05.04.20    Avyakt Bapdada     Thai Murli     19.12.85     Om Shanti     Madhuban


ทำตามพ่อ


วันนี้บัพดาดามาเพื่อเฉลิมฉลองการพบปะ เพื่อที่จะตอบสนองต่อความรักของลูกที่รักทุกคน บัพดาดาที่ปราศจากร่างจะต้องได้รับการค้ำจุนของร่างกาย เพราะเหตุใด? เพื่อที่จะทำให้ลูกๆปราศจากร่างด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับที่พ่อปราศจากร่างและให้ประสบการณ์ในรูปที่ปราศจากร่าง ของการปราศจากร่างในขณะที่อยู่ในร่างกาย ในทำนองเดียวกันลูกทุกคนในขณะที่ใช้ชีวิตของลูก จงอยู่อย่างมั่นคงในร่างกายในสภาพที่มีสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณที่ปราศจากร่างในขณะที่อยู่ในร่างกาย และโดยเป็นคาราวันฮาร์ (ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจ) ทำให้ร่างกายของลูกแสดงการกระทำ ร่างกายคือคารันฮาร์ (คนที่ทำ) และลูกดวงวิญญาณเป็นคาราวันฮาร์ (ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจ) สภาพนี้เรียกว่าสภาพที่ปราศจากร่าง สิ่งนี้เรียกว่าการทำตามพ่อ ในการที่จะทำตามพ่ออย่างสม่ำเสมอ จงให้สติปัญญาของลูกมั่นคงในสองสภาพ สภาพของการทำตามพ่อคือ สภาพของการอยู่อย่างไม่มีร่างกาย, สภาพที่ปราศจากร่าง และ สภาพที่ไม่มีตัวตนอย่างสม่ำเสมอ ในการที่จะทำตามดาด้าซึ่งคือพ่อบราห์มาคือการอยู่ในสภาพที่อะแวค, สภาพเทวดานางฟ้า และสภาพที่ละเอียดอ่อนเสมอ การอยู่อย่างมั่นคงในทั้งสองสภาพนี้เรียกว่าการทำตามพ่อ สภาพที่ต่ำกว่านี้คือสำนึกรู้ในรูปที่หยาบและสำนึกรู้เกี่ยวกับผู้คน อย่าลงมาถึงสภาพนั้น สำนึกรู้ของผู้คนและสำนึกรู้ที่หยาบเป็นพื้นฐานของการทำให้ลูกตกต่ำลงมา ดังนั้นจงอยู่เหนือทุกสิ่งและมั่นคงในสองสภาพนี้อย่างสม่ำเสมอ ประเด็นที่สามคือทันทีที่ลูกเกิดมาเป็นบราห์มิน ลูกจะได้รับคำสอนของบัพดาดา ดังนั้นอย่าได้เข้าไปสู่สภาพของการลงมาแม้กระทั่งในความคิดหรือความฝันของลูก นั่นคือสภาพที่ไม่ได้เป็นของลูก จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีใครบางคนไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต? บัพดาดาได้วาดเส้นของการเชื่อฟังนี้ไว้แล้ว: อย่าก้าวออกไปนอกเส้น หากลูกไม่เชื่อฟังก็จะมีความทุกข์ระทมและมีการสำนึกผิดเสียใจเช่นกัน ดังนั้นวิธีที่ง่ายดายในการรักษาความภาคภูมิใจของลูกไว้อย่างสม่ำเสมอและการอยู่อย่างมั่นคงในสภาพของการเป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดคือการทำตามพ่อ นี่เป็นสิ่งที่ง่ายดายที่จะทำตามใช่ไหม? ในชีวิต,ลูกมีประสบการณ์ของการทำตามมาตั้งแต่วัยเด็ก ในวัยเด็กลูกต้องทำตามพ่อของลูกโดยการจับนิ้วของเขาในขณะที่เดินนั่งและเคลื่อนไหว จากนั้นเมื่อลูกเป็นผู้ครองเรือน สามีและภรรยาจะถูกสอนให้ทำตามกันและกัน จากนั้นเมื่อลูกก้าวหน้าต่อไปลูกก็จะยอมรับกูรู ลูกจะกลายเป็นสาวกของกูรู ลูกกลายเป็นคนที่ทำตามเขา ในชีวิตทางโลกลูกต้องทำตามตั้งแต่ตอนต้นและในตอนสุดท้ายเช่นกัน พ่อทางจิตและพ่อเหนือโลกก็แสดงวิธีการที่ง่ายดายเช่นกัน พวกท่านปลดปล่อยลูกจากการขยายตัวของ “ฉันควรทำอย่างไร? ฉันจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร? ฉันควรทำอย่างนี้หรืออย่างนั้น?” คำตอบสำหรับคำถามทั้งหมดเป็นเพียงข้อเดียว: ทำตามพ่อ

เป็นดวงวิญญาณบราห์มาที่ใช้ 84 ชาติเกิดเต็มอย่างสมบูรณ์และกลายเป็นเครื่องมือที่จะสอนลูกถึงวิธีที่จะทำการกระทำในรูปที่มีตัวตน

· วิธีที่จะแสดงการกระทำ

· วิธีที่จะเป็นอิสระจากบ่วงพันธะของกรรม

· วิธีที่จะตอบสนองความรับผิดชอบของการกระทำ

· วิธีที่จะอยู่อย่างมั่นคงอยู่ในสภาพที่ปราศจากร่างในขณะที่อยู่ในร่างกาย

· วิธีที่จะเป็นอิสระจากบ่วงพันธะของร่างกาย

· วิธีที่จะรักษาสภาพของการซึมซับและหลุดหายไปในความรักในจิตใจของลูก

· วิธีที่จะใช้ทุกสตางค์ในหนทางที่มีค่า - เป็นบราห์มาที่มีตัวตน ที่กลายเป็นเครื่องมือในชีวิตทางร่างนี้

ดวงวิญญาณที่ถูกผูกอยู่ในบ่วงพันธะของกรรมจะกลายเป็นตัวอย่างของการกลับมาอยู่เหนือบ่วงกรรม ดังนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดายที่จะทำตามชีวิตในทางปฏิบัติใช่ไหม? นี่คือบทเรียนของการทำตามพ่อ เมื่อลูกถามคำถามที่เชื่อมโยงกับร่างกาย, ความสัมพันธ์ หรือความมั่งคั่ง คำตอบของคำถามเหล่านี้ทั้งหมดคือชีวิตของพ่อบราห์มา ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ถามคอมพิวเตอร์เพื่อหาคำตอบสำหรับทุกคำถามของพวกเขา เพราะพวกเขาเชื่อว่าคอมพิวเตอร์มีความถูกต้องแม่นยำมากกว่าสติปัญญาของมนุษย์ พวกเขาเชื่อว่าสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมีความถูกต้องแม่นยำมากกว่าผู้สร้าง อย่างไรก็ตามสำหรับลูกที่มีความเงียบสงบ ชีวิตของบราห์มาเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องแม่นยำ ดังนั้นแทนที่จะถามว่า "ทำไม" หรือ "อย่างไร?" ดูที่คอมพิวเตอร์ที่มีชีวิต คำถามของ “อย่างไร” และ “อะไร?" จะเปลี่ยนเป็น“ เป็นเช่นนี้” แทนที่จะมีคำถามมากมาย ลูกจะพอใจและสมใจ คนที่ถามคำถามมากมายมีสติปัญญาที่แปรปรวน ด้วยเหตุนี้เองสัญลักษณ์ของเครื่องหมายคำถามจึงคดเคี้ยว เมื่อลูกเขียนสัญลักษณ์ของเครื่องหมายคำถามนั้นจะมีลักษณะคดเคี้ยว ในขณะที่สัญลักษณ์ของความพอใจและความสมพอใจคือจุดฟูลสต๊อป มีอะไรคดเคี้ยวในจุดฟูลสต๊อปหรือไม่? มันเหมือนกันจากทุกด้าน หากลูกมองจุดฟูลสต๊อปจากมุมใดมุมหนึ่ง มันจะเป็นทางที่ถูกต้องและจะเป็นแบบเดียวกันเสมอ – ไม่ว่าลูกจะมองอย่างถูกทางหรือผิดทาง ในสภาพของความพอใจและความสมพอใจ นั่นคือในการมีความสม่ำเสมอและมั่นคง ลูกคือผู้ที่ทำตามพ่อ ดังนั้นสาระสำคัญคืออะไร? ทำตามบราห์มาในรูปที่มีตัวตน และทำตามพ่อบราห์มาในรูปที่ละเอียดอ่อน ไม่ว่าลูกจะทำตามพ่อบราห์มาหรือพ่อชีวา ลูกก็ใช้คำเดียวกันว่า: ทำตามพ่อ มีคำสรรเสริญของบราห์มา: ขอคารวะต่อบราห์มา กูรูของโลก เพราะเป็นบราห์มาในรูปที่มีตัวตนที่กลายเป็นเครื่องมือในโลกที่มีตัวตนเพื่อให้ลูกทำตาม

ไม่มีใครในบรรดาลูกที่เรียกตัวเองว่าชีพกุมารหรือชีพกุมารี; ลูกเรียกตัวเองว่าบราห์มากุมารและบราห์มากุมารี เป็นบราห์มาที่กลายเป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตที่สูงส่งสำหรับสิ่งสร้างทางร่างกายที่มีตัวตน ดังนั้นพ่อชีวาจึงถูกเรียกว่าสัตกูรู และผู้ที่สอนลูกบางสิ่งเรียกว่ากูรู เป็นบราห์มาที่กลายเป็นเครื่องมือในการสอนโลก ดังนั้นลูกต้องทำตามท่านในทุก ๆ การกระทำ ในบริบทนี้บราห์มาถูกเรียกว่าจักกัดกูรู (กูรูโลก) ด้วยเหตุนี้เองโลกจึงยกย่องบราห์มา สมญา“จักกัดปิตา” ก็เป็นของบราห์มาเช่นกัน วิษณุและชังการ์ไม่สามารถเรียกว่าประชาปาติ (เจ้าแห่งมนุษยชาติ) ในแง่ของการเป็นนาย พวกเขาเรียกท่านว่า ปาติ (เจ้า) แต่ที่จริงแล้วท่านคือปิตา (พ่อ) ยิ่งท่านเป็นที่รักของโลกมากแค่ไหน ท่านก็ละวางจากโลกมากตามนั้นเช่นกัน และเวลานี้ท่านกำลังสอนลูกในบทเรียนของการทำตามท่านผ่านรูปที่ละเอียดอ่อนในสภาพที่อะแวค ลูกเข้าใจไหม? ไม่มีดวงวิญญาณอื่นใดที่มีการละวางมากเช่นนั้น บาบาจะเล่าเรื่อของการละวางของของบราห์มาให้ลูกฟังในเวลาอื่น

วันนี้บาบายังต้องดูแลร่างกายด้วย ร่างที่ถูกยืมมาใช้ และในฐานะที่เป็นนายที่ดีก็จะใช้ร่างกายและสถานที่ตามความสามารถของพลังของร่างกายนั้น อย่างไรก็ตามบัพดาดาได้กลายเป็นเครื่องมือในการทำให้พาหนะทั้งสองทำงานเพื่อเล่นบทบาทที่ทรงพลังของพวกท่าน นี่เป็นพื้นฐานของพรพิเศษในละคร ลูกหลายคนถามคำถาม: เหตุใดเฉพาะพาหนะนี้จึงกลายเป็นเครื่องมือ? ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ผู้นี้ (กุส่าร์ ดาดี้) ก็มีคำถามนี้เช่นกัน เช่นที่บราห์มาไม่รู้ถึงการถือกำเนิดของท่าน ผู้นี้ก็ลืมพรของเธอเช่นกัน ลูกคนนี้ได้รับพรจากบราห์มาขณะที่มีร่างกายในช่วงเวลาที่มีบทบาทเกี่ยวกับนิมิตในตอนแรก ในตอนแรกพร้อมกับพ่อบราห์มา ในสถานที่ทาปาสวีแห่งความสันโดษ เมื่อเห็นบทบาทพิเศษของนิมิตของดวงวิญญาณนี้และเห็นคุณสมบัติพิเศษของธรรมชาติที่เรียบง่ายและชีวิตที่ไร้เดียงสา บราห์มาบาบาจึงให้พรแก่เธอว่า: เช่นที่ลูกกลายเป็นมิตรร่วมทางของพ่อบราห์มา และอยู่กับพ่อมาตั้งแต่เริ่มต้นของบทบาทนี้ ดังนั้นในอนาคตเช่นกันลูกจะเติมเต็มหน้าที่ของการเป็นมิตรร่วมทางของพ่อและกลับมาทัดเทียมกับพ่อ ลูกจะได้เล่นบทบาทที่ทัดเทียมกับพ่อบราห์มาในงานรับใช้ ดังนั้นพรนั้นจึงกลายเป็นเส้นโชคและนี่ก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วสำหรับเธอเพื่อให้เธอเล่นบทบาทของการเป็นพาหนะเหมือนกับที่พ่อบราห์มาทำ อย่างไรก็ตามบัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกที่เล่นบทบาทนี้และสำหรับความสามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับพลังมากมายเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ลิฟต์ของคุณสมบัติพิเศษของความสามารถในการปรับตัวนี้ได้กลายเป็นของขวัญพิเศษ บัพดาดาต้องพิจารณาทุกสิ่งรวมถึงร่างกายด้วย ฮาโมเนียม (ร่างกายที่เป็นเครื่องมือ) นี้แก่แล้วและผู้ที่ใช้ร่างนี้ก็ทรงพลัง อย่างไรก็ตามเนื่องจากบทเรียนของ “ฮาจี, ฮาจี” จึงทำงานได้ดี อย่างไรก็ตามบัพดาดากำลังทำให้สิ่งนี้ทำงานด้วยวิธีการที่ถูกต้องและถูกวิธี แน่นอนว่าท่านสัญญาว่าจะพบลูก แต่วิธีนี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆตามเวลา บาบาจะบอกลูกทุกสิ่งในปีที่สิบแปด สิบเจ็ดปียังต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ อัจชะ

ถึงลูกๆที่กำลังเพียรพยายามอย่างง่ายดายที่ทำตามพ่อ ถึงดวงวิญญาณพิเศษที่พอใจและสมใจ ถึงลูกๆผู้เป็นนายของผู้สร้างที่กลายเป็นคาราวันฮาและทำให้ร่างกายแสดงการกระทำ ถึงลูกๆที่ให้การตอบสนองผ่านชีวิตของเขา การจดจำระลึกถึงที่เต็มไปด้วยความรักและนมัสเต

บัพดาดาพบครู:

1) ครูคือผู้ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วยสภาพของตนเองและยังช่วยให้ผู้อื่นก้าวไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน การก้าวไปข้างหน้าและทำให้ผู้อื่นสามารถก้าวไปข้างหน้าเป็นเป้าหมายพิเศษและคุณสมบัติของครูด้วยเช่นกัน จงเป็นผู้ทรงพลังอำนาจอย่างสม่ำเสมอเช่นพ่อและก้าวไปข้างหน้าและทำให้ผู้อื่นสามารถก้าวไปข้างหน้า ลูกเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งที่ได้รับโชคผ่านการสละละทิ้งของลูก การสละละทิ้งอย่างสม่ำเสมอคือโชค โชคที่สูงส่ง การกระทำที่สูงส่ง และผลที่สูงส่ง ... โบยบินอย่างสม่ำเสมอและทำให้ผู้อื่นโบยบินด้วยผลในทางปฏิบัติที่มองเห็นได้ พิจารณาตนเองว่าเป็นเครื่องมืออย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีที่ง่ายดายที่จะกลับมาสูงส่ง การเป็นผู้รับใช้ในยุคบรรจบพบกันนั้นเป็นสิ่งชี้บอกของโชคพิเศษ การทำงานรับใช้หมายถึงการเต็มเปี่ยมเป็นเวลาชาติแล้วชาติเล่า เพราะลูกสะสมโดยการทำงานรับใช้ และลูกจะรับประทานจากสิ่งที่ลูกสะสมไว้เป็นเวลาหลายชาติเกิด หากลูกรักษาความตระหนักรู้ว่าลูกกำลังสะสมโดยการรับใช้ ลูกจะอยู่อย่างมีความสุขตลอดเวลา และด้วยความสุขนั้นที่ลูกจะไม่มีวันเหนื่อยล้า งานรับใช้ทำให้ลูกไม่รู้เหนื่อย มันทำให้ลูกสัมผัสกับความสุข

ผู้รับใช้หมายถึงผู้ที่ทัดเทียมกับพ่อ ดังนั้นจงตรวจสอบดูว่าลูกทัดเทียมมากแค่ไหน กลับมาทัดเทียมกับพ่อและเฝ้าแต่ทำให้ผู้อื่นทัดเทียมกับพ่อเช่นกัน ในการทำให้บรรยากาศของศูนย์มีพลัง ทัวร์ศูนย์ต่างๆหนึ่งครั้งหรือสองครั้งและจัดทำโปรแกรมเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับการจดจำระลึกถึงที่มีพลัง บรรยากาศที่มีพลังทำให้ลูกห่างจากสถานการณ์ต่างๆโดยอัตโนมัติ เวลานี้มาเป็นหนึ่งในคุณภาพของตัวเองและยังคงสร้างคุณภาพต่อไป

2) ลูกคิดว่าตนเองเป็นเพชรพลอยอะไร? (เพชรพลอยแห่งความพอใจ) ในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งความพอใจเป็นสิ่งที่จำเป็น เทพเจ้าคนไหนที่ได้รับการกราบไหว้บูชามากที่สุด? เทพเจ้าแห่งความพอใจ (ซานโตชิ มา) เป็นสิ่งที่ง่ายดายที่จะทำให้เทพเจ้าแห่งความพอใจมีความพอใจ เทพเจ้าแห่งความพอใจจะมีความพอใจอย่างรวดเร็ว ทำไมเทพเจ้าแห่งความพอใจจึงได้รับการกราบไหว้บูชา? เพราะในปัจจุบันมีความตึงเครียดเกิดขึ้นมากมาย มีความทุกข์มากมายและด้วยเหตุนี้ความไม่พอใจก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุนี้เองทุกคนจึงมองหาวิธีที่จะอยู่อย่างพอใจ แต่พวกเขาไม่สามารถทำเช่นนี้ได้ ดังนั้นในเวลาเช่นนี้ลูกทุกคนต้องกลายเป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจและให้การรู้แจ้งแห่งความพอใจแก่ทุกคน ทำให้ผู้อื่นพอใจด้วยความรู้แจ้งของลูก ก่อนอื่นจงอยู่อย่างพอใจกับตัวลูกเอง จากนั้นอยู่อย่างพอใจกับงานรับใช้ และอยู่อย่างพอใจกับความสัมพันธ์ของลูก และแล้วเมื่อนั้นลูกจะถูกเรียกว่าเพชรพลอยแห่งความพอใจ ลูกต้องมีใบประกาศนียบัตรของความพอใจทั้งสาม หนึ่งจากตัวลูกเอง อีกหนึ่งจากงานรับใช้ และสามจากมิตรของลูก ลูกประกาศสิทธิ์ในใบประกาศนียบัตรทั้งสามนี้แล้วใช่ไหม? เป็นการดีที่ลูกได้หนีจากความวุ่นวายของโลกและมาถึงอาชาลก้า (บ้านแห่งความมั่นคง) สถานที่ของพ่อนี้คืออาชาลก้า การมาถึงอาชาลก้าก็เป็นสิ่งชี้บอกของโชคที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน อาจเป็นเพราะลูกได้สละละทิ้งที่ลูกมาถึงอาชาลก้า ลูกมีโชค แต่ลูกสามารถเพิ่มเส้นโชคของลูกได้มากเท่าที่ลูกต้องการ ลูกเข้ามาในรายชื่อผู้ที่มีโชค เพราะเวลานี้ลูกเป็นของพระเจ้า และเหตุนี้เองลูกจึงมีโชค ลูกก้าวออกไปจากคนอื่นและทำให้ผู้เดียวนั้นเป็นของลูก และเหตุนี้เองลูกจึงมีโชค บัพดาดามีความยินดีและพอใจที่ได้เห็นความกล้าหาญนี้ในลูกๆ ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรก็ตาม ลูกมีความสูงส่งในการสละละทิ้งและความกล้าหาญในงานรับใช้ ไม่ว่าลูกจะเป็นเด็กหรือเป็นคนใหม่ บัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกสำหรับการสละละทิ้งและความกล้าหาญของลูก บัพดาดามองลูกด้วยความนับถือเช่นนี้ มีความสำคัญแม้กระทั่งในการเป็นเครื่องมือ ในขณะที่ยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความสำคัญนี้อย่างสม่ำเสมอ ลูกจะกลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ในโลกและกลายเป็นที่รู้จักกันดี ลูกรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของตัวลูกเองใช่ไหม? ยิ่งลูกเป็นคนที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน ลูกก็ต้องถ่อมตนมากเท่านั้น เช่นเดียวกับที่สัญลักษณ์ของต้นไม้ที่ออกผลที่กิ่งมันจะโน้มลงมา ในทำนองเดียวกันผู้ที่ถ่อมตนก็คือผู้ที่รับประทานผลในทันทีในทางปฏิบัติ นี่คือคุณสมบัติพิเศษของยุคบรรจบพบกัน อัจชะ

อะแวคบัพดาดาพบกุมาร:

กุมารหมายถึงผู้ที่เตะความอ่อนแอออกไปตลอดเวลา ลูกได้กำจัดความอ่อนแอไปแล้วครึ่งวงจรใช่ไหม? หรือลูกยังไม่ได้ทำเช่นนั้น? ความอ่อนแอไม่สามารถมาอยู่เบื้องหน้าดวงวิญญาณที่ทรงพลังอยู่เสมอ การอยู่อย่างมีพลังอย่างสม่ำเสมอหมายถึงการจบสิ้นความอ่อนแอ พ่อรักดวงวิญญาณที่มีพลังเช่นนั้นและแม้แต่ครอบครัวก็รักพวกเขา กุมารหมายถึงผู้ที่วาดเส้นของกรรมที่สูงส่งให้กับผู้อื่นผ่านกรรมของเขาเอง กรรมของลูกเองกลายเป็นเครื่องมือในการวาดเส้นของผู้อื่น ลูกเป็นผู้รับใช้เช่นนั้น ดังนั้นในทุกกรรมจงตรวจสอบว่า: ให้กรรมทุกนั้นชัดเจนที่คนอื่นก็สามารถมองเห็นเส้นกรรมได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ลูกเป็นดวงวิญญาณพิเศษที่สะสมในบัญชีที่สูงส่งของกรรมที่สูงส่งอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้เรียกว่าเป็นผู้รับใช้ที่แท้จริง การจดจำระลึกถึงและงานรับใช้เป็นวิธีที่ลูกสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ การจดจำระลึกถึงทำให้ลูกมีพลังและงานรับใช้ทำให้ลูกเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่า เดินหน้าต่อไปด้วยการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้และทำให้ผู้อื่นสามารถก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน อัจชะ

ขอให้ลูกยกระดับผู้อื่นและสร้างภาพบุคคลที่สูงที่สุดของลูกเช่นลูกพ่อบราห์มา

พร:
ขอให้ลูกยกระดับผู้อื่นและสร้างภาพที่สูงที่สุดของลูกเช่นพ่อบราห์มา

ลูกแต่ละคนได้สร้างภาพของชะตากรรมของเขาหรือเธอด้วยสำนึกรู้ที่สูงส่งและกรรมที่สูงส่งของเขาหรือเธอ เพียงแค่สัมผัสสุดท้ายสำหรับความสมบูรณ์พร้อมและกลับมาสูงที่สุดเหมือนพ่อบราห์มาขณะนี้ยังคงอยู่ สำหรับสิ่งนี้จงเป็นผู้ที่ยกระดับผู้อื่นนั่นคืออยู่อย่างปราศจากแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวอยู่เสมอ ในทุกสถานการณ์ ในทุกงาน ในทุกความร่วมมือในชุมนุม ยิ่งลูกอยู่อย่างเห็นแก่ผู้อื่นมากเท่าไหร่ ลูกก็จะยิ่งสามารถยกระดับผู้อื่นได้มากเท่านั้น แล้วลูกก็จะสัมผัสว่าตัวลูกเองเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ ลูกอยู่อย่างมั่นคงในสภาพของการเป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผล ลูกจะไม่ยอมรับสิ่งใดเลยเพื่อตัวลูกเอง

คติพจน์:
โดยการเป็นผู้สละละทิ้งอย่างสมบูรณ์ ลูกจะพัฒนาคุณธรรมของความง่ายดายและความอดทน