10.09.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ในช่วงเวลาที่ลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ ลูกจะได้รับรายได้ตามนั้น ด้วยการมีการจดจำระลึกถึงที่ลูกจะเข้ามาใกล้ชิดกับพ่อมากขึ้น

คำถาม:
ลูกๆที่ไม่สามารถอยู่ในการจดจำระลึกถึงจะรู้สึกละอายใจในประเด็นใด?

คำตอบ:
พวกเขารู้สึกละอายใจมากที่จะเก็บบันทึกชาร์ทของการจดจำระลึกถึง พวกเขาสงสัยว่าบาบาจะพูดว่าอย่างไรถ้าพวกเขาเขียนความจริง อย่างไรก็ตามหากลูกๆเฝ้าแต่เขียนชาร์ทของลูกอย่างซื่อสัตย์ ก็จะมีประโยชน์ในสิ่งนี้สำหรับลูก มีประโยชน์อย่างมากในการเขียนชาร์ท บาบาพูดว่า ลูกๆ อย่าได้รู้สึกละอายที่จะทำสิ่งนี้

โอมชานติ
พ่อทางจิตนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ลูกๆมาที่นี่แต่เนิ่นก่อนเวลา 15 นาทีและนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อ เวลานี้ลูกไม่มีสิ่งใดอื่นที่จะทำที่นี่ ลูกมาเพื่อนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อ ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกไม่มีคำแนะนำของพ่อ ที่นี่ลูกได้รับคำแนะนำของพ่อแล้ว พ่อพูดว่า จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น ฉันคือ พ่อของลูกๆทั้งหมด ด้วยการจดจำพ่อ ลูกควรจะจดจำมรดกของลูกได้โดยอัตโนมัติ ลูกไม่ใช่เด็กทารก แม้ว่าลูกจะเขียนว่าลูกอายุ 5 เดือนหรือ 2 เดือน อวัยวะทางร่างกายของลูกก็ใหญ่โต พ่อทางจิตอธิบายว่าลูกต้องนั่งที่นี่ในการจดจำระลึกถึงพ่อและมรดก ลูกรู้ว่าเวลานี้ลูกกำลังเพียรพยายามที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นนารายณ์และลูกกำลังทำความเพียรพยายามที่จะไปสวรรค์ ดังนั้นลูกๆควรจะจดลงไปว่าลูกได้จดจำบาบานานแค่ไหนในขณะที่นั่งที่นี่ เมื่อลูกเขียนชาร์ท พ่อก็จะเข้าใจ ไม่ใช่ว่าพ่อรู้ว่าลูกแต่ละคนอยู่ในการจดจำระลึกถึงนานแค่ไหน จากชาร์ทของลูกเท่านั้นที่ลูกจะสามารถเข้าใจว่าลูกได้อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อหรือไม่หรือว่าสติปัญญาของลูกนั้นเร่ร่อนไปในทิศทางอื่น นอกจากนี้ยังอยู่ในสติปัญญาของลูกด้วยเช่นกันว่าเวลานี้บาบาจะมาและสิ่งนี้คือการจดจำระลึกถึงเช่นกัน ลูกจดจำท่านเป็นเวลายาวนานแค่ไหน? ลูกควรจะเขียนสิ่งนี้อย่างซื่อสัตย์ในชาร์ทของลูก โดยการเขียนสิ่งที่เป็นเท็จ ลูกก็จะสะสมบาป 100 เท่าและจะมีการสูญเสียมากขึ้น ดังนั้นลูกต้องเขียนความจริง ยิ่งลูกจดจำพ่อมากเท่าไร บาปของลูกก็จะยิ่งได้รับการปลดเปลื้องมากเท่านั้น และลูกรู้ว่าลูกจะเข้ามาใกล้บาบามากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเมื่อการจดจำระลึกถึงของลูกจบลง ลูกก็จะไปหาบาบา และจากนั้นบางคนก็จะลงมาอย่างเร็วเพื่อเล่นบทบาทของเขาในโลกใหม่และคนอื่นๆก็จะนั่งอยู่ที่นั่นต่อไป ลูกจะไม่มีความคิดอื่นใดที่นั่น นั่นคือดินแดนแห่งการหลุดพ้นที่ลูกอยู่เหนือความทุกข์และความสุข เวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามเพื่อไปสู่ดินแดนแห่งความสุข ยิ่งลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงมากเท่าไร บาปของลูกก็จะได้รับการปลดเปลื้องมากเท่านั้น ด้วยการเก็บชาร์ทของการจดจำระลึกถึง ลูกก็จะสามารถซึมซับความรู้ได้ดี มีเพียงคุณประโยชน์เท่านั้นในการบันทึกชาร์ท บาบารู้ดีว่าเป็นเพราะลูกไม่ได้อยู่ในการจดจำระลึกถึงที่ลูกรู้สึกละอายใจที่จะเขียนชาร์ทของลูก “บาบาจะพูดว่าอย่างไร? บางทีท่านอาจจะบอกให้ทุกคนฟังในมุรลี” พ่อพูดว่า ไม่มีเรื่องของการละอายใจเกี่ยวกับสิ่งนี้ ลูกแต่ละคนรู้อยู่ในใจของลูกว่าลูกมีการจดจำระลึกถึงหรือไม่ พ่อผู้ให้คุณประโยชน์อธิบายว่า หากลูกจดบันทึกชาร์ทของลูกก็จะมีคุณประโยชน์ ในขณะที่ลูกนั่งอยู่ที่นี่เพื่อรอบาบามา, ชาร์ทของการจดจำระลึกถึงของลูกเป็นเช่นไร? ลูกควรจะเห็นความแตกต่าง ผู้ที่เป็นที่รักก็ได้รับการจดจำอย่างมากมาย เมื่อกุมารและกุมารีนั้นหมั้นหมายกัน การจดจำระลึกถึงกันและกันก็อยู่ในหัวใจของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นกันพวกเขาก็รู้ว่าพวกเขาได้หมั้นหมายกันแล้ว และหลังจากแต่งงานกันแล้วการจดจำระลึกถึงนั้นก็มั่นคง เวลานี้ลูกๆเข้าใจว่าชีพบาบาคือพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดของลูก แม้ว่าลูกไม่เคยเห็นท่าน ลูกก็สามารถเข้าใจท่านด้วยสติปัญญาของลูก โอเค หากพ่อนั้นอยู่เหนือรูปและนาม แล้วเหตุใดลูกจึงกราบไหว้บูชาท่าน? เหตุใดลูกจึงจดจำท่าน? ไม่มีสิ่งใดที่อยู่เหนือรูปหรือนามหรือสิ่งที่ไม่มีที่สิ้นสุดจะสามารถคงอยู่ได้ แน่นอนสิ่งที่มองเห็นได้จึงเป็นสิ่งที่พูดถึงได้ ลูกสามารถเห็นท้องฟ้าและดังนั้นลูกไม่สามารถพูดได้ว่าท้องฟ้าไม่มีที่สิ้นสุด ผู้คนในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาจดจำพระเจ้าและพูดว่า โอ้ พระเจ้า! ดังนั้นลูกไม่สามารถเรียกท่านว่าไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการพูดว่า “โอ้ พระเจ้า” ลูกจะจดจำท่านได้ในทันที และดังนั้นท่านมีอยู่จริงอย่างแน่นอน ดวงวิญญาณสามารถเข้าใจได้ ดวงวิญญาณไม่สามารถมองเห็นได้ มีเพียงพ่อเดียวเท่านั้นของดวงวิญญาณทั้งหมดและลูกต้องรู้จักท่านด้วยเช่นกัน ลูกๆรู้ว่าพ่อมาและสอนลูก ก่อนหน้านี้ลูกไม่รู้ว่าท่านสอนลูกด้วยเช่นกัน พวกเขาได้ใส่ชื่อของกฤษณะไว้ในกีตะ กฤษณะสามารถมองเห็นได้ผ่านตาเหล่านี้ ลูกไม่สามารถพูดถึงเขาว่าเขาอยู่เหนือรูปและนามหรือไม่มีที่สิ้นสุด กฤษณะจะไม่เคยพูดว่า จดจำฉันผู้เดียวเท่านั้น เขาอยู่เบื้องหน้าลูก เขาไม่สามารถเรียกว่าบาบาเช่นกัน ผู้เป็นแม่คิดว่ากฤษณะนั้นเป็นเด็กทารกและทำให้กฤษณะ(รูปบูชาของกฤษณะ)นั่งอยู่ในตักของพวกเธอ ในวันเกิดของกฤษณะพวกเขาก็แกว่งกฤษณะในเปล กฤษณะนั้นจะอยู่อย่างเป็นเด็กเล็กๆเสมอหรือ? ได้มีการแสดงว่าเขากำลังร่ายรำและดังนั้นเขาได้เติบโตขึ้นเล็กน้อยอย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะโตขึ้น, เกิดอะไรขึ้นกับเขา, หรือเขาไปที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ เขาจะไม่มีร่างกายที่เล็กอยู่เสมอไป ผู้คนไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้เลย ระบบของการกราบไหว้บูชานี้ ฯลฯ ได้ดำเนินต่อไป ไม่มีใครในบรรดาพวกเขาที่มีความรู้ใดๆ พวกเขาได้แสดงว่ากฤษณะถือกำเนิดในดินแดนของคันส์ซึ่งเป็นราชาที่เป็นปีศาจ เวลานี้ไม่มีเรื่องของดินแดนของคันส์ซึ่งเป็นราชาปีศาจ ไม่มีใครคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ผู้เลื่อมใสศรัทธาพูดว่ากฤษณะปรากฏอยู่ในทุกหนแห่งแล้วพวกเขาก็อาบน้ำให้กฤษณะและป้อนอาหารให้เขาเช่นกัน เวลานี้เขา(รูปบูชาของกฤษณะ)ไม่ได้รับประทานสิ่งใด พวกเขาได้วางอาหารทั้งหมดไว้เบื้องหน้ารูปปั้นของกฤษณะและแล้วก็รับประทานสิ่งนั้น นั่นเป็นหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเช่นกัน พวกเขาได้ออฟเฟอร์โบ๊คมากมายที่วัดศรีนาถ แต่กฤษณะก็ไม่ได้รับประทานสิ่งใด ผู้ที่ออฟเฟอร์สิ่งนั้นก็รับประทานสิ่งนั้นเอง! พวกเขาทำสิ่งเดียวกันในการกราบไหว้บูชาเทพเจ้า พวกเขาทำรูปบูชาของเหล่าเทพเจ้า ทำการสักการะบูชาแล้วก็นำรูปบูชาเหล่านั้นไปจมน้ำ พวกเขาได้เอาเครื่องประดับออกจากรูปบูชาและนำรูปบูชาไปจมน้ำ จากนั้นผู้คนมากมายที่นั่นก็มาฉวยเอาไปสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาสามารถคว้าไปได้ เป็นเทพเจ้าที่ได้รับการกราบไหว้บูชามากที่สุด พวกเขาทำรูปบูชาของทั้งลักษมีและดูรกา แม่อาวุโสก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เธอได้ชื่อว่าพรหมบุตร(ลูกของบราห์มา) ลูกก็จะเข้าใจว่าพวกเขากราบไหว้บูชารูปของเธอของชาติเกิดนี้และรูปของเธอในอนาคต นี่คือละครที่มหัศจรรย์ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถกล่าวไว้ในคัมภีร์ได้ นี่คือกิจกรรมในทางปฏิบัติ เวลานี้ลูกๆมีความรู้ ลูกเข้าใจว่าภาพลักษณ์ส่วนใหญ่ที่ได้มีการสร้างขึ้นนั้นเป็นภาพลักษณ์ของดวงวิญญาณ เมื่อได้มีการสร้างไฟบูชายัญของรูดร้า ก็ได้มีการทำซาลิแกรมนับหมื่นนับแสนขึ้น พวกเขาไม่เคยทำภาพลักษณ์ของเทพเจ้านับหมื่นนับแสน มีผู้กราบไหว้บูชาเท่าไรก็ตาม พวกเขาก็จะทำรูปบูชาของเหล่าเทพเจ้าเท่านั้น ในขณะที่พวกเขาทำซาลิแกรมนับหมื่นนับแสนในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่กำหนดวันที่และไม่ได้มีช่วงเวลาที่เป็นสิริมงคงสำหรับสิ่งนั้น อย่างไรก็ตามพวกเขากำหนดเวลาแน่นอนสำหรับการสักการะบูชาเทพเจ้า เมื่อนักธุรกิจมีความคิดที่จะสร้างไฟบูชายัญของรูดร้าและซาลิแกรม เขาก็จะเชิญพราหมณ์ พ่อผู้เดียวที่เรียกว่ารูดร้า พร้อมกันกับรูดร้าพวกเขาก็สร้างซาลิแกรมมากมาย นักธุรกิจเหล่านั้นจะบอกให้พวกเขาสร้างจำนวนที่แน่นอนของซาลิแกรม แต่พวกเขาก็ไม่มีกำหนดเวลาหรือวันที่สำหรับสิ่งนั้น ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะสักการบูชารูดร้าในชีพแจนตี ไม่เลย โดยทั่วไปแล้วพวกเขากำหนดให้วันพฤหัสบดีเป็นวันที่เป็นสิริมงคล ในเทศกาลดีพมาลา พวกเขาก็วางรูปบูชาของลักษมีไว้บนถาด สักการะบูชาและแล้ววางเก็บไว้ นั่นเรียกว่ามหาลักษมี รูปที่เป็นคู่ ผู้คนไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ลักษมีจะได้รับเงินมาจากที่ไหน? เธอต้องการคู่ครอง ลักษมีและนารายณ์นี้เป็นคู่กันและพวกเขาได้ให้ชื่อว่ามหาลักษมี เทพเจ้าทั้งหลายนั้นเข้ามาปรากฏตัวเมื่อใด? มหาลักษมีมีชีวิตอยู่เมื่อใด? ผู้คนไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้เลย เวลานี้พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูก แม้แต่ลูกทุกคนก็ไม่อาจดูดซับสิ่งเหล่านี้ได้ในระดับเดียวกัน บาบาอธิบายอย่างมากแล้วก็ถามว่า ลูกจดจำชีพบาบาหรือไม่? ลูกจดจำมรดกหรือไม่? นี่คือสิ่งหลัก พวกเขาได้สูญเสียเงินเป็นอย่างมากในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ที่นี่ไม่แม้แต่สตางค์แดงเดียวของลูกที่สูญเปล่า ลูกทำงานรับใช้เพื่อที่จะกลับมามั่งคั่ง ลูกใช้เงินจำนวนมากในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา พวกเขาสิ้นเนื้อประดาตัว ทุกสิ่งได้กลายเป็นฝุ่นผงธุลี มีความแตกต่างมากมาย ไม่ว่าลูกจะทำอะไรในเวลานี้ ลูกให้แก่ชีพบาบาเพื่องานรับใช้ของพระเจ้า ชีพบาบาไม่ได้รับประทานสิ่งใดเลย ลูกรับประทานสิ่งนั้น ลูกๆ บราห์มินคือผู้ดูแลผลประโยชน์ที่อยู่ตรงกลาง ลูกไม่ได้ให้สิ่งใดแก่บราห์มา ลูกให้แก่ชีพบาบา บางคนพูดว่า บาบาฉันซื้อโดติและเสื้อเชิ้ตมาให้ท่าน บาบาพูดว่า ลูกจะไม่ได้สะสมสิ่งใดเลยด้วยการให้แก่ผู้นี้ ลูกจะสะสมเมื่อลูกให้แก่ผู้นี้โดยการจดจำระลึกถึงชีพบาบาเท่านั้น ลูกรู้เช่นกันว่าบราห์มินนั้นได้รับการหล่อเลี้ยงจากคลังสมบัติของชีพบาบา ไม่มีความจำเป็นต้องถามบาบาว่าลูกควรจะส่งอะไรมา ท่านจะไม่รับสิ่งใด ลูกจะไม่สะสมสิ่งใดด้วยการจดจำบราห์มา บราห์มาเองนั้นก็ต้องรับจากคลังสมบัติของชีพบาบา ดังนั้นท่านจะจดจำชีพบาบาเท่านั้น เหตุใดท่านจึงจะรับสิ่งใดจากลูกเล่า? เป็นสิ่งผิดที่จะให้แก่ B.K. บาบาได้อธิบายแล้วว่าหากลูกรับบางสิ่งจากใครและสวมใส่สิ่งนั้น ลูกก็จะเฝ้าแต่จดจำบุคคลนั้นตลอดเวลา หากเป็นสิ่งเล็กๆ นั่นก็ไม่เป็นไร แต่หากเป็นบางสิ่งที่ดีมาก แล้วนั่นก็จะทำให้ลูกนึกถึงบุคคลนั้นมากยิ่งขึ้น “คนนั้นคนนี้ให้สิ่งนี้กับฉัน” พวกเขาไม่ได้สะสมสิ่งใดเลย นั่นได้กลายเป็นการสูญเสีย ชีพบาบาพูดว่า จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น พ่อไม่มีความต้องการเสื้อผ้า ฯลฯ เป็นลูกๆ ที่ต้องการเสื้อผ้า ฯลฯ และพวกเขาจะได้รับสิ่งนั้นจากคลังสมบัติของชีพบาบา พ่อไม่มีร่างของพ่อเอง ผู้นี้มีสิทธิ์ที่จะได้รับจากคลังสมบัติของชีพบาบา เขามีสิทธิ์ในอาณาจักรด้วยเช่นกัน ลูกๆกินและดื่มในบ้านของพ่อ ลูกทำงานรับใช้และหารายได้ด้วยเช่นกัน ยิ่งลูกทำงานรับใช้มากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งหารายได้มากขึ้นเท่านั้น ลูกกินและดื่มจากจากคลังสมบัติของชีพบาบา หากลูกไม่ให้แก่ท่าน ลูกก็ไม่ได้สะสมสิ่งใดเลย ลูกต้องให้แก่ชีพบาบาเท่านั้น บาบาด้วยท่านที่เราจะกลายเป็นผู้ที่มีโชคหลายล้านเท่าสำหรับอนาคตเป็นเวลา 21 ชาติเกิดของเรา เงินของเราจะหมดสิ้น ดังนั้น พวกเราจะให้แก่ผู้เดียวที่ทรงพลัง พ่อทรงพลัง ท่านให้ทุกสิ่งแก่ลูกสำหรับ 21 ชาติเกิด ผู้คนให้ทางอ้อมในนามของพระเจ้า ไม่มีพลังมากนักในการให้บางสิ่งทางอ้อม เวลานี้ลูกได้รับพลังอย่างมากเนื่องจากท่านอยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัว เวลานี้ที่ผู้ทรงพลังอำนาจของโลกนั้นคงอยู่ เมื่อลูกให้ทานบางสิ่งในนามของพระเจ้า ลูกจะได้รับบางสิ่งเป็นการตอบแทนเป็นระยะเวลาชั่วคราว ที่นี่พ่ออธิบายแก่ลูกว่าท่านอยู่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัวและท่านคือผู้เดียวที่ให้ทุกสิ่ง ผู้นี้ให้ทุกสิ่งแก่ชีพบาบาด้วยเช่นกันและได้รับอาณาจักรของทั้งโลกเป็นการตอบแทน ลูกก็รู้เช่นกันว่ามีนิมิตของรูปที่อะแวคผ่านรูปที่มีตัวตนนี้ ชีพบาบาเข้ามาในผู้นี้และพูดกับลูกๆ ลูกไม่ควรมีความคิดว่าอยากได้อะไรจากมนุษย์ บอกพวกเขาว่า ส่งสิ่งนั้นไปที่คลังสมบัติของชีพบาบา ลูกจะไม่ได้รับอะไรตอบแทนด้วยการให้แก่ผู้นี้ ลูกจะสูญเสียมากยิ่งขึ้น หากใครบางคนยากจน บางทีเขาก็อาจจะให้บางสิ่งที่มีค่าสามถึงสี่รูปี หากเขาจะนำสิ่งนั้นไปใส่ไว้ในคลังสมบัติของชีพบาบา เขาก็จะสะสมหลายล้าน ลูกต้องไม่ทำให้เกิดการสูญเสียแก่ตนเอง โดยทั่วไปแล้วเป็นเทพธิดาที่ได้รับการกราบไหว้บูชา เนื่องจากลูกๆเทพธิดาทั้งหลายได้กลายเป็นเครื่องมือที่จะให้ความรู้ แม้ว่าบราเธอร์จะอธิบายด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปแล้วก็เป็นผู้เป็นแม่ที่ได้กลายเป็นครูและชี้หนทางนี้แก่ผู้อื่น เหตุนี้เองเทพธิดาจึงได้รับการจดจำมากกว่า เทพธิดาได้รับการกราบไหว้บูชาอย่างมาก ลูกๆก็เข้าใจด้วยเช่นกันว่าลูกมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเป็นเวลาครึ่งจร ในตอนแรกลูกเคยมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาอย่างเต็มที่ และแล้วเนื่องจากลูกได้สูญเสียไป 2 องศา ลูกจึงกลายเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาเพียงครึ่งหนึ่ง ยุคเงินเรียกว่าราชวงศ์ของราม พวกเขาพูดถึงหลายแสนปีและดังนั้นจึงไม่จึงไม่มีอะไรสามารถคำนวณได้ มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืนระหว่างสติปัญญาของลูกๆและสติปัญญาของผู้คนของหนทางความเลื่อมใสศรัทธา ลูกมีสติปัญญาของพระเจ้าในขณะที่พวกเขามีสติปัญญาที่เป็นเช่นปีศาจ มันอยู่ในสติปัญญาของลูกว่าทั้งวงจรเป็นเวลา 5000 ปีและวงจรนี้ก็หมุนต่อไปเรื่อยๆ ผู้คนที่อยู่ในเวลากลางคืนก็พูดว่าเป็นหลายแสนปีและผู้ที่อยู่ในเวลากลางวันก็พูดว่าเป็น 5000 ปี เป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกได้ยินเรื่องราวที่ผิดๆในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา สิ่งต่างๆเช่นนั้นไม่ได้คงอยู่ในยุคทอง ที่นั่นลูกได้รับมรดกของลูก เวลานี้ลูกได้รับคำสอนโดยตรง นี่คือศรีมัทภควัตคีตา คำว่า “ศรีมัท” นั้นไม่ได้กล่าวถึงในคัมภีร์อื่นใด ยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้ ยุคแห่งกีตะนี้ มาทุกๆ 5000 ปี ไม่สามารถจะมีเรื่องของหลายแสนปีได้ อธิบายยุคบรรจบพบกันแก่ใครก็ตามที่มา พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดได้ให้คำแนะนำของผู้สร้าง นั่นคือ คำแนะนำของตัวท่านเองและสิ่งสร้างของท่านแก่ลูก แม้กระนั้นท่านก็พูดว่า อัจชะ, จดจำพ่อ! หากลูกไม่สามารถจะซึมซับความรู้ เพียงแต่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์ ลูกกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อและดังนั้นลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งเช่นกัน อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. เพื่อที่จะสะสมรายได้หลายล้านเป็นเวลา 21 ชาติเกิด, ใช้ทุกสิ่งที่ลูกมีโดยตรงในทางที่มีค่าเพื่องานรับใช้ของพระเจ้า กลายเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ และทำงานรับใช้ในนามของชีพบาบา

2. ตรวจสอบดูว่าสติปัญญาของลูกไปที่ไหนในขณะที่ลูกกำลังนั่งในการจดจำระลึกถึง เก็บบันทึกที่แท้จริงของการจดจำระลึกถึงของลูก เพื่อที่จะกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา อยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อและมรดก

พร:
ขอให้ลูกเพิกเฉยต่อความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับความปรารถนาและอยู่อย่างมีความสุขในโชคที่สูงส่งของลูกด้วยการตระหนักถึงการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ไม่สูญสลายของลูก

ลองคิดดูว่าโชคของใครบางคนจะเป็นเช่นไรที่พ่อเป็นผู้ประทานโชคเอง มีความสุขเสมอที่โชคนั้นเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของลูก “ว้าว โชคที่สูงส่งของฉัน! ว้าว พ่อผู้ประทาน!” เฝ้าแต่ร้องเพลงนี้ต่อไปและโบยบินในความสุข ลูกได้รับสมบัติที่ไม่สูญสลายซึ่งจะอยู่กับลูกเป็นเวลาหลายชาติเกิด ไม่มีใครสามารถแย่งชิงได้หรือขโมยไปจากลูกได้ เป็นโชคที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นที่ลูกไม่มีความปรารถนาเลย ลูกพบความสุขในจิตใจสำหรับลูกที่ได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด ไม่มีอะไรขาดหายไปและดังนั้นลูกจึงไม่สนใจในความรู้เกี่ยวกับความปรารถนา

คติพจน์:
เวลาของการกระทำบาปได้ผ่านไปแล้ว แต่ความคิดและคำพูดที่ไร้ประโยชน์ยังคงหลอกลวงลูกเป็นอย่างมาก