24.01.21    Avyakt Bapdada     Thai Murli     17.10.87     Om Shanti     Madhuban


เครื่องประดับของชีวิตบราห์มินคือความบริสุทธิ์


วันนี้ บัพดาดากำลังมองดูลูกๆของท่านจากทุกหนแห่งในโลกที่จะกลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเป็นพิเศษ จากทั้งโลกมีเพียงไม่มีกี่คนที่กลายเป็นเพชรพลอยอันล้ำค่าที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา เพียงดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเท่านั้นที่จะกลายเป็นแสงสว่างพิเศษของโลก เช่นเดียวกับที่ไม่มีแสง (ชีวิต) ในร่างกายก็ไม่มีโลก ในทำนองเดียวกันถ้าในโลกนี้ไม่มีลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ลูกผู้เป็นแสงสว่างของโลก โลกนี้ก็จะไม่มีความสำคัญ ยุคทองยุคแรกและยุคสะโตประทาน, โลกใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยลูกดวงวิญญาณพิเศษ ลูกดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาคือภาพลักษณ์ของการค้ำจุนสำหรับโลกใหม่ ดังนั้น ลูกดวงวิญญาณจึงมีความสำคัญมาก ลูกดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาคือแสงใหม่สำหรับโลก สภาพของการขึ้นไปของลูกกลายเป็นเครื่องมือที่จะพาโลกไปสู่สภาพที่สูงส่ง เมื่อลูกเข้าสู่สภาพที่ตกต่ำลงมา โลกก็เข้าสู่สภาพของการตกต่ำลงมาเช่นกัน เมื่อลูกมีการเปลี่ยนแปลง โลกก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ลูกเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่มีความสำคัญเช่นนี้

วันนี้ บัพดาดากำลังมองดูลูกๆ ทุกคน การเป็นบราห์มินหมายถึงการมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเพราะบราห์มินจะกลายเป็นเทพ และเทพหมายถึงการมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา เทพทั้งหมดมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา อย่างไรก็ตามพวกเขาตามลำดับกันอย่างแน่นอน บางเทพได้รับการกราบไหว้บูชาเป็นประจำสม่ำเสมอด้วยวิธีการที่ถูกต้องและบางเทพไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทุกการกระทำของเทพบางองค์ได้รับการกราบไหว้บูชา ในขณะที่เทพอื่นๆไม่ใช่ว่าทุกการกระทำของพวกเขาจะได้รับการกราบไหว้บูชา บ้างได้รับการตกแต่งอย่างถูกวิธีทุกวัน ในขณะที่บางเทพก็ไม่ได้รับการตกแต่งทุกวัน; พวกเขาได้รับการตกแต่งอย่างผิวเผิน แต่ไม่ใช่ด้วยวิธีที่ถูกต้อง เบื้องหน้าเทพบางองค์จะมีการร้องเพลงสักการะบูชาตลอดเวลา ในขณะที่เพลงเหล่านั้นจะร้องเพียงบางครั้งเบื้องหน้าเทพอื่นๆ เหตุผลทั้งหมดนี้คืออะไร? ลูกทั้งหมดถูกเรียกว่าบราห์มิน ลูกทั้งหมดศึกษาความรู้และโยคะ แล้วทำไมถึงมีความแตกต่างนี้? มีความแตกต่างในดาร์น่า อย่างไรก็ตามลูกรู้หรือไม่ว่าบนพื้นฐานของดาร์น่าพิเศษใดโดยเฉพาะที่ตามลำดับกันไป?

พื้นฐานพิเศษของการกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาคือความบริสุทธิ์ ยิ่งลูกนำความบริสุทธิ์ทุกประเภทมาใช้มากเท่าไหร่ ลูกก็จะยิ่งกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาในทุกวิธีมากเท่านั้น ผู้ที่นำความบริสุทธิ์มาใช้ได้อย่างง่ายดายด้วยวิธีการที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมออย่างเป็นคุณธรรมดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไปของพวกเขาคือผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ความบริสุทธิ์ทุกประเภทคืออะไร? ดวงวิญญาณเหล่านั้นเติมเต็มความรับผิดชอบของพวกเขาได้อย่างง่ายดายและโดยอัตโนมัติในทุกสายใยและความสัมพันธ์กับทุกดวงวิญญาณ ไม่ว่าจะในความรู้หรือไม่มีความรู้โดยผ่านทุกความคิด,คำพูดและการกระทำของพวกเขาด้วยทัศนคติ,สายตาและกระแสจิตที่บริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอกล่าวได้ว่ามีความบริสุทธิ์ทุกประเภท แม้กระทั่งในความฝันของลูกก็ไม่ควรมีสิ่งใดขาดหายไปในการนำความบริสุทธิ์ทุกประเภทมาใช้เพื่อตัวลูกเองและเพื่อผู้อื่น ตัวอย่างเช่นถ้าพรหมจรรย์ถูกทำลายแม้กระทั่งในความฝันของลูกหรือหากลูกแสดงการกระทำหรือพูดกับดวงวิญญาณอื่นภายใต้อิทธิพลของความอิจฉาหรือความโกรธ ถ้าปฏิสัมพันธ์ของลูกกับบุคคลนั้นอยู่บนพื้นฐานของร่องรอยของความโกรธ นั่นก็ถือได้ว่าเป็นการทำลายคำปฏิญาณของความบริสุทธิ์ ลองคิดดูสิว่า: ถ้าแม้แต่ความฝันมีผลกระทบเช่นนั้น แล้วการกระทำที่เกิดขึ้นโดยผ่านร่างกายจะมีผลกระทบมากแค่ไหน? ด้วยเหตุนี้รูปเคารพที่แตกหักหรือเสียหายจึงไม่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา รูปเคารพที่แตกหักจะไม่ถูกวางไว้ในวัดแต่จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์ทุกวันนี้ ผู้เลื่อมใสศรัทธาจะไม่ไปที่นั่น มีเพียงคำยกย่องของพวกเขาว่า “เหล่านี้เป็นรูปเคารพที่เก่าแก่มาก” แค่นั้นเอง พวกเขาเรียกว่าความเสียหายจากการแตกหักของแขนขาในร่างกาย แต่ในความเป็นจริงหากมีการแตกหักของการรักษาความบริสุทธิ์ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ดวงวิญญาณนั้นจะถูกตัดสิทธิ์จากการได้รับสภาพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ในทำนองเดียวกันถ้ารักษาความบริสุทธิ์ทั้งสี่ประเภทในทางที่ถูกต้องแล้วการกราบไหว้บูชาก็เป็นไปในทางที่ถูกต้องเช่นกัน

ความบริสุทธิ์ในจิตใจ,คำพูดและการกระทำ – ความสัมพันธ์และสายใยรวมอยู่ในการกระทำ - และความฝันของลูกเรียกว่าความบริสุทธิ์สมบูรณ์ เพราะความไม่ระมัดระวัง ลูกบางคนก็พยายามทำและเคลื่อนไปพร้อมกับผู้ที่แก่กว่าหรือผู้ที่อายุน้อยกว่าโดยพูดว่า “ความตั้งใจของฉันดีมาก แต่คำพูดเพิ่งออกมา” หรือ “นั่นไม่ใช่เป้าหมายของฉัน แต่สิ่งนั้นก็เกิดขึ้น” หรือ “ฉันแค่พูดสิ่งนั้น หรือทำสิ่งนั้นแค่เป็นเรื่องตลกเท่านั้น” นี่ก็เป็น“การกระทำ”เช่นกัน และด้วยเหตุนี้การกราบไหว้บูชาของลูกเป็นเพียงแค่การทำเท่านั้น ความไม่ระมัดระวังนี้ทำให้ลูกตามลำดับกันไปในสภาพของการมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาอย่างเต็มที่ สิ่งนี้ก็สะสมในบัญชีความไม่บริสุทธิ์เช่นกัน ลูกได้รับการบอกแล้วว่าสิ่งบ่งบอกของดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาคือความบริสุทธิ์ทั้งสี่ประเภทของพวกเขาจะเป็นไปอย่างธรรมชาติ, ง่ายดายและสม่ำเสมอ พวกเขาไม่ต้องคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้ แต่ดาร์น่าของความบริสุทธิ์จะทำให้ความคิด, คำพูด, การกระทำและความฝันของพวกเขาถูกต้องโดยอัตโนมัติ ประการแรกความถูกต้องหมายถึงโยคยุกต์ และประการที่สองความถูกต้องหมายความว่าทุกความคิดจะมีความหมาย มันจะไม่ไร้ความหมาย ลูกจะไม่พูดว่า “ฉันพูดไปเช่นนั้นก็เพื่อประโยชน์ของมัน; มันก็ออกมาเอง; ฉันเพิ่งทำสิ่งนั้นหรือสิ่งนั้นเพิ่งเกิดขึ้น ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์เช่นนั้นจะอยู่อย่างถูกต้องและยุกตียุกต์อย่างสม่ำเสมอในทุกการกระทำ นั่นคือผ่านกิจกรรมตลอดทั้งวันของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ทุกการกระทำของดวงวิญญาณเช่นนั้นจึงได้รับการกราบไหว้บูชา นั่นคือกิจกรรมทั้งวันของพวกเขาได้รับการกราบไหว้บูชา การดูจะได้รับจากกิจกรรมที่แตกต่างกันทั้งหมดตั้งแต่เวลาตื่นนอนจนถึงเวลาเข้านอน

หากการกระทำใดไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นไปตามตารางเวลาที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับชีวิตบราห์มินแล้วเนื่องจากความแตกต่างนั้นจะมีความแตกต่างในวิธีการที่ลูกได้รับการกราบไหว้บูชา ยกตัวอย่างเช่นถ้าใครบางคนไม่มีระเบียบวินัยที่ต้องตื่นขึ้นมาในเวลาอมฤตแล้วในการกราบไหว้บูชาของพวกเขาเช่นกัน ผู้ที่กราบไหว้บูชาพวกเขาจะแปรปรวนในการกราบไหว้บูชาพวกเขาเช่นกัน นั่นคือผู้กราบไหว้บูชาจะไม่ตื่นในเวลาที่ถูกต้องและกราบไหว้บูชาพวกเขา; พวกเขาจะกราบไหว้บูชาเมื่อเหมาะสมกับพวกเขาเท่านั้น หรือไม่อย่างนั้นถ้าพวกเขาไม่ได้สัมผัสกับสภาพที่ตื่นขึ้นมาในอมฤตเวลา หากบางครั้งพวกเขานั่งอยู่ภายใต้การบีบบังคับหรือบางครั้งด้วยความเกียจคร้านและบางครั้งด้วยความตื่นตัวแล้ว ผู้กราบไหว้บูชาก็จะกราบไหว้บูชาพวกเขาภายใต้การบีบบังคับหรือความเกียจคร้านเช่นกัน; พวกเขาจะไม่กราบไหว้บูชาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ด้วยวิธีนี้ทุกการกระทำของตารางเวลาจึงมีผลกระทบต่อการกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา การไม่เคลื่อนไปในทางที่ถูกต้อง, การแปรปรวนในส่วนใดส่วนหนึ่งของตารางเวลานับว่าเป็นร่องรอยของความไม่บริสุทธิ์ เพราะความเกียจคร้านและความไม่ระมัดระวังเป็นกิเลสเช่นกัน การกระทำใดไม่ถูกต้องเป็นกิเลส ดังนั้นนั่นคือร่องรอยของความไม่บริสุทธิ์ใช่หรือไม่? เพราะด้วยเหตุนี้ลูกจึงตามลำดับกันไปในการบรรลุสถานะภาพที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ดังนั้นรากฐานคืออะไร? ความบริสุทธิ์

ดาร์น่าของความบริสุทธิ์นั้นลึกซึ้งมาก แนวทางและวิธีการของการกระทำอยู่บนพื้นฐานของความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องหยาบๆเท่านั้น เพียงแค่รักษาพรหมจรรย์หรืออยู่อย่างเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่นนั้นไม่ได้เรียกว่าความบริสุทธิ์ ความบริสุทธิ์เป็นเครื่องประดับของชีวิตบราห์มิน ให้ผู้อื่นได้สัมผัสกับเครื่องประดับของความบริสุทธิ์จากใบหน้าของลูกและกิจกรรมของลูกในทุกขณะ ให้เครื่องประดับของความบริสุทธิ์ได้รับการเปิดเผยในทางปฏิบัติในดวงตาของลูก, ปาก, มือและเท้าของลูกอยู่เสมอ ให้ใครก็ตามที่มองดูใบหน้าของลูกควรสัมผัสกับความบริสุทธิ์จากรูปลักษณ์ของลูก เช่นเดียวกับที่พวกเขาพูดถึงรูปลักษณ์ประเภทอื่นๆ ในทำนองเดียวกันให้พวกเขาพูดว่าความบริสุทธิ์นั้นปรากฏให้เห็นในรูปลักษณ์ของลูก นั่นคือมีประกายของความบริสุทธิ์ในดวงตาของลูกและรอยยิ้มของความบริสุทธิ์บนริมฝีปากของลูก อย่าให้พวกเขาเห็นสิ่งอื่น สิ่งนี้เรียกว่าเป็นภาพลักษณ์ที่ได้รับการประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับของความบริสุทธิ์ ลูกเข้าใจไหม? ความบริสุทธิ์นั้นลึกล้ำมากที่ลูกจะได้ยินเพิ่มเติมในภายหลัง เช่นที่ปรัชญาของกรรมนั้นลึกล้ำ ดังนั้นคำนิยามของความบริสุทธิ์ก็ลึกล้ำมากเช่นกัน และความบริสุทธิ์ก็เป็นรากฐาน อัจชะ

วันนี้ผู้ที่มาจากกุจราชได้มา ผู้มาจากกุจราชมักจะร่ายรำและร้องเพลงด้วยความเบาสบายอยู่เสมอ ไม่ว่าร่างกายของพวกเขาจะหนักแค่ไหน พวกเขาก็เบาสบายและร่ายรำ คุณสมบัติพิเศษของกุจราชคืออยู่อย่างเบาสบายเสมอ พวกเขาร่ายรำอยู่ในความสุขเสมอและเฝ้าแต่ร้องเพลงถึงพ่อและการบรรลุผลที่พวกเขาได้รับ ตั้งแต่เด็กพวกเขาร้องเพลงและร่ายรำได้ดีมาก พวกเขาทำอะไรในชีวิตบราห์มิน? ชีวิตบราห์มินหมายถึงชีวิตที่มีความสุข เมื่อลูกมีกาบ้า-ราส (ร่ายรำอย่างเป็นหนึ่งเดียวในวงกลม) ตัวลูกเองสนุกก็ใช่ไหม? ถ้าตัวลูกเองไม่สนุกลูกก็จะไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้นาน เมื่อลูกเองมีความสนุกและซาบซึ้ง ลูกจะไม่รู้สึกเหนื่อย; ลูกไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นชีวิตบราห์มินจึงหมายถึงชีวิตที่อยู่อย่างมีความสุขอยู่ตลอดเวลา สิ่งอื่นๆคือความสุขทางกายในขณะที่ชีวิตบราห์มินคือความสุขของจิตใจ ให้จิตใจเฝ้าแต่ร่ายรำและร้องเพลงอยู่ในความสุขอยู่เสมอ ผู้คนเหล่านั้นมีการฝึกที่จะอยู่อย่างเบาสบายและร่ายรำและร้องเพลง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเป็นแสงและเบาสบาย(ดับเบิ้ลไลท์)ในชีวิตบราห์มินของพวกเขา ดังนั้นผู้ที่มาจากกุจราชหมายถึงผู้มีการฝึกฝนที่จะอยู่อย่างเบาสบายอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่ได้รับพรเสมอ ดังนั้นชาวกุจราชทั้งหมดได้รับพรของการอยู่อย่างเป็นแสงและเบาสบายนี้ ลูกได้รับพรผ่านเมอร์ลีเช่นกันใช่ไหม?

ลูกได้รับการบอกว่าทุกสิ่งในโลกของลูกเกิดขึ้นตามความสามารถและเวลา ความสามารถเป็นเช่นไร ผลลัพธ์ก็เป็นเช่นนั้น ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนไม่มีภาษาสำหรับอะไรเลยที่เป็นไปตามความสามารถและอื่นๆ ที่นี่ต้องพิจารณาทั้งกลางวันและกลางคืน ที่นั่นไม่มีทั้งกลางวันและกลางคืน; ไม่มีทั้งพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระจันทร์ มันอยู่เหนือทั้งสองอย่าง ลูกต้องไปที่นั่นใช่ไหม? ในการสนทนาจากใจถึงใจของลูก ลูกๆ ถามว่า: จนถึงเมื่อไหร่? บัพดาดาตอบว่า: ถ้าลูกๆ พูดว่าลูกพร้อมแล้ว บัพดาดาก็สามารถทำสิ่งนั้นได้เดี๋ยวนี้เลย แล้วจะไม่มีคำถามว่าเมื่อไหร่ คำถาม“เมื่อไหร่”จะเกิดขึ้นตราบเท่าที่ลูกประคำทั้งหมดยังไม่พร้อม เวลานี้เมื่อลูกนั่งดึงรายชื่อต่างๆแล้วแม้แต่ 108 ลูกก็จะต้องคิดว่าจะรวมรายชื่อของใครบางคนหรือไม่ ขณะนี้ในลูกประคำ 108 ทุกคนควรให้ชื่อ 108 ชื่อเหมือนกัน อย่างไรก็ตามจะมีความแตกต่าง บัพดาดาสามารถปรบมือได้ในขณะนี้ และทุกสิ่งจะเริ่มเกิดขึ้นได้ทันทีในขณะนี้ด้วยวัตถุธาตุและผู้คนเช่นกัน สิ่งนั้นใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามพ่อรักลูกๆทั้งหมด ท่านจะจับมือของลูก แล้วเมื่อนั้นลูกจะไปกับท่าน การวางมือของลูกไว้ในมือของท่านหมายถึงการกลับมาทัดเทียมกัน ลูกจะพูดว่า: ไม่ใช่ทุกคนที่จะทัดเทียมกัน หรือไม่ใช่ทุกคนจะกลายเป็นอันดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามต่อจากอันดับหนึ่งคืออันดับที่สอง; ลูกปัดนั้นอาจไม่ทัดเทียมกับพ่อ แต่อย่างน้อยจะทัดเทียมกับลูกปัดอันดับหนึ่ง ลูกปัดอันดับสามจะทัดเทียมกับลูกปัดอันดับสอง ลูกปัดอันดับที่สี่จะเหมือนกับลูกปัดอันดับที่สาม อย่างน้อยพวกเขาควรทัดเทียมกันในลักษณะนั้น; และเมื่อแต่ละคนเข้ามาใกล้ชิดกัน ก็จะมีการเตรียมลูกประคำ การไปถึงสภาพเช่นนั้นหมายถึงการทัดเทียมกัน ลูกปัดที่ 108 จะคล้ายกับลูกปัดที่ 107 หากพวกเขามีคุณสมบัติพิเศษเหมือนพวกเขาเหล่านั้น (เหมือนกันและกัน) ลูกประคำจะถูกเตรียมขึ้นมา จะต้องเป็นไปตามลำดับ ลูกเข้าใจไหม? พ่อถามว่า ตอนนี้มีใครสามารถรับประกันได้และบอกว่าใช่ทุกคนพร้อมแล้ว? บัพดาดาใช้เวลาเพียงวินาทีเดียวเท่านั้น ลูกเคยแสดงให้เห็นฉากเหล่านั้นเมื่อบาบาปรบมือนางฟ้าก็จะมา อัจชะ

ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้สูงสุดทั้งหมด ถึงดวงวิญญาณที่เพียรพยายามอย่างเข้มข้นที่บรรลุเป้าหมายของความบริสุทธิ์สมบูรณ์ทุกประเภทของพวกเขา ถึงดวงวิญญาณที่กลายเป็นตัวแห่งความสำเร็จโดยการทำทุกการกระทำในทางที่ถูกต้อง ถึงดวงวิญญาณพิเศษที่ได้รับการประดับตบแต่งด้วยเครื่องประดับของความบริสุทธิ์ในทุกขณะ ความทรงจำระลึกถึงที่เต็มไปด้วยความรักของบัพดาดา

บัพดาดาพบกลุ่ม:
ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นผู้ที่มีโชคที่สุดในโลกหรือไม่? ทั้งโลกกำลังร้องเรียกหาโชคที่สูงส่งนั้น ที่โชคของพวกเขาควรจะเปิดออกมา ในขณะที่โชคของลูกได้เปิดออกแล้ว อะไรจะให้ความสุขมากไปกว่านี้? ลูกมีความซาบซึ้งที่ผู้ประทานโชคนั้นคือพ่อของลูกใช่หรือไม่? ลองนึกดูสิว่าผู้ที่มีพ่อเป็นผู้ประทานโชคจะเป็นอย่างไร! จะมีโชคที่ยิ่งใหญ่กว่านี้อีกไหม? ดังนั้นจงมีความสุขเสมอว่าโชคนั้นเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของลูก ลูกมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่เป็นของพ่อ แล้วผู้ประทานโชคมีอะไร? สมบัติแห่งโชค เวลานี้ลูกมีสิทธิ์ในสมบัติเหล่านั้น ดังนั้นจงเฝ้าแต่ร้องเพลงอยู่เสมอว่า “ว้า! โชคของฉัน และพ่อของฉันผู้ประทานโชค” และโบยบินในความสุข ผู้ที่มีโชคที่สูงส่งเช่นนี้จะต้องการอะไรอีก? ทุกสิ่งรวมอยู่ในโชคของลูก ผู้ที่มีโชคมีทุกสิ่ง: ร่างกาย, จิตใจ, ทรัพย์สมบัติและผู้คน (ความสัมพันธ์) โชคที่สูงส่งหมายความว่าไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถบรรลุได้ ลูกขาดอะไรไหม? “ฉันต้องการบ้านที่ดี, ฉันต้องการรถยนต์ที่ดี…” ไม่เลย ใครบางคนที่ได้พบกับความสุขในจิตใจได้มาซึ่งทุกสิ่ง ไม่เพียงแค่รถยนต์ แต่คนนั้นได้พบสมบัติมากมาย ดังนั้นไม่มีสิ่งใดที่ไม่ได้บรรลุมา ลูกเป็นผู้ที่มีโชคเช่นนั้น! จะมีประโยชน์อะไรกับการมีความปรารถนาในสิ่งที่สูญสลาย? สิ่งที่มีอยู่ในวันนี้จะไม่มีอยู่ในวันพรุ่งนี้แล้วเหตุใดจึงมีความปรารถนาในสิ่งนั้น? ดังนั้นจงอยู่อย่างมีความสุขเสมอของสมบัติที่ไม่มีวันดับสูญที่อยู่กับลูกในเวลานี้และจะไปกับลูก อาคารสิ่งปลูกสร้าง, รถยนต์และเงินเหล่านั้นจะไม่ไปกับลูก แต่สมบัติที่ไม่มีวันดับสูญเหล่านี้จะไปกับลูกหลายต่อหลายชาติเกิด ไม่มีใครสามารถช่วงชิงสิ่งเหล่านั้นไปจากลูกได้ ไม่มีใครสามารถปล้นสิ่งเหล่านั้นได้ ตัวลูกเองกลายเป็นอมตะและได้พบสมบัติที่ไม่มีวันสูญสลาย รางวัลที่สูงส่งนี้จะอยู่กับลูกชาติแล้วชาติเล่า นับเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่มาก! ที่ใดไม่มีความปรารถนา ที่นั่นลูกจะไม่รู้ในความรู้เกี่ยวกับความปรารถนา เป็นเพราะลูกได้รับโชคที่สูงส่งเช่นนั้นจากพ่อผู้ประทานโชค

พร:
ขอให้ลูกเป็นเทวดานางฟ้าที่ดับเบิ้ลไลท์(เป็นแสงและเบาสบาย)ที่ให้ทานคุณธรรมผ่านการกระทำของลูก

ใบหน้าและการกระทำของลูกๆ ที่ให้ทานคุณธรรมผ่านการกระทำของพวกเขามองเห็นเหมือนเป็นใบหน้าของเทวดานางฟ้า พวกเขาสัมผัสว่าตนเองนั้นดับเบิ้ลไลท์ นั่นคือพวกเขาเป็นแสง (สว่างไสว) และเบาสบาย (ไร้น้ำหนัก) ด้วย พวกเขาไม่รู้สึกว่าอะไรเป็นภาระ พวกเขาสัมผัสกับความช่วยเหลือในทุกการกระทำราวกับว่าพลังบางอย่างกำลังทำให้พวกเขาเคลื่อนไป เนื่องจากการเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ในทุกการกระทำพวกเขาจึงได้รับพรและความปรารถนาดีจากทุกคน

คติพจน์:
จงกลายเป็นดวงดาวแห่งความสำเร็จในงานรับใช้ อย่าได้อ่อนแอ