30.08.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
13.03.86 Om Shanti Madhuban
อำนาจแห่งประสบการณ์คือพื้นฐานของการเปลี่ยนแปลงที่ง่ายดาย
วันนี้บัพดาดากำลังมองดูลูกๆของท่านทั้งหมดที่เป็นภาพลักษณ์ของการค้ำจุนและภาพลักษณ์ของการยกระดับ
ลูกๆ แต่ละคนเป็นรูปของการค้ำจุนผู้ที่ทำให้โลกในปัจจุบันสูงส่งและสมบูรณ์
วันนี้โลกกำลังร้องเรียกหาดวงวิญญาณที่สูงส่งผู้ที่เป็นภาพลักษณ์ของการค้ำจุนในรูปแบบและวิธีการต่างๆ
เป็นลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งที่ให้การค้ำจุนแก่ดวงวิญญาณที่ไม่สงบและไม่มีความสุข
ที่ให้หยดหนึ่งแก่ ผู้อื่น ที่แสดงหนทางแห่งความสุขและความสงบแก่ผู้อื่น
ที่ให้ดวงตาที่สูงส่งแก่ผู้ที่ปราศจากดวงตาแห่งความรู้
ที่แสดงจุดหมายปลายทางแก่ดวงวิญญาณที่กำลังเร่ร่อน
ที่ให้ประสบการณ์ของการบรรลุผลแก่ดวงวิญญาณที่ขาดการได้มาซึ่งการบรรลุผลและยกระดับพวกเขา
มีความปั่นป่วนอย่างใดอย่างหนึ่งทุกหนแห่งในโลก
ในบางสถานที่มีความปั่นป่วนอย่างมากในเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติ
ในบางสถานที่มีความตึงเครียดมากมายหลายประเภทในจิตใจของผู้คน
ในบางกรณีมีความปั่นป่วนเพราะพวกเขาไม่พอใจกับชีวิตของพวกเขา
ในบางกรณีมีความปั่นป่วนเนื่องจากบรรยากาศที่ตาโมประธานของวัตถุธาตุ
ทุกหนแห่งโลกอยู่ในความปั่นป่วน ณ เวลานั้นในมุมหนึ่งของโลก
ลูกคือดวงวิญญาณที่มั่นคงและไม่สั่นคลอน
โลกตกอยู่ในความกลัวในขณะที่ลูกกลายเป็นผู้ที่ปราศจากความกลัวและร้องเพลงและร่ายรำในความสุขอย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าโลกจะนำสิ่งอำนวยความสะดวกชั่วคราวมาใช้ในการร้องเพลงและร่ายรำอย่างมีความสุข
แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งอำนวยความสะดวกชั่วคราวเหล่านั้นกำลังนำพาพวกเขาเข้าไปสู่กองไฟแห่งความวิตกกังวล
ดวงวิญญาณของโลกเช่นนั้นต้องการการค้ำจุนของประสบการณ์ของการบรรลุผลที่ไม่มีวันสูญสลายและสูงส่ง
พวกเขาได้เห็นการค้ำจุนทั้งหมด พวกเขามีประสบการณ์ในทุกสิ่ง
และเสียงที่ออกมาจากทุกคนที่ต้านความปรารถนาในสำนึกของพวกเขาคือ
เราต้องการสิ่งอื่นนอกเหนือจากนี้
สิ่งอำนวยความสะดวกและวิธีการต่างๆเหล่านั้นจะไม่ทำจะไม่ทำให้พวกเขามีประสบการณ์แห่งความสำเร็จ
เสียงในจิตใจของทุกคนคือเราต้องการสิ่งใหม่ๆ เราต้องการสิ่งอื่น
สิ่งค้ำจุนชั่วคราวทั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเหมือนกับฟาง
พวกเขากำลังมองหาสิ่งค้ำจุนที่แท้จริง เมื่อได้เห็นสิ่งค้ำจุน,การบรรลุผลและวิธีการที่ชั่วคราว
ทั้งหมดพวกเขาก็เบื่อหน่ายกับสิ่งเหล่านั้น
ตอนนี้ใครจะแสดงให้เห็นถึงการค้ำจุนที่ถูกต้อง การค้ำจุนที่แท้จริง
การค้ำจุนที่ไม่มีวันสูญสลายแก่ดวงวิญญาณเช่นนั้น? เป็นลูกทั้งหมดใช่หรือไม่?
เมื่อเทียบกับโลกแล้ว มีลูกเพียงไม่กี่คน มีลูกจำนวนที่น้อย
อย่างไรก็ตามในอนุสรณ์ของวงจรก่อนหน้านี้
พวกเขายังคงแสดงให้เห็นพันดาวาสทั้งห้าอยู่เบื้องหน้ากองทัพที่ไม่มีขีดจำกัด
อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งหมดเป็นของลูก
ผู้คนเหล่านั้นที่มีอำนาจทางวิทยาศาสตร์ อำนาจในคัมภีร์ อำนาจของผู้นำทางการเมือง
อำนาจทางศาสนา
และอำนาจอื่นๆอีกมากมายได้พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงโลกบนพื้นฐานของอำนาจของพวกเขา
พวกเขาลองพยายามทำสิ่งต่างๆมากมาย อย่างไรก็ตามลูกทุกคนมีอำนาจอะไร?
อำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือประสบการณ์ของพระเจ้า
ด้วยอำนาจของประสบการณ์นี้ลูกสามารถนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สูงส่งให้กับใครก็ตามได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นลูกทุกคนมีอำนาจพิเศษของประสบการณ์นี้
และด้วยเหตุนี้เองลูกจึงพูดและจะพูดต่อไปด้วยความภาคภูมิใจ ด้วยความมั่นใจ
ด้วยความซาบซึ้ง และด้วยการรับประกันว่า: มีหนทางเดียวที่ง่ายดายและถูกต้อง
สามารถได้รับจากผู้เดียวเท่านั้นที่รวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน
ลูกให้สาส์นนี้กับทุกคนใช่หรือไม่?
นี่คือเหตุผลว่าทำไมวันนี้บัพดาดาจึงมองดูลูกๆที่เป็นตัวของการค้ำจุนและของการยกระดับโลก
ดูสิว่าใครได้กลายเป็นเครื่องมือกับบัพดาดา! พวกเขาเป็นสิ่งค้ำจุนของโลก
แต่ใครที่กลายเป็นคนเหล่านั้น? ผู้ที่มีความธรรมดา
ผู้ที่อยู่ในสายตาของโลกไม่ได้อยู่ในสายตาของพ่อ
ในขณะที่ผู้ที่อยู่ในสายตาของพ่อก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของคนทางโลก เมื่อเห็นลูก
พวกเขาก็ยิ้มให้ก่อนแล้วพูดว่า สามารถเป็นคนเหล่านี้ได้หรือไม่?
อย่างไรก็ตามพ่อไม่ได้ทำในสิ่งที่คนทางโลกทำ พวกเขาต้องการคนที่มีชื่อเสียง
ในขณะที่พ่อต้องการจะประกาศชื่อเสียงของผู้ที่ชื่อและร่องรอยของพวกเขาได้จบสิ้นลงแล้ว
ท่านต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ท่านจะต้องทำให้คนที่ธรรมดายิ่งใหญ่
ท่านต้องทำให้ผู้ที่อ่อนแอมีพลังมาก
ท่านต้องทำให้ผู้ที่ไร้การศึกษาในแง่ของทางโลกนั้นให้เต็มไปด้วยความรู้
นี่คือบทบาทของพ่อ ด้วยเหตุนี้เมื่อเห็นชุมนุมของลูกๆ บัพดาดาก็ยิ้มเช่นกัน
เพราะลูกเป็นลูกที่ได้จากหายไปนานและขณะนี้ได้กลับมาพบพานที่ได้กลายเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ทุกคนได้รับโชคที่สูงส่งที่สุด
ขณะนี้สายตาของผู้คนในโลกกำลังเคลื่อนออกไปจากทิศทางอื่นทั้งหมดและมาหาผู้เดียว
เวลาพวกเขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้
แต่พ่อกำลังทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นในทางที่แฝงตัว
ลูกได้เห็นอะไรในกุมภเมลาเมื่อไม่นานมานี้? นั่นคือสิ่งที่ลูกเห็นใช่หรือไม่?
ลูกได้เห็นว่าทุกคนกำลังมองดูลูกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักเช่นนั้น
สิ่งนี้จะค่อยๆเปิดเผยทีละน้อย ผู้นำทางศาสนา ผู้นำทางการเมือง นักวิทยาศาสตร์
คือพลังอำนาจพิเศษทั้งสาม
ทั้งสามขณะนี้เข้ามาใกล้มากขึ้นด้วยความหวังที่สูงส่งว่าจะได้มองเห็นพระเจ้าเพียงแวบหนึ่งในรูปที่ธรรมดา
เวลานี้พวกเขายังคงมองผ่านผ้าคลุมหน้า ผ้าคลุมหน้านี้ยังไม่ได้ถูกยกขึ้น
เพราะการมองผ่านผ้าคลุมหน้าพวกเขาจึงยังสับสน มีผ้าคลุมหน้าแห่งความสับสนว่า:
พวกเขาเป็นคนนั้นหรือยังมีคนอื่นๆอยู่ที่ไหนสักแห่งหรือไม่?
อย่างไรก็ตามอย่างน้อยสายตาของพวกเขาถูกดึงดูดแล้ว
เวลานี้จะต้องถอดผ้าคลุมหน้านั้นออก มีผ้าคลุมหน้าอยู่หลายประเภท
หนึ่งคือความเป็นผู้นำของพวกเขา
ผ้าคลุมหน้าของบัลลังก์หรือที่นั่งของพวกเขาก็เป็นผ้าคลุมหน้าที่ใหญ่เช่นกันและยังคงต้องใช้เวลาสำหรับพวกเขาที่จะออกมาจากหลังผ้าคลุมหน้า
แต่อย่างน้อยพวกเขาได้เปิดตาของพวกเขาแล้ว! เวลานี้กุมภกรรณได้ตื่นขึ้นมาเล็กน้อย
บัพดาดาจะทำให้ดวงวิญญาณทั้งหมดในโลก นั่นคือลูกๆ
ทั้งหมดของท่านมีสิทธิ์ในมรดกของพ่อของพวกเขาอย่างแน่นอน ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเช่นไร
พวกเขาก็ยังคงเป็นลูก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการหลุดพ้นหรือการหลุดพ้นในชีวิต
มรดกทั้งสองรูปแบบมีไว้สำหรับลูกๆ พ่อได้มาเพื่อให้มรดก พวกเขาไม่รู้เรื่องนั้น
และไม่ใช่ความผิดของพวกเขา และดังนั้นลูกทุกคนรู้สึกเมตตาต่อพวกเขาด้วยใช่หรือไม่?
ลูกรู้สึกมีเมตตาและมีความกระตือรือร้นเช่นกันที่ไม่ว่าจะอย่างไรทุกดวงวิญญาณควรจะประกาศสิทธิ์ในมรดกของเขา
อัจชะ
วันนี้เป็นรอบของคาริบเบียน ทุกคนเป็นที่รักอย่างยิ่งของบัพดาดา
คุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของแต่ละสถานที่อยู่เบื้องหน้าบัพดาดาเสมอ
ในความเป็นจริงบัพดาดามีชาร์ทเต็มรูปแบบของลูกทุกคนเสมอ
อย่างไรก็ตามเมื่อไดเเห็นลูกทุกคนแล้ว บัพดาดารู้สึกพอใจเกี่ยวกับอะไรเป็นพิเศษ?
นั่นคือลูกทุกคนข้องแวะอยู่ในงานรับใช้ตามความสามารถของพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ
งานรับใช้กลายเป็นอาชีพพิเศษของชีวิตบราห์มิน
หากไม่มีงานรับใช้ชีวิตบราห์มินนี้ดูว่างเปล่า หากไม่มีงานรับใช้
ลูกรู้สึกราวกับว่าลูกไม่มีอะไรทำ
บัพดาดาพอใจเป็นพิเศษที่ได้เห็นความกระตือรือร้นของลูกที่ไม่ว่างเว้นอยู่ในงานรับใช้อย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติพิเศษของคาริบเบียนคืออะไร? พวกเขาคือผู้ที่อยู่อย่างใกล้ชิด(คาริบ)เสมอ
บัพดาดาไม่ได้มองในแง่ทางกายภาพ ทางร่างกายลูกอาจจะอยู่ห่างไกลมาก
แต่ลูกใกล้ชิดด้วยจิตใจของลูกใช่หรือไม่? ยิ่งลูกอยู่ไกลมากแค่ไหน
ลูกก็ยิ่งได้รับลิฟต์ของการมีประสบการณ์ของการมีพ่อเป็นมิตรร่วมทางเป็นพิเศษมากตามนั้น
เพราะสายตาของพ่อจะอยู่กับลูกๆ ทุกคนในทุกหนแห่งเสมอ
พวกเขาจะหลอมรวมอยู่ในสายตาของท่าน ดังนั้นผู้ที่หลอมรวมอยู่ในสายตาจะเป็นอย่างไร?
พวกเขาจะอยู่ไกลหรือใกล้? ดังนั้นลูกทั้งหมดคือเพชรพลอยที่อยู่ใกล้ชิด
ไม่มีใครอยู่ห่างไกล ลูกทั้งใกล้และเป็นที่รัก ถ้าลูกไม่ได้อยู่ใกล้
ลูกก็จะไม่มีความจริงจังและกระตือรือร้น มิตรร่วมทางของพ่อกำลังทำให้ลูกมีพลัง
และกำลังทำให้ลูกเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ
ทุกคนมีความสุขมากเมื่อเห็นลูกทุกคน
เพราะลูกกำลังทำให้งานรับใช้เติบโตด้วยการมีความกล้าหาญมากมาย
บัพดาดารู้ว่าลูกทุกคนมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น:
เราจะต้องเตรียมลูกประคำที่ใหญ่ที่สุด
เราจะต้องรวบรวมลูกปัดทั้งหมดของลูกประคำที่ได้กระจัดกระจายไปทั่วทุกหนแห่งแล้วทำเป็นลูกประคำนำมามอบให้กับพ่อ
ตลอดทั้งปีลูกมีความกระตือรือร้นที่ลูกจะนำช่อดอกไม้หรือลูกประคำนี้มาอยู่เบื้องหน้าพ่อ
ดังนั้นตลอดทั้งปีลูกได้เตรียมการอย่างเต็มที่สำหรับสิ่งนี้
ปีนี้บัพดาดาได้เห็นว่าผลของการเติบโตของศูนย์ในต่างประเทศเป็นไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นช่อดอกไม้เล็กหรือช่อดอกไม้ใหญ่
แต่ละคนก็นำช่อดอกไม้มาหนึ่งช่อในรูปปฏิบัติจริง
ดังนั้นบัพดาดาจึงพอใจที่ได้เห็นลูกๆ ที่น่ารักของท่านในวงจรที่ผ่านมาเช่นกัน
ลูกได้ใช้ความเพียรพยายามด้วยความรัก
ความเพียรพยายามที่ทำด้วยความรักไม่ได้รู้สึกเหมือนเป็นความพยายาม
ดังนั้นกลุ่มที่ดีจึงมาจากทุกสารทิศ สิ่งที่บัพดาดาชอบมากที่สุดคือ
ลูกทั้งหมดไม่รู้เหนื่อยในงานรับใช้ และเฝ้าแต่เคลื่อนไปข้างหน้า
คุณสมบัติพิเศษของความสำเร็จในงานรับใช้ของลูกคือลูกไม่เคยท้อแท้ วันนี้มีไม่กี่คน
ในขณะที่พรุ่งนี้ จะต้องมีมากขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งนั้นได้รับการรับประกัน
ดังนั้นที่ใดก็ตามที่พวกเขาได้รับคำแนะนำของพ่อและที่ใดก็ตามที่ลูกๆ
ของพ่อเป็นเครื่องมือ จะต้องมีลูกๆ ของพ่อซ่อนอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน
และพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อประกาศสิทธิ์ของพวกเขาตามเวลา
พวกเขาจะยังคงมาที่นี่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นลูกทั้งหมดคือผู้ที่ร่ายรำในความสุข
ลูกมีความสุขเสมอ พ่อคงอยู่ตลอดไป ลูกๆคงอยู่ตลอดไป และการบรรลุผลก็คงอยู่ตลอดไป
ความสุขของลูกก็คงอยู่ตลอดไปเช่นกัน
ลูกคือผู้ที่อยู่อย่างมีความสุขที่ดีที่สุดของที่สุดเสมอ
เมื่อสิ่งที่ไร้ประโยชน์ถูกทำลายก็เหลือแต่สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น
การเป็นของบาบาหมายถึงการมีสิทธิ์อย่างสม่ำเสมอในสมบัติที่มีค่าที่ไม่สูญสลาย
ดังนั้น ชีวิตที่ลูกมีสิทธิ์คือชีวิตที่ดีที่สุด
รากฐานของงานรับใช้ในคาริบเบียนถูกวางผ่านดวงวิญญาณที่พิเศษมาก
รากฐานของการรับใช้รัฐบาลนั้นอยู่ในกายอาน่าใช่หรือไม่?
การกระจายเสียงของคุณสมบัติพิเศษของราชาโยคะไปยังรัฐบาลก็เป็นคุณสมบัติพิเศษเช่นกัน
รัฐบาลยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีความเงียบสงบเป็นเวลาสามนาที
โอกาสที่จะเข้ามาใกล้ชิดกับรัฐบาลเริ่มต้นที่นั่นและผลลัพธ์ที่ดีก็เกิดขึ้นแล้วและยังคงปรากฏออกมา
ในหลักสูตรของงานรับใช้ที่พวกเขาได้ทำ ชาวคาริบเบียนได้เตรียม VIP
พิเศษไว้ด้วยเช่นกัน และจากหนึ่งในนั้น คนอื่นๆอีกหลายคนก็ได้รับการรับใช้ด้วย
ดังนั้นจึงเป็นคุณสมบัติพิเศษเช่นกัน คำเชิญอย่างเป็นทางการมาจาก VIP
ดังนั้นคาริบเบียนจึงเป็นเครื่องมือที่ต้องทำสิ่งนั้นก่อน
วันนี้ลูกกลายเป็นตัวอย่างสำหรับทุกหนแห่งและข้องแวะอยู่ในงานรับใช้ของการให้ความกระตือรือร้นและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่นมากมาย
ดังนั้นทุกคนจะได้รับผลของสิ่งนี้ใช่ไหม? แม้กระทั่งตอนนี้
ลูกยังคงมีสายใยกับรัฐบาล นี่เป็นวิธีการที่เข้ามามีสายใยอย่างใกล้ชิด
ด้วยวิธีการของการมีสายใยเล็กน้อยผ่านความรู้
ลูกสามารถให้ประสบการณ์กับพวกเขาของความพิเศษของลูกโดยเฉพาะในงานรับใช้ที่ลูกทำ
ในการประชุมใดๆ เมื่อใดก็ตามที่ลูกกลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้
แม้กระทั่งในสถานการณ์ทางโลก
ให้พูดในลักษณะเช่นนั้นที่พวกเขาจะได้สัมผัสกับสิ่งที่พิเศษสุดและมีความรัก
ดังนั้นนั่นเป็นโอกาสสำหรับลูกที่จะแสดงความพิเศษของลูกและความรักของลูกเป็นอย่างไรในขณะที่ลูกอยู่กับพวกเขา
ดังนั้นให้ความใส่ใจกับวิธีนี้เป็นพิเศษมากขึ้นและลูกจะสามารถทำให้สิ่งนี้เป็นวิธีการที่สูงส่งของงานรับใช้
ผู้ที่มาจากกายอาน่าได้รับโอกาสนี้
ลูกได้รับลอตเตอรี่สำหรับโอกาสในการรับใช้ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น
สถานที่ทั้งหมดมีการขยายตัวดีมาก เวลานี้นำมาซึ่งคุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งออกมา
เวลานี้เตรียมบัณฑิตบางคนที่เป็นที่รู้จักกันดีของสถานที่นั้น
มีบัณฑิตมากมายในตรินิแดดและกายอาน่า พวกเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น
พวกเขาเชื่อในปรัชญาของบารัต ดังนั้นเวลานี้จงเตรียมกลุ่มของบัณฑิต
เช่นเดียวกับกลุ่มของผู้เคร่งศาสนาที่กำลังเตรียมอยู่ในฮาริดวาร์
ในทำนองเดียวกันให้เตรียมกลุ่มของบัณฑิตจากที่นั่น
ด้วยความรักลูกสามารถทำให้พวกเขาเป็นของลูก ก่อนอื่นให้พวกเขาเข้ามาใกล้ด้วยความรัก
ในฮาริดวาร์นั่นก็เป็นผลมาจากความรักเช่นกัน ความรักทำให้พวกเขามาถึงมธุบัน
หากพวกเขามาไกลเท่ากับมธุบัน พวกเขาก็มาไกลเท่ากับการยอมรับความรู้เช่นกัน
พวกเขาจะไปที่ไหนอีกไหม? ดังนั้นเวลานี้แสดงให้เห็นสิ่งนี้ อัจชะ
ยุโรปจะทำอะไร? จากจำนวนแล้วลูกไม่ได้น้อยเลย ไม่ว่าจำนวนจะเป็นอย่างไร
ถ้าคุณภาพดีลูกก็เป็นอันดับหนึ่ง ลูกสามารถพาผู้ที่ไม่มีใครพามาได้
นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ “เมื่อลูกมีความกล้าหาญ พ่อก็ให้ความช่วยเหลือ”
เมื่อลูกมีความกล้าหาญ ลูกจะได้รับความช่วยเหลือจากทั้งครอบครัวและบัพดาดา
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ ลูกสามารถทำอะไรก็ตามที่ลูกต้องการ
ในที่สุดทุกคนก็ต้องมายังสถานที่เดียว บางคนต้องมาตอนนี้
และคนอื่นๆต้องมาหลังจากนี้เล็กน้อย พวกเขาต้องมา ไม่ว่าพวกเขาจะมีความสุขมากแค่ไหน
พวกเขาก็ยังคงมีความปรารถนาที่จะได้รับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
แม้พวกเขาจะไม่มีความทุกข์เพราะบรรยากาศก็โอเค
แต่ความปรารถนาที่ชั่วคราวของพวกเขาไม่สามารถได้รับการเติมเต็มได้จนกว่าพวกเขาจะมีความรู้
ความปรารถนาใดความปรารถนาหนึ่งจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และความปรารถนาไม่ได้ให้ประสบการณ์ของการมีความพอใจอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ที่ไม่มีความทุกข์ยังคงไม่ได้สัมผัสกับความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวสำหรับพระเจ้า
ชีวิตที่มีความรัก ความรักในสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณหรือความรักของพระเจ้า
ไม่ว่าพวกเขาจะมีความรักมากแค่ไหนก็ไม่สามารถมีความรักที่ปราศจากความเห็นแก่ตัวที่อื่นได้
พวกเขาไม่มีความรักที่แท้จริง ดังนั้นทุกคนต้องการความรักที่แท้จริงจากหัวใจ
และความรักของครอบครัว ลูกสามารถพบครอบครัวเช่นนี้ได้ที่ไหนอีกหรือไม่?
ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะประสบกับการขาดการบรรลุผลใดก็ตาม
จงอธิบายให้แก่พวกเขาด้วยแรงดึงดูดของการบรรลุผลนั้นโดยเฉพาะ อัจชะ
ลูกทั้งหมดคือดวงวิญญาณพิเศษ หากลูกไม่มีความพิเศษ
ลูกก็ไม่สามารถเป็นดวงวิญญาณบราห์มินได้
เป็นความพิเศษของลูกที่ทำให้ลูกได้รับชีวิตบราห์มิน
ความพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือลูกเป็นหนึ่งในกำมือจากหลายๆล้านคน
ดังนั้นลูกแต่ละคนจึงมีความพิเศษของตนเอง
ตลอดทั้งวันลูกมีความรักต่อพ่อและงานรับใช้
ต้องมีการทำงานทางโลกเพื่อประโยชน์ของงานนั้น
แต่ขอให้มีความรักในหัวใจของลูกต่อการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้ อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกมีความรักและละวางและอยู่เหนือด้วยการตระหนักรู้ถึงดินแดนดั้งเดิมและรูปดั้งเดิมของลูกอยู่เสมอ
การมีความตระหนักรู้ในโลกที่ไม่มีตัวตนและรูปที่ไม่มีตัวตนของลูกทำให้ลูกละวางและมีความรักอยู่เสมอ
เราเป็นผู้อาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตนและได้มาจุติที่นี่เพื่อประโยชน์ของงานรับใช้
เราไม่ได้เป็นของโลกแห่งความตาย แต่เป็นเพียงแค่จุติอวตารลงมา
ถ้าลูกเพียงแค่จดจำสิ่งเล็กๆนี้ลูกก็สามารถไปอยู่เหนือ
ผู้ที่ไม่พิจารณาว่าตนเองเป็นอวตารลงมา แต่เป็นผู้ครองเรือนที่มีพาหนะติดอยู่ในโคลน
“ผู้ครองเรือน” หมายถึงสภาพที่มีภาระ
ในขณะที่การอวตารเป็นสิ่งที่เบาสบายอย่างแท้จริง
เมื่อพิจารณาว่าตัวเองเป็นอวตารลูกจะจดจำดินแดนดั้งเดิมและรูปดั้งเดิมของลูกและจะอยู่เหนือ
คติพจน์:
บราห์มินคือผู้ที่ทำทุกงานด้วยความสะอาดและด้วยวิธีที่ถูกต้อง