02.08.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
01.03.86 Om Shanti Madhuban
สติปัญญา, ทัศนคติ,
สายตาและปากของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์
วันนี้บัพดาดากำลังมองดูการชุมนุมของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด
นี่ไม่ใช่การชุมนุมธรรมดาแต่เป็นการชุมนุมของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์ทางจิตวิญญาณ
บัพดาดากำลังมองดูหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละคนเพื่อดูว่าทุกคนได้กลายเป็นหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์มากเพียงใด
ลูกรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติพิเศษของหงส์เป็นอย่างดีใช่ไหม? ก่อนอื่นใด
สติปัญญาที่เป็นหงส์หมายถึงผู้ที่มีความคิดที่บริสุทธิ์และสูงส่งต่อทุกดวงวิญญาณเสมอ
หงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์หมายถึงผู้ที่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างหินกับเพชรพลอยได้อย่างชัดเจน
และดังนั้นจึงดูดซับสิ่งนั้น
ประการแรกการแยกแยะเจตนาของแต่ละดวงวิญญาณและปรับเปลี่ยนตามนั้น
หงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยมีทัศนคติที่ธรรมดาหรือไม่บริสุทธิ์ต่อดวงวิญญาณใด
ลูกต้องมีเจตนาที่บริสุทธิ์และมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์เสมอ
เมื่อลูกรู้ถึงเจตนาของพวกเขา
ลูกจะไม่ได้รับอิทธิพลของธรรมชาติที่ไร้ประโยชน์หรือธรรมดาของใคร
ลูกกล่าวถึงเจตนาที่บริสุทธิ์และความรู้สึกที่บริสุทธิ์ว่าเป็นธรรมชาติ
หากเป็นธรรมชาติที่ไร้ประโยชน์ก็ต้องเปลี่ยนแปลง
บัพดาดากำลังดูว่าลูกกลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่เป็นหงส์เช่นนั้นมากเพียงใด
และในทำนองเดียวกันที่ลูกมีทัศนคติที่เป็นเช่นหงส์ซึ่งหมายความว่ามีทัศนคติที่สูงส่งและเมตตากรุณาต่อแต่ละดวงวิญญาณอยู่เสมอมากแค่ไหน:
ในขณะที่ฟังและมองเห็นสิ่งที่ไม่มีเมตตากรุณาของแต่ละดวงวิญญาณ
ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆที่ไม่มีเมตตากรุณานั้น
ทัศนคติที่เมตตากรุณานั้นเป็นที่รู้จักกันว่ามีทัศนคติของหงส์ศักดิ์สิทธิ์
ด้วยทัศนคติของความเมตตากรุณาของลูก ลูกสามารถเปลี่ยนแปลงผู้อื่นได้เช่นกัน
การที่จะสามารถเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่เมตตากรุณาของผู้อื่นด้วยทัศนคติแห่งความเมตตากรุณานั้นเป็นหน้าที่ของหงส์ศักดิ์สิทธิ์
ในทำนองเดียวกันเมื่อพูดถึงสายตาของลูก
จงมีสายตาของความรักที่บริสุทธิ์และสูงส่งต่อทุกดวงวิญญาณเสมอ
ไม่ว่าคนอื่นจะเป็นเช่นไรลูกให้ใช้สายตาของความรักทางจิตของสำนึกเป็นดวงวิญญาณต่อทุกคนเสมอ
สิ่งนี้เรียกว่าการมีสายตาเช่นหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ในทำนองเดียวกันในแง่ของคำพูด
ได้มีการบอกลูกแล้วว่าคำพูดที่ไม่ดีเป็นเรื่องที่แตกต่างกัน
สิ่งนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วสำหรับบราห์มิน
แต่ถึงแม้จะพูดคำพูดที่ไร้สาระก็ไม่ได้เรียกว่ามีปากเช่นหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์
แม้กระทั่งปากของลูกก็ควรเป็นปากของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์
บางคนที่ไม่เคยพูดคำพูดที่ไร้สาระออกมาจากปากของเขาเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีสภาพที่มีปากเป็นหงส์
ดังนั้นสติปัญญา, ทัศนคติ, สายตาและปากที่เป็นเช่นหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์:
เมื่อสิ่งเหล่านี้กลับมาบริสุทธิ์ นั่นคือสูงส่ง
อิทธิพลในทางปฏิบัติของสภาพของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏให้เห็น
ดังนั้นลูกแต่ละคนควรตรวจสอบตนเองว่า:
ลูกเดินเหินและเคลื่อนไหวไปมาอย่างเป็นหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอมากแค่ไหน
เพราะตอนนี้ไม่มีเวลามากนักสำหรับความก้าวหน้าในตนเอง
ดังนั้นจงตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงตนเอง
การเปลี่ยนแปลงของเวลานี้จะสามารถทำให้ลูกประกาศสิทธิ์ในโลกยุคทองที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงแล้วเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
บัพดาดาได้ให้สัญญาณนี้แก่ลูกมาก่อนหน้านี้เช่นกัน
ลูกทุกคนมีความใส่ใจต่อตนเองเป็นสองเท่าหรือไม่?
รางวัลของการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่สูงส่งที่ลูกได้รับด้วยการใส่ใจในช่วงเวลาสั้นๆในตอนนี้นั้นเทียบเท่ากับสิ่งที่ลูกจะได้รับด้วยการใส่ใจเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
ด้วยเหตุนี้ช่วงเวลาสั้นๆนี้จึงมีความสูงส่งและสวยงามมาก
มันไม่จำเป็นต้องใช้ความเพียรพยายาม: พ่อพูดบางสิ่งและลูกก็ซึมซับสิ่งนั้น
และด้วยการซึมซับสิ่งนั้นก็จะกลายเป็นจริงในทางปฏิบัติโดยอัตโนมัติ
หน้าที่ของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์คือการซึมซับ
ดังนั้นนี่เป็นการชุมนุมของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นใช่ไหม?
ลูกได้กลับมาเต็มไปด้วยความรู้
เวลานี้ลูกเข้าใจอย่างชัดเจนมากว่าอะไรคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์และอะไรคือสิ่งที่ธรรมดา
หลังจากทำความเข้าใจบางสิ่ง ลูกก็จะนำสิ่งนั้นไปสู่การปฏิบัติโดยอัตโนมัติ
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามในภาษาที่ธรรมดา ลูกพูดว่า: เวลานี้ฉันเข้าใจสิ่งนั้นแล้ว
และลูกไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ได้ทำเช่นนั้น
ดังนั้นก่อนอื่นใดตรวจสอบว่าอะไรที่ธรรมดาและอะไรที่ไร้ประโยชน์
บางครั้งลูกไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ไร้ประโยชน์หรือธรรมดานั้นเป็นสิ่งที่สูงส่งใช่ไหม?
เหตุนี้เองสิ่งแรกและสำคัญที่สุดคือสติปัญญาของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์
ด้วยสิ่งนี้ลูกจะพัฒนาพลังในการแยกแยะโดยอัตโนมัติ
เวลาและความคิดสูญเปล่าเมื่อลูกไม่ตระหนักรู้ว่าอะไรถูกหรือผิด
ลูกพิจารณาว่าสิ่งที่ไร้ประโยชน์และผิดที่ลูกทำนั้นถูกต้อง
และเวลาก็สูญเสียไปมากขึ้น
สิ่งนั้นไร้ประโยชน์แต่ลูกคิดว่าลูกมีพลังและความคิดของลูกถูกต้อง
สิ่งที่ลูกพูดนั้นถูกต้อง เนื่องจากลูกไม่มีพลังในการแยกแยะในสิ่งนี้ พลังของจิตใจ
พลังของเวลา และพลังของคำพูดทั้งหมดจึงสูญเสียไป
ภาระในการรับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน สาเหตุคืออะไร?
เพราะลูกไม่ได้กลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาของหงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์
ดังนั้นบัพดาดาจึงให้สัญญาณนี้แก่หงส์ที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดอีกครั้ง:
อย่าได้มองเห็นความผิดว่าเป็นความผิด อย่าได้คิดว่า“ถึงอย่างไรคนนี้ก็ผิดอยู่ดี”
แต่ลองคิดดูว่าลูกจะทำให้สิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ถูกต้องได้อย่างไร
สิ่งนี้รู้ได้ว่าการมีความรู้สึกที่มีเมตตากรุณา
ด้วยความรู้สึกที่สูงส่งและความปรารถนาที่บริสุทธิ์ของลูก
ลูกจะได้รับชัยชนะในการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติที่ไร้ประโยชน์ของลูกและธรรมชาติที่ไร้ประโยชน์ของผู้อื่น
ลูกเข้าใจไหม? ก่อนอื่นจงกลับมามีชัยชนะเหนือตนเอง แล้วจึงมีชัยชนะเหนือผู้อื่น
และลูกจะเป็นผู้มีชัยชนะเหนือธรรมชาติ
ชัยชนะเหนือทั้งสามสิ่งนี้จะทำให้ลูกกลายเป็นลูกปัดของลูกประคำแห่งชัยชนะ บรรยากาศ,กระแสจิตและวัตถุธาตุทางโลกทั้งหมดนั้นรวมอยู่ในธรรมชาติ
ดังนั้นลูกมีชัยชนะเหนือทั้งสามสิ่งหรือไม่?
บนพื้นฐานนี้ลูกจะสามารถเห็นลำดับของลูกที่จะอยู่ในลูกประคำแห่งชัยชนะ
เหตุนี้เองสิ่งนี้จึงเรียกว่าเป็นลูกประคำแห่งชัยชนะ (วิแจนตีมาลา)
ดังนั้นลูกทั้งหมดได้รับชัยชนะหรือไม่? อัจชะ
วันนี้เป็นรอบของผู้ที่มาจากออสเตรเลีย
ผู้ที่มาจากออสเตรเลียได้รับโอกาสจากผู้ที่อยู่ในมธุบันเพื่อที่จะกลายเป็นผู้ที่ให้โอกาสทองเพราะลูกมีคุณสมบัติพิเศษของการให้โอกาสกับทุกคนด้วยการให้ทุกคนอยู่เบื้องหน้าลูก
การให้ผู้อื่นอยู่เบื้องหน้าลูกและให้โอกาสแก่พวกเขาหมายถึงการกลายเป็นผู้ที่ให้โอกาส
ทั้งผู้ที่หาโอกาสมากที่สุดและให้โอกาสนั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ให้โอกาส
บัพดาดามองดูและพูดเกี่ยวกับคุณสมบัติพิเศษของลูกทุกคนเสมอ ในออสเตรเลีย,พันดาวาสได้รับโอกาสเป็นพิเศษในการทำงานรับใช้
พันดาวาสคือผู้ดูแลศูนย์ส่วนใหญ่ ชัคตีได้ให้โอกาสแก่พันดาวาส
ผู้ที่ให้ผู้อื่นอยู่เบื้องหน้า ตัวเขาเองก็จะคงอยู่เบื้องหน้าเสมอ
นี่เป็นความใจกว้างของชัคตีด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามลูกพันดาวาสกำลังก้าวหน้าในงานรับใช้โดยการพิจารณาว่าตนเองเป็นเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอใช่ไหม?
ในการทำงานงานรับใช้ความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือคือพื้นฐานของความสำเร็จในงานรับใช้
บัพดาดาพูดคำสามคำซึ่งเป็นคำพูดที่พูดโดยบาบาที่มีตัวตนในเวลาสุดท้าย: ปราศจากร่าง,
ปราศจากกิเลส, ปราศจากความหลงทะนงตน
ด้วยการเป็นเครื่องมือลูกก็จะพัฒนาคุณสมบัติพิเศษทั้งสามนี้โดยอัตโนมัติ
หากไม่มีความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือ
ลูกไม่สามารถมีประสบการณ์ของคุณสมบัติพิเศษใดทั้งสามเหล่านี้ได้
ความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือจะจบสิ้นทุกรูปแบบของสำนึกของคำว่า “ฉัน“ และ “ของฉัน“
อย่างง่ายดาย ไม่มีสิ่งใดของคำว่า “ฉัน” หรือ “ของฉัน” เมื่อฉันเป็นเครื่องมือ
ความปั่นป่วนในสภาพของใครบางคนเกิดขึ้นจากความอ่อนแอเดียวนี้
ลูกต้องทำความเพียรพยายามในงานรับใช้และสำหรับสภาพที่โบยบินของลูกเช่นกัน
การเป็นเครื่องมือหมายถึงการจดจำผู้เดียวที่ทำให้ลูกเป็นเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นลูกกำลังก้าวหน้าไปสู่การขยายตัวของงานรับใช้ด้วยการใช้คุณสมบัติพิเศษนี้ใช่ไหม?
การมีการขยายตัวของงานรับใช้คือสิ่งชี้บอกของความสำเร็จ
เวลานี้ลูกได้กลายเป็นผู้มีประสบการณ์อย่างดีมากในการมีสภาพที่ไม่หวั่นไหวสั่นคลอน
ลูกเข้าใจไหม? ออสเตรเลียหมายถึงผู้ที่มีบางสิ่งที่พิเศษที่ผู้อื่นไม่มี
ออสเตรเลียไม่มีความหลากหลาย – กุจราต ฯลฯ ลูกได้ทำงานอย่างมากมายของ “การทำบุญเริ่มต้นที่บ้าน”
ลูกได้ปลุกผู้ที่เท่าเทียมของลูกให้ตื่นขึ้นมา
กุมารและกุมารีได้รับคุณประโยชน์ดีมาก
ในชีวิตนี้ลูกแต่ละคนต้องมีการตัดสินใจที่สูงส่งเพื่อชีวิตของลูกเอง
หากลูกทำให้ชีวิตของลูกสูงส่งแล้ว ลูกก็จะสูงส่งตลอดเวลา
ลูกได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นจากการปีนบันไดผิด
บัพดาดานั้นมีความพอใจที่แสงสว่างแต่ละดวงกำลังจุดแสงสว่างแก่ผู้อื่นและตะเกียงมากมายถูกจุดขึ้นมา
และดังนั้นลูกประคำแห่งแสงกำลังมีการตระเตรียมขึ้น
ลูกมีความจริงจังและกระตือรือร้นที่ดี
การทำให้ตนเองอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในงานรับใช้ก็จะมีความก้าวหน้าที่ดี
ประการแรก
ได้มีการบอกลูกถึงความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือ
ประการที่สองสำหรับผู้ที่เป็นเครื่องมือในงานรับใช้
มีคติพจน์ที่พิเศษสำหรับความก้าวหน้าของตนเองของพวกเขาและสำหรับงานรับใช้
และเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยสำหรับพวกเขาด้วยเช่นกัน: “อะไรก็ตามที่พวกเราดวงวิญญาณเครื่องมือทำ,
ผู้อื่นก็จะเห็นเราและทำตาม”
นี่เป็นเพราะการเป็นเครื่องมือในงานรับใช้หมายถึงการขึ้นมาบนเวที
เช่นที่นักแสดงให้ความใส่ใจอย่างมากเมื่อเขาขึ้นมาบนเวที
ดังนั้นการเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้หมายถึงการเล่นบทบาทบนเวที
สายตาของทุกคนจะมองไปที่เวที เมื่อใครบางคนเป็นนักแสดงเอก
สายตาของทุกคนจะมองไปที่บุคคลนั้นมากกว่า
ดังนั้นคติพจน์นี้เป็นเครื่องมือของความปลอดภัย ด้วยสิ่งนี้
ลูกจะมีประสบการณ์ของสภาพที่โบยบินอย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ศูนย์หรือที่ใดก็ตามและทำงานรับใช้, ลูกทั้งหมดคือผู้รับใช้
บางคนอยู่ที่บ้านและได้รับโอกาสของตนในการทำงานรับใช้และสิ่งนั้นก็เป็นการอยู่บนเวทีของงานรับใช้
ลูกไม่ควรสูญเสียเวลาของลูก เพียงแต่ใช้เวลาสำหรับงานรับใช้
จะมีการสะสมอย่างมากในบัญชีของงานรับใช้
ผู้ที่ทำงานรับใช้ด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์จะสะสมไว้ในบัญชีของพวกเขาอย่างดีมาก
บัพดาดามีบัญชีของงานรับใช้ตั้งแต่ตอนต้นจนจบของลูกแต่ละคน
สิ่งนั้นจะสะสมไปเรื่อยๆโดยอัตโนมัติ
ไม่ต้องมีการเก็บรักษาแต่ละบัญชีและทุกบัญชีเป็นการเฉพาะราย
ผู้ที่เก็บบัญชีมีไฟล์มากมาย พ่อไม่ได้มีไฟล์ใดทางโลก
ทะเบียนประวัติของแต่ละคนตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนจบจะปรากฏขึ้นในหนึ่งวินาที
มีการสะสมโดยอัตโนมัติ อย่าได้คิดว่า: ไม่มีใครสามารถเห็นฉัน
ไม่มีใครสามารถเข้าใจฉัน บัพดาดามีบัญชีของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร เขาทำอะไร
และเขาทำสิ่งนั้นในสภาพใด: มีการสะสมทุกสิ่งไว้ ท่านไม่มีไฟล์แต่เป็นบัญชีสุดท้าย
ชัคตีในออสเตรเลียได้แสดงความกล้าหาญอย่างดียิ่งในการเป็นของพ่อ
ตระหนักรู้จักพ่อและทำตามความรับผิดชอบของความรักต่อพ่อ
ความผิดพลาดของความแปรปรวนเกิดขึ้นเนื่องจากสถานที่, แผ่นดิน
หรือเนื่องมาจากซันสการ์ของชีวิตในอดีตที่ผ่านมา
ลูกอยู่เหนือสิ่งนี้และเคลื่อนไปข้างหน้าในสายสัมพันธ์ของความรัก
ด้วยเหตุนี้บัพดาดาจึงแสดงความยินดีต่อชัคตีสำหรับความกล้าหาญของพวกเขา “พละกำลังเดียว,
การค้ำจุนเดียว” กำลังทำให้ลูกก้าวไปข้างหน้า
ดังนั้นปีกทั้งสองของความกล้าหาญของชัคตีและความกระตือรือร้นในงานรับใช้ของพันดาวาสได้กลับมาเข้มแข็ง
ในสนามของงานรับใช้พันดาวาสก็เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเป็นมหาวีระเช่นกัน
พวกเขานั้นเก่งในการไปอยู่เหนือความแปรปรวน นี่เป็นภาพลักษณ์ของทุกคน
ได้มีการแสดงให้เห็นว่าพันดาวาสนั้นสูง, ใหญ่,
แข็งแรงและกว้างไกลเพราะสภาพของพวกเขาสูงและเข้มแข็ง
ด้วยเหตุนี้จึงมีการแสดงพันดาวาสว่าสูงและเด็ดเดี่ยว
ชาวออสเตรเลียเต็มไปด้วยความเมตตามากยิ่งกว่าด้วยเช่นกัน
พวกเขามีความเมตตาต่อดวงวิญญาณที่ล้มลุกคลุกคลานและกำลังก้าวหน้าในงานรับใช้
พวกเขาไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ทำงานรับใช้
บัพดาดาพอใจเสมอที่ได้เห็นคุณสมบัติพิเศษของการก้าวไปข้างหน้าของลูกๆ
ลูกโชคดีเป็นพิเศษ บัพดาดาพอใจที่ได้เห็นความจริงจังและกระตือรือร้นของลูกแต่ละคน
ท่านเห็นว่าแต่ละคนก้าวไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายที่สูงส่งและจะเฝ้าแต่ทำสิ่งนั้นอย่างไร
บัพดาดาเพียงแต่เฝ้ามองดูคุณสมบัติพิเศษเท่านั้นเสมอ
แต่ละคนน่ารักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ลูกมองกันและกันเช่นนี้ด้วยใช่ไหม?
ใครก็ตามที่ลูกเห็นนั้นน่ารักไม่ยิ่งหย่อนกว่าอีกคนหนึ่งเพราะผู้ที่ได้จากกันเป็นเวลา
5000 ปี ได้พบกันอีกครั้งและดังนั้นพวกเขาจึงพบกันอย่างเต็มไปด้วยความรักอย่างมาก
สิ่งชี้บอกของความรักต่อพ่อคือลูกจะรักดวงวิญญาณบราห์มินแต่ละดวงด้วยเช่นกัน
การรักบราห์มินทุกคนหมายถึงการรักพ่อ
เพียงบราห์มินเท่านั้นที่จะเข้ามาสู่ความสัมพันธ์กับกันและกันในลูกประคำ
พ่อจะปลดเกษียณและเฝ้าดู ดังนั้น มีประสบการณ์ของสิ่งบอกของความรักจากพ่อเสมอ
พ่อมีความรักต่อทุกคนและดังนั้นลูกก็มีความรักต่อทุกคนเช่นกัน
บัพดาดาพบกลุ่ม:
1.
ลูกทุกคนคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณพิเศษหรือไม่? ลูกคือดวงวิญญาณพิเศษ
เป็นเครื่องมือสำหรับงานพิเศษและลูกต้องแสดงความพิเศษ
ให้มีสิ่งนี้อยู่ในสำนึกรู้ของลูกเสมอ
สำนึกรู้พิเศษนี้ทำให้สำนึกรู้ที่ธรรมดานั้นมีพลัง
นอกจากนี้ยังจบสิ้นสิ่งที่ไร้ประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นจดจำคำว่า“พิเศษ”นี้ไว้เสมอ
คำพูดของลูกมีความพิเศษ, วิธีการมองของลูกพิเศษ,
ความคิดของลูกพิเศษและการกระทำของลูกพิเศษ ด้วยการใช้คำว่า“พิเศษ”ในทุกสถานการณ์
ลูกจะเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ
และด้วยสำนึกนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงตนเองและการเปลี่ยนแปลงโลกอย่างง่ายดาย
เพิ่มคำว่า“พิเศษ”อยู่เรื่อยๆในทุกสถานการณ์ โดยการทำเช่นนี้
ลูกจะบรรลุเป้าหมายของลูก หรือจุดหมายปลายทางของการได้รับความสมบูรณ์พร้อมเช่นนั้น
2.
ลูกทำให้ตนเองมีสำนึกรู้ในพ่อและมรดกอยู่เสมอหรือไม่?
ด้วยการมีสำนึกรู้ที่สูงส่งนี้ลูกจะได้สัมผัสกับสภาพที่สูงส่ง
พื้นฐานของสภาพของลูกคือสำนึกรู้ของลูก ถ้าสำนึกรู้ของลูกอ่อนแอ
สภาพของลูกก็จะอ่อนแอเช่นกัน ให้สำนึกรู้ของลูกมีพลังเสมอ
สำนึกรู้ที่มีพลังนั้นก็คือ “ฉันเป็นของพ่อและพ่อเป็นของฉัน” ด้วยการมีสำนึกรู้นี้
สภาพของลูกจะคงอยู่อย่างมีพลัง และลูกจะทำให้ผู้อื่นมีพลังเช่นกัน
ดังนั้นให้มีความใส่ใจเป็นพิเศษกับสำนึกรู้ของลูกเสมอ
ให้มีสำนึกรู้ที่มีพลังและสภาพที่มีพลังอย่างสม่ำเสมอซึ่งงานรับใช้ที่มีพลังจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
ให้ทั้งสามสิ่งนั่นคือสำนึกรู้,สภาพจิตและงานรับใช้ของลูกมีพลัง
เมื่อลูกเปิดสวิทช์ไฟก็จะสว่างและเมื่อลูกปิดสวิทช์ไฟก็จะมืด
ในทำนองเดียวกันสำนึกรู้ก็คือสวิทช์เช่นกัน
หากสวิทช์ของสำนึกรู้ของลูกอ่อนแอแล้วสภาพของลูกก็อ่อนแอเช่นกัน
ให้มีความใส่ใจกับสวิทช์ของสำนึกรู้ของลูกเสมอ
เมื่อลูกทำสิ่งนี้ก็จะมีคุณประโยชน์กับตนเองและทุกคน
ลูกมีการเกิดใหม่และดังนั้นควรจะมีสำนึกรู้ใหม่
เวลานี้สำนึกรู้เก่าทั้งหมดได้จบสิ้นลงแล้ว
ดังนั้นจงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องโดยใช้วิธีนี้อย่างสม่ำเสมอ
3.
ลูกทั้งหมดคิดว่าตนเองมีโชคหรือไม่? การได้มาถึงดินแดนแห่งพรนั้นเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่
โชคที่ลูกได้รับคือโชคของการมาถึงดินแดนแห่งพร
แต่ลูกสามารถสร้างโชคนี้ให้สูงส่งได้มากเท่าที่ลูกต้องการ
หนทางที่สูงส่งคือปากกาที่ใช้วาดเส้นโชคของลูก
ยิ่งลูกเฝ้าแต่สร้างเส้นโชคที่สูงส่งของลูกมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งกลับมาสูงส่งมากเท่านั้น
เวลาที่สูงส่งนี้เป็นเวลานี้เท่านั้นจากทั้งวงจรที่จะสร้างเส้นโชคของลูก
ลูกได้มาถึงสถานที่เช่นนี้ในเวลาเช่นนี้ ดังนั้นลูกไม่ใช่ผู้มีความสุขเพียงเล็กน้อย
เมื่อผู้ประทานให้แล้วเหตุใดผู้รับถึงเหนื่อยล้า?
มีเพียงการจดจำระลึกถึงพ่อเท่านั้นที่จะทำให้ลูกสูงส่ง
การจดจำระลึกถึงพ่อหมายถึงการกลับมาบริสุทธิ์
ลูกมีความสัมพันธ์ชาติเกิดแล้วชาติเกิดเล่าและดังนั้นการจดจำระลึกถึงนั้นจะยากไหม?
เพียงจดจำบาบาด้วยความรักและด้วยความสัมพันธ์
เมื่อลูกมีความรักกับใครบางคนก็เป็นไปไม่ได้ที่ลูกจะไม่จำคนนั้น
ในความเป็นจริงแม้ว่าลูกพยายามที่จะลืมคนนั้น ลูกก็จะยังคงจดจำเขา อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกให้ประกายแห่งความพอใจเพียงแวบหนึ่งบนหน้าผากของลูกและกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ให้นิมิต
ประกายแห่งความพอใจยังคงเปล่งประกายบนหน้าผากของผู้ที่อยู่อย่างพอใจอยู่เสมอ
หากดวงวิญญาณที่ไม่มีความสุขเห็นพวกเขาดวงวิญญาณนั้นก็จะมีความสุขและความทุกข์ของพวกเขาก็จะจบสิ้นลง
ทุกคนจะถูกดึงดูดโดยอัตโนมัติไปยังผู้ที่มีสมบัติแห่งความสุขของความพอใจ
ใบหน้าแห่งความสุขของพวกเขากลายเป็นป้ายที่มีชีวิตที่ให้การแนะนำของผู้เดียวที่สร้างพวกเขา
ดังนั้นจงกลายเป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจที่อยู่ในความพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจ
เพื่อให้หลายคนสามารถมีนิมิต
คติพจน์:
เป็นหน้าที่ของผู้ที่ทำร้ายคนอื่นให้เจ็บปวด
และมันเป็นหน้าที่ของลูกที่จะปกป้องตนเองให้ปลอดภัย