13.10.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน บาบามาเพื่อแสดงหนทางกลับบ้านให้แก่ลูก
เมื่อลูกอยู่อย่างมีสำนึกเป็นดวงวิญูญาณ ลูกจะเห็นว่าหนทางนี้ง่ายดาย
คำถาม:
ลูกได้รับความรู้อะไรในยุคบรรจบพบกันที่เทพในยุคทองถูกเรียกว่าผู้เอาชนะความผูกพันยึดมั่น?
คำตอบ:
ในยุคบรรจบพบกันพ่อบอกเล่าเรื่องราวของความเป็นอมตะและให้ความรู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณที่คงอยู่ตลอดไปแก่ลูก
ลูกได้รับความรู้ว่านี่คือละครที่ไม่สูญสลายที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
ทุกดวงวิญญาณเล่นบทบาทของตนเอง ดวงวิญญาณจากร่างของเขาและรับอีกร่างหนึ่ง
ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องร้องไห้ จากการที่ดวงวิญญาณรับความรู้นี้ในเวลานี้
เทพยุคทองจึงถูกเรียกว่าผู้เอาชนะความผูกพันยึดมั่น ที่นั่นไม่มีการพูดถึงความตาย
พวกเขาจากร่างเก่าด้วยความสุขและใช้ร่างใหม่
เพลง:
แสดงหนทางแก่คนตาบอดด้วยเถิด โอ้ พระเจ้า...
โอมชานติ
พ่อทางจิตพูดกับลูกๆทางจิตที่สุดแสนหวานว่า: พ่อแสดงหนทางแก่ลูก
แต่ก่อนอื่นจงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
นั่งอยู่ในสำนึกดวงวิญญาณแล้วลูกจะพบว่าหนทางนี้ง่ายดายมาก
ลูกได้ล้มลุกคลุกคลานมาเป็นเวลาครึ่งวงจรในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
มีเครื่องประกอบต่างๆจำนวนมากมายในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
เวลานี้พ่อได้อธิบายว่ามีพ่อผู้เดียวนี้ที่ไม่มีขีดจำกัด พ่อพูดว่า:
พ่อกำลังแสดงหนทางแก่ลูก ไม่มีใครในโลกแม้กระทั่งรู้ว่าท่านแสดงให้เห็นหนทางใด
นั่นคือหนทางไปสู่การหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต: การปลดปล่อยและการหลุดพ้น
อาณาเขตแห่งความสงบเรียกว่าการหลุดพ้น ดวงวิญญาณไม่สามารถพูดได้โดยไม่มีร่างกาย
เสียงสามารถทำขึ้นได้ผ่านอวัยวะเหล่านี้เท่านั้น เสียงถูกสร้างผ่านปาก
ถ้าไม่มีปากเสียงจะมาจากไหน? ดวงวิญญาณได้รับอวัยวะเหล่านี้เพื่อแสดงการกระทำ
ในอาณาจักรของราวัน ลูกแสดงการกระทำที่เป็นบาป
การกระทำที่เป็นบาปเหล่านั้นคือการกระทำที่สกปรกมาก ในยุคทองไม่มีราวัน
ดังนั้นการกระทำจึงเป็นกลาง กิเลสทั้งห้าไม่ได้อยู่ที่นั่น นั่นเรียกว่าสวรรค์
ชาวบารัตเคยเป็นผู้อาศัยในสวรรค์ แต่เวลานี้พวกเขาเป็นชาวนรก
พวกเขากำลังจมอยู่ในแม่น้ำแห่งยาพิษ พวกเขาทั้งหมดทำให้กันและกันมีความทุกข์
พวกเขาพูดว่า: บาบา พาเราไปยังสถานที่ซึ่งไม่มีการกล่าวถึงของความทุกข์ด้วย
เมื่อบารัตเป็นสวรรค์ ไม่มีกล่าวถึงความทุกข์ พวกเขามาจากสวรรค์ไปสู่นรก
เวลานี้พวกเขาต้องกลับไปสู่สวรรค์ นี่คือการละเล่น พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ
ด้วยตนเอง นี่คือมิตรที่แท้จริงของสัจจะ (สัตซัง) ลูกกำลังจดจำพ่อที่แท้จริง
ท่านผู้เดียวเท่านั้นคือพระเจ้า ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด ท่านคือผู้สร้าง
ลูกได้รับมรดกของลูกจากท่าน พ่อให้มรดกของลูกแก่ลูกๆ ด้วยตัวท่านเอง
แม้ว่าพวกเขาจะมีพ่อที่มีขีดจำกัด พวกเขาก็ยังคงจดจำท่านและพูดว่า: โอ้ พระเจ้า โอ้
พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด โปรดมีความเมตตา!
พวกเขามีความทุกข์อย่างมากจากการล้มลุกคลุกคลานในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
พวกเขาพูดว่า: โอ้ บาบา ให้มรดกแห่งความสุขและความสงบแก่เรา!
มีเพียงพ่อผู้เดียวนี้เท่านั้นที่สามารถให้สิ่งนี้และสิ่งนั้นเป็นเวลา 21
ชาติเกิดเช่นกัน ลูกสามารถคำนวณสิ่งนี้ได้ ในยุคทองเมื่อเป็นอาณาจักรของพวกเขา
ต้องมีผู้คนน้อยกว่าอย่างแน่นอน มีเพียงศาสนาเดียวและอาณาจักรเดียวเท่านั้น
นั่นเรียกว่าสวรรค์ดินแดนแห่งความสุข โลกใหม่นั้นเรียกว่าสะโตประธาน(บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์)
โลกเก่านั้นเรียกว่าตาโมประธาน(ไม่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์)
ในตอนแรกทุกสิ่งสะโตประธาน จากนั้นก็ผ่านสภาพสะโต ราโจ และตาโม
เด็กเล็กๆถูกเรียกว่าสะโตประธาน
เด็กเล็กๆนั้นกล่าวได้ว่าสูงส่งยิ่งกว่าดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่(มหาตมะ)
มหาตมะใช้ชาติเกิด เติบโต และสัมผัสกับกิเลส จากนั้นก็ละทิ้งบ้านเรือน
เด็กเล็กๆไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกิเลส พวกเขาไร้เดียงสาอย่างสมบูรณ์
เหตุนี้เองพวกเขาจึงกล่าวว่าสูงส่งกว่ามหาตมะ
เทพได้รับการยกย่องว่าเต็มไปด้วยคุณธรรมทั้งหมด
บรรดาสาธุทั้งหลายไม่เคยได้รับคำยกย่องนี้
พ่อได้อธิบายความหมายของความก้าวร้าวรุนแรงและความไม่ก้าวร้าวรุนแรง
การตบตีใครบางคนนั้นนั้นเรียกว่าความก้าวร้าวรุนแรง
ความก้าวร้าวรุนแรงที่สุดคือการใช้ดาบของตัณหาราคะ เทพไม่มีความก้าวร้าวรุนแรง
พวกเขาไม่ได้ใช้ดาบของตัณหาราคะ พ่อพูดว่า:
เวลานี้พ่อมาเพื่อเปลี่ยนลูกจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ เทพอยู่ในสวรรค์
ไม่มีใครที่นี่เรียกตนเองว่าเป็นเทพ
ทุกคนเข้าใจว่าตนเองเป็นคนบาปที่ตกต่ำและมีกิเลส
แล้วพวกเขาจะเรียกตนเองว่าเป็นเทพได้อย่างไร?
เหตุนี้เองพวกเขาจึงเรียกว่าศาสนาฮินดู
ในความเป็นจริงมันคือศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป คำว่า“ฮินดู”มีต้นกำเนิดมาจากคำว่า“ฮินดูสถาน”
ดังนั้นพวกเขาจึงเรียกว่าศาสนาฮินดู ลูกบอกว่าลูกนับถือศาสนาเทพ
แต่พวกเขาก็ยังให้ลูกอยู่ในคอลัมน์ภายใต้ศาสนาฮินดู
พวกเขาบอกว่าพวกเขามีคอลัมน์ของศาสนาฮินดูเท่านั้น
เนื่องจากความไม่บริสุทธิ์จึงไม่มีใครสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นเทพได้
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าลูกเคยเป็นเทพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
และเวลานี้ลูกได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา
ก่อนหน้านี้ลูกได้กราบไหว้บูชาชีวาอย่างไม่มีสิ่งใดเจือปน
จากนั้นลูกก็กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาที่มีสิ่งเจือปน พ่อคือผู้เดียวเท่านั้น
ลูกได้รับมรดกของลูกจากท่าน มีเทพมากมายหลายประเภทฯลฯ ลูกไม่ได้รับมรดกใดจากพวกเขา
ลูกไม่ได้รับมรดกจากบราห์มาเช่นกัน
ผู้หนึ่งคือพ่อที่ไม่มีตัวตนและอีกผู้หนึ่งคือพ่อที่มีร่างกาย
แม้ว่าพวกเขาจะมีพ่อทางร่าง พวกเขาก็ยังคงพูดอยู่เรื่อยๆว่า: โอ้ พระเจ้า! โอ้
พ่อสูงสุด! ลูกจะไม่พูดสิ่งนั้นกับพ่อทางร่างของลูก มรดกได้รับมาจากพ่อ
สามีและภรรยาเป็นหุ้นส่วนกัน ดังนั้นเธอควรมีครึ่งหนึ่งของทุกสิ่ง
ก่อนอื่นควรจะให้ครึ่งหนึ่งเป็นส่วนแบ่งแก่เธอ จากนั้นลูกๆ
ก็ควรได้รับอีกครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ลูกจะได้รับทรัพย์สมบัติทั้งหมด
บางคนมีความผูกพันยึดมั่นอย่างมากมาย พวกเขาคิดว่าลูกๆ
ของเขาจะมีสิทธิ์ทั้งหมดเมื่อพวกเขาตาย
ลูกๆในปัจจุบันนี้ไม่แม้แต่จะถามถึงแม่ของเขาหลังจากที่พ่อเขาจากไป
แต่บางคนก็รักแม่ อย่างไรก็ตามบางคนต่อต้านแม่ของเขา
ทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะไม่ถามหาแม่ของเขา พวกเขาสูญเสียเงินทองทั้งหมด
ลูกบุญธรรมบางคนก็เป็นเช่นนั้นด้วย พวกเขาสร้างปัญหาให้แม่ของเขาอย่างมากมาย
ลูกๆเคยได้ยินเพลงนี้ พวกเขาพูดว่า:
บาบาเวลานี้แสดงหนทางไปสู่ความสุขที่ซึ่งมีการพักผ่อนให้แก่พวกเรา
ไม่มีความสุขในอาณาจักรของราวัน
ผู้ที่อยู่ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาไม่เข้าใจว่าชีวาแยกกันจากชังก้าร์
พวกเขายังคงโค้งคำนับและอ่านคัมภีร์ต่อไป โอเค,แล้วลูกได้รับอะไรจากสิ่งนั้น?
พวกเขาไม่รู้อะไรเลย พ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ประทานความสงบและความสุขแก่ทุกคน
ในยุคทองมีความสุขและความสงบ
เคยมีความสงบและความสุขในบารัตแต่ไม่ได้มีอยู่อีกต่อไปแล้ว
เหตุนี้เองในความเลื่อมใสศรัทธา
พวกเขาเฝ้าแต่ล้มลุกคลุกคลานจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่พาลูกไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
บาบา เราจะจดจำท่านผู้เดียวเท่านั้น
เราจะประกาศสิทธิ์ในมรดกของเราจากท่านผู้เดียวเท่านั้น พ่อพูดว่า:
ลูกต้องลืมร่างกายของลูกและความสัมพันธ์ทางร่างทั้งหมด จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น!
ลูกดวงวิญูญาณต้องกลับมาบริสุทธิ์ที่นี่ หากลูกไม่จดจำท่าน
ลูกจะต้องมีประสบการณ์ของการถูกลงโทษ สถานภาพของลูกจะลดลง เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า:
ทำความเพียรพยายามเพื่อการจดจำระลึกถึง ท่านอธิบายแก่ลูกดวงวิญญาณว่าไม่มีสัตซังฯลฯ
อื่นใดที่ใช้คำว่า “โอ้ ลูกๆ ทางจิต” นี่คือความรู้ทางจิตที่ลูกได้รับจากพ่อทางจิต
“จิตวิญญาณ”หมายถึงไม่มีตัวตน ชีวาไม่มีตัวตนเช่นกัน ลูกดวงวิญญาณคือจุด
ลูกนั้นเล็กมาก ไม่มีใครสามารถมองเห็นดวงวิญญาณได้โดยไม่มีเทพนิมิต
เพียงพ่อเท่านั้นที่ให้เทพนิมิต
ผู้เลื่อมใสศรัทธานั่งและกราบไหว้บูชาหนุมานและคเณศฯลฯ
พวกเขาจะได้นิมิตของสิ่งเหล่านั้นอย่างไร? พ่อพูดว่า:
พ่อคือผู้เดียวที่ประทานเทพนิมิต
พ่อเองได้ให้นิมิตแก่ผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างมากมาย
อย่างไรก็ตามไม่มีประโยชน์อะไรในสิ่งนั้น พวกเขาเพียงแค่มีความสุข
พวกเขายังคงทำบาปต่อไป พวกเขาไม่ได้บรรลุอะไรเลย
พวกเขาจะกลายเป็นอะไรได้อย่างไรโดยที่ไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน?
เทพเต็มไปด้วยทุกคุณธรรม ลูกต้องกลายเป็นสิ่งนั้นเช่นกัน
ที่เหลือทั้งหมดคือนิมิตของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกจะนั่งชิงช้ากับกฤษณะและอยู่กับเขาในสวรรค์อย่างแน่นอน
ขึ้นอยู่กับว่าลูกศึกษามากแค่ไหน ยิ่งลูกทำตามศรีมัทมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงส่งมากเท่านั้น ศรีมัทได้ให้ไว้โดยพระเจัา
ลูกไม่โด้เรียกว่าศรีมัทของกฤษณะ
ดวงวิญญูาณกฤษณะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพของเขาด้วยการทำตามศรีมัทของพ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุด ลูกดวงวิญญาณอยู่ในศาสนาเทพเช่นกัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งลูกอยู่ในราชวงศ์ของกฤษณะ
ชาวบารัตไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของราเด้และกฤษณะคืออะไร
แต่ละคนมาจากอาณาจักรที่แตกต่างกัน จากนั้นเมื่อเขาแต่งงานกัน
พวกเขาจึงกลายเป็นลักษมีและนารายณ์ พ่อมาเพื่ออธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
เวลานี้ลูกกำลังศึกษาเพื่อกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งสวรรค์
เป็นช่วงเวลาของการแต่งงานของเจ้าชายและเจ้าหญิงที่ชื่อของพวกเขาเปลี่ยนไป
ดังนั้นพ่อจึงทำให้ลูกๆ กลายเป็นเทพเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามนั่นก็ต่อเมื่อลูกทำตามศรีมัทของพ่อเท่านั้น ลูกคือลูกที่เกิดจากปาก
พวกเขาเกิดมาจากครรภ์
พราหมณ์เหล่านั้นผูกสามีภรรยาเข้าด้วยกันและทำให้พวกเขานั่งอยู่บนกองไฟของตัณหาราคะ
เวลานี้ลูกบราห์มินที่แท้จริงนำพวกเขาออกมาจากกองไฟของตัณหาราคะและผูกพวกเขาไว้ด้วยข้อผูกมัดที่จะนั่งบนกองไฟของความรู้
ดังนั้นพวกเขาต้องปล่อยข้อผูกมัดอื่นๆ ลูกๆที่นี่ต่อสู้และทะเลาะเบาะแว้งกัน
และสูญเสียเงินทองของเขาทั้งหมด ทุกวันนี้มีความสกปรกมากมายในโลก
ความเจ็บป่วยที่เลวร้ายที่สุดคือโรงภาพยนตร์ แม้แต่ลูก
ที่ดีก็เสียคนจากการไปโรงภาพยนตร์
ดังนั้นบีเคจึงถูกห้ามไม่ให้ไปไปดูภาพยนตร์เช่นกัน
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่เข้มแข็งแล้ว บาบาพูดว่า: ไปทำงานรับใช้ที่นั่น
อธิบายแก่พวกเขาว่าโรงภาพยนตร์นั้นมีขีดจำกัด
นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีขีดจำกัดด้วยเช่นกัน
โรงภาพยนตร์ที่มีขีดจำกัดและไม่จริงเหล่านั้นเริ่มต้นมาจากโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีขีดจำกัด
เวลานี้พ่อได้อธิบายแก่ลูกๆ ว่านั่นคือโลกวิญญาณที่มีดวงวิญญาณทั้งหมดอาศัยอยู่
และมีอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนอยู่ระหว่างที่นั่นกับที่นี่
มีโลกวัตถุที่การละเล่นทั้งหมดเกิดขึ้น วงจรนี้ยังคงหมุนต่อไป
ลูกบราห์มินต้องกลายเป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
ไม่ใช่เหล่าเทพที่ต้องกลายเป็นสิ่งนี้
อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาคือผู้เพียรพยายาม
บราห์มินจึงไม่ไดัรับสัญลักษณ์เหล่านี้ วันนี้พวกเขากำลังก้าวหน้าไปด้วยดี
วันพรุ่งนี้พวกเขาก็ตกลงมา นี่คือเหตุผลที่สัญลักษณ์เหล่านี้ให้กับเทพ
พวกเขาวาดภาพศรีกฤษณะฆ่าอะกาเซอร์และบากาเซอร์ฯลฯด้วยกงจักร
อย่างไรก็ตามเขาได้รับการกล่าวว่าเป็นผู้ที่มีศาสนาสูงสุดของการไม่ใช้ความรุนแรง
แล้วเขาจะฆ่าใครได้อย่างไร? ทั้งหมดนั้นเป็นองค์ประกอบของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ไม่ว่าลูกจะไปที่ใดก็ตามก็จะมีภาพลักษณ์รูปไข่วงรี(ลิงกัม)ของชีวา
ได้มีการตั้งชื่อที่ต่างๆกันมากมาย พวกเขาสร้างเทพมากมายจากดินเหนียว
พวกเขาตกแต่งประดับประดาเทพเหล่านั้น พวกเขาใช้เงินหลายพันรูปีกับสิ่งเหล่านั้น
พวกเขาสร้าง, สักการะบูชา และหล่อเลี้ยง แล้วก็นำเทพเหล่านั้นไปจมน้ำ!
พวกเขาใช้เงินจำนวนมากในการสักการะบูชารูปปั้น พวกเขาไม่ได้รับอะไรเลยจากสิ่งนั้น
พ่ออธิบายว่า: ความเลื่อมใสศรัทธาทั้งหมดนั้นเป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์
พวกเขาลงบันไดมาเรื่อยๆ เมื่อพ่อมาจึงเป็นสภาพของการขึ้นไปสำหรับทุกคน
ท่านพาทุกคนไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ และดินแดนแห่งความสุข
ไม่มีเรื่องของการสูญเสียเงินในสิ่งนี้
ด้วยการสูญเสียเงินในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกก็กลับมาล้มละลาย
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายเรื่องราวของการกลับมามั่งคั่งและการล้มละลาย
ลูกเป็นของราชวงศ์ลักษมีและนารายณ์ใช่ไหม?
เวลานี้พ่อให้คำสอนแก่ลูกเพื่อที่จะเปลี่ยนจากคนธรรมดาเป็นนารายณ์
ผู้คนเหล่านั้นถ่ายทอดเรื่องราวของตาที่สามและเรื่องราวของความเป็นอมตะ
แต่สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดคือการกล่าวเท็จ นี่คือเรื่องราวของตาที่สาม
ซึ่งดวงตาที่สามของความรู้ของแต่ละดวงวิญญาณได้เปิดขึ้น ทั้งวงจรเข้ามาสู่สติปัญญา
ลูกแต่ละคนได้รับตาที่สามของความรู้
ลูกกำลังรับฟังเรื่องราวของความเป็นอมตะด้วยเช่นกัน
พ่อที่เป็นอมตะกำลังบอกลูกถึงเรื่องราวของความเป็นอมตะ
ท่านกำลังทำให้ลูกกลายเป็นนายของดินแดนแห่งความเป็นอมตะ
ลูกไม่เคยมีประสบการณ์ของความตายที่นั่น ผู้คนที่นี่กลัวความตายอย่างมาก
ที่นั่นไม่มีความกลัวตายและไม่มีการร้องไห้
ลูกจากร่างเก่าของลูกในความสุขและรับร่างใหม่ ที่นี่ผู้คนร้องไห้อย่างมากมาย
นี่คือโลกแห่งน้ำตา พ่อพูดว่า: ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
แต่ละคนกำลังเล่นบทบาทของตนเอง เทพคือผู้เอาชนะความผูกพันยึดมั่น
มีกูรูนับไม่ถ้วนในโลกและพวกเขาทั้งหมดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
ทุกคนมีความคิดเห็นของตนเอง ที่นี่มีการบูชาเทพ(เทพเจ้า)แห่งความพอใจ
เทพแห่งความพอใจมีอยู่ในยุคทองเท่านั้น พวกเขาจะอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
ในยุคทองเทพมีความพอใจเสมอ ที่นี่ทุกคนมีความปรารถนาอย่างใดอย่างหนึ่ง
ที่นั่นไม่มีความปรารถนา พ่อทำให้ทุกคนพอใจ ลูกกลายเป็นมหาเศรษฐี
เนื่องจากไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถบรรลุได้
จึงไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการที่จะบรรลุซึ่งสิ่งใด ไม่มีความกังวลที่นั่น
พ่อพูดว่า: พ่อคือผู้ประทานการหลุดพ้นแก่ทุกคน ลูกๆ จะได้รับความสุขเป็นเวลา 21
ชาติเกิด ลูกต้องจดจำพ่อเช่นนี้
ด้วยการจดจำระลึกถึงท่านที่บาปของลูกจะถูกเผาไปและลูกจะกลับมาสะโตประธาน
ลูกต้องเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ลูกจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
และปวงประชาของลูกจะถูกสร้างขึ้นมากเท่าที่ลูกได้อธิบายแก่ผู้อื่น
ไม่ได้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับของสาธุใดแก่ลูก
พระเจ้ากำลังนั่งที่นี่แล้วอธิบายด้วยปากของผู้นี้
เวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นเทพแห่งความพอใจ
เวลานี้ลูกควรจะถือสัตย์ปฏิญาณที่จะอยู่อย่างบริสุทธิ์ตลอดไปเพราะลูกต้องไปยังโลกที่บริสุทธิ์
ดังนั้นอย่ากลับมาไม่บริสุทธิ์ พ่อสอนคำปฏิญาณนี้แก่ลูก
มนุษย์ในปัจจุบันถือศีลอดประเภทต่างๆมากมาย อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ทำตามคำแนะนำของพ่อผู้เดียวและอยู่อย่างพอใจอย่างสม่ำเสมอและกลายเป็นเทพแห่งความพอใจ
อย่าได้มีความปรารถนาใดๆที่นี่ ได้รับการบรรลุผลทั้งหมดจากพ่อและกลายเป็นมหาเศรษฐี
2. โรงภาพยนตร์ทำให้ลูกสกปรกที่สุด ลูกไม่ได้รับอนุญาตให้ดูภาพยนตร์
หากลูกกล้าหาญและสามารถเข้าใจถึงนัยสำคัญระหว่างโรงภาพยนตร์ที่มีขีดจำกัดและโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีขีดจำกัด
ลูกสามารถทำงานรับใช้ได้โดยการอธิบาย
พร:
ขอให้ลูกกลายเป็นเจ้าแห่งวัตถุธาตุโดยมีสภาพของการใส่จุดฟูลสต๊อปและหยุดความปั่นป่วนของวัตถุธาตุใดๆ
เวลาปัจจุบันเป็นเวลาที่ความวุ่นวายเพิ่มขึ้น
ในข้อสอบสุดท้ายด้านหนึ่งจะมีรูปที่น่ากลัวของวัตถุธาตุและอีกด้านหนึ่งจะมีรูปที่น่ากลัวของกิเลสทั้งห้า
การจู่โจมจากดวงวิญญาณตาโมกุนิและซันสการ์เก่าจะมาในช่วงเวลาสุดท้ายเพื่อใช้โอกาสของเขา
ในช่วงเวลาเช่นนั้น พร้อมกับการมีพลังในการเก็บแต่สิ่งที่ให้ประโยชน์
ลูกต้องมีการฝึกฝนช่วงเวลาหนึ่งมีความมั่นคงในรูปที่มีตัวตน
ช่วงเวลาต่อมามีความมั่นคงในรูปที่ละเอียดอ่อน
และช่วงเวลาถัดไปมีความมั่นคงในรูปที่ไม่มีตัวตน มองแต่ไม่เห็น; ฟังแต่ไม่ได้ยิน
เมื่อลูกมีสภาพของการใส่จุดฟูลสต๊อปเช่นนั้น
ลูกจะสามารถกลายเป็นเจ้าแห่งวัตถุธาตุและหยุดความปั่นป่วนใด ๆ ได้
คติพจน์:
เพื่อที่จะมีสิทธิ์ในอาณาจักรที่ปราศจากอุปสรรค จงเป็นผู้รับใช้ที่ปราศจากอุปสรรค