17.06.20       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน แม้ว่าลูกจะอยู่ห่างไกล เมื่อลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึง ลูกก็อยู่ในความเป็นมิตรกับท่าน ด้วยการจดจำระลึกถึงนี้ที่ลูกจะมีประสบการณ์ของความเป็นมิตรร่วมทางชีวิตของท่าน และบาปของลูกก็ได้รับการปลดเปลื้องเช่นกัน

คำถาม:
พ่อผู้ที่มาจากดินแดนที่ห่างไกลที่สุดมาให้ความรู้อะไรแก่ลูก เพื่อทำให้ลูกมองเห็นการณ์ไกล?

คำตอบ:
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่เป็นผู้อาศัยของดินแดนที่ห่างไกลที่สามารถให้ความรู้แก่ลูกๆที่ดวงวิญญาณได้เข้าไปสู่วรรณะต่างๆที่หลากหลายในวงจรอย่างไร ลูกรู้ว่าเวลานี้ลูกเป็นของวรรณะบราห์มิน ก่อนหน้านี้ก่อนที่ลูกจะมีความรู้นี้ลูกเคยเป็นของวรรณะศูทร ก่อนหน้านั้นลูกเคยเป็นของวรรณะพ่อค้า พ่อผู้อาศัยในดินแดนที่ห่างไกลมาให้ความรู้ที่สมบูรณ์แก่ลูกๆ เพื่อทำให้ลูกมีสายตาที่มองเห็นการณ์ไกล

เพลง:
สายฝนแห่งความรู้เป็นไปสำหรับผู้ที่อยู่กับผู้เป็นที่รัก

โอมชานติ
สายฝนแห่งความรู้สำหรับผู้ที่อยู่ในมหาสมุทรแห่งความรู้ ลูกอยู่กับพ่อใช่ไหม? แม้ว่าลูกจะอยู่ต่างประเทศหรือที่ไหนก็ตามลูกอยู่ในความเป็นมิตรของท่าน ลูกจดจำท่านใช่ไหม ลูกที่อยู่ในการจดจำระลึกถึงท่านอยู่กับท่านเสมอ ด้วยการอยู่ในการจดจำระลึกถึงนี้ลูกก็อยู่ในความเป็นมิตรของท่านและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง และแล้วช่วงเวลาของวิคาร์มาทีต (ผู้ที่เอาชนะกิเลส) ก็เริ่มขึ้น เมื่ออาณาจักรของราวันเริ่มขึ้นกล่าวได้ว่าเป็นเวลาของกษัตริย์วิกรม (ช่วงเวลาเมื่อมีการทำบาป) หนึ่งคือช่วงเวลาของการมีชัยชนะเหนือกิเลส และอีกหนึ่งคือช่วงเวลาของกิเลส เวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นผู้เอาชนะการกระทำบาป ภายหลังลูกจะกลายเป็นผู้ที่มีการกระทำที่เป็นบาป ในปัจจุบันทุกคนบาปอย่างยิ่ง ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับศาสนาของเขาเอง วันนี้บาบาถามคำถามง่ายๆกับลูกว่า: เทพในยุคทองรู้หรือไม่ว่าพวกเขาเป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป? เช่นที่ลูกเคยพิจารณาว่าตนเองเป็นของศาสนาฮินดู และผู้อื่นก็พูดว่าพวกเขาเป็นของศาสนาคริสต์เตียน ในทำนองเดียวกันเทพนั้นจะพิจารณาว่าตนเองเป็นของศาสนาเทพหรือไม่? นี่คือสิ่งที่ต้องคิด ไม่มีศาสนาอื่นใดที่นั่น ที่จะมีใครคิดว่าตนเองเป็นของศาสนานั้นศาสนานี้ ที่นี่มีศาสนามากมาย ดังนั้นพวกเขาตระหนักรู้โดยชื่อที่แตกต่างที่ให้แก่พวกเขา ที่นั่นมีเพียงศาสนาเดียวเท่านั้น เหตุนี้เองจึงไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาที่จะพูดว่าพวกเขาเป็นของศาสนานั้นๆ พวกเขาแม้กระทั่งไม่ได้ตระหนักรู้ว่ามีศาสนา เพราะมีเพียงอาณาจักรของพวกเขาเท่านั้น เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่า ลูกเป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป ไม่มีใครอื่นที่จะถูกเรียกว่าเทพ เป็นเพราะความไม่บริสุทธิ์ลูกจึงไม่สามารถเรียกตนเองว่าเทพ มีเพียงผู้ที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถเรียกว่าเทพ ที่นั่นไม่มีอะไรที่เป็นเช่นนั้น พวกเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับใครได้ เวลานี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกัน และลูกก็รู้ว่าศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปนั้นกำลังมีการก่อตั้งขึ้นอีกครั้ง ที่นั่นมีเพียงศาสนาเดียว ดังนั้นจะสามารถมีเรื่องเกี่ยวกับศาสนาได้อย่างไร? ลูกๆได้รับการบอกด้วยเช่นกันว่าเป็นสิ่งผิดเมื่อพวกเขาพูดว่าไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่เมื่อการทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งที่ถูกต้อง ในคัมภีร์ได้แสดงให้เห็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ พ่ออธิบายว่า: นอกจากบารัตทุกสิ่งจะถูกน้ำท่วม จะมีความจำเป็นอะไรสำหรับโลกที่ใหญ่โตเช่นนั้น? แค่ดูว่ามีหมู่บ้านมากมายแค่ไหนเพียงแค่ในบารัตเท่านั้น เริ่มแรกเป็นป่าแล้วประชากรก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพียงลูกเท่านั้นที่เป็นของศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปที่อาศัยอยู่ที่นั่น สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกบราห์มิน บาบาเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกซึมซับสิ่งเหล่านี้ เวลานี้ลูกรู้ว่าชีพบาบาผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดนั้นคือใคร ทำไมท่านถึงได้รับการกราบไหว้บูชา และทำไมถึงได้มีการถวายดอกอัก ฯลฯ แก่ท่าน? ท่านไม่มีตัวตนใช่ไหม? พวกเขาพูดว่าท่านอยู่เหนือรูปและนาม แต่ไม่มีสิ่งใดที่จะไม่มีรูปหรือนาม ดังนั้นพวกเขาถวายดอกไม้ ฯลฯ ให้กับใคร? เป็นท่านผู้ที่ได้รับการกราบไหว้บูชาก่อน ได้มีการสร้างวัดแก่ท่านเพราะท่านรับใช้บารัตและลูกๆของทั้งโลก เป็นมนุษย์ที่รับใช้ใช่ไหม? ลูกไม่สามารถเรียกตนเองว่าผู้ที่เป็นของศาสนาเทพได้ในเวลานี้ ลูกไม่รู้ว่าลูกเคยเป็นเทพและเวลานี้ลูกก็จะกลายเป็นเช่นนั้นอีกครั้ง เวลานี้พ่อกำลังอธิบายสิ่งนี้แก่ลูก ดังนั้นอธิบายว่าไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถให้ความรู้นี้แก่ลูก มีเพียงท่านเท่านั้นที่เรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ ผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ ได้มีการจดจำกันว่าไม่มีใครแม้กระทั่งฤษีหรือมุนี ฯลฯ ที่รู้จักผู้สร้างหรือสิ่งสร้าง พวกเขาพูดว่า“เนติ เนติ”(ท่านไม่ใช่สิ่งนี้หรือสิ่งนั้น) เด็กเล็กๆจะมีความรู้หรือไม่? เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น สติปัญญาของพวกเขาก็เริ่มเปิด จากนั้นก็เริ่มเข้าไปในสติปัญญาของพวกเขาว่าดินแดนต่างประเทศอยู่ที่ไหนหรือบางสิ่งอยู่ที่ไหน ในทำนองเดียวกันลูกๆ ก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้มาก่อนเลย ผู้นี้ก็พูดเช่นกันว่า: แม้ว่าฉันเคยศึกษาคัมภีร์ ฯลฯ ฉันก็ไม่เข้าใจอะไรเลย มนุษย์นั้นคือนักแสดงในละครนี้ การละเล่นทั้งหมดขึ้นอยู่กับสองสิ่ง: ความพ่ายแพ้ของบารัตและชัยชนะของบารัต ในตอนเริ่มต้นของยุคทองมีศาสนาที่บริสุทธิ์ในบารัต ในเวลานี้ศาสนาไม่บริสุทธิ์ เนื่องจากความไม่บริสุทธิ์ของพวกเขา พวกเขาจึงไม่สามารถเรียกตนเองว่าเทพ อย่างไรก็ตามผู้คนก็ยังคงเรียกตัวเองว่าศรีศรี อย่างไรก็ตามศรีหมายถึงสูงส่ง เป็นเทพที่บริสุทธิ์ที่กล่าวได้ว่าสูงส่ง มีคำกล่าวว่า “พระเจ้าพูดคำพูดที่สูงส่ง” เวลานี้ใครคือศรี(ที่สูงส่ง)? เป็นผู้ที่รับฟังพ่อเป็นการส่วนตัวที่อยู่ต่อหน้าท่านและกลับมาสูงส่งหรือผู้ที่เรียกตนเองว่าศรีศรี(สูงส่งทั้งสองทาง)? พวกเขาแม้กระทั่งเรียกตนเองด้วยชื่อที่พ่อให้เนื่องจากงานที่ท่านทำ ทุกสิ่งเหล่านี้มีรายละเอียด อย่างไรก็ตามพ่อพูดว่า ลูกๆ เฝ้าแต่จดจำพ่อผู้เดียว นี่คือมันตราที่ฝึกฝนจิตใจ โดยการเอาชนะราวันลูกกลายเป็นผู้เอาชนะโลก พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างกายจากวัตถุธาตุทั้งห้าถูกสร้างขึ้นที่นี่ ร่างกายถูกสร้างขึ้น ร่างกายนั้นออกจากร่าง และจากนั้นอีกร่างหนึ่งก็ถูกสร้างขึ้น แต่ดวงวิญญาณนั้นไม่สูญสลาย ลูกดวงวิญญาณที่ไม่สูญสลายเวลานี้ได้รับการสอนโดยพ่อที่คงอยู่ตลอดไปในยุคบรรจบพบกัน ไม่ว่าจะมีอุปสรรค ฯลฯ มากมายแค่ไหน หรือไม่ว่าจะมีพายุมายามากมายเพียงใด เพียงแค่คงอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ ลูกเข้าใจว่าลูกเคยสะโตประธานและเวลานี้ลูกกลับมาตาโมประธาน ในบรรดาลูกเช่นกันลูกเข้าใจความรู้นี้ตามลำดับกันไป สติปัญญาของลูกๆเข้าใจว่าลูกคือผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาก่อน ผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาก่อนจะต้องสร้างวัดให้กับชีพบาบาอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาเป็นผู้ที่มั่งคั่ง เมื่อได้มีการเห็นว่าราชาที่ยิ่งใหญ่ทำเช่นนั้น ราชาอื่นๆ และปวงประชาทั้งหมดก็ทำเช่นเดียวกัน ทุกสิ่งเหล่านี้มีรายละเอียด มีคำกล่าวว่า“การหลุดพ้นในชีวิตใน 1 วินาที” อย่างไรก็ตามใช้เวลาหลายปีในการอธิบาย ความรู้นั้นง่ายดาย ความรู้ไม่ต้องการเวลามากเท่ากับการจาริกแสวงบุญแห่งความทรงจำระลึกถึง ผู้คนร้องเรียกหา บาบาได้โปรดมาและทำให้เราที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์ พวกเขาไม่ได้เรียกหา บาบาทำให้รากลายเป็นนายของโลก ทุกคนร้องเรียกหา ทำให้พวกเราบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ ยุคทองเรียกว่าโลกที่บริสุทธิ์ โลกนี้เรียกว่าโลกที่ไม่บริสุทธิ์ แม้ว่าพวกเขาจะเรียกโลกนี้ว่าไม่บริสุทธิ์ แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดว่าตนเองไม่บริสุทธิ์ พวกเขาไม่มีความเกลียดชังสำหรับตนเอง เมื่อลูกไม่รับประทานอาหารที่เตรียมโดยผู้อื่น พวกเขาก็ถามว่า: พวกเรานั้นไม่สามารถแตะต้องได้หรือ? อ้า! แต่ตัวลูกเองก็พูดว่า “ทุกคนไม่บริสุทธิ์” ตัวลูกเองก็พูดว่าลูกไม่บริสุทธิ์และเทพบริสุทธิ์ ดังนั้นลูกจะเรียกผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ว่าอะไร? ได้มีการจดจำกันว่า ทำไมฉันควรละทิ้งน้ำทิพย์และดื่มยาพิษ? ยาพิษนั้นไม่ดีใช่ไหม? พ่อพูดว่า ยาพิษนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความทุกข์กับลูกตั้งแต่เวลาเริ่มต้นจนถึงตอนกลางและตอนจบ อย่างไรก็ตามลูกไม่ได้คิดว่ามันเป็นยาพิษ ลูกเป็นเหมือนคนติดยาที่ไม่สามารถหยุดการเสพติดของเขาได้ เหมือนกับคนที่ติดสุราไม่สามารถหยุดดื่มสุราได้ เมื่อถึงเวลาที่ทหารต้องเข้าสู่สนามรบ พวกเขาจะได้รับสุราเพื่อทำให้พวกเขาเมา จากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งไปรบ เมื่อพวกเขาเมาแล้ว ก็แค่นี้แหละ! พวกเขารู้สึกว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องทำ พวกเขาไม่กลัวตาย นักบินจะบินไปทุกหนแห่งพร้อมกับระเบิดและชนด้วยระเบิดนั้น มีการจดจำกันว่ามีสงครามขีปนาวุธ เวลานี้ลูกสามารถเห็นสิ่งที่ถูกต้องในทางปฏิบัติ ก่อนหน้านี้ลูกเคยอ่านว่าพวกเขาได้ทำให้ขีปนาวุธออกมาจากท้องของพวกเขาแล้วก็ทำสิ่งนี้และสิ่งนั้น เวลานี้ลูกเข้าใจว่าพันดาวาสคือใครและฆราวาสคือใคร เพื่อที่จะกลายเป็นชาวสวรรค์ พันดาวาสทำความเพียรพยายามที่จะทำให้สำนึกที่เป็นร่างของพวกเขาละลายหายไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามที่จะสลัดรองเท้าเก่าของลูก ลูกพูดว่าลูกกำลังจะสลัดรองเท้าเก่าของลูกและใช้รองเท้าใหม่ใช่ไหม? พ่ออธิบายแก่ลูกๆ ของท่านเท่านั้น พ่อพูดว่า: พ่อมาทุกวงจร ชื่อของพ่อคือชีวา วันเกิดของชีวาได้รับการเฉลิมฉลอง มีวัดมากมายและอื่นๆที่ถูกสร้างขึ้นในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ได้มีการให้ชื่อมากมายแก่ท่าน แม้แต่เทวีต่างๆก็ได้รับชื่อเช่นนั้น ลูกได้รับการกราบไหว้บูชาในเวลานี้ เพียงลูกๆ เท่านั้นที่รู้ว่าผู้เดียวที่ลูกเคยกราบไหว้บูชากำลังสอนลูกอยู่ในเวลานี้ เวลานี้เราจะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์ผู้ที่เราเคยกราบไหว้บูชา ลูกมีความรู้นี้ในสติปัญญาของลูก เฝ้าแต่ไตร่ตรองและถ่ายทอดแก่ผู้อื่น ลูกๆ มากมายไม่สามารถซึมซัมสิ่งเหล่านี้ บาบาพูดว่า หากลูกไม่สามารถซึมซับได้มากนักก็ไม่เป็นไร ลูกฝึกฝนการจดจำระลึกถึงใช่ไหม? เฝ้าแต่จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น ผู้ที่ไม่สามารถพูดความรู้ควรนั่งที่นี่และไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้ ไม่มีบ่วงพันธะหรือความซับซ้อนใดฯลฯที่นี่ เมื่อลูกอยู่ที่บ้านท่ามกลางบรรยากาศของลูกๆของลูกฯลฯ ความซาบซึ้งของลูกก็หายไป ลูกมีภาพที่นี่ด้วยเช่นกัน เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะอธิบายภาพเหล่านี้กับใครก็ตาม ผู้คนเหล่านั้นเรียนรู้กีตะทั้งหมดฯลฯ ด้วยหัวใจ ชาวซิกข์เรียนรู้คัมภีร์กรันด้วยหัวใจ ลูกต้องท่องอะไร? พ่อ (จดรำระลึกถึงท่าน) ลูกแม้กระทั่งพูดว่า บาบาสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งใหม่อย่างแท้จริง นี่คือเวลาเดียวเท่านั้นที่ลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อเดียวนี้ ลูกได้รับการสอนมาเมื่อ 5,000 ปีที่แล้วเช่นกัน ไม่มีใครมีพลังที่จะอธิบายแก่ลูกในลักษณะนี้ เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ไม่มีใครอื่นสามารถเป็นเช่นนี้ได้ เพียงพ่อมหาสมุทรแห่งความรู้เท่านั้นที่อธิบายแก่ลูก ทุกวันนี้ผู้คนมากมายอ้างว่าตนเองอวตารเป็นคนนั้นคนนี้ได้ปรากฏตัวขึ้น เหตุนี้เองจึงมีอุปสรรคมากมายในการก่อตั้งสัจจะ อย่างไรก็ตามได้มีการจดจำว่า: “เรือของสัจจะอาจโคลงเคลงไปมาแต่จะไม่มีวันจม” เวลานี้ลูกๆ ได้มาหาพ่อแล้ว ดังนั้นลูกควรมีความสุขมากมายในหัวใจของลูก ก่อนหน้านี้เมื่อลูกเคยไปในการจาริกแสวงบุญ ลูกมีอะไรอยู่ในหัวใจของลูก? เวลานี้ลูกมีความคิดอะไรเมื่อลูกจากครอบครัวของลูกเพื่อที่จะมาที่นี่? เรากำลังจะไปหาบัพดาดา พ่ออธิบายด้วยว่า: พ่อถูกเรียกว่าชีพบาบาเท่านั้น ผู้ที่พ่อเข้ามาคือบราห์มา มีต้นไม้เผ่าพันธุ์ใช่ไหม? ประการแรกมีต้นไม้เผ่าพันธุ์ของบราห์มิน และต่อมาก็เป็นต้นไม้เผ่าพันธุ์ของเทพ พ่อผู้อาศัยของดินแดนที่ห่างไกลกำลังทำให้ลูกๆ มีสายตาที่เห็นการณ์ไกลในเวลานี้ ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าลูกเข้าไปสู่วรรณะที่แตกต่างกันของทั้งวงจรอย่างไร เพียงพ่อที่เห็นการณ์ไกลเท่านั้นที่สามารถให้ความรู้นี้แก่ลูก ลองคิดดูว่าเวลานี้ลูกเป็นของวรรณะบราห์มินอย่างไร และก่อนหน้านี้เมื่อลูกไม่มีความรู้ ลูกเป็นของวรรณะศูทรอย่างไร ท่านคือปู่ของปู่ของปู่ ลูกเคยเป็นศูทรที่ยิ่งใหญ่ พ่อค้าที่ยิ่งใหญ่ และนักรบที่ยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านี้ลูกเป็นบราห์มินที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถอธิบายสิ่งเหล่านี้ สิ่งนี้เรียกว่าความรู้ที่ทำให้เห็นการณ์ไกล พ่อผู้อาศัยในดินแดนที่ห่างไกลได้มาเพื่อให้ความรู้ทั้งหมดของดินแดนที่หางไกลแก่ลูก ลูกรู้ว่าบาบาของเรามาจากดินแดนไกลโพ้นและเข้ามาในผู้นี้ นี่คือดินแดนในต่างแดนและอาณาจักรต่างแดน ชีพบาบาไม่ได้มีร่างกายของท่านเอง ท่านคือมหาสมุทรแห่งความรู้ ท่านต้องให้อาณาจักรแห่งสวรรค์แก่เรา กฤษณะไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ เพียงชีพบาบาเท่านั้นที่สามารถให้อาณาจักรนั้นได้ กฤษณะไม่สามารถเรียกว่าบาบาได้ พ่อให้อาณาจักรของลูกแก่ลูก ลูกได้รับมรดกจากพ่อของลูกเท่านั้น มรดกที่มีขีดจำกัดทั้งหมดเหล่านั้นกำลังจะจบสิ้นลงในเวลานี้ เมื่อลูกอยู่ในยุคทองลูกจะไม่ตระหนักรู้เลยว่าลูกได้ประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกเป็นเวลา 21 ชาติเกิดในยุคบรรจบพบกัน เวลานี้ลูกรู้ว่าลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูก 21ชาติเกิดสำหรับครึ่งวงจร มรดกของลูกจะดำเนินต่อเนื่องไปถึง 21 ชั่วอายุ ซึ่งหมายความว่าสำหรับช่วงชีวิตที่เต็มของลูก (ในแต่ละชาติเกิด) เมื่อร่างกายของลูกแก่ลง ลูกก็จะละร่างนั้นในเวลาที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับงูที่ละหนังเก่าของมันและใช้หนังใหม่ เครื่องแต่งกายของเราเวลานี้กลับมาเก่าแล้ว ในขณะที่เราเล่นบทบาทของเรา เราเป็นบราห์มินที่แท้จริง ลูกคือผู้ที่ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นแมลงที่ส่งเสียง ลูกทำให้แมลงกลายเป็นบราห์มินเหมือนตัวลูกเอง ลูกได้รับการบอกให้นำแมลงมาที่นี่และส่งเสียงของความรู้นี้ให้แก่พวกเขา แมลงที่ส่งเสียงก็ส่งเสียงของความรู้และแล้วแมลงบางตัวก็พัฒนาปีกขึ้นในขณะที่ตัวอื่นตายไป ตัวอย่างทั้งหมดเหล่านี้อ้างถึงเวลานี้ ลูกๆผู้เป็นที่รักก็เรียกได้ว่าเป็นแสงแห่งดวงตา พ่อพูดว่า: แสงแห่งดวงตาของพ่อ! พ่อได้ทำให้ลูกเป็นของพ่อ ดังนั้นลูกเป็นของพ่อ ยิ่งลูกจดจำพ่อเช่นนั้นมากเท่าไหร่ บาปของลูกก็จะยิ่งถูกตัดไปมากเท่านั้น บาปของลูกไม่สามารถถูกตัดออกไปได้โดยการจดจำคนอื่น อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ทำความเพียรพยายามตราบเท่าที่ลูกยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะละลายสำนึกที่เป็นร่างของลูก ลูกไม่ควรมีความผูกพันยึดมั่นแม้เพียงเล็กน้อยกับรองเท้าเก่าของลูก

2. กลายเป็นบราห์มินที่แท้จริงและส่งเสียงของความรู้ให้แก่แมลงและทำให้พวกเขากลายเป็นบราห์มินเหมือนตัวลูกเอง

พร:
ขอให้ลูกเป็นเพชรพลอยที่แท้จริงของความพอใจที่ยกระดับผู้อื่นและสร้างความหวังในผู้ที่สิ้นหวัง

จงกลายเป็นตรีกาลดาชิและแยกแยะความอ่อนแอในทุก ๆ ดวงวิญญาณ แทนที่จะดูดซับความอ่อนแอนั้นเข้ามาในตัวเองหรือพูดถึงสิ่งนั้น จงให้ทำหนามของความอ่อนแอนั้นจบสิ้นในรูปที่เมตตากรุณาของลูก เปลี่ยนหนามเป็นดอกไม้ ลูกเองจะต้องอยู่อย่างพอใจในฐานะเพชรพลอยแห่งความพอใจและทำให้ผู้อื่นพอใจ ลูกควรจุดตะเกียงแห่งความหวังให้กับใครบางคนหรือสถานการณ์ที่ทุกคนรู้สึกสิ้นหวังนั่นคือลูกต้องทำให้ดวงวิญญาณที่ท้อแท้หมดกำลังใจเป็นดวงวิญญาณที่มีพลัง เมื่อลูกเฝ้าแต่ดำเนินงานที่สูงส่งเช่นนี้ต่อไปลูกจะได้รับพรจากการเป็นผู้ที่ยกระดับผู้อื่นและเป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจ

คติพจน์:
เมื่อลูกจดจำสัญญาของลูกในช่วงเวลาของการสอบของลูก การเปิดเผยก็จะเกิดขึ้น