23.02.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
27.11.85 Om Shanti Madhuban
วิธีที่จะลืมโลกเก่าและซันสการ์เก่า
บาบากำลังมองดูศรัทธาในรูปของชีวิตจริงในทางปฏิบัติของลูกๆที่มีศรัทธาในสติปัญญา
ลูกทุกคนได้ยินเกี่ยวกับคุณสมบัติพิเศษของลูกๆที่มีศรัทธาในสติปัญญา
เพชรพลอยที่มีชัยชนะเช่นนั้น
ผู้ที่เต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษและมีศรัทธาในสติปัญญาจะเป็นตัวอย่างของศรัทธาในชีวิตบราห์มินนี้อยู่เสมอและในชีวิตของยุคบรรจบพบกันที่เต็มไปด้วยสิริมงคลที่สุด
พวกเขาจะมีความซาบซึ้งนี้ ความซาบซึ้งทางจิตวิญญาณคือกระจกแห่งศรัทธา
ศรัทธาในรูปของการตระหนักรู้ไม่ใช่เพียงแค่ในสติปัญญา
แต่จะเป็นประสบการณ์ในทุกการกระทำในรูปของความซาบซึ้งทางจิตวิญญาณ
ลูกจะได้สัมผัสกับสิ่งนั้นในทางปฏิบัติและคนอื่นก็จะได้สัมผัสกับสิ่งนั้นเพราะนี่คือชีวิตของญาณีและโยคี
ไม่ใช่เพียงการรับฟังและการพูด แต่สำหรับการสร้างชีวิตของลูก การตระหนักรู้ ความคิด
คำพูด การกระทำ และความสัมพันธ์ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในชีวิต
สำหรับการมีศรัทธาในสติปัญญาหมายถึงการมีชีวิตที่มีความซาบซึ้ง
ทุกความคิดของดวงวิญญาณที่มีความซาบซึ้งทางจิตเช่นนั้นจะเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
ความซาบซึ้งของศรัทธาจะได้รับประสบการณ์ในสามสิ่งนี้: ความคิด คำพูด
และการกระทำของลูก ความซาบซึ้งของลูกเป็นเช่นไร
ประกายแห่งความสุขก็จะถูกเปิดเผยบนใบหน้าและในพฤติกรรมของลูก
ข้อพิสูจน์ของศรัทธาคือความซาบซึ้ง และข้อพิสูจน์ของความซาบซึ้งคือความสุข
มีความซาบซึ้งหลากหลายประเภทมากมาย
อย่างไรก็ตามในสาระสำคัญความซาบซึ้งประเภทแรกคือความซาบซึ้งในรูปของจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณที่ปราศจากร่าง
ลูกรู้รายละเอียดของสิ่งนี้หรือไม่? ทุกคนเป็นดวงวิญญาณ
แต่การจะมีประสบการณ์ของความซาบซึ้งทางจิตนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อลูกตระหนักรู้ว่าลูกเป็นดวงวิญญาณประเภทไหน
เข้าไปสู่รายละเอียดของสิ่งนี้ในหมู่พวกลูกเองหรือไตร่ตรองสิ่งนี้ด้วยตัวลูกเอง
รูปที่ 2 ของความซาบซึ้งคือชีวิตทางจิตในยุคบรรจบพบกัน
ในชีวิตนี้เช่นกันให้คิดเกี่ยวกับรายละเอียดว่าลูกมีชีวิตประเภทใด
ดังนั้นประการแรกคือความซาบซึ้งในรูปของสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ
ประการที่สองคือความซาบซึ้งในชีวิตทางจิตของลูก
ประการที่สามคือความซาบซึ้งในสภาพที่เป็นเทวดานางฟ้าของลูก
นอกจากนี้ให้เข้าไปสู่รายละเอียดว่าลูกจะเรียกใครว่าเป็นเทวดานางฟ้า
ประการที่สี่คือความซาบซึ้งของอนาคต จากความซาบซึ้งทางจิตทั้งสี่ประการนี้
แม้ว่าลูกจะมีความซาบซึ้งแม้เพียงประเภทเดียวในชีวิตของลูก
ลูกจะเฝ้าแต่ร่ายรำในความสุขโดยอัตโนมัติ หากลูกมีศรัทธาแต่ไม่มีความสุข
อะไรคือเหตุของสิ่งนั้น? เป็นเพราะลูกไม่มีความซาบซึ้งนั้น
ความซาบซึ้งจะทำให้ลูกลืมโลกเก่าและซันสการ์เก่าได้อย่างง่ายดาย
ในชีวิตที่ต้องใช้ความเพียรพยายามนี้มีสองสิ่งที่กลายเป็นอุปสรรคโดยเฉพาะ
ไม่โลกเก่าก็ซันสการ์เก่า ทั้งความสัมพันธ์ทางร่างกาย
ทรัพย์สมบัติของร่างกายถูกรวมอยู่ในโลก
พร้อมกันนั้นยิ่งกว่าโลกก็คือซันสการ์เก่าที่จะกลายเป็นปัญหามากขึ้น
โลกสามารถถูกลืมได้ แต่ซันสการ์ไม่สามารถถูกลืมได้
ดังนั้นวิธีที่ลูกต้องใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงซันสการ์คือการมีหนึ่งในสี่ประเภทของความซาบซึ้งในทางปฏิบัติไม่ใช่เพียงแค่ในรูปของความคิด
โดยการมีความซาบซึ้งนี้ในทางปฏิบัติ ซันสการ์เหล่านั้นจะไม่กลายเป็นอุปสรรค
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมซันสการ์ของลูกยังไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะลูกได้ซึมซับความซาบซึ้งนี้ในรูปของความคิด
นั่นคือในสติปัญญาของลูกในรูปของความรู้ และเมื่อซันสการ์เก่าใดปรากฏออกมา
ลูกก็ใช้ภาษา: “ฉันเข้าใจทุกอย่างเมื่อซันสการ์เก่าปรากฏขึ้นมา”
ลูกเข้าใจว่าลูกต้องเปลี่ยน แต่มันไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับระดับความเข้าใจ
มันจะต้องอยู่ในการกระทำ นั่นคือจะต้องอยู่ในชีวิตในทางปฏิบัติของลูก
การเปลี่ยนแปลงจะต้องมีประสบการณ์ในชีวิต
สิ่งนี้เรียกว่าการทำให้เป็นจริงในทางปฏิบัติ
ในปัจจุบันเป็นเพียงแค่ในสติปัญญาในรูปของประเด็นต่างๆ
เพียงแค่ในแง่ของการคิดและพูดเกี่ยวกับสิ่งนั้น
อย่างไรก็ตามเมื่อการเปลี่ยนแปลงสามารถมองเห็นได้ในทุกการกระทำและในความสัมพันธ์ของลูก
สิ่งนั้นก็จะถูกเรียกว่ามีความซาบซึ้งทางจิตในทางปฏิบัติ
เวลานี้ให้นำความซาบซึ้งทุกประเภทเข้ามาในชีวิตของลูก
ให้ใครก็ตามที่มองหน้าผากของลูกได้สัมผัสกับทัศนคติของความซาบซึ้งทางจิตจากหน้าผากของลูก
ไม่ว่าใครก็ตามจะพูดหรือไม่ก็เป็นทัศนคติที่จะกระจายออกไปในบรรยากาศและในกระแสของความคิด
ให้ทัศนคติของลูกทำให้ผู้อื่นรู้สึกถึงกระแสของความสุขในบรรยากาศของความสุข
สิ่งนี้เรียกว่าการมีความมั่นคงในความซาบซึ้ง
ในทำนองเดียวกันให้มีประสบการณ์ของความซาบซึ้งทางจิตในรูปที่มีตัวตนผ่านดริชตี
ผ่านรอยยิ้มบนริมฝีปาก และผ่านคำพูดของลูก
แล้วเมื่อนั้นลูกถึงจะถูกเรียกว่าเพชรพลอยแห่งชัยชนะที่มีศรัทธาในสติปัญญาและผู้ที่อยู่ในความซาบซึ้ง
ลูกจะต้องไม่อยู่อย่างแฝงตัวในสิ่งนี้
บางคนมีความฉลาดในสิ่งนี้และบอกว่าพวกเขานั้นอยู่อย่างแฝงตัว มีคำกล่าวว่า
ไม่มีใครสามารถซ่อนดวงอาทิตย์ได้ ไม่ว่าเมฆนั้นจะหนาแค่ไหน
ดวงอาทิตย์ก็ยังคงให้แสงสว่างอยู่ ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่หรือเมฆที่เคลื่อนที่?
เมฆมาแล้วก็ไป แต่ดวงอาทิตย์ยังคงมั่นคงอยู่รูปแห่งแสง
ในทำนองเดียวกันผู้ที่มีความซาบซึ้งทางจิตนี้ไม่สามารถซ่อนประกายทางจิตของพวกเขาได้
ประกายของความซาบซึ้งทางจิตของพวกเขาจะสัมผัสได้ในรูปที่มองเห็นได้อย่างแน่นอน
กระแสของพวกเขาจะดึงดูดผู้อื่นโดยอัตโนมัติ
กระแสของผู้ที่อยู่ในความซาบซึ้งทางจิตจะทำงานเหมือนกับเป็นร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครองสำหรับพวกเขาเองและผู้อื่น
ดังนั้นเวลานี้ลูกต้องทำอะไร? นำสิ่งนี้ไปปฏิบัติ ในแง่ของความรู้
ลูกได้กลับมาเต็มไปด้วยความรู้
อย่างไรก็ตามด้วยการนำความรู้ไปปฏิบัติในชีวิตจิรงของลูก
ลูกจะสัมผัสว่าตัวลูกเองนั้นประสบความสำเร็จ มีความปิติสุข
เช่นเดียวกับเต็มไปด้วยความรู้
บาบาจะบอกลูกในเวลาอื่นว่ารูปของผู้ที่ประสบความสำเร็จและมีความปิติสุขนั้นเป็นเช่นไร
วันนี้ บาบากำลังบอกลูกเกี่ยวกับความซาบซึ้งทางจิต
ให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ของความซาบซึ้งนี้
ลูกสามารถใช้ความซาบซึ้งหนึ่งในสี่ประเภทเหล่านี้ในวิธีที่แตกต่างกัน
ยิ่งลูกใช้ความซาบซึ้งนี้ในชีวิตจริงของลูกมากแค่ไหน
ลูกก็จะยิ่งอยู่อย่างเป็นอิสระจากความวิตกกังวลและกลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้ความกังวลมากเท่านั้น
ทุกคนจะเห็นลูกในรูปของจักรพรรดิที่ไร้ความกังวล
ดังนั้นเวลานี้จงเข้าไปสู่รายละเอียดของสิ่งนี้และนำไปปฏิบัติ ที่ใดมีความสุข
มายาก็ไม่สามารถมาเล่นกลอุบายของเธอได้
มายาไม่สามารถเข้ามาในอาณาจักรของผู้ที่เป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลได้
เธอมาแล้วลูกก็ไล่เธอไป แล้วเธอก็มาอีกแล้วลูกก็ไล่เธอไปอีกครั้ง
บางครั้งมายามาในรูปของร่างกาย บางครั้งในรูปของความสัมพันธ์ทางร่างกาย
สิ่งนี้เรียกว่า มายาบางครั้งก็มาเป็นช้าง บางครั้งก็เป็นแมว และบางครั้งเป็นหนู
บางครั้งลูกไล่หนูออกไป และบางครั้งลูกก็ไล่แมวออกไป
เวลาของลูกก็ถูกใช้ไปกับการขับไล่เธอออกไป ดังนั้นจงอยู่ในความซาบซึ้งทางจิตนี้เสมอ
ก่อนอื่นจงเปิดเผยตนเองและจากนั้นลูกจะเปิดเผยพ่อ เพราะพ่อนั้นจะถูกเปิดเผยผ่านลูก
อัจชะ
ถึงผู้ที่เปิดเผยผู้ทรงพลังอำนาจผ่านพวกเขาเอง
ถึงผู้ที่เปิดเผยคุณสมบัติพิเศษของความซาบซึ้งทางจิตในกระจกของชีวิตในทางปฏิบัติของพวกเขา
ถึงผู้ที่กลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้กังวลอยู่เสมอและอำลามายา
ถึงผู้ที่นำความรู้มาใช้ในทางปฏิบัติเสมอ
ถึงลูกเช่นนั้นที่มีศรัทธาในสติปัญญาและรักษาความซาบซึ้งของพวกเขา
ถึงผู้ที่เฝ้าแต่แกว่งไกวอยู่ในชิงช้าแห่งความสุข
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งและดวงวิญญาณพิเศษเช่นนั้น ด้วยความรัก การจดจำระลึกถึง
และนมัสเต จากบัพดาดา
บัพดาดาพบครูที่ทำงานรับใช้:
ผู้รับใช้หมายถึงผู้ที่ทำให้ผู้อื่นมีพลังด้วยพลังของพวกเขาเอง
นี่คือคุณสมบัติพิเศษที่แท้จริงของผู้รับใช้
การเป็นเครื่องมือที่เติมพลังให้กับผู้ที่ไม่มีพลังเป็นงานรับใช้ที่แท้จริง
การเล่นบทบาทในการทำงานรับใช้เช่นนั้นคือการเล่นบทบาทของฮีโร่-ผู้แสดงเอก
ดังนั้นผู้แสดงเอก, ลูกมีความซาบซึ้งมากแค่ไหน?
ลูกสามารถนำลำดับของลูกไปอยู่ข้างหน้าได้มากเท่าที่ลูกต้องการโดยการเล่นบทบาทของงานรับใช้
เพราะการทำงานรับใช้เป็นวิธีที่จะก้าวไปข้างหน้า
ด้วยการไม่ว่างเว้นอยู่กับงานรับใช้
ลูกก็จะก้าวออกมาจากสิ่งอื่นทั้งหมดโดยอัตโนมัติ
ศูนย์ของงานรับใช้แต่ละแห่งเป็นเวทีที่แต่ละดวงวิญญาณเล่นบทบาทของพวกเขา
มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมีพลังนั้นเสมอ
หากลูกใช้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่มีพลัง ลูกจะไม่ได้รับผลในงานรับใช้ที่ลูกต้องการ
นักรบในสมัยก่อนเคยออฟเฟอร์อาวุธของพวกเขาแก่เทพเพื่อที่จะทำให้อาวุธเหล่านั้นเต็มไปพลังแล้วจึงใช้อาวุธเหล่านั้น
ดังนั้นเมื่อลูกทุกคนจะใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับงานใดก็ตาม
ก่อนที่จะใช้จงถามตัวเองว่า:
ลูกนำสิ่งนั้นไปใช้อย่างถูกต้องตามวิธีที่ถูกต้องหรือไม่?
ผู้คนจะถูกดึงดูดในเวลาสั้น ๆ จากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ลูกใช้ในเวลานี้
พวกเขาจะไม่ประทับใจกับสิ่งเหล่านั้นตลอดเวลา
เพราะดวงวิญญาณที่มีพลังที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงผ่านพลังต่างๆก็ล้วนแต่ตามลำดับกันไป
ลูกทั้งหมดทำงานรับใช้ ลูกทั้งหมดถูกเรียกว่าครู ไม่ว่าลูกจะเป็นผู้รับใช้หรือครู
ความแตกต่างในงานรับใช้คืออะไร? ลูกทำโปรแกรมเดียวกัน ลูกทำแผนคล้ายกัน
ประเพณีและระบบของลูกก็คล้ายกันด้วย แล้วทำไมความสำเร็จของลูกถึงแตกต่างกัน?
เพราะขาดพลัง ดังนั้นเติมสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยพลัง ตัวอย่างเช่น
ถ้าดาบไม่มีพลังของความคม ดาบนั้นก็จะไม่ทำงานของดาบ
มันเป็นดาบแต่ไม่มีพลังของความคม ยิ่งลูกทำให้ตัวเองเต็มไปด้วยพลังมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งได้รับความสำเร็จในงานรับใช้อยู่เรื่อยๆมากเท่านั้น
ดังนั้นจงกลายเป็นผู้รับใช้ที่มีพลัง
และบรรลุความสำเร็จด้วยการใช้วิธีที่ถูกต้องเสมอ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่
อย่างไรก็ตามลูกต้องใส่ใจเป็นพิเศษกับสิ่งนี้เพื่อให้ดวงวิญญาณที่มีพลังจะได้เติบโตขึ้นเป็นจำนวนมาก
ให้มีคุณภาพ จะยังคงมีคนจำนวนมากมายที่มาอีก จงใส่ใจกับคุณภาพ
ลูกจะได้รับอันดับที่ขึ้นอยู่กับคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ
หนึ่งดวงวิญญาณที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับคนจำนวน 100 คน
พูดกับพวกกุมาร:
กุมารจะสร้างความมหัศจรรย์อะไร? ลูกไม่ใช่ผู้ที่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนใช่ไหม?
เพื่อที่จะทำสิ่งที่มหัศจรรย์ จงกลับมามีพลังและทำให้ผู้อื่นมีพลัง
เพื่อที่จะกลับมามีพลัง
ให้เก็บสมญาของการเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจไว้ในสำนึกรู้ของลูกเสมอ ที่ใดมีพลัง
ลูกจะได้เป็นอิสระจากมายา ตามความใส่ใจที่ลูกมีให้กับตัวเอง
ลูกสามารถให้ความใส่ใจต่องานรับใช้ได้มากขนาดนั้น หากไม่มีความใส่ใจกับตัวเอง
ก็จะไม่มีพลังใดๆในงานรับใช้
ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้ตนเองเป็นตัวแห่งความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ
จงสร้างวิธีสำหรับการฝึกฝนที่มีพลัง
จงทำโปรแกรมพิเศษบางอย่างซึ่งความก้าวหน้าจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา
เมื่อมีโปรแกรมแรกสำหรับความก้าวหน้าของตัวเอง
และแล้วงานรับใช้ก็จะประสบความสำเสร็จได้อย่างง่ายดาย ชีวิตกุมารเป็นชีวิตที่มีโชค
เพราะลูกปลอดภัยจากบ่วงพันธะมากมาย มิฉะนั้นในชีวิตที่ครองเรือนจะมีบ่วงพันธะมากมาย
ดังนั้นลูกดวงวิญญาณที่มีโชค บางครั้งลูกไม่ได้ลืมโชคของตัวเองใช่ไหม?
จงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่งเสมอ;
ลูกคือผู้ที่วาดเส้นโชคสำหรับผู้อื่น
ผู้ที่เป็นอิสระจากบ่วงพันธะจะยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องด้วยสภาพที่โบยบินโดยอัตโนมัติ
ด้วยเหตุนี้บัพดาดาจึงรักชีวิตกุมารและกุมารีเสมอ
ชีวิตของการครองเรือนเป็นชีวิตที่มีบ่วงพันธะ
ในขณะที่ชีวิตกุมารเป็นชีวิตที่เป็นอิสระจากบ่วงพันธะ
ดังนั้นจงกลายเป็นดวงวิญญาณที่เป็นอิสระจากบ่วงพันธะและทำให้ผู้อื่นเป็นอิสระจากบ่วงพันธะด้วยเช่นกัน
กุมารหมายถึงผู้ที่รักษาสมดุลระหว่างการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอ
หากลูกมีสมดุลนี้ ลูกจะอยู่ในสภาพที่โบยบินอย่างสม่ำเสมอ
ผู้ที่รู้วิธีการรักษาสมดุลจะไม่ขึ้นลงในสถานการณ์ใดๆ
พูดกับพวกกึ่งกุมาร:
1) ลูกทุกคนคือผู้ที่ทำงานรับใช้โดยผ่านตัวอย่างในทางปฏิบัติของชีวิตลูกใช่ไหม?
ข้อพิสูจน์ในทางปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงชีวิตของลูกทุกคน
ผู้คนได้เห็นหลายคนที่พูดและฟัง เวลานี้พวกเขาทั้งหมดต้องการเห็น
พวกเขาไม่ต้องการได้ยิน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ลูกจะทำการกระทำใดๆ จงมีเป้าหมายว่า
การกระทำอะไรก็ตามที่ลูกทำควรเปลี่ยนแปลงคนอื่นๆ ที่เมื่อพวกเขาเห็นการกระทำของลูก
พวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน
ด้วยสิ่งนี้ตัวลูกเองก็จะอยู่อย่างพอใจและมีความสุข
และลูกจะให้คุณประโยชน์กับผู้อื่นด้วย
ดังนั้นจงทำทุกการกระทำเพื่อประโยชน์ของงานรับใช้
หากลูกตระหนักว่าทุกการกระทำของลูกเป็นไปเพื่องานรับใช้
ลูกก็จะมีการกระทำที่สูงส่งโดยอัตโนมัติ โปรดจำไว้ว่า:การเปลี่ยนแปลงผู้อื่นจะเกิดขึ้นผ่านการเปลี่ยนแปลงตนเอง
งานรับใช้นี้เป็นสิ่งที่ง่ายดายและสูงส่งเช่นกัน
การให้คำบรรยายด้วยคำพูดและด้วยชีวิตของลูกเรียกว่าเป็นการเป็นผู้รับใช้
ลูกเป็นผู้รับใช้ ผู้ที่เปลี่ยนดริชตีของผู้อื่นด้วยการให้ดริชตีแก่พวกเขา
ยิ่งดริชตีของลูกมีพลังมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งสามารถเปลี่ยนแปลงผู้อื่นได้มากเท่านั้น
จงเป็นเครื่องมือที่รับใช้ผู้อื่นด้วยดริชตีและการกระทำที่สูงส่งของลูก
2) ลูกมีในสำนึกรู้ของลูกอยู่เสมอหรือไม่ว่าลูกเคยเป็นอะไรและลูกจะกลายเป็นอะไร?
ด้วยการมีสำนึกรู้นี้ ซันสการ์เก่าของลูกจะไม่ปรากฏออกมา
พร้อมกันนี้จงจำไว้เช่นกันว่าลูกจะกลายไปเป็นอะไรในอนาคต
และเนื่องจากทั้งปัจจุบันและอนาคตของลูกนั้นสูงส่ง ลูกจะมีความสุข
และโดยการอยู่อย่างมีความสุขลูกจะก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอ
โลกในปัจจุบันและอนาคตนั้นสูงส่ง
ดังนั้นเบื้องหน้าโลกที่สูงส่งลูกจะไม่จดจำโลกที่ทำให้เกิดความทุกข์
เมื่อมองเห็นครอบครัวที่ไม่มีขีดจำกัดของลูกนี้
ลูกจะมีความสุขอยู่เรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอ
ลูกไม่เคยมีความคิดแม้กระทั่งในความฝันของลูกว่าลูกจะมีครอบครัวที่มีโชคเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามเวลานี้ลูกกำลังเห็นและประสบกับสิ่งนี้ในรูปปฏิบัติ
นี่เป็นครอบครัวที่เป็นหนึ่งเดียวกันในทิศทางเดียวกัน
และเป็นครอบครัวที่ใหญ่เช่นกัน
เป็นเพียงในเวลานี้เท่านั้นของทั้งวงจรที่ลูกจะได้รับครอบครัวเช่นนั้น
แม้กระทั่งในยุคทองจะเป็นครอบครัวเล็กๆ
ดังนั้นลูกมีความสุขเมื่อได้เห็นบัพดาดาและครอบครัวใช่ไหม? ลูกรักครอบครัวนี้ไหม?
เพราะที่นี่ไม่มีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัว
ผู้ที่เป็นของครอบครัวเช่นนั้นจะอยู่ใกล้ชิดกันและกันแม้กระทั่งในอนาคต
จงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอในขณะที่เห็นคุณสมบัติพิเศษของครอบครัวของพระเจ้านี้
พวกกุมารี:
ลูกกุมารีทั้งหมดกำลังก้าวไปข้างหน้าในขณะที่พิจารณาตนเองว่าเป็นผู้ให้คุณประโยชน์โลกหรือไม่?
สำนึกรู้นี้จะทำให้ลูกมีพลังเสมอ
* ชีวิตกุมารีเป็นชีวิตที่มีพลัง
* กุมารี คือผู้ที่มีพลังและทำให้ผู้อื่นมีพลัง
* ลูกผู้ที่กล่าวคำอำลาความกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์ตลอดไป
* จงเฝ้าแต่ก้าวหน้าต่อไปในขณะที่รักษาโชคของชีวิตกุมารีไว้ในสำนึกรู้ของลูก
* เป็นโชคที่ยิ่งใหญ่เช่นกันที่ลูกได้เป็นกุมารีในยุคบรรจบพบกัน
* กุมารี คือผู้ที่สร้างชีวิตของผู้อื่นผ่านชีวิตของเธอเอง
* กุมารี คือผู้ที่อยู่กับพ่อ
* กุมารี คือผู้ที่สัมผัสว่าตนเองมีพลังและทำให้ผู้อื่นมีพลังด้วยเช่นกัน
* กุมารี คือผู้ที่เป็นของพ่อที่สูงส่งผู้เดียวอยู่เสมอและไม่มีใครอื่น
* กุมารี คือผู้ที่ก้าวไปข้างหน้าในทุกย่างก้าวด้วยความซาบซึ้งเช่นนั้น
ดังนั้นลูกเป็นกุมารีเช่นนั้นใช่ไหม? อัจชะ
คำถาม:
ด้วยคุณสมบัติพิเศษใดและคุณธรรมใดที่ลูกสามารถเป็นที่รักของทุกคน?
คำตอบ:
คุณธรรมของการละวางและมีความรัก
และคุณสมบัติพิเศษของการอยู่อย่างเป็นอิสระจากความคิด ทำให้ลูกเป็นที่รักของทุกคน
ด้วยการมีความรักลูกจะได้รับความรักของทุกคนจากหัวใจของพวกเขาโดยอัตโนมัติ
ลูกสามารถประสบความสำเร็จด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้
พร:
ขอให้ลูกเป็นตัวของการแก้ไขปัญหาและเฉลิมฉลองพิธีอำลากับปัญหาทั้งหมด
ลูกประคำของดวงวิญญาณที่เป็นตัวของการแก้ปัญหาจะพร้อมเมื่อลูกมีความมั่นคงในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมของลูก
ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมของลูกลูกจะมีประสบการณ์กับปัญหาทั้งหมดราวกับว่ามันเป็นเกมเด็กๆ
นั่นคือสิ่งเหล่านั้นได้จบสิ้นลงแล้ว ตัวอย่างเช่น
เมื่อลูกคนหนึ่งเดินเข้ามาอยู่เบื้องหน้าพ่อบราห์มาด้วยปัญหา
เขาจะไม่มีความกล้าที่จะพูดถึงปัญหา เขาจะลืมสิ่งเหล่านั้น
ในทำนองเดียวกันลูกๆก็ต้องกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหา
และแล้วลูกก็จะเฉลิมฉลองพิธีอำลาปัญหาทั้งหมดเป็นเวลาครึ่งวงจร
วิธีแก้ปัญหาของโลกคือการเปลี่ยนแปลง
คติพจน์:
ผู้ที่ไตร่ตรองความรู้อย่างสม่ำเสมอจะอยู่อย่างปลอดภัยจากการดึงดูดของมายา