01.02.20 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
แน่นอนว่าลูกต้องละทิ้งเครื่องแต่งกายเหล่านั้นซึ่งเป็นร่างกายของลูกที่นี่
ดังนั้นจบสิ้นความผูกพันยึดมั่นของลูกต่อร่างนั้น
อย่าได้จดจำเพื่อนฝูงและญาติมิตรของลูก
คำถาม:
อะไรคือสิ่งบ่งบอกถึงลูกที่มีพลังโยคะ?
คำตอบ:
พวกเขาจะไม่ถูกรบกวนแม้แต่เล็กน้อยในสถานการณ์ใดๆ
พวกเขาไม่มีความผูกพันยึดมั่นกับใคร ตัวอย่างเช่น
หากใครบางคนออกจากร่างของเขาในวันนี้ พวกเขาก็จะไม่มีความโศกเศร้าใดๆ
เพราะพวกเขารู้ว่าดวงวิญญาณนั้นมีบทบาทมากเท่านั้นในละคร
ดวงวิญญาณนั้นได้ละร่างของเขาและรับอีกร่างหนึ่ง
โอมชานติ
ความรู้นี้แฝงตัวมาก ลูกไม่จำเป็นแม้แต่ที่จะพูดว่า “นมัสเต”
ผู้คนในโลกทักทายกันและพูดว่า “นมัสเต” หรือ “ราม-ราม”
ไม่มีสิ่งเหล่านั้นสามารถดำเนินไปที่นี่ เพราะนี่คือครอบครัว
ดูเหมือนจะไม่ถูกต้องที่จะพูด “นมัสเต“ หรือ “อรุณสวัสดิ์” ในครอบครัว ในบ้าน,เรารับประทาน,ไปที่สำนักงานแล้วกลับมา
สิ่งนี้ดำเนินไปตลอดเวลา ไม่มีความจำเป็นต้องพูด“นมัสเต” แฟชั่นของการพูด “อรุณสวัสดิ์
(Good morning)” ได้เริ่มต้นขึ้นโดยชาวยุโรป
ไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีอะไรเช่นนั้นก่อนหน้านี้
เมื่อผู้คนมาพบปะกันในชุมนุมของความเลื่อมใสศรัทธา พวกเขาก็พูด“นมัสเต“และก้มลงแทบเท้าของกันและกัน
ประเพณีของการก้มลงแทบเท้าของใครบางคนนี้ถูกสอนไว้เพื่อความถ่อมตน ที่นี่ลูกๆ
ต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณจะทำอะไรกับดวงวิญญาณ?
อย่างไรก็ตามต้องมีการกล่าวถึงสิ่งนี้ ตัวอย่างเช่น ลูกจะพูด“นมัสเต”กับบาบา
เวลานี้พ่อพูดว่า: พ่อสอนลูกผ่านร่างกายที่ธรรมดาของบราห์มา
พ่อได้ทำการก่อตั้งผ่านเขา อย่างไร?
เมื่อพ่ออยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัวเท่านั้นจึงสามารถอธิบายได้โดยเขา
ไม่เช่นนั้นแล้วใครจะเข้าใจได้อย่างไร?
บาบานั่งที่นี่อยู่เบื้องหน้าลูกและอธิบายและลูกก็เข้าใจ ลูกจะต้องพูด “นมัสเต”
กับทั้งสอง “บัพดาดา นมัสเต” หากผู้คนจากภายนอกได้ยินสิ่งนี้
พวกเขาก็จะสับสนและถามสิ่งที่ลูกกำลังพูดเมื่อลูกพูด“บัพดาดา”
มนุษย์หลายคนก็มีชื่อคู่ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ลักษมี-นารายณ์และราเด้-กฤษณะก็เป็นชื่อด้วยเช่นกัน
ราวกับว่าชายและหญิงนั้นรวมรูปกัน เวลานี้ผู้นี้คือบัพดาดา
มีเพียงลูกเท่านั้นที่สามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ พ่อนั้นยิ่งใหญ่กว่าแน่นอน
แม้ว่าพวกเขาจะมีสองชื่อก็เป็นบุคคลเดียว แล้วทำไมพวกเขาถึงเก็บชื่อทั้งสองไว้?
เวลานี้ลูกๆ รู้ว่าชื่อเหล่านั้นผิด ไม่มีใครสามารถตระหนักรู้จักบาบาได้ ลูกพูดว่า
“นมัสเต บัพดาดา” และพ่อก็จะตอบว่า “นมัสเตต่อลูกๆ ทางจิตที่มีตัวตน”
คำทักทายที่ยาวเช่นนั้นดูเหมือนจะไม่เหมาะสม แต่คำพูดนั้นถูกต้อง
ลูกทั้งหมดเป็นลูกที่มีตัวตนและเป็นลูก ทางจิตด้วยเช่นกัน
ชีพบาบาคือพ่อของทุกดวงวิญญาณ และแล้วประชาบิดาก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน ลูกๆ
ของประชาบิดาบราห์มาเป็นพี่น้องหญิงชาย เป็นหนทางครอบครัว
ลูกทั้งหมดคือบราห์มากุมารและกุมารี
ประชาบิดาบราห์มานั้นมีอยู่ได้ด้วยการเกิดขึ้นของลูกๆ บราห์มากุมารและกุมารี
นี่ไม่ใช่เรื่องของศรัทธาที่งมงาย
บอกพวกเขาว่าบราห์มากุมารและกุมารีได้รับมรดกจากพ่อ พวกเขาไม่ได้รับมรดกจากบราห์มา
บราห์มาก็เป็นลูกของชีพบาบาเช่นกัน ผู้อาศัยในอาณาเขตที่ละเอียดอ่อน, บราห์มา วิษณุ
และชางก้านั้นคือสิ่งสร้าง ผู้สร้างของพวกเขาคือชีวา
ไม่มีใครสามารถถามได้ว่าใครเป็นผู้สร้างของชีวา? ไม่มีใครสามารถเป็นผู้สร้างของชีวา
บราห์มา,วิษณุและชางก้าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งสร้าง
แต่ที่สูงยิ่งกว่าพวกเขาก็คือชีวาซึ่งเป็นพ่อของทุกดวงวิญญาณ
เวลานี้หากท่านเป็นผู้สร้าง คำถามก็เกิดขึ้นว่า “ท่านได้สร้างขึ้นมาเมื่อใด?” ไม่!
สิ่งสร้างนี้คงอยู่ตลอดไปเป็นนิรันดร์ คำถามที่ว่า “เมื่อใดที่ท่านสร้างดวงวิญญาณมากมาย”
ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ละครที่คงอยู่ตลอดไปนี้ดำเนินไป ไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่มีวันมาถึงที่สิ้นสุด สิ่งทั้งหมดเหล่านี้อยู่ในลูกๆตามลำดับกันไป
สิ่งนี้ง่ายมาก ไม่ว่าใครจะมีชีวิตอยู่หรือตาย
ลูกก็ไม่ควรที่จะมีความผูกพันยึดมั่นกับใครนอกจากพ่อผู้เดียว มีเพลงที่ร้องว่า:
แม้ว่าแม่ของลูกจะตาย จงกินฮาลวา...
ตัวอย่างเช่นแม้ว่าบางคนจะตายก็ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลเพราะละครนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
ตามละครเขาต้องไปในเวลานั้น ใครจะสามารถทำอะไรได้เกี่ยวกับสิ่งนั้น?
ไม่จำเป็นต้องเศร้าโศกเสียใจเลย นี่คือสภาพของพลังโยคะ
กฎนั้นก็บอกว่าลูกไม่ควรที่จะถูกรบกวนแม้แต่เล็กน้อย ทุกคนคือนักแสดง
แต่ละคนก็ยังคงเล่นบทบาทของเขาเองต่อไป ลูกๆ ได้รับความรู้แล้ว พวกเขาพูดกับพ่อว่า:
โอ พ่อสูงสุด, ดวงวิญญาณสูงสุด, มาและพาพวกเราไป!
มันเป็นงานที่ใหญ่มากที่ร่างกายทั้งหมดเหล่านี้ถูกทำลายและนำดวงวิญญาณทั้งหมดกลับไปกับท่าน
ที่นี่ถ้ามีคนตาย ผู้คนก็จะร้องไห้ต่อไปอีก 12 เดือน
พ่อจะนำดวงวิญญาณมากมายกลับไปกับท่าน ร่างกายของทุกคนจะถูกทิ้งไว้ที่นี่
ลูกๆรู้ว่าเมื่อสงครามมหาภารตะเริ่มต้นขึ้นพวกเขาก็จะจากไปเหมือนฝูงยุงอย่างต่อเนื่อง
ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็กำลังจะเกิดขึ้นเช่นกัน ทั้งโลกนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ดูซิว่าอังกฤษและรัสเซียฯลฯ นั้นใหญ่แค่ไหนไรในตอนนี้!
พวกเขาทั้งหมดนั้นมีอยู่ในยุคทองหรือไม่?
สิ่งนั้นไม่ได้แม้กระทั่งเข้าไปสู่สติปัญญาของใครก็ตามในโลกที่ไม่มีใครในพวกเขาอยู่ในอาณาจักรของเรา
มีเพียงศาสนาเดียวและอาณาจักรเดียวเท่านั้น
แม้แต่ลูกก็ตามลำดับกันไปในการเก็บสิ่งนี้ไว้ในสติปัญญาของลูกอย่างดีมาก
ถ้าลูกซึมซับสิ่งนี้ ความซาบซึ้งของลูกจะคงสูงอย่างสม่ำเสมอ
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รักษาความซาบซึ้งที่สูงเช่นนั้นไว้ได้
และนั่นก็เป็นไปด้วยความยากลำบากมาก
การลบความทรงจำของใครคนหนึ่งต่อเพื่อนฝูงญาติมิตรและคนอื่นๆ
และการมีความมั่นคงในความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดนั้นคือความมหัศจรรย์มาก ใช่
สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในเวลาสุดท้ายเช่นกัน
ในเวลาสุดท้ายเท่านั้นที่จะได้มาซึ่งสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรม
แล้วสำนึกของร่างกายก็จะถูกทำลายไป “เท่านั้นเอง! เวลานี้พวกเรากำลังจะกลับบ้าน”
ราวกับว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อนักแสดงในละครจบสิ้นการเล่นบทบาทของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็กลับบ้าน
ลูกต้องละทิ้งเครื่องแต่งกายเหล่านั้นซึ่งก็คือร่างกายไว้ที่นี่
ลูกได้นำเครื่องแต่งกายเหล่านั้นมาใช้ที่นี่และลูกต้องทิ้งเครื่องแต่งกายเหล่านั้นไว้ที่นี่
ประเด็นใหม่ๆทั้งหมดเหล่านี้อยู่ในสติปัญญาของลูก
ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในสติปัญญาของคนอื่น อัลฟ่าและเบต้า อัลฟ่านั้นสูงสุด
มีคำกล่าวว่า: การก่อตั้งด้วยบราห์มา,
การทำลายล้างด้วยชางก้าและการหล่อเลี้ยงด้วยวิษณุ อัจชะ ดังนั้นงานของชีวาคืออะไร?
ไม่มีใครรู้จักชีพบาบาผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด พวกเขาเพียงแค่พูดว่า “ท่านอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกันและสิ่งทั้งหมดเหล่านั้นถึงอย่างไรก็เป็นรูปแบบของท่าน”
สิ่งนี้กลับมามั่นคงในสติปัญญาของทุกคนในโลกและเหตุนี้เองพวกเขาจึงกลังมาตะโมประธาน
พ่อพูดว่า: ทั้งโลกได้ไปถึงสภาพที่ตกต่ำ
และแล้วพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่มาและให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคน
หากท่านอยู่ทั่วไปในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
ก็จะเป็นไปได้ว่าทุกคนคือพระเจ้าและพระเจ้าเท่านั้น ในด้านหนึ่งพวกเขาพูดว่า “ทุกคนเป็นพี่น้อง”
และในอีกด้านหนึ่งพวกเขาพูดว่า “ทุกคนเป็นพ่อ” พวกเขาไม่เข้าใจ
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดกับลูกๆ : ลูกๆ จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
บาบาพูดว่า: อย่าได้จดจำแม้แต่ดาด้าหรือมาม่านี้ พ่อพูดว่า:
ไม่มีใครควรได้รับการยกย่องทั้งมาม่าและบาบา หากชีพบาบาไม่มีอยู่
บราห์มานี้จะสามารถทำอะไรได้? จะเกิดอะไรขึ้นด้วยการจดจำผู้นี้? ใช่
ลูกรู้ว่าลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกจากพ่อโดยผ่านผู้นี้ ไม่ใช่จากผู้นี้
ผู้นี้เองก็ประกาศสิทธิ์ในมรดกจากผู้เดียวนั้นและดังนั้นลูกควรจะจดจำผู้เดียวนั้น
ผู้นี้เป็นเพียงสื่อที่อยู่ตรงกลาง เมื่อคู่รักหมั้นหมายกันพวกเขาก็จดจำกัน
ผู้ที่จัดการเรื่องการแต่งงานก็เป็นสื่อกลาง
พ่อมีการจัดการหมั้นหมายของลูกกับท่านโดยผ่านผู้นี้ เหตุนี้เองจึงมีคำยกย่อง:
ฉันได้พบสัตกูรูผ่านสื่อกลาง สัตกูรูไม่ใช่สื่อกลาง สัตกูรูไม่มีตัวตน
พวกเขาอาจจะพูดว่า: กูรูบราห์มา, กูรูวิษณุ, แต่พวกเขาไม่ได้เป็นกูรู!
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือสัตกูรู
ผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคน พ่อสอนลูก
แล้วลูกก็ได้แสดงหนทางให้แก่ผู้อื่นและบอกพวกเขาว่า: แม้ในขณะที่กำลังมอง
อย่าได้เห็น ให้สติปัญญาของลูกเชื่อมโยงกับชีพบาบา
ทุกสิ่งที่ลูกเห็นด้วยดวงตาเหล่านั้นกำลังจะกลายไปเป็นสุสาน
จดจำพ่อผู้เดียวไม่ใช่ผู้นี้ สติปัญญาก็บอกว่า:ฉันไม่สามารถรับมรดกจากผู้นี้ได้
มรดกนั้นจะได้รับจากพ่อ ลูกต้องไปหาพ่อ นักเรียนจะไม่จดจำนักเรียนใช่ไหม?
นักเรียนจะจดจำครูอย่างแน่นอนใช่ไหม?
นักเรียนที่ฉลาดที่โรงเรียนจะพยายามยกระดับผู้อื่นด้วยเช่นกัน พ่อพูดว่า:
พยายามที่จะยกระดับกันและกัน อย่างไรก็ตามหากไม่อยู่ในโชคของพวกเขา
พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะทำความเพียรพยายาม พวกเขามีความพอใจกับสิ่งเล็กน้อย
ลูกควรจะอธิบายแก่ผู้อื่น ผู้คนมากมายมาที่นิทรรศการ
สามารถที่จะมีความก้าวหน้าอย่างมากด้วยการอธิบายแก่ผู้คนมากมาย
ส่งคำเชิญและเชื้อเชิญพวกเขามา แล้วคนสำคัญคนที่รู้คิดจำนวนมากก็จะมา
ผู้คนมากมายหลายประเภทก็ปรากฏตัวขึ้นโดยที่ไม่ได้รับคำเชื้อเชิญ
พวกเขาเฝ้าแต่พูดสิ่งที่ผิดๆเช่นนั้น!
พฤติกรรมของคนที่สูงศักดิ์นั้นก็สูงศักดิ์ด้วยเช่นกัน
คนที่สูงศักดิ์นั้นก็จะเข้ามาด้วยความสูงศักดิ์
มีความแตกต่างอย่างมากในพฤติกรรมของพวกเขาเช่นกัน
คนอื่นไม่มีกิริยามารยาทในวิธีที่พวกเขาประพฤติและพูดกับผู้อื่น
ทุกประเภทปรากฏตัวขึ้นที่ชุมนุม(เมล่า) ไม่มีใครปฏิเสธการเข้ามาของใคร
ดังนั้นหากลูกส่งบัตรเชิญให้แก่ผู้คนเพื่อเชิญพวกเขาเข้าร่วมงานที่นิทรรศการ
ผู้คนที่ดีและสูงศักดิ์จำนวนมากมายก็จะมา
จากนั้นพวกเขาก็จะไปและบอกคนอื่นด้วยเช่นกัน
บางครั้งจัดโปรแกรมสำหรับผู้หญิงเท่านั้นเพื่อที่มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นจะมาดู
เพราะในหลายๆสถานที่ผู้หญิงมากมายอยู่หลังผ้าคลุมหน้า
ดังนั้นจงจัดรายการสำหรับผู้หญิงเท่านั้น ไม่ควรจะอนุญาตให้ผู้ชายเข้ามา
บาบาได้บอกลูกแล้วว่า: ก่อนอื่นใดลูกต้องอธิบายว่าชีพบาบาไม่มีตัวตน
ชีพบาบาและประชาบิดาบราห์มาทั้งสองนั้นเป็น“บาบา”
ทั้งสองไม่สามารถกลายเป็นผู้เดียวกัน ดังนั้นลูกจึงไม่ได้รับมรดกจากทั้งบาบาทั้งสอง
ลูกจะได้รับมรดกจากปู่หรือพ่อ บุคคลหนึ่งมีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติของปู่
ไม่ว่าเด็กอาจจะไม่มีค่าเพียงใดก็ตาม เขาก็ยังคงได้รับมรดกของปู่ของเขา
นี่คือกฎที่นี่ เป็นที่เข้าใจด้วยเช่นกันว่าเมื่อบางคนได้รับเงินนั้น
พวกเขาก็จะถลุงเงินนั้นภายในหนึ่งปี
แต่กฎของรัฐบาลเป็นเช่นนั้นที่จะต้องมีการส่งมอบ รัฐบาลก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้
อย่างไรก็ตามบาบามีประสบการณ์ มีลูกของราชาผู้หนึ่งที่ถลุงเงิน 10 ล้านรูปีใน 12
เดือน มีบางคนที่เป็นเช่นนั้น ชีพบาบาจะไม่พูดว่าท่านเคยเห็นกรณีเช่นนี้แล้ว ผู้นี้(บราห์มา)พูดว่า:
พ่อเคยเห็นตัวอย่างเช่นนั้นมามากมาย โลกนี้สกปรกมาก นี่คือโลกเก่า บ้านเก่า
ปกติแล้วบ้านเก่านั้นต้องถูกทำลาย
ดูซิว่าพระราชวังชั้นหนึ่งของลักษมีและนารายณ์จะเป็นอย่างไร
เวลานี้ลูกได้รับความเข้าใจจากพ่อและกำลังกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา
นี่คือเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริง เพียงลูกเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งนี้
ในบรรดาลูกเช่นกันบางคนก็ยังไม่ได้กลายเป็นดอกไม้ที่สมบูรณ์
ลูกต้องมีความสูงศักดิ์ที่ดีมากในสิ่งนี้
ลูกยังคงสร้างความก้าวหน้าในแต่ละวันต่อไปเรื่อยๆ ลูกเฝ้าแต่กลายเป็นดอกไม้
ลูกๆก็พูดด้วยความรักว่า: “บัพดาดา”
ภาษาของลูกนี้เป็นภาษาใหม่และไม่สามารถเข้าใจได้โดยมนุษย์คนอื่นตัวอย่างเช่นเมื่อบาบาไปที่ใดที่หนึ่งและลูกๆ
พูดว่า“บัพดาดา นมัสเต” บาบาก็ตอบว่า “นมัสเตกับลูกๆทางจิตที่มีร่างกาย”
ท่านจะต้องตอบกลับด้วยวิธีนี้
หากผู้อื่นได้ยินสิ่งนี้พวกเขาก็จะบอกว่านี่เป็นสิ่งใหม่ จะสามารถกล่าวว่า“บัพดาดา”เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร?
ทั้งบัพและดาดาสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้หรือไม่?
ชื่อของแต่ละคนก็แตกต่างกันเช่นกัน ลูกเป็นลูกของทั้งชีพบาบาและบราห์มา ดาด้า
ลูกรู้ว่าชีพบาบานั่งอยู่ในผู้นี้ ที่ลูกเป็นลูกของบัพดาดา
หากสติปัญญาของลูกจดจำมากขนาดนี้ ปรอทของความสุขของลูกก็จะอยู่ในระดับสูง
ลูกต้องอยู่อย่างมั่นคงด้วยความเคารพนับถือต่อละครด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่นเมื่อใครบางคนออกจากร่างของเขา เขาก็จะไปและเล่นอีกบทบาทหนึ่ง
แต่ละดวงวิญญาณและทุกดวงวิญญาณก็ได้รับบทบาทที่คงอยู่ตลอดไป
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคิดอะไรเกี่ยวกับสิ่งนี้ เขาต้องไปและเล่นบทบาทอื่น
เขาไม่สามารถที่จะถูกเรียกกลับมาได้ นี่คือละคร ไม่มีอะไรจะต้องร้องไห้ในเรื่องนี้
มีเพียงผู้ที่มีสภาพเช่นนั้นเท่านั้นที่จะไปและกลายเป็นราชาที่ปราศจากความผูกพันยึดมั่น
(ราชานิรโมฮิ) ในยุคทองทุกคนปราศจากความผูกพันยึดมั่น ที่นี่เมื่อใครบางคนตาย
พวกเขาก็ร้องไห้อย่างมากมาย! ไม่จำเป็นที่จะต้องร้องไห้อย่างแน่นอนเมื่อลูกได้พบพ่อ
บาบาได้ชี้หนทางที่ดีมากเช่นนั้นแก่ลูก สำหรับกุมารีเป็นสิ่งที่ดีมาก
พ่อของลูกจะใช้เงินไปอย่างไร้ประโยชน์และลูกก็จะตกอยู่ในนรก แทนที่จะทำเช่นนั้น
จงบอกเขาว่า: “ฉันจะเปิดมหาวิทยาลัยทางจิตพร้อมกับโรงพยาบาลด้วยเงินนั้น
หากฉันนำคุณประโยชน์มาให้แก่ผู้คนมากมาย
นั่นก็จะเป็นบุญของท่านและของตัวฉันเองด้วยเช่นกัน”
ลูกๆเองควรอยู่อย่างมีความกระตือรือร้นที่จะใช้ทุกสิ่ง -
ร่างกายจิตใจและทรัพย์สมบัติในการทำให้บารัตกลายเป็นสวรรค์
ควรจะมีความซาบซึ้งมากเช่นนั้น! หากลูกต้องการให้สิ่งนั้นแล้วก็จงให้
หากลูกไม่ต้องการให้แล้วก็อย่าให้
ลูกไม่ต้องการที่จะนำมาซึ่งคุณประโยชน์เพื่อตนเองและเพื่อคนอื่นๆอีกมากมายหรือ?
ควรจะมีความซาบซึ้งมากขนาดนี้ โดยเฉพาะกุมารีควรจะตื่นตัวเป็นพิเศษ อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1 ให้กิจกรรมและพฤติกรรมของลูกสูงศักดิ์อย่างยิ่ง พูดด้วยกิริยามารยาทที่ดี
สร้างสมคุณธรรมของความถ่อมตน
2 ทุกสิ่งที่ลูกเห็นด้วยดวงตาคู่นั้นจะกลายเป็นสุสาน ดังนั้นอย่าได้เห็นขณะที่มอง
จดจำชีพบาบาผู้เดียวเท่านั้นและไม่จดจำผู้ที่มีร่างกาย
พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่พิเศษโดยคนที่ไม่รู้สึกตัวกลับมามีความรู้สึกตัวด้วยคุณสมบัติพิเศษของสมุนไพรชุบชีวิต
ให้สมุนไพรชุบชีวิตของสำนึกรู้ที่สูงส่งและของคุณสมบัติพิเศษแก่ทุกคนและพวกเขาจะกลับมามีสติจากหมดสติ
ให้กระจกในรูปของคุณสมบัติพิเศษอยู่เบื้องหน้าของพวกเขา
โดยการเตือนผู้อื่นลูกจะกลายเป็นดวงวิญญาณพิเศษ
หากลูกบอกคนอื่นเกี่ยวกับความอ่อนแอของพวกเขา พวกเขาจะพยายามซ่อนมันหรือปัดมันออกไป
แต่ถ้าลูกบอกพวกเขาถึงคุณสมบัติพิเศษของพวกเขา
พวกเขาก็จะได้สัมผัสกับความอ่อนแอของตนเองโดยอัตโนมัติ
ใช้สมุนไพรชุบชีวิตนี้เพื่อทำให้คนที่ไม่รู้สึกตัวกลับมามีสติ
โบยบินและทำให้ผู้อื่นโบยบิน
คติพจน์:
การสละละทิ้งชื่อเสียง ความเคารพ เกียรติยศ และสิ่งอำนวยความสะดวก
แม้กระทั่งในความคิดของลูกคือการสละละทิ้งที่ยิ่งใหญ่