23.08.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
10.03.86 Om Shanti Madhuban
วิธีที่จะกลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
วันนี้ บัพดาดาได้เห็นชุมนุมของจักรพรรดิที่ไร้กังวล
ในทั้งวงจรการชุมนุมที่สูงศักดิ์นี้พิเศษสุด มีจักรพรรดิมากมาย
แต่ในยุคบรรจบพบกันนี้เท่านั้นที่มีการชุมนุมที่พิเศษสุดของจักรพรรดิที่ไร้กังวล
ชุมนุมของจักรพรรดิที่ไร้กังวลนี้สูงส่งยิ่งกว่าการชุมนุมที่สูงศักดิ์ในยุคทอง
เพราะที่นั่นพวกเขาไม่มีความรู้ของความแตกต่างระหว่างความวิตกกังวล (fikar )
กับความซาบซึ้ง ( fakhoor ) ในสำนึกรู้ของพวกเขา พวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งคำว่า “วิตกกังวล”
แต่เวลานี้ทั้งโลกอยู่ในความวิตกในรูปใดรูปหนึ่ง ตั้งแต่ตอนที่เขาตื่นขึ้นมา
พวกเขาจะมีความกังวลอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับตัวเอง ครอบครัวของพวกเขา
ธุรกิจของพวกเขา เพื่อนฝูงและญาติมิตรของพวกเขา ฯลฯ
ในขณะที่ลูกทั้งหมดเริ่มต้นวันด้วยเวลาอมฤต โดยการเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
และลูกก็ทำทุกงานอย่างเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
ลูกนอนหลับสบายเหมือนจักรพรรดิที่ไร้กังวล ลูกมีการนอนหลับอย่างสงบและมีความปิติสุข
ลูกเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลเช่นนี้
ลูกแต่ละคนเป็นเช่นนั้นหรือลูกยังคงมีความวิตกกังวลบางอย่าง?
ลูกมอบความรับผิดชอบของลูกให้กับพ่อ และดังนั้นลูกจึงไร้กังวล
ลูกมีความกังวลเมื่อพิจารณาว่าตัวเองมีความรับผิดชอบ “ความรับผิดชอบนั้นเป็นของพ่อ
และฉันเป็นผู้รับใช้ที่เป็นเครื่องมือ ฉันเป็นคาร์มาโยคีที่เป็นเครื่องมือ
พ่อคือคารันคาราวันฮาร์และฉันเป็นเครื่องมือที่กำลังทำสิ่งนั้น”
ถ้าลูกมีสำนึกรู้อย่างเป็นธรรมชาตินี้ในทุกขณะลูกก็เป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลอย่างสม่ำเสมอ
หากแม้โดยไม่ตั้งใจ
ลูกแบกรับภาระของความไร้สาระใดๆไว้กับตนเองแทนที่จะเป็นมงกุฎอยู่บนศีรษะกลับเป็นตะกร้าของความวิตกกังวลมากมายอยู่บนศีรษะของลูก
มิฉะนั้นลูกจะเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลที่สวมมงกุฎแห่งแสงอย่างสม่ำเสมอ
มีเพียงพ่อกับฉันเท่านั้นไม่มีบุคคลที่สาม
ประสบการณ์นี้ทำให้ลูกกลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลอย่างง่ายดาย ดังนั้น
ลูกคือผู้ที่สวมมงกุฎหรือผู้ที่แบกตะกร้า?
มีความแตกต่างระหว่างการแบกตะกร้ากับการสวมมงกุฎ
มีคนหนึ่งสวมมงกุฎมายืนอยู่เบื้องหน้าลูก
และอีกคนหนึ่งแบกตะกร้าของภาระบนศีรษะของเขามายืนอยู่เบื้องหน้าลูก ลูกชอบคนไหน?
มงกุฎหรือตะกร้า? พ่อมาและปลดเปลื้องลูกจากตะกร้าของภาระมากมายหลายชาติเกิด
ดังนั้นจักรพรรดิที่ไร้กังวลหมายถึงผู้ที่เป็นแสงที่เบาสบายเสมอ
ถ้าลูกไม่กลายเป็นจักรพรรดิอวัยวะทางร่างกายของลูกก็จะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของลูก
เมื่อลูกเป็นจักรพรรดิเท่านั้นที่ลูกสามารถกลายเป็นผู้เอาชนะมายา
ผู้ที่เอาชนะอวัยวะทางร่างกายของลูกและผู้ที่เอาชนะวัตถุธาตุ
ดังนั้นลูกกำลังนั่งอยู่ในที่ชุมนุมที่สูงศักดิ์ใช่หรือไม่? อัจชะ
วันนี้เป็นรอบของยุโรป ยุโรปมีการขยายตัวเป็นอย่างดี
ยุโรปวางแผนที่ดีมากสำหรับการให้คุณประโยชน์แก่ประเทศเพื่อนบ้านของพวกเขา
เหมือนกับที่พ่อนั้นให้คุณประโยชน์เสมอ
ในทำนองเดียวกันลูกๆก็เป็นเหมือนกับพ่อของพวกเขาที่มีความรู้สึกของการทำคุณประโยชน์เหล่านี้
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ลูกเห็นใคร
ลูกมีความเมตตาต่อพวกเขาใช่ไหมว่าผู้นั้นควรจะเป็นของพ่อเช่นกัน? ดูซิ
จากช่วงเวลาของการก่อตั้ง บัพดาดาได้จดจำลูกๆ ทั้งหมดจากต่างแดนในรูปใดรูปหนึ่ง
และด้วยการจดจำระลึกถึงบัพดาดานั้น เมื่อถึงเวลาลูกๆ
ทุกคนจากทุกหนแห่งก็มาถึงที่นี่ อย่างไรก็ตามบัพดาดาได้ปลุกลูกมานานแล้ว
และเพราะการปลุกนั้นลูกทั้งหมดจึงถูกดึงดูดมาราวกับแม่เหล็กและมาที่นี่
ลูกรู้สึกใช่ไหมว่าลูกไม่รู้ว่าลูกมาเป็นของบาบาได้อย่างไร?
แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ลูกได้มาเป็นของท่าน
แต่บางครั้งลองนั่งคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
และลูกมาได้อย่างไร ว่าลูกอยู่ที่ไหนและมาจากที่ใด จากนั้นเมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้
ลูกจะพบว่าสิ่งนี้น่าอัศจรรย์มาก มันถูกกำหนดไว้ในละคร สิ่งที่ที่ถูกกำหนดไว้ในละคร
ทำให้พวกลูกทุกคนมาจากทุกมุมเมืองและทำให้ลูกมาเป็นครอบครัวเดียวกัน
เพราะลูกรู้สึกว่านี่เป็นครอบครัวของลูก ลูกจึงพบว่ามันน่ารักมาก
พ่อเป็นที่รักยิ่งของทุกคน และดังนั้นลูกทุกคนก็น่ารักเช่นกัน
ลูกก็ไม่น้อยเลยเช่นกัน ลูกทุกคนน่ารักที่สุดด้วยการถูกแต่งแต้มสีสัน
ด้วยสีสันของความเป็นมิตรของบัพดาดา ใครก็ตามที่ลูกมอง
แต่ละคนก็น่ารักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
อิทธิพลของจิตวิญญาณได้ปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของแต่ละคน ชาวต่างชาติชอบเมคอัพ(แต่งหน้า
) ดังนั้นนี่คือสถานที่ที่ลูกจะเมคอัพเช่นเทวดานางฟ้า
การเมคอัพนี้จะทำให้ลูกกลายเป็นเทวดานางฟ้า หลังจากที่เมคอัพแล้ว
ไม่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะเป็นเช่นไร
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยการเมคอัพ พวกเขาดูสวยงามมาก
ดังนั้นที่นี่เช่นกัน ลูกทั้งหมดปรากฏให้เห็นเหมือนเป็นดวงดาวที่กำลังเปล่งประกาย
เพราะลูกได้เมคอัพทางจิตวิญญาณ การเมคอัพนั้นอาจมีอันตราย
แต่จะไม่มีอันตรายใดๆในสิ่งนี้ ดังนั้นลูกทั้งหมดคือดวงวิญญาณที่กำลังเปล่งประกาย
ซึ่งเป็นที่รักของทุกคน ที่นี่ไม่มีสิ่งใดนอกจากความรัก
เมื่อลูกตื่นขึ้นมาลูกพูดว่า “อรุณสวัสดิ์” ด้วยความรัก เมื่อลูกรับประทาน
ลูกรับประทานบราห์มาโบจันด้วยความรัก เมื่อลูกเดิน ลูกก็เดินจับมือกับพ่อ
ชาวต่างชาติชอบเดินจับมือกันใช่ไหม? ดังนั้น บัพดาดาพูดด้วยว่า:
จงเดินจับมือพ่อไว้เสมอ อย่าเดินคนเดียว ถ้าลูกเดินคนเดียว
บางครั้งลูกจะรู้สึกเบื่อหน่าย และบางครั้งสายตาของผู้อื่นจะมองมาที่ลูก
ถ้าลูกเดินกับพ่อ ประการแรกสายตาของมายาจะไม่มองมาที่ลูก
ประการที่สองเนื่องจากการมีมิตรของท่าน
ลูกจะรับประทานและทำทุกสิ่งขณะที่ลูกกำลังเคลื่อนไปในความสุขเสมอ
ดังนั้นลูกทั้งหมดชอบมิตรร่วมทางใช่ไหม? หรือลูกต้องการคนอื่น?
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีมิตรร่วมทางคนอื่นอีกใช่หรือไม่?
บางครั้งลูกต้องการให้ใครบางคนมาสร้างความบันเทิงให้หัวใจของลูกสักเล็กน้อยหรือไม่?
ลูกเป็นอิสระจากความสัมพันธ์ที่หลอกลวงลูก
มีความหลอกลวงและความทุกข์ในสิ่งเหล่านั้น
เวลานี้ลูกมามีความสัมพันธ์ที่ไม่มีการหลอกลวงหรือความทุกข์ใดๆ
ลูกปลอดภัยจากสิ่งนั้นตลอดไป ลูกทั้งหมดเป็นผู้ที่เข้มแข็งเช่นนั้นหรือไม่?
ไม่มีลูกคนใดอ่อนแอใช่ไหม? ไม่ใช่ว่าลูกกลับไปที่นั่นและเขียนจดหมายบอกว่า “ฉันจะทำอะไรได้?
ฉันจะจัดการได้อย่างไร? มายามา”
สิ่งที่น่าอัศจรรย์เป็นพิเศษจากยุโรปที่ได้ทำไว้คืออะไร?
บัพดาดาเห็นว่าทุกคนให้ความใส่ใจเป็นอย่างดีในการนำสิ่งที่พ่อพูดไปปฏิบัติ
เกี่ยวกับการนำช่อดอกไม้มาที่นี่ทุกปี ลูกมีความกระตือรือร้นนั้นเสมอ -
และลูกมีสิ่งนั้นในขณะนี้เช่นกันว่า –
ทุกปีลูกคนใหม่ที่ได้แยกจากพ่อไปควรมาบ้านของพวกเขาและมาหาครอบครัวของพวกเขา
ดังนั้นบัพดาดาเห็นว่ายุโรปได้รักษาเป้าหมายนี้และ นำมาซึ่งการขยายตัวที่ดี
ดังนั้นลูกจึงถูกเรียกว่าลูกที่เชื่อฟังที่ตอบสนองคำพูดที่สูงส่งของพ่อและคำสอนของพ่อ
และลูกที่เชื่อฟังจะมีพรพิเศษของพ่อกับพวกเขาเสมอ
ลูกที่เชื่อฟังจะมีค่าต่อการได้รับพรโดยอัตโนมัติ ลูกเข้าใจไหม?
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีดวงวิญญาณน้อยมาก แต่ด้วยการขยายตัวทุกปี
สิ่งนี้กลายเป็นครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาครอบครัวทั้งหมดดังนั้น
จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม และขณะนี้มีศูนย์กี่ศูนย์? UK.
นั้นแยกออกไปและมีขนาดใหญ่อยู่แล้ว และสายใยของทุกคนก็จะเชื่อมโยงกับ UK.
เพราะนั่นคือรากฐานของดินแดนต่างแดน ไม่ว่าจะมีกิ่งก้านมากมายปรากฏออกมามากแค่ไหน
และต้นไม้ยังคงเติบโตมากแค่ไหน แต่สายใยของมันก็ยังคงอยู่กับรากฐาน
หากไม่มีสายใยกับรากฐานจะมีการเติบโตต่อไปได้อย่างไร?
เพชรพลอยที่เป็นที่รักพิเศษในลอนดอนถูกทำให้เป็นเครื่องมือเพราะนั่นคือรากฐาน
ดังนั้นเนื่องจากสายใยของทุกคนและด้วยการได้รับคำแนะนำสั่งสอนอย่างง่ายดาย
ความเพียรพยายามและงานรับใช้ของลูกจึงกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดาย
ถึงอย่างไรก็ตามบัพดาดานั้นอยู่กับลูกเสมอ
ลูกไม่สามารถเคลื่อนไปได้หากไม่มีบัพดาดาแม้กระทั่งหนึ่งวินาที
ลูกอยู่ในรูปรวมมากขนาดนั้น อย่างไรก็ตามในรูปที่มีตัวตน
ในสิ่งอำนวยความสะดวกของงานรับใช้ ในแผนและโปรแกรมต่างๆ สำหรับงานรับใช้
และในความก้าวหน้าของตนเองของลูก หากใครต้องการคำแนะนำใด
ลูกก็ยังคงรักษาสายใยนั้นอยู่
สื่อกลางได้ถูกสร้างขึ้นที่ทำให้ลูกสามารถจะได้รับคำตอบได้อย่างง่ายดาย
บางครั้งพายุของมายามาลูกไม่สามารถจับทิศทางของบัพดาดาและพลังของท่านได้
เพราะสติปัญญาของลูกไม่ชัดเจน
สำหรับช่วงเวลาเช่นนั้นสื่อกลางที่มีตัวตนที่เรียกว่าดีดี้และดาดี้ได้ถูกทำให้เป็นเครื่องมือ
พวกเขาเป็นเครื่องมือเพื่อไม่ให้เวลาของลูกเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
อย่างไรก็ตามบัพดาดารู้ว่าลูกมีความกล้าหาญ ลูกปรากฏมาจากที่นั่น
และกลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้ที่นั่น ดังนั้นลูกได้ทำให้บทเรียนของ “การทำบุญเริ่มต้นที่บ้าน”มั่นคง
เป็นสิ่งที่ดีมากที่จะได้ดวงวิญญาณที่นั่นเป็นเครื่องมือและนำมาซึ่งการขยายตัว
ลูกกำลังเคลื่อนไปด้วยความรู้สึกที่ให้คุณประโยชน์ ดังนั้นที่ใดมีความมุ่งมั่น
ที่นั่นมีความสำเร็จแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลูกต้องประสบความสำเร็จในงานรับใช้
– ความคิดที่สูงส่งนี้ทำให้เกิดผลทันทีแก่ลูกในวันนี้
เวลานี้เมื่อเห็นครอบครัวที่สูงส่งของลูก ลูกมีความสุขเป็นพิเศษ
เป็นพันดาวาสโดยเฉพาะที่เป็นครู ชัคตีเป็นผู้ช่วยเสมออยู่แล้ว
ลูกได้รับผลทันทีของการขยายตัวของงานรับใช้ที่ถูกทำโดยพันดาวาสเสมอ
และมากกว่างานรับใช้ประกายของศูนย์ของงานรับใช้
ความงดงามตระการตาของศูนย์ของงานรับใช้เป็นเพราะชัคตี ชัคตีมีบทบาทของตนเอง
และพันดาวาสก็มีบทบาทของตนเอง ดังนั้นทั้งสองจึงจำเป็น
ศูนย์ใดที่มีเพียงชัคตีและไม่มีพันดาวาสจะไม่มีพลัง ดังนั้นทั้งสองจึงมีความจำเป็น
เวลานี้ลูกทั้งหมดได้ตื่นขึ้นแล้ว
และดังนั้นจากลูกทุกคนผู้อื่นก็จะตื่นขึ้นมาอย่างง่ายดาย
ต้องใช้เวลาและความเพียรพยายามแต่ตอนนี้ลูกเติบโตได้ดีมาก
เป็นไปได้ที่ความมุ่งมั่นจะไม่ประสบความสำเร็จ ลูกกำลังเห็นข้อพิสูจน์ในทางปฏิบัติ
ถ้าลูกรู้สึกท้อแท้แม้เพียงเล็กน้อยว่าบางสิ่งไม่เคยเกิดขึ้นที่นั่นเลย
ความคิดที่อ่อนแอเพียงเล็กน้อยของลูกจะทำให้เกิดความแตกต่างในงานรับใช้
น้ำแห่งความมุ่งมั่นจะให้ผลอย่างรวดเร็ว เป็นความมุ่งมั่นที่นำมาซึ่งความสำเร็จ
จงเชื่อฟังและรับพรจากพระเจ้า
การเป็นลูกที่เชื่อฟังอันดับหนึ่งหมายความว่าลูกเป็นลูกที่ทำตามสิ่งที่พ่อบอกลูก
ทำตามคำสั่งและศรีมัทของพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำตามที่ท่านให้หมายถึงการเชื่อฟัง
อย่าได้มีความคิดแม้แต่น้อยที่จะปะปนการกำหนดของลูกเองหรือการกำหนดของผู้อื่นกับศรีมัท
คำแนะนำของพ่อคือ: จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น!
เมื่อลูกทำตามคำแนะนำนี้ในฐานะลูกที่เชื่อฟังลูกจะได้รับพรและทุกสิ่งจะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับลูก
บัพดาดา ได้ให้ศรีมัทและคำสั่งกับลูกเกี่ยวกับวิธีที่ลูกต้องคิด,พูด,ปฏิบัติและการมีปฏิสัมพันธ์ในความสัมพันธ์ของลูกกับผู้อื่นตั้งแต่อมฤตเวลาจนถึงกลางคืน
ลูกยังได้รับศรีมัทและคำสั่งด้วยเช่นกันว่าสภาพของลูกต้องเป็นอย่างไรในขณะที่ลูกแสดงทุกการกระทำ
ทำตามคำแนะนำเหล่านี้ต่อไปเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของการได้รับพรของลูกจากพระเจ้า
เนื่องจากการได้รับพรเหล่านี้ลูกที่เชื่อฟังจึงอยู่อย่างเป็นแสงที่เบาสบายเป็นสองเท่าและสัมผัสกับสภาพที่โบยบิน
ลูกได้รับคำแนะนำของบัพดาดา: ลูก ๆ อย่าได้มีความคิดที่ไร้ประโยชน์
อย่ามองอะไรที่ไร้ประโยชน์ อย่าฟังสิ่งที่ไร้ประโยชน์ อย่าพูดอะไรที่ไร้ประโยชน์
อย่าเสียเวลาไปกับการกระทำที่ไร้ประโยชน์ ลูกได้ก้าวข้ามการทำอะไรที่เลวร้ายไปแล้ว
แต่เวลานี้ลูกแต่ละคนต้องกลายเป็นภาพลักษณ์ของลูกที่เชื่อฟังเช่นนั้นซึ่งลูกจะประกาศสิทธิ์ในการได้รับพรจากพระเจ้า
คำแนะนำของบาบาคือลูก ๆ ในเวลาอมฤตจงมีการจดจำระลึกถึงที่ถูกต้องแม่นยำและทรงพลัง
ในฐานะที่เป็นคาร์มาโยคีจงกระทำทุกกรรมด้วยความถ่อมตนในฐานะเป็นเครื่องมือ
ในทำนองเดียวกันลูกได้รับคำแนะนำเช่นกันว่าสายตาและทัศนคติของลูกควรเป็นอย่างไร
ด้วยการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องลูกจะได้สัมผัสกับสภาพของความสงบที่เต็มไปด้วยความสุขที่เหนือประสาทสัมผัสและความสุข
คำแนะนำของพ่อคือ พิจารณาร่างกาย จิตใจ ความมั่งคั่ง
และความสัมพันธ์ที่พ่อมอบให้กับลูกด้วยความไว้วางใจ ให้ความคิดใดก็ตามของลูกเป็นบวก
ให้ความคิดเชิงบวกเหล่านั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาดี
อยู่เหนือจิตสำนึกที่เป็นร่างของ “ฉัน” และ“ของฉัน”
เพราะนี่คือสองประตูที่มายาสามารถเข้ามาในลูกได้ ความคิด
เวลาและลมหายใจเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชีวิตบราห์มิน
ดังนั้นเก็บรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้และอย่าให้เสียไป
พื้นฐานของการอยู่อย่างมีพลังคือการมีความเชื่อฟังอย่างเป็นธรรมชาติและสม่ำเสมอ
คำแนะนำแรกและสำคัญที่สุดของบัพดาดาคือจงบริสุทธิ์และเอาชนะตัณหาราคะ
ลูกส่วนใหญ่สอบผ่านในการทำตามคำแนะนำนี้
แต่ครึ่งหนึ่งของลูกล้มเหลวในประเด็นที่สองของความโกรธ
ลูกหลายคนบอกว่าลูกไม่ได้โกรธ แต่บางครั้งลูกต้องเป็นคนสั่งการเล็กๆน้อยๆ
ดังนั้นนี่คือการไม่เชื่อฟังและขัดขวางไม่ให้ลูกประสบกับความสุข
ลูกที่ทำทุกสิ่งตามตารางเวลาทุกวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำตามคำแนะนำที่ได้รับไม่เคยสัมผัสว่าอะไรเป็นงานหนัก
พวกเขาได้รับผลพิเศษแห่งการเชื่อฟังในรูปของพรเพื่อให้ทุกการกระทำของพวกเขาเกิดผล
ลูกที่เชื่อฟังมีความพอใจอยู่ตลอดเวลา
พวกเขาสัมผัสกับความพอใจทั้งสามประเภทอย่างสม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติ: 1)
พวกเขาอยู่อย่างพอใจในตัวเอง 2)
เนื่องจากพวกเขาทำทุกสิ่งอย่างถูกต้องในวิธีที่ถูกต้องพวกเขาจึงอยู่อย่างพอใจกับผลของความสำเร็จที่พวกเขาได้รับ
3) ทุกคนที่มีสายใยหรือความสัมพันธ์กับพวกเขาจะพอใจกับพวกเขา
เนื่องจากทุกการกระทำของลูกที่เชื่อฟังเป็นไปตามแนวทางและคำแนะนำที่พวกเขาได้รับ
การกระทำเหล่านั้นจึงมีความสูงส่ง
ดังนั้นการกระทำของพวกเขาจะไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในจิตใจหรือสติปัญญาของพวกเขา
พวกเขาจะไม่ต้องคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นถูกต้องหรือไม่
เนื่องจากพวกเขาทำทุกสิ่งอย่างถูกต้องตามคำแนะนำที่พวกเขาได้รับ
และไม่ทำอะไรภายใต้อิทธิพลของบ่วงกรรมใดๆ พวกเขาจึงอยู่อย่างเบาสบายอย่างสม่ำเสมอ
เนื่องจากพวกเขาทำทุกสิ่งตามทิศทางที่ได้รับ พวกเขาจึงได้รับพรของพระเจ้า
และรู้สึกตลอดเวลาว่ามีพลังใจอยู่ภายในตัวพวกเขาและเต็มไปด้วยความสุขที่เหนือประสาทสัมผัส
พร:
ขอให้ลูกได้รับการประดับตกแต่งด้วยติลักแห่งชัยชนะโดยการสร้างโชคอันดับหนึ่งของลูกด้วยศรัทธาที่ไม่ขาดตอน
ทุกวันในเวลาอมฤต
รับความสุขของการมีทุกความสัมพันธ์กับบัพดาดาและให้ทานสิ่งนั้นกับผู้อื่น
มีสิทธิ์ที่จะมีความสุขทุกประเภทและให้สิทธิ์นี้แก่ผู้อื่นด้วย ในงานทางกายใด ๆ
อย่าได้จดจำมิตรทางกายใด ๆ
แต่อันดับแรกให้จดจำระลึกถึงพ่อเพราะพ่อเป็นมิตรที่แท้จริง
เมื่อลูกเป็นมิตรร่วมทางของมิตรที่แท้จริงลูกจะกลับมาละวางและมีความรักต่อทุกคนได้อย่างง่ายดาย
ผู้ที่จดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียวในทุกความสัมพันธ์ในทุกงานจะเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่นได้อย่างง่ายดาย
พวกเขาไม่ยึดติดอยู่กับใครหรืออยู่ภายใต้ภาวะจำยอมต่อผู้ใด
ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถพ่ายแพ้ต่อมายาได้
คติพจน์:
เพื่อที่จะได้เห็นและรู้จักมายา
จงกลายเป็นตรีกาลดาร์ชิและตรีเนตรและลูกจะกลายเป็นผู้มีชัยชนะ