15.02.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน เทน้ำมันแห่งความรู้และโยคะลงไป ในตะเกียงของดวงวิญ
ญาณเพื่อที่แสงจะยังคงจุดประกาย
เข้าใจความแตกต่างระหว่างความรู้และโยคะอย่างชัดเจนมาก
คำถาม:
พ่อไม่สามารถทำงานของท่านด้วยการให้แรงบันดาลใจ ท่านต้องมาที่นี่เป็นการส่วนตัว
เพราะเหตุใด?
คำตอบ:
เพราะสติปัญญาของมนุษย์ตาโมประธานโดยสิ้นเชิง
สติปัญญาที่ตาโมประธานไม่สามารถรับแรงบันดาลใจ เป็นเพราะพ่อมาที่พวกเขาร้องเพลงว่า:
“ละบัลลังก์ของท่านในท้องฟ้า!”
เพลง:
ละบัลลังก์ของท่านในท้องฟ้า!
โอมชานติ
ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้แต่งเพลงนี้
อย่างไรก็ตามท้องฟ้าอยู่ที่นี่ในสถานที่อยู่อาศัยนี้ ไม่มีใครมาจากท้องฟ้า
พวกเขาพูดถึงบัลลังก์ในท้องฟ้า
เวลานี้ลูกอาศัยอยู่ภายใต้วัตถุธาตุของท้องฟ้าในขณะที่พ่ออาศัยอยู่ในธาตุแห่งแสงที่ยิ่งใหญ่
สิ่งนั้นเรียกว่าธาตุบราห์มและเป็นธาตุแห่งแสงที่ยิ่งใหญ่ที่ดวงวิญญาณอาศัยอยู่
ดังนั้นนั่นคือที่ที่พ่อจากมาอย่างแน่นอน ใครบางคนต้องมา พวกเขาร้องเพลง:
โปรดมาและจุดแสงของเรา
มีการจดจำกันกันมาเช่นกันว่ามีเด็กตาบอดที่เป็นลูกของคนตาบอดและเด็กที่รู้แจ้งซึ่งเป็นลูกของผู้ที่รู้แจ้ง
ชื่อ ‘ดริตรัชตรา’ และ ‘ยุธิษฐิระ’ นั่นคือสัญลักษณ์ของสิ่งนั้น มีลูกๆของราวัน
ราวันคือมายา ทุกคนมีสติปัญญาที่เป็นเช่นปีศาจในขณะที่ลูกมีสติปัญญาของพระเจ้า
เวลานี้พ่อเปิดล็อคของสติปัญญาของลูกในขณะที่ราวันปิดล็อค
เมื่อใครบางคนไม่เข้าใจสิ่งใดเขาก็กล่าวได้ว่ามีสติปัญญาเป็นเช่นหิน
พ่อต้องมาที่นี่เพื่อจุดตะเกียงของลูก ท่านไม่ได้ทำงานด้วยแรงบันดาลใจ
พละกำลังของดวงวิญญาณที่สะโตประธานได้ลดลงไปอย่างสมบูรณ์ในเวลานี้
พวกเขากลับมาตาโมประธาน พวกเขาได้กลับมามืดมัวสลัวลง เมื่อใครบางคนตาย
พวกเขาก็จะจุดตะเกียง ทำไมพวกเขาถึงจุดตะเกียง?
พวกเขาจุดตะเกียงเพราะพวกเขาเชื่อว่าเมื่อตะเกียงนั้นสว่างขึ้นมา
ดวงวิญญาณก็จะไม่อยู่ในความมืด
จะมีแสงสว่างที่นั่นได้อย่างไรหากพวกเขาจุดตะเกียงที่นี่? พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย
เวลานี้ลูกกลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่เข้าใจ พ่อพูดว่า:
เวลานี้พ่อกำลังทำให้ลูกกลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่สะอาด
พ่อเทน้ำมันของความรู้ลงไปในลูก
ลูกต้องเข้าใจด้วยเช่นกันว่าความรู้และโยคะคือสองสิ่งที่แยกจากกัน
โยคะไม่สามารถเรียกว่าความรู้
บางคนคิดว่าพระเจ้ามาและให้ความรู้นี้แก่พวกเขาโดยพูดว่า: จดจำพ่อ!
อย่างไรก็ตามนั่นไม่สามารถเรียกว่าความรู้ ที่นี่มีพ่อและลูกๆ ลูกๆ
รู้ว่าท่านคือบาบาของลูก ไม่มีเรื่องของความรู้ในสิ่งนั้น
ความรู้คือรายละเอียดในขณะที่นั่นเป็นเพียงการจดจำระลึกถึง พ่อพูดว่า: จดจำพ่อ,
เท่านั้นเอง! นี่เป็นเรื่องที่ธรรมดา; ไม่ควรเรียกว่าความรู้
หลังจากเด็กเกิดมาเขาจะจดจำพ่อของเขาได้อย่างแน่นอน ความรู้คือรายละเอียด พ่อพูดว่า:
จดจำพ่อ, แต่นั่นไม่ใช่ความรู้
ลูกแต่ละคนสามารถเข้าใจด้วยตนเองว่าลูกคือดวงวิญญาณและพ่อของลูกคือดวงวิญญาณสูงสุด,พระเจ้า
สิ่งนี้จะเรียกว่าความรู้หรือไม่? พวกเขาร้องเรียกหาพ่อ ความรู้หมายถึงความรู้
เช่นเดียวกับที่ยกตัวอย่าง ใครบางคนที่กำลังศึกษาปริญญาโทหรือปริญญาตรี
ก็มีหนังสือหลายเล่มที่มีความรู้ที่จะศึกษาเล่าเรียน พ่อพูดว่า: ลูกคือลูกของพ่อ
และพ่อคือพ่อของลูก จงมีโยคะกับพ่อผู้เดียวเท่านั้น นั่นคือจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น!
การจดจำระลึกถึงนี้ไม่ได้เรียกว่าความรู้
ถึงอย่างไรลูกดวงวิญญาณก็เป็นลูกของพ่ออยู่แล้ว ลูกดวงวิญญาณไม่มีวันถูกทำลาย
เมื่อใครบางคนตายและพวกเขาก็ปลุกเรียกดวงวิญญาณนั้น, ร่างกายของเขาจะต้องถูกทำลาย
ดวงวิญญาณจะกินอาหารที่ได้มีการให้แก่เขาได้อย่างไร?
เป็นนักบวชพราหมณ์ที่กินอาหารนั้น
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนั้นคือขนบธรรมเนียมของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพูดของเราที่หนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจะมาสิ้นสุดลง
สิ่งนั้นยังคงเกิดขึ้นต่อไป ดวงวิญญาณจากร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง
ความแตกต่างระหว่างความรู้และโยคะจะต้องชัดเจนในสติปัญญาของลูกๆ เมื่อพ่อพูดว่า:
จอจดจำพ่อ, นั่นไม่ใช่ความรู้, นั่นเป็นทิศทางของพ่อ นั่นเรียกว่าโยคะ
ความรู้หมายถึงการรู้ว่าวงจรโลกหมุนไปอย่างไร สิ่งนี้เรียกว่าความรู้
โยคะหมายถึงการจดจำระลึกถึง เป็นหน้าที่ของลูกๆที่จะต้องจดจำระลึกถึงพ่อ
เหล่านั้นคือพ่อทางร่างกายในขณะที่ผู้นี้คือพ่อเหนือโลก พ่อพูดว่า: จงจดจำพ่อ
ดังนั้นความรู้จึงแตกต่างจากการจดจำระลึกถึง
เด็กๆต้องได้รับการบอกให้จดจำพ่อของพวกเขาหรือไม่?
ทันทีที่เด็กเกิดมาเขาก็จดจำพ่อทางร่างของเขา
ที่นี่ลูกจะต้องได้รับการเตือนให้จดจำพ่อ เป็นการจดจำระลึกถึงที่ใช้ความเพียรพยายาม
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ งานนี้ใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก
เหตุนี้เองบาบาจึงพูดว่า: ลูกไม่สามารถอยู่ในโยคะได้อย่างสม่ำเสมอ ลูกๆ
เขียนถึงบาบาและพูดว่าพวกเขาลืมจดจำบาบา พวกเขาไม่เคยพูดว่าพวกเขาลืมความรู้
ความรู้นั้นง่ายมาก การจดจำระลึกถึงไม่สามารถเป็นความรู้
เป็นในการจดจำระลึกถึงนี้ที่พายุมากมายของมายาจะมา
แม้ว่าบางคนอาจจะฉลาดมากในความรู้นี้และให้ความรู้แก่ผู้อื่นอย่างดีมาก
บาบาก็ขอให้ลูกทั้งหมดเขียนชาร์ทของการจดจำระลึกถึงของลูก
ลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงเป็นเวลานานแค่ไหน?
เขียนชาร์ทของการจดจำระลึกถึงบาบาอย่างถูกต้องแม่นยำที่ลูกมีและแสดงให้แก่ท่านเห็น
การจดจำระลึกถึงคือสิ่งหลัก เป็นผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ที่ร้องเรียกหา:
โปรดมาและชำระพวกเราให้บริสุทธิ์! สิ่งหลักคือการกลับมาบริสุทธิ์
เป็นในสิ่งนี้ที่มายาสร้างอุปสรรค พระเจ้าชีวาพูด: ทุกคนอ่อนแอมากในการจดจำระลึกถึง
ลูกๆที่ดีมากที่สามารถพูดความรู้ได้ดีมากจะอ่อนแอมากในการจดจำระลึกถึงของพวกเขา
ด้วยการมีโยคะเท่านั้นที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
ด้วยการมีโยคะเท่านั้นที่อวัยวะประสาทสัมผัสของลูกจะกลับมาเยือกเย็นและสงบโดยสิ้นเชิง
และจะไม่มีการจดจำระลึกถึงใครนอกจากบาบาผู้เดียว
จะไม่มีการจดจำระลึกถึงร่างกายของใคร ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าทั้งโลกนี้จะถูกทำลาย
เวลานี้พวกเรากำลังจะกลับบ้านแล้วเราจะลงไปที่นั่นในอาณาจักรของเรา
ให้สิ่งนี้คงอยู่ในสติปัญญาของลูกอย่างสม่ำเสมอ
ลูกดวงวิญญาณต้องเก็บความรู้ที่ลูกได้รับไว้ภายในตัวลูก พ่อคือเจ้าแห่งโยคะ (โยเกชวาร์)
ท่านคือผู้เดียวที่สอนการจดจำระลึกถึง อันที่จริงแล้วพระเจ้าไม่สามารถเป็นโยเกชวาร์
(เจ้าแห่งโยคะ) อย่างที่พวกเขาพูด เป็นลูกผู้ที่เป็นโยเกชวาร์
พระเจ้าผู้เป็นพ่อพูดว่า: จงจดจำพ่อ พระเจ้าผู้เป็นพ่อที่สอนการจดจำระลึกถึงแก่ลูก
พ่อที่ไม่มีตัวตนพูดผ่านร่างนี้และลูกๆรับฟังท่านด้วยร่างกายของลูก
ลูกบางคนอ่อนแอมากในโยคะ ลูกไม่มีการจดจำระลึกถึงอย่างแน่นอน!
ดังนั้นจะมีประสบการณ์ของการลงโทษสำหรับบาปทั้งหมดที่ได้เคยทำมาหลายต่อหลายชาติเกิด
ผู้ที่มาที่นี่และทำบาปก็จะมีประสบการณ์ของการลงโทษถึง 100 เท่า
แม้ว่าพวกเขาจะพูดความรู้อย่างมากมาย
พวกเขาก็ไม่มีโยคะอย่างแท้จริงและเหตุนี้เองบาปของพวกเขาจึงไม่ถูกเผาและพวกเขายังคงอ่อนแอ
เหตุนี้เองลูกประคำที่แท้จริงจึงได้มีการสร้างขึ้นจาก 8 เท่านั้น
เพชรพลอยทั้งเก้าได้รับการจดจำ ลูกเคยได้ยินเพชรพลอย 108 ไหม?
ไม่มีใครทำเครื่องประดับของเพชรพลอย 108 มีลูกมากมายที่ไม่เข้าใจประเด็นเหล่านี้
การจดจำระลึกถึงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นความรู้ เป็นวงจรโลกที่เรียกว่าเป็นความรู้
ไม่มีความรู้ในคัมภีร์ คัมภีร์เหล่านั้นเป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
พ่อพูดเองว่า: ลูกไม่ได้บรรลุถึงพ่อด้วยสิ่งเหล่านั้น
พ่อมาเพื่อที่จะยกระดับผู้รู้หรือผู้เคร่งศาสนาเหล่านั้นฯลฯ
พวกเขาเชื่อว่าพวกเขาจะหลอมรวมเข้ากับธาตุบราห์มและพวกเขาก็ให้ตัวอย่างของฟองที่หลอมรวมเข้ากับน้ำ
ลูกดวงวิญญาณไม่ได้พูดเช่นนี้อีกแล้ว ลูกดวงวิญญาณเข้าใจว่าลูกคือลูกของพ่อ
พวกเขาก็ใช้คำพูด “จดจำฉันผู้เดียวเท่านั้น” ด้วยเช่นกัน
แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่านั่นหมายถึงอะไร
พวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นดวงวิญญาณแต่พวกเขาก็ไม่มีความรู้อย่างแน่นอนว่าดวงวิญญาณคืออะไรหรือดวงวิญญาณสูงสุดคืออะไร
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่มาและให้ความรู้นี้
เวลานี้ลูกเข้าใจว่านั่นคือบ้านของดวงวิญญาณ ต้นไม้เผ่าพันธุ์ทั้งหมดคงอยู่ที่นั่น
แต่ละดวงวิญญาณได้รับบทบาทของเขาเอง
ไม่มีใครรู้ว่าใครที่ให้ความสุขและใครที่ให้ความทุกข์
ความเลื่อมใสศรัทธาคือกลางคืนและความรู้คือกลางวัน ลูกล้มลุกคลุกคลานไปทั่วเป็นเวลา
63 ชาติเกิด แล้วพ่อก็มาและให้ความรู้แก่ลูก แต่สิ่งนั้นใช้เวลานานแค่ไหน?
ใช้เพียงหนึ่งวินาที “การหลุดพ้นในชีวิตได้มาในหนึ่งวินาที” ได้รับการจดจำมา
นั่นคือพ่อของลูกและท่านคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ด้วยการจดจำท่านลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ มีวงจรของยุคทองยุคเงินยุคทองแดงและยุคเหล็ก
แม้แต่พวกเขาก็รู้ชื่อเหล่านี้
แต่พวกเขาก็มีสติปัญญาที่เป็นหินที่ไม่มีใครในบรรดาพวกเขารู้ถึงช่วงระยะเวลา
พวกเขาแม้กระทั่งเข้าใจว่าในเวลานี้คือความมืดมิดที่สุดของยุคเหล็ก
อย่างไรก็ตามหากยุคเหล็กจะคงอยู่เป็นเวลานานเท่าที่พวกเขาพูดก็จะยิ่งมีความมืดมากขึ้น
เหตุนี้เองจึงได้มีการจดจำว่าทุกคนกำลังนอนหลับใหลอยู่ในการหลับใหลของกุมภกรรณเมื่อการทำลายล้างเกิดขึ้น
แม้ว่าถ้าหากพวกเขาจะได้ยินความรู้เพียงเล็กน้อยพวกเขาก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของปวงประชา
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างลักษมีและนารายณ์และปวงประชา!
มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สอน แต่ละคนก็มีโชคของเขาเอง บางคนก็ได้รับทุนการศึกษา
บางคนก็สอบตกล้มเหลว เหตุใดรามถึงถูกวาดภาพที่มีสัญลักษณ์ของคันธนูและลูกศร?
เพราะเขาสอบตก นี่คือสถานที่ศึกษากีตะ บางคนก็ไม่มีค่าควรแก่การได้รับคะแนนใดๆเลย
ฉันคือดวงวิญญาณนี้ ฉันเป็นจุด พ่อเป็นจุดด้วยเช่นกัน
นี่คือวิธีที่ลูกควรจะจดจำท่าน ผู้ที่ไม่เข้าใจประเด็นนี้จะได้รับสถานภาพใด?
เมื่อลูกไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึงก็มีการสูญเสียอย่างมาก
พลังของการจดจำระลึกถึงแสดงความมหัศจรรย์
การจดจำระลึกถึงทำให้อวัยวะประสาทสัมผัสของลูกเยือกเย็นและสงบอย่างแท้จริง
อวัยวะเหล่านั้นไม่กลับมาสงบด้วยพลังของความรู้ มันกลับมาสงบด้วยพลังของโยคะ
ผู้คนของบารัตร้องเรียกหา: “ได้โปรดมาและให้ความรู้ของกีตะและแก่พวกเรา” แต่ใครจะมา?
ดวงวิญญาณของกกฤษณะอยู่ที่นี่
ไม่มีใครนั่งอยู่ที่นั่นบนบัลลังก์ที่ลูกจะต้องร้องเรียกหาเขา
บางคนพูดว่าพวกเขาจดจำดวงวิญญาณของพระคริสต์ แต่ดวงวิญญาณนั้นอยู่ที่นี่
พวกเขาไม่รู้ว่าดวงวิญญาณของพระคริสต์อยู่ที่นี่และยังไม่สามารถกลับไปได้
ดวงวิญญาณของลักษมีและนารายณ์เป็นอันดับหนึ่ง พวกเขาคือผู้ที่ใช้ 84 ชาติเกิดเต็ม
พวกเขายังไม่สามารถกลับไปได้และคนอื่นจะสามารถกลับไปได้อย่างไร?
ทั้งหมดนี้สามารถคำนวณได้ ไม่ว่ามนุษย์จะพูดอะไรก็เป็นสิ่งผิดทั้งหมด
สำหรับครึ่งแรกของวงจรมีดินแดนแห่งสัจจะ และอีกครึ่งหนึ่งมีดินแดนแห่งความหลอกลวง
เวลานี้ลูกต้องอธิบายแก่ทุกคนว่า:
ทุกคนเป็นชาวนรกและชาวบารัตจะกลายเป็นชาวสวรรค์อีกครั้งหนึ่ง พวกเขาศึกษาคัมภีร์,
พระเวทย์, อุปนิษัทฯลฯ มากมาย พวกเขาสามารถได้รับการหลุดพ้นด้วยการทำเช่นนั้นหรือ?
พวกเขาต้องลงมาเรื่อยๆ แน่นอนว่าทุกสิ่งต้องผ่านสภาพสะโต,ราโจและตาโม
ไม่มีใครมีความรู้เกี่ยวกับสถานที่ที่เรียกว่าโลกใหม่
พ่อนั่งที่นี่เป็นการส่วนตัวและอธิบายว่าเมื่อใดและใครเป็นผู้ก่อตั้งศาสนาเทพ
ผู้คนของบารัตไม่รู้สิ่งใดเลย พ่ออธิบายแก่ลูกๆว่าไม่ว่าลูกจะมีความรู้ดีแค่ไหน
บางคนก็สอบตกในโยคะ หากลูกไม่มีโยคะ
บาปของลูกก็ไม่สามารถได้รับการปลดเปลื้องและลูกก็ไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
ผู้ที่มีความซาบซึ้งในโยคะคือผู้ที่ประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
อวัยวะประสาทสัมผัสของพวกเขากลับมาเยือกเย็นอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาลืมทุกสิ่งรวมทั้งจิตสำนึกทั้งหมดของร่างกายของเขาเอง
ฉันปราศจากร่างและเวลานี้ฉันต้องกลับบ้าน
ในขณะที่ลูกนั่งในขณะที่ลูกเคลื่อนไหวจงมีสำนึกว่าเวลานี้ลูกต้องละทิ้งร่างกายของลูก
เราได้เล่นบทบาทของเราแล้ว เวลานี้เราต้องกลับบ้าน ลูกได้รับความรู้ที่พ่อมี
ท่านไม่ต้องจดจำใคร เป็นลูกๆที่ต้องจดจำท่าน พ่อเรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้
ท่านไม่ได้เรียกว่ามหาสมุทรแห่งโยคะ ท่านแนะนำตนเองและให้ความรู้ของวงจรแก่ลูก
การจดจำระลึกถึงไม่ได้เรียกว่าความรู้ ลูกๆจดจำพ่อของพวกเขาโดยอัตโนมัติ ลูกๆ
ต้องมีการจดจำระลึกถึง มิฉะนั้นลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกได้อย่างไร?
ในเมื่อท่านคือพ่อของลูก แน่นอนว่าลูกต้องประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากท่าน
พ่ออธิบายความรู้ว่าลูกได้ใช้ 84 ชาติเกิดอย่างไร
และลูกได้เปลี่ยนจากตาโมประธานเป็นสะโตประธานและสะโตประธานเป็นตาโมประธานอย่างไร
เวลานี้ลูกต้องกลับมาสะโตประธานด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อ
ลูกๆทางจิตมาที่นี่มาหาพ่อทางจิต พ่อต้องการการค้ำจุนของร่างกาย พ่อพูดว่า:
พ่อเข้ามาในร่างที่เก่าแก่ของผู้นี้เมื่อเขาอยู่ในสภาพที่ปลดเกษียณ
พ่อมาในเวลานี้เมื่อมีคุณประโยชน์สำหรับทั้งโลก ผู้นี้คือ “พาหนะที่โชคดี”
งานรับใช้มากมายเกิดขึ้นผ่านเขา เพื่อที่จะทิ้งจิตสำนึกที่เป็นร่างกายของลูก
ลูกต้องมีการจดจำระลึกถึง ไม่มีเรื่องของความรู้ในสิ่งนี้
ลูกต้องสอนการจดจำระลึกถึงให้มากกว่านี้ ความรู้เป็นเรื่องทีง่ายดาย
แม้แต่เด็กเล็กๆ ก็สามารถให้ได้ เป็นการจดจำระลึกถึงที่ต้องใช้ความพยายาม
ให้มีการจดจำระลึกถึงผู้เดียว สิ่งนี้เรียกว่าการจดจำระลึกถึงที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน
การจดจำร่างกายของใครบางคนนั้นเป็นการจดจำระลึกถึงที่มีสิ่งเจือปน
โดยการมีการจดจำระลึกถึงนี้ ลูกจะลืมทุกคนและกลับปราศจากร่าง อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ทำให้อวัยวะประสาทสัมผัสของลูกเยือกเย็นและสงบด้วยพลังแห่งการจดจำระลึกถึง
ในการที่จะสอบผ่านอย่างสมบูรณ์ จงจดจำพ่ออย่างถูกต้องแม่นยำและกลับมาบริสุทธิ์
2.
ให้สิ่งนี้คงอยู่ในสติปัญญาของลูกในขณะที่ลูกนั่งและในขณะที่ลูกเคลื่อนไหวที่เวลานี้ลูกต้องละทิ้งร่างเก่าของลูกและกลับบ้าน
เช่นที่พ่อมีความรู้ทั้งหมด ดังนั้นลูกต้องกลายเป็นเจ้าสมุทรแห่งความรู้
พร:
ขอให้ลูกเป็นเจ้าแห่งปารานาท (เทพเจ้าแห่งความสูงส่ง)
ซึ่งทำให้ดวงวิญญาณที่เหมือนเหล็กกลายเป็นผู้ที่มีชีวิตที่สูงส่ง
ลูกทุกคนเป็นผู้เป็นเจ้าแห่งปารานาท ลูกของพ่อแห่งปารานาถ
ดังนั้นไม่ว่าดวงวิญญาณจะเป็นเช่นเหล็กมากแค่ไหน
ด้วยความเป็นมิตรของลูกแม้แต่เหล็กก็กลับมาสูงส่ง อย่าคิดว่า:
ผู้นี้เป็นเหมือนเหล็ก คุณสมบัติพิเศษของศิลานักปราชญ์คือเปลี่ยนเหล็กให้เป็นทองคำ
รักษาเป้าหมายและคุณสมบัตินี้ไว้ในสำนึกรู้ของลูกอย่างสม่ำเสมอในขณะที่ลูกสร้างทุกความคิดและทำทุกการกระทำ
และแล้วเมื่อนั้นลูกจะได้สัมผัสกับลำแสงที่เปล่งรัศมีออกมาจากตัวลูกดวงวิญญาณ
ให้พลังทั้งหมดแก่ดวงวิญญาณเพื่อกลายเป็นทองคำ
คติพจน์:
ทำทุกงานด้วยความกล้าหาญและลูกจะได้รับความเคารพของทุกคน