26.01.20 Avyakt Bapdada Thai Murli
13.11.85 Om Shanti Madhuban
นำมาซึ่งความใหม่ในความคิด ซันสการ์ ความสัมพันธ์ คำพูดและการกระทำ
วันนี้ พ่อผู้สร้างสิ่งสร้างของโลกใหม่กำลังมองดูลูกๆที่มีสิทธิ์ในโลกใหม่ของท่าน
นั่นคือท่านกำลังมองดูสิ่งสร้างใหม่ของท่าน สิ่งสร้างใหม่นั้นเป็นที่รักเสมอ
ในแง่ของทางโลกผู้คนเฉลิมฉลองปีใหม่ในยุคเก่า
อย่างไรก็ตามลูกกำลังมีประสบการณ์กับยุคใหม่และชีวิตใหม่ของสิ่งสร้างใหม่
ทุกสิ่งกลับมาใหม่ ทุกสิ่งที่เก่าได้จบสิ้นลงแล้ว
และชาติเกิดใหม่ชีวิตใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อลูกมีชาติเกิดใหม่
และแล้วด้วยการเกิดของลูก ชีวิตของลูกก็เปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ “ชีวิตที่เปลี่ยนไป”
หมายถึงความคิด ซันสการ์ และความสัมพันธ์ต่างๆของลูก ทั้งหมดนั้นได้เปลี่ยนไป
นั่นคือสิ่งเหล่านั้นกลายเป็นสิ่งใหม่ ศาสนาของลูกใหม่และการกระทำของลูกก็ใหม่
พวกเขาเพียงแต่พูดว่าเป็นปีใหม่ แต่สำหรับลูกทุกคน ทุกสิ่งนั้นได้กลับมาใหม่
วันนี้ตั้งแต่เวลาอมฤต ลูกก็ได้กล่าวสวัสดีปีใหม่และอวยพรปีใหม่กัน
ลูกแสดงความยินดีเพียงแค่ด้วยคำพูดหรือด้วยจิตใจของลูก?
ลูกมีความคิดเกี่ยวกับความใหม่หรือไม่?
ลูกมีความคิดเกี่ยวกับความใหม่ในสามสิ่งพิเศษนี้หรือไม่? ความคิด ซันสการ์
และความสัมพันธ์
สำหรับความคิดและซันสการ์ของลูกที่จะเป็นสิ่งใหม่นั้นหมายถึงสิ่งเหล่านั้นกลับมาสูงส่ง
ในขณะที่มีชาติเกิดใหม่และชีวิตใหม่ ความคิด ซันสการ์
และความสัมพันธ์ของชาติเกิดเก่าหรือชีวิตเก่านั้นไม่หลงเหลืออยู่เลยแม้กระทั่งในเวลานี้ใช่ไหม?
หากมีร่องรอยแม้แต่น้อยของสิ่งเก่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสิ่งใดก็ตามของทั้งสามสิ่งนี้
ร่องรอยนี้จะตัดสิทธิ์ลูกจากการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดและความสุขของชีวิตใหม่
ยุคใหม่ ความสัมพันธ์ใหม่และซันสการ์ใหม่
ลูกมากมายเฝ้าแต่บอกสิ่งเหล่านี้ในจิตใจของพวกเขาต่อบัพดาดาในการสนทนาจากใจถึงใจของพวกเขา
พวกเขาไม่พูดออกมาเป็นคำพูดภายนอกแล้วหากใครถามพวกเขาว่าพวกเขาเป็นอย่างไร
พวกเขาทั้งหมดก็จะตอบว่าพวกเขาโอเคอย่างมาก เพราะพวกเขารู้สึกว่า:
ดวงวิญญาณที่สนใจสิ่งภายนอกจะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวตนภายใน?
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถซ่อนสิ่งนั้นจากพ่อในการสนทนาจากใจถึงใจของพวกเขาได้
ในการสนทนาของจิตใจของพวกเขา พวกเขาพูดอย่างแน่นอนว่า: ฉันได้กลายเป็นบราห์มิน
ฉันได้ก้าวห่างออกไปจากการเป็นศูทร
อย่างไรก็ตามประสบการณ์พิเศษที่ฉันควรจะมีของความยิ่งใหญ่และคุณสมบัติพิเศษของชีวิตบราห์มิน
ของการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่สูงส่งที่สุดทั้งหมด ของความสุขที่เหนือประสาทสัมผัส
ของชีวิตที่เป็นแสงที่เบาสบายของการเป็นเทวดานางฟ้า
ฉันไม่มีประสบการณ์ของสิ่งเหล่านั้นมากนัก
ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาพูดถึงชีวิตที่สูงส่งของยุคที่สูงส่งนี้
พวกเขาก็มีประสบการณ์ในสิ่งนั้นและสัมผัสกับสภาพนั้นในเวลาที่สั้นมาก
อะไรคือสาเหตุของสิ่งนี้? เมื่อลูกกลายเป็นบราห์มินแล้ว
เหตุใดลูกจึงไม่สามารถมีประสบการณ์ของสิทธิ์ของชีวิตบราห์มิน?
หากลูกเป็นลูกของราชาและหากลูกมีซันสการ์ของการเป็นขอทาน
จะพูดถึงสิ่งนั้นว่าอย่างไร? ลูกจะถูกเรียกว่าเจ้าชายไหม?
ที่นี่เช่นกันหากลูกมีชาติเกิดใหม่ มีชีวิตบราห์มินใหม่
แต่ถึงกระนั้นหากความคิดและซันสการ์เก่ายังคงปรากฏออกมาและในการกระทำของลูก
ลูกจะเรียกได้ว่าเป็นบราห์มา กุมารไหม?
หรือลูกจะเรียกว่าเป็นกึ่งศูทรกุมารและกึ่งบราห์มากุมารไหม?
ลูกได้เล่นละครที่ลูกได้แสดงให้เห็นว่าครึ่งหนึ่งเป็นความมืดและอีกครึ่งหนึ่งเป็นความสว่าง
ลูกยังไม่เข้าใจว่านี่คือยุคบรรจบพบกัน ใช่ไหม? ยุคบรรจบพบกันหมายถึงยุคใหม่
ในยุคใหม่ ทุกสิ่งนั้นใหม่
วันนี้บัพดาดาได้ยินเสียงของทุกคน: ขอแสดงความยินดีสำหรับปีใหม่ ลูกได้ส่งการ์ด
ลูกเขียนจดหมาย แต่สิ่งใดก็ตามที่ลูกพูดเป็นเช่นเดียวกับสิ่งที่ลูกทำหรือไม่?
ลูกอวยพรกันทักทายกัน ลูกทำได้ดีมาก บัพดาดาแสดงความยินดีกับลูกด้วยเช่นกัน
บัพดาดาแม้กระทั่งพูดว่า: ขอให้พรของคำพูดของทุกคนนั้นไม่สูญสลาย! ลูกทั้งหมดพูดว่า:
ขอให้มีดอกกุหลาบในปากของท่าน (ขอให้สิ่งใดก็ตามที่ลูกพูดนั้นเป็นความจริง)
บัพดาดาพูดว่า: ขอให้คำพูดจากปากของลูกมีพรที่ไม่สูญสลายในคำพูดเหล่านั้น
จากวันนี้เพียงแค่จดจำคำเดียว “ใหม่” ไม่ว่าความคิดใดก็ตามที่ลูกมี,
คำพูดใดก็ตามที่ลูกพูด, การกระทำใดก็ตามที่ลูกทำ,
ตรวจสอบสิ่งเหล่านั้นและดูว่าสิ่งเหล่านั้นใหม่หรือไม่ เริ่มสมุดบัญชี, ชาร์ท
หรือทะเบียนประวัตินี้ตั้งแต่วันนี้ ลูกทำอะไรกับสมุดบัญชีในเทศกาลดีพมาลา?
ลูกวาดรูปสวัสดิกะบนสมุดเหล่านั้นใช่ไหม? ฆเนศ(สวัสดิกะเรียกว่าฆเนศเช่นกัน)
แน่นอนว่าลูกใส่จุดลงไปในแต่ละส่วนของสี่ส่วนของสวัสดิกะนั้น
เหตุใดลูกจึงใส่จุดเหล่านั้น? ในช่วงเวลาของการเริ่มต้นงานใดๆ
ลูกวาดสวัสดิกอย่างแน่นอนะและพูดว่า “ขอคารวะต่อฆเนศ” นี่คืออนุสรณ์ของใคร?
ทำไมสวัสดิกะจึงเรียกว่าฆเนศ?
สวัสดิกะเป็นสัญญลักษณ์ของความมั่นคงในสภาพของลูกเองและมีความรู้ของสิ่งสร้างทั้งหมด
ฆเนศหมายถึงเต็มไปด้วยความรู้ ความรู้ทั้งหมดรวมอยู่ในภาพเดียวของสวัสดิกะ
พวกเขาแสดงให้เห็นฆเนศหรือสวัสดิกะว่าเป็นอนุสรณ์ของสำนึกรู้ของการเต็มไปด้วยความรู้
สิ่งนี้หมายถึงอะไร? พื้นฐานของความสำเร็จในงานใดก็ตามคือการเต็มไปด้วยความรู้
นั่นคือมีความรู้คิดและเป็นตัวของความรู้
หากลูกรู้คิดและเป็นตัวของความรู้แล้วทุกการกระทำก็จะสูงส่งและได้รับความสำเร็จใช่ไหม?
ผู้คนเหล่านั้นเพียงแต่วาดสัญลักษณ์นี้ลงบนกระดาษอย่างเป็นอนุสรณ์
ในขณะที่ลูกดวงวิญญาณบราห์มินสร้างทุกความคิดในขณะที่ตัวลูกเองเต็มไปด้วยความรู้
และดังนั้นลูกจะได้สัมผัสกับความคิดเหล่านั้นและความสำเร็จในเวลาเดียวกัน
ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ด้วยสีสันของความมุ่งมั่นนี้
ทุกความคิดและซันสการ์จะต้องเป็นสิ่งใหม่ในสมุดบัญชีของชีวิตของลูก
ไม่ใช่ว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นในบางครั้ง สิ่งนั้นต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!
กลับมามั่นคงในสภาพดั้งเดิมของลูกและทำสิ่งนี้ (ฝึกฝนที่จะจดจำศรีฆเนศและวาดสวัสดิกะในตอนเริ่มต้นงานที่เป็นสิริมงคลใดๆ)
นั่นคือเริ่มสิ่งนี้ในเวลานี้ ลูกเองกลายเป็นศรีฆเนศและเริ่มสิ่งนี้
อย่าคิดว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา ลูกสร้างความคิดหลายครั้ง
แต่ให้ความคิดนั้นมีความมุ่งมั่น รากฐานแข็งแรงโดยใช้ซีเมนต์ ฯลฯ ใช่ไหม?
หากลูกจะวางรากฐานด้วยทรายมันจะคงอยู่นานแค่ไหน? ดังนั้นเมื่อลูกมีความคิด
ลูกจะพูดว่า “ฉันจะลองดู หรือ “ฉันจะทำเท่าที่ฉันสามารถทำได้” “ถึงอย่างไรคนอื่นก็ทำแบบเดียวกันอยู่ดี”
ลูกก็ผสมทรายนี้ลงไปและดังนั้นรากฐานจึงไม่แข็งแรง
เป็นสิ่งที่ง่ายที่จะมองดูผู้อื่น เป็นสิ่งที่ใช้ความพยายามเล็กน้อยที่จะมองดูตนเอง
หากลูกต้องการที่จะดูผู้อื่น หากลูกถูกบังคับด้วยนิสัยนั้น
และแล้วให้มองดูพ่อบราห์มา ท่านก็เป็นผู้มีชีวิตอีกผู้หนึ่งด้วยเช่นกัน
เหตุนี้เองบัพดาดาจึงดูชาร์ทของดีพมาลาของลูก
สิ่งหลักที่บัพดาดาได้เห็นในชาร์ทคือแม้แต่หลังจากที่เป็นบราห์มิน
ลูกก็ไม่ได้สัมผัสกับชีวิตบราห์มิน ลูกไม่สามารถที่จะมีประสบการณ์ได้มากเท่าที่ควร
เหตุผลหลักสำหรับสิ่งนี้คือสายตาของลูกมักจะมองที่ผู้อื่นเสมอ(พาร์ดริชตี)
ลูกจะคิดถึงผู้อื่นเสมอ(พาร์ชินตัน) และลูกก็จดจ่ออยู่กับเรื่องของผู้อื่น(พาร์พันช์)
ลูกพูดและคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกมากกว่า
ดังนั้นในเวลานี้จงกลายเป็นผู้ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
ด้วยการให้ความใส่ใจต่อตนเอง(สวา), การใส่ใจต่อผู้อื่น(พาร์)ก็จะจบสิ้นลง
เช่นที่ลูกทั้งหมดกล่าวสวัสดีปีใหม่และอวยพรกันในวันปีใหม่นี้
ในทำนองเดียวกันลูกก็จะมีประสบการณ์โดยอัตโนมัติว่าทุกวันเป็นวันใหม่,ของการมีชีวิตใหม่,
ความคิดใหม่และซันสการ์ใหม่
ความกระตือรือร้นที่บริสุทธิ์ที่จะกล่าวสวัสดีปีใหม่ต่อพ่อและครอบครัวบราห์มินจะปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องในจิตใจของลูกโดยอัตโนมัติในทุกขณะ
จะมีคลื่นของการแสดงความยินดีและการกล่าวคำอวยพรในดริชตีของทุกคน
ดังนั้นในวันนี้จงทำให้คำว่า “ขอแสดงความยินดี” นั้นไม่สูญสลาย ลูกเข้าใจไหม?
ผู้คนก็เก็บรักษาชาร์ทของพวกเขา พ่อได้เห็นชาร์ทของลูก
บัพดาดารู้สึกเห็นอกเห็นใจลูกๆ เพราะแม้ว่าลูกจะได้รับทุกสิ่ง
แต่สิ่งที่ลูกรับก็ไม่สมบูรณ์ ลูกมีชื่อใหม่ของบราห์มากุมารและกุมารี
และดังนั้นเหตุใดลูกถึงมีบางสิ่งปะปนอยู่ในสิ่งที่ลูกทำเล่า? ลูกคือลูกของผู้ประทาน
ผู้ประทานโชคและผู้ประทานพร แล้วลูกจะจดจำสิ่งใดในปีใหม่นี้? ลูกต้องทำทุกสิ่งใหม่
นั่นคือระเบียบวินัยของการใช้ชีวิตบราห์มินคือสิ่งใหม่ทั้งหมด
ใหม่นั้นหมายถึงไม่มีสิ่งใดปะปน ลูกได้กลายเป็นผู้ที่ฉลาดมาก
ลูกเริ่มที่จะสอนพ่อด้วยเช่นกัน ลูกบางคนพูดว่า: บาบาบอกว่าพวกเราต้องทำบางสิ่งใหม่
และดังนั้นพวกเรากำลังทำสิ่งใหม่นี้อยู่
อย่างไรก็ตามขอให้มีสิ่งใหม่ตามกฎเกณฑ์ระเบียบวินัยของชีวิตบราห์มิน
บัพดาดาได้วาดเส้นของระเบียบวินัยของการใช้ชีวิตบราห์มินและชาติเกิดบราห์มิน
ลูกเข้าใจหรือไม่ว่าลูกต้องเฉลิมฉลองปีใหม่อย่างไร? ลูกเคยได้รับการบอกแล้วว่าบทที่
18 กำลังเริ่มขึ้นแล้วในเวลานี้
ก่อนการเฉลิมฉลองโกลเด้น จูบิลี่ (การฉลองครบรอบ 50 ปี, ฉลองความเป็นทอง)
ก็เป็นโกลเด้นจูบิลี่ของมหาวิทยาลัยโลก อย่าได้คิดว่าเป็นการฉลองโกลเด้น
จูบิลี่ของผู้ที่อยู่ที่นี่มา 50 ปีเท่านั้น แต่เป็นการฉลองโกลเด้น จูบิลี่
ของงานของพระเจ้า ทุกคนที่ให้ความร่วมมือในงานของการสร้าง ไม่ว่าพวกเขาจะมีอายุ 2
ปี หรือไม่ว่าลูกจะมีอายุ 50 ปีในความรู้ – แม้แต่ลูกที่อยู่ในความรู้มา 2
ปีก็เรียกตนเองว่า บราห์มากุมารใช่ไหม? หรือลูกมีชื่ออื่น?
ดังนั้นนี่คือการฉลองโกลเด้น จูบีลี่ของสิ่งสร้างของบราห์มินผ่านบราห์มา
และดังนั้นบราห์มา กุมารและกุมารีทั้งหมดจึงรวมกันอยู่ในนี้
จนกว่าลูกจะไปถึงการฉลองความเป็นทอง
ลูกต้องทำให้ความคิดและซันสการ์ที่สาโตประธานของยุคทองนั้นปรากฏออกมาในตัวลูกเอง
ลูกต้องเฉลิมฉลองความเป็นทองเช่นนั้น
ลูกฉลองสิ่งนี้แต่เพียงในนามตามขนบธรรมเนียมประเพณี
แต่การฉลองความเป็นทองที่แท้จริงคือการฉลองที่ลูกนั้นกลายเป็นยุคทอง “งานประสบความสำเร็จ”
หมายถึงดวงวิญญาณที่เป็นเครื่องมือสำหรับงานนั้นได้กลายเป็นตัวของความสำเร็จ
แม้แต่ตอนนี้ก็ยังคงมีเวลา ในเวลา 3 เดือนนี้
จงเฉลิมฉลองความเป็นทองที่พิเศษสุดและแสดงสิ่งนั้นบนเวทีโลก
ผู้คนในโลกก็ให้เกียรตินั้น ในขณะที่ที่นี่ ลูกต้องเปิดเผยสภาพของความทัดเทียม
สิ่งที่ลูกทำเพื่อเป็นเกียรติแก่พวกเขาเป็นเพียงเพื่อประโยชน์ของสิ่งนั้น
ลูกต้องแสดงความเป็นจริงให้กับโลก
พวกเราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวและพวกเราก็เป็นของผู้เดียว
เราคือผู้ที่มีสภาพที่สม่ำเสมอและมั่นคง
พวกเราคือผู้ที่อยู่อย่างหลุดหายไปในความรักของผู้เดียวและเปิดเผยชื่อของผู้เดียว
ดังนั้นชักธงที่พิเศษสุดและน่ารักนี้ของสภาพยุคทองของลูก ให้ฉากต่างๆ
ของโลกยุคทองปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในดวงตาของลูกผ่านคำพูดและการกระทำของลูก
เฉลิมฉลองโกลเด้น จูบีลี่เช่นนั้น อัจชะ
ถึงลูกที่สูงส่ง ผู้ที่มีค่าควรแก่การแสดงความยินดีที่ไม่สูญสลายเช่นนั้น
ถึงลูกที่ให้นิมิตของโลกใหม่ผ่านทุกความคิดและทุกการกระทำของพวกเขา
ถึงลูกผู้ที่จุดตะเกียงของความหวังที่บริสุทธิ์ของดวงวิญญาณในโลกที่โลกยุคทองกำลังจะมาถึงผ่านสภาพที่เป็นเช่นยุคทองของพวกเขา
ถึงดวงดาวที่เปล่งประกายอย่างสม่ำเสมอ ถึงตะเกียงแห่งความสำเร็จ ถึงลูกๆ
ผู้เป็นภาพลักษณ์ที่ให้นิมิตของชีวิตใหม่ผ่านความมุ่งมั่นของพวกเขา
ด้วยความรักและการจดจำระลึกถึง และพร้อมกับคำทักทายที่ไม่สูญสลายและพรที่ไม่สูญสลาย
และนมัสเต จากบัพดาดา
อะแวคบัพดาดาพบกับผู้ที่อยู่ในการเดินและการขี่จักรยานเพื่อความสงบ
ลูกทั้งหมดได้ทำงานรับใช้ด้วยการเดินเพื่อความสงบลูกมีประสบการณ์ของผลในทางปฏิบัติของงานรับใช้ที่ลูกได้ทำด้วยเช่นกัน
ลูกมีประสบการณ์ของความสุขพิเศษของงานรับใช้นั้นใช่ไหม?
ลูกได้เดินเท้าในการเดินเพื่อความสงบ
และทุกคนก็ได้เห็นลูกในรูปของผู้เข้าร่วมการเดินนั้น
เวลานี้ให้พวกเขาได้เห็นลูกในรูปของผู้จาริกแสวงบุญทางจิต
พวกเขาได้เห็นลูกในรูปของงานรับใช้
แต่เวลานี้ให้พวกเขาได้สัมผัสว่าลูกนั้นเป็นผู้จาริกแสวงบุญทางจิตที่ให้ประสบการณ์ของการจาริกแสวงบุญทางจิต
เช่นที่ลูกประสบความสำเร็จในงานรับใช้นี้ด้วยการทำสิ่งนั้นด้วยความรัก
ในทำนองเดียวกันเวลานี้ลูกต้องประสบความสำเร็จในการจาริกแสวงบุญทางจิตด้วยเช่นกัน
ลูกได้ทำความเพียรพยายามอย่างมาก ลูกได้ทำงานรับใช้อย่างมากมาย
ลูกพูดความรู้ได้ดีมากและพวกเขาก็มีประสบการณ์ว่าชีวิตของลูกนั้นดีมาก
สิ่งทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นแล้ว
อย่างไรก็ตามเวลานี้พวกเขาเองควรจะข้องแวะอยู่กับการทำให้ชีวิตของพวกเขาเป็นเช่นนั้น
ให้พวกเขามีประสบการณ์ว่าไม่มีชีวิตอื่นใดนอกไปจากชีวิตนี้
ดังนั้นจงมีเป้าหมายของการเป็นผู้จาริกแสวงบุญทางจิตและให้ประสบการณ์ของการจาริกแสวงบุญทางจิตแก่พวกเขา
ลูกเข้าใจหรือไม่ว่าลูกต้องทำอะไร? ในขณะที่ลูกเดินเหินและเคลื่อนไหวไปมา
ให้พวกเขาเห็นว่าลูกนั้นไม่ธรรมดา แต่ลูกคือผู้จาริกแสวงบุญทางจิต
ดังนั้นลูกต้องทำอะไร?
ลูกเองต้องคงอยู่ในการจาริกแสวงบุญและให้ประสบการณ์ของการจาริกแสวงบุญแก่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน
ลูกได้ให้ประสบการณ์ของการเดินเพื่อความสงบแก่พวกเขา
เวลานี้จงให้ประสบการณ์ของสภาพที่เป็นเทวดานางฟ้า
ให้พวกเขามีประสบการณ์ว่าลูกนั้นไม่ใช่ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้
แต่ลูกเป็นเทวดานางฟ้า ที่เท้าของลูกนั้นไม่ได้อยู่บนพื้น
แต่ละวันจงทำให้ทุกคนโบยบินด้วยสภาพที่โบยบินของลูก
ถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ทุกคนโบยบิน มันไม่ใช่เวลาที่จะทำให้พวกเขาเดิน
การเดินนั้นใช้เวลา แต่การบินนั้นไม่ใช้เวลา
ใช้สภาพที่โบยบินของลูกเพื่อทำให้ผู้อื่นโบยบิน ลูกเข้าใจหรือไม่?
เฝ้าแต่ทำให้ทุกคนนั้นเพียบพร้อมและสมบูรณ์พร้อมด้วยดริชตีและสำนึกรู้ของลูก
ให้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาได้รับบางสิ่งที่ทำให้พวกเขานั้นเต็มเปี่ยม
ที่พวกเขานั้นเคยว่างเปล่าแต่กลับมาเปี่ยมล้น
เมื่อพวกเขามีประสบการณ์ของการได้มาซึ่งการบรรลุผล พวกเขาก็อุทิศตนเองในหนึ่งวินาที
ลูกทั้งหมดมีการได้มาซึ่งการบรรลุผลบางอย่างเพราะเหตุนั้นเองลูกจึงละทิ้งทุกสิ่ง
ลูกชอบสิ่งนั้น ลูกมีประสบการณ์ของสิ่งนั้นและเหตุนี้เองลูกจึงละทิ้งทุกสิ่งอื่น
ลูกไม่ได้ละทิ้งไปเช่นนั้น
ดังนั้นเวลานี้จงให้ประสบการณ์ของการได้มาซึ่งการบรรลุผลแก่ผู้อื่น ลูกเข้าใจไหม?
ลูกทั้งหมดนั้นดี ไม่ว่าวันไหนก็ตามที่ลูกใช้ไปในการทำงานรับใช้
ตัวลูกเองและผู้อื่นก็กลับมาสูงส่งเช่นกัน ลูกมีความจริงจังและกระตือรือร้นที่ดีมาก
ผลลัพธ์ก็ดีใช่ไหม? หากลูกอยู่ในการจาริกแสวงบุญทางจิตอย่างสม่ำเสมอ
ลูกก็จะเฝ้าแต่ได้รับความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ
อย่าได้คิดว่าเพราะลูกได้จบสิ้นการเดินเพื่อความสงบแล้วที่งานรับใช้ก็จบสิ้นลง
ในกรณีนั้นลูกก็จะกลายเป็นเหมือนเดิมอย่างที่ลูกเคยเป็นมาก่อน ไม่เลย
บราห์มินไม่สามารถอยู่ในสนามของงานรับใช้ได้หากไม่ทำงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอ
เป็นเพียงบทบาทของงานรับใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป ลูกต้องทำงานรับใช้จนถึงเวลาสุดท้าย
ลูกเป็นผู้รับใช้เช่นนั้นใช่ไหม? หรือลูกนั้นเป็นผู้รับใช้แค่หนึ่งหรือสองเดือน?
ลูกเป็นผู้รับใช้ที่สม่ำเสมอ
ดังนั้นขอให้ความจริงจังและกระตือรือร้นนั้นคงอยู่ตลอดไป อัจชะ
ไม่ว่าลูกจะได้รับบทบาทอะไรก็ตามของงานรับใช้ในละคร มันเต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษ
ลูกนั้นมีประสบการณ์ของการได้รับความช่วยเหลือจากความกล้าหาญของลูก อัจชะ
ลูกมีความคิดที่สูงส่งที่จะเปิดเผยพ่อผ่านตัวลูกเอง เพราะเมื่อลูกเปิดเผยพ่อ
โลกเก่านี้ก็จะจบสิ้นลงและอาณาจักรของลูกก็จะมาถึง
การเปิดเผยพ่อหมายถึงการประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของลูก
ลูกมีความกระตือรือร้นอย่างสม่ำเสมอที่ลูกจะนำมาซึ่งอาณาจักรของลูกใช่ไหม?
เช่นที่ลูกมีความจริงจังและกระตือรือร้นสำหรับโปรแกรมพิเศษ
ดังนั้นเช่นกันขอให้มีความจริงจังและความกระตือรือร้นต่อความคิดนี้เสมอ
ลูกเข้าใจไหม?
บัพดาดาพบกลุ่ม:
ลูกเคยได้ยินมาแล้วอย่างมากมาย
เวลานี้ลูกต้องหลอมรวมทุกสิ่งที่ลูกเคยได้ยินมาไว้ในตนเอง
เพราะยิ่งลูกหลอมรวมไว้ในตนเองมากเท่าไหร่
ลูกก็จะกลับมาเต็มไปด้วยพลังเช่นเดียวกับพ่อมากตามนั้น ลูกคือนายใช่ไหม?
ดังนั้นเช่นที่พ่อคือผู้ทรงพลังอำนาจ
ในทำนองเดียวกันลูกก็คือนายผู้ทรงพลังอำนาจเช่นกัน
นั่นคือลูกคือผู้ที่หลอมรวมพลังทั้งหมดไว้ในตัวลูก
ลูกคือผู้ที่กลับมาทัดเทียมกับพ่อ
อย่าให้มีความแตกต่างปรากฏออกมาระหว่างพ่อกับลูกๆบนพื้นฐานของชีวิตของลูก
เช่นที่ลูกได้เห็นชีวิตของพ่อบราห์มา
ดังนั้นให้พ่อบราห์มาและลูกๆปรากฏให้เห็นว่าเป็นเช่นเดียวกัน
ในรูปที่มีตัวตนพ่อบราห์มากลายเป็นเครื่องมือในการแสดงให้เห็นการกระทำในทางปฏิบัติ
ดังนั้นจงกลับมาทัดเทียมเช่นกัน นั่นคือกลายเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจ
ดังนั้นลูกมีทุกพลังหรือไม่?
ลูกได้สร้างสมพลังเหล่านั้นแต่เป็นเพียงเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ไม่มากเท่าที่ลูกต้องการ ลูกไม่เต็มเปี่ยม ลูกต้องกลับมาเต็มเปี่ยมใช่ไหม?
ดังนั้นจงเพิ่มเปอร์เซ็นต์ อันดับนั้นได้รับบนพื้นฐานของการใช้พลังในเวลาที่ต้องการ
ลูกจะพูดอย่างไรหากไม่ได้ใช้พลังในเวลาที่ต้องการ? มันจะเป็นเหมือนกับมีแต่ไม่มี
เพราะพลังเหล่านั้นไม่มีประโยชน์ในเวลาที่ต้องการ
ดังนั้นจงตรวจสอบดูว่าพลังใดก็ตามที่ลูกต้องการ ตามเวลา
ลูกสามารถใช้พลังนั้นได้หรือไม่
ลูกต้องแสดงให้โลกเห็นรูปในทางปฏิบัติของการเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจที่ทัดเทียมกับพ่อ
แล้วเมื่อนั้นโลกก็จะยอมรับว่าผู้ทรงอำนาจได้รับการเปิดเผยแล้ว
นี่คือเป้าหมายของลูกใช่ไหม?
เวลานี้เราจะได้เห็นว่าใครจะได้อันดับนี้จนกว่าจะถึงการฉลองโกลเด้นจูบีลี่ อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกมีความเมตตาอย่างแท้จริงและวางแผนเพื่อความปลอดภัยของทุกดวงวิญญาณโดยมีความรู้สึกเพื่อให้คุณประโยชน์ต่อโลก
ในปัจจุบันบางดวงวิญญาณกลายเป็นเครื่องมือที่จะทำร้ายตัวเอง
จงมีเมตตาต่อพวกเขาและวางแผนบางอย่าง เมื่อลูกเห็นบทบาทของบางดวงวิญญาณ
อย่าได้ถูกรบกวน แต่คิดหาวิธีเพื่อความปลอดภัยของพวกเขา
อย่าคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นตลอดเวลาหรือต้นไม้ต้องสั่นคลอน ไม่เลย
จบสิ้นอุปสรรคที่เกิดขึ้นมา
ตามสมญาของลูกของการเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกและผู้ทำลายอุปสรรค
จงมีเมตตาในความคิด คำพูด และการกระทำของลูก
และให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศ
คติพจน์:
เพียงผู้ที่เฝ้าระมัดระวังระวังและใส่ใจกับความคิดของพวกเขาเท่านั้นที่สามารถเป็นคาร์มาโยคีได้
การบ้านพิเศษเพื่อมีประสบการณ์กับสภาพที่อะแวคในเดือนอะแวคนี้
หากลูกมีความหนักหน่วงหรือมีภาระใด ๆ จงออกกำลังกายทางจิต
เป็นคาร์มาโยคีในหนึ่งนาที
นั่นคือเป็นผู้ที่นำร่างกายที่มีตัวตนมาใช้และเล่นบทบาทของลูกในโลกที่มีตัวตน
ในนาทีถัดไปเป็นเทวดานางฟ้าที่ละเอียดอ่อนและมีประสบการณ์กับรูปที่ละเอียดอ่อนที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
ในนาทีต่อมาอยู่ในรูปที่ไม่มีตัวตนและมีประสบการณ์กับการเป็นผู้อาศัยของโลกที่ไม่มีตัวตน
เมื่อทำการฝึกฝนสิ่งนี้ลูกจะกลายเป็นแสงที่เบาสบายและความหนักหน่วงจะจบสิ้นลง