08.03.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
04.12.85 Om Shanti Madhuban
ภาษาของความคิดเป็นภาษาที่สูงส่งที่สุด
วันนี้มีการชุมนุมของสองชุมนุมในสองรูปเบื้องหน้าบัพดาดา
ทั้งสองเป็นชุมนุมของลูกๆผู้เป็นที่รัก หนึ่งคือชุมนุมของลูกๆในรูปที่มีร่างกาย
และอีกหนึ่งคือชุมนุมของลูกผู้เป็นที่รักในรูปที่ละเอียดอ่อนของพวกเขา
ในขณะที่เฉลิมฉลองการพบปะกับพ่อมหาสมุทรแห่งความรัก
ลูกทุกคนในทุกหนแห่งในรูปที่ละเอียดอ่อนกำลังเปิดเผยความรักของพวกเขาต่อหน้าบัพดาดา
บัพดาดากำลังฟังความคิดเกี่ยวกับความรักของลูกทุกคน ความคิดต่าง ๆ
ของความจริงจังและความกระตือรือร้นในหัวใจของพวกเขา และพร้อมกับความรู้สึกต่าง ๆ
ในหัวใจของพวกเขา บัพดาดายังได้ฟังสิ่งที่แสนหวานที่ลูกพูดถึงสิทธิ์ของลูกด้วย
เพราะพวกเขามีสิทธิ์ที่จะมีความสัมพันธ์ที่มีความรัก
ลูกแต่ละคนวางสภาพของหัวใจของเขา สภาพของสถานการณ์ของกิจกรรมต่าง ๆ ของพวกเขา
และข่าวงานรับใช้ของพวกเขาไว้เบื้องหน้าหน้าพ่ออย่างชัดเจนด้วยภาษาของดวงตาและภาษาของความคิดที่สูงส่งและที่มีความรัก
บัพดาดากำลังฟังการสนทนาจากใจถึงใจของลูกๆ ในทั้งสามรูปแบบ
การสนทนาในรูปที่หนึ่งคือผ่านภาษาของดวงตา ในรูปที่สองคือภาษาของความรู้สึก
และในรูปที่สามคือภาษาของความคิด ภาษาของคำพูดเป็นภาษาธรรมดาทั่วไป
ในขณะที่ทั้งสามภาษานี้เป็นภาษาของชีวิตโยคีทางจิตวิญญาณ
ซึ่งมีเพียงลูกทางจิตวิญญาณและพ่อทางจิตวิญญาณเท่านั้นที่รู้และมีประสบการณ์
ยิ่งลูกสำรวจตนและอยู่อย่างมั่นคงในความเงียบที่แสนหวานมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งสามารถให้ประสบการณ์กับดวงวิญญาณทั้งหมดผ่านสามภาษาเหล่านี้ได้มากเท่านั้นภาษาทางจิตเหล่านี้มีพลังมาก
ผู้คนส่วนใหญ่เวลานี้เบื่อที่จะฟังและพูดภาษาของคำพูด
การพูดภาษาของคำพูดต้องใช้เวลาในการชี้แจงและอธิบายสถานการณ์
ในขณะที่ภาษาของดวงตาเป็นภาษาของการให้สัญญาณ
ภาษาของความรู้สึกในจิตใจถูกเปิดเผยโดยการแสดงออกบนใบหน้าของลูก
การแสดงออกบนใบหน้าของลูกเผยให้เห็นความรู้สึกในจิตใจของลูก
ตัวอย่างเช่นเมื่อมีใครบางคนไปอยู่เบื้องหน้าใครคนหนึ่ง
ดวงตาและลักษณะของบุคคลนั้นจะบอกได้ว่าบุคคลนั้นมาด้วยความรัก ด้วยความเกลียดชัง
หรือด้วยแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัว
ดังนั้นลูกสามารถรู้และพูดภาษาของความรู้สึกผ่านการแสดงออกบนใบหน้า
ในทำนองเดียวกันภาษาของความคิดเป็นภาษาที่สูงส่งมากที่สุด
เพราะพลังของความคิดเป็นพลังที่สูงส่งที่สุด
เป็นพลังดั้งเดิมและภาษาที่เร็วที่สุดของทั้งหมดคือภาษาของความคิด
ไม่ว่าใครจะอยู่ไกลแค่ไหนและแม้ว่าลูกจะไม่มีวิธีการสื่อสารใดก็ตาม
ลูกสามารถส่งข้อความด้วยภาษาของความคิดนั้นได้
ในเวลาสุดท้ายจะเป็นภาษาของความคิดที่จะเป็นประโยชน์
เมื่ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกทางวิทยาศาสตร์ล้มเหลว
สิ่งอำนวยความสะดวกของความเงียบเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะทำการเชื่อมต่อกัน สายจะต้องถูกเก็บไว้อย่างชัดเจนเสมอ
ยิ่งลูกฝึกฝนที่จะยุ่งอยู่กับพ่อผู้เดียวตลอดเวลา
ยุ่งอยู่กับความรู้ที่ท่านให้กับลูก และอยู่กับการทำงานรับใช้ด้วยความรู้นั้น
สายที่ชัดเจนของลูกจะอยู่กับความคิดที่สูงส่งเหล่านั้น การรบกวนใด ๆ
มีสาเหตุมาจากความคิดที่ไร้ประโยชน์
ยิ่งลูกจบสิ้นความคิดที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดและมีความคิดที่ทรงพลังมากเท่าไหร่
ผู้คนก็จะยิ่งได้สัมผัสกับภาษาของความคิดที่ชัดเจนได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น
เช่นเดียวกับที่ผู้คนได้สัมผัสกับภาษาของคำพูด
ในหนึ่งวินาทีภาษาของความคิดสามารถให้ประสบการณ์กับใครๆได้มากกว่าภาษาของคำพูด
ลูกสามารถให้ประสบการณ์ของสาระสำคัญของการพูดสามนาทีในหนึ่งวินาทีด้วยภาษาของความคิด
ลูกสามารถทำให้พวกเขาได้สัมผัสกับ "การหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาที"
ที่ได้รับการจดจำ
ภาษาของดวงวิญญาณที่สำรวจตนคือภาษาทางจิตนี้
ขณะนี้ตามเวลาแล้วลูกจะประสบกับความสำเร็จอย่างง่ายด้วยด้วยภาษาทั้งสามเหล่านี้
จะใช้ความพยายามน้อยลงและใช้เวลาน้อยลงแต่ความสำเร็จจะง่ายดาย
ดังนั้นเวลานี้จงฝึกฝนภาษาทางจิตนี้ ดังนั้นวันนี้บัพดาดาก็กำลังฟังลูกๆ
ผ่านสามภาษานี้และให้การตอบรับกับลูกๆทุกคน
เมื่อเห็นความรักที่ลึกซึ้งของทุกคนบัพดาดาจึงหลอมรวมความรักทั้งหมดเข้าด้วยกันในมหาสมุทรแห่งความรัก
ท่านกำลังให้พรที่สูงส่งกับทุกคนของการทำให้การจดจำระลึกเป็นอนุสรณ์ความทรงจำ
เมื่อรู้ถึงความรู้สึกที่แตกต่างกันในจิตใจของแต่ละคน
บัพดาดากำลังให้การตอบสนองต่อความรู้สึกที่บริสุทธิ์เหล่านี้ทั้งหมดแก่ลูกทุกคนด้วยความปรารถนาที่บริสุทธิ์:
ขอให้ลูกเป็นอิสระจากอุปสรรคเสมอ ขอให้ลูกเข้มแข็ง ขอให้ลูกเต็มไปด้วยพลังทั้งหมด
ด้วยความปรารถนาอันบริสุทธิ์ของพ่อ
สิ่งใดก็ตามที่เป็นความปรารถนาอันบริสุทธิ์ของลูกๆ
สิ่งใดก็ตามที่เป็นความรู้สึกของความร่วมมือและความปรารถนาดีของลูก
ตามสถานการณ์ความปรารถนาอันบริสุทธิ์เหล่านั้นทั้งหมดจะได้รับการเติมเต็มอย่างต่อเนื่องด้วยความปรารถนาที่สูงส่งของบัพดาดา
ในขณะที่เคลื่อนไปบางครั้งบัญชีกรรมของอดีตที่ผ่านมาก็ปรากฏต่อหน้าลูกๆบางคนในรูปของข้อสอบ
ไม่ว่าจะเป็นในรูปของความเจ็บป่วยของร่างกาย, พายุที่ไร้ประโยชน์ในจิตใจ
หรือในรูปของความสัมพันธ์และสายใย
บางครั้งแทนที่จะได้รับความร่วมมือจากผู้ที่ให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
กลับมีความขัดแย้งเล็กน้อย อย่างไรก็ตามบัญชีเก่าและหนี้เก่าทั้งหมดจะถูกชำระสะสาง
ดังนั้นแทนที่จะจมอยู่กับความปั่นป่วน จงทำให้สติปัญญาของลูกมีพลัง
และแล้วด้วยพลังของสติปัญญาของลูก แทนที่จะสัมผัสว่าหนี้เก่านั้นเป็นหนี้
ลูกจะได้รับประสบการณ์ว่าหนี้เก่าเหล่านั้นเป็นความรับผิดชอบที่จะทำให้ลูกสอบผ่านได้ตลอดเวลา
สิ่งที่เกิดขึ้นคือเนื่องจากสติปัญญาของลูกไม่มีพลัง
ลูกจึงรู้สึกว่าหนี้นั้นเป็นภาระ และแล้วเนื่องจากมีภาระนั้น
ลูกจึงไม่สามารถมีการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องด้วยสติปัญญาของลูก
และเนื่องจากการไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
ภาระก็จะทำให้ลูกยิ่งต่ำลงไปอีก แล้วลูกก็ไม่สามารถบรรลุความสำเร็จที่สูงได้
และเหตุนี้เองในบางกรณีแทนที่หนี้จะได้รับการชำระสะสางกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นวิธีที่จะชำระหนี้เก่าทั้งหมดของลูกคือการทำให้สติปัญญาของลูกชัดเจนอยู่เสมอ
อย่าได้เก็บภาระใด ๆ ไว้ในสติปัญญาของลูก
ยิ่งลูกทำให้สติปัญญาเบาสบายขึ้นมากเท่าไหร่
พลังของสติปัญญาก็จะยิ่งช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นมากเท่านั้น
ดังนั้นอย่าได้หวาดกลัว จบสิ้นความคิดที่ไร้ประโยชน์ซึ่งสร้างภาระเช่น "ทำไมสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น?
เกิดอะไรขึ้น? บางทีอาจเป็นเช่นนี้ ..." และรักษาเส้นของสติปัญญาของลูกให้ชัดเจน
ทำให้มันเบาสบาย และแล้วด้วยความกล้าหาญและความช่วยเหลือของพ่อ
ลูกจะประสบความสำเร็จต่อไป ลูกเข้าใจไหม?
แทนที่จะมีความเบาสบายเป็นสองเท่า ลูกกลับแบกภาระเป็นสองเท่า
ภาระเป็นสองเท่าของบัญชีในอดีตและความคิดที่ไร้ประโยชน์จะทำให้ลูกขึ้นหรือทำให้ลูกลง?
เหตุนี้เองบัพดาดาจึงดึงดูดความสนใจของลูก ๆ ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
ให้ชำระสะสางภาระใดๆที่อยู่ในสติปัญญาของลูกอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
ภาระประเภทใดก็ตามเปลี่ยนโยคะของสติปัญญาไปสู่ความทุกข์ทรมานของบัญชีกรรม
ดังนั้นจงรักษาสติปัญญาให้เบาสบายอยู่เสมอ
ดังนั้นพลังของโยคะและพลังของสติปัญญาจะทำให้ความทุกข์ทรมานทุกประเภทจบสิ้นลง
ความกระตือรือร้นในงานรับใช้ในรูปแบบที่แตกต่างกันได้มาถึงบัพดาดาแล้ว
ไม่ว่าใครบางคนจะทำงานรับใช้อย่างไม่เห็นแก่ตัวด้วยหัวใจที่ซื่อสัตย์ในระดับใดหรือมากแค่ไหนก็ตาม
พระเจ้าก็ยินดี
สิ่งชี้บอกของพระเจ้าที่มีความยินดีคือความพอใจในหัวใจของลูกและความสำเร็จในการรับใช้
สิ่งใดก็ตามที่ลูกได้ทำมาจนถึงตอนนี้ก็ดี และสิ่งที่ลูกยังคงทำอยู่ก็ดี
เมื่อลูกก้าวหน้าต่อไปก็จะดียิ่งขึ้น
เหตุนี้เองบัพดาดาจึงให้ความรักและความทรงจำระลึกถึงในรูปของพรแก่ลูกทุกคนในทุกหนแห่ง
จงก้าวหน้าต่อไปและเติบโตขึ้นเรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอโดยการใช้วิธีการที่ถูกต้อง
พร้อมกับพรนี้บัพดาดามอบความรักและความทรงจำระลึกถึงหลายร้อยล้านเท่า
บัพดาดาให้การตอบรับรวมถึงขอแสดงความยินดีกับลูกทุกคนที่ส่งจดหมายหรือจดหมายที่เขียนด้วยมือผ่านจิตใจของพวกเขา:
ขอให้ลูกดำเนินชีวิตที่สูงส่งต่อไปในขณะที่เพียรพยายามที่สูงส่ง
ด้วยความรู้สึกที่สูงส่งของความรัก ความทรงจำระลึกถึง และนมัสเตของบัพดาดา
เป็นเด็กและเป็นนาย
วันนี้บัพดาดากำลังเห็นกองทัพชักตีของท่าน
และกองทัพชักตีทางจิตวิญญาณนี้เป็นผู้เอาชนะจิตใจและผู้เอาชนะโลก
การเป็นผู้เอาชนะจิตใจหมายถึงการเป็นผู้เอาชนะความคิดที่ไร้ประโยชน์และความคิดในด้านลบของจิตใจ
ลูกๆที่ได้รับชัยชนะในลักษณะนี้จะประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของโลก
เหตุนี้เองจึงมีการจดจำว่า: เมื่อลูกเอาชนะจิตใจได้ ลูกก็เอาชนะโลกได้
ยิ่งลูกรักษาพลังความคิดของลูกนั่นคือจิตใจของลูกให้อยู่ภายใต้การควบคุมของลูกมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของโลกได้มากเท่านั้น
ในเวลานี้ลูกเป็นลูกของพระเจ้าและมีเพียงผู้ที่เป็นลูกในเวลานี้เท่านั้นที่จะกลายเป็นนายของโลก
ลูกไม่สามารถกลายเป็นนายโดยที่ไม่กลายเป็นลูกได้
จบสิ้นสิ่งใดก็ตามที่เป็นความซาบซึ้งที่มีขีดจำกัดที่ลูกมีในการเป็นนายที่มีขีดจำกัดและกลับมาเป็นเด็ก
แล้วเมื่อนั้นลูกก็จะกลายเป็นนาย เหตุนี้เองในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ไม่ว่าผู้นำของประเทศจะยิ่งใหญ่เพียงใด ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเจ้านาย(เป็นเจ้าของ)ของทรัพย์สมบัติที่ยิ่งใหญ่และเป็นนายของครอบครัว
เมื่ออยู่เบื้องหน้าพ่อในขณะที่กำลังสวดภาวนาเขาจะพูดว่า“ ฉันเป็นลูกของท่าน!”
เขาจะไม่มีวันพูดว่า: ฉันเป็นเจ้านายเช่นนั้นเช่นนี้
ลูกบราห์มินก็กลายเป็นเด็กเช่นกันและเหตุนี้เองเวลานี้ลูกจึงเป็นจักรพรรดิที่ไร้ความกังวลและเป็นนายของโลกในอนาคตนั่นก็คือลูกกลายเป็นจักรพรรดิ
สำนึกรู้ถึงการเป็นเด็กและเป็นนายจะทำให้ลูกได้รับประสบการณ์ของสภาพที่ไม่มีตัวตนและปราศจากความหลงทะนงตนอยู่เสมอ
การเป็นเด็กหมายถึงการเปลี่ยนชีวิตที่มีขีดจำกัดของลูก
เมื่อลูกกลายเป็นบราห์มินสิ่งแรกและบทเรียนแรกที่ง่ายที่สุดของชีวิตบราห์มินที่ลูกได้เรียนรู้คืออะไร?
ลูก ๆ พูดว่า “บาบา!” และพ่อพูดว่า “ลูกๆ!”
บทเรียนของคำพูดนี้ทำให้ลูกเต็มไปด้วยความรู้ หากลูกได้ศึกษาบทเรียนของคำๆเดียวว่า
"ลูก/เด็ก" ลูกได้เรียนรู้ความรู้ทั้งหมดที่ไม่ใช่เพียงแค่โลกนี้
แต่ในทั้งสามโลกนี้ ในโลกปัจจุบันไม่ว่าผู้คนจะมีความรู้มากเพียงใด
พวกเขาก็ไม่สามารถรู้เกี่ยวกับความรู้ของทั้งสามโลกได้ ในประเด็นนี้
ผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้เป็นอย่างมากจะเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยเบื้องหน้าลูกผู้ที่ได้ศึกษาคำๆเดียวนั้น
ลูกได้กลายเป็นนายผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้อย่างง่ายดาย บาบาและลูก ๆ
ทุกสิ่งรวมอยู่ในคำสองคำนี้
เมื่อต้นไม้ทั้งต้นรวมอยู่ในเมล็ดแล้วการเป็นลูกหรือการเป็นเด็ก (บัดเช)
หมายถึงการอยู่อย่างปลอดภัยอยู่เสมอ (บัดเชฮู) จากมายา
08/12/85
อยู่อย่างปลอดภัยจากมายานั่นคือมีความตระหนักเสมอว่าลูกเป็นเด็ก
มีความตระหนักรู้อยู่เสมอว่า:“ฉันคือลูก,ฉันเป็นเด็ก!” นั่นคือฉันได้รับความปลอดภัย
บทเรียนนี้ยากไหม? มันง่ายใช่ไหม? แล้วทำไมลูกถึงลืม?
ลูกบางคนคิดว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะลืม แต่พวกเขาก็ยังลืม ทำไมลูกถึงลืม?
พวกเขาตอบว่า: มันเป็นซันสการ์ที่หยั่งรากลึกหรือซันสการ์ที่เก่ามาก
อย่างไรก็ตามเมื่อลูกตายไปแล้วในขณะที่มีชีวิตอยู่ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกตาย?
ลูกมีพิธีเผาศพใช่ไหม? เมื่อลูกได้เผาสิ่งที่เก่าไปแล้วลูกก็ไปเกิดใหม่ได้
หากลูกมีพิธีเผาร่างไปแล้วซันสการ์เก่ามาจากไหน? เมื่อร่างกายถูกเผา
ร่องรอยของชื่อและรูปทั้งหมดก็จบสิ้นลง ดังนั้นถ้าลูกพูดถึงบุคคลนั้น ลูกจะพูดว่า“เคยมีคนนั้นอยู่”
ลูกจะไม่พูดว่า“มีคนนั้น (ในปัจจุบันกาล) ดังนั้น เมื่อร่างกายถูกเผาไปแล้ว
ร่างกายก็ได้จบสิ้นไปแล้ว ลูกเผาอะไรในชีวิตบราห์มิน? ลูกมีร่างเดิมที่เหมือนกัน
แต่ลูกได้เผาซันสการ์เก่า ความทรงจำเก่าๆ และธรรมชาติเก่าของลูก
ด้วยเหตุนี้เองจึงเรียกว่าการตายในขณะที่มีชีวิต เมื่อลูกได้มีพิธีเผาแล้ว
ซันสการ์เก่ามาจากที่ไหน?
ลูกจะเรียกว่าอะไรถ้าคนที่ถูกเผาไปแล้วปรากฏขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าลูก?
ลูกจะเรียกผู้นั้นว่าผี ดังนั้นที่นี่เช่นกัน
ถ้าซันสกาที่ถูกเผาไปแล้วถูกปลุกขึ้นมาใหม่ลูกจะพูดว่าอะไร?
นั่นเป็นผีของมายาเช่นกันใช่ไหม? ผีจะถูกขับไล่ไป
พวกเขาแม้กระทั่งจะพูดถึงสิ่งเหล่านี้
ลูกเพียงแค่หลอกตัวเองโดยเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าซันสการ์เก่าของลูก
หากลูกชอบสิ่งเก่าๆ ก็จงจดจำสิ่งที่เก่าอย่างแท้จริง
ซึ่งในความเป็นจริงเป็นซันสการ์ดั้งเดิมของลูก
ซันสการ์เหล่านั้นเป็นซันสการ์ในช่วงตอนกลาง ไม่ใช่ซันสการ์ที่เก่าที่สุด
ตอนกลางหมายถึงช่วงกลางและดังนั้นการจดจำในช่วงตอนกลางหมายถึงการมีความทุกข์ในใจกลางมหาสมุทร
ดังนั้นอย่าคิดถึงเรื่องที่อ่อนแอเช่นนั้น จดจำคำสองคำนี้ไว้เสมอ เป็นลูก/เป็นเด็กและเป็นนาย
การตระหนักถึงการเป็นเด็กจะนำมาซึ่งการตระหนักรู้ถึงการเป็นนายโดยอัตโนมัติ
ลูกไม่รู้วิธีที่จะเป็นเด็กหรือ?
กลายเป็นเด็กนั่นคือกลับมาเบาสบายในภาระทั้งหมด การพูดว่า บางครั้ง“ของท่าน”
และบางครั้ง“ของฉัน” ทำให้มันยากลำบาก เมื่อลูกพบว่างานนั้นยาก ลูกจะพูดว่า “ท่านรู้จักงานของท่าน”
เมื่อลูกพบว่างานนั้นง่าย ลูกก็พูดว่า“ของฉัน” การจบสิ้นสำนึกของคำว่า “ของฉัน”
หมายถึง การเป็นเด็กและการเป็นนาย พ่อพูดว่า จงเป็นขอทาน แม้กระทั่งบ้านนั้น
ร่างกายนั้นก็ไม่ใช่ของลูก ลูกยืมมาใช้ชั่วคราว
บาบาได้ให้ลูกยืมใช้เพื่องานรับใช้ของพระเจ้าและทำให้ลูกเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
เป็นสมบัติที่มีค่าของพระเจ้าที่มอบให้กับลูกด้วยความไว้วางใจ
สำหรับทุกสิ่งที่ลูกมี ลูกพูดว่า “นี่คือของท่าน” และลูกได้มอบสิ่งนั้นให้กับพ่อ
ลูกได้ทำสัญญานี้ใช่ไหม? หรือลูกลืมไปแล้ว? ลูกได้ทำสัญญานี้หรือไม่?
หรือเป็นของท่านครึ่งหนึ่งและของฉันครึ่งหนึ่ง?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกใช้สิ่งที่ลูกได้พูดกับบาบาไปแล้วว่าเป็น"ของท่าน"ในขณะที่ยังคิดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นของลูกเอง?
ลูกจะได้สัมผัสกับความสุขจากสิ่งนั้นหรือไม่? ลูกจะประสบความสำเร็จหรือไม่?
ดังนั้นหากลูกคิดว่ามันเป็นสิ่งที่มอบให้กับลูกด้วยความไว้วางใจและนั่นเป็นของบาบา
ลูกจะมีความสุขและความซาบซึ้งของการอยู่อย่างเป็นลูกและเป็นนายโดยอัตโนมัติ
ลูกเข้าใจไหม? ดังนั้นจงทำให้บทเรียนนี้มั่นคงเสมอ
ลูกได้ทำให้บทเรียนนี้มั่นคงแล้วใช่ไหม?
หรือลูกจะลืมเมื่อลูกกลับไปยังสถานที่ของลูก? จงกลายเป็นผู้ที่ไม่ลืมสิ่งใดเลย
อัจชะ
ถึงลูกๆผู้ที่มีความซาบซึ้งทางจิตของการอยู่อย่างเป็นเด็กและเป็นนายเสมอ
ถึงลูกๆผู้ที่มีการตระหนักเสมอของการเป็นลูกนั่นคือผู้ที่มีการตระหนักถึงการเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวล
ถึงลูกๆผู้ที่ใช้สิ่งต่างๆในงานรับใช้ที่มอบให้กับพวกเขาด้วยความไว้วางใจในฐานะผู้ดูแลผลประโยชน์
ถึงลูกๆผู้ที่มีความจริงจังใหม่และความกระตือรือร้นใหม่ ด้วยความรัก ระลึกถึง
และนมัสเตจากบับดาดา
พร:
ขอให้ลูกเปลี่ยนแปลงตนเองและบรรลุเป้าหมายของความสมบูรณ์พร้อมของลูกด้วยสำนึกรู้ของคำว่า
"พิเศษ"
มีความตระหนักเสมอว่า: “ฉันเป็นดวงวิญญาณพิเศษที่เป็นเครื่องมือสำหรับงานพิเศษ”
และแสดงให้เห็นคุณสมบัติพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจดจำคำว่า "พิเศษ"
ให้การพูดของลูกมีความพิเศษ ให้การมองเห็นของลูกมีความพิเศษ
ให้สิ่งที่ลูกทำนั้นพิเศษ และให้ความคิดของลูกพิเศษ ด้วยการทำให้ทุกสิ่งที่พิเศษ
ลูกจะกลายเป็นผู้เปลี่ยนแปลงตนเองและผู้เปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างง่ายดาย
และเติมเต็มเป้าหมายในการบรรลุความสมบูรณ์พร้อมได้อย่างง่ายดาย
นั่นคือการไปถึงจุดหมายปลายทางของลูก
คติพจน์:
แทนที่จะกลัวอุปสรรค ให้พิจารณาว่าอุปสรรคเหล่านั้นเป็นข้อทดสอบและก็ผ่านมันไป