26.02.21 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ในยุคบรรจบพบกันลูกได้รับความรู้ใหม่และพิเศษสุด
ลูกรู้ว่าเราดวงวิญญาณทั้งหมดคือนักแสดง ไม่มีบทบาทของใครจะเหมือนกับของคนอื่น
คำถาม:
ลูกๆ นักรบทางจิตได้รับวิธีใดเพื่อที่จะเอาชนะมายา?
คำตอบ:
โอ้ นักรบทางจิต จงทำตามศรีมัทอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ!
กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ!
ตื่นแต่เช้าตรู่และฝึกฝนการอยู่ในการจดจำระลึกถึงและลูกจะได้รับชัยชนะเหนือมายา
ลูกจะปลอดภัยจากการมีความคิดประเภทที่ผิดใดๆ
วิธีการอันแสนหวานของการจดจำระลึกถึงจะทำให้ลูกเป็นผู้เอาชนะมายา
เพลง:
พายุจะสามารถทำอะไรกับผู้ที่มีมิตรร่วมทางเป็นพระเจ้าได้?
โอมชานติ
เพลงนี้แต่งขึ้นโดยมนุษย์ ไม่มีใครเข้าใจความหมายของเพลงนี้เลย
ผู้เลื่อมใสศรัทธาร้องเพลงสรรเสริญและร้องเพลงแห่งความรักและเลื่อมใสศรัทธา
แต่พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญมากมาย ลูกๆ
ไม่ต้องร้องเพลงสรรเสริญใคร ลูกๆไม่เคยสรรเสริญพ่อของพวกเขา
พ่อรู้ว่าเราเป็นลูกของท่าน และลูกก็รู้ว่าท่านคือบาบาของเรา
เวลานี้เป็นประเด็นที่ไม่มีขีดจำกัด อย่างไรก็ตามทุกคนจดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
แม้กระทั่งเวลานี้พวกเขาก็ยังคงจดจำท่านอยู่เรื่อยๆ พวกเขาพูดกับพระเจ้าว่า:
โอ้บาบา! ชื่อของท่านคือชีพบาบา เช่นที่เราเป็นดวงวิญญาณ
ดังนั้นชีพบาบาก็เป็นดวงวิญญาณเช่นกัน
ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุดและท่านเรียกว่าผู้ที่สูงสุด เราเป็นลูกของท่าน
ท่านเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุดด้วยเช่นกัน สถานที่อยู่อาศัยของท่านอยู่ที่ไหน?
ในอาณาเขตสูงสุด ทุกดวงวิญญาณอาศัยอยู่ที่นั่น ดวงวิญญาณเป็นนักแสดง
ลูกรู้ว่านักแสดงทั้งหมดในละครนั้นตามลำดับกันไป,
แต่ละคนได้รับเงินเดือนตามบทบาทของเขา
ดวงวิญญาณทั้งหมดที่อาศัยอยู่ที่นั่นคือนักแสดง
อย่างไรก็ตามแต่ละคนได้รับบทบาทตามลำดับกันไป
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายว่าจิตวิญญาณมีบทบาทที่ไม่สูญสลายบันทึกอยู่ในพวกเขาอย่างไร
สองดวงวิญญาณไม่สามารถมีบทบาทเดียวกัน ไม่ใช่ทุกคนสามารถมีพละกำลังเดียวกัน
ลูกรู้ว่าบทบาทที่ดีที่สุดคือบทบาทของผู้ที่เข้ามาในสายลูกประคำของรูดร้าของชีวาก่อน
นักแสดงที่ดีมากในละครได้รับการยกย่องอย่างมาก ผู้คนไปที่นั่นเพื่อดูพวกเขา
ที่นี่คือละครที่ไม่มีขีดจำกัด
พ่อผู้เดียวอยู่ที่จุดสูงสุดของละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
ลูกแม้กระทั่งพูดได้ว่าท่านคือนักแสดงที่สูงสุดเหนือสิ่งใด เป็นผู้สร้างและผู้กำกับ
นักแสดงและผู้กำกับอื่นๆ ทั้งหมดมีขีดจำกัด พวกเขาทั้งหมดได้รับบทบาทเล็กๆของพวกเขา
เป็นดวงวิญญาณที่เล่นบทบาท อย่างไรก็ตามเนื่องจากสำนึกที่เป็นร่าง
พวกเขาจึงพูดว่านั่นเป็นบทบาทของบุคคลนั้น พ่อพูดว่า: บทบาททั้งหมดอยู่ในดวงวิญญาณ
ลูกต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
พ่อได้อธิบายแล้วว่าในยุคทองทุกคนมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ พวกเขาไม่รู้จักพ่อ
ที่นี่ในยุคเหล็กพวกเขาไม่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและพวกเขาก็ไม่รู้จักพ่อ
เวลานี้ลูกกำลังจะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและลูกก็รู้จักพ่อด้วยเช่นกัน
ลูกบราห์มินกำลังได้รับความรู้ที่พิเศษสุด
ลูกรู้เกี่ยวกับดวงวิญญาณและดวงวิญญาณทั้งหมดเป็นนักแสดงอย่างไร
ทุกคนได้รับบทบาทของตนเอง ไม่สามารถมีสองดวงวิญญาณที่สามารถมีบทบาทเดียวกันได้
แต่ละดวงวิญญาณมีบทบาททั้งหมดที่บันทึกอยู่ในตัวเขา
ในความเป็นจริงเป็นดวงวิญญาณที่มีบทบาทในละคร เป็นดวงวิญญาณที่รับบทบาทที่ดี
ดวงวิญญาณพูดว่า “ฉันเป็นผู้ว่าราชการ” หรือ “ฉันเป็นผู้นั้นผู้นี้”
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ในยุคทองพวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาเป็นดวงวิญญาณและพวกเขาต้องละร่างและรับอีกร่างหนึ่ง
ไม่มีใครที่นั่นรู้จักพระเจ้า ในเวลานี้ลูกรู้ทุกสิ่ง
ลูกบราห์มินนั้นสูงส่งกว่าศูทรและเทพ บราห์มินมากมายที่กลายเป็นสิ่งนี้มาจากไหน?
คนนับแสนมาที่นิทรรศการ
และผู้ที่รับความรู้นี้และเข้าใจความรู้นี้อย่างดีมากก็กลายเป็นปวงประชา
ราชาแต่ละองค์นั้นมีปวงประชามากมาย ลูกกำลังสร้างปวงประชามากมาย
บางคนเข้าใจความรู้นี้จากโปรเจ็กเตอร์และนิทรรศการและกลายเป็นดีมาก
พวกเขาเรียนรู้ทุกสิ่งและมีโยคะด้วยเช่นกัน เวลานี้พวกเขาจะปรากฏออกมาเรื่อยๆ
ปวงประชาจะปรากฏออกมา คนที่มั่งคั่ง ราชา ราชินี
และผู้ที่ยากจนทั้งหมดจะปรากฏตัวขึ้น มีเจ้าชายเจ้าหญิงมากมาย
เจ้าชายและเจ้าหญิงต้องถูกสร้างขึ้นสำหรับยุคทองและยุคเงิน จะไม่มีเพียงแค่ 8 หรือ
108 ในพวกเขา พวกเขาทั้งหมดกำลังถูกสร้างขึ้นเวลานี้ ลูกยังคงทำงานรับใช้ต่อไป
นี่ไม่มีอะไรใหม่ ฟังก์ชันการดำเนินงานของลูกไม่มีอะไรใหม่
ลูกเคยทำสิ่งนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ในยุคบรรจบพบกัน ลูกทำธุรกิจนี้เท่านั้น
จะทำอะไรอีกไหม? พ่อมาเพื่อจะชำระผู้ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
สิ่งนี้เรียกว่าประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลก ทุกสิ่งเป็นไปตามลำดับ
ทุกคนก็พูดถึงใครบางคนที่ให้คำบรรยายที่ดีมากว่า คนนั้นคนนี้ให้คำบรรยายที่ดีมาก
และแล้วเมื่อเขาได้ยินคนอื่น พวกเขาก็พูดว่าคนแรกนั้นเคยอธิบายได้ดีมาก
และถ้าคนที่สามดีกว่าสองคนนั้น พวกเขาก็พูดว่า “คนนี้ดีกว่าสองคนนั้น”
ลูกต้องเพียรพยายามนำหน้าผู้อื่นในแต่ละประเด็น
ผู้ที่ฉลาดก็จะยกมือของเขาในทันทีที่จะให้คำบรรยาย ลูกทั้งหมดคือผู้เพียรพยาม
เมื่อลูกก้าวหน้าไปลูกก็จะกลายเป็นรถไฟเมล์ (รถไฟด่วน) มาม่าเป็นรถไฟด่วนพิเศษ
ลูกไม่สามารถรู้เกี่ยวกับบาบาได้เพราะท่านทั้งสองอยู่ด้วยกัน
ลูกไม่สามารถบอกได้ว่าคนไหนกำลังพูด
ลูกต้องคิดว่าเป็นชีพบาบาที่กำลังอธิบายอยู่เสมอ
ทั้งบัพและดาดานั้นรู้ดีแต่ท่านคือผู้เดียวที่รู้ถึงสิ่งที่อยู่ภายในแต่ละคน
ภายนอกท่านก็พูดว่า: คนนี้ฉลาดมาก ผู้เป็นพ่อพอใจที่ได้ยินคำยกย่อง
เมื่อลูกของใครบางคนศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดีและได้รับสถานภาพที่สูง
พ่อของเขาก็เข้าใจว่าลูกชายของเขาจะประกาศชื่อเสียงของเขา
เราสามารถเข้าใจได้ว่าเมื่อใดที่ลูกคนนั้นคนนี้ฉลาดในงานรับใช้ทางจิตนี้
สิ่งหลักในการบรรยายคือการอธิบายสาสน์ของพ่อ
บาบาได้ยกตัวอย่างของใครบางคนที่มีลูกห้าคน แต่เมื่อเขาถูกถามว่าเขามีลูกกี่คน
เขาก็ตอบว่าเขามีลูกสองคน อีกคนหนึ่งก็พูดกับเขาว่า: แต่คุณมีลูกห้าคน!
แล้วเขาก็ตอบว่า: แต่ฉันมีลูกที่มีค่าเพียงสองคนเท่านั้น! ก็เหมือนกันกับที่นี่
มีลูกๆมากมาย พ่อพูดว่า: ลูกสาวคนนี้ ดอกเตอร์เนอร์มาละนี้ดีมาก
เธออธิบายให้กับพ่อทางร่างของเธอด้วยความรักเป็นอย่างมากและทำให้เขาเปิดศูนย์ให้เธอ
นี่คืองานรับใช้ของบารัต ลูกกำลังทำให้บารัตกลายเป็นสวรรค์
ราวันได้ทำให้บารัตนี้กลายเป็นนรก ไม่ใช่เพียงแค่สีดาเดียวที่อยู่ในกรงขัง
แต่ลูกทั้งหมดคือสีดาที่อยู่ในกรงขังของราวัน
พวกเขาได้เขียนเรื่องราวมากมายในคัมภีร์
หนทางของความเลื่อมใสศรัทธานี้อยู่ในละครด้วยเช่นกัน
ลูกรู้ว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผ่านมาตั้งแต่ยุคทองจะเกิดซ้ำรอย
ลูกกลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาและลูกก็กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา
พ่อพูดว่า:
พ่อต้องมาและเปลี่ยนลูกจากผู้กราบไหว้บูชาให้กลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
ลูกกลายเป็นยุคทองก่อนแล้วจึงยุคเหล็ก
ในยุคทองเป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์แห่งสุริยะวงศ์
อาณาจักรของรามคือจันทราวงศ์ ในเวลานี้ลูกทั้งหมดเป็นนักรบทางจิต
ผู้ที่ไปสู่สนามรบถูกเรียกว่านักรบ
ลูกเป็นนักรบทางจิตในขณะที่คนอื่นเป็นนักรบทางร่าง
การต่อสู้และการรบราของพวกเขาเป็นไปด้วยพลังทางกายภาพ
ในตอนเริ่มต้นพวกเขามีการต่อสู้ตัวต่อตัว
พวกเขาจะต่อสู้กันเองและหนึ่งในนั้นจะได้รับชัยชนะ เวลานี้พวกเขาได้สร้างระเบิด ฯลฯ
ลูกเป็นนักรบและพวกเขาก็เป็นนักรบเช่นกัน
ลูกได้รับชัยชนะเหนือมายาโดยการทำตามศรีมัท ลูกเป็นนักรบทางจิต
เป็นจิตวิญญาณที่ทำทุกสิ่งด้วยอวัยวะประสาทสัมผัสของร่างกาย พ่อมาและสอนจิตวิญญาณ:
ลูกๆ เมื่อลูกจดจำพ่อ มายาจะไม่กินลูก
บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องและลูกจะไม่มีความคิดที่ผิด
โดยการจดจำระลึกถึงพ่อก็จะมีความสุขเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้เองพ่อจึงบอกให้ลูกฝึกฝนสิ่งนี้ในตอนเช้าตรู่: บาบา ท่านอ่อนหวานมาก!
เป็นดวงวิญญาณที่พูดว่า“บาบา!” พ่อได้ให้การตระหนักรู้แก่ลูกแล้ว: พ่อคือพ่อของลูก
พ่อได้มาเพื่อบอกลูกเกี่ยวกับความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลก
นี่คือต้นไม้โลกมนุษย์ที่กลับหัว นี่คือโลกมนุษย์ของศาสนาที่มีความหลากหลาย
สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นการละเล่นที่หลากหลาย
พ่อได้อธิบายว่าท่านคือเมล็ดของต้นไม้มนุษย์นี้ ผู้คนจดจำท่าน
บางคนก็เป็นของต้นไม้หนึ่งและคนอื่นเป็นของต้นไม้อื่น
พวกเขายังคงปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆตามลำดับกันไป ละครนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว
มีคำกล่าวว่าผู้นั้นผู้นี้ได้ถูกส่งไปเป็นผู้ก่อตั้งศาสนานั้น
อย่างไรก็ตามไม่มีใครถูกส่งไปจากที่นั่น ทั้งหมดนี้ซ้ำรอยตามละคร
เพียงผู้เดียวนี้เท่านั้นที่ก่อตั้งศาลนาเเละอาณาจักรด้วยกัน
ไม่มีใครในโลกรู้สิ่งนี้ เวลานี้คือยุคบรรจบพบกัน เปลวไฟของการทำลายต้องปรากฏออกมา
นี่คือไฟบูชายัญของความรู้ของชีพบาบา พวกเขาได้ให้ชื่อรูดร้ากับไฟนี้ ลูกๆ
บราห์มินถูกสร้างขึ้นผ่านประชาบิดาบราห์มา ลูกนั้นสูงสุด ช่วงอายุอื่นๆ
นั้นปรากฏขึ้นภายหลัง ในความเป็นจริงทั้งหมดคือลูกๆ ของบราห์มา
บราห์มาถูกเรียกว่าปู่ของปู่ของปู่ มีต้นไม้เผ่าพันธุ์
ที่มาก่อนคือบราห์มาที่สูงสุดและแล้วต้นไม้เผ่าพันธุ์ที่เหลือนั้นก็ขยายตัว
ผู้คนก็ถามว่าพระเจ้าสร้างโลกอย่างไร สิ่งสร้างนั้นอยู่ที่นั่น
เมื่อพวกเขาอยู่อย่างไม่บริสุทธิ์ พวกเขาก็ร้องเรียกหาท่าน
ท่านมาและทำให้โลกที่ไม่มีความสุขนั้นมีความสุข เหตุนี้เองผู้คนจึงร้องเรียกหา: โอ
ผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุขได้โปรดมา! พวกเขาได้เก็บชื่อฮาริวาร์ไว้
ฮาริวาร์หมายถึง “ประตูสู่พระเจ้า” คงคาก็ไหลมาจากที่นั่น
พวกเขาเชื่อว่าด้วยการอาบในคงคาพวกเขาจะสามารถผ่านประตูสู่พระเจ้าได้
แต่ประตูสู่พระเจ้าอยู่ที่ไหน? พวกเขาพูดถึงกฤษณะในวิธีนี้
เป็นชีพบาบาที่เป็นพระเจ้าเป็นประตู
ท่านคือผู้ขจัดความทุกข์และเป็นผู้ประทานความสุข ก่อนอื่นลูกต้องไปบ้าน เวลานี้ลูกๆ
รู้เกี่ยวกับพ่อและบ้านของลูก บัลลังก์ของพ่อนั้นสูงกว่าเล็กน้อย
ในลูกประคำก็มีดอกไม้ (ภู่) และลูกปัดคู่อยู่เบื้องล่างนั้น
และแล้วพวกเขาก็พูดถึงลูกประคำของรูดร้า
และแล้วลูกประคำของรูดร้ากลายเป็นลูกประคำของวิษณุ
ผู้ที่กลายเป็นพวงมาลัยรอบคอวิษณุและแล้วก็ปกครองในแผ่นดินวิษณุ
ไม่ได้มีลูกประคำของบราห์มิน เพราะสิ่งนั้นเฝ้าแต่ขาดตอนครั้งแล้วครั้งเล่า
พ่ออธิบาย: ทุกสิ่งนั้นตามลำดับกันไป
วันนี้ลูกกำลังก้าวหน้าไปอย่างดีแต่วันพรุ่งนี้ก็จะมีพายุและลางร้ายและลูกก็อยู่อย่างหย่อนยาน
พ่อพูดว่า: บางคนก็เป็นของพ่อ พวกเขาประหลาดใจในความรู้ที่พวกเขาได้ยิน
พวกเขาพูดถึงความรู้ พวกเขาแม้กระทั่งเข้าณานและพวกเขาก็ได้ถูกร้อยเข้าไปในลูกประคำ
และแล้วพวกเขานั้นก็หันห่างไปอย่างแท้จริงและดังนั้นจึงกลายเป็นสัปเหร่อ
ดังนั้นจะสามารถมีการสร้างลูกประคำขึ้นมาได้อย่างไร?
พ่ออธิบายว่าลูกประคำของบราห์มินไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้
ลูกประคำของผู้เลื่อมใสศรัทธานั้นแยกห่างจากลูกประคำของรูดร้า
ในลูกประคำของผู้เลื่อมใสศรัทธา
มีร่านั้นคือคนหลักของฝ่ายหญิงและนาราดนั้นเป็นของฝ่ายชาย นี่คือลูกประคำของรูดร้า
เพียงในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่พ่อมาและประทานการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต ลูกๆ
เข้าใจว่าลูกเคยเป็นนายแห่งสวรรค์และเวลานี้เป็นนรก พ่อพูดว่า:
เตะนรกออกไปและประกาศสิทธิ์ในอำนาจในการปกครองสวรรค์ที่ราวันได้ขโมยไปจากลูก
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและอธิบายทั้งหมดนี้แก่ลูก
ท่านรู้ถึงคัมภีร์และการจาริกแสวงบุญทั้งหมด ท่านคือเมล็ด มหาสมุทรแห่งความรู้
มหาสมุทรแห่งความสงบ ดวงวิญญาณพูดสิ่งนี้
พ่ออธิบายว่าลักษมีและนารายณ์เคยเป็นนายของยุคทอง
นั้นเคยเป็นเช่นไรก่อนที่พวกเขาจะมีชีวิตอยู่?
แน่นอนนี่ต้องเคยเป็นตอนสิ้นสุดของยุคเหล็กเมื่อมียุคบรรจบพบกันซึ่งต่อมากลายเป็นสวรรค์
พ่อนั้นเรียกว่าผู้สร้างสวรรค์ ท่านคือผู้เดียวที่ก่อตั้งสวรรค์
ลักษมีและนารายณ์เคยเป็นนายแห่งสวรรค์ พวกเขาได้รับมรดกของเขาจากใคร? จากพ่อ,
ผู้สร้างสวรรค์ นี่คือมรดกของพ่อ
ลูกสามารถถามใครก็ตามว่าลักษมีและนารายณ์ประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรที่พวกเขาเคยมีในยุคทองอย่างไรและจะไม่มีใครสามารถบอกลูกได้
แม้กระทั่งดาด้านี้ก็พูดว่า: พ่อไม่รู้สิ่งนี้ พ่อเคยกราบไหว้บูชาพวกเขา
แต่พ่อไม่ได้รู้สิ่งใด เวลานี้พ่อได้อธิบายแล้วว่า:
ลูกศึกษาราชาโยคะในยุคบรรจบพบกัน ราชาโยคะนั้นถูกกล่าวถึงในกีตะ
ราชาโยคะไม่ได้ถูกกล่าวถึงในที่ใดๆนอกเหนือจากในกีตะ พ่อพูดว่า:
พ่อทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา
พระเจ้าได้มาและได้ให้ความรู้แก่ลูกเพื่อเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นนารายณ์
คัมภีร์หลักของบารัตคือกีตะ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรที่กีตะได้ถูกสร้างขึ้น พ่อพูดว่า:
พ่อมาในยุคบรรจบพบกันของวงจร
ผู้ที่เคยได้รับอาณาจักรก็สูญสิ้นอาณาจักรและอยู่อย่างตาโมประธานและไม่มีความสุข
นี่เป็นอาณาจักรของราวัน นี่เป็นเรื่องราวของทั้งบารัต บารัตนั้นรอบด้าน (คงอยู่ตลอดเวลา)
ทั้งหมดนั้นมาภายหลัง พ่อพูดว่า: พ่อบอกลูกถึงความลับของ 84 ชาติเกิด 5000
ปีที่แล้วลูกเคยเป็นเทพ ลูกนั้นไม่รู้แม้กระทั่งเกี่ยวกับการเกิดของลูก โอ
ผู้คนของบารัต พ่อมาในเวลาสุดท้าย หากท่านจะมาในตอนเริ่มต้น
ท่านจะสามารถให้ความรู้ของตอนเริ่ม, ตอนกลางและตอนจบแก่ลูกได้อย่างไร?
หากประชากรโลกไม่ได้ขยายตัว ท่านจะสามารถอธิบายสิ่งนั้นได้อย่างไร?
ไม่มีความจำเป็นสำหรับความรู้ที่นั่น เป็นเพียงเวลานี้เท่านั้น
ในยุคบรรจบพบกันที่พ่อให้ความรู้แก่ลูก ท่านคือผู้เดียวที่เต็มไปด้วยความรู้
แน่นอนที่ท่านต้องมาในตอนสุดท้ายเพื่อพูดความรู้
ท่านจะสามารถบอกอะไรแก่ลูกในตอนเริ่มต้น? ประเด็นเหล่านี้ต้องเป็นที่เข้าใจ
พระเจ้าพูด: พ่อสอนราชาโยคะแก่ลูก นี่คือมหาวิทยาลัยของรัฐบาลพันดาฟ
เวลานี้คือยุคบรรจบพบกัน พวกเขาได้นั่งลงและแสดงกองทัพของยาดาวาส ฆราวาสและพันดาวาส
พ่ออธิบายว่า: ยาดาวาสและฆราวาสนั้นมีสติปัญญาที่ไม่มีความรักในเวลาของการทำลาย
พวกเขาเฝ้าแต่ดูถูกดูหมิ่นกันและกัน พวกเขาไม่มีความรักต่อพ่อ
พวกเขาพูดว่าพระเจ้าอยู่ในแมวและสุนัข อย่างไรก็ตาม พันดาวาสมีสติปัญญาที่มีความรัก
มิตรร่วมทางของพันดาวาสคือพระเจ้าตัวท่านเอง พันดาวาสหมายถึงผู้นำทางทางจิต
เขาเหล่านั้นคือผู้นำทางทางร่าง ในขณะที่ลูกคือผู้นำทางทางจิต อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อบัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณและเล่นบทบาทของนักแสดงเอกในการละเล่นที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
นักแสดงแต่ละคนมีบทบาทของตนเอง ดังนั้นอย่าได้เปรียบเทียบบทบาทของลูกกับของคนอื่น
2. ตื่นแต่เช้าตรู่และพูดกับตนเอง
ฝึกฝนการอยู่อย่างแยกห่างจากอวัยวะประสาทสัมผัสทางร่างกายของลูก
บาบาท่านอ่อนหวานมาก! ท่านให้ความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของโลกแก่เรา
พร:
ขอให้ลูกอยู่ห่างจากจิตสำนึกที่เป็นร่างและกลิ่นเหม็นของร่างกายอยู่เสมอ
และด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นผู้ที่อยู่อาศัยในอินทราภัทร
กล่าวกันว่า ไม่มีมนุษย์
มีเพียงเทวดานางฟ้าเท่านั้นที่สามารถอาศัยอยู่ในอินทราภัทรได้
มนุษย์หมายถึงคนที่ไม่คิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ แต่เป็นร่างกาย
ดังนั้นจงโบยบินไปให้ห่างจากจิตสำนึกที่เป็นร่าง, โลกเก่าของร่างกาย
และความสัมพันธ์เก่า อยู่เสมอ อย่าให้มีกลิ่นเหม็นของการเป็นมนุษย์แม้แต่น้อย
จงมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณและให้ปีกแห่งความรู้และโยคะของลูกแข็งแกร่งแล้วลูกจะถูกเรียกว่าเป็นผู้ที่อยู่อาศัยในอินทราภัทร
คติพจน์:
เพียงผู้ที่ใช้ร่างกาย จิตใจ
และสมบัติอย่างมีค่าและเพิ่มสมบัติทั้งหมดของพวกเขาเท่านั้นที่รู้คิด