31.05.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน เวลานี้ลูกได้พบอัลล่าห์แล้ว ลูกต้องทำให้ตนเองถูกต้อง นั่นคือลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ การพิจารณาว่าตนเป็นร่างกายหมายถึงการอยู่อย่างกลับหัวกลับหาง

คำถาม:
ด้วยการเข้าใจประเด็นใดที่ลูกสามารถพัฒนาการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด?

คำตอบ:
เวลานี้โลกเก่าสิ้นหวัง โลกเก่ากำลังจะกลายเป็นสุสาน เมื่อลูกเข้าใจประเด็นนี้แล้วลูกก็สามารถพัฒนาการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดได้ ลูกเข้าใจว่าเวลานี้กำลังมีการก่อตั้งโลกใหม่ขึ้น ทั้งโลกจะต้องถูกสังเวยในไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้านี้ โดยการเข้าใจประเด็นเดียวนี้ที่จะทำให้ลูกจะสามารถพัฒนาการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดได้ ในเวลานี้หัวใจของลูกก้าวออกมาจากสุสานนี้แล้ว

โอมชานติ
ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือดับเบิ้ลโอมชานติ เพราะมีสองดวงวิญญาณ ศาสนาดั้งเดิมของทั้งสองดวงวิญญาณคือความสงบ ศาสนาของพ่อคือความสงบ ลูกๆอาศัยอยู่ที่นั่นในความสงบและสถานที่นั้นก็เรียกว่าเป็นดินแดนแห่งความสงบ พ่อก็อาศัยอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน พ่อบริสุทธิ์เสมอ แต่มนุษย์ทั้งหมดได้กลับมาใช้ชาติเกิดใหม่และกลับมาไม่บริสุทธิ์ พ่อพูดกับลูกๆว่า ลูกๆพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ลูกๆดวงวิญญาณรู้ว่าพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดคือมหาสมุทรแห่งความรู้และมหาสมุทรแห่งความสงบ นี่คือคำยกย่องสรรเสริญของท่าน ท่านคือพ่อของทุกคนและเป็นผู้เดียวที่ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคน ดังนั้นทุกคนมีสิทธิ์ในมรดกของพ่ออย่างแน่นอน ลูกได้รับมรดกอะไรจากพ่อ? ลูกเข้าใจว่าพ่อคือผู้สร้างแห่งสวรรค์ และดังนั้นท่านจะให้มรดกของสวรรค์ของลูกแก่ลูกอย่างแน่นอน และท่านจะให้สิ่งนั้นในนรก เป็นราวันที่ให้มรดกของนรกแก่ลูก ในเวลานี้ทุกคนคือชาวนรก ดังนั้นลูกได้รับมรดกจากราวันอย่างแน่นอน มีทั้งสวรรค์และนรก ใครกำลังรับฟังสิ่งนี้? ดวงวิญญาณ แม้แต่ในหนทางของความไม่รู้ก็เป็นดวงวิญญาณที่ทำทุกสิ่ง แต่เนื่องจากสำนึกที่เป็นร่างผู้คนจึงเชื่อว่าเป็นร่างกายที่ทำทุกสิ่ง พวกเขาลืมว่าศาสนาดั้งเดิมของพวกเขาคือความสงบ และพวกเขาคือผู้อาศัยของดินแดนแห่งความสงบ ลูกต้องอธิบายด้วยเช่นกันว่าเป็นดินแดนแห่งสัจจะแล้วจึงเป็นดินแดนของความหลอกลวง บารัตเคยเป็นดินแดนแห่งสัจจะและภายหลังได้กลายเป็นดินแดนแห่งความหลอกลวง, อาณาจักรของราวัน นี่คือประเด็นทั่วๆไป เหตุใดมนุษย์จึงไม่สามารถเข้าใจสิ่งนี้? เพราะดวงวิญญาณได้กลับมาตโมประธานและพวกเขาจึงเรียกว่าเป็นผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหิน เมื่อผู้คนกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชา พวกเขาก็ประณามผู้เดียวผู้ที่ทำให้บารัตเป็นสวรรค์และมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ไม่มีใครสามารถถูกประณามเพราะสิ่งนี้ พ่ออธิบายแก่ลูกๆว่าละครนี้ได้มีการสร้างขึ้นมาอย่างไร และลูกได้กลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาจากการเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาอย่างไร พ่ออธิบายว่า 5000 ปีก่อนวันนี้ มีศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปในบารัต มันเป็นเพียงเรื่องของเมื่อวานนี้ แต่มนุษย์ก็ได้ลืมสิ่งนี้ ผู้คนได้นั่งลงและสร้างคัมภีร์เหล่านั้นทั้งหมดขึ้นมา ฯลฯ สำหรับหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา คัมภีร์นั้นเป็นไปเพื่อหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา, ไม่ใช่เพื่อหนทางของความรู้ ไม่มีคัมภีร์ใดที่สร้างขึ้นมาในหนทางของความรู้ พ่อมาในทุกๆวงจรและให้ความรู้แก่ลูกๆเพื่อทำให้ลูกสามารถที่จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพของการเป็นเทพ พ่อสอนการศึกษานี้แก่ลูก และแล้วความรู้นี้ก็หายไป ไม่มีคัมภีร์ใดในยุคทอง เพราะนั่นเป็นผลรางวัลของหนทางของความรู้ของลูก ลูกได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด จากนั้นลูกก็ได้รับมรดกในช่วงระยะเวลาสั้นๆจากราวันเป็นเวลาครึ่งหนึ่งของวงจร, ซึ่งซันยาสซีเรียกว่า “ความสุขเป็นเหมือนกับมูลกาหนึ่งหยด” ไม่มีสิ่งใดนอกจากความทุกข์ที่นี่ซึ่งเรียกว่าดินแดนแห่งความทุกข์ ก่อนยุคเหล็กก็มียุคทองแดง และนั่นก็เรียกว่าเป็นดินแดนของกึ่งความทุกข์ นี่คือดินแดนของความทุกข์สุดท้าย ดวงวิญญาณได้ลงมาในขณะที่ใช้ 84 ชาติเกิด พ่อทำให้ลูกปีนบันไดขึ้นไปเพราะวงจรต้องหมุนไปอย่างแน่นอน เมื่อโลกใหม่นั้นคงอยู่ก็เป็นอาณาจักรของเหล่าเทพ ไม่มีร่องรอยของความทุกข์เลย เหตุนี้เองพวกเขาจึงได้แสดงให้เห็นสิงโตและแพะดื่มน้ำด้วยกันจากบ่อเดียวกัน ที่นั่นไม่มีเรื่องของความก้าวร้าวรุนแรง สิ่งนั้นเรียกว่า “ศาสนาเทพที่ไม่ก้าวร้าวรุนแรงที่สูงส่งที่สุด” ที่นี่มีความก้าวร้าวรุนแรง ความก้าวร้าวรุนแรงแรกคือการใช้ดาบของตัณหาราคะ ไม่มีใครมีกิเลสใดในยุคทองเลย ผู้คนร้องเพลงสรรเสริญพวกเขา (เหล่าเทพ) พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญลักษมีและนารายณ์ ท่านปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ กลียุคนี้คือโลกยุคเหล็ก ไม่สามารถจะเรียกว่ายุคทองได้ ละครนั้นถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะนี้ ยุคทองคือวัดของชีวา ที่นั่นทุกคนบริสุทธิ์และภาพลักษณ์ของพวกเขาก็ยังคงมีอยู่แม้แต่ในเวลานี้ มีภาพลักษณ์ของชีพบาบาผู้ที่สร้างวัดของชีวาด้วยเช่นกัน ท่านเคยได้รับชื่อมากมายในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา อันที่จริงแล้วท่านมีเพียงชื่อเดียวเท่านั้น พ่อไม่ได้มีร่างกายของพ่อเอง ตัวพ่อเองพูดว่า พ่อต้องมาเพื่อที่ให้คำแนะนำของพ่อแก่ลูก และเพื่อที่ให้ความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้างแก่ลูกด้วยเช่นกัน พ่อต้องมาและรับใช้ลูก ลูกเรียกหาพ่อ โอ ผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้โปรดมา! ลูกไม่ได้เรียกหาพ่อในยุคทอง ทุกคนเรียกหาในเวลานี้ เพราะการทำลายล้างยืนอยู่เบื้องหน้า ผู้คนของบารัตรู้ว่านี่คือสงครามมหาภารตะเดียวกัน จากนั้นก็จะมีการก่อตั้งศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป พ่อพูดด้วยเช่นกันว่า พ่อมาเพื่อทำให้ลูกเป็นราชาเหนือราชา ทุกวันนี้ไม่มีราชาหรือจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ใด ฯลฯ เวลานี้เป็นการปกครองของประชาชนโดยประชาชน ลูกๆเข้าใจว่าลูกๆผู้คนของบารัตเคยมั่งคั่ง ลูกเคยอยู่ในประสาทราชวังที่ทำจากเพชรพลอย เริ่มแรกโลกนั้นใหม่ และแล้วโลกใหม่ก็กลับมาเก่า ทุกสิ่งต้องกลับมาเก่าอย่างแน่นอน ตัวอย่างเช่น ได้มีการสร้างบ้านใหม่ขึ้นและแล้วอายุขัยของบ้านนั้นก็ลดลง อาจกล่าวได้ว่าบ้านนี้ใหม่, บ้านนั้นครึ่งเก่า, และอีกหนึ่งนั้นก็อยู่ในระหว่างกลาง ทุกสิ่งต้องผ่านสภาพของสโต รโช และตโม พระเจ้าพูดว่า พระเจ้าหมายถึงพระเจ้า! พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งว่าเป็นใครที่เรียกว่าพระเจ้า ไม่มีราชาหรือราชินี ที่นี่มีประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และมีรัฐมนตรีของพวกเขาอยู่มากมาย ในยุคทอง ราชาและราชินีเป็นเช่นไรปวงประชาก็เป็นเช่นนั้น พ่อได้บอกถึงความแตกต่างแก่ลูกแล้ว ผู้ที่เป็นนายของยุคทองไม่ได้มีรัฐมนตรีหรือที่ปรึกษา พวกเขาไม่ต้องการบุคคลเหล่านั้น เป็นในเวลานี้ที่พวกเขาได้รับพลังจากชีพบาบาและประกาศสิทธิ์ในสถานภาพนั้น ในเวลานี้ที่ลูกได้รับคำสอนที่สูงส่งจากพ่อที่จะทำให้ลูกประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง แล้วลูกก็จะไม่ขอคำปรึกษาจากใคร ไม่มีที่ปรึกษาใดๆ ที่นั่น ที่ปรึกษาเกิดขึ้นเมื่อลูกก้าวไปสู่หนทางแห่งบาป เมื่อปัญญาทั้งหมดของลูกได้หมดสิ้นลง ประเด็นหลักคือกิเลส กิเลสนั้นสร้างขึ้นจากสำนึกที่เป็นร่าง จากกิเลสเหล่านั้นตัณหาราคะคือกิเลสอันดับหนึ่ง พ่อพูดว่า ตัณหาราคะคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลูก ลูกต้องเอาชนะสิ่งนั้น พ่อได้อธิบายหลายครั้งแล้วว่า จงพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ซันสการ์ที่ดีและไม่ดีมีอยู่ในดวงวิญญาณ ที่นี่ไม่ใช่ในยุคทองที่ลูกต้องสำนึกผิดเสียใจต่อการกระทำของลูก, นั่นคือดินแดนแห่งความสุข พ่อมาและทำให้ลูกๆกลายเป็นผู้อาศัยของดินแดนแห่งความสุขและดินแดนแห่งความสงบ พ่อพูดกับลูกดวงวิญญาณโดยตรง พ่อบอกลูกทั้งหมดว่า นั่งที่นี่ด้วยศรัทธาในสติปัญญาของลูกว่าลูกเป็นดวงวิญญาณ ละทิ้งจิตสำนึกที่เป็นร่าง ร่างกายเหล่านี้สูญสลาย ลูกดวงวิญญาณไม่สูญสลาย ไม่มีใครอื่นมีความรู้นี้ เนื่องจากไม่มีความรู้นี้, พวกเขาจึงพิจารณาว่าความเลื่อมใสศรัทธาเป็นความรู้ เวลานี้ลูกๆเข้าใจว่าความเลื่อมใสศรัทธานั้นแยกจากกัน ลูกได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ด้วยความรู้ ความสุขของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเป็นเพียงชั่วคราว เพราะพวกเขากลายเป็นดวงวิญญาณบาปและข้องแวะในกิเลส มรดกที่ไม่มีขีดจำกัดที่ลูกได้รับมาเป็นเวลาครึ่งวงจรได้จบสิ้นลงแล้ว เวลานี้พ่อมาอีกครั้งเพื่อที่จะให้มรดกของลูกแก่ลูกที่จะทำให้ลูกได้รับทุกสิ่งรวมทั้งความบริสุทธิ์,ความสุขและความสงบ ลูกๆรู้ว่าโลกเก่านี้จะกลายเป็นสุสาน ในเวลานี้จงนำหัวใจของลูกออกไปจากสุสานนี้และผูกพันหัวใจกับดินแดนแห่งเทวดานางฟ้าและโลกใหม่ เป็นเหมือนกับเมื่อพ่อทางร่างได้สร้างบ้านใหม่ที่ลูกของเขาจะนำโยคะของสติปัญญาของพวกเขาออกไปจากบ้านเก่าและเชื่อมโยงกับบ้านใหม่ แม้ในขณะที่พ่อกำลังนั่งอยู่ในสำนักงานของเขา สติปัญญาของเขาก็จะอยู่ในบ้านใหม่ เหล่านั้นเป็นเรื่องที่มีขีดจำกัด พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังสร้างโลกใหม่ของสวรรค์ ท่านพูดว่า ตัดความสัมพันธ์ของลูกกับโลกเก่าและสร้างความสัมพันธ์กับฉัน,พ่อของลูก พ่อได้มาเพื่อสร้างโลกใหม่ของสวรรค์สำหรับลูก ทั้งโลกเก่านี้จะถูกสังเวยในไฟบูชายัญของความรู้ของรูดร้าในเวลานี้ ทั้งต้นไม้นี้ได้กลับมาตโมประธานและผุพัง เวลานี้ต้นไม้กำลังจะกลับมาใหม่อีกครั้ง ดังนั้นพ่ออธิบายว่าเหล่านี้คือประเด็นของโลกใหม่ เมื่อใครบางคนล้มป่วยและเขาก็กลับมาสิ้นหวัง ก็เป็นที่เข้าใจว่าเขาจะไม่น่าจะฟื้นตัวจากความเจ็บป่วย ในทำนองเดียวกัน,เวลานี้โลกนี้ก็สิ้นหวัง เพราะโลกนี้จะกลายเป็นสุสาน เหตุใดลูกควรจะจดจำโลกนี้? นี่คือการสละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัด หัตถะโยคี ซันยาสซีเหล่านั้นได้ละทิ้งบ้านและธุรกิจของพวกเขา ลูกละทิ้งทั้งโลกเก่า โลกเก่าเปลี่ยนไปเป็นโลกใหม่ พ่อพูดว่า พ่อคือผู้รับใช้ที่เชื่อฟังของลูก พ่อมาเพื่อรับใช้ลูกๆ ลูกเรียกหาพ่อ บาบาพวกเราได้กลับมาไม่บริสุทธิ์ ได้โปรดมาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้ ในร่างที่ไม่บริสุทธิ์เถิด! ดูซิว่าลูกได้ให้การเชื้อเชิญประเภทใดแก่พ่อ! ราวันผู้ที่ลูกเผาเขาอยู่เรื่อยๆคือผู้ที่ทำให้ลูกไม่บริสุทธิ์ เขาคือศัตรูที่แข็งแกร่งมาก ลูกได้รับความทุกข์ตั้งแต่ต้นเมื่อราวันมาจนถึงตอนกลางและตอนจบ ผู้คนเฝ้าแต่จมน้ำในมหาสมุทรของยาพิษ เวลานี้พ่อพูดว่า ละทิ้งยาพิษและดื่มน้ำทิพย์ของความรู้ ลูกอยู่อย่างไม่มีความสุขอย่างมากมาเป็นเวลาครึ่งวงจรในอาณาจักรของราวันเพราะกิเลส ลูกกลายเป็นคนบ้าอย่างมากที่ลูกนั่งและดูหมิ่นพระเจ้า มันน่าแปลใจที่ผู้เดียวที่ลูกดูหมิ่นที่สุดคือผู้เดียวที่ทำให้ลูกกลายเป็นนายของโลกที่บริสุทธิ์ มีคำกล่าวสำหรับมนุษย์ว่าพวกเขาได้ใช้ชาติเกิดใน 8.4 ล้านเผ่าพันธุ์ ในขณะที่ลูกเรียกพ่อว่าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้ก็ถูกกำหนดไว้ในละครด้วยเช่นกัน ท่านอธิบายแก่ลูกในวิธีที่สนุกสนาน ธรรมชาติและซันสการ์ที่ดีหรือไม่ดีก็อยู่ในแต่ละดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณพูดว่า ฉันมีประสบการณ์ของ 84 ชาติเกิด เป็นดวงวิญญาณที่ละร่างหนึ่งและรับอีกร่างหนึ่ง เวลานี้ที่พ่ออธิบายสิ่งนี้ ตามแผนของละคร พ่อมาและทำให้สิ่งที่อยู่กลับหัวกลับหางนั้นกลับมาถูกต้อง พ่อบอกลูกๆที่สุดแสนหวาน อย่าได้นั่งที่นี่อย่างกลับหัวกลับหาง คิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ เวลานี้ลูกได้พบกับอัลล่าห์ (พระเจ้า) ผู้เป็นพ่อแล้ว ผู้ที่กำลังทำให้ลูกกลับมาอยู่อย่างถูกต้อง ราวันได้หันลูกกลับหัวกลับหาง และด้วยการกลับมาอยู่อย่างถูกต้อง ลูกก็สามารถที่จะยืนตัวตรงได้ นี่คือการละเล่น เพียงพ่อเท่านั้นที่นั่งลงและอธิบายความรู้นี้ ความเลื่อมใสศรัทธาคือความเลื่อมใสศรัทธาและความรู้คือความรู้ ความเลื่อมใสศรัทธาแยกกันอย่างสมบูรณ์ มีคำกล่าวว่า มีทะเลสาบวิเศษและด้วยการอาบในทะเลสาบนั้นลูกจะกลายเป็นเทวดานางฟ้า และแล้วพวกเขาก็พูดว่าปาราวตีได้มีการบอกเล่าเรื่องราวของความเป็นอมตะ เวลานี้ลูกกำลังรับฟังเรื่องราวของความเป็นอมตะ จะเป็นเพียงปาราวตีเดียวเท่านั้นที่ได้รับฟังเรื่องราวนี้หรือ? นี่คือเรื่องราวที่ไม่มีขีดจำกัด ยุคทองคือดินแดนแห่งความเป็นอมตะ ในขณะที่ยุคเหล็กคือดินแดนของความตาย สิ่งนี้เรียกว่าป่าหนาม ผู้คนไม่รู้จักพ่อ พวกเขาพูดว่า โอ พ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด! โอพระเจ้า! อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้จักท่าน ลูกก็ไม่รู้จักท่านเช่นกัน ในเวลานี้พ่อมาแล้วและทำให้ลูกถูกต้อง พระเจ้าก็เรียกว่าอัลล่าห์ด้วยเช่นกัน อัลล่าห์สอนลูกและให้สถานภาพของเทพเจ้าแก่ลูก อย่างไรก็ตามมีเพียงพระเจ้าเดียวเท่านั้น ลักษมีและนารายณ์ไม่สามารถเรียกว่าเป็นเทพเจ้าเพราะพวกเขาได้กลับมาใช้ชาติเกิดใหม่ พ่อคือผู้เดียวที่ได้สอนพวกเขาและทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่สูงส่ง ลูกๆทั้งหมดคือพี่น้องเพศชาย ลูกมีสิทธิ์ในมรดกของพ่อ มนุษย์อยู่ในความสนิท พวกเขาเป็นของชุมนุมปีศาจ พวกเขาบอกว่ายุคเหล็กยังคงคลานอยู่ในวัยทารกของมัน, ยังคงเหลือเวลาอีกหลายปี พวกเขานอนหลับไปในการหลับที่ลึกอย่างมากของความไม่รู้ นั่นก็อยู่ในละครเช่นกัน ไม่มีความทุกข์ในความสว่าง มีความทุกข์ในความมืดของกลางคืน เพียงลูกเท่านั้นที่สามารถเข้าใจสิ่งนี้และอธิบายแก่ผู้อื่น ก่อนอื่นลูกต้องให้คำแนะนำของพ่อแก่ทุกคน ทุกคนมีสองพ่อ พ่อที่มีขีดจำกัดให้ความสุขที่มีขีดจำกัด พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดให้ความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด ผู้คนฉลองชีพราตรีและดังนั้นพ่อต้องมาและก่อตั้งสวรรค์อย่างแน่นอน สวรรค์ที่ผ่านไปแล้วเวลานี้กำลังมีการก่อตั้งขึ้นมาอีกครั้ง เวลานี้โลกนี้ตโมประธาน,เป็นนรก ตามแผนของละคร พ่อมาเพื่อเล่นบทบาทของพ่อในเวลาที่ถูกต้อง พ่อไม่มีตัวตน แน่นอนพ่อต้องการปากที่จะพูด ปากของวัวไม่สามารถใช้ได้ พ่อใช้ปากของผู้นี้ ผู้ที่อยู่ในสภาพของการปลดเกษียณในชาติเกิดสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขา พ่อเข้ามาในร่างของผู้นี้ที่ไม่รู้ถึงชาติเกิดของตนเอง อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เช่นที่พ่อพูดกับลูกๆดวงวิญญาณโดยตรง ในทำนองเดียวกันจงมีศรัทธาว่าลูกแต่ละคนคือดวงวิญญาณ ขจัดความผูกพันยึดมั่นใดๆออกไปจากสุสานนี้ พัฒนาซันสการ์เช่นนั้นที่ลูกไม่ต้องสำนึกผิดเสียใจต่อการกระทำของลูก

2. เนื่องจากพ่อมีความมั่นคงในละครที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ท่านไม่เคยกล่าวโทษใคร และท่านแม้กระทั่งยกระดับผู้ที่ดูหมิ่นท่าน จงกลายเป็นเช่นเดียวกับพ่อ ไม่มีใครสามารถถูกตำหนิได้ในละครนี้ ละครนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างถูกต้องแม่นยำ

พร:
ขอให้ลูกเป็นนายผู้ประทาน ผู้หว่านเมล็ดของความปรารถนาดีของลูกในทุกดวงวิญญาณ

อย่าได้รอผล แต่แต่จงเฝ้าแต่หว่านเมล็ดของความปรารถนาดีของลูกในทุกดวงวิญญาณต่อไป ในเวลาที่ถูกต้องทุกดวงวิญญาณจะต้องตื่นขึ้นมาอย่างแน่นอน แม้ว่าบางคนจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการต่อต้านลูก ลูกจะต้องไม่ปล่อยความรู้สึกที่มีเมตตาของลูกไป การต่อต้าน,การดูถูกและการประณามจะทำงานเหมือนปุ๋ยและจะให้ผลที่ดี ยิ่งพวกเขาประณามลูกมากเท่าไร พวกเขาจะยิ่งร้องเพลงสรรเสริญของลูกมากตามนั้น และเหตุนี้เองในฐานะที่ลูกเป็นนายผู้ประทาน,ลูกจะต้องให้ทุกดวงวิญญาณต่อไปเรื่อยๆ ด้วยทัศนคติ กระแสจิต และคำพูดของลูก

คติพจน์:
ลูกๆ ที่หลอมรวมอยู่ในมหาสมุทรแห่งความรัก ความสุข ความสงบ และความปีติอยู่เสมอคือทาปาสวีที่แท้จริง