16.02.20    Avyakt Bapdada     Thai Murli     25.11.85     Om Shanti     Madhuban


สิ่งบ่งชี้ของเพชรพลอยแห่งชัยชนะที่มีศรัทธาในสติปัญญา


วันนี้บัพดาดากำลังมองดูลูกประคำของเพชรพลอยแห่งชัยชนะของท่าน ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญา ลูกแต่ละคนเชื่อว่าเขาหรือเธอนั้นมีศรัทธาที่มั่นคง มีลูกน้อยคนที่แทบจะไม่เชื่อในสิ่งนี้ ถ้าลูกถามใครว่าเขาหรือเธอมีศรัทธาในสติปัญญาหรือไม่ คำตอบของพวกเขาก็คงจะเป็นเช่นนี้, “ฉันจะเป็นบราห์มา กุมารและกุมารีได้อย่างไรถ้าฉันไม่มีศรัทธา?” ในการตอบคำถามเกี่ยวกับศรัทธา ทุกคนจะพูดว่า,“ใช่ ฉันมีศรัทธา” พวกเราสามารถพูดได้ว่าทุกคนที่กำลังนั่งอยู่ที่นี่มีศรัทธาในสติปัญญาใช่ไหม? หรือผู้ที่รู้สึกว่าพวกเขายังคงต้องพัฒนาศรัทธา ยกมือขึ้น! ลูกทั้งหมดนั้นมีศรัทธาในสติปัญญา โอเค, ถ้าลูกทั้งหมดมีศรัทธาที่มั่นคงแล้วทำไมจึงมีลำดับในลูกประคำแห่งชัยชนะ? ในแง่ของศรัทธา,ทุกคนมีคำตอบเดียวกัน ถ้าเช่นนั้นแล้วทำไมจึงมีลำดับ? มีความแตกต่างของการเป็น 1 ใน 8 , 1 ใน 100 , และ 1 ใน 16,000 อะไรคือเหตุผลสำหรับสิ่งนี้? มีความแตกต่างมากมายในคำสรรเสริญและการกราบไหว้บูชาเทพพิเศษทั้ง 8 และลูกประคำ 16,000 ลูกมีศรัทธาว่าพ่อคือผู้เดียว ที่ลูกทั้งหมดเป็นของผู้เดียว แล้วทำไมจึงมีความแตกต่างนี้? จะสามารถมีเปอร์เซ็นต์ของการมีศรัทธาในสติปัญญาหรือไม่? หากมีเปอร์เซ็นต์ในศรัทธาของลูก แล้วนั่นจะเรียกว่าศรัทธาหรือไม่? ลูกอาจจะพูดว่าสติปัญญาของเพชรพลอยทั้ง 8 นั้นมีศรัทธา และสติปัญญาของ 16,000 ก็มีศรัทธาด้วยใช่ไหม?

สิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการมีศรัทธาในสติปัญญาคือชัยชนะ ด้วยเหตุนี้จึงมีคำสรรเสริญ:ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญามีชัยชนะ ดังนั้นการมีศรัทธาหมายความว่าลูกมีชัยชนะ เป็นไปไม่ได้สำหรับลูกที่จะได้รับชัยชนะในบางครั้งและไม่ได้รับในบางครั้ง ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร ลูกๆที่มีศรัทธาในสติปัญญาจะได้รับชัยชนะเหนือสถานการณ์นั้นเสมอบนพื้นฐานของพลังตามสภาพของพวกเขา ผู้ที่กลายเป็นเพชรพลอยแห่งชัยชนะ นั่นคือผู้ที่กลายลูกปัดของลูกประคำแห่งชัยชนะและพวงมาลัยรอบคอไม่สามารถพ่ายแพ้ต่อมายาได้ แม้ว่าผู้คนในโลกหรือผู้ที่เข้ามามีการติดต่อหรือมีความสัมพันธ์กับครอบครัวบราห์มินจะมีความเชื่อหรือพูดถึงใครบางคนว่าพ่ายแพ้ ความพ่ายแพ้นั้นไม่ใช่ความพ่ายแพ้ สิ่งนี้เป็นเพราะบางครั้งผู้ที่กำลังเฝ้าดูหรือกำลังทำบางสิ่งมีความเข้าใจผิด ดวงวิญญาณที่มีความถ่อมตน ที่มีความสร้างสรรค์ และที่พูด“ฮาจี”เสมอ บางครั้งอันมาเนื่องจากความเข้าใจผิด จึงอาจดูเหมือนจะพ่ายแพ้และคนอื่นเห็นว่าเป็นความพ่ายแพ้ ขณะที่ในความเป็นจริงแล้วเป็นชัยชนะของพวกเขา อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเนื่องจากความคิดเห็นของผู้อื่นหรือเพราะบรรยากาศ ตัวลูกเองต้องไม่เปลี่ยนแปลงจากการมีศรัทธาในสติปัญญาและเริ่มมีความสงสัย“ฉันไม่รู้ว่านี่คือชัยชนะหรือพ่ายแพ้” อย่าได้มีความสงสัยเหล่านี้ แต่ให้มีความมั่นคงในศรัทธา แล้วอะไรก็ตามที่ผู้อื่นเรียกว่าเป็นความพ่ายแพ้ในวันนี้ ในวันพรุ่งนี้พวกเขาจะมอบดอกไม้ของ “ว้า! ว้า!” ให้กับลูก

ดวงวิญญาณที่มีชัยชนะจะไม่เคยมีความสับสนใดๆในจิตใจเกี่ยวกับการกระทำของพวกเขาเอง ไม่ว่าการกระทำเหล่านั้นจะถูกหรือผิด ความคิดเห็นของคนอื่นก็เป็นอย่างอื่น บางคนอาจจะพูดว่าลูกถูก และคนอื่นอาจจะพูดว่าลูกผิด แต่ลูกต้องมีศรัทธาที่มั่นคงในจิตใจของลูกว่าลูกเป็นผู้มีชัยชนะ พร้อมกับการมีศรัทธาในพ่อแล้ว ลูกต้องมีศรัทธาในตัวเองด้วย สิ่งนี้เป็นเพราะจิตใจ นั่นคือพลังของความคิดของดวงวิญญาณที่มีศรัทธาในสติปัญญา นั่นคือผู้ที่ได้รับชัยชนะนั้นจะสะอาดเสมอ การตัดสินใจว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” สำหรับบางสิ่ง สำหรับตัวเองหรือผู้อื่นจะกระทำได้อย่างง่ายดายมาก มันจะเป็นจริงและชัดเจน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความสับสนว่า “ฉันไม่รู้. . .” สิ่งชี้บอกของเพชรพลอยแห่งชัยชนะที่มีศรัทธาในสติปัญญานั้นก็คือ เนื่องจากการตัดสินใจตามความจริง พวกเขาจึงไม่มีความสับสนแม้แต่น้อยนิดในจิตใจของพวกเขา พวกเขาจะมีความสุขเสมอ จะมีคลื่นของความสุข แม้ว่าสถานการณ์จะเป็นเหมือนกับไฟ สำหรับดวงวิญญาณเช่นนั้นแล้วข้อสอบของไฟจะให้ความสุขแห่งชัยชนะกับดวงวิญญาณนั้น เพราะเขาจะได้รับชัยชนะในการสอบ แม้กระทั่งตอนนี้เมื่อใครบางคนมีชัยชนะเกี่ยวกับบางสิ่งในทางโลก พวกเขาเฉลิมฉลองสิ่งนั้นด้วยความสุข พวกเขาหัวเราะ ร่ายรำ และปรบมือ นั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสุข คนที่มีศรัทธาในสติปัญญาจะไม่เคยรู้สึกว่าตนเองอยู่คนเดียวตามลำพังในงานใดๆ แม้ว่าทุกคนจะอยู่อีกด้านหนึ่งและเขาคนเดียวอยู่อีกด้านหนึ่ง – แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะอยู่อีกด้านหนึ่งและเพชรพลอยแห่งชัยชนะจะอยู่คนเดียวตามลำพัง - เขาก็ไม่คิดว่าตนเองอยู่ตามลำพัง แต่คิดว่าพ่ออยู่กับเขา และด้วยเหตุนี้กองทัพที่ไม่มีขีดจำกัดจึงไม่มีอะไรเบื้องหน้าพ่อ ที่ใดที่พ่ออยู่ ทั้งโลกก็อยู่ในพ่อ เมล็ดมีต้นไม้ทั้งหมดอยู่ข้างใน ดวงวิญญาณแห่งชัยชนะที่มีศรัทธาในสติปัญญาจะพิจารณาว่าตนเองได้รับการค้ำจุนบางอย่าง เขาจะมีประสบการณ์โดยธรรมชาติว่าผู้ประทานที่ให้การค้ำจุนนั้นอยู่กับเขา ไม่ใช่ว่าเขาจะไปอยู่เบื้องหน้าพ่อเมื่อปัญหาเกิดขึ้นและพูดว่า,“บาบาท่านอยู่กับฉันใช่ไหม? ท่านเป็นผู้ช่วยของฉันใช่ไหม? ตอนนี้ฉันมีท่านผู้เดียวเท่านั้น” เขาจะไม่รับการค้ำจุนที่เห็นแก่ตัว “ท่านอยู่กับฉันใช่ไหม? ท่านเป็นเช่นนี้ใช่ไหม?” ทั้งหมดนั้นหมายความว่าอย่างไร? นี่เป็นศรัทธาหรือไม่? แล้วลูกก็เตือนพ่อว่าท่านเป็นผู้ค้ำจุนของลูก ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น เขาไม่เคยมีประสบการณ์ของความคิดเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อยที่ไม่ได้รับการค้ำจุนหรืออยู่คนเดียวโดยลำพัง เนื่องจากการได้รับชัยชนะเพราะมีศรัทธาในสติปัญญาของเขา เขาจะร่ายรำอยู่ในความสุขอย่างสม่ำเสมอ เขาจะไม่มีวันติดอยู่ในคลื่นแห่งความขุ่นมัวไม่พอใจหรือความโศกเศร้าเสียใจหรือการวางเฉยที่มีขีดจำกัดเพียงชั่วคราว บางครั้งเมื่อมีการจู่โจมอย่างแรงของมายาก็จะมีการวางเฉยที่มีขีดจำกัดเช่นกัน อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงการวางเฉยชั่วคราวที่มีขีดจำกัด ไม่ใช่การวางเฉยอย่างไม่มีขีดจำกัดตลอดเวลา นั่นเป็นทัศนคติของการวางเฉยที่เกิดขึ้นจากการถูกบีบบังคับ นี่คือเหตุผลที่ลูกพูดในเวลานั้นว่า,“มันดีกว่าที่ฉันจะจากไป ฉันไม่สนใจในสิ่งนั้น ให้ฉันไปจากงานรับใช้ ขอให้ฉันไปจากสิ่งนี้” มีการวางเฉยแต่ไม่ใช่การวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด เพชรพลอยแห่งชัยชนะจะสัมผัสกับชัยชนะในความพ่ายแพ้และชัยชนะในชัยชนะเสมอ การมีการวางเฉยที่มีขีดจำกัดหมายถึงการหลบหลีก พวกเขาใช้คำว่า “วางเฉยไม่สนใจ” แต่อันที่จริงแล้วนั่นเป็นเพียงการหลบหลีก ดวงวิญญาณที่มีชัยชนะจะไม่เคยก้าวออกไปจากงานใด ปัญหาใด หรือบุคคลใด แต่ในขณะที่ทำทุกการกระทำ ในขณะที่เผชิญกับทุกสิ่งและให้ความร่วมมือเขาจะมีทัศนคติของการวางเฉยอย่างไม่มีขีดจำกัดตลอดเวลา เพชรพลอยแห่งชัยชนะที่มีศรัทธาในสติปัญญาจะไม่เคยพูดถึงชัยชนะของเขา เขาจะไม่เคยพร่ำบ่นกับผู้อื่น “เธอเห็นไหม? ฉันถูกใช่ไหม?” การพร่ำบ่นในลักษณะนี้หรือการพูดเกี่ยวกับสิ่งนี้เป็นสิ่งที่บ่งชี้ถึงความว่างเปล่า บางสิ่งที่ว่างเปล่านั้นเมื่อเขย่าจะทำให้เกิดเสียงดังมาก บางสิ่งที่เต็มเปี่ยมมากแค่ไหน เสียงก็จะดังน้อยมากแค่นั้น เพชรพลอยแห่งชัยชนะจะเพิ่มความกล้าหาญให้กับผู้อื่น เขาจะไม่พยายามทำให้ใครรู้สึกแย่ลง เพราะเพชรพลอยแห่งชัยชนะเป็นผู้ให้การค้ำจุนเช่นเดียวกับพ่อ เขาเป็นผู้ที่ยกผู้ที่ล้มลงให้ขึ้นมา ผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาจะอยู่ห่างไกลจากสิ่งที่ไร้ประโยชน์ใดๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิด คำพูด หรือการกระทำที่ไร้ประโยชน์ การก้าวออกไปจากสิ่งที่ไร้ประโยชน์หมายถึงการได้รับชัยชนะ เป็นเพราะสิ่งที่ไร้ประโยชน์ที่บางครั้งมีชัยชนะและบางครั้งก็พ่ายแพ้ ถ้าสิ่งที่ไร้ประโยชน์จบสิ้นลงแล้วความพ่ายแพ้ก็จะจบสิ้นลงด้วยเช่นกัน การจบสิ้นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดคือสิ่งชี้บอกของการเป็นเพชรพลอยแห่งชัยชนะ ดังนั้นเวลานี้ให้ตรวจสอบดูว่า: ฉันมีประสบการณ์กับสิ่งชี้บอกของการเป็นเพชรพลอยแห่งชัยชนะที่มีศรัทธาในสติปัญญาหรือไม่? ลูกทุกคนพูดว่าลูกมีศรัทธาในสติปัญญา ลูกพูดความจริง อย่างไรก็ตามการมีศรัทธาในสติปัญญาก็เป็นเรื่องหนึ่งมากเท่าที่รู้และยอมรับ และการอยู่ด้วยศรัทธานั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ลูกทั้งหมดเชื่อว่าลูกได้พบพระเจ้า และเวลานี้ลูกเป็นของพระเจ้า การรู้และการยอมรับเป็นสิ่งเดียวกัน อย่างไรก็ตามลูกตามลำดับกันไปในการอยู่ด้วยศรัทธานั้น ดังนั้นลูกทั้งหมดนั้นดีเมื่อพูดถึงเรื่องของการรู้และการยอมรับ แต่แล้วสภาพที่สามคือการรู้ การยอมรับและการมีชีวิตอยู่ด้วยศรัทธานั้น ให้สิ่งชี้บอกในทางปฏิบัติของการมีศรัทธาและชัยชนะปรากฏให้เห็นในทุกการกระทำ มีความแตกต่างในสิ่งนี้ ด้วยเหตุนี้ลูกจึงตามลำดับกันไป ลูกเข้าใจหรือไม่ว่าทำไมลำดับจึงถูกสร้างขึ้นมา?

สิ่งนี้เรียกว่าการเป็นผู้ที่เอาชนะความผูกพันยึดมั่น คำจำกัดความของการเป็นผู้เอาชนะความผูกพันธุ์ยึดมั่นนั้นลึกล้ำมาก บาบาจะบอกลูกเกี่ยวกับสิ่งนั้นในเวลาอื่น สำหรับการมีศรัทธาในสติปัญญาของลูกก็เป็นบันไดขั้นหนึ่งในการเป็นผู้เอาชนะความผูกพันยึดมั่น อัจชะ วันนี้กลุ่มที่สองมาแล้ว ลูกๆในบ้านคือผู้เป็นนายและดังนั้นนายของบ้านได้มาบ้านแล้ว นี่คือสิ่งที่ลูกจะพูดใช่ไหม? ลูกได้กลับมาที่บ้านของลูกแล้วใช่ไหม? หรือลูกนั้นมาจากบ้านของลูก? ถ้าลูกพิจารณาว่านั่นเป็นบ้านของลูกก็จะมีความผูกพันยึดมั่น อย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงสถานที่ทำงานรับใช้ชั่วคราว บ้านของทุกคนคือมธุบัน ในแง่ของการเป็นดวงวิญญาณบ้านก็คืออาณาเขตสูงสุด และในแง่ของการเป็นบราห์มิน บ้านของลูกคือมธุบัน ในเมื่อลูกพูดว่าสำนักงานใหญ่ของลูกอยู่ที่ภูเขาอาบู แล้วสถานที่ที่ลูกอยู่คืออะไร? เป็นสำนักงานใช่ไหม? เหตุนี้เองลูกจึงเรียกสิ่งนี้ว่าสำนักงานใหญ่ ดังนั้นลูกไม่ได้มาจากบ้าน แต่ลูกได้มาถึงบ้านแล้ว ใครก็ตามสามารถเปลี่ยนที่ทำงานได้ แต่ไม่มีใครสามารถถูกโยนออกไปจากบ้านของเขาได้ สถานที่ทำงานสามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากลูกคิดว่าที่นี่เป็นบ้านของลูก ลูกก็จะมีความรู้สึกว่าเป็นของลูก เมื่อลูกทำให้ศูนย์เป็นบ้านของลูก ลูกก็จะมีความรู้สึกว่าศูนย์เป็นสมบัติของลูก หากลูกคิดว่ามันเป็นศูนย์ ลูกก็จะไม่มีความรู้สึกว่าศูนย์เป็นสมบัติของลูก เมื่อมันกลายเป็นบ้านของลูก เป็นสถานที่พักผ่อนของลูก ก็จะมีความรู้สึกว่าเป็นของลูก ดังนั้นลูกมาจากบ้าน มีคำกล่าวว่า: บ้านของลูกเป็นประตูไปสู่ผู้ประทาน มีคำกล่าวนี้สำหรับที่ใด? ประตูไปสู่ผู้ประทานที่แท้จริงของลูกคือบ้านของลูกที่มธุบันใช่ไหม? ลูกมาที่บ้าน นั่นคือบ้านของผู้ประทาน จะเรียกว่าประตูหรือบ้านก็เป็นสิ่งเดียวกัน ด้วยการมาที่บ้านลูกจะได้รับการพักผ่อนและความสะดวกสบาย พักผ่อนจิตใจ พักผ่อนร่างกาย พักผ่อนในแง่ของความมั่งคั่ง ลูกไม่ต้องไปที่ไหนเพื่อหาเงิน ลูกสามารถพักผ่อนได้แม้กระทั่งจากการเตรียมอาหาร มิฉะนั้นลูกจะต้องเตรียมอาหารด้วยตัวลูกเองแล้วลูกจึงสามารถรับประทานได้ ลูกได้รับอาหารที่ทำสำเร็จแล้วบนจานของลูก ลูกกลายเป็นเจ้านายที่นี่ พวกเขาสั่นกระดิ่งในบ้านของทากูร(รูปปั้นเทพหรือผู้เป็นเจ้า) เพื่อที่จะปลุกผู้เป็นเจ้านายหรือจะทำให้พวกเขาหลับ พวกเขาจะสั่นกระดิ่ง เมื่อพวกเขาถวายอาหาร พวกเขาจะสั่นกระดิ่งหรือตีระฆังในวัด กระดิ่งของลูกดังขึ้นเช่นกันใช่ไหม? ทุกวันนี้มันเป็นแฟชั่น ดังนั้นลูกจึงใช้เครื่องบันทึกเทปเสียงแทน ลูกไปนอนด้วยเครื่องบันทึกเทปและลูกก็ตื่นด้วยเครื่องบันทึกเทปเสียง ดังนั้นลูกเป็นเจ้านายใช่ไหม? ทุกสิ่งที่อยู่ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาถูกลอกเลียนแบบมาจากที่นี่ ที่นี่เช่นกันจะมีการออฟเฟอร์โบ๊กสามถึงสี่ครั้งต่อวัน พวกเขาเริ่มออฟเฟอร์โบ๊กให้กับทากูรที่มีชีวิตตั้งแต่ตี 4 ในตอนเช้า โบ๊กจะเริ่มตั้งแต่อมฤตเวลา ในเวลานั้นพระเจ้ารับใช้ลูกๆในรูปที่มีชีวิต ทุกคนทำงานรับใช้ของพระเจ้า แต่ที่นี่พระเจ้าเองรับใช้ลูก ท่านรับใช้ใคร? ทากูรที่มีชีวิต ศรัทธานี้ทำให้ลูกแกว่งไกวในความสุขเสมอ ลูกเข้าใจไหม? ผู้ที่มาจากทุกโซนเป็นที่รักเป็นพิเศษ เมื่อใดก็ตามที่โซนไหนมา พวกเขาก็จะเป็นที่รักเป็นพิเศษในเวลานั้น ลูกเป็นที่รักแต่ขณะนี้ลูกต้องเป็นผู้ที่เป็นที่รักพิเศษของพ่อเพียงผู้เดียวเท่านั้น อย่าได้เป็นผู้ที่เป็นที่รักพิเศษของมายา ลูกเป็นผู้ที่เป็นที่รักพิเศษของมายาและภายหลังลูกก็เล่นเกมมากมาย ลูกทั้งหมดที่มา ลูกคือผู้ที่มีโชค (ภคยวัน) ที่มาหาพระเจ้า (ภควัน) อัจชะ

ถึงผู้ที่เป็นเพชรพลอยแห่งชัยชนะเนื่องมาจากการมีศรัทธาในสติปัญญาเสมอ ถึงดวงวิญญาณที่เป็นตัวของสำนึกรู้ของพระเจ้าและโชคของพวกเขา ถึงผู้ที่ประสบชัยชนะอย่างสม่ำเสมอทั้งในชัยชนะและความพ่ายแพ้ ถึงดวงวิญญาณผู้ที่เป็นนายของผู้ประทานและให้การค้ำจุน นั่นคือให้ความร่วมมือกับผู้อื่น ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งที่มีประสบการณ์ว่าตนเองอยู่กับพ่อเสมอ บัพดาดารัก ระลึกถึง และนมัสเต

พบกลุ่มต่างๆ:
1) ลูกทั้งหมดเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งที่หลุดหายไปในความรักของผู้เดียวอยู่เสมอหรือไม่? ลูกไม่ธรรมดาใช่ไหม? ไม่ว่าการกระทำอะไรก็ตามที่ดวงวิญญาณที่สูงส่งทำจะสูงส่งเสมอ เนื่องจากชาติเกิดของลูกสูงส่ง การกระทำของลูกจะธรรมดาได้อย่างไร? เมื่อชาติเกิดของลูกเปลี่ยน การกระทำของลูกก็เปลี่ยน รูป นาม แผ่นดิน และการกระทำของลูกเปลี่ยนทั้งหมด ดังนั้นลูกจะมีการเกิดใหม่เสมอ ลูกอยู่ในความจริงจังและความกระตือรือร้นของความใหม่ในชาติเกิดใหม่ ผู้ที่มีสิ่งนี้เพียงบางครั้งก็จะได้รับอาณาจักรเพียงบางครั้งเท่านั้น

ดวงวิญญาณผู้ที่เป็นเครื่องมือจะได้รับผลของการเป็นเครื่องมือ และดวงวิญญาณที่รับประทานผลนั้นจะเข้มแข็ง นี่คือผลในทันที ผลของยุคที่สูงส่ง ผู้ที่รับประทานผลของยุคนี้จะมีพลังเสมอ ดวงวิญญาณที่มีพลังเช่นนั้นจะได้รับชัยชนะเหนือสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย สถานการณ์นั้นจะอยู่ด้านล่างและพวกเขาจะอยู่ด้านบน พวกเขาแสดงให้เห็นถึงศรีกฤษณะว่าเป็นผู้ที่เอาชนะงูใหญ่ เขาวางเท้าของเขาบนหัวงูและร่ายรำ นั่นเป็นอนุสรณ์ของลูก ไม่ว่างูนั้นจะมีพิษแค่ไหน ลูกก็จะได้รับชัยชนะเหนือมันและร่ายรำบนมัน สำนึกรู้อันทรงพลังที่สูงส่งนี้จะทำให้ทุกคนมีพลัง ที่ใดมีพลังสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดจะจบสิ้นลง ลูกอยู่กับพ่อผู้ทรงพลังอำนาจ จงเฝ้าแต่เคลื่อนไปข้างหน้าด้วยพรของสำนึกรู้นี้อย่างสม่ำเสมอ

2) ลูกทั้งหมดเป็นดวงวิญญาณที่เป็นอมตะของพ่อที่เป็นอมตะใช่ไหม? ลูกกลายเป็นอมตะใช่ไหม? แม้ว่าลูกจะจากร่างของลูกไป ลูกก็ยังเป็นอมตะ เพราะเหตุใด? เพราะลูกไปจากที่นี่หลังจากที่ได้สร้างโชคของลูกแล้ว ลูกไม่ได้ไปมือเปล่า ด้วยเหตุนี้นั่นจึงไม่ใช่การตาย นั่นเป็นการจากไปอย่างเต็มเปี่ยม การตายหมายถึงการจากไปอย่างมือเปล่า แต่การจากไปอย่างเต็มเปี่ยมหมายถึงการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของลูก ดังนั้นลูกได้กลายเป็นอมตะใช่ไหม? ลูกได้รับพรของการเป็นอมตะ ลูกไม่ได้รับอิทธิพลจากความตายในสิ่งนี้ ลูกรู้ว่าลูกจะต้องไป แล้วกลับมา ด้วยเหตุนี้เองลูกจึงเป็นอมตะ โดยการรับฟังเรื่องราวของความเป็นอมตะ ลูกจึงกลายเป็นอมตะ ลูกรับฟังเรื่องราวทุกวันด้วยความรักอย่างมากใช่ไหม? พ่อบอกลูกถึงเรื่องราวของความเป็นอมตะและให้พรของการเป็นอมตะแก่ลูก ด้วยการรักษาความสุขนี้ไว้เสมอที่ลูกจะกลายเป็นอมตะ ลูกก็จะเจริญรุ่งเรือง ลูกว่างเปล่าและกลับมาเต็มเปี่ยม ลูกกลับมาเต็มเปี่ยมมากถึงขนาดที่ลูกไม่กลับมาว่างเปล่าเป็นเวลาหลายชาติเกิด

3) ลูกทุกคนกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงใช่ไหม? การจาริกแสวงบุญทางจิตนี้จะให้ประสบการณ์ของความสุขแก่ลูกอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการจาริกแสวงบุญนี้ การจาริกแสวงบุญอื่นๆทั้งหมดจะจบสิ้นตลอดกาล หากลูกอยู่ในการจาริกแสวงบุญทางจิต แล้วลูกไปในการจาริกแสวงบุญอื่นๆทั้งหมดและก็จะไม่จำเป็นต้องไปสู่การจาริกแสวงบุญอื่นอีก เพราะนี่เป็นการจาริกแสวงบุญที่ยิ่งใหญ่ การจาริกแสวงบุญอื่นทั้งหมดรวมอยู่ในการจาริกแสวงบุญที่ยิ่งใหญ่นี้ ก่อนหน้านี้ลูกเคยเร่ร่อนไปทั่วกับการจาริกแสวงบุญ แต่ด้วยการจาริกแสวงบุญทางจิตวิญญาณนี้ เวลานี้ลูกได้พบจุดหมายปลายทางของลูกแล้ว เวลานี้จิตใจของลูกได้พบจุดหมายปลายทางแล้ว และดังนั้นร่างกายของลูกก็ได้พบจุดหมายปลายทางเช่นกัน ด้วยการจาริกแสวงบุญเดียว การเร่ร่อนทุกรูปแบบทั้งหมดจึงจบสิ้นลง ดังนั้นจงรักษาสำนึกรู้นี้ไว้อยู่เสมอว่าลูกเป็นผู้จาริกแสวงบุญทางจิตวิญญาณ ด้วยการทำสิ่งนี้ ลูกจะอยู่เหนือ ละวาง และเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่นเสมอ จะไม่มีความผูกพันยึดมั่นใดๆกับใครเลย ผู้ที่จาริกแสวงบุญไม่เคยมีความผูกพันยึดมั่นกับใคร ขอให้สภาพของลูกเป็นเช่นนี้ตลอดไป

ในเวลาของการร่ำลา:
บัพดาดาพอใจที่ได้เห็นลูกทั้งหมดในแผ่นดินนี้และต่างแดน เพราะลูกทุกคนเป็นลูกที่ให้ความร่วมมือ บัพดาดาจดจำลูกที่ให้ความร่วมมือเสมออย่างเป็นผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์หัวใจ ลูกทั้งหมดผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาเป็นที่รักของพ่อ เพราะลูกทุกคนกลายเป็นมาลัยรอบคอของท่าน อัจชะ ลูกทั้งหมดกำลังทำให้งานรับใช้เติบโตได้เป็นอย่างดี อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่มีโชคแห่งความสุขและเคลื่อนไปตามคลื่นแห่งมหาสมุทรที่ไม่มีวันสูญสลายและความสุขทางจิตจากการทำงานรับใช้ที่แท้จริงของลูก

ลูกๆ ที่ได้รับพรสำหรับการทำงานรับใช้ของพวกเขาจากบัพดาดาและจากเครื่องมืออาวุโสของพวกเขาจะได้รับประสบการณ์ของความสุขทางจิตและจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณและความสุขภายใน ในขณะที่สัมผัสกับความสุขภายใน, ความสุขทางจิต และการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ไม่มีขีดจำกัดจากงานรับใช้ของพวกเขา พวกเขาก็ยังคงเดินหน้าต่อไปในคลื่นแห่งมหาสมุทรแห่งความสุข งานรับใช้ที่แท้จริงทำให้ลูกได้สัมผัสกับโชคที่สูงส่งของการเป็นผู้ที่มีโชคผ่านความรักของทุกคน, ความเคารพที่ไม่สูญสลายของทุกคน และพรแห่งความสุข ผู้ที่มีความสุขอย่างสม่ำเสมอตลอดเวลาจะมีโชคแห่งความสุข

คติพจน์:
เพื่อที่จะมีความสดชื่นแจ่มใสอย่างสม่ำเสมอและเป็นภาพลักษณ์ที่ดึงดูด จงเป็นเพชรพลอยแห่งความพอใจ


หมายเหตุ:
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 3 เป็นวันสำหรับโยคะสากล พี่น้องชายหญิงทุกคนควรมีโยคะร่วมกันตั้งแต่เวลา 6.30 น. - 19.30 น. และมีความคิดที่บริสุทธิ์ นั่นคือ ลำแสงแห่งความบริสุทธิ์เกิดขึ้นจากตัวฉันเองที่เป็นดวงวิญญาณ และทำให้โลกทั้งโลกบริสุทธิ์ ฉันผู้เป็นนาย ดวงวิญญาณที่ชำระล้างให้บริสุทธิ์