08.05.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ลูกมาหาพ่อเพื่อที่จะรับผลของความเลื่อมใสศรัทธา
ผู้ที่เคยทำความเลื่อมใสศรัทธามามากมายก็จะก้าวหน้าไปในความรู้
คำถาม:
สองสิ่งใดที่จำเป็นในอาณาจักรของยุคเหล็ก ซึ่งไม่จำเป็นในอาณาจักรของยุคทอง?
คำตอบ:
ในอาณาจักรของยุคเหล็กลูกต้องมีที่ปรึกษาและกูรู ในยุคทองไม่มีผู้คนเหล่านี้
ไม่มีความจำเป็นต้องรับคำแนะนำของใครเลยที่นั่น
เพราะอาณาจักรของยุคทองได้มีการก่อตั้งขึ้นมาในยุคบรรจบพบกันด้วยศรีมัทของพ่อ
ศรีมัทที่ลูกได้รับจะคงอยู่เป็นเวลาถึง 21 ชั่วอายุคน และทุกคนอยู่ในสภาพที่หลุดพ้น
และเหตุนี้เองจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีกูรู
โอมชานติ
ความหมายของคำว่า “โอม ชานติ” คืออะไร?
นั่งขณะที่มั่นคงอยู่ในศาสนาดั้งเดิมของตนเอง
หรือนั่งที่นี่ขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ และแล้วลูกก็จะนั่งอย่างสงบได้
สิ่งนี้เรียกว่าการนั่งขณะที่มั่นคงอยู่ในศาสนาดั้งเดิมของลูก พระเจ้าพูด
นั่งในขณะที่มั่นคงในศาสนาดั้งเดิมของลูก พ่อของลูกนั่งอยู่ที่นี่และกำลังสอนลูก
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังสอนการศึกษาที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูก
เพราะพ่อคือผู้เดียวที่ให้ความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูก
ลูกได้รับความสุขด้วยการศึกษาเล่าเรียน เวลานี้พ่อพูดว่า
นั่งที่นี่ในขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดมาที่นี่เพื่อทำให้ลูกกลายเป็นเช่นเพชร
เป็นเพียงเหล่าเทพเท่านั้นที่เป็นเช่นเพชร พวกเขากลายเป็นเช่นนั้นเมื่อใด?
พวกเขากลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งเช่นนั้นได้อย่างไร?
ไม่มีใครนอกจากพ่อผู้เดียวสามารถบอกสิ่งนี้แก่ลูก
ลูกบราห์มินคือลูกของประชาบิดาบราห์มา แล้วลูกต้องกลายเป็นเทพ
บราห์มินทั้งหลายคือจุก ลูกได้กลายเป็นบราห์มินจากศูทร
ลูกคือสิ่งสร้างที่เกิดจากปากของประชาบิดาบราห์มา ลูกไม่ใช่สิ่งสร้างทางร่างกาย
ผู้คนเหล่านั้นทั้งหมดในยุคเหล็กคือสิ่งสร้างทางร่างกาย ตั้งแต่ยุคทองแดงเป็นต้นมา
ผู้รู้ ผู้เคร่งศาสนา ฤาษีและมุนี ฯลฯ ทั้งหมดคือสิ่งสร้างทางร่างกาย
เวลานี้เพียงลูกประชาบิดาบราห์มากุมารและกุมารีเท่านั้นที่กลายเป็นสิ่งสร้างที่เกิดจากปาก
นี่คือสกุลที่สูงส่งที่สุดของลูก
สกุลนี้สูงส่งแม้กระทั่งยิ่งกว่าสกุลเทพเพราะพ่อผู้ที่สอนลูกและเปลี่ยนแปลงลูกจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพได้มาแล้ว
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆเพราะผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาไม่ได้มาที่นี่
เพียงผู้ที่เป็นของหนทางของความรู้เท่านั้นที่มาที่นี่
ลูกมาที่นี่มาหาพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเพื่อได้รับผลของความเลื่อมใสศรัทธาของลูก
ใครจะได้รับผลของความเลื่อมใสศรัทธา?
มีเพียงผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธามากที่สุดเท่านั้นที่จะเปลี่ยนจากการมีสติปัญญาที่เป็นหินเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่สูงส่ง
พวกเขาจะมาและรับความรู้
เป็นพระเจ้าเท่านั้นที่ต้องมาและให้ผลของความเลื่อมใสศรัทธา
ประเด็นเหล่านี้ควรเข้าใจเป็นอย่างดี
เวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นผู้อาศัยของยุคทองจากยุคเหล็ก
และเป็นผู้ที่ปราศจากกิเลสจากผู้มีกิเลส
นั่นคือลูกกำลังจะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด
ลูกมาที่นี่เพื่อกลายเป็นเช่นลักษมีและนารายณ์ พวกเขาคือเทวาและเทวี
และดังนั้นเป็นพระเจ้าผู้ที่สอนพวกเขาอย่างแน่นอน พระเจ้าพูด
แต่ใครที่ถูกเรียกว่าเป็นพระเจ้า? มีเพียงพระเจ้าเดียวเท่านั้น
ไม่ได้มีพระเจ้านับร้อยหรือนับพัน พระเจ้าไม่ได้อยู่ในก้อนกรวดและก้อนหิน ฯลฯ
บารัตได้กลับมายากจนข้นแค้นเพราะการไม่รู้จักพ่อ เวลานี้ลูกๆ
รู้แล้วว่าเคยมีอาณาจักรของลักษมีและนารายณ์ในบารัต ลูกๆของพวกเขา ฯลฯ
เคยเป็นนายของอาณาจักร ลูกมาที่นี่เพื่อจะกลายเป็นนายของอาณาจักร
ลูกไม่ได้เป็นเช่นนั้นในเวลานี้ เคยมีอาณาจักรของพวกเขาในบารัต
ได้มีการอธิบายแก่ลูกแล้วว่าเมื่อเคยเป็นอาณาจักรของเหล่าเทพ
เมื่อมีสุริยะวงศ์และจันทราวงศ์ก็ไม่มีศาสนาอื่นใดเลย ในเวลานี้มีศาสนาอื่นๆ
ทั้งหมด แต่ศาสนาเทพนั้นไม่ได้คงอยู่ ศาสนาเทพซึ่งเป็นรากฐานที่เรียกว่าเป็นลำต้น
ในเวลานี้ทั้งลำต้นของต้นไม้โลกมนุษย์ได้ถูกเผาไหม้และที่เหลือของต้นไม้ก็ยังคงยืนต้นอยู่
ช่วงชีวิตของผู้คนเหล่านั้นทั้งหมดกำลังจะจบสิ้นลงในเวลานี้
นี่คือต้นไม้ที่หลากหลายของโลกมนุษย์ มีผู้ที่มีนาม รูป ดินแดน
และเวลาที่แตกต่างกัน มีพวกเขาทั้งหมด ต้นไม้นั้นใหญ่โตมาก พ่ออธิบาย ทุกวงจร
ต้นไม้นี้ได้กลับมาทรุดโทรมอย่างสมบูรณ์และตโมประธานและแล้วพ่อก็มา ลูกเรียกหาพ่อ
บาบา ได้โปรดมา และทำให้พวกเราผู้ที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์ เมื่อลูกพูดว่า “โอ
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์!” ก็คือพ่อผู้ไม่มีตัวตนผู้ที่ลูกจดจำ
ลูกจะไม่มีวันจดจำผู้ที่มีตัวตนในเวลานั้น
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์และผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์คือผู้เดียวเท่านั้น
เมื่อเคยเป็นยุคทองลูกก็อยู่ในการหลุดพ้น
เวลานี้ลูกกำลังนั่งอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ในขณะที่ที่เหลือทั้งหมดอยู่ในยุคเหล็ก
ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ผู้ที่สูงส่งที่สุดในบรรดาผู้มีชีวิตทั้งหมด
ผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดที่ได้รับการจดจำนั้นคือพระเจ้าผู้เดียว
ชื่อของท่านสูงสุดและดินแดนของท่านก็สูงสุด ท่านอาศัยอยู่ในสถานที่ที่สูงสุด,
ดินแดนสูงสุด นี่คือสิ่งที่ง่ายมากที่จะเข้าใจ มียุคทอง,ยุคเงิน,ยุคทองแดงและยุคเหล็กแล้วก็มียุคบรรจบพบกัน
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้
หนทางของความเลื่อมใสศรัทธาได้ถูกกำหนดไว้แล้วในละครด้วยเช่นกัน ลูกไม่สามารถถามว่า
บาบา ทำไมหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจึงถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง?
สิ่งนี้คงอยู่ตลอดไป พ่อนั่งที่นี่และอธิบายความลับของละครแก่ลูก
หากพ่อได้สร้างหนทางของความเลื่อมใสศรัทธานั้น
พ่อก็สามารถบอกกับลูกได้ว่ามันสร้างขึ้นมาเมื่อไหร่ พ่อพูดว่า
สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้แล้วตลอดไป ไม่สามารถจะมีคำถามว่ามันได้เริ่มขึ้นเมื่อไหร่
หากลูกพูดว่า มันเริ่มขึ้นในเวลานั้นเวลานี้ แล้วลูกก็จะพูดด้วยเช่นกันว่า
มันจะจบสิ้นลงในเวลานั้นเวลานี้ แต่ไม่เลย วงจรนี้ยังคงหมุนต่อไปตลอดเวลา
ลูกสร้างรูปภาพของบราห์มา,วิษณุและชางก้า พวกเขาคือเทพ
พวกเขาได้แสดงให้เห็นตรีมูรติ
แต่พวกเขาไม่ได้แสดงให้เห็นชีวาที่สูงสุดเหนือสิ่งใดในภาพนั้น
พวกเขาได้แยกท่านออกมา เป็นเวลานี้ที่การก่อตั้งเกิดขึ้นด้วยบราห์มา
ลูกกำลังก่อตั้งอาณาจักรของตัวลูกเอง ในอาณาจักรก็มีสถานภาพทุกประเภท
มีประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี หัวหน้ารัฐมนตรี
ผู้คนเหล่านั้นทั้งหมดคือผู้ที่ให้คำแนะนำ ในยุคทองไม่มีใครจำเป็นต้องให้คำแนะนำ
คำแนะนำ,ศรีมัทที่ลูกได้รับในเวลานี้กลายเป็นสิ่งที่ไม่สูญสลาย
ดูซิว่าในปัจจุบันมีผู้คนมากมายเพียงใดที่ให้คำแนะนำ! มีอยู่มากมาย!
พวกเขาใช้เงินและกลายเป็นรัฐมนตรี ฯลฯ เพื่อที่จะให้คำแนะนำ
รัฐบาลเองก็พูดว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นคดโกงและเพียงแค่ต้องการเงิน นี่คือยุคเหล็ก
มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นที่นั่น ไม่มีความจำเป็นสำหรับผู้ให้คำปรึกษาที่นั่น
คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติเหล่านี้คงอยู่มาเป็นเวลา 21
ชาติเกิดและลูกได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์
ไม่มีความจำเป็นสำหรับกูรูที่นั่นเช่นกัน ในยุคทองไม่มีที่ปรึกษาหรือกูรูใด
เวลานี้ลูกกำลังได้รับศรีมัทและศรีมัทนั้นไม่สูญสลายถึง 21 ชั่วอายุคน
จนกระทั่งถึงวัยแก่ชราเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ลูกจะกลับมาแก่ชราแล้วก็ละร่างของลูกและกลายเป็นเด็กอีกครั้ง
เช่นเดียวกับที่งูลอกคราบและมีหนังใหม่ ได้มีการให้ตัวอย่างของสัตว์ไว้
มนุษย์ไม่ได้มีปัญญาใดๆ เพราะพวกเขามีสติปัญญาที่เป็นหิน
พ่ออธิบายแก่ลูกๆที่สุดแสนหวาน,แก่ลูกบราห์มิน
ทุกคนอ่านหรือได้ยินจากคัมภีร์กรันท์ว่าพระเจ้ามาและซักเสื้อผ้าที่สกปรก
ผู้คนเรียกหาพระเจ้าให้มาและซักเสื้อผ้าที่สกปรกเพื่อชำระพวกเราดวงวิญญาณให้สะอาด
พ่อของพวกเราดวงวิญญาณทั้งหมดมาและทำความสะอาดเสื้อผ้าของพวกเรา
ท่านไม่ต้องซักร่างกาย
ท่านต้องซักดวงวิญญาณเพราะเป็นดวงวิญญาณที่กลับมาไม่บริสุทธิ์ “มาและทำให้ดวงวิญญาณที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์”
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก ลูกๆที่สุดแสนหวาน พ่อต้องมาที่นี่
พ่อผู้เดียวเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้และมหาสมุทรแห่งความบริสุทธิ์
ลูกประกาศสิทธิ์ในมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
และมรดกที่มีขีดจำกัดจากพ่อทางร่างของลูก
มีความทุกข์อย่างมากมายจากมรดกที่มีขีดจำกัด และเหตุนี้เองลูกจึงจดจำพ่อ
มีความทุกข์อย่างมากมาย พ่อได้บอกลูกแล้วว่ากิเลสทั้งห้า,ราวันคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลูก
กิเลสเหล่านั้นสร้างความทุกข์ให้แก่ลูกตั้งแต่เวลาที่กิเลสเหล่านั้นเริ่มขึ้นจนถึงตอนกลางและตอนจบ
โอ ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน
หากในชาติเกิดนี้ลูกได้กลายมาเป็นบราห์มินและเอาชนะกิเลสของตัณหาราคะ
ลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะโลก ลูกสร้างสมความบริสุทธิ์เพื่อที่จะกลายเป็นเทพ
บาบาได้มาเพื่อก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ลูกต้องเพียรพยายามและกลับมาบริสุทธิ์ในยุคนี้
อย่างไรก็ตามลูกหลายคนก็กลับมาบริสุทธิ์และเป็นของสกุลสุริยะวงศ์และจันทราวงศ์ก่อนหน้านี้พวกเขาก็จะกลายเป็นเช่นนั้นอีกครั้งอย่างแน่นอน
สิ่งนี้ใช้เวลา พ่อแสดงวิธีที่ง่ายดายมากให้แก่ลูก เวลานี้ลูกได้กลายเป็นลูกของพ่อ
ลูกมาหาใครที่นี่? ท่านคือผู้ที่ไม่มีตัวตน ผู้เดียวนั้นได้ยืมร่างกายมาใช้
ท่านเองบอกลูกว่า นี่คือชาติเกิดสุดท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของผู้นี้
ดังนั้นนี่คือร่างที่เก่าที่สุด
พ่อมาในโลกเก่าที่เป็นเช่นปีศาจของราวันและเข้ามาในร่างของผู้ที่ไม่รู้ถึงชาติเกิดของเขาเอง
นี่คือชาติเกิดสุดท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของเขา
พ่อเข้ามาในเขาเมื่อเขาอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณของเขา
ผู้คนจะมีนำกูรูในวัยปลดเกษียณของพวกเขาอยู่เสมอ มีคำกล่าวว่า เมื่อลูกมีอายุถึง 60
ปี ลูกก็ได้รับไม้เท้า หากลูกอยู่ที่บ้าน ลูกๆ ของลูกก็จะให้ไม้เท้าแก่ลูก
ดังนั้นจงวิ่งไปจากบ้านของลูก
ลูกๆของเขาเป็นเช่นนั้นที่พวกเขาไม่ได้ใช้เวลานานเลยที่จะตีพ่อของเขาเองด้วยไม้เท้า
พวกเขากำลังรอคอยเวลาที่พ่อเขาจะตายเพื่อที่พวกเขาจะได้รับสมบัติของเขา
มีชุมนุมทางจิตมากมายของผู้ที่อยู่ในสภาพปลดเกษียณ
ลูกรู้ว่าผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์สำหรับทุกคนคือผู้เดียวและท่านมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น
เมื่อลูกอยู่ในการหลุดพ้นในยุคทอง ที่เหลือทั้งหมดก็อยู่ในดินแดนแห่งความสงบ
ท่านเรียกว่าเป็นผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์สำหรับทุกคน
ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถเป็นผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ได้และไม่มีใครสามารถเรียกได้ว่าเป็น
“ศรี” หรือ “ศรี ศรี” เป็นเหล่าเทพผู้ที่เป็นศรี นั่นคือสูงส่ง
พวกเขาถูกเรียกว่าศรีลักษมีและศรีนารายณ์ ใครทำให้พวกเขาเป็นเช่นนั้น?
ชีพบาบาผู้เดียวเท่านั้นที่ควรจะได้รับการเรียกว่าเป็น ศรี ศรี
พ่อได้แสดงให้ลูกเห็นความผิดที่ลูกได้ทำ
ลูกได้มีกูรูมามากมายและสิ่งเดียวกันก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ลูกจะมีกูรูเดียวกันเหล่านั้นอีกครั้ง วงจรเดียวกันจะซ้ำรอย
เมื่อลูกอยู่ในสวรรค์ลูกอยู่ในดินแดนแห่งความสุข มีความบริสุทธิ์ ความสุข
และความสงบที่นั่น ไม่มีการต่อสู้รบราใดๆที่นั่น
ที่เหลือทั้งหมดจะไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่า ยุคทองนั้นหลายแสนปี
พ่อพูดว่า ไม่ใช่เรื่องของหลายแสนปี เป็นเรื่องของ 5000 ปี พวกเขาแม้กระทั่งพูดถึง
84 ชาติเกิดของมนุษย์
แต่ละวันในขณะที่ลูกลงบันไดมาเรื่อยๆลูกก็จะเฝ้าแต่กลับมาตโมประธาน พ่ออธิบายว่า
สิ่งนี้อยู่ในละครที่ถูกกำหนดไว้แล้วเช่นกัน ผู้ที่เป็นนักแสดงแต่ไม่รู้จักผู้สร้าง
ผู้กำกับ และนักแสดงหลักของละครนั้นจะเรียกว่าอะไร?
พ่อพูดว่าไม่มีมนุษย์ใดรู้เกี่ยวกับละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ พ่อมาและอธิบายสิ่งนี้
มีคำกล่าวว่าดวงวิญญาณนำร่างมาใช้และเล่นบทบาทต่างๆของพวกเขา
ดังนั้นจึงเป็นการละเล่นเป็นละคร ใครคือนักแสดงหลักของละคร?
ไม่มีใครที่จะสามารถบอกลูกได้
เวลานี้ลูกรู้แล้วว่าละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้เคลื่อนไปเรื่อยๆเหมือนตัวไรได้อย่างไร
ละครนั้นเฝ้าแต่เดินติ๊กติ๊กไป
ผู้เดียวที่เป็นหลักคือบาบาที่สูงสุดเหนือสิ่งใดที่มาและอธิบายแก่พวกเราและให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคนด้วยเช่นกัน
ไม่มีใครอื่นในยุคทอง มีผู้คนน้อยมาก
มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำความเลื่อมใสศรัทธามากที่สุด
ผู้ที่ได้ทำความเลื่อมใสศรัทธาอย่างมากมายก็จะมาหาลูกที่นิทรรศการและพิพิธภัณฑ์
การกราบไหว้บูชาชีวาผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าความเลื่อมใสศรัทธาที่ไม่มีสิ่งเจือปน
และแล้วด้วยการกราบไหว้บูชามากมาย การกราบไหว้บูชาจึงมีการเจือปน
ในเวลานี้ความเลื่อมใสศรัทธามีความตโมประธานอย่างสมบูรณ์
ในตอนแรกความเลื่อมใสศรัทธานั้นสโตประธาน
และแล้วในขณะที่ลงบันได้มาลูกก็กลับมาตโมประธาน เมื่อสภาพของลูกกลายเป็นเช่นนั้น
พ่อก็มาเพื่อทำให้ทุกคนสโตประธาน เป็นเวลานี้ที่ลูกรู้ละครที่ไม่มีขีดจำกัดนี้
อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะประกาศสิทธิ์ในมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน
เป็นเมื่อลูกประกาศสิทธิ์ในมรดกของความบริสุทธิ์ในเวลานี้
นั่นคือเมื่อลูกกลายเป็นผู้เอาชนะตัณหาราคะลูกก็จะสามารถกลายเป็นผู้เอาชนะโลกได้
2. ศึกษาเล่าเรียนกับพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดและทำให้ตนเองเป็นเพชรจากเปลือกหอย
ประกาศสิทธิ์ในความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด
มีความซาบซึ้งว่าพ่อผู้ที่ทำให้ลูกเป็นเทพจากมนุษย์อยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัว
นี่คือสกุลบราห์มินที่สูงส่งที่สุดของเราในเวลานี้
พร:
ขอให้ลูกประสบกับชัยชนะที่ง่ายดายด้วยการมีศรัทธาที่ไม่สั่นคลอนและโดยการอยู่อย่างสดชื่นแจ่มใสและไร้กังวลเสมอ
สิ่งชี้บอกของศรัทธาคือชัยชนะที่ง่ายดาย อย่างไรก็ตามต้องมีศรัทธาในทุกด้าน
ไม่ใช่แค่มีศรัทธาเพียงพ่อเท่านั้น แต่มีศรัทธาอย่างเต็มที่ในตนเอง
ในครอบครัวบราห์มิน และในทุกฉากของละคร
ลูกต้องไม่ให้ศรัทธาของลูกควรสั่นคลอนกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ
แต่มีการตระหนักรู้อยู่เสมอว่าชะตากรรมแห่งชัยชนะไม่สามารถถูกขัดขวางได้
ลูกๆผู้มีศรัทธาในสติปัญญาเช่นนั้นจะอยู่เหนือคำถาม เช่น “เกิดอะไรขึ้น?” หรือ “
ทำไมสิ่งนั้นถึงเกิดขึ้น?” พวกเขาจะอยู่อย่างไร้กังวลและร่าเริงอยู่เสมอ
คติพจน์:
แทนที่จะสูญเสียเวลาของลูก จงตัดสินใจและแก้ไขทุกสิ่งในทันที