04.02.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ลืมทุกสิ่งที่ลูกศึกษามาจนถึงตอนนี้
การตายขณะที่มีชีวิตอยู่หมายถึงการลืมทุกสิ่ง อย่าให้มีสิ่งใดในอดีตที่ลูกต้องจดจำ
คำถาม:
อะไรคือสิ่งชี้บอกของผู้ที่ยังไม่ตายในขณะที่มีชีวิตอยู่อย่างสมบูรณ์?
คำตอบ:
พวกเขาเฝ้าแต่โต้เถียงแม้แต่กับพ่อ พวกเขาเฝ้าแต่ตัวอย่างเช่นจากคัมภีร์
ผู้ที่ตายอย่างสมบูรณ์พูดว่า: เพียงสิ่งที่บาบาพูดเท่านั้นคือสัจจะ
สิ่งที่เรารับฟังมาเป็นเวลาครึ่งวงจรเป็นสิ่งที่ผิด
ด้วยเหตุนี้ที่เราจะต้องไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นปรากฏออกมาจากปากของเรา พ่อพูดว่า:
อย่าฟังสิ่งที่เลวร้าย…
เพลง:
ขอคารวะต่อชีวา…
โอมชานติ
มีการอธิบายแก่ลูกๆว่าเมื่อลูกทำให้ผู้คนนั่งลงในความเงียบสงบ ซึ่งมีการให้คำว่า “เนชธา”
(การทำสมาธิเป็นพิเศษ) ลูกเป็นคนดำเนินการฝึกนี้
เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆทางจิตว่า ผู้ที่ตายในขณะที่มีชีวิตอยู่พูดว่า“เราได้ตายขณะที่มีชีวิตแล้ว”
ตัวอย่างเช่น เมื่อมนุษย์ตาย เขาก็ลืมทุกสิ่ง เพียงซันสการ์เท่านั้นที่คงอยู่
เวลานี้เรากลายเป็นของพ่อ ลูกตายไปแล้วจากโลกนี้ พ่อพูดว่า:ลูกมีซันสการ์ของความเลื่อมใสศรัทธา
เวลานี้ซันสการ์เหล่านั้นกำลังเปลี่ยนแปลง ดังนั้นลูกตายในขณะที่มีชีวิตอยู่
เมื่อมนุษย์ตายพวกเขาก็ลืมทุกสิ่งที่พวกเขาได้ศึกษาเล่าเรียน
แล้วพวกเขาก็ต้องศึกษาเล่าเรียนอีกครั้งในชาติเกิดต่อไป พ่อพูดว่า:
จงลืมสิ่งใดก็ตามที่ลูกได้ศึกษาเล่าเรียนมา ลูกกลายเป็นของพ่อใช่ไหม?
พ่อบอกสิ่งใหม่แก่ลูก ดังนั้นเวลานี้จงลืมพระเวทย์ คัมภีร์กรันธ์ การสวดมนต์
ตาปาเซียที่จริงจังฯลฯ จงลืมสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงมีคำกล่าวว่า:
อย่าได้ฟังสิ่งที่เลวร้าย, อย่าได้เห็นสิ่งที่เลวร้าย! สิ่งนี้ใช้กับลูกๆ
บางคนที่ศึกษาคัมภีร์มากมายและไม่ได้ตายอย่างสมบูรณ์ก็จะเฝ้าแต่โต้เถียงอย่างไร้ประโยชน์
เมื่อตายแล้วลูกก็จะไม่มีวันโต้แย้ง ลูกก็จะพูดว่า: เพียงสิ่งที่พ่อพูดนั้นคือสัจจะ
เหตุใดสิ่งอื่นจึงควรปรากฏออกมาจากปากของลูก? พ่อพูดว่า:
อย่าได้นำสิ่งนี้เข้าไปสู่ปากของลูกเลย อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย! พ่อได้ให้ทิศทาง:
อย่าได้รับฟังสิ่งใด! บอกพวกเขา: เวลานี้เราคือลูกของมหาสมุทรแห่งความรู้
เหตุใดพวกเราจึงควรจดจำความเลื่อมใสศรัทธา? เราจดจำพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้น
พ่อพูดว่า: จงลืมหนทางความเลื่อมใสศรัทธา พ่ออธิบายประเด็นที่ง่ายดาย:
หากลูกจดจำพ่อผู้เป็นเมล็ด ทั้งต้นไม้จะเข้าไปสู่สติปัญญาของลูกอย่างแน่นอน
สิ่งหลักที่ลูกมีนั่นคือกีตะ เพียงในกีตะเท่านั้นที่มีคำอธิบายของพระเจ้า
เวลานี้สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งใหม่ เราให้ความใส่ใจกับสิ่งใหม่ๆมากกว่าเสมอ
สิ่งนี้คือสิ่งที่ง่ายมาก สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจดจำระลึกถึง
ลูกต้องได้รับการบอกซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า: มานมานะบาฟ! จดจำพ่อ!
นี่คือประเด็นที่ลึกล้ำมาก เพียงในสิ่งนี้เท่านั้นที่อุปสรรคเกิดขึ้น มีลูกๆ
มากมายที่ไม่จดจำบาบาแม้แต่สองนาที แม้แต่หลังจากที่เป็นของพ่อ
พวกเขาก็ไม่ทำสิ่งที่ดีและพวกเขาไม่แม้แต่จะมีการจดจำระลึกถึง
พวกเขาเฝ้าแต่ทำบาปต่อไป สิ่งนี้ไม่อยู่ในสติปัญญาของพวกเขา
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่านี่เป็นการไม่ใส่ใจต่อหนทางของพ่อ
พวกเขาไม่สามารถที่จะศึกษาเล่าเรียน และดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รับพละกำลังนั้น
ลูกได้รับพละกำลังจากการศึกษาเล่าเรียนทางร่าง การศึกษาคือแหล่งแห่งรายได้
สิ่งนั้นเป็นไปเพื่อการทำมาหาเลี้ยงชีพของร่างกาย และนั่นก็เป็นเวลาสั้นๆเช่นกัน
บางคนตายขณะที่พวกเขากำลังศึกษาเล่าเรียนและดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้นำการศึกษานั้นไปกับพวกเขา
พวกเขาต้องใช้ชาติเกิดใหม่อีกครั้งและเริ่มศึกษาเล่าเรียนตั้งแต่ต้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามที่นี่
ไม่ว่าลูกจะเรียนอะไรลูกจะนำสิ่งนั้นไปกับลูกเนื่องจากลูกได้รับผลในชาติเกิดต่อไป
ที่เหลือทั้งหมดแน่นอนคือหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
ไม่มีใครรู้ว่ามีสิ่งประเภทใดอยู่ที่นั่น
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และให้ความรู้แก่ลูกๆจิตวิญญาณ
เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่พ่อผู้เป็นจิตวิญญาณสูงสุดมาและให้ความรู้แก่ลูกๆผู้เป็นจิตวิญญาณซึ่งทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลก
สวรรค์ไม่คงอยู่ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา เวลานี้ลูกกลายเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
มายาเช่นกันทำให้ลูกเป็นลูกกำพร้า, ผู้ที่ไม่มีพ่อแม่
พวกเขาเริ่มต่อสู้กันกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ หากพวกเขาไม่คงอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ
พวกเขาก็เป็นลูกกำพร้า หากลูกกลายเป็นลูกกำพร้า
แน่นอนว่าลูกจะทำกรรมที่เป็นบาปอย่างใดอย่างหนึ่ง พ่อพูดว่า: เมื่อลูกเป็นของพ่อ
อย่าประณามพ่อ จงก้าวหน้าไปด้วยความรักอย่างมากมาย อย่าพูดสิ่งที่ผิด
พ่อต้องยกระดับพวกอะฮาลิยา, หญิงชาวพื้นเมืองและคนหลังค่อม มีการเขียนไว้ว่าราม (พระเจ้า)กินผลเบอร์รี่ของหญิงชาวพื้นเมือง
เวลานี้ท่านจะกินอาหารของเธอจริง ๆ เช่นนั้นหรือ?
เมื่อเธอกลายเป็นบราห์มินจากชาวพื้นเมือง แล้วเหตุใดท่านจึงไม่ควรกิน?
เหตุนี้เองบราห์มาโบเจ้นจึงได้รับการยกย่อง
ถึงอย่างไรชีพบาบาก็จะไม่รับประทานอยู่แล้ว ท่านคืออะโบกต้า (ผู้ที่อยู่เหนือผลกระทบของประสบการณ์ใดๆ
) อย่างไรก็ตาม พาหนะนี้รับประทาน ลูกๆ ไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกับใคร
ลูกควรอยู่ในด้านที่ปลอดภัยเสมอ เพียงพูดสองสามคำว่า: ชีพบาบาพูด
เพียงชีพบาบาเท่านั้นที่ได้รับการเรียกว่ารูดร้า
เปลวไฟของการทำลายล้างปรากฏออกมาจากไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้า
ดังนั้นท่านคือพระเจ้ารูดร้า กฤษณะจะไม่ได้รับการเรียกว่ารูดร้า
กฤษณะไม่ได้ทำให้การทำลายล้างเกิดขึ้น เพียงพ่อเท่านั้นที่ทำให้การสร้าง
การบำรุงรักษาและการทำลายล้างเกิดขึ้นได้ พ่อไม่ได้ทำสิ่งใดด้วยตัวเอง
ไม่เช่นนั้นแล้วท่านก็จะถูกตำหนิ ท่านคือคารันคาราวันฮาร์ พ่อพูดว่า:
พ่อไม่ได้บอกใครให้ทำลายทุกสิ่ง ทั้งหมดนั้นถูกกำหนดไว้แล้วในละคร
ชางก้าได้ทำสิ่งใดหรือ? ไม่ได้ทำสิ่งใดเลย!
มีเพียงอนุสรณ์แห่งการทำลายล้างเกิดขึ้นด้วยชางก้า
พวกเขาทำให้เกิดการทำลายล้างด้วยตัวพวกเขาเอง
ละครนี้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าได้รับการอธิบาย ทุกคนได้ลืมพ่อผู้สร้าง พวกเขาพูดว่า: “พระเจ้าผู้เป็นพ่อคือผู้สร้าง”
แต่พวกเขาไม่รู้จักท่านเลย พวกเขาเชื่อว่าท่านสร้างโลก พ่อพูดว่า:
พ่อไม่ได้สร้างโลก พ่อเปลี่ยนแปลงโลก พ่อเปลี่ยนยุคเหล็กให้กลายเป็นยุคทอง
พ่อมาในยุคบรรจบพบกันที่ได้รับการจดจำ “ยุคที่เป็นสิริมงคลสูงที่สุด”
พระเจ้าคือผู้ให้คุณประโยชน์ ท่านนำคุณประโยชน์มาให้แก่ทุกคน
แต่ท่านนำคุณประโยชน์อะไรและอย่างไรนั้นไม่มีใครรู้ ในภาษาอังกฤษพวกเขาเรียกท่านว่า
“ผู้ปลดปล่อยและผู้ชี้นำทาง” แต่พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น พวกเขาพูดว่า:
หลังจากความเลื่อมใสศรัทธา พวกท่านก็จะได้พบกับพระเจ้า
พวกท่านจะได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
มนุษย์ไม่สามารถให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคนได้
ไม่เช่นนั้นแล้วเหตุใดพระเจ้าดวงวิญญาณสูงสุดจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์,
ผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคน? ไม่มีใครรู้จักพ่อ
พวกเขาเป็นลูกกำพร้า สติปัญญาของพวกเขาไม่มีความรักใดต่อพ่อ
เวลานี้พ่อจะสามารถทำอะไรได้? พ่อเองคือพระผู้เป็นเจ้า วันเกิดของท่าน,
ชีพแจนตีซึ่งมีการเฉลิมฉลองในบารัต พ่อพูดว่า: พ่อมาเพื่อให้ผลแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธา
พ่อมาในบารัตเท่านั้น เพื่อที่จะมาพ่อจำเป็นต้องใช้ร่างกายอย่างแน่นอน
ไม่ใช่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นผ่านการดลใจ
พ่อเข้ามาในผู้นี้และให้ความรู้แก่ลูกผ่านปากของผู้นี้ ไม่ใช่เรื่องของปากวัว
ที่นี่เป็นเรื่องของปากนี้ ต้องการปากของมนุษย์ ไม่ใช่ปากของสัตว์
สติปัญญาของพวกเขาไม่แม้แต่ทำงานมากขนาดนี้ ในอีกด้านหนึ่ง พวกเขาแสดงบัคกีราช (พาหนะที่โชคดี)
ไม่มีใครรู้อะไรเลยว่าท่านมาเมื่อไรหรือท่านมาอย่างไร
ดังนั้นพ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ: ลูกได้ตายไปแล้ว
ดังนั้นจงลืมหนทางความเลื่อมใสศรัทธาอย่างสมบูรณ์ พระเจ้าชีวาพูด: จงจดจำพ่อ!
แล้วบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง พ่อเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์
เมื่อลูกกลับมาบริสุทธิ์ พ่อจะพาทุกคนกลับไป ให้สาสน์แก่ทุกบ้าน พ่อพูดว่า:
จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
การทำลายล้างเพียงแค่อยู่เบื้องหน้า ลูกเรียกหาด้วยเช่นกันว่า: โอ้
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมา! ทำให้ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์บริสุทธิ์!
ก่อตั้งอาณาจักรของรามและปลดปล่อยพวกเราจากอาณาจักรของราวัน
ลูกแต่ละคนทำความเพียรพยายามเพื่อตนเอง พ่อพูดว่า: พ่อมาและปลดปล่อยทุกคน
ทุกคนอยู่ในกรงขังของราวัน, กิเลสทั้งห้า
พ่อนำมาซึ่งการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคน
พ่อได้รับการเรียกว่าผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข
แน่นอนว่าอาณาจักรของรามจะอยู่ในโลกใหม่
เวลานี้สติปัญญาของลูกพันดาวาสนั้นมีความรัก
สติปัญญาของบางคนก็กลับมามีความรักในทันที ความรักของบางคนเชื่อมโยงอย่างช้าๆ
บางคนเพียงแค่พูดว่า: พวกเราอุทิศทุกสิ่งแก่พ่อ ไม่มีใครนอกจากผู้เดียวที่เหลืออยู่
ผู้ค้ำจุนของทุกคนคือพระเจ้าผู้เดียวอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่ง่ายที่สุด
จดจำพ่อและจดจำวงจรและลูกจะกลายเป็นราชาและราชินีผู้ปกครองโลก (จักระวาตี)
นี่คือโรงเรียนสำหรับการกลายเป็นนายของสวรรค์ เหตุนี้เองชื่อให้ชื่อราชาจักระวาตี
ด้วยการล่วงรู้วงจรลูกก็กลายเป็นจักระวาตี เพียงพ่อเท่านั้นที่อธิบายสิ่งนี้
มิฉะนั้นลูกไม่ต้องถกเถียงเกี่ยวกับอะไร เพียงแค่พูดว่า:
ลืมทุกสิ่งของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา พ่อพูดว่า: จดจำพ่อเท่านั้น นี่คือสิ่งหลัก
ผู้ที่เป็นผู้เพียรพยายามอย่างรวดเร็วก็มุ่งมั่นอยู่กับการศึกษาเล่าเรียนอย่างมาก
ผู้ที่มีความใส่ใจในการศึกษาเล่าเรียนก็ตื่นในแต่เช้าเพื่อศึกษาเล่าเรียน
ผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาก็ตื่นในตอนเช้าด้วยเช่นกัน
พวกเขาทำความเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้ามาก เมื่อมีคนจะตัดศีรษะของพวกเขา
พวกเขาก็ได้รับนิมิต ที่นี่ บาบาพูดว่า: นิมิตนั้นเป็นอันตราย
ด้วยการจมอยู่ในการมีนิมิต ความรู้และโยคะก็จะหยุดลง เวลาสูญเปล่า
ด้วยเหตุนี้ลูกไม่ควรจะมีความใส่ใจใดๆเลยในการเข้าฌาน
เป็นโรคภัยอย่างยิ่งที่ทำให้มายาเข้ามาด้วยเช่นกัน เช่นที่ในช่วงเวลาของสงคราม
เมื่อข่าวกำลังถูกออกอากาศ
อีกฝ่ายหนึ่งก็ทำให้เกิดคลื่นรบกวนอย่างมากจนไม่มีใครสามารถได้ยิน ในทำนองเดียวกัน
มายาก็ทำให้เกิดอุปสรรคต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นกัน เธอไม่ปล่อยให้ลูกจดจำพ่อ
เป็นที่เข้าใจว่ามีอุปสรรคในโชคชะตาของใครบางคน ตรวจสอบดูว่ามายาเข้ามาหรือไม่
และพวกเขาพูดสิ่งใดที่ผิดกฎหรือไม่
ไม่เช่นนั้นแล้วบาบาจะขจัดตำแหน่งของพวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์มากมายพูดว่า:
ถ้าฉันจะได้รับนิมิต ฉันจะให้ความมั่งคั่ง ทรัพย์สมบัติฯลฯ ทั้งหมดนี้แก่ท่าน
บาบาพูดว่า: เก็บทั้งหมดนั้นไว้กับตนเอง! พระเจ้าต้องการสิ่งใดจากเงินของลูก?
พ่อรู้ว่าสิ่งใดก็ตามที่มีในโลกนี้ทั้งหมดจะถูกเผาให้เป็นเถ้าถ่าน บาบาจะทำอะไรได้?
ผ่านบาบา ทะเลสาบจึงถูกสร้างขึ้นทีละหยด ทำตามทิศทางของพ่อ! เปิดโรงพยาบาล-มหาวิทยาลัยที่ผู้คนสามารถมาและกลายเป็นนายของโลก
ลูกต้องนั่งบนที่ดินสามตารางฟุตและทำให้มนุษย์ธรรมดากลายเป็นนารายณ์
อย่างไรก็ตามไม่สามารถหาแม้กระทั่งผู้มีที่ดินสามตารางฟุตได้ พ่อพูดว่า:
พ่อจะอธิบายสาระของพระเวทย์และคัมภีร์ทั้งหมดแก่ลูก
คัมภีร์ทั้งหมดเหล่านั้นเป็นของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา บาบาไม่ได้ประณามใคร
การละเล่นนี้ถูกสร้างขึ้นแล้ว สิ่งนี้เป็นการบอกว่าจะอธิบายแก่ลูกเท่านั้น
อย่างไรก็ตามมันยังคงเป็นการละเล่น ไม่มีใครสามารถประณามการละเล่นได้
พ่อพูดถึงพระอาทิตย์แห่งความรู้และพระจันทร์แห่งความรู้
ดังนั้นพวกเขาจึงไปที่พระจันทร์และตรวจสอบ มีอาณาจักรที่นั่นหรือไม่?
ชาวญี่ปุ่นเชื่อในพระอาทิตย์ พ่อพูดถึงสุริยะวงศ์
แล้วผู้คนก็นั่งและกราบไหว้บูชาพระอาทิตย์ พวกเขาให้น้ำแก่พระอาทิตย์
ดังนั้นบาบาได้อธิบายแก่ลูกๆ: อย่าได้ถกเถียงเกี่ยวกับสิ่งใดมากเกินไป
บอกพวกเขาสิ่งเดียวเท่านั้น พ่อพูดว่า:
จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นแล้วลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
เวลานี้ทุกคนในอาณาจักรของราวันที่ไม่บริสุทธิ์
แต่พวกเขาไม่เชื่อว่าตนเองไม่บริสุทธิ์ ลูกๆ
ให้มีดินแดนแห่งความสงบในดวงตาข้างหนึ่งและดินแดนแห่งความสุขในดวงตาอีกข้างหนึ่ง
ลืมดินแดนแห่งความทุกข์นี้ ลูกคือประภาคารที่มีชีวิต
แม้แต่ในนิทรรศการก็ยังคงเก็บชื่อ“บารัต,ประภาคาร”ไว้ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เข้าใจ
เวลานี้ลูกคือประภาคาร ที่ท่าเรือ,ประภาคารจะชี้ทางให้แก่เรือ
ลูกก็แสดงหนทางสู่ดินแดนแห่งการหลุดพ้นและดินแดนแห่งการหลุดพ้นในชีวิตแก่ทุกคนเช่นกัน
เมื่อผู้คนมาที่นิทรรศการ จงบอกพวกเขาด้วยความรักอย่างมากว่า:
พระเจ้าผู้เป็นพ่อของทุกคนคือผู้เดียว พระเจ้าผู้เป็นพ่อ, ดวงวิญญาณสูงสุดพูดว่า:
จดจำพ่อ! แน่นอนว่าท่านจะพูดสิ่งนั้นด้วยปาก การก่อตั้งเกิดขึ้นด้วยบราห์มา
ดังนั้นพวกเราทั้งหมดคือบราห์มากุมารและกุมารี สิ่งสร้างที่เกิดจากปากของบราห์มา
แม้แต่พราห์มเหล่านั้นก็ยังร้องเพลงสรรเสริญลูกบราห์มิน: ขอคารวะต่อเทพ,บราห์มิน
ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดคือพ่อผู้เดียวเท่านั้น ท่านพูดว่า:
พ่อสอนราชาโยคะที่สูงสุดแก่ลูกที่ลูกกลายเป็นนายของทั้งโลก
ไม่มีใครสามารถแย่งชิงอาณาจักรไปจากลูกได้ มันเป็นอาณาจักรของบารัตทั่วโลก
มีการสรรเสริญบารัตเป็นอย่างมาก
ลูกรู้ว่าเวลานี้เรากำลังก่อตั้งอาณาจักรนี้ตามศรีมัท อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เพื่อที่จะกลายเป็นผู้เพียรพยายามอย่างรวดเร็ว ให้ความใส่ใจในการศึกษาเล่าเรียน
ตื่นแต่เช้าตรู่และศึกษาการศึกษานี้ ไม่มีความปรารถนาใดที่จะได้นิมิต
เวลาเสียไปกับสิ่งนั้น
2.
จดจำดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข จงลืมดินแดนแห่งความทุกข์นี้
อย่าโต้เถียงกับใคร
แสดงหนทางสู่ดินแดนแห่งการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิตด้วยความรัก
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้รับใช้ที่สูงส่งซึ่งประสบความสำเร็จในงานรับใช้โดยมีจิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือ
จิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือจะนำลูกไปสู่ความสำเร็จในงานรับใช้โดยอัตโนมัติ
หากไม่มีจิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
ผู้รับใช้ที่สูงส่งหมายถึงผู้ที่วางทุกย่างก้าวของเขาไว้ในรอยเท้าของพ่อและทำให้ทุกย่างก้าวของเขาสูงส่งโดยการทำตามหนทางที่สูงส่งในทุกย่างก้าว
ยิ่งสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดจบสิ้นลงในงานรับใช้และในตนเองมากเท่าไร
ลูกก็จะยิ่งมีพลังมากเท่านั้นและดวงวิญญาณที่มีพลังจะประสบความสำเร็จในทุกย่างก้าว
ผู้รับใช้ที่สูงส่งนั้นเป็นผู้รับใช้ที่มีความจริงจังและความกระตือรือร้นเสมอและยังให้ความกระตือรือร้นกับผู้อื่นด้วยเช่นกัน
คติพจน์:
เสนอตัวเองสำหรับงานรับใช้ของพระเจ้าและลูกจะเฝ้าแต่ได้รับการขอบคุณ