24.06.20       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


เมื่อลูกดวงวิญญาณสะอาดโลกนี้จะกลายเป็นโลกที่ให้ความสุข สาเหตุของความทุกข์คือการกระทำที่ทำภายใต้อิทธิพลของกิเลสทั้งห้า (คำพูดอันล้ำค่าของมาเตชวารี)

เพลง:
ดวงตาไม่รู้ แต่หัวใจจดจำ ...

ลูกได้ยินการสรรเสริญพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดของลูก ไม่สามารถมีการสรรเสริญของมนุษย์ทั่วไป การสรรเสริญนี้เป็นของผู้ที่มีสิทธิ์ในการสรรเสริญนี้ เนื่องจากการร้องเพลงสรรเสริญของท่านเป็นไปตามกิจกรรมของท่าน กิจกรรมของท่านยิ่งใหญ่กว่าของมนุษย์ทุกคน เพราะกิจกรรมของท่านนั้นเป็นไปเพื่อมนุษย์ทุกคน ดังนั้นท่านจึงกลายเป็นผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด เนื่องจากมีผู้ให้การปลดปล่อยและการหลุดพ้นสำหรับทุกคนเพียงผู้เดียวเท่านั้น ลูกไม่สามารถพูดได้ว่าท่านให้การปลดปล่อยและการหลุดพ้นกับคนไม่กี่คน ท่านเป็นผู้ให้การปลดปล่อยและการหลุดพ้นสำหรับทุกคน ดังนั้นท่านจึงเป็นผู้ที่ทรงพลังอำนาจสำหรับทุกคนใช่ไหม? ไม่ว่าในกรณีใดถ้าลูกมองในลักษณะทั่วไป,จะมีการร้องเพลงสรรเสริญใครบางคนเมื่อเขานั้นทำงานบางอย่าง ผู้ที่ทำงานเช่นนั้นจะได้รับการยกย่อง ดังนั้นคำสรรเสริญของพ่อคือท่านเป็นผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด ท่านจะต้องมาที่นี่อย่างแน่นอนและทำงานที่ยิ่งใหญ่ และนั่นต้องเป็นไปเพื่อเรา เพื่อโลกของมนุษย์ ท่านดำเนินงานที่ยิ่งใหญ่และงานที่สูงส่งเพื่อโลกนี้ เพราะท่านเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้การบำรุงรักษาและหล่อเลี้ยงโลกนี้ ดังนั้นท่านจึงมาและทำให้โลกสูงส่ง ท่านเปลี่ยนทุกสิ่งรวมทั้งวัตถุธาตุ อย่างไรก็ตามท่านนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงด้วยวิธีใด? ท่านนั่งและอธิบายสิ่งนี้ เพราะมันไม่ใช่ว่าเป็นดวงวิญญาณมนุษย์ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในดวงวิญญาณทั้งหลาย หรือไม่ใช่ว่าด้วยพลังของดวงวิญญาณ ด้วยพลังของการกระทำของลูกที่พลังทั้งหมดนั้นจะทำงานในเรื่องสสารและวัตถุธาตุ ในความเป็นจริงท่านเป็นผู้ที่สร้าง และถ้าท่านสร้างท่านสร้างอย่างไร? เมื่อดวงวิญญาณกลับมาสูงส่ง ร่างกาย วัตถุธาตุ สสาร ฯลฯ ทั้งหมดก็เข้ามาอยู่ในพลังของพวกเขาตามลำดับกันไปบนพื้นฐานของดวงวิญญาณ และด้วยสิ่งนี้ที่ทั้งโลกจะให้ผลดี (เขียวและสด) และมีความสุข

พ่อผู้ทำให้โลกมนุษย์มีความสุขรู้ว่าโลกมนุษย์จะมีความสุขอย่างไร โลกจะไม่มีความสุขจนกว่าดวงวิญญาณจะสะอาด(บริสุทธิ์) และนี่คือสาเหตุแรกที่ท่านมาและทำให้ดวงวิญญาณสะอาด เวลานี้ดวงวิญญาณอยู่ในสภาพที่ไม่บริสุทธิ์ (ไม่สะอาด) ดังนั้นก่อนอื่นต้องขจัดความไม่บริสุทธิ์นี้ออกไป จากนั้นด้วยพลังของดวงวิญญาณทุกสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ (ตะโมประธาน) จะกลับมาบริสุทธิ์ (สะโตประธาน) ซึ่งหมายความว่าทุกคนจะกลายเป็นยุคทอง ดังนั้นวัตถุธาตุทั้งหมดเหล่านี้และอื่น ๆ เข้ามาในสภาพยุคทองของพวกเขา แต่ก่อนอื่นสภาพของดวงวิญญาณจะต้องเปลี่ยน ดังนั้นท่านคือผู้ทรงอำนาจที่เปลี่ยนดวงวิญญาณ นั่นคือท่านคือผู้ชำระดวงวิญญาณให้บริสุทธิ์ ลูกจะเห็นว่าเวลานี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ก่อนอื่นเราต้องเปลี่ยนแปลงตนเอง และเมื่อเราเปลี่ยนแปลงตนเองบนพื้นฐานนั้นโลกก็จะเปลี่ยนแปลง หากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในตัวเราเองแม้กระทั่งตอนนี้ ถ้าเรายังไม่เปลี่ยนแปลงตนเองแล้วโลกจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร? ดังนั้นตรวจสอบตนเองทุกวัน ผู้ที่รักษาบัญชีของพวกเขาไว้จะตรวจสอบบัญชีของพวกเขาทุกคืนเพื่อดูว่าพวกเขาสะสมได้มากแค่ไหน แต่ละคนก็เก็บรักษาบัญชีของตนเองไว้ ดังนั้นที่นี่เช่นกันลูกต้องเก็บบันทึกชาร์ทของลูกว่ามีกำไรเท่าไหร่และขาดทุนเท่าไหร่ตลอดทั้งวัน หากมีการสูญเสียมากขึ้นแล้วก็จะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นในวันถัดไป โดยให้ความสนใจในวิธีนี้ โดยการทำกำไรให้มากขึ้น เราจะสามารถไปถึงตำแหน่งของเราได้ ดังนั้นโดยการตรวจสอบตนเองด้วยวิธีนี้ลูกจะได้สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงในตนเอง อย่าคิดว่า “ฉันจะกลายเป็นเทพ แต่ว่าในภายหลังสิ่งที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ก็ดีแล้วไม่เป็นไร” ไม่เลย ซันสการ์ของเทพเหล่านี้จะต้องสร้างขึ้นมาในเวลานี้ ไม่ว่าซันสการ์อะไรก็ตามที่เรามีภายใต้อิทธิพลของกิเลสทั้งห้า เวลานี้เราต้องดูว่าเราเป็นอิสระจากกิเลสเหล่านั้นหรือไม่ ความโกรธที่มีอยู่ในตัวฉันถูกขจัดออกไปหรือไม่? ซันสการ์ของกิเลสของความละโมบและความผูกพันยึดมั่นเปลี่ยนแปลงหรือไม่? หากสิ่งเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงและลูกกำลังเป็นอิสระแล้วลูกควรเข้าใจว่าลูกกำลังเปลี่ยนแปลง หากลูกไม่ได้เป็นอิสระจากสิ่งเหล่านี้ ลูกก็สามารถเข้าใจได้ว่าลูกไม่ได้เปลี่ยนแปลง ดังนั้นลูกควรรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตนเอง อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ตลอดทั้งวันลูกยังคงเคลื่อนไปบนพื้นฐานของบัญชีของกิเลสและเพียงเพราะลูกได้บริจาคทานเล็กน้อยหรือทำบุญบางอย่างนั่นก็ดีแล้ว ไม่เลย เราต้องดูแลตนเองด้วยบัญชีของการกระทำของเรา สิ่งที่ลูกกำลังทำอยู่จงตรวจสอบดูว่าลูกไม่ได้สร้างบัญชีของกิเลสโดยทำบางสิ่งภายใต้อิทธิพลของกิเลส ลูกต้องดูแลตนเองในสิ่งนี้ ลูกต้องเก็บรักษาบัญชีทั้งหมดนี้ ก่อนเข้านอนให้ตรวจสอบตนเองเป็นเวลาสิบถึงสิบห้านาทีเพื่อดูว่าวันนั้นของลูกเป็นอย่างไร บางคนถึงกับจดบันทึก นี่เป็นเพราะภาระของบาปในอดีตที่อยู่บนหัวของลูกจะต้องถูกขจัดออกไปและสำหรับสิ่งนั้นคำแนะนำของพ่อคือ: จดจำพ่อ ดังนั้นลูกให้เวลากับการจดจำระลึกถึงมากเท่าไร? โดยการเก็บรักษาชาร์ทนี้ลูกจะอยู่อย่างระมัดระวังในวันถัดไป ด้วยการเตือนตนเองในลักษณะนี้ลูกจะต้องระมัดระวัง และลูกจะเฝ้าแต่ทำกรรมที่ดีต่อไป และลูกจะไม่ทำบาปใดๆเช่นนั้น ดังนั้นลูกต้องปกป้องตนเองจากการกระทำบาป

กิเลสเหล่านี้ทำให้เราไม่ดี เราไม่มีความสุขเพราะกิเลส เวลานี้เราต้องกลับมาเป็นอิสระจากความทุกข์และนี่คือสิ่งหลัก ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเราร้องเรียกหาพระเจ้าและจดจำระลึกถึงท่าน ไม่ว่าเราจะพยายามทำอะไรก็ตาม เราทำสิ่งเหล่านั้นเพื่ออะไร? เราทำเพื่อความสุขและความสงบ ดังนั้นเราจึงต้องมีการฝึกฝนในทางปฏิบัติในเวลานี้ นี่คือวิทยาลัยสำหรับการทำสิ่งนั้นในทางปฏิบัติ โดยการฝึกฝนสิ่งนี้เราจะกลับมาสะอาด นั่นคือเราจะยังคงบริสุทธิ์ต่อไป จากนั้นเราจะบรรลุเป้าหมายดั้งเดิมของครอบครัวที่คงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์และบริสุทธิ์ ตัวอย่างเช่น บางคนจะไปที่วิทยาลัยการแพทย์เพื่อเป็นหมอและเขาก็จะกลายเป็นหมอด้วยการฝึกฝนทางการแพทย์ (ประสบการณ์จริงในทางปฏิบัติ) ในทำนองเดียวกันนี้ในวิทยาลัยนี้เราก็จะเฝ้าแต่เป็นอิสระจากกิเลสเหล่านี้ นั่นก็คือจากการกระทำที่เป็นบาปด้วยการศึกษานี้ นั่นก็คือด้วยการฝึกฝนสิ่งนี้ ดังนั้นแล้วระดับของความสะอาดเป็นเช่นไร? เทพ

เทพเหล่านี้ได้รับการจดจำ และการสรรเสริญของพวกเขาคือ: เต็มไปด้วยคุณธรรมทั้งหมด, สมบูรณ์พร้อมสิบหกองศาเต็ม, ปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง…ดังนั้นเราจะกลายเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าเราได้กลายเป็นสิ่งนั้นไปแล้ว ไม่เลย เราจะต้องกลายเป็นสิ่งนั้น เพราะเราถูกทำให้เสียหายและเราต้องกลายเป็นสิ่งนั้นอีกครั้ง ไม่ใช่ว่ามีอีกโลกหนึ่งของเทพ เรามนุษย์จะกลายเป็นเทพ เทพเหล่านั้นได้ตกต่ำลงมาและเวลานี้ต้องสูงส่งขึ้น ในความเป็นจริงพ่อกำลังสอนเราว่าจะสูงส่งขึ้นอย่างไร เวลานี้เราต้องสร้างความสัมพันธ์กับพ่อ เวลานี้พ่อมาแล้วและทำให้เรารู้แจ้ง: ในท้ายที่สุดลูกเป็นของพ่อ ดังนั้นลูกจะเป็นของพ่ออยู่เสมอได้อย่างไร? ในชีวิตทางโลก ลูกๆยังคงเป็นของพ่อของเขา และพ่อก็ยังคงเป็นของลูกของเขาต่อไปอย่างไร? ในทำนองเดียวกันลูกต้องเคลื่อนต่อไปโดยเป็นของพ่อด้วยร่างกายจิตใจและทรัพย์สมบัติของลูก ลูกจะเคลื่อนไปอย่างไร? ตัวอย่างของสิ่งนั้นคือดาดานี้ที่พ่อเข้ามาในร่างกายของเขา เขาได้ให้ทุกสิ่ง - ร่างกายจิตใจและทรัพย์สมบัติ - และเคลื่อนไปอย่างเป็นของพ่อ ทำตามพ่อในทำนองเดียวกัน ไม่มีอะไรที่จะถามหรือสับสนในสิ่งนี้ มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายและตรงไปตรงมา ดังนั้นเวลานี้จงเดินหน้าต่อไป อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกได้ยินมากและดูดซับเพียงเล็กน้อย ไม่เลย ฟังเล็กน้อยแล้วซึมซับให้มากๆ ลูกจะนำทุกสิ่งที่ลูกเคยได้ยินไปใช้ในรูปปฏิบัติได้อย่างไร: คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ต่อไปอย่างเต็มที่ ก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยการฝึกฝนของลูก อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกเพียงแค่ฟังและฟังไปเรื่อยๆเท่านั้น… ไม่เลย ไม่ว่าลูกจะได้ยินอะไรก็ตามในวันนี้ หากใครจะนำสิ่งนั้นไปใช้ในรูปปฏิบัติ เช่น: “นั่นคือ ตั้งแต่วันนี้ฉันจะดำเนินการต่อในสภาพนี้ ฉันจะไม่ทำการกระทำใด ๆ ภายใต้อิทธิพลของกิเลส และฉันจะทำให้ตารางเวลาประจำวันของฉันเป็นไปในลักษณะนี้ ฉันจะเก็บรักษาชาร์ทของฉันเช่นนี้ ...” ถ้ามีใครบางคนนำสิ่งนี้ไปฝึกฝนในทางปฏิบัติแล้ว ก็ลองดูว่าเขาจะกลายเป็นเช่นไร สิ่งใดก็ตามที่พูดในตอนนี้จะต้องนำสิ่งนั้นไปใช้ในรูปปฏิบัติ อะไรก็ตามที่ลูกพูด อะไรก็ตามที่ลูกได้ยิน จงทำสิ่งนั้น แค่นี้แหละ ไม่มีอะไรอีกแล้ว เพียงใส่ใจกับการกระทำของลูก ลูกเข้าใจไหม? เช่นที่ลูกรู้จักทั้งบัพและดาดาเป็นอย่างดีใช่ไหม? ดังนั้นเวลานี้ทำตามท่านทั้งสอง ถึงลูกที่มีค่าและเชื่อฟังที่ทำตามพวกท่าน นั่นคือถึงลูกที่น่ารักและแสนหวานเช่นนั้น ด้วยความรัก ระลึกถึง และอรุณสวัสดิ์

มุรลีที่สอง: 1957

เพลง:
ดูโลกเล็ก ๆ ของฉัน ...

เพลงนี้ร้องเมื่อไหร่? เพราะมันเป็นเพียงเวลานี้ในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่มีโลกเล็ก ๆ ของสกุลบราห์มินซึ่งเป็นครอบครัวของเราที่แสดงตามลำดับกันไป เราเป็นลูกหลานของพ่อผู้สูงสุดดวงวิญญาณสูงสุด เราเป็นลูกที่เกิดจากปากของบราห์มาและสรัสวดี และวิษณุและชังการ์เป็นลุงของเรา และเราทุกคนต่างก็เกี่ยวข้องกันในฐานะพี่น้องหญิงชาย นี่คือโลกเล็ก ๆ ของเรา ไม่มีการสร้างความสัมพันธ์อื่นนอกจากความสัมพันธ์เหล่านี้ ในเวลานี้เรามีความสัมพันธ์เหล่านี้เท่านั้น ดูสิเราเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น ปู่ของเราคือชีวาและชื่อของท่านนั้นยิ่งใหญ่มาก ท่านเป็นเมล็ดของโลกมนุษย์ทั้งมวล เพราะท่านให้คุณประโยชน์กับคนทั้งโลก ท่านจึงถูกเรียกว่าฮาร์ฮาร์โบลานาถชีวามาห์เทพ (พระเจ้าชีวาที่ไร้เดียงสา เทพผู้ยิ่งใหญ่ที่ขจัดความทุกข์ทั้งหมดออกไป) ท่านเป็นผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุขสำหรับทั้งโลก เราได้รับสิทธิ์อย่างมากในการมีความสุข ความสงบและความบริสุทธิ์จากท่าน ในความสงบนั้นไม่มีบัญชีกรรมของบ่วงกรรม อย่างไรก็ตามพื้นฐานของทั้งสองนี้ (ความสงบและความสุข) คือความบริสุทธิ์ เราไม่สามารถรับมรดกนั้นได้จนกว่าเราจะประกาศสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดของการหล่อเลี้ยงของพ่อ จนกว่าเราจะได้รับใบประกาศนียบัตรจากพ่อ ดูสิบราห์มามีงานต้องทำมากมาย เขาทำให้ดวงวิญญาณที่สกปรก,ไม่สะอาดและไม่บริสุทธิ์ด้วยกิเลสทั้งห้ากลับมาสวยงาม รางวัลของงานทางจิตนั้นได้รับในยุคทองเป็นสถานะภาพอันดับหนึ่งของศรีกฤษณะ ดูสิว่าความสัมพันธ์ของลูกกับพ่อเป็นอย่างไร ดังนั้นลูกต้องอยู่อย่างไร้กังวลและมีความสุข เวลานี้ให้ลูกแต่ละคนถามหัวใจของลูกเอง: ฉันเป็นของพ่ออย่างสมบูรณ์หรือไม่?

คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้: ในเมื่อพ่อผู้สูงสุดดวงวิญญาณสูงสุดมาแล้ว เราควรประกาศสิทธิ์ในมรดกที่สมบูรณ์ของเราจากท่าน เป็นหน้าที่ของนักเรียนที่จะต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่จะประกาศสิทธิ์ในทุนการศึกษา ดังนั้นทำไมเราถึงไม่ควรถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง? นั่นคือการถูกร้อยเข้าไปในสายลูกประคำแห่งชัยชนะ อย่างไรก็ตามมีบางคนกำลังนั่งถือสองแลดดัส(ขนมรูปทรงกลมของอินเดีย) (บางสิ่งในมือแต่ละข้าง, เท้าอยู่ในเรือสองลำ) พวกเขาต้องการสัมผัสกับความสุขที่มีขีดจำกัดที่นี่ และความสุขเล็กๆของโลกแห่งสวรรค์เช่นกัน ผู้ที่มีความคิดเช่นนี้กล่าวกันว่าเป็นผู้ที่เพียรพยายามระดับกลางหรือระดับต่ำ ไม่ใช่ผู้ที่เพียรพยายามที่สูงส่งที่สุด เนื่องจากพ่อไม่ประนีประนอมแต่อย่างใดในการให้ เหตุใดคนเหล่านั้นที่ได้รับสิ่งนั้นจึงทำเช่นนั้น? เหตุนี้เองกูรูนานักถึงพูดว่า: พระเจ้าเป็นผู้ประทาน ท่านเป็นผู้ทรงอำนาจ แต่ดวงวิญญาณไม่มีพลังแม้กระทั่งที่จะรับ มีการพูดว่า: ผู้ที่ให้ไม่เหนื่อยในการให้ แต่ผู้ที่รับเหนื่อยในการับ มันอาจเข้ามาในหัวใจของลูก: ทำไมฉันไม่ปรารถนาที่จะมีสถานภาพนั้น? อย่างไรก็ตามดูสิว่าบาบาทำความพยายามมากแค่ไหน และแม้กระทั่งมายาก็ทำให้เกิดอุปสรรคมากมาย เพราะเหตุใด? อาณาจักรของมายาเวลานี้กำลังจะจบสิ้น เวลานี้มายาได้นำเอาความหวานชื่นไปหมดแล้ว และจากนั้นพระเจ้าก็มา ท่านเต็มไปด้วยความหวานชื่นทั้งหมด เราได้รับความหวานชื่นของความสัมพันธ์ทั้งหมดจากท่าน และเหตุนี้เองจึงมีการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า: ท่านคือแม่และท่านคือพ่อ ... ดังนั้นความยิ่งใหญ่นี้ก็คือเวลาที่เรามีความสัมพันธ์นี้กับท่าน

ดังนั้นเราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์กับพระเจ้าเพื่อที่เราจะได้รับความสุขเป็นเวลา 21 ชาติเกิด นี่คือรางวัลของความเพียรพยายามของเรา อย่างไรก็ตามอย่าได้เพิกเฉยเมื่อได้ยินเกี่ยวกับ 21 ชาติเกิด อย่าคิดว่า: เราต้องเพียรพยายามอย่างมากสำหรับสิ่งนี้เพื่อ 21 ชาติเกิด และถึงกระนั้นหลังจาก 21 ชาติเกิดแล้ว เราก็ยังคงต้องตกต่ำลงมาอยู่ดี แล้วเราได้มาซึ่งการบรรลุผลอะไรหรือ? อย่างไรก็ตาม ตามละคร รางวัลที่สูงส่งอะไรก็ตามถูกกำหนดไว้แล้วสำหรับดวงวิญญาณ พวกเขาก็จะได้รับใช่ไหม? พ่อมาและทำให้เราไปถึงสภาพที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อม แต่เราลูก ๆ ก็ลืมบาบา และดังนั้นเราจะตกลงมาอย่างแน่นอน พ่อไม่สามารถตำหนิสำหรับสิ่งนั้นได้ มันเป็นความอ่อนแอของเราผู้เป็นลูก ความสุขของยุคทองและยุคเงินทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเพียรพยายามของชาติเกิดนี้ และดังนั้นทำไมเราไม่ทำความเพียรพยายามอย่างเต็มที่และเล่นบทบาทที่สูงส่งที่สุดของเรา? ทำไมเราไม่ควรทำความเพียรพยายามและประกาศสิทธิ์ในมรดกนั้น? มนุษย์พยายามที่จะได้รับความสุขเสมอ ไม่มีใครพยายามที่จะไปอยู่เหนือความสุขและความทุกข์ ในตอนท้ายของละครที่พระเจ้ามาให้ผลที่ตามมา (การลงโทษ) แก่ทุกดวงวิญญาณและชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์และปลดปล่อยพวกเขาออกจากบทบาทของพวกเขา นี่คืองานของพระเจ้าและท่านจะมาในเวลาที่ถูกกำหนดไว้แล้วของท่านและบอกสิ่งนี้กับเรา ในเมื่อลูกดวงวิญญาณต้องมาและเล่นบทบาทของลูกอีกครั้ง ทำไมไม่เล่นบทบาทที่สูงส่งที่สุด? อัจชะ

ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน, ด้วยความรักและความทรงจำระลึกถึง จากแม่ โอม ชานติ

พร:
ขอให้ลูกมั่นคงและไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนอยู่เสมอ และด้วยสำนึกรู้ของคำว่า "บาบา" จงเปลี่ยนคำว่า "เหตุผล" เป็น "การแก้ปัญหา"

ทันทีที่ลูกพูดว่า “บาบา” สำหรับสถานการณ์ที่แปรปรวน ลูกจะไม่หวั่นไหว เมื่อลูกเริ่มคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ลูกจะรู้สึกยากลำบาก ถ้าแทนที่จะคิดเกี่ยวกับเหตุผล ลูกกลับเริ่มคิดถึงวิธีแก้ปัญหาแล้วเหตุผลก็จะกลายเป็นการแก้ปัญหา เพราะสถานการณ์ไม่เป็นแม้กระทั่งเหมือนมดเบื้องหน้าของบราห์มินผู้เป็นนายที่ทรงพลังอำนาจ แทนที่จะแค่คิดว่า มันเกิดอะไรขึ้น หรือทำไมมันถึงเกิดขึ้น ให้คิดว่าอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ซึ่งงานรับใช้หลอมรวมอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน และแม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนเป็นสถานการณ์ที่เลวร้าย แต่งานรับใช้จะหลอมรวมอยู่ในนั้น และลูกจะอยู่อย่างไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนเสมอ

คติพจน์:
ผู้ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของพ่อผู้เดียวจะไม่สามารถได้รับอิทธิพลจากคนอื่น