03.11.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
02.03.85 Om Shanti Madhuban
ชาติเกิดที่เป็นของพระเจ้าในปัจจุบันคือชาติเกิดที่มีค่าเหลือล้นจนสุดที่จะประเมินได้
วันนี้พ่อผู้เป็นพ่อค้าเพชรพลอยได้เห็นเพชรพลอยที่สุดแสนล้ำค่าของท่าน
นี่คือท้องพระโรงของเพชรพลอยทางจิตที่ทรงคุณค่าเหลือล้น
เพชรพลอยแต่ละเม็ดมีค่ายิ่งนัก
หากลูกจะสะสมสมบัติทั้งหมดของโลกในเวลาปัจจุบันหรือหากลูกจะสะสมสมบัติที่มีค่าทั้งหมดของโลกเมื่อเทียบกับสิ่งเหล่านั้นแล้วเพชรพลอยแต่ละเม็ดของพระเจ้ามีค่ายิ่งกว่ามหาศาล
เบื้องหน้าลูกผู้เป็นเพชรพลอย,สมบัติทั้งหมดของโลกนี้ไม่มีค่าอะไรเลย
ลูกเป็นเพชรพลอยอันล้ำค่า
ไม่สามารถพบลูกผู้เป็นเพลรพลอยอันล้ำค่านั้นได้ในเวลาอื่นใดในวงจรนอกจากยุคบรรจบพบกัน
บทบาทของดวงวิญญาณเทพในยุคทองตามมาหลังจากบทบาทของเพชรพลอยอันล้ำค่าของพระเจ้าในยุคบรรจบพบกัน
ในปัจจุบันลูกเป็นลูกของพระเจ้าในขณะที่ในยุคทองลูกจะเป็นลูกของเทพ เช่นเดียวกับที่
ชื่อ การสรรเสริญ การเกิด และการกระทำของพระเจ้านั้นสูงสุดที่สุด
ในทำนองเดียวกันคุณค่าของเพชรพลอยหรือดวงวิญญาณที่เป็นของพระเจ้าที่เป็นลูกของพระเจ้านั้นสูงส่งที่สุด
ความทรงจำของการสรรเสริญที่สูงส่งและคุณค่าที่สูงส่งนี้ยังเป็นที่จดจำและกราบไหว้บูชากันมาในรูปของเพชรพลอยทั้งเก้าจนถึงทุกวันนี้
เพชรพลอยทั้งเก้าได้รับการจดจำกันว่าเป็นผู้ทำลายอุปสรรคต่างๆ
ขึ้นอยู่กับอุปสรรคที่พวกเขาเผชิญพวกเขาทำแหวนตามนั้นและสวมใส่
หรือพวกเขาทำล็อกเกตหรือพวกเขาวางเพชรพลอยนั้นในรูปของเครื่องประดับในบ้านของพวกเขา
แม้กระทั่งเวลานี้ในชาติเกิดสุดท้ายของลูก
ลูกสามารถเห็นอนุสรณ์ความทรงจำของลูกในรูปของผู้เอาชนะอุปสรรค
แน่นอนว่าลูกนั้นตามลำดับกันไป
แต่ในขณะที่ตามลำดับกันไปนั้นลูกทุกคนก็มีค่าและเป็นผู้ทำลายอุปสรรค
แม้กระทั่งทุกวันนี้ดวงวิญญาณก็ให้ความนับถือลูกผู้เป็นเพชรพลอยในรูปที่สูงส่งของลูก
พวกเขาดูแลสิ่งเหล่านั้น(รูปปั้นบูชาของลูก)อย่างระมัดระวังด้วยความรักและความสะอาดมาก
เพราะแม้ว่าลูกทุกคนจะไม่พิจารณาว่าตนเองมีค่าที่จะได้รับเช่นนั้น
พ่อก็ได้ทำให้ลูกดวงวิญญาณทั้งหมดมีค่าและทำให้ลูกเป็นของท่าน ท่านยอมรับว่า:
ลูกเป็นของพ่อและพ่อเป็นของลูก
ดวงวิญญาณที่สายตาของพระเจ้าทอดมองจะกลับมามีคุณค่าอย่างแน่นอนจากการที่มีสายตาของพระเจ้าทอดมองมาที่เขา
เนื่องจากดริชตีของพระเจ้าดวงวิญญาณเช่นนี้จึงกลายเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งของโลกทางจิตในการสร้างของพระเจ้า
เมื่อลูกเข้ามาในความเป็นมิตรของเจ้าแห่งความสูงศักดิ์ (ปารานาท, นักเล่นแร่แปรธาตุ)
ลูกจะได้รับการแต่งแต้มสีสันด้วยหินอย่างแน่นอน (paras - ศิลาของนักเล่นแร่แปรธาตุ)
ดังนั้นเนื่องจากลูกได้รับดริชตีของความรักของพระเจ้าอนุสรณ์ความทรงจำของลูกจึงมีอยู่ตลอดทั้งวงจร
ไม่ว่าจะเป็นในรูปของเทพที่มีชีวิตหรือในรูปของภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตเป็นเวลาครึ่งวงจร
หรือในรูปของอนุสรณ์ต่างๆ หรือในรูปใดก็ตามที่เป็นอนุสรณ์ของลูกซึ่งเป็นเพชรพลอย
มีความทรงจำของลูก แม้กระทั่งในรูปของดวงดาว ไม่ว่าอนุสรณ์ของลูกจะอยู่ในรูปใด
ลูกก็ได้รับความรักจากทุกคนตลอดทั้งวงจร
เพราะดริชตีที่มีความรักของมหาสมุทรแห่งความรักที่ไม่สูญสลายได้ทำให้ลูกมีสิทธิ์ที่จะได้รับความรักตลอดทั้งวงจร
เหตุนี้เองผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาที่หมดหวังที่จะมองเห็นแม้สักครู่หรือครึ่งวินาทีเพื่อที่พวกเขาสามารถอยู่เหนือได้เพียงแค่เหลือบมอง
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมสายตาของความรักที่ได้รับในเวลานี้จึงทำให้ลูกมีค่าควรกับความรักที่ไม่สูญสลาย
ลูกมีการได้มาซึ่งการบรรลุผลอย่างอัตโนมัติ ท่านจดจำลูกด้วยความรัก
เก็บลูกไว้ด้วยความรัก และมองลูกด้วยความรัก
ประการที่สอง
ความสะอาดนั่นคือความบริสุทธิ์ในเวลานี้ลูกได้รับสิทธิ์โดยกำเนิดของความบริสุทธิ์จากพ่อ
ลูกรู้ว่าศาสนาดั้งเดิมของลูกคือความบริสุทธิ์นั่นคือความสะอาด
เหตุนี้เองเพราะลูกใช้ชีวิตอย่างบริสุทธิ์
ที่ใดก็ตามที่มีอนุสรณ์ความทรงจำให้กับลูก
ความบริสุทธิ์และความสะอาดก็ยังคงมีอยู่ที่นั่นอย่างเป็นอนุสรณ์
เป็นเวลาครึ่งวงจรที่มีการหล่อเลี้ยงที่บริสุทธิ์และโลกที่บริสุทธิ์
ดังนั้นเป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกเกิดมาจากความบริสุทธิ์และได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยความบริสุทธิ์
และเป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกได้รับการกราบไหว้บูชาด้วยความบริสุทธิ์
ประการที่สาม ท่านดูแลลูกด้วยความรักอย่างมากมายจากหัวใจของท่าน
ท่านดูแลลูกโดยพิจารณาว่าลูกนั้นสูงส่งและประเมินค่ามิได้
เพราะในเวลานี้พระเจ้าเองในรูปของพ่อและแม่คอยดูแลลูก นั่นคือให้การหล่อเลี้ยงลูก
ดังนั้นเนื่องจากการหล่อเลี้ยงของลูกนั้นไม่สูญสลายและเนื่องจากลูกได้รับการดูแลด้วยความรักที่ไม่สูญสลายลูกจึงได้รับการดูแลตลอดวงจรด้วยความสูงศักดิ์,ด้วยความรักและความเคารพ
ลูกมีค่าควรที่จะได้รับการดูแลชั่วนิรันดร์ด้วยความรัก,ความสะอาด,ความบริสุทธิ์และความเสน่หาเช่นนั้น
ดังนั้นลูกเข้าใจหรือไม่ว่าลูกนั้นล้ำค่าเพียงใด? เพชรพลอยแต่ละเม็ดมีค่ามาก!
ดังนั้นวันนี้พ่อผู้เป็นพ่อค้าเพชรพลอยก็มองดูคุณค่าของเพชรพลอยทุกเม็ด
ดวงวิญญาณที่นับไม่ถ้วนทั้งหมดของโลกอยู่ในด้านหนึ่ง
แต่ลูกพันดาวาสทั้งห้ามีพลังมากกว่าดวงวิญญาณที่นับไม่ถ้วนเหล่านั้น
ดวงวิญญาณที่นับไม่ถ้วนเหล่านั้นไม่เท่ากับลูกแม้แต่คนเดียว ลูกเป็นผู้ที่ทรงพลัง
ดังนั้นลูกจึงมีคุณค่ามาก ลูกรู้ถึงคุณค่าของลูกหรือไม่? หรือบางครั้งลูกลืมตนเอง?
เมื่อลูกลืมตนเองลูกก็จะเป็นทุกข์ อย่าได้ลืมตนเอง
เดินหน้าต่อไปโดยพิจารณาว่าตนเองมีค่า แต่อย่าได้ทำผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ลูกมีคุณค่า
แต่ลูกประเมินค่าไม่ได้เพราะเป็นมิตรร่วมทางของพ่อ
หากลูกลืมพ่อและคิดถึงแต่ตนเองนั่นเป็นสิ่งที่ผิด อย่าลืมผู้ที่สร้างลูก
ลูกกลายเป็นสิ่งนี้ แต่ลูกได้ถูกทำให้เป็นสิ่งนี้โดยผู้สร้างลูก
นี่คือวิธีที่จะเข้าใจ
หากลูกลืมวิธีการแล้วความเข้าใจก็จะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกที่ไม่มีเหตุผล
จากนั้นก็จะมีจิตสำนึกของ "ฉัน" เมื่อลืมวิธีนี้ลูกก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
ดังนั้นจงรู้ว่าตัวลูกเองมีคุณค่าในทางที่ถูกต้องและกลายเป็นบรรพบุรุษของโลก
นอกจากนี้อย่าได้เป็นทุกข์โดยคิดว่าว่าลูกไม่มีอะไรเลย อย่าคิดว่า "ฉันไม่มีอะไรเลย"
หรืออย่าคิดว่า "ฉันคนเดียวคือทุกสิ่ง" ผิดทั้งคู่ “ฉันเป็นเช่นนั้นแต่ผู้เดียวที่สร้างฉันได้ทำให้ฉันเป็นเช่นนั้น”
เมื่อลูกขจัดพ่อออกไปนั่นจะกลายเป็นบาป เมื่อพ่ออยู่ที่นั่นจะไม่มีบาป
ที่ใดมีชื่อของพ่อที่นั่นจะไม่มีชื่อหรือร่องรอยของความบาป
และเมื่อมีบาปที่นั่นจะไม่มีชื่อหรือร่องรอยของพ่อ
ดังนั้นลูกเข้าใจคุณค่าของลูกหรือไม่?
ลูกมีค่าที่ควรจะได้รับดริชตีของพระเจ้า นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ
ลูกมีค่าต่อการได้รับการหล่อเลี้ยง
ลูกได้ประกาศสิทธิ์ที่จะได้รับสิทธิ์โดยกำเนิดของความบริสุทธิ์ที่ไม่สูญสลาย
เหตุนี้เองสิทธิ์โดยกำเนิดของลูกจึงไม่ยากเลยที่จะได้มา; สิ่งนี้ได้มาอย่างง่ายดาย
ลูกเองมีประสบการณ์ของการเป็นลูกที่มีสิทธิ์และดังนั้นลูกจึงไม่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ยากที่จะรักษาความบริสุทธิ์
ผู้ที่เห็นว่าความบริสุทธิ์นั้นยากจะขึ้นลงอย่างมาก ความบริสุทธิ์เป็นศาสนาของตนเอง
เป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของลูกและดังนั้นจึงดูง่ายเสมอ ทำไมผู้คนในโลกถึงหนีไป?
พวกเขาเห็นว่าความบริสุทธิ์นั้นยาก
ดวงวิญญาณเหล่านั้นที่ไม่มีสิทธิ์นี้จะเห็นว่ามันยากอย่างแน่นอน
ทันทีที่ดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์มาพวกเขาก็จะมีความคิดที่มุ่งมั่นในทันทีว่าความบริสุทธิ์นั้นเป็นสิทธิ์ของพวกเขาจากพ่อ
และพวกเขาจะต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน
หัวใจของพวกเขาจะถูกดึงดูดด้วยความบริสุทธิ์อย่างสม่ำเสมอ
หากในขณะที่พวกเขาเคลื่อนไป
มายาจะมาในรูปใดรูปหนึ่งเพื่อทดสอบพวกเขาในความคิดหรือความฝัน
และแล้วเพราะดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยความรู้พวกเขาจะไม่กลัว
แต่จะเปลี่ยนความคิดของพวกเขาด้วยพลังของความรู้
มีหนึ่งความคิดที่พวกเขาจะไม่สร้างความคิดมากมาย
พวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงร่องรอยของบางสิ่งไปเป็นรูปของลูกหลานของสิ่งนั้น "เกิดอะไรขึ้น?
สิ่งนี้เกิดขึ้น….” นี่คือลูกหลาน ลูกได้รับการบอกว่าโดยการถามคำถามลูกจะสร้างคิว
ลูกสร้างลูกหลานด้วยวิธีนี้ บางสิ่งมาแล้วก็ไปก็เป็นสิ่งที่ดี
สิ่งนั้นมาเพื่อทดสอบลูก และทันทีเมื่อลูกผ่าน มันก็จบแล้ว “ทำไมมายาถึงมา
เธอมาจากไหน? เธอมาจากที่นี่ เธอมาจากที่นั่น เธอไม่ควรมา ทำไมเธอถึงมา”?
ไม่ควรมีลูกหลานนี้ โอเคเมื่อเธอมาแล้ว ก็อย่าทำให้เธอนั่งลง! ไล่เธอออกไป!
ถ้าลูกคิดว่า“ทำไมเธอถึงมา” เธอก็จะนั่งลง
เธอมาเพื่อให้ลูกก้าวไปข้างหน้าและทดสอบลูก
เธอมาเพื่อทำให้ลูกก้าวหน้าต่อไปในการเรียนและเพื่อให้ลูกมีประสบการณ์ “ทำไมเธอมา?
เธอมาอย่างนี้ เธอมาอย่างนั้น” อย่าได้คิดเช่นนี้ แล้วลูกก็คิดว่า“มายามีรูปเช่นนี้ด้วยหรือไม่?
มันคือสีแดง มันเป็นสีเขียว มันเป็นสีเหลือง!” ลูกเข้าไปสู่การขยายตัวนี้
อย่าเข้าไปสู่การขยายตัวนี้ ทำไมลูกถึงกลัว? เพียงแค่เอาชนะมัน แค่ผ่านด้วยเกียรติ
ลูกมีพลังแห่งความรู้ซึ่งเป็นอาวุธของลูก ลูกเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจ
ลูกคือตรีกาลดาชิ ตรีเวนี (การบรรจบกันของแม่น้ำสามสาย) ลูกขาดอะไรหรือ?
อย่ากลัวเร็วนัก! ลูกกลัวแม้กระทั่งว่ามดจะมา ลูกคิดมากเกินไป
การคิดหมายถึงการให้การต้อนรับแก่มายา จากนั้นเธอก็สร้างบ้านของเธอที่นั่น
ลูกจะทำอย่างไรถ้าในขณะที่เดินไปตามถนนแล้วลูกเห็นบางสิ่งสกปรก?
ลูกจะยืนอยู่ตรงนั้นและคิดว่า“ ใครขว้างสิ่งนี้ที่นี่? เกิดอะไรขึ้น?
มันไม่ควรจะอยู่ตรงนี้ที่นี่”
ลูกจะคิดถึงสิ่งเหล่านี้หรือลูกจะหลีกเลี่ยงทางและเดินหน้าต่อไป?
อย่าปล่อยให้ลูกหลานของการคิดมากเกินไปถูกสร้างขึ้น
จบสิ้นรูปแบบนี้ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น
ตอนแรกมันเป็นเรื่องของหนึ่งวินาทีและจากนั้นลูกก็ขยายมันออกไปเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง,เป็นวันหรือเป็นเดือน
จากนั้นหากลูกถูกถามหลังจากนั้นหนึ่งเดือนผ่านไปว่าเกิดอะไรขึ้น
ลูกก็จะเห็นว่ามันเป็นเรื่องแค่หนึ่งวินาที ดังนั้นอย่าได้หวาดกลัว เข้าไปในส่วนลึก:
เข้าไปในส่วนลึกของความรู้ ไม่ใช่ในส่วนลึกของสถานการณ์
เมื่อบัพดาดาเห็นเพชรพลอยอันล้ำค่าที่สูงส่งสูงเช่นนี้เล่นกับฝุ่นละอองเล็กๆ
ท่านก็คิดว่าเพชรพลอยเหล่านี้ที่จริงแล้วควรจะเล่นกับเพชรพลอยแต่กำลังเล่นกับฝุ่นเล็กๆ!
ลูกเป็นเพชรพลอยและดังนั้นลูกจึงควรเล่นกับเพชรพลอย
บัพดาดา หล่อเลี้ยงลูกด้วยความรักเช่นนั้น
ดังนั้นท่านจะสามารถทนเห็นลูกเล่นกับฝุ่นละอองได้อย่างไร? ลูกสกปรกและพูดว่า:
เวลานี้ทำความสะอาดเรา ทำความสะอาดเรา! ลูกกลัวเช่นกัน ฉันควรทำอะไรในตอนนี้?
ฉันควรทำอย่างไรในตอนนี้ ทำไมลูกถึงเล่นกับโคลน?
และในโคลนนั้นก็มีโคลนที่อยู่บนพื้นดินเล็กน้อยเช่นกัน
ดังนั้นขอให้ลูกรู้คุณค่าของตนเองอยู่เสมอ อัจชะ
ถึงดวงวิญญาณที่มีค่าเหลือล้นจนไม่สามารถประเมินค่าได้เช่นนั้นตลอดวงจร
ถึงดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่ความรักของพระเจ้า
ถึงดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การได้รับการหล่อเลี้ยงจากพระเจ้า
ถึงดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์ที่ได้รับสิทธิ์โดยกำเนิดของความบริสุทธิ์
ถึงดวงวิญญาณที่บรรลุความสำเร็จอยู่เสมอด้วยวิธีของการอยู่ด้วยกันกับพ่อ
ถึงลูกๆที่สูงศักดิ์ที่กลายเป็นเพชรพลอยอันล้ำค่าและเล่นกับเพชรพลอยอยู่เสมอ
ด้วยความรัก ความทรงจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
บัพดาดาพบกลุ่ม:
ลูกคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่หลอมรวมอยู่ในดวงตาของพ่อ ที่หลอมรวมอยู่ในดวงตา
ผู้ที่เป็นจุดแสงที่สว่างมากอยู่เสมอหรือไม่?
ดังนั้นลูกจะเป็นจุดอย่างสม่ำเสมอและลูกจะกลายเป็นจุดที่หลอมรวมอยู่ในดวงตาของพ่อเสมอ
บัพดาดาหลอมรวมอยู่ในดวงตาของลูกและลูกทั้งหมดหลอมรวมอยู่ในดวงตาของบัพดาดา
เมื่อลูกมีบัพดาดาอยู่ในดวงตาของลูกเท่านั้นลูกก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งอื่นใดได้
ดังนั้นคงอยู่อย่างเป็นแสงที่เบาสบายเป็นสองเท่าอย่างสม่ำเสมอด้วยสำนึกรู้นี้:
ฉันเป็นจุดเสมอ จุดที่ไม่มีภาระใดๆ รูปของจิตสำนึกนี้จะทำให้ลูกสามารถก้าวหน้าต่อไป
เมื่อลูกมองไปที่ตรงกลางของดวงตา มีเพียงแค่จุด (รูม่านตา)
มันเป็นลูกตาดำที่มองเห็น เมื่อไม่มีจุดอยู่ที่นั่น แม้ว่าลูกจะมีดวงตา
แต่ลูกก็ไม่สามารถมองเห็นได้
ดังนั้นโปรดเก็บรูปนี้ไว้ในสำนึกรู้ของลูกและสัมผัสกับสภาพที่โบยบินอยู่เสมอ
บัพดาดาพอใจที่ได้เห็นโชคของลูกในปัจจุบันและอนาคต
ปัจจุบันคือปากกาที่จะสร้างโชคในอนาคตของลูก
วิธีที่จะทำให้ปัจจุบันของลูกสูงส่งคือการยอมรับสัญญาณจากซีเนียร์หรือผู้อาวุโสและการเปลี่ยนตนเอง
ด้วยคุณธรรมพิเศษนี้ ปัจจุบันและอนาคตของลูกจะกลับมาสูงส่ง
2) ดวงดาวแห่งโชคเปล่งประกายอยู่บนหน้าผากของลูกแต่ละคนใช่ไหม?
เปล่งประกายอยู่เสมอหรือไม่? ไม่กระพริบในบางครั้งใช่ไหม?
เมื่ออยู่รวมกับพ่อผู้เป็นแสงที่สว่างไสวอยู่เสมอลูกก็กลายเป็นดวงดาวที่สว่างไสวเสมอ
ลูกสัมผัสกับสิ่งนี้หรือไม่? บางครั้งลมไม่ทำให้ตะเกียงหรือดวงดาวแปรปรวนใช่ไหม?
เมื่อมีการจดจำระลึกถึงพ่อดวงดาวนั้นจะเปล่งประกายชั่วนิรันดร์ มันไม่กระพริบ
เมื่อไฟกระพริบก็จะถูกปิดเพราะไม่มีใครชอบสิ่งนี้
ดังนั้นที่นี่เช่นกันจงเป็นดวงดาวที่เปล่งประกายอย่างสม่ำเสมอ
ลูกรับแสงสว่างจากพ่อผู้เป็นพระอาทิตย์แห่งความรู้อย่างสม่ำเสมอและให้แสงสว่างต่อผู้อื่น
ลูกมีความจริงจังและความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้เสมอ
ลูกทั้งหมดเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่ง ดวงวิญญาณที่สูงส่งของพ่อที่สูงส่ง
ความสำเร็จนั้นสามารถบรรลุได้อย่างง่ายดายด้วยพลังของการจดจำระลึกถึง
มากเท่าที่ลูกมีการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้อยู่ด้วยกัน
ความสมดุลของการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้นั้นจะทำให้ลูกได้รับพรสำหรับความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นโดยการสร้างบรรยากาศของการจดจำระลึกถึงที่ทรงพลัง
ดวงวิญญาณที่มีพลังจึงถูกเรียกมาและลูกจะประสบความสำเร็จ
งานทางโลกเป็นไปเพียงเพื่อคุณประโยชน์
แต่ความรักที่แท้จริงมีไว้เพื่อพ่อและงานรับใช้
งานทางโลกเช่นกันก็เป็นไปเพื่องานรับใช้ ที่ไม่ได้ทำจากความผูกพันยึดมั่นของลูกเอง
ลูกทำตามคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติ
เหตุนี้เองมือแห่งความรักของพ่อจึงอยู่กับลูกเช่นนั้น
จงร้องเพลงและร่ายรำอย่างมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ นี่คือวิธีในการทำงานรับใช้
เมื่อคนอื่นเห็นความสุขของลูก พวกเขาก็จะมีความสุข และนี่คืองานรับใช้ที่จะเกิดขึ้น
บัพดาดาบอกลูกลูกๆอยู่เสมอว่า:
มากเท่าที่ลูกเป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่สมบัติของลูกจะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
เป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่และเพิ่มสมบัติที่มีค่าของลูก
เป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่และให้ทานให้มาก การให้นี้ที่จริงแล้วคือการได้รับ
เมื่อลูกได้รับสิ่งที่ดี ลูกจะไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ให้สิ่งนั้นกับผู้อื่น
เมื่อเห็นโชคของลูกจงมีความสุขอยู่เสมอ ลูกได้รับโชคที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้น!
ลูกพบพระเจ้าในขณะที่นั่งอยู่ที่บ้าน! จะมีโชคอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกไหม?
รักษาโชคนี้ไว้ในสำนึกรู้ของลูกและอยู่อย่างมีความสุข!
ความทุกข์และความไม่สงบจะจบสิ้นลงตลอดไป
ลูกจะกลายเป็นตัวแห่งความสุขและเป็นตัวแห่งความสงบ
ผู้ที่โชคของเขาถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้าเองก็สูงส่งมากเช่นกัน
ดังนั้นสัมผัสกับความจริงจังและความกระตือรือร้นใหม่ๆในตนเองอย่างสม่ำเสมอและเคลื่อนต่อไป
เพราะทุกวันในยุคบรรจบพบกันคือความจริงจังใหม่และความกระตือรือร้นใหม่
อย่าเพียงแค่มีความสุขในการก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ลูกเป็น
แต่มีความจริงจังและความกระตือรือร้นใหม่ๆอยู่เสมอซึ่งจะทำให้ลูกก้าวไปข้างหน้าได้ตลอดเวลา
ทุกวันเป็นสิ่งใหม่
แน่นอนว่าลูกจะต้องมีความใหม่อย่างใดอย่างหนึ่งในตนเองและในงานรับใช้เสมอ
ยิ่งลูกมีความจริงจังและความกระตือรือร้นมากเท่าไหร่ลูกก็จะยิ่งมีการสัมผัสใหม่ๆมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อลูกยุ่งอยู่กับสิ่งอื่นอยู่เสมอ ลูกก็จะไม่สามารถรับการสัมผัสในสิ่งใหม่ได้
จงไตร่ตรองและลูกจะมีความกระตือรือร้นใหม่
ในขณะที่มอบความรักและความทรงจำระลึกถึงแก่ผู้ที่อยู่ในบ่วงพันธะ:
ความทรงจำระลึกถึงของผู้ที่อยู่ในบ่วงพันธะมาถึงพ่อ
และบัพดาดามักจะบอกผู้ที่อยู่ในบ่วงอยู่เสมอว่าให้ทำโยคะของพวกเขา
นั่นคือทำให้ความรักต่อการจดจดรำลึกถึงของพวกเขาเป็นเช่นไฟ
เมื่อความรักกลายเป็นเหมือนไฟทุกสิ่งก็ถูกเผาในไฟนั้น
จากนั้นบ่วงพันธะเหล่านั้นจะสิ้นสุดลงในไฟแห่งความรัก
ลูกจะกลายเป็นดวงวิญญาณอิสระและบรรลุความสำเร็จในทุกสิ่งที่ลูกคิด ลูกมีความรัก
และความทรงจำระลึกถึงของผู้ที่มีความรักก็มาถึงบาบา เพื่อเป็นการตอบแทนของความรัก
ลูกก็จะได้รับความรัก
แต่ให้ความทรงจำระลึกถึงของลูกในเวลานี้กลายเป็นเช่นไฟที่ทรงพลังอันแรงกล้า
แล้ววันนั้นจะมาถึงเมื่อลูกมาที่นี่เป็นการส่วนตัว
พร:
ขอให้ลูกเป็นดอกกุหลาบทางจิตที่อยู่ในสภาพทางจิตอยู่เสมอและมองดูผู้อื่นอย่างเป็นดวงวิญญาณเช่นกัน
ดอกกุหลาบทางจิตคือผู้ที่มีกลิ่นหอมทางจิตอยู่เสมอ
เมื่อผู้ที่มีกลิ่นหอมทางจิตมองไปที่ใดหรือมองเห็นใคร
พวกเขาจะเห็นแต่ดวงวิญญาณไม่ใช่ร่างกาย
ดังนั้นจงอยู่ในสภาพที่เป็นทางจิตของตนเองเสมอและมองผู้อื่นอย่างเป็นดวงวิญญาณ
เช่นที่พ่อนั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด
ดังนั้นสวนดอกไม้ของท่านก็สูงสุดเหนือสิ่งใดเช่นกัน
และลูกๆก็เป็นเครื่องประดับพิเศษที่เป็นดอกกุหลาบทางจิตในสวนนั้น
กลิ่นหอมทางจิตของลูกจะทำให้ดวงวิญญาณมากมายได้รับคุณประโยชน์
คติพจน์:
เมื่อลูกทำให้ใครบางคนมีความสุขด้วยการทำผิดกฎเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง
นั่นก็จะถูกสะสมไว้ในบัญชีความทุกข์ของลูก