14.10.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
เป็นเพียงในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ลูกไม่ต้องลำบากตรากตรำในลักษณะนี้ในยุคทองหรือยุคเหล็ก
คำถาม:
เหตุใดชื่อของศรีกฤษณะจึงมีชื่อเสียงมากกว่าชื่อพ่อแม่ของเขา?
คำตอบ:
1. เพราะไม่มีผู้ใดที่ใช้ชาติเกิดก่อนกฤษณะที่จะถือกำเนิดด้วยพลังของโยคะ
พ่อแม่ของกฤษณะก็ไม่ได้ถือกำเนิดมาด้วยพลังของโยคะเช่นกัน 2.
เพียงดวงวิญญาณราเด้และกฤษณะเท่านั้นที่ได้มาซึ่งสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมอย่างสมบูรณ์และพวกเขาคือผู้ที่ได้รับการหลุดพ้นอย่างสมบูรณ์
เมื่อดวงวิญญาณบาปไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป
กฤษณะจะถือกำเนิดมาในโลกใหม่ที่บริสุทธิ์และสวยงามซึ่งเรียกว่าสวรรค์ 3.
ดวงวิญญาณศรีกฤษณะทำความเพียรพยายามมากที่สุดในยุคบรรจบพบกัน
เหตุนี้เองชื่อของเขาจึงได้รับการประกาศเกียรติคุณ
โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวาน เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ทุกๆ 5000 ปี ที่ท่านมาและสอนลูกๆ ผู้คนเรียกหา:
ได้โปรดมาและชำระล้างพวกเราผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
สิ่งนี้พิสูจน์ว่านี่คือโลกที่ไม่บริสุทธิ์ โลกใหม่เป็นโลกที่บริสุทธิ์
อาคารใหม่สวยงามและอาคารเก่าทรุดโทรมและพังทลายมันถล่มลงมาท่ามกลางสายฝน
ลูกๆรู้ว่าเวลานี้พ่อมาเพื่อสร้างโลกใหม่
เวลานี้ท่านกำลังสอนลูกและจะสอนลูกอีกครั้งหลังจาก 5000 ปี
ไม่มีผู้รู้หรือผู้เคร่งศาสนาใดสอนสาวกของเขาในลักษณะนี้
เพราะพวกเขาเป็นของหนทางสันโดษ พวกเขาไม่รู้สิ่งนี้และไม่รู้เกี่ยวกับการละเล่น
ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถบอกลูกถึงความลับของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลก
การกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณที่ลูกๆเห็นว่าเป็นสิ่งที่ยากลำบากเพราะลูกไม่ได้มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณมาเป็นเวลาครึ่งวงจร
พ่อพูดว่า: เวลานี้พิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณ
อย่าคิดว่าดวงวิญญาณเป็นดวงวิญญาณสูงสุด ไม่เลย
จงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา
การจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงที่ลูกกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์คือสิ่งหลัก
ไม่มีอะไรทางกายภาพเกี่ยวกับสิ่งนี้ ลูกไม่ต้องปิดหูหรือจมูกของลูก
สิ่งสำคัญคือการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
ลูกได้พัฒนานิสัยของการมีสำนึกที่เป็นร่างมาถึงครึ่งวงจร
สิ่งแรกเมื่อลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณแล้วลูกจะสามารถจดจำพ่อได้
ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน ผู้คนร้องเรียกหา: บาบา บาบา ลูกๆ
รู้ว่าลูกมีพ่อผู้เดียวเท่านั้น-พ่อทางร่าง-ในยุคทอง
ที่นั่นไม่มีใครจดจำพ่อที่อยู่เบื้องบนเพราะพวกเขามีความสุขที่นั่น
จากนั้นบนหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกมีสองพ่อ - ทางร่างและทางจิต
ทุกคนจดจำพ่อจากเบื้องบนในเวลาของความทุกข์ ไม่มีความเลื่อมใสศรัทธาในยุคทอง
ที่นั่นลูกได้รับรางวัลของความรู้ ไม่ใช่ว่าลูกมีความรู้นี้ที่นั่น
ลูกเพียงแค่ได้รับรางวัลของความรู้ที่ลูกศึกษาในเวลานี้
พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
เป็นเวลาครึ่งวงจรลูกได้รับมรดกของความสุขจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
แล้วลูกก็ได้รับมรดกชั่วคราวจากพ่อทางร่าง มนุษย์ไม่สามารถอธิบายสิ่งนี้
นี่คือสิ่งที่ใหม่ พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในรอบ 5000 ปี ในยุคบรรจบพบกัน
เมื่อเป็นการบรรจบกันของตอนสิ้นสุดของยุคเหล็กและตอนต้นของยุคทอง
พ่อมาเพื่อก่อตั้งโลกใหม่อีกครั้ง
เป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ในโลกใหม่และต่อมาก็เป็นอาณาจักรของรามในยุคเงิน
รูปภาพของเหล่าเทพทั้งหมดที่ถูกวาดขึ้นนั้นคือเครื่องประกอบของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
พ่อพูดว่า: จงลืมทั้งหมดนั้น เวลานี้จดจำบ้านและโลกใหม่ของลูก
หนทางของความรู้คือหนทางแห่งความเข้าใจ ในหนทางนี้ลูกกลับมารู้คิดเป็นเวลาถึง 21
ชาติเกิด ไม่มีความทุกข์ที่นั่น ไม่มีใครในยุคทองที่พูดว่าเขาต้องการความสงบ
มีคำกล่าวว่า. “ตายดีกว่าที่จะร้องขอสิ่งใด”
พ่อทำให้ลูกเป็นเทพที่มั่งคั่งเช่นนั้นที่ลูกไม่จำเป็นต้องร้องขอสิ่งใดจากพระเจ้า
ที่นี่ผู้คนร้องขอพร ดังนั้นผู้คนมากมายจึงไปรับพรเมื่อโป๊ป(พระสันตะปาปา)มา
โป๊ปทำพิธีแต่งงานให้กับผู้คนมากมาย บาบาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้น
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอดีตในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา,เวลานี้ก็กำลังเกิดขึ้นอีกครั้งและจะเกิดซ้ำรอย
นับวันบารัตตกต่ำมาก เวลานี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันและคนอื่นๆอยู่ในยุคเหล็ก
จนกว่าพวกเขามาที่นี่
ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเวลานี้เป็นยุคบรรจบพบกันหรือยุคเหล็ก
ในครอบครัวเดียวกัน ลูกๆ
อาจจะเชื่อว่าตนเองอยู่ในยุคบรรจบพบกันในขณะที่พ่ออาจจะบอกว่าเขาอยู่ในยุคเหล็ก
แล้วก็มีความยากลำบากมาก มีความซับซ้อนมากมายเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม
ลูกๆที่เป็นของยุคบรรจบพบกัน คือผู้ที่กินอาหารที่บริสุทธิ์ เทพไม่เคยกินหัวหอม ฯลฯ
เทพเรียกว่าเป็นผู้ปราศจากกิเลส
ทุกคนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาได้กลับมาตาโมประธาน พ่อพูดว่า
ในเวลานี้จงกลับมาสะโตประธาน
ไม่มีใครเข้าใจว่าในตอนแรกดวงวิญญาณนั้นสะโตประธานและตอนนี้พวกเขากลับมาตาโมประธาน
เพราะพวกเขาคิดว่าดวงวิญญาณมีภูมิคุ้มกันต่อผลของการกระทำ
พวกเขาพูดว่าดวงวิญญาณแต่ละดวงคือดวงวิญญาณสูงสุด พ่อพูดว่า:
เพียงพ่อเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้
ทุกคนที่เป็นของศาสนาเทพนี้จะมาและจะประกาศสิทธิ์ในมรดกของเขาอีกครั้ง
เวลานี้ต้นอ่อนกำลังถูกเพาะ
ลูกสามารถเข้าใจได้เมื่อบางคนไม่มีค่าแก่การประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
บางคนกลับบ้าน, แต่งงานและกลับมาสกปรกต่อไป
ดังนั้นจึงมีการอธิบายว่าพวกเขาไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
อาณาจักรกำลังได้รับการก่อตั้ง พ่อพูดว่า: พ่อกำลังทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา
ดังนั้นปวงประชาจะต้องถูกสร้างขึ้นมาอย่างแน่นอน
ลูกจะสามารถได้มาซึ่งอาณาจักรได้อย่างไร? คำพูดเหล่านี้อยู่ในกีตะ
นี่เรียกว่าเป็นยุคของกีตะ ลูกกำลังศึกษาราชาโยคะ
ลูกรู้ว่ากำลังมีการวางรากฐานของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
อาณาจักรสุริยวงศ์และจันทราวงศ์กำลังได้รับการก่อตั้ง
สกุลบราห์มินได้ถูกก่อตั้งขึ้นและคือบราห์มินที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสุริยวงศ์และจันทราวงศ์
ผู้ที่ทำความเพียรพยายามอย่างดีมากจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสุริยวงศ์
ผู้ก่อตั้งศาสนาอื่นๆเพียงแค่มาเพื่อก่อตั้งศาสนาของตนเอง
จากนั้นในเวลาต่อมาดวงวิญญาณของศาสนานั้นก็ตามพวกเขาลงมาเรื่อยๆเมื่อศาสนาของพวกเขาขยายตัวออกไปเรื่อยๆ
ตัวอย่างเช่น เมล็ดของศาสนาคริสต์คือพระคริสต์ ใครคือเมล็ดของลูก? พ่อ
เพราะพ่อมาและก่อตั้งสวรรค์ผ่านบราห์มา บราห์มาเรียกว่าเป็นพ่อของปวงประชา (ประชาบิดา)
เขาไม่ถูกเรียกว่าผู้สร้าง ลูกได้รับการนำมาเลี้ยงดูโดยผ่านเขา
บราห์มาถูกสร้างขึ้นมาเช่นกันใช่ไหม? พ่อมาและเข้ามาในเขาและสร้างเขา ชีพบาบาพูดว่า:
ลูกคือลูกของพ่อ บราห์มาพูดว่า:ลูกคือลูกที่มีตัวตนของพ่อ
ลูกได้กลับมาสกปรกและน่าเกลียด เวลานี้ลูกกลายเป็นบราห์มิน
ในยุคบรรจบพบกันนี้ที่ลูกทำความเพียรพยายามที่จะกลายเป็นเทพที่สูงส่งที่สุด
เทพและศูทรไม่ต้องทำความเพียรพยายามนี้
ลูกบราห์มินต้องทำความเพียรพยายามเพื่อที่จะกลายเป็นเทพ
พ่อมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น ยุคนี้สั้นมากซึงเป็นสาเหตุที่เรียกว่ายุคก้าวกระโดด
ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ พ่อต้องใช้ความพยายามเช่นกัน
ไม่ใช่ว่าโลกใหม่จะถูกสร้างขึ้นในทันที ต้องใช้เวลาสำหรับลูกที่จะกลายเป็นเทพ
ผู้ที่ทำกรรมดีย่อมถือกำเนิดในบ้านที่ดี
เวลานี้ลูกกลับมาสวยงามตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ
เป็นดวงวิญญาณที่กลายเป็นสิ่งนี้ เวลานี้ลูกดวงวิญญาณกำลังเรียนรู้ที่จะทำกรรมดี
ดวงวิญญาณนำซันสการ์ที่ดีและไม่ดีติดตัวไปกับเขา
เวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นดอกไม้ที่สวยงามและลูกจะถือกำเนิดในบ้านที่ดีต่อไป
ผู้ที่ทำความเพียรพยายามที่ดีที่นี่จะถือกำเนิดในบ้านที่ดีอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดแล้วสิ่งนี้ก็ตามลำดับกันไป ลูกถือกำเนิดตามการกระทำที่ลูกทำ
เมื่อไม่มีผู้ที่ทำกรรมที่ไม่ดีอีกต่อใป สวรรค์จะได้รับการก่อตั้ง
การคัดเลือกก็จะเกิดขึ้น ทุกคนที่ตาโมประธานจะถูกทำลายและจากนั้นเทพใหม่จะเริ่มลงมา
หลังจากผู้ที่คดโกงทั้งหมดถูกทำลายแล้วกฤษณะก็ถือกำเนิดขึ้น
ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆจนกว่าจะถึงเวลานั้น
กฤษณะจะมาเมื่อไมมีใครที่สกปรกหลงเหลืออยู่
จนกว่าจะถึงเวลานั้นพวกเขาจะยังคงมาและไปอยู่เรื่อยๆ
พ่อแม่ของกฤษณะจะต้องมีไว้ล่วงหน้าเพื่อรับเขา
ในเวลานั้นคนดีเท่านั้นที่จะหลงเหลืออยู่ คนอี่นๆจะต้องจากไป
แล้วเมื่อนั้นที่จะเรียกว่าสวรรค์ เพียงลูกที่ได้รับกฤษณะเท่านั้นที่จะหลงเหลืออยู่
ลูกจะถือกำเนิดผ่านยาพิษเพราะนี่ยังคงเป็นอาณาจักรของราวัน
พวกเขาไม่สามารถถือกำเนิดที่บริสุทธิ์ได้
มีเพียงศรีกฤษณะเท่านั้นที่สามารถถือกำเนิดที่บริสุทธิ์ในชาติเกิดแรก
หลังจากนั้นโลกจึงถูกเรียกว่าโลกใหม่ของสวรรค์
กฤษณะจะมาในโลกใหม่ที่สวยงามอย่างสมบูรณ์ ชุมนุมราวันจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
ชื่อของกฤษณะมีชื่อเสียงมากกว่าชื่อพ่อแม่ของเขามาก
ชื่อของพ่อแม่กฤษณะไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก
ผู้ที่ใช้ชาติเกิดก่อนกฤษณะไม่ได้ใช้ชาติเกิดด้วยพลังโยคะ
ไม่ใช่ว่าพ่อแม่กฤษณะเกิดมาด้วยพลังโยคะ ไม่เลย
ถ้าเป็นเช่นนั้นชื่อของเขาก็จะเป็นที่รู้จักด้วยเช่นกัน
สิ่งนี้พิสูจน์ว่าพ่อแม่ของกฤษณะไม่ได้ทำความเพียรพยายามมากเท่ากับที่กฤษณะทำ
ลูกจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้มากขึ้นเมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป
มีเพียงราเด้และกฤษณะเท่านั้นที่มีสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมอย่างเต็มที่
พวกเขาคือผู้ที่ไปสู่การหลุดพ้นก่อน
พวกเขาใช้ชาติเกิดเมื่อดวงวิญญาณบาปทั้งหมดไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป
จึงเรียกโลกว่าโลกที่บริสุทธิ์ เหตุนี้เองชื่อของกฤษณะจึงเป็นที่รู้จักกันดี
ชื่อพ่อแม่ของเขาไม่เป็นที่รู้จักกันดี เมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป ลูกจะได้นิมิตมากมาย
ยังคงมีเวลาเหลือ ลูกสามารถอธิบายให้แก่ใครๆได้ว่า “นี่คือสิ่งที่เรากำลังศึกษาเพื่อที่จะเป็น
เวลานี้อาณาจักรของพวกเขากำลังก่อตั้งขึ้นในโลก จำเป็นต้องมีโลกใหม่สำหรับเรา”
แต่ลูกยังไม่ถูกเรียกว่าชุมชนเทพ ลูกคือชุมชนบราห์มิน ลูกกำลังจะกลายเป็นเทพ
เมื่อชุมชนเทพถูกสร้างขึ้น ทั้งดวงวญญาณและร่างกายของลูกจะบริสุทธิ์
ในขณะนี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันและกำลังกลายเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการทำความเพียรพยายาม
ลูกต้องเอาชนะการกระทำที่เป็นบาปด้วยการจดจำระลึกถึง
ลูกเองก็พูดว่าลูกลืมที่จะมีการจดจำระลึกถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อบาบาไปปิคนิค
ท่านคิดว่า: บาบาจะพูดว่าอะไรหากฉันไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึง? เหตุนี้เองบาบาพูดว่า:
ให้อยู่ในการจดจำระลึกถึงแม้ขณะที่ลูกกำลังปิคนิค
จดจำระลึกถึงผู้เป็นที่รักในขณะที่ทำทุกสิ่งและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
ความเพียรพยายามอยู่ในสิ่งนี้
ลูกดวงวิญญาณจะกลับมาบริสุทธิ์ด้วยการจดจำรำลึกถึงนี้และลูกจะสะสมทรัพย์สมบัติของความรู้ที่ไม่สูญสลาย
หากใครบางคนกลับมาไม่บริสุทธิ์แล้วความรู้ทั้งหมดจะไหลออกไป
ความบริสุทธิ์คือสิ่งหลัก พ่ออธิบายประเด็นที่ดีมาก
ไม่มีใครอื่นมีความรู้ของตอนเริ่มต้น ตอนกลางและตอนจบของโลก ชุมนุมทางจิตอื่น ฯลฯ
ทั้งหมดเป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
บาบาได้อธิบายว่าอันที่จริงมีเพียงผู้ที่เป็นของหนทางครอบครัวเท่านั้นที่ควรจะทำความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกมีความแข็งแกร่งมากมาย ลูกได้รับความสุขขณะที่นั่งอยู่ที่บ้าน
ลูกได้รับพละกำลังมากมายจากพ่อผู้ทรงพลังอำนาจ
ชันยาสชีเคยมีพละกำลังเช่นกันเมื่อพวกเขาอาศัยอยู่ในป่า
ตอนนี้พวกเขาได้สร้างแฟลตที่ใหญ่โตให้ตนเองอยู่ พวกเขาจึงไม่มีพละกำลังนั้นอีกต่อไป
ดั้งเดิมลูกมีพละกำลังของความสุข แต่แล้วสิ่งนั้นก็หายไป
ในทำนองเดียวกันเริ่มแรกพวกเขาเคยมีพลังของความสงบ แต่พวกเขาไม่มีสิ่งนั้นอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยพูดสัจจะเมื่อพวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่รู้จักผู้สร้างหรือสิ่งสร้าง
เวลานี้พวกเขาเรียกตนเองว่าพระเจ้า พวกเขาพูดว่า“ชีโวฮัม” พ่ออธิบายว่า:
ในเวลานี้ต้นไม้ทั้งต้นนั้นตาโมประธาน
และเหตุนี้เองพ่อจึงมาเพื่อยกระดับแม้แต่ผู้รู้และผู้เคร่งศาสนา
โลกนี้ต้องเปลี่ยนแปลง ดวงวิญญาณทั้งหมดจะกลับบ้าน
ไม่มีแม้แต่ดวงวิญญาณเดียวที่รู้ว่าบทบาทที่ไม่สูญสลายนั้นได้ถูกบันทึกไว้ในแต่ละดวงวิญญาณอย่างไรและจะต้องซ้ำรอยอย่างไร
ดวงวิญญาณสุดแสนเล็กและบทบาทที่ไม่สูญสลายที่ถูกบันทึกไว้ภายในดวงวิญญาณนั้นจะไม่มีวันถูกทำลาย
จำเป็นต้องมีสติปัญญาที่บริสุทธิ์มากที่จะเข้าใจสิ่งนี้
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อลูกอยู่อย่างซาบซึ้งในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงเท่านั้น
ลูกไม่สามารถได้รับสถานภาพโดยไม่ทำความเพียรพยายาม เหตุนี้เองจึงได้รับการจดจำว่า:
หากลูกปีนขึ้นไป ลูกสามารถลิ้มรสความหวานชื่นของน้ำทิพย์แห่งสวรรค์, แต่...
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเป็นราชาเหนือราชาทั้งปวงที่มีมงกุฎสองชั้นกับการเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชา
มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สอนทุกคน ลูกต้องเข้าใจสิ่งนี้อย่างดีมาก
บาบาอธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงเป็นสิ่งสำคัญ
พ่อสอนลูกเพื่อที่จะทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก ดังนั้นครูคือกูรูด้วยเช่นกัน
พ่อคือครูเหนือครูทั้งหมดและพ่อเหนือพ่อทั้งหมด ลูกๆ
รู้ว่าบาบาของลูกน่ารักอย่างยิ่ง ลูกต้องจดจำพ่ออย่างมาก
ลูกต้องศึกษาอย่างถูกต้องด้วยเช่นกัน หากลูกไม่จดจำพ่อ
บาปของลูกไม่สามารถได้รับการปลดเปลื้องได้พ่อจะพาดวงวิญญาณทั้งหมดกลับบ้านกับท่าน
ร่างกายทั้งหมดจะถูกทำลายและดวงวิญญาณจะกลับบ้านและอาศัยอยู่ในสัดส่วนของศาสนาของพวกเขาตามลำดับ
อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาม ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ใด้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้าจากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เพื่อที่จะทำให้สติปัญญาของลูกบริสุทธิ์
จงอยู่อย่างซาบซึ้งในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึง
ด้วยการจดจำผู้เป็นที่รักผู้เดียวในขณะที่ทำทุกสิ่งลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะการกระทำที่เป็นบาป
2. ทำความเพียรพยายามในยุคสั้นๆนี้ที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ
ทำการกระทำที่ดีและซึมซับซันสการ์ที่ดีและลูกจะไปสู่ครอบครัวที่ดี
พร:
ขอให้ลูกเป็นแสงสว่างให้กับโลกและนำผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาไปอยู่เหนือเพียงพริบตาเดียวด้วยการเป็นภาพลักษณ์ที่ให้นิมิต
ทั้งโลกกำลังรอคอยที่จะรับดริชตีจากลูกดวงวิญญาณที่เป็นดวงตาของโลก เมื่อลูกส่องแสง,โลกก็มาถึงสภาพที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมนั่นคือเมื่อลูกลืมตาของความสมบูรณ์พร้อม,โลกจะเปลี่ยนไปในหนึ่งวินาที
ลูกดวงวิญญาณที่จะเป็นภาพลักษณ์ที่ให้นิมิตจะสามารถพาดวงวิญญาณผู้เลื่อมใสศรัทธาไปอยู่เหนือได้ในพริบตา
คิวของผู้ที่ต้องการที่จะอยู่เหนือในพริบตาเดียวจะยาวและดังนั้นให้ดวงตาแห่งความสมบูรณ์พร้อมเปิดอยู่เสมอ
เวลานี้หยุดขยี้ตาและพยักหน้าหรือสำลักในความคิดของลูกแล้วลูกจะสามารถกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ให้นิมิตได้
คติพจน์:
ธรรมชาติที่บริสุทธิ์เป็นข้อบ่งชี้ของความถ่อมตน
จงกลับมาบริสุทธิ์และลูกจะประสบความสำเร็จ