28.03.21    Avyakt Bapdada     Thai Murli     27.11.87     Om Shanti     Madhuban


เพียงผู้ที่มีการวางเฉยอย่างไม่มีขีดจำกัดเท่านั้นคือราชฤๅษีที่แท้จริง


วันนี้ บัพดาดากำลังมองท้องพระโรงของราชฤาษีทั้งหมด ตลอดทั้งวงจรท้องพระโรงของราชาเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง แต่ท้องพระโรงของราชฤๅษีนี้เกิดขึ้นในยุคบรรจบพบกันนี้เท่านั้น ลูกเป็นราชาและฤๅษีเช่นกัน คุณสมบัติพิเศษของท้องพระโรงในเวลานี้จึงได้รับการจดจำ ในด้านหนึ่งลูกมีอาณาจักรนั่นคือลูกมีสิทธิ์ที่จะได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด และในอีกด้านหนึ่งลูกคือฤาษีนั่นคือลูกเป็นผู้ที่มีทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด ในด้านหนึ่งลูกมีความซาบซึ้งของการมีสิทธิ์ในการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด และอีกด้านหนึ่งลูกมีความซาบซึ้งทางจิตของการมีการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด ยิ่งลูกมีโชคที่สูงส่งมากแค่ไหน ลูกก็ยิ่งมีการสละละทิ้งที่สูงส่งมากแค่นั้น มีความสมดุลของทั้งสอง สิ่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นราชฤๅษี บาบาเห็นความสมดุลของลูกๆราชฤๅษีเช่นนั้น ในชั่วขณะหนึ่งลูกมีความซาบซึ้งของการเป็นผู้มีสิทธิ์นั้น และในขณะต่อมาลูกมีความซาบซึ้งของการมีทัศนคติของการวางเฉย ลูกสามารถอยู่อย่างมั่นคงในการฝึกฝนนี้ได้มากแค่ไหน? นั่นคือลูกฝึกฝนทั้งสองสภาพที่เท่าๆกันมากแค่ไหน? บาบากำลังตรวจสอบสิ่งนี้ ลูกๆ ทั้งหมดตามลำดับกันไปในการฝึกฝนของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ตามเวลาลูกต้องเพิ่มการฝึกฝนของทั้งสองสภาพเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้นเท่าที่จะทำได้ การมีทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดหมายความว่าอย่างไร? การวางเฉยไม่ได้หมายความว่าการถอยห่างออกไป – แต่ในขณะที่ได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด ไม่ควรมีแรงดึงดูดที่มีขีดจำกัดดึงดูดจิตใจและสติปัญญาของลูก วิธีที่ไม่มีขีดจำกัดหมายถึงการเป็นดวงวิญญาณที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์ในทางที่ไม่มีขีดจำกัด, ทัดเทียมกับพ่อ, การเป็นผู้มีอำนาจในการปกครองเหนือประสาทสัมผัสทั้งหมดของลูก และมีสิทธิ์เหนือพลังที่ละเอียดอ่อนของจิตใจ, สติปัญญาและซันสการ์ของลูกเช่นกัน อย่าได้มีการพึ่งพิงใดๆแม้กระทั่งในความคิดของลูก นี่คือสิ่งที่จะเป็นราชฤาษี นั่นคือผู้มีทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด ผู้ที่อยู่ห่างไกลจากแรงดึงดูดทั้งหมดอย่างง่ายดายและสม่ำเสมอ นั่นคือจากร่างเก่าโลกเก่าของร่างกาย จากความหยาบใดๆ และจากทรัพย์สมบัติทางวัตถุใดๆ

เช่นที่พลังทางวิทยาศาสตร์สามารถพาลูกไปอยู่เหนือแรงโน้มถ่วงของโลก ในทำนองเดียวกันพลังของความเงียบจะพาลูกไปอยู่เหนือการดึงดูดที่มีขีดจำกัดเหล่านี้ สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสภาพที่เพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมที่ทัดเทียมกับสภาพของพ่อ ดังนั้นลูกฝึกฝนสภาพเช่นนั้นหรือไม่? อวัยวะทางร่างนั้นหยาบมากและยังเป็นการง่ายที่จะกลายเป็นผู้เอาชนะอวัยวะทางร่างของลูก อย่างไรก็ตามการจะได้รับชัยชนะเหนือพลังอันละเอียดอ่อนของจิตใจสติปัญญาและซันสการ์ต้องอาศัยการฝึกฝนที่ละเอียดอ่อน การที่จะทำให้ความคิดหรือซันสการ์ใดปรากฏออกมาในเวลาที่ลูกต้องการนั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้มีชัยชนะเหนือพลังที่ละเอียดอ่อนนั่นคือเป็นสภาพของราชฤาษี เช่นที่ลูกออกคำสั่งกับอวัยวะทางร่างของลูกเพื่อให้ทำสิ่งนี้และไม่ทำสิ่งนั้น “วางมือลง”, “ยกมือขึ้น” แล้วมือก็ยกขึ้นไป ในทำนองเดียวกันให้ความคิด, ซันสการ์และพลังในการตัดสินของลูกซึ่งหมายถึงสติปัญญาทำงานตามคำสั่งของลูก เมื่อดวงวิญญาณหรือราชาสั่งจิตใจนั่นคือพลังของความคิดให้กลับมามั่นคงและมีสมาธิทันที กลับมามั่นคงในความคิดเดียว แล้วเมื่อคำสั่งของราชาได้รับการเชื่อฟังในลักษณะนั้นในช่วงเวลานั้น นั่นคือสิ่งชี้บอกของการเป็นผู้มีสิทธิ์ในอาณาจักร ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นที่จิตใจของลูกเชื่อฟังคำสั่งนี้หลังจากฝึกฝนมาแล้วเป็นเวลาสามถึงสี่นาที หรือแทนที่จะกลับมามั่นคงและมีสมาธิ จิตใจเข้าสู่ความปั่นป่วนก่อนและจากนั้นจึงมีความมั่นคง ลูกจะเรียกสิ่งนั้นว่าอะไร? ลูกจะบอกว่านี่เป็นผู้ที่มีสิทธิ์หรือไม่? ดังนั้นให้ตรวจสอบด้วยวิธีนี้ เพราะลูกได้รับการบอกล่วงหน้าแล้วว่าในช่วงเวลาของผลลัพธ์สุดท้ายในเวลาสุดท้ายจะมีเพียงคำถามเดียวเพียงหนึ่งวินาที ถ้าลูกไม่มีการฝึกฝนจะมีสิทธิ์เหนือพลังที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ในเวลานี้ นั่นคือถ้าจิตใจของลูกเชื่อฟังคำสั่งของลูกผู้เป็นราชาหลังจากสามวินาทีแทนที่จะเป็นเพียงหนึ่งวินาทีลูกจะถูกเรียกว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ในอาณาจักรหรือไม่? หรือลูกจะสอบผ่านข้อสอบสุดท้ายในเวลาเพียงหนึ่งวินาทีหรือไม่? ลูกจะได้รับคะแนนมากเท่าไหร่?

ในทำนองเดียวกันจงมีสิทธิ์เหนือสติปัญญาของลูก นั่นคือเหนือพลังของการตัดสินของลูก ดังนั้นเพื่อที่จะสามารถทำการตัดสินได้เมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นตามสถานการณ์ในขณะนั้นเรียกว่าการมีสิทธิ์เหนือสติปัญญาของลูก อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่เมื่อสถานการณ์นั้นหรือช่วงเวลานั้นผ่านไปแล้วลูกตัดสินว่าสิ่งนั้นไม่ควรเกิดขึ้น มันจะดีกว่านี้มากถ้าลูกตัดสินใจอย่างนั้นก่อนหน้านี้ ดังนั้นการตัดสินได้อย่างถูกต้องในเวลานั้นคือสิ่งชี้บอกของการเป็นดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์ในอาณาจักร ดังนั้นตลอดทั้งวันตรวจสอบดูว่าลูกมีสิทธิ์ในอาณาจักรมากแค่ไหน นั่นคือลูกทำให้พลังที่ละเอียดอ่อนของลูกทำงานภายใต้คำสั่งของลูกมากแค่ไหน ทุกวันตั้งศาลของคนงานของลูก ตรวจสอบดูว่าคนงานของลูกนั่นคืออวัยวะทางร่างกายและพลังที่ละเอียดอ่อนอยู่ภายใต้การควบคุมของลูกหรือไม่ ซันสการ์ของการมีอำนาจในการปกครองในเวลานี้จะช่วยให้ลูกมีสิทธิ์ในอาณาจักรหลายต่อหลายชาติเกิด ลูกเข้าใจไหม? ในทำนองเดียวกันบางครั้งซันสการ์ของลูกหลอกลวงลูกหรือไม่? ซันสการ์ดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปของลูก – ซันสการ์ที่คงอยู่ตลอดไปของลูกเป็นซันสการ์ที่บริสุทธิ์และที่สูงส่ง ซันสการ์ดั้งเดิมจะเป็นตัวของคุณธรรมทั้งหมด, เป็นดวงวิญญาณเทพที่มีสิทธิ์ในอาณาจักร, เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด เหล่านี้คือซันสการ์โดยธรรมชาติที่ลูกต้องการเพื่อที่จะกลับมาเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อม ดังนั้นการมีอำนาจในการปกครองเหนือพลังของซันสการ์ของลูกหมายความว่าซันสการ์ดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปของลูกจะปรากฏออกมาเสมอ ให้สิ่งเหล่านี้เป็นซันสการ์ที่เป็นธรรมชาติของลูก อย่าให้ซันสการ์ในช่วงตอนกลางนั่นคือซันสการ์ที่เข้ามาตั้งแต่ยุคทองแดงเป็นต้นมาดึงลูกเข้าไปหาตัวมันเอง อย่าได้ถูกบีบบังคับโดยซันสการ์ของลูก ลูกพูดถึงซันสการ์เก่าของลูก อันที่จริงซันสการ์เก่าของลูกคือซันสการ์ดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปของลูก ซันสการ์อื่นเป็นของตอนกลาง ซันสการ์นั้นมาในยุคทองแดง ดังนั้นซันสการ์เก่าของลูกเป็นของตอนเริ่มต้นหรือตอนกลาง? ถ้าซันสการ์ของการดึงดูดที่มีขีดจำกัดใดๆดึงลูก ลูกจะพูดว่าลูกมีสิทธิ์เหนือซันสการ์ของลูกหรือไม่? ถ้าภายในอาณาจักรของลูกแม้กระทั่งหนึ่งพลังหรือหนึ่งคนงาน,หนึ่งในอวัยวะทางร่างไม่ทำงานภายใต้คำสั่งของลูก ลูกจะถูกกล่าวว่าเป็นผู้มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในอาณาจักรของลูกหรือไม่? ลูกทั้งหมดออกคำท้าทายว่าลูกคือผู้ที่จะสร้างอาณาจักรเดียว,ภาษาเดียว,ศาสนาเดียวและไปในทิศทางเดียวกัน ลูกบราห์มากุมารและกุมารีทั้งหมดให้การท้าทายนี้ใช่หรือไม่? ดังนั้นสิ่งนั้นจะถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อไหร่? มันจะถูกก่อตั้งขึ้นมาในอนาคตหรือไม่? ใครเป็นเครื่องมือสำหรับการก่อตั้ง? เป็นบราห์มาหรือวิษณุ? การก่อตั้งเกิดขึ้นโดยผ่านบราห์มาใช่หรือไม่? มีบราห์มาอยู่ที่ไหนบราห์มินก็อยู่กับท่านด้วย เมื่อใดที่การก่อตั้งผ่านบราห์มานั่นคือผ่านบราห์มินจะเกิดขึ้น? ในยุคบรรจบพบกันหรือในยุคทอง? ที่นั่นจะมีการหล่อเลี้ยง การก่อตั้งโดยผ่านบราห์มาและบราห์มินจะต้องเกิดขึ้นในขณะนี้ ดังนั้นก่อนอื่นให้มองไปที่อาณาจักรของลูกเองเพื่อดูว่ามีอาณาจักรเดียว,คุณธรรมเดียว(ดาร์น่า)และไปในทางเดียวกันหรือไม่ หากหนึ่งในอวัยวะทางร่างกายของลูกอยู่ภายใต้คำสั่งของมายาที่แตกต่างกันก็จะไม่ถูกกล่าวว่าเป็นอาณาจักรเดียวหรือไปในทางเดียวกัน ดังนั้นก่อนอื่นให้ตรวจสอบว่าลูกได้สร้างอาณาจักรเดียวในรูปของอาณาจักรของลูกและคุณธรรมของลูกหรือไม่ หรือบางครั้งมายานั่งบนบัลลังก์และบางครั้งลูกนั่งบนบัลลังก์นั้น ตรวจสอบดูว่าลูกได้นำคำท้าทายนั้นไปใช้ในรูปปฏิบัติหรือไม่ ลูกปรารถนาที่จะมีซันสการ์ที่คงอยู่ตลอดไป แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้นซันสการ์ของช่วงตอนกลางก็ปรากฏออกมา ในกรณีเช่นนี้นั่นคือไม่มีสิทธิ์ใช่หรือไม่?

ดังนั้น ราชฤาษีหมายถึงผู้ที่มีสิทธิ์เหนืออาณาจักรของตนเอง ลูกจะมีสิทธิ์ในอาณาจักรอย่างสม่ำเสมอและง่ายดายเมื่อลูกเป็นฤาษี นั่นคือ เมื่อลูกฝึกฝนทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด การวางเฉยหมายความว่าไม่มีความผูกพันยึดมั่น และความรักที่ลูกมีต่อพ่อนั้นมีความสม่ำเสมอ ธรรมชาติที่มีความรักนี้ทำให้ลูกละวาง การมีความรักต่อพ่อและการอยู่อย่างละวางก่อนที่ลูกจะเริ่มมีการกระทำเรียกว่าการสละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัด ถ้าลูกไม่มีความรักต่อพ่อ ลูกก็ไม่สามารถละวางได้ - จะมีความผูกพันยึดมั่น ผู้ที่มีความรักต่อพ่อไม่สามารถรักใครอื่นหรือวัตถุสิ่งของใดๆได้ พวกเขาจะอยู่เหนือการดึงดูดเสมอ นั่นคือพวกเขาจะอยู่อย่างละวางเสมอ สิ่งนี้เรียกว่าสภาพของการมีภูมิคุ้มกัน สภาพที่ไม่มีร่องรอยของแรงดึงดูดที่มีขีดจำกัดใดๆจะส่งผลกระทบต่อลูก ลูกใช้ประโยชน์จากสิ่งสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกในขณะที่อยู่อย่างมีภูมิคุ้มกัน ลูกได้กลายเป็นผู้ที่มีการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดเช่นนั้นเป็นราชฤาษีที่แท้จริงเช่นนั้นหรือไม่? อย่าได้คิดว่าตอนนี้มีความอ่อนแอเพียงหนึ่งหรือสองอย่างเท่านั้นที่เหลืออยู่ ที่พลังที่ละเอียดอ่อนหรืออวัยวะทางร่างกายเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอภายใต้การควบคุม แต่ส่วนที่เหลือทั้งหมดนั้นดี ที่ใดที่มีความอ่อนแอแม้เพียงอย่างเดียวก็เป็นประตูให้มายาเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นประตูเล็กหรือประตูใหญ่ มันก็คือประตู ถ้าประตูเปิด ลูกจะเป็นผู้เอาชนะมายาและผู้เอาชนะโลกได้อย่างไร?

ในด้านหนึ่งลูกกำลังปลุกเรียกยุคทองที่สวยงามของอาณาจักรเดียวและศาสนาเดียว แต่พร้อมกันนั้นลูกกำลังปลุกความอ่อนแอนั่นคือมายาด้วย ดังนั้นผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร? ลูกจะอยู่ในสภาวะที่สับสน ดังนั้นอย่าได้คิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กน้อย โดยคิดว่า “ยังคงมีเวลาเหลืออยู่ ฉันจะสามารถทำสิ่งนี้ในภายหลัง; ยังคงมีความอ่อนแอมากมายในผู้อื่น แต่มีเพียงสิ่งเดียวนี้ในตัวฉัน” ในขณะที่มองดูผู้อื่น ให้แน่ใจว่าตัวลูกเองจะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง มีคำกล่าวว่า: ดูพ่อบราห์มา มีคำกล่าวว่า: ทำตามพ่อ ต้องมีความรักและร่วมมือกับทุกคนอย่างแน่นอน จงกลายเป็นผู้เก็บเกี่ยวคุณธรรม แต่ทำตามพ่อ ลูกได้เห็นสภาพสุดท้ายของพ่อบราห์มาแล้ว, สภาพของราชฤาษี – มีความรักอย่างมากต่อลูกๆ เมื่อเห็นพวกเขาเบื้องหน้าท่าน ลูกได้เห็นการละวางนั้น ลูกได้เห็นสภาพของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดในทางปฏิบัติ ในขณะที่ผ่านความทุกข์ทรมานของกรรม ท่านมีสิทธิ์เหนืออวัยวะทางร่างกายของท่าน นั่นคือท่านกลายเป็นราชฤาษีและให้ประสบการณ์ของสภาพที่สมบูรณ์พร้อม ด้วยเหตุนี้ลูกจึงได้รับการบอกให้ทำตามพ่อ ดังนั้นตรวจสอบอำนาจในการปกครองของลูกและตรวจสอบคนงานของลูกในอาณาจักรอยู่เสมอเพื่อดูว่าไม่มีคนงานในอาณาจักรหลอกลวงลูก ลูกเข้าใจไหม? อัจชะ

วันนี้ ลูกทั้งหมดมาจากหลายสถานที่และได้มาถึงสถานที่เดียวนี้ สิ่งนี้เรียกว่าเมล่า (การพบกัน) ของมหาสมุทรกับแม่น้ำ ในเมล่าลูกพบกันและกัน และลูกได้รับสมบัติที่มีค่ามากมายด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ลูกทั้งหมดได้มาที่เมล่านี้ นี่คือลูกใหม่ในกลุ่มสุดท้ายของฤดูกาล ลูกเก่าๆ ก็ได้รับโอกาสพร้อมกับคนใหม่ด้วยเช่นกัน ธรรมชาติก็ยังคงให้ความร่วมมือด้วยความรักเช่นกัน อย่างไรก็ตามอย่าได้รับเอาประโยชน์จากมัน มิฉะนั้นธรรมชาติก็จะฉลาดเช่นกัน อัจชะ

ถึงลูกๆจากทุกหนแห่งที่เป็นราชฤาษีเสมอ ถึงลูกที่ปกครองตนเอง ถึงลูกผู้มีสิทธิ์ในอาณาจักรและผู้ที่ได้รับชัยชนะอย่างสม่ำเสมอและดำเนินการในอาณาจักรที่เป็นอิสระจากอุปสรรค ถึงฤาษีกุมารและกุมารีทั้งหมดที่มีทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดอยู่เสมอ ถึงผู้ที่มีความรักต่อพ่อเสมอและผู้ที่อยู่อย่างละวางในขณะที่แสดงการกระทำ ถึงลูกๆที่รักและละวางเช่นนี้ ถึงลูกที่มีศรัทธาที่ทำตามพ่อบราห์มาเสมอ ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา

อะแวคบัพดาดาพบกลุ่ม:

1. ลูกมีประสบการณ์ว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณที่มีชัยชนะมานับครั้งไม่ถ้วนหรือไม่? ลูกเห็นว่ามันยากหรือง่ายที่จะได้รับชัยชนะ? อะไรก็ตามที่ลูกเห็นว่าง่าย ลูกสามารถทำได้ตลอดเวลา; อะไรก็ตามที่ลูกเห็นว่ายาก ลูกไม่สามารถทำได้ตลอดเวลา งานอะไรก็ตามที่ลูกเคยทำมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนจะกลายเป็นเรื่องง่ายโดยอัตโนมัติ เมื่อลูกทำงานใหม่ตอนแรกลูกก็พบว่ามันยาก แต่เมื่อลูกทำสิ่งนั้นสำเร็จแล้ว งานที่ยากแบบเดียวกันนั้นก็กลายเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นลูกทั้งหมดไม่ได้มีชัยชนะเพียงครั้งเดียวนี้ แต่ลูกได้รับชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วน การเป็นผู้มีชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วนหมายถึงการเป็นผู้ที่มีประสบการณ์แห่งชัยชนะอย่างง่ายดายอยู่เสมอ ผู้ที่มีชัยชนะอย่างง่ายดายมีประสบการณ์ว่าในทุกย่างก้าวงานเหล่านี้ได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว ที่ชัยชนะได้รับการประกันในทุกย่างก้าว ไม่มีแม้แต่ความคิดเดียวว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ เมื่อลูกมีศรัทธาว่าลูกได้รับชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วน ไม่มีคำถามว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ สิ่งบ่งบอกของศรัทธาคือความซาบซึ้ง และสิ่งบ่งบอกของความซาบซึ้งคือความสุข ผู้ที่มีความซาบซึ้งจะมีความสุขเสมอ ความสุขมากมายสัมผัสได้ในชัยชนะที่มีขีดจำกัด เมื่อใดก็ตามที่ใครได้รับชัยชนะในสิ่งใด จะมีวงดนตรีมากมายและมีการเล่นดนตรีมากมาย ผู้ที่มีศรัทธาและความซาบซึ้งจะมีความสุขอย่างแน่นอน พวกเขาจะร่ายรำในความสุขเสมอ ใครก็ตามสามารถร่ายรำทางร่างกายได้ แต่การร่ายรำในจิตใจแม้แต่คนที่ป่วยนอนอยู่บนเตียงก็สามารถร่ายรำในลักษณะนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครมันเป็นการง่ายสำหรับทุกคนที่จะร่ายรำเพราะการได้รับชัยชนะหมายถึงการมีวงดนตรีแห่งความสุขเล่นโดยอัตโนมัติ เมื่อวงดนตรีกำลังบรรเลง ลูกก็เริ่มที่จะร่ายรำโดยใช้เท้าเคาะพื้นโดยอัตโนมัติ แม้แต่ผู้คนที่ไม่รู้วิธีว่าจะร่ายรำยังไงก็จะนั่งลงและร่ายรำ เท้าและไหล่ของพวกเขาจะเคลื่อนไหว ดังนั้นลูกทั้งหมดได้รับชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วน เคลื่อนต่อไปข้างหน้าในความสุขนี้เสมอ ทุกคนในโลกต้องการความสุข แม้ว่าพวกเขาได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด พวกเขาไม่ได้มาซึ่งการบรรลุผลของความสุข ดังนั้นจงเฝ้าแต่แจกจ่ายความสุขที่ไม่มีวันดับสูญที่ผู้คนในโลกต้องการอย่างสม่ำเสมอ

2. ในขณะที่คิดว่าตนเองเป็นผู้มีโชค ลูกมีประสบการณ์ในโชคที่สูงส่งของลูกในทุกย่างก้าวหรือไม่? เพราะในเวลานี้พ่อได้กลายเป็นผู้ประทานโชค และได้มาให้โชคของลูกแก่ลูก ผู้ประทานโชคกำลังแจกจ่ายโชค ในช่วงเวลาของการแจกจ่ายทุกคนสามารถรับได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ ทุกคนมีสิทธิ์ ลูกสามารถรับได้มากเท่าที่ลูกต้องการ ดังนั้นในช่วงเวลาเช่นนั้นจงตรวจสอบดูว่าลูกได้สร้างโชคมากแค่ไหน เพราะถ้าไม่ใช่ตอนนี้ก็จะไม่มีอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้พ่อจึงให้ปากกาแก่ลูกทุกคนเพื่อวาดเส้นโชคนี้ในทุกย่างก้าว ลูกมีปากกาอยู่ในมือของลูกและลูกได้รับอนุญาตอย่างเต็มที่ที่จะวาดเส้นโชคได้ยาวนานเท่าที่ลูกต้องการ นี่เป็นโอกาสที่มหัศจรรย์มาก ดังนั้นลูกจึงตระหนักถึงความสำคัญของเวลาแห่งโชคนี้อยู่เสมอและลูกสะสมมากตามนั้นใช่หรือไม่? ไม่ใช่ว่าลูกต้องการจะทำอย่างมากแต่ไม่สามารถทำได้ ที่ลูกต้องการจะทำมากแต่ลูกทำได้มากเท่านี้ใช่หรือไม่? อย่าได้มีการพร่ำบ่นเกี่ยวกับตนเอง ลูกเข้าใจไหม? ดังนั้นเฝ้าแต่ลากเส้นโชคของลูกให้สูงส่งอย่างสม่ำเสมอ และเฝ้าแต่ให้ผู้อื่นตระหนักถึงโชคที่สูงส่งนี้เสมอ “ว้าโชคที่สูงส่งของฉัน”เฝ้าแต่ร้องเพลงแห่งความสุขนี้อย่างสม่ำเสมอ

3. ลูกมีประสบการณ์ว่าตัวลูกเองเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งที่เป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองอย่างสม่ำเสมอหรือไม่? กงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองคือสิ่งที่ปลดปล่อยลูกจากวังวนทั้งหมดของมายา กงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองช่วยทำให้ลูกประกาศสิทธิ์ในโชคของอาณาจักรและเป็นผู้ปกครองโลก ในยุคบรรจบพบกันนี้เท่านั้นที่ลูกจะได้รับความรู้ของกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ลูกคือดวงวิญญาณบราห์มิน และดังนั้นลูกคือผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง บราห์มินจะถูกแสดงเป็นจุกอยู่เสมอ จุกหมายถึงสูงสุด บราห์มินหมายถึงผู้แสดงการกระทำที่สูงส่งเสมอ บราห์มินหมายถึงผู้มีธรรมะที่สูงส่งเสมอ – คุณธรรม ลูกได้กลายเป็นบราห์มินเช่นนี้หรือไม่? ไม่ใช่บราห์มินเพียงในนาม แต่เป็นบราห์มินในการกระทำของลูก เพราะบราห์มินเป็นที่จดจำมากแม้กระทั่งในเวลาสุดท้าย อนุสรณ์ของลูกบราห์มินที่แท้จริงยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อต้องทำงานที่สูงส่ง ผู้คนจะเชิญบราห์มินเพราะบราห์มินเท่านั้นที่สูงส่ง ดังนั้นลูกกลับมาสูงส่งในเวลาใด? ลูกกลายเป็นสิ่งนั้นในตอนนี้ และด้วยเหตุนี้แม้ขณะนี้อนุสรณ์ของงานที่สูงส่งก็ยังคงดำเนินต่อไป จงตระหนักไว้เสมอว่าลูกคือบราห์มินที่สูงส่ง, ผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง ผู้ที่ทุกความคิด, ทุกคำพูดและทุกการกระทำนั้นสูงส่ง อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกกลับมามีค่าควรแก่การได้รับการกราบไหว้บูชาสูงสุดโดยการรักษาการกราบไหว้บูชาของลูกไว้ในความตระหนักรู้ของลูกและโดยการทำให้ทุกการกระทำของลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา

ทุกพลังของลูกๆได้รับการบูชาในรูปของเทพ: เทพแห่งดวงอาทิตย์, เทพแห่งลม, เทพแห่งโลก ในทำนองเดียวกันพลังแห่งความไม่ขลาดกลัวได้รับการบูชาในรูปของเจ้าแม่กาลี พลังในการเผชิญได้รับการกราบไหว้บูชาในรูปของเจ้าแม่ทุรคา การกราบไหว้บูชาพลังของการอยู่อย่างพอใจและการทำให้ผู้อื่นพอใจอยู่ในรูปของเจ้าแม่ซานโตชิมา การกราบไหว้บูชาพลังของความเบาสบายดุจสายลมอยู่ในร่างของบุตรแห่งสายลม (หนุมาน) ดังนั้นจงทำให้การกราบไหว้บูชานี้ของลูกอยู่ในสำนึกรู้ของลูก และทำให้ทุกการกระทำของลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา และแล้วเมื่อนั้นลูกจะมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาสูงสุด

คติพจน์:
การมีความสมดุลของความพอใจและความง่ายดายในชีวิตเป็นคุณสมบัติพิเศษที่ยิ่งใหญ่ที่สุด