06.06.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ลูกๆ ดวงวิญญาณเป็นนักแสดงในการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
บ้านที่เงียบสงบที่แสนหวานคือสถานที่อยู่อาศัยของลูกซึ่งเวลานี้ลูกต้องกลับไป
คำถาม:
คำพูดใดที่ไม่สามารถออกจากปากของผู้ที่เข้าใจละครอย่างถูกต้องแม่นยำ?
คำตอบ:
“คงจะดีกว่านี้ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น!
สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น!” ผู้ที่เข้าใจละครจะไม่พูดคำพูดเช่นนี้ ลูกๆ
รู้ว่าละครเคลื่อนไปเรื่อยๆเหมือนตัวไร
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นถูกกำหนดไว้แล้วในละคร ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล
โอมชานติ
เมื่อพ่อให้คำแนะนำของท่านเองแก่ลูก ลูกๆก็ได้รับคำแนะนำของตัวลูกเองด้วยเช่นกัน
ลูกๆอยู่อย่างมีสำนึกที่เป็นร่างมาเป็นเวลาอันยาวนาน
หากลูกกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ลูกก็จะมีคำแนะนำของพ่อที่ถูกต้องแม่นยำ
อย่างไรก็ตามมันไม่เป็นเช่นนั้นในละคร แม้ว่าพวกเขาพูดว่าพระเจ้าคือพระเจ้า
พ่อและผู้สร้าง พวกเขาก็ไม่รู้จักท่าน มีสัญลักษณ์รูปไข่ขนาดใหญ่ของชีวาด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามท่านไม่ได้มีขนาดใหญ่เช่นนั้น
เนื่องจากการไม่รู้จักพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำ พวกเขาจึงลืมท่าน
พ่อคือผู้สร้างและดังนั้นท่านจะสร้างโลกใหม่อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเราลูกๆ
ควรที่จะได้รับมรดกของอาณาจักรของโลกใหม่ของเราอย่างแน่นอน ชื่อ“สวรรค์”มีชื่อเสียงโด่งดังเช่นกันในบารัต
แต่ผู้คนไม่เข้าใจอะไรเลย เมื่อใครบางคนตายพวกเขาก็พูดว่าเขาได้จากไปสวรรค์แล้ว
สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นไหม? เวลานี้ลูกเข้าใจว่าพวกเราทั้งหมดมีสติปัญญาที่ตกต่ำ
แม้ว่าสิ่งนี้กล่าวได้ว่าตามลำดับกันไปก็ตาม
เมื่อมีการอธิบายว่าพระเจ้าเข้ามาในร่างของผู้นี้ในชาติเกิดสุดท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของเขา
สิ่งนี้หมายถึงบุคคลหลักคนแรก ผู้นี้คืออันดับหนึ่ง
ลูกๆเข้าใจว่าเวลานี้ลูกกลายเป็นบราห์มิน ลูกๆของท่าน
ประเด็นทั้งหมดเหล่านี้ต้องเป็นที่เข้าใจ พ่อได้อธิบายมาเป็นเวลานาน
ในความเป็นจริงเป็นเรื่องของหนึ่งวินาทีอย่างแท้จริงที่จะตระหนักรู้จักพ่อ
พ่อพูดว่า: จดจำพ่อแล้วบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
เมื่อลูกมีศรัทธาก็ไม่ควรมีคำถามเกิดขึ้นเกี่ยวกับแง่มุมใดๆ
พ่อได้อธิบายแล้วว่าลูกบริสุทธิ์เมื่อลูกอยู่ในดินแดนแห่งความสงบ
มาจากพ่อที่ลูกได้ยินสิ่งเหล่านี้ ไม่มีใครอื่นสามารถบอกสิ่งเหล่านั้นแก่ลูกได้
ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าลูกอยู่ที่ไหน เช่นที่นักแสดงในละครนั้นพูดว่า
พวกเขาอาศัยอยู่ในสถานที่นั้นๆ พวกเขาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของเขาและขึ้นมาบนเวที
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกไม่ใช่ผู้อาศัยของสถานที่นี้ นี่คือโรงละคร
เวลานี้ได้เข้ามาสู่สติปัญญาของลูกว่าลูกคือผู้อาศัยของโลกที่ไม่มีตัวตน
ซึ่งเรียกว่าบ้านที่เงียบสงบที่แสนหวาน
ทุกคนต้องการที่จะไปที่นั่นเพราะทุกดวงวิญญาณทั้งหมดไม่มีความสุข
ดังนั้นพวกเขาจึงถาม: เราจะสามารถกลับบ้านอีกครั้งได้อย่างไร?
พวกเขาเร่ร่อนไปทั่วเพราะพวกเขาไม่รู้ทางที่จะกลับบ้าน
เวลานี้ลูกได้รับการปลดปล่อยจากการเร่ร่อนไปทั่วแล้ว
ลูกๆเข้าใจอย่างแท้จริงว่าเวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน
ฉันดวงวิญูญาณเป็นจุดที่สุดแสนเล็ก นี่ก็เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติเช่นกัน
จุดที่สุดแสนเล็กมีบทบาทที่ใหญ่เช่นนั้นบันทึกอยู่ภายในพวกเขา ลูกรู้ด้วยเช่นกันว่า
พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด เล่นบทบาทของท่านอย่างไร ท่านเป็นนักแสดงหลัก
ท่านคือคารันคาราวันฮา ลูกๆ ที่แสนหวานเข้าใจเวลานี้ว่าลูกมาจากดินแดนแห่งความสงบ
ดวงวิญญาณไม่ได้เกิดใหม่จากที่ใดที่หนึ่งและเข้าไปสู่ร่างกาย ไม่เลย
ดวงวิญญาณทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านที่แสนหวาน
พวกเขามาจากที่นั่นเพื่อเล่นบทบาทของพวกเขา ทุกคนมีบทบาทในการเล่น นี่คือการละเล่น
ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดวงดาวฯลฯคืออะไร?
ทั้งหมดคือแสงไฟภายใต้แสงไฟนั้นมีการแสดงการละเล่นของกลางวันและกลางคืน บางคนพูดว่า:
ขอคารวะต่อสุริยะเทพ ขอคารวะต่อจันทราเทพ
อย่างไรก็ตามดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ไม่ใช่เทพ ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการละเล่นนี้
พวกเขาแม้กระทั่งกล่าวถึงดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ว่าเป็นเทพ
แต่ในความเป็นจริงสิ่งเหล่านี้เป็นแสงไฟสำหรับการแสดงของทั้งโลก
เราคือผู้อาศัยในบ้านที่เงียบสงบที่แสนหวาน เรากำลังเล่นบทบาทของเราที่นี่
วงจรนี้เฝ้าแต่เคลื่อนต่อไปเหมือนตัวไร
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นถูกกำหนดไว้ในละคร ลูกต้องไม่พูดว่า: ไม่ควรเป็นเช่นนี้
ควรจะเป็นเช่นนั้น นี่คือละครใช่ไหม? ยกตัวอย่างเช่นลูกไม่เคยคิดว่าแม่ของลูก(มาม่า)
จะจากลูกไป โอเค เธอได้จากร่างของเธอ ละคร! เวลานี้เธอกำลังเล่นบทบาทใหม่ของเธอ
ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องกังวล
มันอยู่ในสติปัญญาของลูกทั้งหมดว่าลูกแต่ละคนเป็นนักแสดงที่นี่
นี่คือการละเล่นของชัยชนะและความพ่ายแพ้
การละเล่นของชัยชนะและความพ่ายแพ้นี้อยู่บนพื้นฐานของมายา เมื่อลูกพ่ายแพ้ต่อมายา
ลูกจะพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง และเมื่อลูกชนะมายา ลูกก็จะเอาชนะทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์
ทุกคนร้องเพลงนี้ แต่ไม่มีใครมีความรู้ใดในสติปัญญาของพวกเขา ลูกรู้ว่ามายาคืออะไร
มายาถูกเรียกว่าราวันเช่นกัน ความมั่งคั่งเรียกว่าความเจริญรุ่งเรือง
ไม่สามารถเรียกว่ามายา
ผู้คนคิดว่าผู้นั้นผู้นี้มีทรัพย์สมบัติมากมายและดังนั้นพวกเขาพูดว่า:
เขามีความซาบซึ้งของมายา อย่างไรก็ตามจะมีความซาบซึ้งของมายาได้หรือไม่?
เรากำลังพยายามที่จะเอาชนะมายา ดังนั้นลูกไม่ควรมีข้อสงสัยใด ๆ
เกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ เป็นเมื่อสภาพของลูกอ่อนแอที่ความสงสัยเกิดขึ้น
เวลานี้พระเจ้ากำลังพูด พูดกับใคร? พูดกับลูกดวงวิญญาณ ชีวาเท่านั้นคือพระเจ้า
และท่านเท่านั้นที่สามารถพูดกับดวงวิญูญาณ กฤษณะคือผู้มีร่างกาย
เขาจะสามารถพูดกับดวงวิญญาณได้อย่างไร? ไม่มีผู้มีร่างกายให้ความรู้แก่ลูก
พ่อไม่มีร่างกาย คนอื่นเหล่านั้นแต่ละคนมีร่างกายซึ่งได้รับการกราบไหว้บูชา
เป็นสิ่งที่ง่ายที่จะจดจำพวกเขา บราห์มา,วิษณุและชังก้าร์นั้นเรียกว่าเทพ
ชีวาเรียกว่าพระเจ้า พระเจ้าผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดไม่มีร่างกาย
ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าเมื่อลูกอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตน ลูกไม่มีร่างกาย ไม่มี
เพียงดวงวิญญาณเท่านั้นที่อยู่ที่นั่น บาบาคือดวงวิญญาณเช่นกัน
ความแตกต่างเดียวเท่านั้นคือท่านคือสิ่งสูงสุด บทบาทของท่านได้รับการยกย่องสรรเสริญ
เป็นเพราะท่านได้เล่นบทบาทและได้จากไปซึ่งท่านได้รับการกราบไหว้บูชา
อย่างไรก็ตามไม่มีมนุษย์แม้แต่คนเดียวที่รู้ว่าพ่อสูงสุด,ดวงวิญูญูาณสูงสุด
ผู้สร้าง ได้มาที่นี่เมื่อ 5000 ปีที่แล้ว ท่านคือพระเจ้าแห่งสวรรค์ผู้เป็นพ่อ
ท่านมาทุก 5000 ปี ในการบรรจบกันของวงจร
แต่เนื่องจากระยะเวลาของวงจรได้ถูกยืดออกไปพวกเขาจึงลืมทุกสิ่ง
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ลูกเองก็พูดว่า: บาบา
เราได้พบกับท่านทุกวงจรและประกาศสิทธิ์ในมรดกของเราจากท่าน
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกเช่นกันว่าลูกสูญเสียสิ่งนั้นในเวลาต่อมาได้อย่างไร
มีความรู้มากมายหลายประเภท แต่พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้
ทุกคนรู้ว่าการทำลายล้างจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
การทำลายล้างเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เช่นกัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดขึ้นอย่างไร
เพียงแค่ดูสิ่งที่เกี่ยวกับการทำลายล้างที่ได้มีการเขียนไว้ในคัมภีร์!
จะมีสงครามระหว่างพันดาวาสและฆราวาสได้อย่างไร?
เวลานี้ลูกบราห์มินอยู์ในยุคบรรจบพบกัน บราห์มินไม่ได้ทำสงคราม พ่อพูดว่า:
ลูกคือลูกที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรงของพ่อ ลูกนั้นไม่ก้าวร้าวรุนแรงทั้งสองทาง
เวลานี้ลูกจะกลับมาปราศจากกิเลส ลูกคือผู้ที่ประกาศสิทธิ์ในมรดกจากพ่อทุกๆวงจร
ไม่มีเรื่องของความยากลำบากในสิ่งนี้ ความรู้ง่ายดายมาก วงจรของ 84
ชาติเกิดอยู่ในสติปัญญาของลูก เวลานี้การละเล่นกำลังจะจบสิ้นลง
และมีวลาเหลือน้อยมาก
ลูกรู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อคนรวยจะไม่ได้รับแม้กระทั่งอาหารหรือน้ำ
สิ่งนี้รู้ได้ว่าภูเขาแห่งความทุกข์ จะมีการนองเลือดโดยไม่มีสาเหตุ
ผู้คนมากมายจะต้องตาย เมื่อใครบางคนทำผิดก็จะมีการลงโทษ พวกเขาทำผิดอะไร?
พวกเขาเพียงแค่ทำความผิดเดียวคือการลืมพ่อ
ลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของลูกจากพ่อ
อย่างไรก็ตามมนุษย์ที่เหลือทั้งหมดเชื่อว่าพวกเขากำลังจะตาย
แม้ว่าเมื่อสงครามเป็นสงครามมหาภารตะเพียงเริ่มต้น พวกเขาก็จะตาย
ลูกจะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปใช่ไหม?
ลูกกำลังจะโยกย้ายไปสู่ดินแดนแห่งความเป็นอมตะด้วยความแข็งแกร่งของการศึกษานี้
การศึกษาเรียกว่าแหล่งแห่งรายได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาคัมภีร์ด้วยเช่นกัน
มีรายได้ผ่านสิ่งนั้นด้วย อย่างไรก็ตามนั่นคือการศึกษาของความเลื่อมใสศรัทธา
พ่อพูดว่า: เวลานี้พ่อกำลังทำให้ลูกกลายเป็นเหมือนลักษมีและนารายณ์
เวลานี้ลูกกำลังจะกลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่สะอาด
ลูกรู้ว่าลูกกำลังจะกลายเป็นผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดและด้วยการกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่
ลูกก็จะค่อยๆลงมาทีละน้อย ลูกเปลี่ยนจากใหม่เป็นเก่า ลูกต้องลงบันไดมาอย่างแน่นอน
เวลานี้สภาพของโลกกำลังลงมาเช่นกัน เมื่อสภาพของโลกสูงขึ้น
โลกก็กลายเป็นอาณาจักรของเทพ มันคือสวรรค์ เวลานี้คือนรก
เวลานี้ลูกกำลังเพียรพยายามที่จะกลายเป็นชาวสวรรค์อีกครั้ง ลูกเฝ้าแต่พูดว่า “บาบา!
บาบา!” ผู้คนร้องเรียกหาท่าน “โอพระเจ้า ผู้เป็นพ่อ!”แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าท่านคือพ่อของทุกดวงวิญญาณ
ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด ดังนั้นเหตุใดพวกเขา ลูกๆของท่านถึงไม่มีความสุข?
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่า ทุกคนต้องไม่มีความสุข
การละเล่นนี้เกี่ยวกับความสุขและความทุกข์
มีความสุขในชัยชนะและความทุกข์ในการพ่ายแพ้ พ่อได้ให้อาณาจักรแก่ลูก
และราวันก็แย่งชิงไปจากลูก เวลานี้มันอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ ว่า
ลูกยังคงได้รับมรดกแห่งสวรรค์จากพ่อต่อไป พ่อมาแล้ว
เวลานี้เพียงแค่จดจำพ่อแล้วบาปของลูกจะถูกตัดออกไป
มีภาระของบาปของหลายต่อหลายชาติเกิดบนศีรษะของลูก ลูกรู้เช่นกันว่า
ลูกไม่ได้สัมผัสความทุกข์มากเกินไป มีความสุขเล็กน้อยเช่นกัน-เหมือนกับเกลือหนึ่งหยิบมือในถุงแป้ง-
ที่เรียกว่าความสุขเหมือนมูลกาหนึ่งหยด
ลูกรู้ว่ามีเพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ประทานการหลุดพ้นสำหรับทุกคน
กูรูของโลกคือผู้เป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น จะมีการยอมรับกูรูในช่วงวัยเกษียณของคน
เวลานี้แม้แต่เด็กเล็กๆก็ถูกทำให้ยอมรับกูรู
เพื่อที่ว่าหากเขาตายตั้งแต่วัยเด็กเขาจะได้รับการหลุดพ้น พ่อพูดว่า:
ในความเป็นจริงไม่ควรจะมีใครถูกเรียกว่ากูรู กูรูคือผู้ที่ให้การหลุดพ้น
ผู้ประทานการหลุดพ้นเป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้น พระคริสต์ พระพุทธเจ้า ฯลฯ
ไม่ใช่กูรู ทุกคนได้รับการหลุดพ้นเมื่อพวกเขามาหรือไม่? เมื่อพระคริสต์มา
ผู้คนทั้งหมดของศาสนาของเขาก็เริ่มตามเขาลงมา
ดังนั้นเมื่อเขากลายเป็นเครื่องมือในการนำผู้อื่นลงมา
เขาจะถูกเรียกว่ากูรูได้อย่างไร?
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ท่านจะพาทุกคนกลับบ้าน
ท่านได้ทำการก่อตั้งเช่นกัน หากท่านเพียงแค่พาทุกคนกลับบ้าน ก็จะมีการทำลายล้าง
อย่างไรก็ตามการทำลายล้างไม่ได้เกิดขึ้น กีตะได้รับการจดจำว่าเป็นแม่ของทุกคัมภีร์
เป็นเพชรพลอยของทุกคัมภีร์ เป็นคำพูดของพระเจ้า ได้มีการจดจำกันว่า: เมื่อ.fก็ตามที่มีการประณามศาสนา
พ่อจะมา พ่อมาในบารัตเท่านั้น
ผู้คนเรียกพ่อผู้ที่ให้อาณาจักรแห่งสวรรค์แก่ลูกว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
เวลานี้ลูกๆมีความสุขที่จะมีแต่เพียงอาณาจักรของลูกเท่านั้นในโลกใหม่
ไม่มีใครสามารถแย่งชิงอาณาจักรนั้นไปจากลูกได้
ที่นี่ผู้คนต่อสู้รบรากันอย่างมากกับเรื่องที่ดินผืนเล็กๆ
ลูกมีความสุขสันต์อย่างยิ่ง ลูกควรกระโดดด้วยความสุขและร่ายรำในความสุข
ในเมื่อลูกประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อในทุกๆวงจร ลูกก็ควรมีความสุขอย่างมากมาย
พ่อพูดว่า: “จดจำพ่อ” แต่กระนั้นลูกก็ลืม! ลูกพูดว่า: บาบาโยคะของฉันขาดไป
บาบาได้บอกลูกแล้วให้เอาคำว่า”โยคะ”ออกไป คำนั้นเป็นของคัมภีร์ พ่อพูดว่า: จดจำฉัน!
โยคะเป็นคำพูดที่มาจากหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ลูกได้รับอำนาจในการปกครองเหนือโลกจากพ่อ หากลูกไม่จดจำท่าน
บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องได้อย่างไร? ลูกจะได้รับอาณาจักรของลูกได้อย่างไร?
ลูกไม่มีแม้แต่ปัญญาที่จะตระหนักว่าหากไม่มีการจดจำรำลึกถึง
สถานภาพนั้นก็จะลดลงและจะต้องถูกลงโทษ ลูกไม่มีปัญญาเช่นนั้น ลูกกลับมาไม่รู้คิด
พ่อบอกลูกทุกๆ วงจรว่า: จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น
ตายในขณะที่มีชีวิตอยู่และตายจากโลกนี้
ด้วยการจดจำรำลึกถึงพ่อบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
แล้วลูกจะกลายเป็นลูกปัดของลูกประคำแห่งชัยชนะ เป็นสิ่งที่ง่ายมาก!
ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดคือชีพบาบาและบราห์มา ทั้งสองนั้นสูงสุด
ผู้เดียวนั้นเหนือโลกและผู้นี้เป็นทางจิต ท่านคือครูที่เรียบง่ายใสก
ครูเหล่านั้นลงโทษเด็กๆ แต่เพียงผู้เดียวนี้เท่านั้นที่ให้ความรัก ท่านพูดว่า:
ลูกๆที่แสนหวาน จดจำพ่อแล้วกลับมาสะโตประธาน
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ท่านคือกูรูด้วยเช่นกัน
ไม่มีใครอื่นสามารถเป็นกูรูได้ มีคำกล่าวว่าพระพุทธเจ้าได้จากไปยังดินแดนเหนือเสียง
(นิพพาน) ทั้งหมดนั้นคือการพูดเท็จ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถกลับบ้านได้
ทุกคนมีบทบาทที่จะเล่นในละคร
ลูกควรจะมีสติปัญญาที่กว้างไกลเช่นนั้นและมีความสุขอย่างยิ่งเช่นกัน
ความรู้ทั้งหมดตั้งแต่บนสุดอยู่ในสติปัญญาของลูก
เพียงลูกบราห์มินเท่านั้นที่ได้รับความรู้นี้ ทั้งศูทรและเทพไม่มีความรู้นี้
ผู้ที่ต้องการที่จะเข้าใจสิ่งนี้ก็จะทำเช่นนั้น จะมีความตายสำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ
สถานภาพของพวกเขาก็จะลดลงเช่นกัน ในโรงเรียนถ้านักเรียนไม่ศึกษาเล่าเรียน
สถานภาพของพวกเขาก็จะลดลง บาบาคืออัลฟ่าและเบต้าคืออาณาจักร
เรากำลังจะไปสู่อาณาจักรของเราอีกครั้งหนึ่ง โลกเก่านี้กำลังจะถูกทำลาย อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
พ่อให้อาณาจักรใหม่ของโลกแก่เราที่ไม่มีใครสามารถแย่งชิงไปจากเราได้
เฝ้าแต่กระโดดด้วยความสุขและร่ายรำในความสุขในสิ่งนี้
2.
ในการที่จะกลายเป็นลูกปัดของลูกประคำแห่งชัยชนะ
ตายในขณะที่มีชีวิตอยู่และตายไปจากโลกเก่านี้
บาปของลูกได้รับการปลดเปลื้องด้วยการจดจำรำลึกถึงพ่อ
พร:
ขอให้ลูกเป็นเทวดานางฟ้าที่สมบูรณ์พร้อมที่เป็นอิสระจากการค้ำจุนทั้งหมดและเติมเต็มความสัมพันธ์ทั้งหมดกับผู้เดียว
เมื่ออาหารที่ลูกทำใกล้จะสุก อาหารนั้นก็จะเริ่มร่อนออกจากด้านข้าง
ในทำนองเดียวกันยิ่งลูกเข้าใกล้สภาพที่สมบูรณ์พร้อมของลูกมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งห่างจากทุกคนมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อลูกละวางจากบ่วงพันธะทั้งหมดด้วยทัศนคติของลูก
นั่นคือเมื่อลูกไม่มีความผูกพันยึดมั่นกับใครแล้วลูกจะกลายเป็นเทวดานางฟ้าที่สมบูรณ์พร้อม
การเติมเต็มความสัมพันธ์ทั้งหมดกับผู้เดียวคือจุดหมายปลายทาง
โดยการทำเช่นนี้ลูกจะได้สัมผัสกับจุดหมายปลายทางสุดท้ายของชีวิตที่เป็นเทวดานางฟ้าที่ใกล้เข้ามา
สติปัญญาของลูกที่เร่ร่อนจะหยุดลง
คติพจน์:
ความรักเป็นแม่เหล็กเช่นนั้นที่จะทำให้คนที่ประณามลูกเข้ามาใกล้ชิดกับลูก