23.01.21 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน เฝ้าแต่ทำตามศรีมัทในทุกย่างก้าว
อย่าได้อยู่อย่างสับสนว่าการกำหนดเหล่านี้เป็นของบราห์มาหรือของชีพ บาบา
คำถาม:
สิ่งที่ลึกล้ำใดที่ลูกๆ ผู้ที่มีสมองดีจะเข้าใจได้อย่างง่ายดาย?
คำตอบ:
ลูกๆ ผู้ที่มีสมองดีจะเข้าใจได้อย่างง่ายดายว่า
เป็นบราห์มาบาบาหรือชีพบาบาที่กำลังอธิบาย บ้างก็สับสนเกี่ยวกับสิ่งนี้ บาบาพูดว่า:
ลูกๆ บัพและดาดาทั้งสองนั้นอยู่ด้วยกัน ดังนั้นอย่าได้สับสน
เฝ้าแต่เคลื่อนไปขณะที่คิดว่านั่นเป็นศรีมัท
ชีพบาบานั้นรับผิดชอบต่อการกำหนดใดก็ตามที่ลูกได้รับจากบราห์มา
โอมชานติ
พ่อทางจิตอธิบายแก่ลูกๆ ลูกเข้าใจว่าเพียงลูกๆ
บราห์มินเท่านั้นที่ตระหนักรู้จักพ่อทางจิต ไม่มีมนุษย์ใดในโลกรู้จักพ่อทางจิต
ผู้เดียวที่ถูกเรียกว่าพระเจ้า ผู้เป็นพ่อ และพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด
เป็นเพียงเมื่อพ่อทางจิตมาเท่านั้นที่ท่านสามารถให้การตระหนักรู้แก่ลูกๆ ทางจิต
ความรู้นี้ไม่ได้คงอยู่ในตอนเริ่มต้นของโลกหรือตอนจบของโลก
เวลานี้ลูกได้รับความรู้แล้วว่านี่คือการบรรจบกันของตอนสิ้นสุดของโลกเก่าและตอนเริ่มต้นของโลกใหม่
เมื่อลูกไม่ได้รู้จักยุคแห่งการบรรจบพบกันนี้ ลูกจะสามารถรู้จักพ่อได้อย่างไร?
พวกเขาพูดว่า: โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา! มาและชำระพวกเราให้บริสุทธิ์เถิด!
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้ว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์คือใครหรือเมื่อไรที่ท่านมา
พ่อพูดว่า: ไม่มีใครรู้จักพ่ออย่างที่พ่อเป็นหรือสิ่งที่พ่อเป็น
เป็นเพียงเมื่อพ่อมาและให้คำแนะนำของพ่อเท่านั้นที่ใครๆจะรู้จักพ่อ
เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในยุคแห่งการบรรจบพบกันที่พ่อให้คำแนะนำของตัวพ่อเองแก่ลูกและของตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของโลก พ่อมาครั้งเดียวในทุกวงจร
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พ่ออธิบายแก่ลูกต่อมาก็หายไป
ไม่มีมนุษย์ใดตั้งแต่ยุคทองถึงตอนสิ้นสุดของยุคเหล็กรู้จักฉัน
พ่อสูงสุดและพวกเขาไม่รู้จักบราห์มา วิษณุและชางก้า เป็นมนุษย์ที่เรียกหาพ่อ
บราห์มา วิษณุและชางก้าไม่ได้เรียกหาพ่อ
เป็นเมื่อมนุษย์มีประสบการณ์ของความทุกข์ที่พวกเขาเรียกหา
ไม่มีเรื่องของสิ่งนี้ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
พ่อทางจิตมาและนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิตของท่าน นั่นคือแก่ผู้เป็นจิต(spirits)
อัจชะ อะไรคือชื่อของพ่อทางจิต? ผู้เดียวที่ถูกเรียกว่าบาบาต้องมีชื่ออย่างแน่นอน
อย่างแท้จริงที่มีเพียงชื่อชีวาเดียวที่ได้รับการจดจำ
ชื่อของผู้เดียวนี้โด่งดังอย่างยิ่ง แต่มนุษย์นั้นก็ได้ให้ชื่อแก่ท่านมากมาย
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ถึงแม้ว่าชื่อนั้นยังคงเป็นชีวา
พวกเขาก็ได้สร้างรูปลิงกัมจากสติปัญญาของพวกเขาเอง พ่อพูดว่า:
พ่อมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
พ่อมาและให้มรดกของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตของลูกแก่ลูก
แม้ว่ามนุษย์พูดถึงดินแดนของการหลุดพ้นและดินแดนนิพพาน พวกเขาก็ไม่เข้าใจสิ่งใด
พวกเขาไม่รู้จักทั้งพ่อและเหล่าเทพ
ไม่มีใครเข้าใจว่าพ่อมาในบารัตและก่อตั้งอาณาจักรอย่างไร
ไม่มีสิ่งใดเหล่านั้นถูกอ้างอิงไว้ในคัมภีร์
พ่อสูงสุดมาอย่างไรและก่อตั้งศาสนาเทพอย่างไร?
ไม่ใช่ว่าเหล่าเทพในยุคทองจะมีความรู้ซึ่งได้หายไปแล้ว; ไม่เลย
หากเหล่าเทพได้มีความรู้นี้ สิ่งนั้นก็จะดำเนินมาตั้งแต่เวลานั้นเป็นต้นมา
ความรู้ของผู้คนของอิสลามและพุทธนั้นก็ได้ดำเนินมา
ลูกทั้งหมดเข้าใจว่าความรู้นี้หายไป
เมื่อพ่อมาพ่อชำระดวงวิญญาณผู้ที่กลับมาไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์และผู้ที่สูญสิ้นอาณาจักรของเขา
เคยมีอาณาจักรของลูกในบารัต ดังนั้นลูกสูญสิ้นสิ่งนั้นไปอย่างไร?
ไม่มีใครรู้สิ่งนี้เช่นกัน เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า: สติปัญญาของลูกๆ
นั้นได้กลับมาตกต่ำอย่างยิ่ง พ่อมาและให้ความรู้นี้แก่ลูกๆ
และแล้วให้ผลรางวัลของลูกแก่ลูก และแล้วลูกทั้งหมดก็ลืมทุกสิ่ง
ลูกลืมทุกสิ่งเกี่ยวกับพ่อมาอย่างไร และให้คำสอนทั้งหมดแก่ลูกอย่างไร
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละครด้วย ลูกๆ
จำเป็นต้องมีสติปัญญาที่กว้างใหญ่ที่จะใช้เพื่อไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้
พ่อพูดว่า: ลูกไม่ได้ศึกษาคัมภีร์ในยุคทองและยุคเงิน ลูกศึกษาภายหลัง
คัมภีร์เหล่านั้นไม่ได้คงอยู่ที่นั่น ลูกได้ลืมความรู้นี้ ดังนั้น
กีตะและคัมภีร์ฯลฯ นั้นมาจากที่ใด?
ผู้ที่เคยได้ยินกีตะและได้มาซึ่งสถานภาพก็ไม่เข้าใจสิ่งใด ดังนั้น
ผู้อื่นเหล่านั้นจะสามารถเข้าใจสิ่งใดได้อย่างไร?
แม้แต่เหล่าเทพก็ไม่สามารถรู้ว่าพวกเขาได้เปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพอย่างไร
บทบาทของการทำความเพียรพยามของลูกมาถึงจุดจบและผลรางวัลของลูกก็เริ่มขึ้น
ความรู้นี้จะสามารถคงอยู่ที่นั่นได้อย่างไร? พ่ออธิบาย:
ลูกกำลังได้รับความรู้นี้อีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอนเช่นที่ลูกเคยทำในวงจรที่แล้ว
ลูกสอนราชาโยคะและแล้วได้รับรางวัล ไม่ได้มีความตกต่ำที่นั่น
ดังนั้นเรื่องของความรู้ไม่สามารถเกิดขึ้นที่นั่น
ความรู้นี้เป็นไปเพื่อการได้มาซึ่งการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
เป็นเพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ให้สิ่งนี้แก่ลูก คำว่า “การหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส”
และ “การตกต่ำ” นั้นเกิดขึ้นที่นี่
เพียงผู้คนของบารัตเท่านั้นที่ได้รับการหลุดพ้นเพื่อชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลส
พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าแห่งสวรรค์ผู้เป็นพ่อได้สร้างสวรรค์
พวกเขาไม่ได้รู้สิ่งใดว่าเมื่อไรที่ได้มีการสร้างสิ่งนั้น
ในคัมภีร์มีการอ้างอิงถึงหลายแสนปี พ่อพูดว่า: ลูกๆ
พ่อกำลังให้ความรู้นี้แก่ลูกอีกครั้งหนึ่ง และแล้วเมื่อความรู้นี้หายไป
ความเลื่อมใสศรัทธาก็เริ่มขึ้น
เป็นเวลาครึ่งหนึ่งของวงจรที่มีความรู้และเป็นเวลาครึ่งหนึ่งของวงจรที่มีความเลื่อมใสศรัทธา
ไม่มีใครเข้าใจสิ่งนี้เช่นกัน พวกเขาได้ให้ระยะเวลาหลายแสนปีแก่ยุคทอง ดังนั้น
พวกเขาจะสามารถเข้าใจสิ่งใดได้อย่างไร? หากพวกเขาได้ลืมทุกสิ่งแม้กระทั่งเกี่ยวกับ
5000 ปีพวกเขาจะสามารถรู้สิ่งใดเกี่ยวกับหลายแสนปีได้อย่างไร?
พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย พ่ออธิบายทุกสิ่งอย่างง่ายดายมาก ระยะเวลาของวงจรนั้น
5000 ปีและก็มีเพียงสี่ยุคในนั้น ทั้ง 4 ยุคนั้นก็มีระยะเวลาเท่ากัน 1250
ปีในแต่ละยุค นี่คือยุคที่เล็กที่สุดของบราห์มิน เมื่อเปรียบเทียบกับสี่ยุค
ยุคนี้สั้นมาก พ่ออธิบายประเด็นใหม่ๆ แก่ลูกในวิธีต่างๆ มากมาย
ดังนั้นลูกต้องเข้าถึงประเด็นความรู้เหล่านั้น!
ลูกต้องทำความเพียรพยายามด้วยเช่นกัน!
สิ่งใดก็ตามที่ท่านอธิบายแก่ลูกนั่นเป็นบทบาทที่ดำเนินไปตามละคร
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พ่อบอกลูกในวันนี้ นั่นคือสิ่งที่พ่อกำลังบอกลูก
สิ่งนั้นเฝ้าแต่ปรากฏขึ้น ลูกเฝ้าแต่ได้ยินสิ่งนั้น
ลูกต้องเข้าถึงและดลใจให้ผู้อื่นทำเช่นเดียวกันนั้นด้วย พ่อไม่ต้องเข้าถึงสิ่งนั้น
พ่อพูดกับลูกและดลใจลูกให้เข้าถึงสิ่งนั้น
เป็นดวงวิญญาณของพ่อที่มีบทบาทของการชำระของผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ให้บริสุทธิ์
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พ่อเคยอธิบายในวงจรที่แล้วก็เฝ้าแต่เกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าดวงวิญญูาณนี้ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้
พ่อก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้าถึงสิ่งที่พ่อกำลังจะบอกลูก
เป็นประเด็นที่ลึกล้ำอย่างยิ่งว่าเป็นผู้นี้ที่ไตร่ตรองทุกสิ่งและพูดกับลูกหรือเป็นบาบาที่พูด
สิ่งนี้ต้องอาศัยสมองที่ดีมาก
ผู้ที่อยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการทำงานรับใช้ก็จะไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้อย่างต่อเนื่อง
ในความเป็นจริงกุมารีนั้นเป็นอิสระจากบ่วงพันธะ
พวกเธอสามารถอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการศึกษาทางจิตนี้
เพราะพวกเธอไม่ได้มีบ่วงพันธะใด กุมารีสามารถรับความรู้นี้ได้อย่างดีมาก
พวกเธอต้องศึกษาเล่าเรียนและสอนผู้อื่น พวกเธอนั้นไม่จำเป็นต้องหารายได้
เมื่อกุมารีเข้าใจความรู้นี้อย่างดีมากพวกเธอก็สามารถกลายเป็นผู้ที่ดีมาก
หากพวกเธอนั้นรู้คิด พวกเธอก็จะทำให้ตนเองไม่ว่างเว้นในการหารายได้นี้
บ้างก็ศึกษาการศึกษาทางโลกด้วยความสนใจอย่างมาก ได้เคยมีการอธิบายแล้วว่า
ไม่มีคุณประโยชน์ใดในการศึกษานั้น
ลูกสามารถศึกษาการศึกษาทางจิตนี้ที่นี่และอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในการทำงานรับใช้
การศึกษานั้นไม่มีประโยชน์ใด พวกเขาเพียงแต่ศึกษาเล่าเรียนและแล้วก็กลายเป็นแม่บ้าน
และทำให้ตัวเองไม่ว่างกับภาระกิจของครัวเรือน
กุมารีนั้นควรจะทำให้ตนเองไม่ว่างเว้นด้วยความรู้นี้
ลูกต้องทำตามศรีมัทในทุกย่างก้าว
และแล้วก็ทำให้ตนเองไม่ว่างเว้นในการเข้าถึงทั้งหมดนี้
มาม่าได้มาในตอนเริ่มต้นและทำให้ตัวท่านเองไม่ว่างเว้นในการศึกษานี้
กุมารีมากมายเวลานี้ไม่ปรากฏ กุมารีมีโอกาสที่ดีมาก
หากลูกทำตามศรีมัทลูกก็สามารถกลายเป็นผู้ที่ชั้นหนึ่งอย่างยิ่ง.
ผู้คนมากมายได้อยู่อย่างสับสนด้วยการประหลาดใจว่านี่คือศรีมัทหรือการกำหนดของบราห์มา
อย่างไรก็ตามนี่คือพาหนะของบาบา
หากลูกทำตามศรีมัทและผู้นี้ทำความผิดและแล้วผู้เดียวนั้นเองก็จะแก้ไขให้ทุกสิ่งนั้นถูกต้อง
เพียงด้วยผู้นี้เท่านั้นที่ลูกสามารถได้รับศรีมัท จดจำเสมอว่าลูกกำลังได้รับศรีมัท
และแล้วไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นท่านเองนั้นรับผิดชอบ
หากบางสิ่งเกิดขึ้นด้วยผู้นี้และแล้วบาบาก็พูดว่า: พ่อนั้นรับผิดชอบ
ความลับนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร ท่านสามารถปรับปรุงแก้ไขผู้นี้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามท่านเป็นพ่อ! บัพและดาดาทั้งสองนั้นอยู่ด้วยกัน
เหตุนี้เองลูกจึงสับสนและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าชีพบาบากำลังพูดสิ่งนี้หรือบราห์มาบาบาพูดสิ่งนี้”
หากลูกเชื่อว่าเพียงชีพบาบาเท่านั้นที่ให้การกำหนดแก่ลูก ลูกจะไม่มีวันขึ้นลง
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ชีพบาบาอธิบายนั้นถูกต้อง ลูกพูดว่า: บาบาท่านเป็นพ่อ
ครูและกูรูของฉัน ดังนั้นลูกควรจะทำตามศรีมัทใช่ไหม?
ลูกต้องทำตามสิ่งใดก็ตามที่ท่านบอกลูก คิดเสมอว่าเป็นชีพบาบาที่กำลังพูดกับลูก
ท่านคือผู้ให้คุณประโยชน์ ความรับผิดชอบของผู้นี้ก็อยู่กับผู้เดียวนั้น
ผู้นี้คือพาหนะของท่าน เหตุใดลูกจึงได้อยู่อย่างสับสนละพูดว่า
ฉันไม่รู้ว่านี่คือคำแนะนำของบราห์มาหรือของชีพบาบา?
เหตุใดลูกจึงไม่เข้าใจว่าเป็นเพียงชีพบาบาเท่านั้นที่อธิบายทุกสิ่ง?
เฝ้าแต่ทำสิ่งที่ศรีมัทบอกลูก เหตุใดลูกจึงทำตามการกำหนดของผู้อื่น?
เมื่อลูกทำตามศรีมัทลูกจะไม่มีวันสัปหงก
อย่างไรก็ตามลูกไม่สามารถทำตามศรีมัทเพราะลูกนั้นสับสน บาบาพูดว่า:
มีศรัทธาในศรีมัทและพ่อจะรับผิดชอบ หากลูกไม่มีศรัทธาพ่อก็ไม่รับผิดชอบ
เข้าใจเสมอว่าลูกต้องทำตามศรีมัท เมื่อมีการร้องเพลงว่า “ไม่ว่าท่านจะรักเราหรือว่าท่านจะทุบตีเรา…”
นั่นก็เป็นการร้องเพลงเกี่ยวกับผู้เดียวนี้ ไม่มีเรื่องของการเตะใครในสิ่งนี้
อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องยากมากสำหรับใครที่จะมีศรัทธา
หากลูกนั้นจะมีศรัทธาที่สมบูรณ์ ลูกก็จะไปถึงสภาพของการอยู่เหนือบ่วงกรรมของลูก
แต่ต้องอาศัยเวลาที่จะไปถึงสภาพนั้น นั่นจะเป็นสภาพของลูกในเวลาสุดท้าย
ศรัทธาของลูกจำเป็นต้องไม่สั่นคลอนเกี่ยวกับสิ่งนี้ ชีพบาบาไม่สามารถทำความผิดใดได้
ผู้นี้สามารถทำความผิด ท่านทั้งสองนั้นอยู่ด้วยกัน
อย่างไรก็ตามลูกต้องมีศรัทธาด้วยเช่นกันว่าชีพบาบากำลังอธิบายและลูกนั้นต้องทำตามสิ่งที่ท่านพูด
ดังนั้นเฝ้าแต่ก้าวหน้าไปในขณะคิดว่านั่นเป็นศรีมัทของบาบาและแล้วสิ่งใดก็ตามที่ผิดนั้นจะถูกทำให้ถูกต้อง
ในบางกรณีก็มีความเข้าใจผิด
มุรลีของชีพบาบาและบราห์มาบาบาต้องเป็นที่เข้าใจอย่างชัดเจนมาก
ไม่เป็นไรไม่ว่าบาบาพูดหรือผู้นี้พูด ไม่ใช่ว่าบราห์มานั้นไม่ได้พูดเลย
อย่างไรก็ตามบาบาได้อธิบายสิ่งนั้นแล้ว
เพียงแต่เข้าใจว่าบราห์มาบาบาไม่ได้รู้สิ่งใดและเป็นชีพบาบาที่กำลังพูดทุกสิ่ง “พ่อกำลังอาบน้ำให้กับพาหนะของชีพบาบา
พ่อกำลังรับใช้ในห้องครัวของชีพบาบา” หากลูกเพียงแต่จดจำสิ่งนี้
นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีมากด้วย
ทำทุกสิ่งขณะที่คงอยู่ในการจดจำระลึกถึงชีพบาบาแล้วลูกจึงจะสามารถล้ำหน้าทุกคนมากมาย
สิ่งหลักคือการจดจำระลึกถึงชีพบาบา: อัลฟ่าและเบต้าและที่เหลือทั้งหมดคือรายละเอียด
ให้ความใส่ใจกับสิ่งใดก็ตามที่พ่ออธิบาย
เพียงพ่อเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์และเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
เพียงท่านเท่านั้นที่เปลี่ยนศูทรที่ไม่บริสุทธิ์ให้กลายเป็นบราห์มิน
ท่านเท่านั้นชำระบราห์มินให้บริสุทธิ์ ท่านไม่ได้ชำระศูทรให้บริสุทธิ์
ไม่มีสิ่งใดเหล่านี้กล่าวถึงในภควัตฯลฯ
คำพูดบางคำก็ได้มีการกล่าวถึงในคัมภีร์เหล่านั้น
ผู้คนไม่ได้แม้กระทั่งเข้าใจว่าราเด้และกฤษณะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์
ผู้คนนั้นสับสนเกี่ยวกับสิ่งนี้ เหล่าเทพคือส่วนหนึ่งของสุริยวงศ์และจันทราวงศ์
มีราชวงศ์ของลักษมีและนารายณ์ และของรามและสีดา พ่อพูดว่า: โอ ผู้คนของบารัต ลูกๆ
ที่แสนหวานเพียงแต่จดจำสิ่งนี้! ไม่ใช่เรื่องของหลายแสนปี
เป็นเพียงเรื่องของเมื่อวานนี้ เมื่อลูกๆ นั้นเคยได้รับอาณาจักร
ลูกนั้นเคยได้รับทรัพย์สมบัติและความเจริญรุ่งเรืองมากมาย
พ่อทำให้ลูกกลายเป็นนายของทั้งโลก ไม่ได้มีประเทศอื่นใดในเวลานั้น
ดังนั้นอะไรได้เกิดขึ้นกับลูก? ไม่มีนักปราซญู์หรือบัณฑิตใดฯลฯ
ที่รู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ เพียงพ่อเท่านั้นที่พูดว่า: โอ ผู้คนของบารัต
พ่อนั้นได้ให้โชคของอาณาจักรของลูกแก่ลูกแล้ว ลูกบอกผู้อื่นด้วยเช่นกันว่า:
ชีพบาบาพูดว่า: พ่อให้ทรัพย์สมบัติมากมายแก่ลูก!
ดังนั้นลูกสูญสิ้นทั้งหมดนั้นไปที่ใด? มรดกของพ่อนั้นยิ่งใหญ่มาก!
พ่อเองนั้นกำลังถามลูก! หลังจากพ่อของลูกได้จากไป (ตาย)
เพื่อนฝูงและญาติมิตรของลูกก็ถามลูกว่า:
ลูกได้ทำอะไรกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่พ่อของลูกได้ทิ้งให้ลูกไว้?
ผู้นี้คือพ่อที่ไม่มีขีดจากัด พ่อได้ทำให้ลูกกลายเป็นเพชรจากเปลือกหอย
ท่านได้ไห้อาณาจักรเช่นนั้นแก่ลูก! ดังนั้นสมบัติเหล่านั้นทั้งหมดไปอยู่ที่ไหน?
ลูกจะตอบท่านว่าอย่างไร? ไม่มีใครอื่นเข้าใจสิ่งใด ลูกๆ
เข้าใจว่าสิ่งที่บาบากำลังถามนั้นถูกต้อง ลูกกลายเป็นผู้ที่ยากจนข้นแค้นได้อย่างไร?
เริ่มแรกทุกสิ่งนั้นสะโตประธาน และแล้วองศาก็เฝ้าแต่ลดลง
ดังนั้นทุกสิ่งอื่นนั้นก็เฝ้าแต่ลดลงไปด้วยเช่นกัน ในยุคทองลูกเคยสะโตประธาน
เคยเป็นอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ ชื่อ “ลักษมีและนารายณ์”
นั้นโด่งดังมากยิ่งกว่าชื่อของ “ราเด้และกฤษณะ” ไม่มีการประณามลักษมีและนารายณ์
ได้มีการเขียนคำประณามเกี่ยวกับผู้อื่นๆทั้งหมด
ไม่ได้มีการแสดงปีศาจใดในอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์
ดังนั้นประเด็นเหล่านี้ต้องเป็นที่เข้าใจ
บาบากำลังเติมอาภรณ์ของลูกด้วยทรัพย์สมบัติของความรู้ พ่อพูดว่า: ลูกๆ
ระมัดระวังมายานั้น! อัจชะ
ถืงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เป็นผู้ที่รู้คิดและทำให้ตนเองไม่ว่างเว้นอยู่กับงานรับใช้ที่แท้จริง
พ่อผู้เดียวนั้นรับผิดชอบ ดังนั้นอย่าได้มีความสงสัยเกี่ยวกับศรีมัท
มีศรัทธาที่ไม่สั่นคลอน
2. ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้และใส่ใจทุกสิ่งที่พ่อพูด
สร้างสมความรู้ในตนเองและแล้วถ่ายทอดความรู้นั้นแก่ผู้อื่น
พร:
ขอให้ลูกมีโชคที่สูงส่ง และเปิดเผยพ่อด้วยการเป็นตัวอย่างในทางปฏิบัติของลูก
เพื่อที่จะทำให้การคิดชัดเจน ประเภทของการพิสูจน์มากมายได้ถูกให้ไว้ อย่างไรก็ตาม
การพิสูจน์ที่สูงส่งที่สุดคือการเป็นตัวอย่างในทางปฏิบัติของลูก
การเป็นตัวอย่างในทางปฏิบัติหมายถึงการอยู่ในสำนึกรู้ของลูกเป็นใครและลูกเป็นของใคร
ลูกๆ
ผู้ที่อยู่อย่างมั่นคงในรูปที่เป็นอมตะและแท้จริงกลายเป็นเครื่องมือที่จะเปิดเผยพ่อ
เมื่อผู้อื่นมองดูโชคของพวกเขา พวกเขาจะจดจำผู้ที่สร้างโชคของพวกเขา
คติพจน์:
ผู้ที่เปลี่ยนแปลงทุกดวงวิญญาณด้วยสายตาของความเมตตาของพวกเขาคือดวงวิญญาณบุญ