19.03.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวานผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธามาตั้งแต่ตอนเริ่มต้น ผู้ที่ใช้ 84
ชาติเกิดจะรับฟังความรู้ของลูกด้วยความใส่ใจอย่างมาก
พวกเขาจะเข้าใจทุกสิ่งจากสัญญาณ
คำถาม:
ลูกจะตระหนักรู้ได้อย่างไรว่าดวงวิญญาณนั้นใกล้ชิดกับครอบครัวเทพหรือห่างไกล?
คำตอบ:
ดวงวิญญาณที่เป็นของครอบครัวเทพของลูกจะยอมรับประเด็นของความรู้นี้ทั้งหมดและจะไม่สับสน
ยิ่งพวกเขาทำความเลื่อมใสศรัทธามามากเท่าไหร่พวกเขาก็จะยิ่งพยายามเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นลูกๆ ควรจะจับชีพจรของทุกคนก่อนที่จะรับใช้เขาหรือเธอ
โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆทางจิต ลูกๆ
เข้าใจว่าพ่อทางจิตนั้นไม่มีตัวตนและกำลังอธิบายแก่พวกเราด้วยร่างนี้ ฉัน
ดวงวิญญาณไม่มีตัวตนเช่นกันและฉันรับฟังด้วยร่างนี้ เวลานี้พ่อทั้งสองอยู่ด้วยกัน
ลูกๆ รู้ว่าทั้งสองพ่ออยู่ที่นี่ ลูกรู้จักพ่อที่สามด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามผู้นี้ดีกว่าผู้นั้น แต่อีกผู้หนึ่งนั้นดีที่สุด สิ่งนี้ตามลำดับกันไป
ดังนั้นลูกได้เคลื่อนออกจากความสัมพันธ์ของพ่อทางโลกของลูกและเวลานี้ลูกมีความสัมพันธ์กับพ่อทั้งสอง
พ่อนั่งที่นี่และบอกลูกว่าลูกควรอธิบายแก่ผู้คนอย่างไร
ผู้คนมากมายมาหาลูกที่งานออกร้านและนิทรรศการ ลูกรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ 84
ชาติเกิด ลูกสามารถรู้ได้อย่างไรว่าบางคนใช้ 84 ชาติเกิดหรือ 10 ชาติเกิดหรือ 20
ชาติเกิด? เวลานี้ลูกๆ
เข้าใจว่าผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างมากมายตั้งแต่ตอนเริ่มต้นจะได้รับผลที่ดีของสิ่งนั้นที่เท่าเทียมกันอย่างรวดเร็ว
หากพวกเขาทำความเลื่อมใสศรัทธามาน้อยกว่าหรือเริ่มช้ากว่าเล็กน้อยพวกเขาก็ได้รับผลที่น้อยกว่าและช้ากว่าเล็กน้อย
บาบากำลังอธิบายสิ่งนี้แก่ลูกๆ ผู้ที่ทำงานรับใช้ ถามพวกเขาว่า:
ท่านคือผู้คนของบารัตและดังนั้นท่านเชื่อในเหล่าเทพหรือไม่?
เคยมีอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ในบารัต ผู้ที่ใช้ 84
ชาติเกิดและได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามาตั้งแต่สิ่งนั้นเริ่มขึ้นจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปอยู่ที่นี่อย่างแท้จริง
พวกเขาจะรับฟังด้วยความใส่ใจอย่างมาก คนอื่นจะมาและมองดูรอบๆ
แล้วก็ออกไปโดยไม่ถามอะไรเลย ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ในสติปัญญาของพวกเขา
ดังนั้นจะเข้าใจได้ว่าพวกเขายังไม่ได้เป็นของที่นี่ ต่อมาพวกเขาอาจจะเข้าใจ
บางคนเข้าใจและพยักหน้าทันทีว่า: การคำนวณของ 84
ชาติเกิดนี้ถูกต้องแม่นยำอย่างแท้จริง พวกเขาถามว่า:
ฉันจะเข้าใจได้อย่างไรว่าฉันได้ใช้ 84 ชาติเกิดครบแล้ว? อัจชะ หากไม่ใช่ 84
ชาติเกิด ท่านอาจใช้ 82 ชาติเกิด แต่อย่างน้อยท่านจะได้เข้ามาในศาสนาเทพ
หากสติปัญญาของพวกเขาไม่ยอมรับอย่างมากก็เข้าใจได้ว่าพวกเขาไม่ได้ใช้ 84 ชาติเกิด
ผู้ที่อยู่ห่างไกลกว่าจะรับฟังความรู้น้อยกว่า
ผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธามามากกว่าจะพยายามรับฟังความรู้ให้มากขึ้นและจะเข้าใจอย่างรวดเร็ว
หากบางคนเข้าใจน้อยกว่าลูกควรตระหนักว่าพวกเขาจะมาในภายหลัง
พวกเขาต้องได้เคยเริ่มทำความเลื่อมใสศรัทธามาช้ากว่าเล็กน้อย
ผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามาอย่างมากมายจะเข้าใจด้วยสัญญาณ
ละครนี้ยังคงซ้ำรอยต่อไป ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความเลื่อมใสศรัทธา
บาบานี้ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามามากที่สุด
ผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามาน้อยกว่าจะได้รับผลน้อยกว่า
ประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดต้องเป็นที่เข้าใจ
ผู้ที่มีสติปัญญาที่หยาบไม่สามารถซึมซับสิ่งเหล่านี้
งานออกร้านและนิทรรศการจะเฝ้าแต่เกิดขึ้น
สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นในภาษาที่แตกต่างกันทั้งหมด ลูกต้องอธิบายแก่ทุกคนในโลก
ลูกคือผู้เผยแพร่และผู้นำสาสน์ที่แท้จริง ผู้ก่อตั้งศาสนาเหล่านั้นไม่ได้ทำสิ่งใด
พวกเขาไม่ใช่กูรู พวกเขาเรียกตนเองว่ากูรูแต่พวกเขาไม่ใช่ผู้ให้การหลุดพ้น
สถาบันของพวกเขาไม่มีอยู่ในเวลาที่พวกเขามา และดังนั้นพวกเขาจะให้การหลุดแก่ใคร?
กูรูคือผู้ที่ให้การหลุดพ้นกับใครบางคน
คือผู้ที่พาดวงวิญญาณจากโลกแห่งความทุกข์นี้ไปสู่อาณาเขตแห่งความสงบ พระคริสต์ฯลฯ
จะไม่ถูกเรียกว่ากูรู พวกเขาเป็นเพียงผู้ก่อตั้งศาสนา พวกเขาไม่มีตำแหน่งอื่น
เพียงผู้ที่มาก่อนและสะโตประธานและผู้ที่ผ่านสภาพสะโต ราโจ
และตาโมเท่านั้นที่มีตำแหน่ง
ในขณะที่ผู้อื่นเพียงแค่มาและก่อตั้งศาสนาของพวกเขาและยังคงกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่
เมื่อทุกคนอยู่ในสภาพตาโมประธานอีกครั้ง
พ่อก็มาและทำให้พวกเขาบริสุทธิ์และพาพวกเขากลับไป
หากลูกกลับมาบริสุทธิ์ลูกไม่สามารถอยู่ในโลกที่ไม่บริสุทธิ์ได้
ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์จะไปสู่การหลุดพ้นแล้วเข้ามาสู่ชีวิตของการหลุดพ้น
พวกเขาพูดว่าท่านคือผู้ให้การหลุดพ้นและผู้นำทางแต่พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น
หากพวกเขาเข้าใจความหมายพวกเขาจะรู้จักท่าน
คำพูดของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาไม่ได้คงอยู่ในยุคทอง
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้ในละครเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดยังคงเล่นบทบาทของตนเองต่อไป
ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถได้มาซึ่งการหลุดพ้น เวลานี้ลูกกำลังได้รับความรู้นี้
พ่อพูดว่า: พ่อมาแต่ละทุกวงจรในการบรรจบกันของทุกวงจร
นี่เรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่มีความเมตตากรุณามากที่สุด ไม่มียุคอื่นที่มีเมตตากรุณา
การบรรจบกันของยุคทองและยุคเงินไม่มีความสำคัญ
เมื่อสุริยวงศ์ผ่านไปแล้วก็เป็นอาณาจักรของจันทราวงศ์
เมื่อจันทราวงศ์เปลี่ยนไปเป็นวงสกุลพ่อค้า จันทราวงศ์ก็เป็นอดีต
ไม่มีใครรู้ว่าลูกจะกลายเป็นอะไรหลังจากนั้น
สามารถเข้าใจได้จากภาพลักษณ์ที่ยังคงอยู่ว่าผู้ที่เป็นของสุริยวงศ์เป็นบรรพบุรุษของเรา
และคนอื่นเป็นส่วนหนึ่งของจันทราวงศ์ ผู้คนเหล่านั้น(สุริยวงศ์)เป็นจักรพรรดิ
และผู้อื่น(จันทราวงศ์)เป็นราชา ผู้คนเหล่านั้นมั่งคั่งมาก ในขณะที่ผู้คนเหล่านี้ (จันทราวงศ์)สอบตก
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ใดฯลฯ เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก
ทุกคนพูดว่า: ปลดปล่อยพวกเรา! โปรดชำระพวกเราให้บริสุทธิ์!
พวกเขาไม่ร้องขอความสุขเนื่องจากความสุขได้ถูกประณามไว้ในคัมภีร์ ทุกคนถามว่า:
ฉันสามารถมีความสงบในจิตใจได้อย่างไร?
เวลานี้ลูกๆเข้าใจว่าลูกได้รับทั้งความสุขและความสงบ
ที่ใดก็ตามที่มีความสงบก็จะมีความสุขด้วยเช่นกัน
และที่ใดก็ตามที่ไม่มีความก็จะมีความทุกข์ด้วยเช่นกัน
ในยุคทองมีทั้งความสงบและความสุข ในขณะที่ที่นี่มีความทุกข์และความไม่สงบ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งนี้ มายาราวันได้ทำให้สติปัญญาของลูกตกต่ำอย่างสมบูรณ์
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้ในละครด้วย พ่อพูดว่า: พ่อถูกผูกไว้กับละครเช่นกัน
เวลานี้พ่อกำลังเล่นบทบาทของพ่อ สิ่งนี้คงอยู่ในเวลานี้เท่านั้น ลูกพูดว่า: บาบา
มีเพียงท่านเท่านั้นที่มาทุกๆ
วงจรและทำให้เราบริสุทธิ์และสูงส่งจากไม่บริสุทธิ์และเสื่อมทราม
ลูกกลับมาเสื่อมทรามด้วยราวัน เวลานี้พ่อมาและเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่มาและอธิบายแก่ลูกถึงนัยสำคัญของคำสรรเสริญในเพลง
พวกเขานั่งบนบัลลังก์อมตะแต่พวกเขาไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนั้น
บาบาได้อธิบายแก่ลูกแล้วว่าเป็นดวงวิญญาณที่เป็นภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ
ร่างกายนี้คือพาหนะของดวงวิญญาณนี้ ภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะ
ภาพลักษณ์ที่ไม่เคยประสบกับความตายกำลังนั่งในร่างนี้ ความตายจะไม่มาหาลูกในยุคทอง
จะไม่เคยมีความตายก่อนเวลาอันควรที่นั่น
นั่นคือดินแดนแห่งความเป็นอมตะในขณะที่นี่คือดินแดนแห่งความตาย
ไม่มีใครเข้าใจความหมายของ “ดินแดนอมตะ” หรือ “ดินแดนแห่งความตาย” พ่อพูดว่า:
พ่ออธิบายทุกสิ่งแก่ลูกด้วยวิธีที่ง่ายดายมาก
เพียงแค่จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นและลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
ผู้รู้และผู้เลื่อมใสศรัทธาร้องเพลงว่า: โอ้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์!
พวกเขาร้องเรียกหาพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ไม่ว่าลูกจะไปที่ไหนก็ตามพวกเขาจะร้องตะโกนออกมาอย่างแน่นอนว่า: “ผู้ชำระให้บริสุทธิ์”
สัจจะไม่สามารถซ่อนเร้นได้
ลูกรู้ว่าพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้มาแล้วและกำลังแสดงหนทางแก่เรา
วงจรที่แล้วเช่นกันท่านพูดว่า:
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอแล้วลูกจะกลับมาสะโตประธาน
ลูกทั้งหมดคือคู่รักของผู้เป็นที่รักเดียว
คู่รักเหล่านั้นเป็นเพียงของชาติเกิดเดียวในขณะที่ลูกทั้งหมดมีความรักต่อผู้เดียวนั้นเป็นเวลาหลายชาติเกิด
ลูกได้จดจำท่านและพูดว่า: โอ้ พระผู้! พ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ประทาน
จากพ่อเท่านั้นที่ลูกจะร้องขอบางสิ่ง เมื่อดวงวิญญาณไม่มีความสุขพวกเขาจดจำพ่อ
ไม่มีใครที่อยู่ในความสุขจะจดจำท่าน ทุกคนจดจำท่านเมื่อพวกเขาไม่มีความสุข “บาบาโปรดมาและให้การหลุดพ้น”
เช่นที่พวกเขาไปหากูรูของเขาและพูดว่า “ได้โปรดให้ลูกแก่พวกเราด้วย!” อัจชะ
ถ้าพวกเขาได้รับลูกพวกเขาก็จะมีความสุขมาก
อย่างไรก็ตามหากพวกเขาไม่ได้รับลูกพวกเขาจะพูดว่า “นี่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้า!”
พวกเขาไม่เข้าใจละครเลย หากพวกเขาพูดถึงละครพวกเขาควรจะรู้ทุกสิ่ง ลูกรู้จักละคร
ไม่มีใครอื่นรู้สิ่งนี้ ไม่ได้กล่าวไว้ในคัมภีร์ใด ละครหมายถึงละคร
ลูกควรรู้ถึงตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของละคร พ่อพูดว่า: พ่อมาทุกๆ ห้าพันปี
สี่ยุคนั้นเท่ากันอย่างสมบูรณ์ ได้มีการให้ความสำคัญกับสวัสดิกะด้วยเช่นกัน
มีการวาดสวัสดิกะไว้บนบัญชีแยกประเภท(สมุดบัญชี)ที่พวกเขาเก็บไว้
นี่คือบัญชีแยกประเภทที่เราทำกำไรแล้วจากนั้นก็ขาดทุนเช่นกัน
และจากการขาดทุนเราได้มาถึงสภาพของการสูญเสียทั้งหมดอย่างสิ้นเชิงในเวลานี้
นี่คือการละเล่นเกี่ยวกับชัยชนะและความพ่ายแพ้
หากมีพลานามัยดีและความมั่งคั่งก็จะมีความสุข
อย่างไรก็ตามหากมีความมั่งคั่งแต่ไม่มีพลานามัยดีก็จะไม่มีความสุข
พ่อให้ทั้งพลานามัยที่ดีและความมั่งคั่งแก่ลูกดังนั้นลูกก็จะมีความสุขด้วยเช่นกัน
เมื่อใครบางคนออกจากร่างของเขาพวกเขาบอกว่าดวงวิญญาณได้ไปสวรรค์แล้ว
แต่ภายในพวกเขาก็ประสบกับความทุกข์ อย่างไรก็ตามพวกเขาควรจะมีความสุขมากขึ้น
ทำไมพวกเขาจึงเชิญดวงวิญญาณนั้นให้กลับมายังนรกที่นี่? พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใด
เวลานี้พ่อมาและอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแก่ลูก
ท่านอธิบายความลับของเมล็ดและต้นไม้แก่ลูก
ไม่มีใครสามารถสร้างรูปภาพของต้นไม้เช่นนั้นได้
ผู้นี้ไม่ได้สร้างสิ่งนั้นขึ้นมาหรือไม่ได้เรียนรู้จากกูรู
หากท่านได้เรียนสิ่งนั้นจากกูรู กูรูนั้นก็จะมีสาวกอื่นๆอีกมากมาย
ผู้คนคิดว่ากูรูบางคนต้องเคยสอนสิ่งนี้ทั้งหมดแก่เขา
หรือพวกเขาคิดว่าพลังบางอย่างของดวงวิญญาณสูงสุดต้องเข้ามาในเขา
อย่างไรก็ตามพลังบางอย่างของดวงวิญญาณสูงสุดจะเข้ามาในเขาได้อย่างไร?
ผู้ที่น่าสงสารไม่เข้าใจสิ่งใดเลย พ่อเองกำลังนั่งที่นี่และบอกทุกสิ่งแก่ลูก
พ่อบอกลูกว่าพ่อเข้ามาในร่างกายที่แก่ชราที่ธรรมดา พ่อมาเพื่อสอนลูก
ผู้นี้ก็ฟังด้วยเช่นกัน: ความใส่ใจของเขาอยู่ที่พ่อ เขาก็เป็นนักเรียนเช่นกัน
เขาไม่ได้เรียกตนเองว่าสิ่งอื่นใด
พร้อมกับการเป็นพ่อของมวลมนุษย์เขาก็เป็นนักเรียนด้วยเช่นกัน
แม้ว่าเขามีนิมิตของการทำลายล้างเขาก็ไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
เขามาทำความเข้าใจทุกอย่างทีละน้อย เช่นเดียวกับที่ลูกเข้าใจในเวลานี้
พ่ออธิบายแก่ลูกและผู้นี้ที่อยู่ระหว่างกลางก็เข้าใจเช่นกัน
เขายังคงศึกษาเล่าเรียนต่อไป นักเรียนแต่ละคนพยายามที่จะศึกษาเล่าเรียน บราห์มา
วิษณุและชางก้าคือผู้อาศัยของอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน
ไม่มีใครรู้ว่าบทบาทของพวกเขาคืออะไร
พ่ออธิบายแต่ละประเด็นด้วยตัวท่านเองเพื่อที่ลูกไม่จำเป็นต้องถามคำถาม
ดวงวิญญาณสูงสุดชีวาอยู่ด้านบนสุดและแล้วจึงมีเหล่าเทพ
พวกเขาทำให้สิ่งเหล่านั้นปะปันกันได้อย่างไร?
เวลานี้ลูกๆรู้แล้วว่าพ่อเข้ามาในผู้นี้และเหตุนี้เองท่านทั้งสองจึงถูกเรียกว่าบัพดาดา
พ่อแยกต่างหากจากดาด้า (พี่ชายที่อาวุโสกว่า) ชีวาคือพ่อและบราห์มาคือดาด้า
ลูกได้รับมรดกของลูกจากชีวาผ่านผู้นี้ บราห์มินคือลูกของบราห์มา
พ่อได้รับลูกมาเลี้ยงดูตามแผนของละคร พ่อพูดว่า:
ผู้นี้เป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาอันดับหนึ่ง เขาได้ใช้ 84 ชาติเกิด
เขาได้รับการเรียกว่าผู้ที่น่าเกลียดและสวยงามด้วยเช่นกัน
กฤษณะสวยงามในยุคทองและเขากลับมาน่าเกลียดในยุคเหล็ก
เขาไม่บริสุทธิ์และเวลานี้กลับมาบริสุทธิ์ ลูกก็เช่นกัน
นี่คือโลกยุคเหล็กและนั่นคือโลกยุคทอง ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับบันได
ผู้ที่มาภายหลังไม่ได้ใช้ 84 ชาติเกิด พวกเขาจะใช้ชาติเกิดน้อยลงอย่างแน่นอน
แล้วพวกเขาปรากฏในบันไดได้อย่างไร?
บาบาได้อธิบายเกี่ยวกับผู้ที่ใช้จำนวนชาติเกิดสูงสุดและผู้ที่ใช้จำนวนชาติเกิดน้อยที่สุด
นี่คือความรู้ พ่อเท่านั้นคือผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ท่านพูดความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบ พวกเขาทั้งหมดได้พูดว่า “เนติ เนติ” (ไม่ใช่สิ่งนี้และสิ่งนั้น)
พวกเขาไม่รู้จักดวงวิญญาณของตนเองและดังนั้นพวกเขาจะรู้จักพ่อได้อย่างไร?
พวกเขาเพียงแค่พูดถึงดวงวิญญาณเพียงเพื่อได้พูดเท่านั้น พวกเขาไม่รู้สิ่งใดเลย
เวลานี้ลูกรู้ว่าดวงวิญญาณนั้นคงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์และที่เขามีบทบาทที่ไม่สูญสลายของ
84 ชาติเกิดถูกบันทึกไว้ภายในเขา
ดวงวิญญาณที่สุดแสนเล็กเช่นนั้นมีบทบาททั้งหมดบันทึกอยู่ภายใน
เป็นที่เข้าใจว่าผู้ที่รับฟังสิ่งนี้อย่างใส่ใจมากและเข้าใจด้วยเช่นกันคือผู้ที่ใกล้ชิด
หากความรู้นี้ไม่ได้นั่งอยู่ในสติปัญญาของพวกเขาก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าพวกเขาจะมาในภายหลัง
จงจับชีพจรของพวกเขาในเวลาของการให้ความรู้ ผู้ที่อธิบายก็ตามลำดับกันไปด้วยเช่นกัน
นี่คือการศึกษาเล่าเรียนของลูก อาณาจักรกำลังได้รับการก่อตั้งขึ้น
บางคนประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงที่สุดและสถานภาพของราชา
ในขณะที่ผู้อื่นกลายเป็นสาวใช้และคนรับใช้ของปวงประชา
อย่างไรก็ตามมันเป็นความจริงที่ว่าไม่มีความทุกข์ในยุคทอง
นั่นเรียกว่าเป็นดินแดนแห่งความสุขสวรรค์
เป็นเพราะว่าสวรรค์คงอยู่ในอดีตที่พวกเขาจดจำมัน ผู้คนคิดว่าสวรรค์ต้องอยู่เบื้องบน
มีอนุสรณ์ที่ถูกต้องแม่นยำของลูกแสดงไว้ในวัดดิลวาลา อดิเทพ อดิเทวี และลูกๆ
กำลังนั่งในโยคะบนพื้นและอาณาจักรได้รับการแสดงไว้เบื้องบน
ผู้คนไปดูสิ่งนั้นและให้เงินแต่พวกเขาไม่เข้าใจอะไรเลย
ลูกๆแต่ละคนได้รับตาที่สามของความรู้แล้ว
ก่อนอื่นใดลูกรู้ชีวประวัติของพ่อแล้วลูกต้องการอะไรอีก?
ด้วยการมารู้จักพ่อลูกก็เข้าใจทุกสิ่ง ดังนั้นควรจะมีความสุข
ลูกรู้ว่าเวลานี้ลูกจะไปสู่ยุคทองและสร้างปราสาทราชวังทองคำ ลูกจะปกครองที่นั่น
สติปัญญาของลูกที่มีค่าที่มีประโยชน์ในงานรับใช้จะรับรู้ได้ว่าพ่อทางจิตของเขาให้ความรู้ทางจิตนี้
พ่อของดวงวิญญาณเรียกว่าพ่อทางจิต ท่านคือผู้ให้การหลุดพ้น
ท่านให้มรดกของความสุขและความสงบ ลูกสามารถอธิบายแก่พวกเขา
รูปภาพของบันไดนี้เกี่ยวกับชาวบารัตที่ใช้ 84 ชาติเกิด
ลูกผ่านมาครึ่งวงจรและดังนั้นลูกจะใช้ 84 ชาติเกิดได้อย่างไร?
พวกเราใช้จำนวนของชาติเกิดมากที่สุด
สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ลึกล้ำมากและต้องเข้าใจ
สิ่งหลักคือการเชื่อมโยงสติปัญญาของลูกในโยคะกับพ่อเพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์
หากลูกสัญญาที่จะกลับมาบริสุทธิ์แต่แล้วก็กลับมาไม่บริสุทธิ์กระดูกของลูกจะถูกบดขยี้อย่างสิ้นเชิง
จะเหมือนราวกับว่าลูกตกลงมาจากตึกชั้นห้า
สติปัญญาของลูกจะไม่สะอาดอย่างสิ้นเชิงและสำนึกของลูกจะเริ่มกัดกร่อน
จากนั้นลูกจะไม่สามารถพูดเกี่ยวกับสิ่งใดได้เลย ด้วยเหตุนี้พ่อจึงพูดว่า:
จงอยู่อย่างระมัดระวัง! อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เข้าใจละครนี้อย่างถูกต้องแม่นยำและได้รับการปลดปล่อยจากบ่วงพันธะของมายา
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณเป็นภาพลักษณ์ที่อมตะ
จดจำระลึกถึงพ่อและกลับมาบริสุทธิ์
2.
กลายเป็นผู้เผยแพร่และผู้นำสาสน์ที่แท้จริงและแสดงให้ทุกคนเห็นหนทางไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
ให้คุณประโยชน์แก่ทุกดวงวิญญาณในยุคบรรจบพบกันที่มีความเมตตากรุณานี้
พร:
ขอให้ลูกเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมดและได้รับประสบการณ์ของสภาพที่สมบูรณ์พร้อมอย่างสม่ำเสมอด้วยการสำนึกรู้ถึงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
ผู้ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองอย่างสม่ำเสมอจะอยู่อย่างเป็นอิสระจากการควงของมายามากมายหลายประเภท
กงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองนั้นทำให้การควงสิ่งที่ไร้สาระจบสิ้นไป
มันไล่มายาออกไป มายาไม่สามารถอยู่เบื้องหน้าของดวงวิญญาณเช่นนั้นได้ เพราะลูกๆ
ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองนั้นเต็มอยู่เสมอ พวกเขาอยู่อย่างไม่สั่นคลอน
พวกเขาพบว่าตนเองเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมด
มายาพยายามที่จะทำให้พวกเขาว่างเปล่า แต่พวกเขาก็มีความระมัดระวัง
ตื่นตัวและก่อแสงไฟอยู่ตลอดเวลา และดังนั้นมายาก็ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเขาได้
ผู้ที่ได้รับความสนใจคือการแจ้งเตือนปลอดภัยตลอดเวลา
คติพจน์:
ให้คำพูดของลูกมีพลังมาก และมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์และสูงส่งหลอมรวมอยู่ในนั้น