07.03.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกต้องชำระล้างทั้งโลกให้บริสุทธิ์ด้วยพลังโยคะ
ด้วยการเอาชนะมายาด้วยพลังโยคะ ลูกสามารถเป็นผู้เอาชนะโลกได้
คำถาม:
บทบาทของพ่อคืออะไร? ลูกๆ ตระหนักรู้ถึงบทบาทนั้นบนพื้นฐานใด?
คำตอบ:
บทบาทของพ่อคือการขจัดความทุกข์ของทุกคนและประทานความสุขให้กับพวกเขา
การปลดปล่อยทุกคนจากโซ่ตรวนของราวัน
กลางคืนของความเลื่อมใสศรัทธาได้จบสิ้นลงเมื่อพ่อมา พ่อให้คำแนะนำของพ่อเองแก่ลูก
และคำแนะนำของทรัพย์สมบัติของท่านด้วยเช่นกัน ด้วยการรู้จักพ่อผู้เดียว
ลูกก็จะรู้ทุกสิ่ง
เพลง:
ท่านคือแม่และท่านคือพ่อ
โอมชานติ
ลูกๆ เข้าใจความหมายของคำว่า “โอม ชานติ” แล้ว พ่อได้อธิบายแล้วว่าลูกคือดวงวิญญาณ
และลูกมีบทบาทหลักในละครโลกนี้ ใครมีบทบาทนี้?
ดวงวิญญาณได้นำร่างกายมาใช้และแสดงบทบาทของเขา
ดังนั้นเวลานี้พ่อกำลังทำให้ลูกๆมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ลูกมีสำนึกที่เป็นร่างมาเป็นเวลายาวนานมาก
เวลานี้พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
เวลานี้พ่อของเราได้มาแล้วตามแผนของละคร พ่อมาในเวลากลางคืน
ไม่มีการบันทึกวันที่หรือเวลาว่าท่านมาเมื่อใด
มีวันที่และเวลาสำหรับผู้ที่เกิดทางร่าง พ่อนั้นคือพ่อเหนือโลก
ท่านไม่ได้เกิดมาทางร่างกาย พวกเขาให้วันที่และเวลาฯลฯสำหรับการเกิดของกฤษณะ
สำหรับการเกิดของผู้นั้น (ชีวา)มีคำกล่าวว่าท่านนั้นถือกำเนิดด้วยความที่สูงส่ง
พ่อเข้ามาในผู้นี้และบอกพวกเราว่านี่คือละครที่ไม่มีขีดจำกัด
ภายในละครนี้ครึ่งวงจรเป็นกลางคืน พ่อมาเมื่อเป็นเวลากลางคืน
เมื่อมีความมืดมิดที่สุด ไม่มีวันที่หรือเวลาสำหรับสิ่งนั้น
ในปัจจุบันความเลื่อมใสศรัทธานั้นตาโมประธานด้วยเช่นกัน
เป็นเวลาครึ่งวงจรที่เป็นกลางวันที่ไม่มีขีดจำกัด พ่อเองนั้นพูดว่า:
พ่อเข้ามาในผู้นี้ มีการกล่าวไว้ในกีตะว่า, “พระเจ้าพูด”
อย่างไรก็ตามมนุษย์ไม่สามารถเป็นพระเจ้าได้ กฤษณะก็เป็นมนุษย์เช่นกัน
แต่มีคุณธรรมที่สูงส่ง นี่คือโลกของมนุษย์ ไม่ใช่โลกของเทพ มีการร้องเพลงว่า: “ขอคารวะต่อเทพบราห์มา”
ท่านคือผู้อาศัยอยู่ในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน ลูกๆ
รู้ว่าไม่มีเนื้อหนังหรือกระดูกที่นั่น มีเงาของแสงสีขาวที่ละเอียดอ่อน
เมื่อดวงวิญญาณอยู่ในโลกที่ไม่มีตัวตน
ดวงวิญญาณเหล่านั้นไม่มีทั้งร่างที่ละเอียดอ่อนและร่างที่เป็นกระดูก
ไม่มีมนุษย์คนใดที่รู้สิ่งนี้ เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและบอกลูกทั้งหมดนี้
เป็นเพียงบราห์มินเท่านั้นและไม่มีใครอื่นที่รับฟังสิ่งนี้
สกุลบราห์มินคงอยู่ในบารัตเท่านั้น และสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อพ่อสูงสุด,ดวงวิญญาณสูงสุดได้ก่อตั้งศาสนาบราห์มินด้วยประชาบิดาบราห์มาเท่านั้น
ท่านไม่ควรถูกเรียกว่าผู้สร้าง ไม่ใช่ว่าท่านจะสร้างสิ่งสร้างใหม่ขึ้น
ท่านเพียงแค่มาชุบชีวิตใหม่ ลูกๆ ร้องเรียกหาท่าน: “โอ้ บาบา
ได้โปรดมาสู่โลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้และทำให้พวกเราบริสุทธิ์ด้วยเถิด!”
เวลานี้ท่านกำลังทำให้ลูกบริสุทธิ์
และแล้วลูกก็จะชำระโลกนี้ให้บริสุทธิ์ด้วยพลังโยคะ
ด้วยการเอาชนะมายาลูกกลายเป็นผู้เอาชนะโลก
พลังโยคะเรียกว่าเป็นพลังของวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน ฤาษีและมุนีฯลฯ
ก็ต้องการความสงบ แต่พวกเขาไม่รู้ความหมายของความสงบ
ที่นี่ลูกต้องเล่นบทบาทอย่างแน่นอน
ดินแดนแห่งความเงียบสงบคือบ้านที่แสนหวานแห่งความเงียบสงบของลูก
เวลานี้ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าบ้านของลูกคือดินแดนแห่งความสงบ
เรามาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของเรา พวกเขาเรียกหาพ่อด้วยเช่นกัน: “โอ้
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์, ผู้ขจัดความทุกข์, ผู้ประทานความสุข,
ได้โปรดมาและปลดปล่อยพวกเราจากโซ่ตรวนเหล่านี้ของราวันด้วยเถิด”!
ความเลื่อมใสศรัทธาคือกลางคืนและความรู้คือกลางวัน
เมื่อกลางคืนของความเลื่อมใสศรัทธามาถึงจุดสิ้นสุดก็มีชัยชนะสำหรับความรู้
นี่คือการละเล่นเกี่ยวกับความสุขและความทุกข์
เวลานี้ลูกรู้ว่าในตอนเริ่มต้นลูกอยู่ในสวรรค์ ที่ลูกค่อยๆลงมา และแล้วก็มาถึงนรก
ไม่มีใครรู้ว่ายุคเหล็กจะจบสิ้นลงเมื่อใดหรือยุคทองจะเริ่มขึ้นเมื่อใด
ด้วยการรู้จักพ่อลูกก็มาเพื่อที่จะรู้ทุกสิ่งจากท่าน
ผู้คนล้มลุกคลุกคลานไปทั่วอย่างมากในการแสวงหาพระเจ้าของพวกเขา พวกเขาไม่รู้จักพ่อ
เมื่อท่านมาและให้คำแนะนำของตัวท่านเองและให้คำแนะนำของทรัพย์สมบัติของท่านเท่านั้นที่พวกเขาจะสามารถรู้จักท่านได้
มรดกได้รับมาจากพ่อ, ไม่ใช่จากแม่ ผู้นี้เรียกว่าเป็นมาม่าผู้เป็นแม่เช่นกัน
แต่ลูกไม่ได้รับมรดกจากท่าน ลูกต้องไม่จดจำท่าน บราห์มา
วิษณุและชังก้าร์เป็นลูกๆของชีวาเช่นกัน ไม่มีใครรู้สิ่งนี้เช่นกัน
มีเพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้สร้างทั้งโลกที่ไม่มีขีดจำกัด คนอื่นๆ
ทั้งหมดคือสิ่งสร้างของท่าน พวกเขาคือผู้สร้างที่มีขีดจำกัด เวลานี้พ่อบอกลูกๆ ว่า:
จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง มนุษย์ไม่รู้จักพ่อของพวกเขา,และดังนั้นพวกเขาจะจดจำใคร?
ดังนั้นพ่อพูดว่า: พวกเขากลายเป็นลูกกำพร้าอย่างแท้จริง
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วในละครเช่นกัน
ทั้งในความเลื่อมใสศรัทธาและในความรู้การกระทำที่สูงส่งที่สุดคือการให้ทาน
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาผู้คนให้ทานในนามของพระเจ้า เพื่ออะไร?
แน่นอนว่าพวกเขามีความปรารถนาบางอย่าง
พวกเขาเข้าใจว่าไม่ว่าการกระทำใดก็ตามที่พวกเขากระทำ
พวกเขาจะได้รับผลของสิ่งนั้นในชาติเกิดต่อไป
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่พวกเขาทำในชาติเกิดปัจจุบันของเขา
พวกเขาก็จะได้รับผลของสิ่งนั้นในชาติเกิดต่อไปของเขา
พวกเขาจะไม่ได้รับสิ่งนั้นชาติแล้วชาติเล่า พวกเขาได้รับผลเพียงชาติเดียวเท่านั้น
การกระทำที่ดีที่สุดคือการให้ทาน ผู้ให้ทานนั้นก็เรียกว่าดวงวิญญาณบุญ
บารัตได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่
พวกเขาจะไม่ให้ทานมากมายในแผ่นดินอื่นๆเช่นที่พวกเขาทำในบารัต
พ่อมาและให้ทานแก่ลูกๆ แล้วลูกๆ ก็ให้ทานแก่พ่อ มีคำกล่าวว่า “บาบา
เมื่อท่านมาเราจะให้ทุกสิ่งแก่ท่าน - ร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สมบัติ
เราไม่มีใครนอกจากท่าน” พ่อพูดด้วยเช่นกันว่า: พ่อก็มีแต่ลูกๆ เท่านั้นเช่นกัน
ลูกเรียกพ่อว่าพระเจ้าแห่งสวรรค์ผู้เป็นพ่อ นั่นคือผู้เดียวที่สร้างสวรรค์
พ่อมาและให้อำนาจในการปกครองสวรรค์แก่ลูก ลูกๆ ให้ทุกสิ่งแก่พ่อด้วยการพูดว่า: บาบา
ทั้งหมดนี้เป็นของท่าน ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาลูกเคยพูดด้วยเช่นกันว่า: บาบา
ท่านได้ให้ทั้งหมดนี้แก่เรา
และแล้วเมื่อสิ่งนั้นได้ใช้ไปจนหมดลูกก็กลับมาไม่มีความสุข
นั่นคือความสุขชั่วคราวของความเลื่อมใสศรัทธา พ่ออธิบายว่า:
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ลูกเคยให้ทานและทำบุญทางอ้อม
ลูกได้รับผลของสิ่งนั้นอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ในเวลาปัจจุบันนี้
พ่ออธิบายแก่ลูกถึงนัยสำคัญของการกระทำ การกระทำที่เป็นบาปและการกระทำที่เป็นกลาง
ไม่ว่าการกระทำใดก็ตามที่ลูกกระทำในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาลูกจะได้รับความสุขชั่วคราวของสิ่งนั้นผ่านพ่อ
ไม่มีใครอื่นในโลกรู้ถึงสิ่งเหล่านี้
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและบอกลูกถึงจุดที่ลึกล้ำของปรัชญาแห่งกรรม
ไม่มีใครทำกรรมที่ไม่ดีในยุคทอง มีความสุขและมีแต่ความสุขเท่านั้นที่นั่น
ผู้คนจดจำสวรรค์ว่าเป็นดินแดนแห่งความสุข เวลานี้ทุกคนกำลังนั่งอยู่ในนรก
แม้กระนั้นพวกเขาก็พูดว่าผู้นั้นผู้นี้ไปสวรรค์ ดวงวิญญาณชอบสวรรค์อย่างมาก!
เป็นดวงวิญญาณที่พูดว่า: ผู้นั้นผู้นี้ไปสู่สวรรค์
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเวลานี้ดวงวิญญาณตาโมประธาน
พวกเขาจึงไม่รู้ว่าสวรรค์เป็นเช่นไรหรือนรกเป็นอย่างไร พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดว่า:
ลูกทั้งหมดกลับมาตาโมประธานอย่างมาก! ลูกไม่รู้จักละคร
ลูกเข้าใจว่าวงจรโลกหมุนไปและดังนั้นวงจรต้องหมุนไปเหมือนเดิมทุกประการอย่างแน่นอน
ผู้คนพูดเช่นนี้เพียงเพื่อที่จะพูดเท่านั้น เวลานี้คือยุคบรรจบพบกัน
มีคำยกย่องสำหรับยุคบรรจบพบกันเดียวนี้เท่านั้น
อาณาจักรของเหล่าเทพคงอยู่เป็นเวลาครึ่งวงจร แล้วอาณาจักรนั้นหายไปไหน?
ใครเอาชนะสิ่งนี้? ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ พ่อพูดว่า: ราวันได้เอาชนะสิ่งนี้
แล้วพวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นสงครามระหว่างเทพและปีศาจ เวลานี้พ่ออธิบาย:
ลูกพ่ายแพ้กิเลสทั้งห้าของราวัน แล้วลูกก็ได้รับชัยชนะเหนือราวันด้วยเช่นกัน
ลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาแล้วลูกก็กลายเป็นผู้ที่กราบไหว้บูชา
ลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์ ดังนั้นลูกพ่ายแพ้ราวันใช่ไหม?
เป็นเพราะราวันคือศัตรูของลูกที่ลูกเผาหุ่นจำลองของเขาตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามลูกไม่รู้สิ่งนี้ เวลานี้พ่ออธิบาย: ลูกกลับมาไม่บริสุทธิ์เพราะราวัน
กิเลสเหล่านี้เรียกว่ามายา ผู้ที่เอาชนะมายาจะกลายเป็นผู้เอาชนะโลก
ราวันคือศัตรูที่เก่าแก่ที่สุดของลูก
เวลานี้ลูกได้รับชัยชนะเหนือกิเลสทั้งห้าเหล่านี้ด้วยการทำตามศรีมัท
พ่อมาเพื่อทำให้ลูกมีชัยชนะ นี่คือเกม ผู้ที่พ่ายแพ้มายาก็สูญเสียทุกสิ่ง
และผู้ที่เอาชนะมายาก็เอาชนะทุกสิ่ง
เพียงพ่อเท่านั้นที่ทำให้ลูกสามารถที่จะได้รับชัยชนะ
เหตุนี้เองท่านจึงเรียกว่าเป็นผู้ทรงอำนาจ
ราวันเช่นกันก็เป็นผู้ทรงอำนาจที่ไม่ยิ่งหย่อนเลย
แต่เนื่องจากเขาเป็นเหตุแห่งความทุกข์ เขาจึงไม่ได้รับการยกย่อง ราวันมีพลังมาก
เขาช่วงชิงอาณาจักรของลูกไป
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกได้สูญสิ้นอาณาจักรไปอย่างไรและลูกเอาชนะเพื่อให้ได้อาณาจักรนั้นกลับคืนมาอย่างไร
ดวงวิญญาณต้องการความสงบด้วยเช่นกัน: ฉันต้องการกลับไปยังบ้านของฉัน
ผู้เลื่อมใสศรัทธาจดจำพระเจ้า แต่เนื่องจากสติปัญญาของพวกเขาเป็นเหมือนหิน
พวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าพระเจ้าคือพ่อและผู้ที่พวกเขาต้องได้รับมรดกจากท่านอย่างแน่นอน
ลูกได้รับมรดกนั้นอย่างแน่นอน
แต่ลูกไม่รู้ว่าลูกได้รับสิ่งนั้นเมื่อไหร่หรือลูกนั้นได้สูญเสียไปอย่างไร
พ่อพูดว่า: พ่อนั่งในร่างนี้ของบราห์มาและอธิบายแก่ลูก
พ่อก็ต้องการอวัยวะทางร่างเช่นกัน พ่อไม่ได้มีอวัยวะทางร่างของพ่อเอง
มีอวัยวะประสาทสัมผัสในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อนด้วย
ลูกเดินเหินและเคลื่อนไหวไปทั่วเหมือนอยู่ในหนังเงียบ
มีภาพยนตร์เงียบและภาพยนตร์ที่มีเสียงเกิดขึ้น
และดังนั้นพ่อเห็นว่าเป็นสิ่งที่ง่ายที่จะอธิบาย
พวกเขามีพลังทางวัตถุในขณะที่ลูกมีพลังโยคะ หากพี่น้องทั้งสอง(รัสเซียและอเมริกา)จะมารวมกัน
พวกเขาก็จะสามารถปกครองทั้งโลกได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันพวกเขาถูกแบ่งแยกออกจากกัน
ลูกๆควรมีความภาคภูมิที่บริสุทธิ์ของความเงียบสงบ
ลูกเอาชนะโลกด้วยความเงียบสงบและบนพื้นฐานของ “มานมานะบาฟ”
พวกเขามีความภาคภูมิของวิทยาศาสตร์(science)
ในขณะที่ลูกมีความภาคภูมิของความเงียบสงบ (silence)
ซึ่งลูกพิจารณาว่าตัวเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
เป็นการจดจำระลึกถึงนี้ที่ลูกกลับมาสะโตประธาน บาบาได้แสดงวิธีที่ง่ายดายมากแก่ลูก
ลูกรู้ว่าชีพบาบามาเพื่อที่จะให้มรดกแห่งสวรรค์ของลูกแก่ลูกๆอีกครั้ง
ไม่ว่าลูกจะมีบ่วงพันธะยุคเหล็กใดก็ตาม พ่อพูดว่า: ลืมสิ่งเหล่านั้น!
ให้ทานแม้กระทั่งกิเลสทั้งห้าของลูกแก่พ่อ! ลูกเคยพูดว่า “ของฉัน, ของฉัน”
มาเป็นเวลานาน “สามีของฉัน สิ่งนี้ของฉัน สิ่งนั้นของฉัน” ลืมทั้งหมดนั้น
ในขณะที่เห็นทุกสิ่งอย่าได้มีความผูกพันยึดมั่นต่อสิ่งใด
บาบาอธิบายสิ่งเหล่านี้แก่ลูกๆเท่านั้น
ผู้ที่ไม่รู้จักพ่อไม่สามารถเข้าใจภาษานี้ได้
พ่อมาและเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ เหล่าเทพมีชีวิตอยู่ในยุคทอง
มีมนุษย์ธรรมดาในยุคเหล็ก แม้แต่ในเวลานี้ก็ยังคงมีสิ่งชี้บอกของเหล่าเทพ
มีภาพลักษณ์หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ลูกเรียกพ่อว่า “ผู้ชำระให้บริสุทธิ์”
พ่อไม่ได้กลับมาตกต่ำ ลูกพูดว่า:
เราเคยบริสุทธิ์แล้วเราก็กลับมาตกต่ำและไม่บริสุทธิ์
เวลานี้ท่านต้องมาและชำระพวกเราให้บริสุทธิ์เพื่อที่เราจะสามารถกลับบ้านของเราได้
นี่คือความรู้ทางจิต เหล่านี้คือเพชรพลอยแห่งความรู้ที่ไม่สูญสลาย
นี่คือความรู้ใหม่
เวลานี้พ่อสอนความรู้นี้แก่ลูกและบอกลูกถึงความลับของผู้สร้างและตอนเริ่ม
ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง เวลานี้นี่คือโลกเก่า
ขจัดความผูกพันยึดมั่นทั้งหมดของลูกออกจากทุกคนรวมทั้งเพื่อนฝูงญาติมิตรและแม้แต่ร่างกายของลูกเอง
เวลานี้ลูกๆ ได้ให้ทุกสิ่งแก่พ่อ จากนั้นพ่อก็จะให้อำนาจในการปกครองสวรรค์เป็นเวลา
21 ชาติเกิดแก่ลูก การให้และการรับเกิดขึ้นใช่ไหม?
พ่อให้โชคของอาณาจักรของลูกแก่ลูกเป็นเวลา 21 ชาติเกิด ผู้คนพูดถึง 21 ชาติเกิด 21
ชั่วอายุคน นั่นหมายความว่าลูกมีชีวิตที่สมบูรณ์เป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ที่นั่นลูกไม่ได้ออกจากร่างของลูกในวัยกลางคน ไม่มีความตายก่อนเวลาอันควร
ลูกกลายเป็นอมตะและกลายเป็นนายของดินแดนแห่งความเป็นอมตะ
ความตายไม่เคยไปหาลูกที่นั่น เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามที่จะตาย พ่อพูดว่า:
ละทิ้งความสัมพันธ์ทางร่างทั้งหมดรวมทั้งร่างกายของลูกเองและมีความสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกกับพ่อผู้เดียว
เวลานี้ลูกต้องเข้าไปสู่ความสัมพันธ์ของความสุข
ลูกจะเฝ้าแต่ลืมบ่วงพันธะแห่งความทุกข์ ในขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก
ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์ พ่อพูดว่า: จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
และพร้อมกันนั้นสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน กลายเป็นเหมือนกับเทพเหล่านี้
นี่คือเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูก ลักษมีและนารายณ์เคยเป็นนายแห่งสวรรค์
พวกเขาประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรนั้นได้อย่างไร? แล้วพวกเขาไปที่ไหน?
ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ เวลานี้ลูกๆต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งเหล่านี้
อย่าได้เป็นเหตุของความทุกข์แก่ใคร พ่อคือผู้ขจัดความทุกข์และเป็นผู้ประทานความสุข
ดังนั้นลูกต้องชี้หนทางแห่งความสุขนี้ให้กับทุกคน
นั่นคือลูกต้องกลายเป็นไม้เท้าสำหรับคนตาบอด
เวลานี้พ่อให้ดวงตาที่สามแห่งความรู้แก่ลูก
เวลานี้ลูกรู้ว่าพ่อเล่นบทบาทของท่านอย่างไร
ทุกสิ่งที่พ่อสอนลูกในเวลานี้จะหายไปภายหลัง เหล่าเทพไม่ได้มีความรู้นี้
เพียงลูกๆบราห์มิน
ลูกๆที่เกิดจากปากของบราห์มาเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับความรู้ของผู้สร้างและสิ่งสร้าง
ไม่มีใครอื่นสามารถรู้สิ่งนี้ หากลักษมีและนารายณ์เคยมีความรู้นี้
นั่นก็จะหมายความว่าความรู้นี้คงอยู่มาตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของเวลา
ที่นั่นไม่มีความจำเป็นสำหรับความรู้ เพราะทุกคนที่นั่นอยู่ในสภาพของการหลุดพ้น
เวลานี้ลูกให้ทานทุกสิ่งแก่พ่อ แล้วพ่อก็ให้ทุกสิ่งกับเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ไม่มีใครอื่นสามารถให้ทานเช่นนั้นได้ ลูกรู้ว่าลูกต้องให้ทุกสิ่ง
บาบาทั้งหมดนี้เป็นของท่าน ท่านเป็นทุกสิ่งสำหรับเรา ท่านคือแม่และพ่อ
ท่านเล่นบทบาทของท่าน ท่านนำพวกเราลูกๆมาเลี้ยงดู แล้วท่านเองก็สอนพวกเรา
แล้วท่านเองก็กลายเป็นกูรูและพาพวกเรากลับบ้าน ท่านพูดว่า:
จดจำพ่อและลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ แล้วพ่อก็จะพาลูกกลับบ้านไปกับพ่อ
ไฟบูชายัญที่สร้างขึ้นนี้คือไฟบูชายัญของความรู้ของชีวา ลูกสังเวยร่างกาย จิตใจ
และทรัพย์สมบัติของลูกในไฟนี้ ลูกอุทิศทุกสิ่งในความสุข
เพียงดวงวิญญาณเท่านั้นที่ยังคงอยู่ บาบาเวลานี้เราจะทำตามศรีมัทของท่านเท่านั้น
พ่อพูดว่า: ในขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์
เมื่อใครบางคนอายุถึง 60 ปี เขาก็เตรียมการที่จะไปสู่สภาพของการปลดเกษียณ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เตรียมการที่จะกลับบ้าน เวลานี้ลูกได้รับมันตราจากสัตกูรู:
มานมานะบาฟ! พระเจ้าพูด: จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง บอกทุกคน:
เวลานี้คือยุคของการปลดเกษียณสำหรับลูกๆ ทั้งหมด จดจำชีพบาบา!
เวลานี้ลูกต้องกลับบ้านของลูก อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ทำให้ดวงวิญญาณสะโตประธานด้วยการขจัดบ่วงกรรมในยุคเหล็กทั้งหมดของลูกออกไปจากสติปัญญาของลูกและให้ทานกิเลสทั้งห้า
รักษาความภาคภูมิที่บริสุทธิ์ของความเงียบสงบ
2. ใช้ร่างกาย จิตใจ
และทรัพย์สมบัติของลูกในหนทางที่มีค่าด้วยการสังเวยสิ่งเหล่านั้นด้วยความสุขในไฟบูชายัญของรูดร้านี้
ให้ทุกสิ่งแก่พ่อในเวลานี้และประกาศสิทธิ์ในอาณาจักรของลูกจากพ่อเป็นเวลา 21
ชาติเกิด
พร:
ขอให้ลูกขอให้ลูกไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนอย่างสม่ำเสมอและจบสิ้นความปั่นป่วนด้วยสำนึกรู้ของการเป็นเครื่อง
มือ
เมื่อลูกมีสำนึกรู้ว่าเป็นเครื่องมือลูกก็จะจบสิ้น “ฉัน”และ “ของฉัน”มากมายหลายประเภทได้อย่างง่ายดาย
สำนึกรู้นี้ปลดปล่อยลูกจากความปั่นป่วนทุกประเภทและให้ประสบการณ์ของสภาพที่ไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนแก่ลูก
ลูกไม่ต้องทำงานหนักเพื่องานรับใช้
เพราะสติปัญญาของผู้ที่กลายเป็นเครื่องมือมักตระหนักอยู่เสมอว่าสิ่งที่พวกเขาทำคนอื่น
ๆ ที่เห็นพวกเขาจะทำแบบเดียวกัน
การเป็นเครื่องมือในงานรับใช้หมายถึงก้าวขึ้นมาบนเวที
สายตาของทุกคนจะถูกดึงไปที่เวทีโดยอัตโนมัติ
สำนึกรู้นี้กลายเป็นวิธีสำหรับความปลอดภัยของลูก
คติพจน์:
เป็นอิสระจากทุกสถานการณ์และลูกจะสัมผัสกับการค้ำจุนของพระเจ้าผู้เป็นพ่อ