24.06.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
เมื่อลูกดวงวิญญาณสะอาดโลกนี้จะกลายเป็นโลกที่ให้ความสุข
สาเหตุของความทุกข์คือการกระทำที่ทำภายใต้อิทธิพลของกิเลสทั้งห้า (คำพูดอันล้ำค่าของมาเตชวารี)
เพลง:
ดวงตาไม่รู้
แต่หัวใจจดจำ ...
ลูกได้ยินการสรรเสริญพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดของลูก
ไม่สามารถมีการสรรเสริญของมนุษย์ทั่วไป
การสรรเสริญนี้เป็นของผู้ที่มีสิทธิ์ในการสรรเสริญนี้
เนื่องจากการร้องเพลงสรรเสริญของท่านเป็นไปตามกิจกรรมของท่าน
กิจกรรมของท่านยิ่งใหญ่กว่าของมนุษย์ทุกคน
เพราะกิจกรรมของท่านนั้นเป็นไปเพื่อมนุษย์ทุกคน
ดังนั้นท่านจึงกลายเป็นผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
เนื่องจากมีผู้ให้การปลดปล่อยและการหลุดพ้นสำหรับทุกคนเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ลูกไม่สามารถพูดได้ว่าท่านให้การปลดปล่อยและการหลุดพ้นกับคนไม่กี่คน
ท่านเป็นผู้ให้การปลดปล่อยและการหลุดพ้นสำหรับทุกคน
ดังนั้นท่านจึงเป็นผู้ที่ทรงพลังอำนาจสำหรับทุกคนใช่ไหม?
ไม่ว่าในกรณีใดถ้าลูกมองในลักษณะทั่วไป,จะมีการร้องเพลงสรรเสริญใครบางคนเมื่อเขานั้นทำงานบางอย่าง
ผู้ที่ทำงานเช่นนั้นจะได้รับการยกย่อง
ดังนั้นคำสรรเสริญของพ่อคือท่านเป็นผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
ท่านจะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอนและทำงานที่ยิ่งใหญ่ และนั่นต้องเป็นไปเพื่อเรา
เพื่อโลกของมนุษย์ ท่านดำเนินงานที่ยิ่งใหญ่และงานที่สูงส่งเพื่อโลกนี้
เพราะท่านเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้การบำรุงรักษาและหล่อเลี้ยงโลกนี้
ดังนั้นท่านจึงมาและทำให้โลกสูงส่ง ท่านเปลี่ยนทุกสิ่งรวมทั้งวัตถุธาตุ
อย่างไรก็ตามท่านนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีใด? ท่านนั่งและอธิบายสิ่งนี้
เพราะมันไม่ใช่ว่าเป็นดวงวิญญาณมนุษย์ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในดวงวิญญาณทั้งหลาย
หรือไม่ใช่ว่าด้วยพลังของดวงวิญญาณ
ด้วยพลังของการกระทำของลูกที่พลังทั้งหมดนั้นจะทำงานในเรื่องสสารและวัตถุธาตุ
ในความเป็นจริงท่านเป็นผู้ที่สร้าง และถ้าท่านสร้างท่านสร้างอย่างไร?
เมื่อดวงวิญญาณกลับมาสูงส่ง ร่างกาย วัตถุธาตุ สสาร ฯลฯ
ทั้งหมดก็เข้ามาอยู่ในพลังของพวกเขาตามลำดับกันไปบนพื้นฐานของดวงวิญญาณ
และด้วยสิ่งนี้ที่ทั้งโลกจะให้ผลดี (เขียวและสด) และมีความสุข
พ่อผู้ทำให้โลกมนุษย์มีความสุขรู้ว่าโลกมนุษย์จะมีความสุขอย่างไร
โลกจะไม่มีความสุขจนกว่าดวงวิญญาณจะสะอาด(บริสุทธิ์)
และนี่คือสาเหตุแรกที่ท่านมาและทำให้ดวงวิญญาณสะอาด
เวลานี้ดวงวิญญาณอยู่ในสภาพที่ไม่บริสุทธิ์ (ไม่สะอาด)
ดังนั้นก่อนอื่นต้องขจัดความไม่บริสุทธิ์นี้ออกไป
จากนั้นด้วยพลังของดวงวิญญาณทุกสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ (ตะโมประธาน) จะกลับมาบริสุทธิ์
(สะโตประธาน) ซึ่งหมายความว่าทุกคนจะกลายเป็นยุคทอง
ดังนั้นวัตถุธาตุทั้งหมดเหล่านี้และอื่น ๆ เข้ามาในสภาพยุคทองของพวกเขา
แต่ก่อนอื่นสภาพของดวงวิญญาณจะต้องเปลี่ยน
ดังนั้นท่านคือผู้ทรงอำนาจที่เปลี่ยนดวงวิญญาณ
นั่นคือท่านคือผู้ชำระดวงวิญญาณให้บริสุทธิ์
ลูกจะเห็นว่าเวลานี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ก่อนอื่นเราต้องเปลี่ยนแปลงตนเอง
และเมื่อเราเปลี่ยนแปลงตนเองบนพื้นฐานนั้นโลกก็จะเปลี่ยนแปลง
หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในตัวเราเองแม้กระทั่งตอนนี้
ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนแปลงตนเองแล้วโลกจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร?
ดังนั้นตรวจสอบตนเองทุกวัน
ผู้ที่รักษาบัญชีของพวกเขาไว้จะตรวจสอบบัญชีของพวกเขาทุกคืนเพื่อดูว่าพวกเขาสะสมได้มากแค่ไหน
แต่ละคนก็เก็บรักษาบัญชีของตนเองไว้
ดังนั้นที่นี่เช่นกันลูกต้องเก็บบันทึกชาร์ทของลูกว่ามีกำไรเท่าไหร่และขาดทุนเท่าไหร่ตลอดทั้งวัน
หากมีการสูญเสียมากขึ้นแล้วก็จะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นในวันถัดไป
โดยให้ความสนใจในวิธีนี้ โดยการทำกำไรให้มากขึ้น เราจะสามารถไปถึงตำแหน่งของเราได้
ดังนั้นโดยการตรวจสอบตนเองด้วยวิธีนี้ลูกจะได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงในตนเอง
อย่าคิดว่า “ฉันจะกลายเป็นเทพ
แต่ว่าในภายหลังสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้วไม่เป็นไร” ไม่เลย
ซันสการ์ของเทพเหล่านี้จะต้องสร้างขึ้นมาในเวลานี้
ไม่ว่าซันสการ์อะไรก็ตามที่เรามีภายใต้อิทธิพลของกิเลสทั้งห้า
เวลานี้เราต้องดูว่าเราเป็นอิสระจากกิเลสเหล่านั้นหรือไม่
ความโกรธที่มีอยู่ในตัวฉันถูกขจัดออกไปหรือไม่?
ซันสการ์ของกิเลสของความละโมบและความผูกพันยึดมั่นเปลี่ยนแปลงหรือไม่?
หากสิ่งเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงและลูกกำลังเป็นอิสระแล้วลูกควรเข้าใจว่าลูกกำลังเปลี่ยนแปลง
หากลูกไม่ได้เป็นอิสระจากสิ่งเหล่านี้ ลูกก็สามารถเข้าใจได้ว่าลูกไม่ได้เปลี่ยนแปลง
ดังนั้นลูกควรรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตนเอง
อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ตลอดทั้งวันลูกยังคงเคลื่อนไปบนพื้นฐานของบัญชีของกิเลสและเพียงเพราะลูกได้บริจาคทานเล็กน้อยหรือทำบุญบางอย่างนั่นก็ดีแล้ว
ไม่เลย เราต้องดูแลตนเองด้วยบัญชีของการกระทำของเรา
สิ่งที่ลูกกำลังทำอยู่จงตรวจสอบดูว่าลูกไม่ได้สร้างบัญชีของกิเลสโดยทำบางสิ่งภายใต้อิทธิพลของกิเลส
ลูกต้องดูแลตนเองในสิ่งนี้ ลูกต้องเก็บรักษาบัญชีทั้งหมดนี้
ก่อนเข้านอนให้ตรวจสอบตนเองเป็นเวลาสิบถึงสิบห้านาทีเพื่อดูว่าวันนั้นของลูกเป็นอย่างไร
บางคนถึงกับจดบันทึก
นี่เป็นเพราะภาระของบาปในอดีตที่อยู่บนหัวของลูกจะต้องถูกขจัดออกไปและสำหรับสิ่งนั้นคำแนะนำของพ่อคือ:
จดจำพ่อ ดังนั้นลูกให้เวลากับการจดจำระลึกถึงมากเท่าไร?
โดยการเก็บรักษาชาร์ทนี้ลูกจะอยู่อย่างระมัดระวังในวันถัดไป
ด้วยการเตือนตนเองในลักษณะนี้ลูกจะต้องระมัดระวัง และลูกจะเฝ้าแต่ทำกรรมที่ดีต่อไป
และลูกจะไม่ทำบาปใดๆเช่นนั้น ดังนั้นลูกต้องปกป้องตนเองจากการกระทำบาป
กิเลสเหล่านี้ทำให้เราไม่ดี เราไม่มีความสุขเพราะกิเลส
เวลานี้เราต้องกลับมาเป็นอิสระจากความทุกข์และนี่คือสิ่งหลัก
ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเราร้องเรียกหาพระเจ้าและจดจำระลึกถึงท่าน
ไม่ว่าเราจะพยายามทำอะไรก็ตาม เราทำสิ่งเหล่านั้นเพื่ออะไร?
เราทำเพื่อความสุขและความสงบ ดังนั้นเราจึงต้องมีการฝึกฝนในทางปฏิบัติในเวลานี้
นี่คือวิทยาลัยสำหรับการทำสิ่งนั้นในทางปฏิบัติ โดยการฝึกฝนสิ่งนี้เราจะกลับมาสะอาด
นั่นคือเราจะยังคงบริสุทธิ์ต่อไป
จากนั้นเราจะบรรลุเป้าหมายดั้งเดิมของครอบครัวที่คงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์และบริสุทธิ์
ตัวอย่างเช่น
บางคนจะไปที่วิทยาลัยการแพทย์เพื่อเป็นหมอและเขาก็จะกลายเป็นหมอด้วยการฝึกฝนทางการแพทย์
(ประสบการณ์จริงในทางปฏิบัติ)
ในทำนองเดียวกันนี้ในวิทยาลัยนี้เราก็จะเฝ้าแต่เป็นอิสระจากกิเลสเหล่านี้
นั่นก็คือจากการกระทำที่เป็นบาปด้วยการศึกษานี้ นั่นก็คือด้วยการฝึกฝนสิ่งนี้
ดังนั้นแล้วระดับของความสะอาดเป็นเช่นไร? เทพ
เทพเหล่านี้ได้รับการจดจำ และการสรรเสริญของพวกเขาคือ: เต็มไปด้วยคุณธรรมทั้งหมด,
สมบูรณ์พร้อมสิบหกองศาเต็ม, ปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง…ดังนั้นเราจะกลายเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?
ไม่ใช่ว่าเราได้กลายเป็นสิ่งนั้นไปแล้ว ไม่เลย เราจะต้องกลายเป็นสิ่งนั้น
เพราะเราถูกทำให้เสียหายและเราต้องกลายเป็นสิ่งนั้นอีกครั้ง
ไม่ใช่ว่ามีอีกโลกหนึ่งของเทพ เรามนุษย์จะกลายเป็นเทพ
เทพเหล่านั้นได้ตกต่ำลงมาและเวลานี้ต้องสูงส่งขึ้น
ในความเป็นจริงพ่อกำลังสอนเราว่าจะสูงส่งขึ้นอย่างไร
เวลานี้เราต้องสร้างความสัมพันธ์กับพ่อ เวลานี้พ่อมาแล้วและทำให้เรารู้แจ้ง:
ในท้ายที่สุดลูกเป็นของพ่อ ดังนั้นลูกจะเป็นของพ่ออยู่เสมอได้อย่างไร?
ในชีวิตทางโลก ลูกๆยังคงเป็นของพ่อของเขา
และพ่อก็ยังคงเป็นของลูกของเขาต่อไปอย่างไร?
ในทำนองเดียวกันลูกต้องเคลื่อนต่อไปโดยเป็นของพ่อด้วยร่างกายจิตใจและทรัพย์สมบัติของลูก
ลูกจะเคลื่อนไปอย่างไร? ตัวอย่างของสิ่งนั้นคือดาดานี้ที่พ่อเข้ามาในร่างกายของเขา
เขาได้ให้ทุกสิ่ง - ร่างกายจิตใจและทรัพย์สมบัติ - และเคลื่อนไปอย่างเป็นของพ่อ
ทำตามพ่อในทำนองเดียวกัน ไม่มีอะไรที่จะถามหรือสับสนในสิ่งนี้
มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายและตรงไปตรงมา ดังนั้นเวลานี้จงเดินหน้าต่อไป
อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกได้ยินมากและดูดซับเพียงเล็กน้อย ไม่เลย
ฟังเล็กน้อยแล้วซึมซับให้มากๆ
ลูกจะนำทุกสิ่งที่ลูกเคยได้ยินไปใช้ในรูปปฏิบัติได้อย่างไร:
คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ต่อไปอย่างเต็มที่ ก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยการฝึกฝนของลูก
อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกเพียงแค่ฟังและฟังไปเรื่อยๆเท่านั้น… ไม่เลย
ไม่ว่าลูกจะได้ยินอะไรก็ตามในวันนี้ หากใครจะนำสิ่งนั้นไปใช้ในรูปปฏิบัติ เช่น: “นั่นคือ
ตั้งแต่วันนี้ฉันจะดำเนินการต่อในสภาพนี้ ฉันจะไม่ทำการกระทำใด ๆ
ภายใต้อิทธิพลของกิเลส และฉันจะทำให้ตารางเวลาประจำวันของฉันเป็นไปในลักษณะนี้
ฉันจะเก็บรักษาชาร์ทของฉันเช่นนี้ ...”
ถ้ามีใครบางคนนำสิ่งนี้ไปฝึกฝนในทางปฏิบัติแล้ว ก็ลองดูว่าเขาจะกลายเป็นเช่นไร
สิ่งใดก็ตามที่พูดในตอนนี้จะต้องนำสิ่งนั้นไปใช้ในรูปปฏิบัติ อะไรก็ตามที่ลูกพูด
อะไรก็ตามที่ลูกได้ยิน จงทำสิ่งนั้น แค่นี้แหละ ไม่มีอะไรอีกแล้ว
เพียงใส่ใจกับการกระทำของลูก ลูกเข้าใจไหม?
เช่นที่ลูกรู้จักทั้งบัพและดาดาเป็นอย่างดีใช่ไหม? ดังนั้นเวลานี้ทำตามท่านทั้งสอง
ถึงลูกที่มีค่าและเชื่อฟังที่ทำตามพวกท่าน
นั่นคือถึงลูกที่น่ารักและแสนหวานเช่นนั้น ด้วยความรัก ระลึกถึง และอรุณสวัสดิ์
มุรลีที่สอง: 1957
เพลง:
ดูโลกเล็ก ๆ ของฉัน ...
เพลงนี้ร้องเมื่อไหร่?
เพราะมันเป็นเพียงเวลานี้ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่มีโลกเล็ก ๆ
ของสกุลบราห์มินซึ่งเป็นครอบครัวของเราที่แสดงตามลำดับกันไป
เราเป็นลูกหลานของพ่อผู้สูงสุดดวงวิญญาณสูงสุด
เราเป็นลูกที่เกิดจากปากของบราห์มาและสรัสวดี และวิษณุและชังการ์เป็นลุงของเรา
และเราทุกคนต่างก็เกี่ยวข้องกันในฐานะพี่น้องหญิงชาย นี่คือโลกเล็ก ๆ ของเรา
ไม่มีการสร้างความสัมพันธ์อื่นนอกจากความสัมพันธ์เหล่านี้
ในเวลานี้เรามีความสัมพันธ์เหล่านี้เท่านั้น
ดูสิเราเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น
ปู่ของเราคือชีวาและชื่อของท่านนั้นยิ่งใหญ่มาก ท่านเป็นเมล็ดของโลกมนุษย์ทั้งมวล
เพราะท่านให้คุณประโยชน์กับคนทั้งโลก ท่านจึงถูกเรียกว่าฮาร์ฮาร์โบลานาถชีวามาห์เทพ
(พระเจ้าชีวาที่ไร้เดียงสา เทพผู้ยิ่งใหญ่ที่ขจัดความทุกข์ทั้งหมดออกไป)
ท่านเป็นผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุขสำหรับทั้งโลก
เราได้รับสิทธิ์อย่างมากในการมีความสุข ความสงบและความบริสุทธิ์จากท่าน
ในความสงบนั้นไม่มีบัญชีกรรมของบ่วงกรรม อย่างไรก็ตามพื้นฐานของทั้งสองนี้ (ความสงบและความสุข)
คือความบริสุทธิ์
เราไม่สามารถรับมรดกนั้นได้จนกว่าเราจะประกาศสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดของการหล่อเลี้ยงของพ่อ
จนกว่าเราจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากพ่อ ดูสิบราห์มามีงานต้องทำมากมาย
เขาทำให้ดวงวิญญาณที่สกปรก,ไม่สะอาดและไม่บริสุทธิ์ด้วยกิเลสทั้งห้ากลับมาสวยงาม
รางวัลของงานทางจิตนั้นได้รับในยุคทองเป็นสถานะภาพอันดับหนึ่งของศรีกฤษณะ
ดูสิว่าความสัมพันธ์ของลูกกับพ่อเป็นอย่างไร
ดังนั้นลูกต้องอยู่อย่างไร้กังวลและมีความสุข
เวลานี้ให้ลูกแต่ละคนถามหัวใจของลูกเอง: ฉันเป็นของพ่ออย่างสมบูรณ์หรือไม่?
คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้: ในเมื่อพ่อผู้สูงสุดดวงวิญญาณสูงสุดมาแล้ว
เราควรประกาศสิทธิ์ในมรดกที่สมบูรณ์ของเราจากท่าน
เป็นหน้าที่ของนักเรียนที่จะต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่จะประกาศสิทธิ์ในทุนการศึกษา
ดังนั้นทำไมเราถึงไม่ควรถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง?
นั่นคือการถูกร้อยเข้าไปในสายลูกประคำแห่งชัยชนะ
อย่างไรก็ตามมีบางคนกำลังนั่งถือสองแลดดัส(ขนมรูปทรงกลมของอินเดีย) (บางสิ่งในมือแต่ละข้าง,
เท้าอยู่ในเรือสองลำ) พวกเขาต้องการสัมผัสกับความสุขที่มีขีดจำกัดที่นี่
และความสุขเล็กๆของโลกแห่งสวรรค์เช่นกัน
ผู้ที่มีความคิดเช่นนี้กล่าวกันว่าเป็นผู้ที่เพียรพยายามระดับกลางหรือระดับต่ำ
ไม่ใช่ผู้ที่เพียรพยายามที่สูงส่งที่สุด
เนื่องจากพ่อไม่ประนีประนอมแต่อย่างใดในการให้
เหตุใดคนเหล่านั้นที่ได้รับสิ่งนั้นจึงทำเช่นนั้น? เหตุนี้เองกูรูนานักถึงพูดว่า:
พระเจ้าเป็นผู้ประทาน ท่านเป็นผู้ทรงอำนาจ แต่ดวงวิญญาณไม่มีพลังแม้กระทั่งที่จะรับ
มีการพูดว่า: ผู้ที่ให้ไม่เหนื่อยในการให้ แต่ผู้ที่รับเหนื่อยในการับ
มันอาจเข้ามาในหัวใจของลูก: ทำไมฉันไม่ปรารถนาที่จะมีสถานภาพนั้น?
อย่างไรก็ตามดูสิว่าบาบาทำความพยายามมากแค่ไหน
และแม้กระทั่งมายาก็ทำให้เกิดอุปสรรคมากมาย เพราะเหตุใด?
อาณาจักรของมายาเวลานี้กำลังจะจบสิ้น เวลานี้มายาได้นำเอาความหวานชื่นไปหมดแล้ว
และจากนั้นพระเจ้าก็มา ท่านเต็มไปด้วยความหวานชื่นทั้งหมด
เราได้รับความหวานชื่นของความสัมพันธ์ทั้งหมดจากท่าน
และเหตุนี้เองจึงมีการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า: ท่านคือแม่และท่านคือพ่อ ...
ดังนั้นความยิ่งใหญ่นี้ก็คือเวลาที่เรามีความสัมพันธ์นี้กับท่าน
ดังนั้นเราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์กับพระเจ้าเพื่อที่เราจะได้รับความสุขเป็นเวลา
21 ชาติเกิด นี่คือรางวัลของความเพียรพยายามของเรา
อย่างไรก็ตามอย่าได้เพิกเฉยเมื่อได้ยินเกี่ยวกับ 21 ชาติเกิด อย่าคิดว่า:
เราต้องเพียรพยายามอย่างมากสำหรับสิ่งนี้เพื่อ 21 ชาติเกิด และถึงกระนั้นหลังจาก 21
ชาติเกิดแล้ว เราก็ยังคงต้องตกต่ำลงมาอยู่ดี แล้วเราได้มาซึ่งการบรรลุผลอะไรหรือ?
อย่างไรก็ตาม ตามละคร รางวัลที่สูงส่งอะไรก็ตามถูกกำหนดไว้แล้วสำหรับดวงวิญญาณ
พวกเขาก็จะได้รับใช่ไหม? พ่อมาและทำให้เราไปถึงสภาพที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อม
แต่เราลูก ๆ ก็ลืมบาบา และดังนั้นเราจะตกลงมาอย่างแน่นอน
พ่อไม่สามารถตำหนิสำหรับสิ่งนั้นได้ มันเป็นความอ่อนแอของเราผู้เป็นลูก
ความสุขของยุคทองและยุคเงินทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเพียรพยายามของชาติเกิดนี้
และดังนั้นทำไมเราไม่ทำความเพียรพยายามอย่างเต็มที่และเล่นบทบาทที่สูงส่งที่สุดของเรา?
ทำไมเราไม่ควรทำความเพียรพยายามและประกาศสิทธิ์ในมรดกนั้น?
มนุษย์พยายามที่จะได้รับความสุขเสมอ
ไม่มีใครพยายามที่จะไปอยู่เหนือความสุขและความทุกข์
ในตอนท้ายของละครที่พระเจ้ามาให้ผลที่ตามมา (การลงโทษ)
แก่ทุกดวงวิญญาณและชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์และปลดปล่อยพวกเขาออกจากบทบาทของพวกเขา
นี่คืองานของพระเจ้าและท่านจะมาในเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้วของท่านและบอกสิ่งนี้กับเรา
ในเมื่อลูกดวงวิญญาณต้องมาและเล่นบทบาทของลูกอีกครั้ง
ทำไมไม่เล่นบทบาทที่สูงส่งที่สุด? อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน, ด้วยความรักและความทรงจำระลึกถึง จากแม่ โอม ชานติ
พร:
ขอให้ลูกมั่นคงและไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนอยู่เสมอ และด้วยสำนึกรู้ของคำว่า "บาบา"
จงเปลี่ยนคำว่า "เหตุผล" เป็น "การแก้ปัญหา"
ทันทีที่ลูกพูดว่า “บาบา”
สำหรับสถานการณ์ที่แปรปรวน ลูกจะไม่หวั่นไหว
เมื่อลูกเริ่มคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ลูกจะรู้สึกยากลำบาก
ถ้าแทนที่จะคิดเกี่ยวกับเหตุผล
ลูกกลับเริ่มคิดถึงวิธีแก้ปัญหาแล้วเหตุผลก็จะกลายเป็นการแก้ปัญหา
เพราะสถานการณ์ไม่เป็นแม้กระทั่งเหมือนมดเบื้องหน้าของบราห์มินผู้เป็นนายที่ทรงพลังอำนาจ
แทนที่จะแค่คิดว่า มันเกิดอะไรขึ้น หรือทำไมมันถึงเกิดขึ้น
ให้คิดว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์
ซึ่งงานรับใช้หลอมรวมอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน
และแม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย แต่งานรับใช้จะหลอมรวมอยู่ในนั้น
และลูกจะอยู่อย่างไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนเสมอ
คติพจน์:
ผู้ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพ่อผู้เดียวจะไม่สามารถได้รับอิทธิพลจากคนอื่น