทำให้ตนเองเป็นภาระที่จะสัมผัสประสบการณ์กับสิ่งนี้
มอบภาระทั้งหมดของลูกให้กับพ่อและเป็นแสงที่เบาสบายเป็นสองเท่า
จิตใจและสติปัญญาของลูกต้องรับประทานอาหารของความคิดที่บริสุทธิ์อยู่เสมอและอย่าได้รับประทานอาหารที่ไม่บริสุทธิ์ของความคิดที่ไร้ประโยชน์หรือเป็นบาป
แล้วลูกจะอยู่อย่างเบาสบายจากการแบกรับภาระใด ๆ
และสามารถสัมผัสประสบการณ์กับสภาพที่สูงได้
คติพจน์:
ใส่จุดฟูลสต็อปและทำให้สต็อกของความปรารถนาดีของลูกเต็มเปี่ยม