19.02.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ฝึกฝนอยู่ในการจดจำระลึกถึงในขณะที่เดินเหินและเคลื่อนไหวไปทั่ว
ความรู้และโยคะนี้คือสองวิชาหลัก โยคะหมายถึงการจดจำระลึกถึง
คำถาม:
คำพูดใดที่ลูกที่ฉลาดจะไม่พูด?
คำตอบ:
ลูกที่ฉลาดจะไม่เคยพูดว่า "สอนโยคะแก่เรา!"
เราต้องเรียนรู้วิธีการจดจำพ่อของตนเองหรือไม่?
นี่คือโรงเรียนที่ลูกศึกษาเล่าเรียนแล้วสอนผู้อื่น
ไม่ใช่ว่าลูกต้องนั่งลงโดยเฉพาะเพื่อมีการจดจำระลึกถึง ในขณะที่ทำสิ่งต่างๆ
ลูกควรฝึกฝนที่จะอยู่ในการจดจำระลึกถึง
โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกทางจิต
ลูกรู้ว่าพ่อทางจิตกำลังพูดกับลูกผ่านพาหนะนี้ เวลานี้เมื่อลูกคือลูกของท่าน
เป็นสิ่งผิดที่จะขอให้พ่อหรือพี่น้องหญิงชายคนใดสอนลูกเกี่ยวกับวิธีที่จะนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อ
ลูกไม่ได้เป็นเด็กเล็กๆอีกต่อไปแล้ว ลูกรู้ว่าจิตวิญญาณคือสิ่งหลัก
จิตวิญญาณไม่สูญสลายในขณะที่ร่างกายนั้นสูญสลาย จิตวิญญาณนั้นยิ่งใหญ่กว่า
ในหนทางของความไม่รู้
ไม่มีใครมีความรู้ของการเป็นดวงวิญญาณหรือดวงวิญญาณพูดผ่านร่างกายของเขา
พวกเขาเข้ามาสู่สำนึกที่เป็นร่างแล้วพูดว่า "ฉันกำลังทำสิ่งนี้"
ในเวลานี้ลูกกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ลูกรู้ว่าเป็นดวงวิญญาณที่พูดว่า:
ฉันพูดและทำการกระทำผ่านร่างกายนี้ ดวงวิญญาณเป็นเพศชาย
พ่อพูดว่าท่านได้ยินคำพูดเหล่านี้หลายครั้งว่า "สอนวิธีนั่งโยคะแก่เรา!"
พวกเขามักพูดเช่นนี้บ่อยๆ เมื่อลูกนั่งและมีบางคนนั่งอยู่ข้างหน้าลูก
ลูกและบุคคลนั้นมีเป้าหมายของการนั่งในการจดจำระลึกถึงบาบา
พาทชาลานี้ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อจุดมุ่งหมายนั้น
พาทชาลานี้เป็นไปเพื่อการศึกษาเล่าเรียน
ไม่ใช่ว่าลูกจะมาที่นี่เพียงแค่นั่งในการจดจำระลึกถึง
พ่อได้อธิบายว่าในขณะที่ลูกนั่ง เดินเหินและเคลื่อนไหวไปทั่ว ลูกควรจดจำพ่อ
ไม่มีความจำเป็นใดสำหรับลูกที่จะนั่งเป็นพิเศษเพื่อที่จะมีการจดจำระลึกถึงนี้
บางคนบอกว่าให้สวดภาวนาชื่อของราม เป็นไปไม่ได้หรือที่จะจดจำท่านโดยไม่พูดชื่อราม?
ลูกสามารถจดจำท่านแม้ในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปทั่ว
ลูกต้องจดจำพ่อในขณะที่ทำการกระทำ
คู่รักไม่ได้นั่งลงเป็นพิเศษเพื่อจดจำซึ่งกันและกัน
ลูกต้องทำทุกสิ่งและดำเนินธุรกิจของลูกต่อไป ฯลฯ
พวกเขาจดจำผู้เป็นที่รักของพวกเขาในขณะที่ทำทุกสิ่ง
ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนสักแห่งและนั่งลงโดยเฉพาะเพื่อจดจำระลึกถึงกันและกัน
เมื่อลูกร้องเพลงและท่องบทกวี ฯลฯ บาบาพูดว่า นั่นเป็นของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา
พวกเขาพูดว่า: โอ ผู้ประทานความสงบ!
ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาต้องจดจำดวงวิญญาณสูงสุดและไม่ใช่กฤษณะ
ตามละครดวงวิญญาณได้กลับมาไม่สงบ และดังนั้นพวกเขาจึงร้องเรียกหาพ่อ
เพราะท่านคือมหาสมุทรแห่งความสงบ,ความสุขและความรู้ สองสิ่งหลักคือความรู้และโยคะ
โยคะหมายถึงการจดจำระลึกถึง
หฐโยคะของพวกเขานั้นจะแยกจากของลูกที่เรียกว่าเป็นราซาโยคะอย่างสิ้นเชิง
ลูกเพียงแค่ต้องจดจำพ่อ ด้วยการมาเพื่อรู้จักพ่อจากพ่อ ลูกก็จะได้รู้ถึงตอนเริ่ม
ตอนกลาง และตอนจบของโลกด้วยเช่นกัน
ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ลูกมีคือพระเจ้ากำลังสอนลูก
ก่อนอื่นใดลูกควรมีคำแนะนำที่ถูกต้องแม่นยำของพระเจ้า
ไม่มีใครรู้ว่าเช่นที่ดวงวิญญาณ คือดวงดาว ดังนั้นนั้นพระเจ้าคือดวงดาวเช่นกัน
ท่านคือดวงวิญญาณด้วยเช่นกัน แต่ท่านคือดวงวิญญาณสูงสุด
ท่านเรียกว่าเป็นดวงวิญญาณสูงสุด ท่านไม่เคยกลับมาใช้ชาติเกิด
ท่านไม่เคยเข้ามาสู่วงจรของการเกิดและการตาย ไม่เลย
ท่านอยู่เหนือการเกิดและการกลับชาติมาเกิด ท่านมาและอธิบายว่าท่านมาอย่างไร
มีคำสรรเสริญของตรีมูรติในบารัตเช่นกัน พวกเขาแสดงภาพของตรีมูรติ: บราห์มา วิษณุ
และชางก้า ด้วยเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่า: ขอคารวะต่อดวงวิญญาณสูงสุดชีวา
แต่พวกเขาได้ลืมพ่อที่สูงสุดเหนือสิ่งใด
พวกเขาเพียงแค่เก็บภาพลักษณ์ของตรีมูรติเอาไว้ อย่างไรก็ตามชีวาควรอยู่เหนือบราห์มา,วิษณุและชังก้าร์อย่างแน่นอนเพื่อที่จะสามารถเข้าใจได้ว่าชีวาคือผู้สร้างของพวกเขา
เราไม่เคยได้รับมรดกจากสิ่งสร้าง ลูกรู้ว่าลูกไม่ได้รับมรดกใดจากบราห์มา
มีการแสดงวิษณุพร้อมกับมงกุฎเพชรพลอย ชีพบาบาได้ทำให้ลูกมีค่าเต็มบาทจากเศษสตางค์
เนื่องจากที่ไม่มีภาพลักษณ์ของชีวา ทุกสิ่งจึงกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่จริง
ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดคือพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด และนี่คือสิ่งสร้างของท่าน
เวลานี้ลูกกำลังได้รับมรดกแห่งสวรรค์ของลูกสำหรับ 21 ชาติเกิดจากพ่อ
เมื่อลูกอยู่ที่นั่น ลูกจะเข้าใจว่าลูกได้รับมรดกของลูกจากพ่อทางร่างของลูก
แต่ลูกจะไม่รู้ว่าผลรางวัลนั้นได้มาจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
เวลานี้ที่ลูกได้รู้สิ่งนี้แล้ว รายได้ของลูกในเวลานี้จะคงอยู่กับลูกถึง 21
ชาติเกิด ลูกไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งนี้เมื่อลูกอยู่ที่นั่น
ลูกไม่ได้ตระหนักถึงความรู้นี้ที่นั่น ทั้งเหล่าเทพและศูทรไม่มีความรู้นี้
เพียงลูกๆบราห์มินเท่านั้นที่มีความรู้นี้ ความรู้นี้เป็นความรู้ทางจิต
ไม่มีใครรู้ความหมายของ “จิตวิญญาณ” พวกเขาพูดถึงหมอทางด้านปรัชญา(a doctor of
philosophy – คำใช้เรียกผู้ได้รับปริญญาเอก)
เพียงพ่อเท่านั้นที่เป็นหมอของความรู้ทางจิตวิญญาณ (Doctor of Spiritual Knowledge)
พ่อเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่าศัลยแพทย์ด้วยเช่นกัน ผู้รู้และชันยาสซีไม่ใช่ศัลยแพทย์
ผู้ที่ศึกษาพระเวทย์และคัมภีร์ไม่ได้เรียกว่าหมอ แม้ว่าพวกเขาจะได้รับสมญาเหล่านั้น
แต่ในความเป็นจริงเพียงพ่อทางจิตผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นศัลยแพทย์ทางจิตที่ให้การฉีดยาแก่จิตวิญญาณ
นั่นคือความเลื่อมใสศรัทธา
ดังนั้นลูกควรบอกพวกเขาว่าหมอของความเลื่อมใสศรัทธาสามารถให้ความรู้ของคัมภีร์เท่านั้นและไม่มีคุณประโยชน์ใดในสิ่งนั้น
ลูกยังคงลงมาเรื่อยๆและดังนั้นพวกเขาจะเรียกว่าหมอได้อย่างไร?
หมอควรให้ประโยชน์แก่ลูก พ่อนี้คือศัลยแพทย์ของความรู้ที่คงอยู่ตลอดไป
ลูกกลับมามีพลานามัยดีเสมอด้วยพลังโยคะ เพียงลูกเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้
ผู้อื่นนั้นจะรู้อะไร? ท่านเรียกว่าศัลยแพทย์ที่คงอยู่ตลอดไป
เพียงพ่อเท่านั้นที่มีพลังที่จะขจัดอัลลอยของกิเลสทั้งหมดจากดวงวิญญาณ
เพียงท่านเท่านั้นที่สามารถชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์และให้การหลุดพ้นจากบาปแก่พวกเขา
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นผู้ทรงพลังอำนาจ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ไม่มีมนุษย์ใดจะเรียกว่าเป็นผู้ทรงอำนาจ ดังนั้นพลังที่พ่อแสดงให้เห็นคืออะไร?
ท่านให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคนด้วยพลังของท่านเอง
ท่านเรียกว่าหมอแห่งความรู้ทางจิตวิญญาณ มีมนุษย์มากมายที่เรียกว่าหมอแห่งปรัชญา
แต่มีหมอทางจิตวิญญาณมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เวลานี้พ่อพูดว่า:
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำฉันผู้เป็นพ่อและกลับมาบริสุทธิ์
พ่อมาเพื่อทำให้โลกบริสุทธิ์ ดังนั้นทำไมลูกถึงไม่บริสุทธิ์? จงกลับมาบริสุทธิ์!
อย่าได้กลับมาไม่บริสุทธิ์! ลูกดวงวิญญาณทั้งหมดได้รับการชี้นำของพ่อ:
ในขณะที่อาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก จงอยู่อย่างบริสุทธิ์เหมือนดอกบัว
ด้วยการอยู่อย่างบริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด ลูกจะกลายเป็นนายของโลกที่บริสุทธิ์
ลูกได้ทำบาปมาเป็นเวลาหลายต่อหลายชาติเกิด
ดังนั้นเวลานี้จงจดจำพ่อแล้วบาปของลูกจะถูกเผาทิ้งไป
ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์อาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตน
ไม่มีใครที่ไม่บริสุทธิ์สามารถไปที่นั่น สติปัญญาของลูกต้องจดจำอย่างแน่นอนว่า
บาบากำลังสอนเรา นักเรียนจะเคยพูดหรือไม่ว่า: สอนวิธีที่จะจดจำครูของฉันแก่ฉัน?
จำเป็นอะไรที่จะต้องสอนการจดจำระลึกถึง? ไม่เป็นไรหากไม่มีใครนั่งที่นี่(บนกัดดี)
ลูกเพียงแค่ต้องจดจำพ่อของลูก
ลูกอยู่อย่างข้องแวะในธุรกิจของลูกตลอดทั้งวันและดังนั้นลูกจึงลืม
เหตุนี้เองจึงให้ลูกนั่งที่นี่ อย่างน้อยพวกเขาก็มีการจดจำเป็นเวลา 10 ถึง 15 นาที
ลูกต้องปลูกฝังนิสัยของการจดจำพ่อแม้กระทั่งในขณะที่ลูกกำลังทำทุกสิ่ง
ลูกพบปะผู้เป็นที่รักของลูกหลังจากครึ่งหนึ่งของวงจร ท่านพูดว่า:
เวลานี้จดจำพ่อเพื่อที่ว่าอัลลอยจะถูกขจัดออกไปจากดวงวิญญาณและลูกกลายเป็นนายของโลก
ดังนั้นทำไมลูกถึงไม่จดจำท่าน?
เมื่อมีการผูกโบระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในงานแต่งงานของพวกเขา
เธอก็ได้รับการบอกว่าสามีของเธอคือกูรูของเธอ,พระเจ้าของเธอ,ทุกสิ่งของเธอ
ทั้งๆที่เป็นเช่นนั้น เธอก็ยังคงจดจำเพื่อนฝูงญาติมิตรของเธอและกูรูของเธอฯลฯ
นั่นคือการจดจำผู้ที่มีร่างกาย ผู้นี้คือสามีเหนือสามีทั้งหมด ลูกต้องจดจำท่าน
บางคนพูดว่า "สอนวิธีที่จะนั่งในสันโดษในโยคะให้กับพวกเรา"
แต่จะเกิดอะไรขึ้นจากสิ่งนั้น? แม้ว่าลูกอาจจะนั่งที่นี่เป็นเวลา 10 นาที
อย่าคิดว่าลูกกำลังนั่งในการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอ
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาเมื่อพวกเขานั่งลงเพื่อกราบไหว้บูชาใครบางคน
สติปัญญาของพวกเขาก็เร่ร่อนไปอย่างมากมาย
ผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาอย่างจริงจังนั้นใส่ใจเกี่ยวกับการได้รับนิมิตเท่านั้น
พวกเขามีความปรารถนาอย่างยิ่งเช่นนั้นสำหรับนิมิตที่พวกเขายังคงนั่งอยู่ที่นั่น
พวกเขาหลุดหายไปในความคิดของความปรารถนานั้นอย่างสมบูรณ์และด้วยเหตุนั้นจึงได้รับนิมิต
นั่นเรียกว่าเป็นความเลื่อมใสศรัทธาอย่างจริงจัง
ความเลื่อมใสศรัทธาของพวกเขาเปรียบเสมือนความเลื่อมใสศรัทธาระหว่างคู่รักและผู้เป็นที่รัก
ผู้ที่ในขณะที่รับประทานอาหารและดื่ม ก็มีกันและกันไว้ในสติปัญญาของพวกเขา
ไม่มีเรื่องของกิเลสใดในสิ่งนั้น เป็นเพียงความรักต่อร่างกายของกันและกัน
และดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มองกันและกัน
เวลานี้พ่อได้อธิบายแก่ลูกๆว่าบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องด้วยการจดจำท่าน
ด้วยการจดจำผู้เป็นเมล็ด ลูกสามารถจดจำทั้งต้นไม้และลูกได้ใช้ 84 ชาติเกิดอย่างไร
นี่คือต้นไม้แห่งความหลากหลายของศาสนา
สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของลูกเท่านั้นที่บารัตเคยอยู่ในยุคทองและเวลานี้อยู่ในยุคเหล็ก
คำภาษาอังกฤษเหล่านี้ดีมาก ความหมายของคำเหล่านี้ก็ดีมาก
ดวงวิญญาณกลายเป็นเช่นทองและในภายหลังอัลลอยเข้าไปในพวกเขา
เวลานี้ดวงวิญญาณกลับมาไม่ถูกต้องอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเรียกว่ายุคเหล็ก
เครื่องประดับของดวงวิญญาณยุคเหล็กก็กลายเป็นเช่นเดียวกัน พ่อพูดว่า:
พ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ดังนั้นจดจำพ่อผู้เดียวอย่างสม่ำเสมอ
ลูกได้สวดภาวนาถึงพ่อว่า: โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ได้โปรดมา!
พ่อมาทุกๆวงจรเพื่อสอนวิธีการแก่ลูก: มานมานะบาฟและมาเดียจิบาฟ
นั่นคือกลายเป็นนายแห่งสวรรค์ ลูกบางคนพูดว่าลูกมีความสุขมากในโยคะ
แต่ไม่ได้มีความสุขมากนักในความรู้ พวกเขาเพียงแค่มีโยคะและจากไป
พวกเขาชอบโยคะเท่านั้น พวกเขาพูดว่าฉันต้องการความสงบเท่านั้น อัจชะ
ลูกสามารถจดจำพ่อในขณะที่ลูกกำลังนั่งอยู่ที่ใดก็ได้
ด้วยการจดจำบาบาลูกจะไปยังดินแดนแห่งความสงบ
ไม่มีเรื่องของการสอนโยคะสำหรับสิ่งนั้น ลูกเพียงแค่ต้องจดจำพ่อ
มีผู้คนมากมายที่ไปที่ศูนย์ของพวกเขาและนั่งในการจดจำระลึกถึงเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงหรือ
45 นาที พวกเขาเพียงแค่พูดว่า: ขอให้ฉันนั่งในโยคะสักครู่ หรือพวกเขาพูดว่า:
บาบาได้ให้โปรแกรมแก่เราที่จะนั่งในโยคะ ที่นี่บาบาพูดว่า:
ในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปทั่ว อยู่ในการจดจำระลึกถึง
ยังคงเป็นสิ่งที่ดีที่จะนั่งในการจดจำระลึกถึงมากกว่าที่จะไม่มีการจดจำระลึกถึงใดๆเลย
บาบาไม่ห้ามลูกทำสิ่งนี้ ลูกอาจจะนั่งตลอดทั้งคืนหากลูกต้องการ
แต่ลูกต้องไม่ปลูกฝังนิสัยของการจดจำบาบาในเวลากลางคืนเท่านั้น
ลูกต้องปลูกฝังนิสัยของการจดจำบาบาแม้กระทั่งในขณะที่ลูกกำลังทำทุกสิ่ง
ในสิ่งนี้เท่านั้นที่ลูกต้องเพียรพยายามอย่างมาก
สติปัญญาวิ่งไปในทิศทางอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน
สติปัญญาของพวกเขาก็เร่ร่อนไปทั่ว และดังนั้นพวกเขาจึงหยิกตนเอง ท่าน(บาบา)กำลังพูดถึงผู้เลื่อมใสศรัทธาที่แท้จริง
ดังนั้นที่นี่เช่นกันลูกควรพูดคุยกับตนเองด้วยวิธีนี้ว่า: ทำไมฉันถึงไม่จดจำบาบา?
หากฉันไม่จดจำท่าน ฉันจะกลายเป็นนายของโลกได้อย่างไร?
คู่รักและผู้เป็นที่รักเหล่านั้นติดกับอยู่ในรูปและนามของกันและกันในขณะที่ที่นี่ลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
ฉันดวงวิญญาณนี้แยกจากร่างกายนี้ เมื่อลูกเข้ามาในร่างกาย ลูกจะต้องทำการกระทำ
มีลูกๆมากมายที่พูดว่าลูกต้องการมีนิมิต ลูกจะมีนิมิตของอะไร? นั่นเป็นเพียงแค่จุด
อัจชะ บางคนพูดว่าพวกเขาต้องการได้นิมิตของกฤษณะ มีภาพลักษณ์ของกฤษณะ
ลูกจะมองเห็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตในรูปที่มีชีวิต มีคุณประโยชน์ใดในสิ่งนั้น?
ไม่มีคุณประโยชน์ใดในการได้นิมิต เมื่อลูกดวงวิญญาณจดจำพ่อ ลูกก็จะกลับมาบริสุทธิ์
ลูกไม่ได้กลายเป็นเช่นนารายณ์ด้วยการได้นิมิตของนารายณ์
ลูกรู้ว่าเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกคือการกลายเป็นเช่นลักษมีหรือนารายณ์
อย่างไรก็ตามลูกไม่สามารถกลายเป็นเช่นพวกเขาได้โดยไม่ศึกษาเล่าเรียน
ลูกกลับมาฉลาดด้วยการศึกษาเล่าเรียน
ประการแรกจงสร้างปวงประชาของลูกแล้วลูกจะสามารถกลายเป็นเช่นลักษมีหรือนารายณ์
สิ่งนี้ใช้ความเพียรพยายาม
ลูกต้องสอบผ่านด้วยเกียรตินิยมเพื่อที่จะไม่มีการลงโทษใดๆจากดารามราช
ลูกที่พิเศษนี้(บราห์มา)ก็อยู่กับลูกด้วยเช่นกัน เขาพูดด้วยเช่นกันว่า:
ลูกสามารถไปล้ำหน้าพ่ออย่างรวดเร็วมาก บาบามีภาระเช่นนั้น
เขาต้องคิดถึงสิ่งต่างๆมากมายตลอดวัน
พ่อไม่สามารถจดจำบาบาได้มากเท่ากับที่ลูกสามารถทำได้ ในเวลาอาหาร
พ่อเริ่มจดจำบาบาเล็กน้อยแล้วพ่อก็ลืม บางครั้งพ่อคิดว่าบาบาและพ่อจะไปเดินเล่น
แล้วขณะที่เดินเล่น พ่อก็ลืมบาบา การจดจำระลึกถึงนี้คือสิ่งที่ลื่นไหลอย่างมาก
การจดจำระลึกถึงลื่นไหลไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ลูกต้องทำความเพียรพยายามอย่างยิ่งในสิ่งนี้
ด้วยการมีการจดจำระลึกถึงเท่านั้นที่ดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ หากลูกสอนผู้คนมากมาย
ลูกจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
ผู้ที่เข้าใจความรู้นี้ได้ดีมากสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่ดี
ปวงประชามากมายถูกสร้างขึ้นที่นิทรรศการ
ลูกแต่ละคนสามารถรับใช้ผู้คนนับแสนที่นิทรรศการ
และดังนั้นสภาพของลูกควรเป็นไปตามนั้น เมื่อลูกไปถึงสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมของลูก
ร่างกายของลูกจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป เมื่อลูกก้าวหน้าไป
ลูกจะเข้าใจว่าสงครามจะเพิ่มขึ้นแล้วผู้คนมากมายจะเฝ้าแต่มาหาลูกอย่างต่อเนื่อง
คำสรรเสริญของลูกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาสุดท้ายแม้กระทั่งซานยาสซีก็จะมา
พวกเขาจะเริ่มจดจำพ่อ พวกเขาจะเล่นบทบาทของพวกเขาในการไปสู่ดินแดนของการหลุดพ้น
พวกเขาจะไม่รับความรู้นี้ อย่างไรก็ตามสาสน์ของลูกต้องไปถึงดวงวิญญาณทั้งหมด
ผู้คนมากมายจะเรียนรู้สิ่งนี้ผ่านหนังสือพิมพ์ มีหมู่บ้านมากมาย
ลูกต้องให้สาสน์แก่ทุกคนที่นั่นด้วย ลูกคือผู้ก่อตั้งศาสนาและผู้นำสาสน์
ไม่มีใครนอกจากพ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์
ไม่ใช่ว่าผู้ก่อตั้งศาสนาจะชำระใครให้บริสุทธิ์ ศาสนาของพวกเขาต้องขยายตัว
ดังนั้นพวกเขาจะแสดงหนทางกลับบ้านให้แก่ใครได้อย่างไร?
ผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทั้งหมดคือผู้เดียวเท่านั้น
ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน มีลูกมากมายที่ไม่ได้อยู่อย่างบริสุทธิ์
ตัณหาราคะคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แม้กระทั่งลูกที่ดีก็ถูกดึงลงมาด้วยสิ่งนี้
สายตาที่เลวร้ายคือร่องรอยของตัณหาราคะเช่นกัน ตัณหาราคะคือปีศาจที่ใหญ่มาก
พ่อพูดว่า: จงได้รับชัยชนะเหนือสิ่งนี้แล้วลูกจะมีชัยชนะเหนือโลก อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ปลูกฝังนิสัยของการอยู่ในการจดจำระลึกถึงในขณะที่มีการกระทำ
เพื่อที่จะกลับบ้านกับพ่อและจากนั้นกลายเป็นนายของโลกใหม่ที่บริสุทธิ์
ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน
2. เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง ลูกต้องรับใช้ผู้คนมากมาย
ลูกต้องสอนผู้คนมากมาย จงกลายเป็นผู้นำสาสน์ และให้สาสน์นี้แก่ทุกคน
พร:
ขอให้ลูกสละละทิ้งแม้กระทั่งจิตสำนึกของ “ของฉัน”
รูปที่ละเอียดอ่อนและกลายเป็นจักรพรรดิที่ไร้ความกลัวและไร้ความกังวลตลอดเวลา
ในโลกปัจจุบันมีความมั่งคั่งและหวาดกลัว ยิ่งพวกเขามีความมั่งคั่งมากเท่าไหร่
พวกเขาก็จะยิ่งกินและนอนด้วยความกลัวมากเท่านั้น ที่ใดมีจิตสำนึกของ "ของฉัน"
ก็จะมีความกลัวอย่างแน่นอน แม้ว่ากวางทองจะเป็นของฉันก็ยังมีความกลัว
อย่างไรก็ตามถ้าลูกพูดว่า:ของฉันคือชีพบาบาผู้เดียวเท่านั้น แล้วลูกก็จะไม่กลัว
ดังนั้นจงตรวจสอบ "ของฉัน ของฉัน"
นี้ในรูปที่ละเอียดอ่อนและสละละทิ้งมันและลูกจะได้รับพรของการเป็นผู้ที่ปราศจากความกลัวและเป็นจักรพรรดิที่ไร้ความกังวล
คติพจน์:
ให้ความเคารพนับถือต่อความคิดเห็นของผู้อื่นและลูกจะได้รับความเคารพโดยอัตโนมัติ