09.04.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน นี่คือเวลาที่มีคุณค่ามากที่สุดสำหรับลูก
ในเวลานี้ลูกกลายเป็นผู้ช่วยที่สมบูรณ์ของพ่อ
ลูกๆที่กลายเป็นผู้ช่วยประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
คำถาม:
ลูกๆที่มีประโยชน์ต่องานรับใช้ไม่สามารถมีข้ออ้างใด?
คำตอบ:
ลูกๆที่มีประโยชน์ต่องานรับใช้ไม่เคยมีข้ออ้างว่า: บาบา ที่นี่หนาว
หรือที่นี่ร้อนและดังนั้นฉันจึงไม่สามารถทำงานรับใช้ที่นี่ได้
อย่าได้เปราะบางเมื่อร้อนหรือหนาวเล็กน้อย
ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นที่ลูกไม่สามารถอดทนต่อสิ่งใด
ในดินแดนของความทุกข์นี้ลูกต้องอดทนทุกสิ่ง: ความสุขและความทุกข์
ความร้อนและความหนาว การสรรเสริญและการประณาม อย่ามีข้ออ้าง
เพลง:
จงมีความอดกลั้น โอ จิตใจ! วันเวลาของความสุขของลูกกำลังจะมา
โอมชานติ
เพียงลูกๆเท่านั้นที่รู้ว่าความสุขและความทุกข์คืออะไร
เพียงลูกๆบราห์มินที่รู้ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำว่าเมื่อไรที่ลูกได้รับความสุขและเมื่อไรที่ลูกได้รับความทุกข์ในชีวิตนี้
เวลานี้คือโลกของความทุกข์ ลูกต้องอดทนต่อความสุขและความทุกข์
คำสรรเสริญและคำประณาม อดทนต่อทุกสิ่งสำหรับเวลาอีกเล็กน้อย
ลูกต้องไปอยู่เหนือทั้งหมดนั้น เมื่อลูกบางคนรู้สึกร้อนเล็กน้อย พวกเขาพูดว่า:
ฉันต้องการที่จะไปในที่ที่เย็นกว่า เวลานี้ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาวลูกๆต้องทำงานรับใช้
ความไม่สบายเล็กน้อยของเวลาปัจจุบันนี้ไม่ใช่สิ่งใดใหม่ นี่คือดินแดนแห่งความทุกข์
เพื่อที่จะไปยังดินแดนแห่งความสุข เวลานี้ลูกๆต้องทำความเพียรพยายามอย่างเต็มที่
นี่คือเวลาที่มีคุณค่ามากที่สุดของลูก ไม่สามารถมีข้ออ้างใดๆ
พ่อกำลังพูดกับลูกๆที่เป็นประโยชน์ต่องานรับใช้
ผู้ที่ไม่รู้วิธีที่จะทำงานรับใช้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
พ่อมาที่นี่เพื่อทำให้ไม่เพียงแต่บารัตเท่านั้นแต่ทำให้ทั้งโลกกลายเป็นดินแดนแห่งความสุข
ดังนั้นลูกๆบราห์มินต้องกลายเป็นผู้ช่วยของพ่อ
พ่อมาแล้วและดังนั้นลูกต้องทำตามคำแนะนำของพ่อ บารัตที่เคยเป็นสวรรค์เวลานี้คือนรก
ต้องมีการทำให้บารัตกลายเป็นสวรรค์อีกครั้ง เวลานี้ลูกรู้สิ่งนี้เช่นกัน
ยุคทองเป็นอาณาจักรของราชาที่บริสุทธิ์ พวกเขามีความสุขมาก
ภายหลังพวกเขากลายเป็นราชาที่ไม่บริสุทธิ์ ด้วยการให้ทานในนามของพระเจ้า
พวกเขาได้รับพละกำลังด้วยเช่นกัน ในเวลาปัจจุบันเป็นรัฐบาลโดยประชาชน
ไม่มีผู้ใดในพวกเขาสามารถรับใช้บารัต
เพียงพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดผู้เดียวเท่านั้นที่รับใช้บารัตและทั้งโลก
เวลานี้พ่อพูดกับลูกๆว่า: ลูกๆที่แสนหวาน เวลานี้จงกลายเป็นผู้ช่วยของพ่อ
ท่านอธิบายด้วยความรักอย่างยิ่ง ลูกๆผู้ที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณก็เข้าใจท่าน
ลูกๆที่มีสำนึกเป็นร่างจะสามารถช่วยท่านได้อย่างไร?
พวกเขาติดกับอยู่ในโซ่ตรวนของมายา
เวลานี้พ่อได้ให้คำแนะนำสั่งสอนแก่ลูกที่จะปลดปล่อยทุกคนจากโซ่ตรวนของมายา,จากโซ่ตรวนของกูรู
นี่คือธุรกิจของลูก พ่อพูดว่า: ผู้ที่ช่วยพ่ออย่างดีจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่ดี
พ่อพูดด้วยตัวท่านเองเป็นการส่วนตัวว่า:
เพราะว่าพ่อนั้นธรรมดาจึงไม่มีใครรู้จักพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำอย่างที่พ่อเป็นหรือในสิ่งที่พ่อเป็น
พ่อทำให้พวกเรากลายเป็นนายของโลก พวกเขาไม่รู้สิ่งนี้
ไม่มีใครรู้ว่าลักษมีและนารายณ์เคยเป็นนายของโลก
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าพวกเขาได้อาณาจักรนั้นมาอย่างไรและต่อมาพวกเขาสูญเสียอาณาจักรไปอย่างไร
สติปัญญาของผู้คนนั้นตกต่ำอย่างสิ้นเชิง
เวลานี้พ่อมาแล้วเพื่อเปิดล็อคของสติปัญญาของทุกคน
การเปลี่ยนสติปัญญาของทุกคนจากหินเป็นเพชร บาบาพูดว่า:
เวลานี้จงกลายเป็นผู้ช่วยของพ่อ ผู้คนพูดถึงผู้ช่วยของพระเจ้า
แต่พวกเขาเองไม่ได้เป็นผู้ช่วยของพระเจ้า
พระเจ้าบอกใครก็ตามที่ท่านทำให้บริสุทธิ์ให้ทำให้ผู้อื่นบริสุทธิ์เหมือนพวกเขาเอง
จงทำตามศรีมัท! พ่อมาเพื่อทำให้ลูกกลายเป็นชาวสวรรค์ที่บริสุทธิ์
ลูกๆบราห์มินรู้ว่านี่คือดินแดนแห่งความตาย
ผู้คนตายในทันทีในขณะที่นั่งอยู่ที่ไหนสักแห่ง ดังนั้นก่อนที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น
ทำไมเราถึงไม่เพียรพยายามที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกอย่างเต็มที่จากพ่อและสร้างอนาคตของเรา?
เมื่อผู้คนถึงวัยของการปลดเกษียณของพวกเขา,
พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาควรจะไม่ว่างเว้นอยู่ในความเลื่อมใสศรัทธา
กว่าจะถึงเวลาที่พวกเขาไปถึงสภาพของการปลดเกษียณ พวกเขาหาเงินได้มากมายฯลฯ
เวลานี้เป็นสภาพของการปลดเกษียณของลูกทั้งหมด
ดังนั้นเหตุใดลูกจึงไม่กลายเป็นผู้ช่วยของพ่อ
ถามหัวใจของลูกว่าลูกได้กลายเป็นผู้ช่วยของพ่อหรือไม่
ลูกๆที่เป็นประโยชน์ต่องานรับใช้นั้นมีชื่อเสียงอย่างมาก
พวกเขาทำความเพียรพยายามอย่างดีมาก ด้วยการอยู่ในโยคะลูกสามารถทำงานรับใช้ได้
ลูกต้องชำระทั้งโลกให้บริสุทธิ์ด้วยพลังของการจดจำระลึกถึง
ลูกได้กลายเป็นเครื่องมือเพื่อชำระทั้งโลกให้บริสุทธิ์
โลกที่บริสุทธิ์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกอย่างแน่นอน ดังนั้นโลกเก่ากำลังจะถูกทำลาย
เวลานี้บอกทุกคน: ละทิ้งสำนึกที่เป็นร่าง จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น
ท่านผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ทุกคนจดจำท่าน
ผู้รู้และผู้เคร่งศาสนาฯลฯ
ใช้นิ้วชี้ขึ้นข้างบนแล้วพูดว่ามีดวงวิญญาณสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นและท่านเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ประทานความสุขแก่ทุกคน
แม้ว่าผู้คนจะพูดถึงพระเจ้าหรือดวงวิญญาณสูงสุด ก็ไม่มีใครในบรรดาพวกเขารู้จักท่าน
บางคนเฝ้าแต่จดจำฆเนศ (เทพเจ้าที่เป็นช้าง) บางคนจดจำหนุมาน (เทพเจ้าที่เป็นลิง)
และบางคนก็จดจำกูรูของพวกเขา
เวลานี้ลูกรู้ว่าทั้งหมดเป็นของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
หนทางความเลื่อมใสศรัทธาดำเนินต่อเนื่องมาเป็นเวลาครึ่งวงจร
ฤาษีและมุนีที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมดพูดว่า “เนติ เนติ” (ไม่ใช่สิ่งนี้และสิ่งนั้น)
พวกเราไม่รู้จักทั้งผู้สร้างและสิ่งสร้าง พ่อพูดว่า: พวกเขาไม่ใช่ตรีกาลดาร์ชิ (ผู้มองเห็นรูปกาลเวลาทั้งสาม)
เพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นเมล็ด, มหาสมุทรแห่งความรู้ ท่านเข้ามาในบารัต
ผู้คนเฉลิมฉลองชีพแจนตี (วันเกิดของชีวา) และกีตะแจนตี (วันเกิดของกีตะ)
ด้วยเช่นกัน พวกเขาจดจำกฤษณะแต่พวกเขาไม่รู้จักชีวา ชีพบาบาพูดว่า:
เพียงพ่อเท่านั้นที่เป็นมหาสมุทรแห่งความรู้, ผู้ชำระให้บริสุทธิ์
จะไม่มีใครพูดถึงกฤษณะเช่นนี้ รูปภาพที่ดีมากคือ “ใครคือพระเจ้าแห่งกีตะ”
พ่อมีรูปภาพเหล่านี้ทั้งหมดที่สร้างขึ้นเพื่อคุณประโยชน์ของลูกๆ
เขียนคำสรรเสริญที่ครบถ้วนของชีพบาบา ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับสิ่งนี้
ทุกคนที่ลงมาจากเบื้องบนล้วนบริสุทธิ์
ไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้โดยไม่กลับมาบริสุทธิ์ สิ่งหลักคือการกลับมาบริสุทธิ์
นั่นคือดินแดนที่บริสุทธิ์ที่ซึ่งดวงวิญญาณทั้งหมดอาศัยอยู่
มรขณะที่เล่นบทบาทของลูกที่นี่, ลูกก็กลับมาไม่บริสุทธิ์
ผู้ที่บริสุทธิ์ที่สุดได้กลับมาไม่บริสุทธิ์
ชื่อและร่องรอยทั้งหมดของศาสนาเทพได้หายไป ชื่อของศาสนาเทพเปลี่ยนเป็นศาสนาฮินดู
เพียงลูกๆเท่านั้นที่ประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรแห่งสวรรค์แล้วต่อมาก็สูญเสียอาณาจักรนั้นไป
นี่คือการละเล่นเกี่ยวกับชัยชนะและความพ่ายแพ้
ผู้ที่พ่ายแพ้มายาจะพ่ายแพ้ทุกสิ่งและผู้ที่เอาชนะมายาก็จะมีชัยชนะต่อทุกสิ่ง
ผู้คนใช้เงินอย่างมากมายในการสร้างหุ่นจำลองที่ใหญ่โตของราวัน
แล้วพวกเขาก็ทำลายหุ่นจำลองนั้นในหนึ่งวัน เขาคือศัตรูใช่ไหม?
นั่นก็เหมือนกับการเล่นกับตุ๊กตา พวกเขาสร้างภาพลักษณ์ของชีพบาบาด้วยเช่นกัน
พวกเขากราบไหว้บูชาแล้วก็ทำลาย
ในทำนองเดียวกันพวกเขาสร้างสัญลักษณ์ของเหล่าเทพแล้วก็เอาไปจมน้ำ
พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
เวลานี้ลูกๆรู้ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่ไม่มีขีดจำกัดและรู้ว่าวงจรโลกนี้หมุนไปอย่างไร
ไม่มีใครอื่นรู้เกี่ยวกับยุคทองและยุคเงิน
รูปปั้นที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นเป็นการประณาม พ่ออธิบาย: ลูกๆที่แสนหวาน
เพื่อที่จะกลายเป็นนายของโลกลูกต้องทำตามข้อควรระวังที่พ่อให้แก่ลูก
เตรียมอาหารในสภาพที่อยู่ในการจดจำระลึกถึง รับประทานอาหารในการจดจำระลึกถึง
พ่อเองพูดว่า: จดจำพ่อและลูกจะกลายเป็นนายของโลกอีกครั้ง พ่อมาอีกครั้งด้วยเช่นกัน
เวลานี้ลูกต้องกลายเป็นนายของโลกอย่างสมบูรณ์ ทำตามแม่และพ่อ
ไม่สามารถเป็นเพียงพ่อเท่านั้น ซันยาสซีพูดว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นพ่อ
พวกเขาทำสิ่งนี้ด้วยการพูดว่าแต่ละดวงวิญญาณคือดวงวิญญาณสูงสุด นั่นเป็นสิ่งที่ผิด
ทั้งแม่และพ่อที่นี่กำลังทำความเพียรพยายาม คำว่า “ทำตามแม่และพ่อ” หมายถึงที่นี่
เวลานี้ลูกรู้ว่าผู้ที่เป็นนายของโลกนั้นบริสุทธิ์และเวลานี้พวกเขาไม่บริสุทธิ์
พวกเขากำลังกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง
เรากำลังทำตามศรีมัทของท่านและได้มาซึ่งสถานภาพนั้นด้วยเช่นกัน
ท่านกำลังให้คำแนะนำโดยผ่านผู้นี้ เราต้องทำตามคำแนะนำเหล่านั้น
ลูกบางคนไม่ทำตามคำแนะนำเหล่านั้น แต่เพียงแค่ทำให้ปากของลูกหวานขึ้นด้วยการพูดว่า
“บาบา บาบา” เพียงผู้ที่ทำตามคำแนะนำของท่านเท่านั้นที่เรียกได้ว่าเป็นลูกที่มีค่า
ลูกรู้ว่าด้วยการทำตามมาม่าและบาบา ลูกจะเข้าไปสู่อาณาจักร
นี่เป็นเรื่องของความเข้าใจ พ่อเพียงแค่พูดว่า: จดจำพ่อและบาปของลูกจะถูกทำลาย
เท่านั้นเอง! เพียงแค่อธิบายให้ผู้อื่นว่าพวกเขากลับมาไม่บริสุทธิ์ในขณะที่ใช้ 84
ชาติเกิดอย่างไรและเวลานี้พวกเขาต้องกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้ง
ยิ่งลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงมากเท่าไหร่ลูกก็จะยิ่งกลับมาบริสุทธิ์มากเท่านั้น
ผู้ที่อยู่ในการจดจำระลึกถึงอย่างมากก็จะไปสู่โลกใหม่ก่อน
ลูกต้องทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกับตัวลูกเองเช่นกัน
มาม่าและบาบาไม่สามารถไปอธิบายที่นิทรรศการ เมื่อผู้เยี่ยมชมคนสำคัญมาจากต่างประเทศ
ผู้คนมากมายก็มารวมกันเพื่อจะดูว่าใครมา ผู้เดียวนี้แฝงตัวมาก พ่อพูดว่า:
พ่อพูดผ่านร่างของบราห์มา พ่อรับผิดชอบต่อลูกคนนี้
ลูกต้องคิดเสมอว่าเป็นชีพบาบาที่กำลังพูดและสอนลูก
ลูกต้องมองเห็นแต่ชีพบาบาเท่านั้นไม่ใช่ผู้นี้
คิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อดวงวิญญาณสูงสุด ฉันคือดวงวิญญาณ
ดวงวิญญาณมีบทบาททั้งหมดอยู่ในตัวเขา ควงความรู้นี้ในสติปัญญาของลูก,
หากลูกมีแต่สิ่งในทางโลกเท่านั้นในสติปัญญาของลูกนั่นก็หมายความว่าลูกไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
พวกเขาตกต่ำลงอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามแม้แต่คนเช่นนั้นก็ยังต้องได้รับคุณประโยชน์
พวกเขาจะไปสวรรค์แต่พวกเขาจะไม่ได้รับสถานภาพที่สูง
พวกเขาจะได้รับการลงโทษและแล้วจึงกลับบ้าน
พ่อได้อธิบายแล้วว่าลูกสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงได้อย่างไร
ก่อนอื่นจงกลายเป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองและทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นนั้นเช่นกัน
กลายเป็นโยคีที่มั่นคงและทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นนั้นด้วยเช่นกัน พ่อพูดว่า: จดจำพ่อ!
แล้วลูกก็พูดว่า: บาบา เราลืม ลูกไม่ละอายหรือ? มีหลายคนที่ไม่พูดความจริง
หลายคนลืม พ่อได้อธิบายว่า: ให้คำแนะนำของพ่อแก่ใครก็ตามที่มา เวลานี้วงจรของ 84
ชาติเกิดกำลังจะสิ้นสุดลงแล้วและเราต้องกลับบ้าน มีคำกล่าวว่า “เมื่อรามไป
ราวันก็ไปด้วย” ความหมายของสิ่งนี้ง่ายมาก!
แน่นอนว่าในยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้จะต้องมีทั้งครอบครัวของรามและราวัน
ลูกก็รู้เช่นกันว่าทุกคนจะถูกทำลายและเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เหลืออยู่
เมื่อลูกก้าวไปต่อไปลูกจะรู้ว่าลูกจะได้รับอาณาจักรของลูกอย่างไร
ลูกจะไม่ได้รับการบอกทุกสิ่งตั้งแต่เริ่มต้นใช่ไหม? มิฉะนั้นก็จะไม่เป็นการละเล่น
ลูกต้องเฝ้าดูอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง ลูกจะได้รับนิมิตอยู่เรื่อยๆ
ไม่มีใครในโลกที่รู้ถึงวงจรของ 84 ชาติเกิด
เวลานี้ลูกมีสิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกว่าลูกกำลังจะกลับบ้าน
เวลานี้ลูกกำลังอำลาจากอาณาจักรของราวัน แล้วลูกก็จะไปสู่อาณาจักรของลูกเอง
เหลืออีกไม่กี่วัน วงจรนี้ยังคงหมุนไปเรื่อยๆ ลูกเคยวนไปรอบวงจรนี้หลายต่อหลายครั้ง
เวลานี้พ่อพูดว่า: ลืมบ่วงพันธะของกรรมทั้งหมดที่ลูกเคยติดกับมา
ในขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก จงเฝ้าแต่ลืมพวกเขา
เวลานี้การละเล่นนี้กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เวลานี้เราต้องกลับบ้าน
หลังจากสงครามมหาภารตะแล้วเท่านั้นที่ประตูของสวรรค์จะเปิด เหตุนี้เองบาบาพูดว่า:
ชื่อ “ประตูไปสู่สวรรค์” นั้นดีมาก บางคนพูดว่าสงครามเหล่านี้มีอยู่เสมอ
ถามพวกเขาว่า: สงครามกับขีปนาวุธเกิดขึ้นเมื่อไร?
สงครามขีปนาวุธนี้เป็นสงครามสุดท้าย
ไฟบูชายัญนี้ถูกสร้างขึ้นเช่นกันเมื่อสงครามนี้เกิดขึ้นเมื่อ 5000 ปีที่แล้ว
เวลานี้โลกเก่านี้กำลังจะถูกทำลาย อาณาจักรใหม่กำลังมีการก่อตั้ง
ลูกกำลังศึกษาการศึกษาทางจิตนี้เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของลูก
ธุรกิจของลูกคือธุรกิจทางจิตวิญญาณ ความรู้ทางกายภาพจะไม่เป็นประโยชน์ใดๆแก่ลูก
แม้แต่คัมภีร์ก็ไม่มีประโยชน์กับลูก ดังนั้นเหตุใดจึงไม่ข้องแวะตนเองในธุรกิจนี้?
พ่อกำลังทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก
คิดเกี่ยวกับว่าตัวลูกเองควรจะข้องแวะอยู่ในการศึกษาใด
ผู้คนเหล่านั้นศึกษาเพียงเพื่อจะได้รับปริญญา ในขณะที่ลูกศึกษาเพื่ออาณาจักร
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืน
ในการศึกษาเหล่านั้นลูกไม่รู้ว่าลูกจะได้รับถั่วลิสงสักเล็กน้อยหรือไม่
เมื่อบางคนออกจากร่างของเขา, เขาก็ทิ้งถั่วไว้ข้างหลังด้วยเช่นกัน
การศึกษานี้จะไปกับลูก ความตายกำลังยืนอยู่เหนือศีรษะของลูก
ดังนั้นก่อนที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น พวกเราควรหารายได้อย่างเต็มที่
ในขณะที่ลูกเฝ้าแต่หารายได้นี้ โลกจะถูกทำลาย เมื่อการศึกษาของลูกจบสิ้น
การทำลายล้างจะเกิดขึ้น
ลูกรู้ว่ามนุษย์ทั้งหมดมีถั่วไม่กี่เมล็ดเท่านั้นในกำมือของพวกเขา
พวกเขากำลังถือถั่วเหล่านั้นเหมือนลิง เวลานี้ลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในเพชรพลอย
ละทิ้งความผูกพันยึดมั่นกับถั่วไม่กี่เมล็ดเหล่านั้นของลูก
เมื่อพวกเขาเข้าใจทุกสิ่งอย่างชัดเจน พวกเขาจะปล่อยถั่วในกำมือนั้น
ทุกสิ่งที่นี่กำลังจะกลายเป็นฝุ่น อัจชะ
ถึง ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
ด้วยความรัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา
พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ลูกต้องศึกษาเล่าเรียนและสอนการศึกษาทางจิตนี้
เติมมือของลูกให้เต็มไปด้วยด้วยเพชรพลอยของความรู้ที่ไม่สูญสลาย
อย่าเสียเวลาวิ่งไล่ตามถั่วลิสง
2.
เวลานี้การละเล่นกำลังจะจบลงแล้ว ดังนั้นปลดปล่อยตนเองจากบ่วงพันธะของกรรมของลูก
ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองและทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นเดียวกัน
ทำตามแม่และพ่อและกลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ต่อสถานภาพที่สูงศักดิ์
พร:
ขอให้ลูกละทิ้งความต้องการที่มีขีดจำกัดทั้งหมดและกลายเป็นภาพลักษณ์ของตาปาเซียที่แท้จริง
ละทิ้งความต้องการที่มีขีดจำกัดทั้งหมดและกลายเป็นภาพลักษณ์ของตาปาเซียที่แท้จริง
ภาพลักษณ์ของตาปาเซียหมายความว่าเป็นผู้ที่ไม่รู้แม้กระทั่งความรู้ในเรื่องของความปรารถนา
ผู้ที่มีความคิดที่จะรับบางสิ่งจะได้รับสิ่งนั้นในเวลาสั้นๆเท่านั้น
แต่พวกเขาจะสูญเสียตลอดกาล
ความปรารถนาในช่วงเวลาชั่วคราวกลายเป็นอุปสรรคต่อการที่เราจะกลายเป็นตาปาสวี
ดังนั้นเวลานี้จงให้ข้อพิสูจน์ว่าลูกได้เป็นภาพลักษณ์ของตาปาเซียนั่นคือละทิ้งการได้รับความเคารพหรือเกียรติที่มีขีดจำกัด
และกลายเป็นผู้ประทานโชค เมื่อซันสการ์ของผู้ประทานโชคของลูกปรากฏออกมา
ซันสการ์อื่น ๆ ทั้งหมดจะตายลงโดยอัตโนมัติ
คติพจน์:
การมีความปรารถนาที่ละเอียดอ่อนต่อผลของการกระทำก็เหมือนกับการรับประทานผลไม้ก่อนที่มันจะสุก