22.02.20       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน พระเจ้ากำลังสอนลูก ลูกมีเพชรพลอยแห่งความรู้ ลูกต้องทำธุรกิจด้วยเพชรพลอยเหล่านี้ ลูกศึกษาความรู้ ไม่ใช่ความเลื่อมใสศรัทธาที่นี่

คำถาม:
ประเด็นที่มหัศจรรย์ใดที่ถูกกำหนดไว้แล้วในละครที่มนุษย์เชื่อว่าเป็นการกระทำที่สูงส่งของพระเจ้าและสรรเสริญท่านสำหรับสิ่งนั้น?

คำตอบ:
เมื่อพวกเขามีนิมิตของผู้ที่เขาศรัทธา พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าได้ให้นิมิตนั้นแก่พวกเขา อย่างไรก็ตามทุกสิ่งเกิดขึ้นตามละคร ในด้านหนึ่งพวกเขาสรรเสริญพระเจ้า และในอีกด้านหนึ่งพวกเขาพูดว่าท่านอยู่ในทุกหนแห่ง และนั่นจึงเป็นการประณามท่าน

โอมชานติ
พระเจ้าพูด สิ่งนี้ได้เคยมีการอธิบายแก่ลูกๆ แล้วว่า ทั้งมนุษย์และเทพไม่สามารถเป็นพระเจ้าได้ พวกเขาสวดภาวนา: ขอคารวะต่อเทพบราห์มา, ขอคารวะต่อเทพวิษณุ, และขอคารวะต่อเทพชังก้าร์ แล้วพวกเขาก็พูดว่า: ขอคารวะต่อชีวา ดวงวิญญาณสูงสุด ลูกรู้ว่าชีวาไม่มีร่างกายของท่านเอง ชีพบาบาและซาลิแกรมอยู่ในโลกไม่มีตัวตน ลูกๆรู้ด้วยเช่นกันว่าพ่อกำลังสอนพวกเราดวงวิญญาณ ในความเป็นจริงไม่มีชุมนุมอื่นใดที่มีความเป็นมิตร (ซัง) แห่งสัจจะ (สัต) พ่อพูดว่า: พวกเขาคือความเป็นเพื่อนของมายา ไม่มีใครเข้าใจว่าพระเจ้ากำลังสอนพวกเรา แม้ว่าพวกเขาจะฟังกีตะ พวกเขาก็คิดว่าเป็นพระเจ้ากฤษณะพูด ในแต่ละวันการศึกษากีตะลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะพวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งศาสนาของตนเอง ทุกคนรักกฤษณะ; เป็นกฤษณะที่พวกเขาแกว่งไกวในเปล เวลานี้ลูกเข้าใจว่าเป็นลูกแกว่งใครในเปล ทารกสามารถถูกแกว่งไกวได้ แต่ไม่สามารถถูกแกว่งไกวพ่อได้ ลูกจะแกว่งชีพบาบาหรือ? ท่านไม่ได้เป็นเด็ก ท่านไม่ได้เข้ามาสู่การกลับมาใช้ชาติเกิด ท่านคือจุด เหตุใดลูกจึงจะแกว่งไกวท่าน?! ผู้คนมากมายได้นิมิตของกฤษณะ ทั้งโลกปรากฏอยู่ในปากของกฤษณะ เพราะเขากลายเป็นนายของโลก เนยคือสัญลักษณ์ของโลก ผู้ที่ต่อสู้กันเองก็ต่อสู้กันเพื่อเนยในรูปของโลกด้วยเช่นกัน พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะได้รับชัยชนะ ก้อนเนยปรากฏให้เห็นในปากของกฤษณะ พวกเขามีนิมิตที่หลากหลาย แต่พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของนิมิตเหล่านั้น ที่นี่ความหมายของนิมิตได้มีการอธิบายแก่ลูกแล้ว มนุษย์คิดว่าพระเจ้าให้นิมิตแก่พวกเขา พ่ออธิบายว่า: ไม่ว่าพวกเขาจะจดจำใคร ตัวอย่างเช่น หากพวกเขากราบไหว้บูชากฤษณะอย่างแรงกล้า - และแล้วความปรารถนาของเขาจะได้รับการตอบสนองเพียงชั่วคราว สิ่งนั้นก็ถูกกำหนดไว้แล้วในละครด้วยเช่นกัน ไม่อาจกล่าวว่าพระเจ้าให้นิมิต ไม่ว่าใครจะกราบไหว้บูชาผู้ใดด้วยศรัทธาอันแรงกล้าก็ตาม เขาก็จะได้นิมิตของสิ่งนั้น ที่ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร การสรรเสริญของพระเจ้าคือท่านให้นิมิต ในด้านหนึ่งมีการสรรเสริญเป็นอย่างยิ่งและอีกด้านหนึ่งพวกเขาพูดว่าพระเจ้าอยู่ในก้อนกรวดและก้อนหิน! พวกเขาทำความเลื่อมใสศรัทธาด้วยศรัทธาที่งมงายเช่นนั้น! พวกเขาคิดว่า: เท่านั้นเอง! ฉันมีนิมิตของกฤษณะ; ฉันจะไปสู่ดินแดนของกฤษณะอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามดินแดนของกฤษณะมาจากไหน? เวลานี้พ่ออธิบายความลับเหล่านี้ทั้งหมดแก่ลูกๆ เวลานี้ดินแดนของกฤษณะกำลังมีการก่อตั้งขึ้นมา นี่คือดินแดนของคันส์ (ปีศาจ-ลุงของกฤษณะ) คันส์, อคาสูรย์, บาคาสูรย์, กุมภกรรณและราวันทั้งหมดนั้นคือชื่อของปีศาจ พวกเขาได้เขียนสิ่งต่างๆเช่นนั้นในคัมภีร์! สิ่งนี้ต้องมีการอธิบายด้วยเช่นกันว่ามีกูรูสองประเภท กูรูประเภทหนึ่งเป็นของหนทางความเลื่อมใสศรัทธาและเขาสอนเพียงความเลื่อมใสศรัทธาเท่านั้น อย่างไรก็ตามพ่อนี้คือมหาสมุทรแห่งความรู้ ท่านเรียกว่าสัตกูรู ท่านไม่เคยสอนความเลื่อมใสศรัทธา ท่านสอนความรู้เท่านั้น มนุษย์มีความสุขอย่างมากในการทำความเลื่อมใสศรัทธา พวกเขาเล่นแทมบูรีน ลูกสามารถเห็นได้ว่าพวกเขาสร้างวัดมากมายให้แก่เทพในเบนาเรสอย่างไร พวกเขาทั้งหมดคือแผงขายสินค้า สิ่งนี้เป็นธุรกิจของความเลื่อมใสศรัทธา ธุรกิจของลูกๆคือเพชรพลอยแห่งความรู้ นี่เรียกว่าธุรกิจด้วยเช่นกัน พ่อเป็นพ่อค้าเพชรด้วยเช่นกัน ลูกเข้าใจว่าเพชรพลอยเหล่านี้คืออะไร เพียงผู้ที่เข้าใจสิ่งนี้ในวงจรที่แล้วเท่านั้นที่จะเข้าใจสิ่งนี้ในเวลานี้ ผู้อื่นจะไม่เข้าใจสิ่งนี้เลย บุคคลสำคัญทั้งหมดจะมาและเข้าใจในเวลาสุดท้าย พวกเขาเองก็กลับใจใหม่เช่นกัน ผู้คนถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชาจานาค จานาคก็กลายเป็นอนุจานาค (เขาได้รับการหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาที) หากชื่อของใครบางคนคือกฤษณะ ลูกจะพูดว่า: ท่านจะกลายเป็นอนุ(คนแรก), กฤษณะที่สูงส่ง ดูซิว่ากฤษณะที่สมบูรณ์พร้อม, เต็มเปี่ยมด้วยทุกคุณธรรมนั้นอยู่ที่ใด แล้วดูศิว่าผู้นี้ (บราห์มา) อยู่ที่ใด! ใครบางคนที่มีชื่อลักษมีเธอไปอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นบูชาของลักษมีและนารายณ์และร้องสรรเสริญพวกเขา แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีความแตกต่างระหว่างเธอกับพวกเขา เวลานี้ลูกๆ ได้รับความรู้แล้วว่าวงจรโลกนี้หมุนไปอย่างไร ลูกจะใช้ 84 ชาติเกิดอย่างแน่นอน วงจรโลกนี้ยังคงหมุนไปอย่างต่อเนื่องนับครั้งไม่ถ้วน มันไม่มีวันหยุด ลูกคือนักแสดงในละครนี้ มนุษย์เข้าใจได้อย่างแน่นอนว่าพวกเขาได้มาเพื่อเล่นบทบาทในละครนี้ แต่พวกเขาไม่รู้ตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของละคร ลูกๆรู้ว่าสถานที่อยู่อาศัยของพวกเราดวงวิญญาณนั้นอยู่ไกลแสนไกลเหนือทุกสิ่ง ที่นั่นแสงสว่างของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ไม่มีอยู่ ลูกๆที่เข้าใจทั้งหมดนี้มักเป็นคนที่ธรรมดาและยากจน นี่เป็นเพราะบารัตเคยเป็นดินแดนที่มั่งคั่งที่สุดและเป็นบารัตที่กลายเป็นผู้ที่ยากจนที่สุด การละเล่นทั้งหมดเกี่ยวกับบารัต ไม่มีดินแดนอื่นใดที่บริสุทธิ์เท่ากับบารัต ในโลกที่บริสุทธิ์มีเพียงดินแดนที่บริสุทธิ์ ไม่มีดินแดนอื่นคงอยู่ที่นั่น บาบาได้อธิบายแล้วว่าทั้งโลกนี้เป็นเกาะที่ไม่มีขีดจำกัด เช่นเดียวกับที่ลังกาคือเกาะ พวกเขาพูดว่าราวันอยู่ในลังกา(ศรีลังกา) เวลานี้ลูกเข้าใจในสิ่งนั้น ในความเป็นจริง อาณาจักรของราวันอยู่เหนือทั้งเกาะที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ ทั้งโลกนี้อยู่บนมหาสมุทร มันเป็นเกาะ ราวันปกครองเหนือเกาะนั้น สีดาเหล่านี้ทั้งหมดอยู่ในกรงขังของราวัน พวกเขาสร้างเรื่องราวที่มีขีดจำกัด ทุกประเด็นเหล่านี้คือประเด็นที่ไม่มีขีดจำกัด นี่คือละครที่ไม่มีขีดจำกัด ภายในละครนี้พวกเขานั่งและสร้างละครเล็กๆ ภาพยนตร์เหล่านั้นได้มีการสร้างขึ้นในเวลานี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับพ่อที่จะอธิบาย ละครที่ไม่มีขีดจำกัดทั้งหมดอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ โลกที่ไม่มีตัวตนและอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนไม่สามารถอยู่ในสติปัญญาของใคร ลูกรู้ว่าพวกเราดวงวิญญาณคือผู้ที่อาศัยในโลกที่ไม่มีตัวตน เหล่าเทพคือผู้อาศัยในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน พวกเขาเรียกว่าเป็นเทวดานางฟ้าด้วยเช่นกัน ที่นั่นกรงขัง(ร่างกาย)ของเนื้อและกระดูกไม่ได้คงอยู่ บทบาทของอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนนั้นเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เวลานี้ลูกยังคงไปและกลับมาอยู่เรื่อยๆ (จากอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน) จากนั้นลูกก็จะไม่มีวันไปที่นั่นอีก เมื่อลูกดวงวิญญาณลงมาจากบ้านดั้งเดิม ลูกจะไม่ได้ลงมาผ่านอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ลูกมาโดยตรง เวลานี้ลูกกลับไปโดยผ่านอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนมีบทบาทในเวลานี้ ความลับทั้งหมดเหล่านี้ได้มีการอธิบายให้แก่ลูกๆ พ่อรู้ว่าท่านกำลังอธิบายแก่ดวงวิญญาณ ไม่มีผู้รู้หรือซันยาสซี ฯลฯ ที่จะรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ พวกเขาไม่สามารถพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ พ่อพูดกับลูกๆ หากไม่มีอวัยวะท่านจะไม่สามารถพูดได้ ท่านพูดว่า: พ่อรับการค้ำจุนของร่างนี้และสอนลูกๆ สายตาของลูกดวงวิญญาณก็หันไปหาพ่อด้วยเช่นกัน ทุกสิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นใหม่ ท่านคือพ่อที่ไม่มีตัวตน ชื่อของท่านคือชีพบาบา ถึงอย่างไรชื่อของลูกดวงวิญญาณก็คือดวงวิญญาณอยู่แล้ว ชื่อของร่างกายของลูกเปลี่ยนไป มนุษย์พูดว่า: ดวงวิญญาณสูงสุดอยู่เหนือรูปและนาม แต่พวกเขายังคงพูดว่าชื่อของท่านคือชีวาใช่ไหม? พวกเขากราบไหว้บูชาท่านด้วยเช่นกัน พวกเขาเข้าใจสิ่งหนึ่งแต่ทำอีกสิ่งหนึ่ง เวลานี้ลูกเข้าใจ ชื่อ, รูป, ประเทศและเวลาของพ่อด้วยเช่นกัน ลูกรู้ว่าไม่มีสิ่งใดสามารถคงอยู่ได้โดยที่ไม่มีรูปและนาม นี่เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากที่จะต้องเข้าใจเช่นกัน พ่ออธิบายว่า: “การหลุดพ้นในชีวิตภายในหนึ่งวินาที”เป็นที่จดจำกันมา นั่นหมายความว่ามนุษย์ธรรมดาสามารถกลายเป็นนารายณ์ได้ แม้ว่าพวกเราจะกลายเป็นลูกของพระเจ้าแห่งสวรรค์ผู้เป็นพ่อ แต่พวกเราก็ยังคงถือว่าเป็นนายแห่งสวรรค์ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เข้าใจแม้แต่สิ่งนี้ พ่อพูดว่า: ลูกๆ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกๆ คือการกลายเป็นเหมือนนารายณ์จากมนุษย์ นี่คือราชาโยคะ ลูกๆมากมายก็ได้รับนิมิตของภาพลักษณ์ที่มีแขน(ของวิษณุ) สิ่งนี้พิสูจน์ว่าพวกเขาจะกลายเป็นนายของดินแดนแห่งวิษณุ ลูกรู้ว่าในสวรรค์เช่นกันเบื้องหลังบัลลังก์ของลักษมีและนารายณ์พวกเขาเห็นสัญลักษณ์ของวิษณุ นั่นหมายความว่าบัลลังก์ของเขาอยู่ในดินแดนของวิษณุ ลักษมีและนารายณ์เป็นนายของดินแดนของวิษณุ นั่นคือดินแดนของกฤษณะ นี่คือดินแดนของคันส์ ชื่อเหล่านี้ได้มีการให้ไว้ด้วยเช่นกันตามละคร พ่ออธิบายว่า: รูปของพ่อละเอียดอ่อนมาก ไม่มีใครสามารถรู้ได้ พวกเขาพูดว่าดวงวิญญาณคือดวงดาว แต่พวกเขาก็สร้างลิงกัม มิฉะนั้นพวกเขาจะทำการกราบไหว้บูชาได้อย่างไร? เมื่อพวกเขาได้สร้างไฟบูชายัญของรูดร้า พวกเขาก็ทำซาลีแกรมที่มีรูปเหมือนนิ้วหัวแม่มือ (สัญลักษณ์ของดวงวิญญาณ) ในด้านหนึ่งพวกเขาพูดว่ามันเป็นดวงดาวที่มหัศจรรย์ พวกเขาพยายามทุกวิถีทางที่จะได้เห็นดวงวิญญาณ แต่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ พวกเขายังพูดถึงรามากฤษณะและวิเวกอนันดาด้วยเช่นกัน ผู้ที่กล่าวว่า “ฉันเห็นดวงวิญญาณปรากฏออกมาจากเขา (รามากฤษณะ) และหลอมรวมเข้าไปในตัวฉันเอง” เวลานี้วิเวกอนันดาได้นิมิตของใคร? รูปของดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุดเป็นหนึ่งเดียวและเป็นสิ่งเดียวกัน จุด(แห่งแสง)ที่มองเห็น พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่มีใครต้องการที่จะมีนิมิตของดวงวิญญาณ พวกเขาต้องการที่จะมีนิมิตของพระเจ้า วิเวกอนันดานั่งด้วยความปรารถนาที่จะมีนิมิตของพระเจ้าผ่านกูรูเขาเพียงแค่พูดว่า: นั่นคือแสง แสงนั้นหลอมรวมเข้าไปในตัวฉัน เขามีความสุขกับแค่สิ่งนั้น เขาคิดว่านั่นเป็นรูปของดวงวิญญาณสูงสุด ความรู้สึกที่บริสุทธิ์ต่อกูรูจะถูกเก็บไว้เพื่อที่จะได้รับนิมิตของพระเจ้า พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ใครที่จะอธิบายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาได้? เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบาย: ไม่ว่าจะในรูปที่หลายหลายใดก็ตาม ไม่ว่าลูกจะรักษาความรู้สึกที่บริสุทธิ์ต่อผู้นั้นมากแค่ไหน ไม่ว่าลูกจะมองเห็นภาพลักษณ์ใด นั่นคือนิมิตที่ลูกได้รับ ยกตัวอย่างเช่น หากใครบางคนกราบไหว้บูชาคเณศอย่างมาก เขาก็จะเห็นนิมิตของคเณศในรูปที่มีชีวิต มิฉะนั้นศรัทธาของเขาจะได้รับการยืนยันได้อย่างไร? เมื่อพวกเขาเห็นรูปของแสงที่สว่างไสว พวกเขาก็คิดว่าพวกเขากำลังได้รับนิมิตของพระเจ้า พวกเขามีความสุขกับสิ่งนั้น ทั้งหมดนี้คือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา, เป็นสภาพของการตกลงมา ชาติเกิดแรกนั้นดีและจากนั้นก็ลดลงมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงเวลาสุดท้าย มีเพียงลูกๆเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ ความรู้นี้เวลานี้กำลังอธิบายให้กับคนที่มีความรู้คนเดียวกันกับที่ได้อธิบายให้พวกเขาเมื่อวงจรที่แล้ว เพียงผู้คนของวงจรที่แล้วเท่านั้นที่จะมา ศาสนาที่เหลือนั้นแยกไปอย่างสมบูรณ์ พ่ออธิบาย: จงเขียนว่า “พระเจ้าพูด” ในแต่ละภาพและทุกๆภาพ ลูกจำเป็นที่จะต้องอธิบายด้วยปัญญาอย่างยิ่ง พระเจ้าพูด: ยาดาวาส, พันดาวาส และฆราวาสกำลังทำอะไรอยู่? นี่คือภาพของพวกเขา พูดกับพวกเขาว่า: บอกเราซิว่าท่านรู้จักพ่อหรือไม่? หากท่านไม่รู้จัก นั่นหมายความว่าท่านไม่ได้มีความรักต่อพ่อ สิ่งนี้หมายความว่าท่านคือผู้ที่สติปัญญาไม่มีความรัก หากพวกเขาไม่มีความรักต่อพ่อ พวกเขาก็จะถูกทำลาย สติปัญญาที่มีความรักนั้นมีชัยชนะ สัจจะนั้นมีชัยชนะ ความหมายนั้นถูกต้องแม่นยำ หากไม่มีการจดจำระลึกถึงพ่อ ลูกก็ไม่สามารถได้รับชัยชนะ เวลานี้จงบอกเขาและพิสูจน์ว่ากีตะนั้นพูดโดยพระเจ้าชีวา มีเพียงท่านเท่านั้นที่สอนราชาโยคะผ่านบราห์มา ที่นี่(ในอินเดีย)พวกเขาคิดว่าเป็นกีตะของพระเจ้ากฤษณะและถือสัตย์ปฏิญาณกับกีตะนั้น ถามพวกเขาว่า: ท่านควรพิจารณาว่ากฤษณะหรือพระเจ้าที่มาอยู่ที่นี่? พวกเขาพูดว่า (พยานที่กำลังถือสัตย์ปฏิญาณ): ฉันคิดว่าพระเจ้าอยู่ในทุกหนแห่งและฉันจะพูดความจริง มีความสับสนใช่ไหม? คำสัตย์ปฏิญาณก็กลายเป็นเท็จ ลูกๆที่ทำงานรับใช้ควรจะมีความซาบซึ้งที่แฝงตัว เมื่อลูกอธิบายด้วยความซาบซึ้งก็จะประสบความสำเร็จ การศึกษาของลูกนั้นแฝงตัว ผู้ที่สอนก็แฝงตัวด้วยเช่นกัน ลูกรู้ว่าพวกเราจะไปสู่โลกใหม่และกลายเป็นสิ่งเหล่านั้น โลกใหม่กำลังมีการก่อตั้งขึ้นหลังจากสงครามมหาภารตะ เวลานี้ลูกได้รับความรู้แล้ว เป็นการซึมซับความรู้ตามลำดับกันไป ลูกมีโยคะตามลำดับกันไปด้วยเช่นกัน ลูกควรจะตรวจสอบตนเองว่า: ฉันอยู่ในการจดจำระลึกถึงมากแค่ไหน? พ่อพูดว่า: ผลลัพธ์ของความเพียรพยายามเหล่านี้ที่ลูกทำในเวลานี้จะคงอยู่ตลอดไปเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด หากลูกสอบตกในเวลานี้ ลูกก็จะสอบตกเรื่อยๆวงจรแล้ววงจรเล่า ลูกจะไม่สามารถได้มาซึ่งสถานภาพที่สูง ลูกควรเพียรพยายามที่จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง บางคนก็ไปที่ศูนย์และยังข้องแวะในกิเลสอยู่เรื่อยๆด้วยเช่นกัน ดวงวิญญาณเช่นนั้นยังคงไปที่ศูนย์อย่างต่อเนื่อง พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้ามองเห็นทุกสิ่งและถึงอย่างไรท่านก็รู้อยู่ดี เวลานี้เหตุใดพ่อจึงต้องมานั่งและดูสิ่งนั้น? หากลูกพูดโกหกและทำกรรมที่มีกิเลสหรือทำสิ่งที่ชั่วร้าย ลูกก็นำมาซึ่งความสูญเสียให้กับตนเอง ลูกเข้าใจด้วยเช่นกันว่าหากลูกทำให้ใบหน้าของลูกสกปรก ลูกก็ไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงได้ ไม่ว่าพ่อจะรู้หรือไม่ก็ตามนั่นก็เป็นสิ่งเดียวกัน ทำไมท่านจะต้องใส่ใจ? สำนึกของลูกจะกัดกร่อนลูก: ด้วยการทำกรรมเช่นนั้น ฉันจะไปถึงความตกต่ำ ทำไมบาบาถึงบอกลูก? ใช่ถ้ามันอยู่ในละคร ท่านก็จะบอกลูกด้วยเช่นกัน การซ่อนเร้นจากบาบาหมายถึงการทำลายสัจจะในตนเอง เพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์ ลูกต้องจดจำบาบา เพียงแค่ใส่ใจเกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดีและได้มาซึ่งสถานภาพที่สูง อย่าได้ใส่ใจว่าใครบางคนจะมีชีวิตอยู่หรือตาย เพียงแค่ใส่ใจว่าจะได้รับมรดกของลูกจากพ่อได้อย่างไร ดังนั้นลูกจะต้องอธิบายให้แก่ใครก็ตามอย่างสั้นๆ อัจชะ!

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ที่จากหายไปนานและเวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้าจากแม่พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. จงอยู่ในความซาบซึ้งที่แฝงตัวและทำงานรับใช้ อย่าได้ทำกรรมใดๆที่จะทำให้จิตสำนึกของลูกกัดกร่อน ตรวจสอบตนเองว่า: ฉันอยู่ในการจดจำระลึกถึงนานแค่ไหน?

2. มีความใส่ใจอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับการศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดีและได้มาซึ่งสถานภาพที่สูง อย่าทำให้ตนเองสูญเสียด้วยการพูดไม่จริงหรือแสดงการทำกรรมที่มีกิเลสใดๆ

พร:
ขอให้ลูกเป็นเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ยิ่งใหญ่ด้วยการให้ทานคุณสมบัติพิเศษ

ลูกทุกคนให้ทานความรู้ แต่ลูกดวงวิญญาณพิเศษต้องให้ทานคุณสมบัติพิเศษของลูก ให้ใครก็ตามที่เข้ามาอยู่เบื้องหน้าลูกได้สัมผัสกับความรักของพ่อในตัวลูก จากใบหน้าของลูกให้พวกเขาเห็นใบหน้าของพ่อ และจากกิจกรรมของลูกปล่อยให้พวกเขาเห็นบุคลิกลักษณะของพ่อ เมื่อพวกเขาเห็นคุณสมบัติพิเศษของลูก ให้พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจที่จะกลายเป็นดวงวิญญาณที่พิเศษ จงกลายเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นที่ลูกจะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนจบ นั่นคือจากการมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาจนถึงการเป็นผู้กราบไหว้บูชา

คติพจน์:
ผู้ที่อยู่อย่างมีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณอยู่เสมอคือผู้ที่มีความรอบรู้เป็นอย่างมาก