02.08.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน จงทำงานรับใช้ในการชำระวัตถุธาตุให้บริสุทธิ์ด้วยโยคะ เพราะเมื่อวัตถุธาตุกลับมาบริสุทธิ์แล้วเท่านั้นที่เทพจะก้าวเท้าเข้ามาบนโลกนี้

คำถาม:
ความไม่สงบประเภทใดที่ไม่สามารถอยู่ในอาณาจักรใหม่ของลูกได้ เพราะเหตุใด?

คำตอบ:
1. เพราะลูกได้รับอาณาจักรนั้นเป็นมรดกของลูกจากพ่อ 2. พ่อ ผู้ประทานพร ให้พรและมรดกในเวลานี้ และด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถมีความไม่สงบที่นั่น เมื่อลูกเป็นของพ่อ ลูกได้ประกาศสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดของลูก

โอมชานติ
ลูกรู้ว่าลูกเป็นลูกของใคร ท่านถูกเรียกว่าผู้เป็นเจ้าและผู้เป็นนายที่แท้จริง เหตุนี้เองในปัจจุบัน ลูกๆจึงถูกเรียกว่าเป็นลูกของผู้เป็นเจ้าและผู้เป็นนายเช่นกัน มีคำกล่าวเกี่ยวกับสัจจะว่า จงรับประทานสิ่งที่เป็นจริงและสวมใส่สิ่งที่เป็นจริง แม้ว่าคำพูดนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ พ่อนั่งที่นี่และอธิบายความหมายของสิ่งนี้ ลูกๆ รู้ว่าพ่อคือผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด ผู้เดียวที่ได้รับการสรรเสริญอย่างมากและยังถูกเรียกว่าผู้สร้างด้วยเช่นกัน สิ่งสร้างแรกของท่านคือลูกๆ ลูกคือลูกของพ่อ ดวงวิญญาณทั้งหมดอาศัยอยู่กับพ่อ นั่นเรียกว่าบ้านของพ่อ, บ้านที่แสนหวาน นี่ไม่ใช่บ้าน ลูกๆรู้ว่าท่านคือพ่อที่สุดแสนหวานที่สุด ดินแดนแห่งความสงบคือบ้านที่แสนหวานของเรา และต่อมายุคทองก็เรียกว่าเป็นบ้านที่แสนหวานของเราด้วยเช่นกันเพราะที่นั่นมีความสงบในทุกบ้าน ที่นี่มีความไม่สงบในบ้านของแม่และพ่อทางร่างกายและความไม่สงบในโลกนี้ ที่นั่นมีความสงบภายในบ้านและทั่วทั้งโลก ยุคทองคือโลกใหม่ที่มีขนาดเล็ก โลกเก่านี้ใหญ่โตมาก มีความสงบและความสุขในยุคทอง ไม่มีความโกลาหลใดๆที่นั่นเพราะลูกได้รับมรดกของความสงบจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด กูรูและนักบุญให้พรว่า: ขอให้คุณมีลูกชาย! ขอให้คุณมีชีวิตที่ยืนยาว! พรที่กูรูเหล่านั้นให้ไม่ใช่สิ่งใหม่ ลูกได้รับพรเหล่านี้โดยอัตโนมัติอย่างเป็นมรดกของลูกจากพ่อ เวลานี้พ่อเตือนลูกเกี่ยวกับเรื่องนี้ พ่อเหนือโลกเป็นผู้เดียวที่ผู้คนในทุกศาสนาจดจำในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาเมื่อมันเป็นโลกแห่งความทุกข์ โลกนี้เก่าและไม่บริสุทธิ์ ในโลกใหม่มีความสุข ไม่มีร่องรอยของความไม่สงบเลย เวลานี้ ลูกๆต้องกลับมาบริสุทธิ์และมีคุณธรรม มิฉะนั้นลูกจะต้องได้รับประสบการณ์ของการถูกลงโทษอย่างมาก ธรรมราช(ดามราช)ผู้ที่ทำให้ลูกสะสางบัญชีกรรมทั้งหมดก็อยู่กับพ่อเช่นกัน จะมีศาล จะมีการลงโทษสำหรับบาปอย่างแน่นอน ผู้ที่เพียรพยายามอย่างดีจะไม่ถูกลงโทษ ลูกถูกลงโทษเพราะบาปของลูกเองและนั่นเรียกว่าความทุกข์ทรมานของกรรม นี่คืออาณาจักรต่างแดนของราวัณและมีความทุกข์ที่ไร้ขีดจำกัดอยู่ภายใน มีความสุขที่ไร้ขีดจำกัดในอาณาจักรของราม ลูกอธิบายให้กับผู้คนมากมาย แต่บางคนก็สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วแต่บางคนก็ใช้เวลาทำความเข้าใจ หากพวกเขาเข้าใจเล็กน้อย ลูกก็สามารถเข้าใจได้ว่าพวกเขาเริ่มทำความเลื่อมใสศรัทธาในภายหลัง ผู้ที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาตั้งแต่ตอนต้นจะเข้าใจความรู้ได้อย่างรวดเร็วเพราะพวกเขาต้องได้รับอันดับต้นๆ ลูกดวงวิญญาณรู้ว่าลูกมาที่นี่จากบ้านที่แสนหวานของลูก มี“ภาพยนตร์” และ “การสนทนา”ที่เป็นความเงียบ หลังจากที่ลูกๆได้เข้าฌาน พวกเขาก็เล่าให้ฟังว่าทุกสิ่งที่นั่นเป็น “ภาพยนตร์” การเข้าฌานไม่เกี่ยวข้องกับหนทางของความรู้ สิ่งหลักคือการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ เท่านั้นเอง ไม่มีสิ่งอื่นใด พ่อไม่มีตัวตนและลูกของท่านนั่นคือดวงวิญญาณอยู่ในร่างกายเหล่านี้ก็ไม่มีตัวตนด้วยเช่นกัน ไม่มีคำถามอื่นๆเกิดขึ้น ความรักของดวงวิญญาณเป็นไปสำหรับพ่อสูงสุด,ดวงวิญญาณที่สูงสุดผู้เดียว ร่างกายทุกคนไม่บริสุทธิ์ และดังนั้นลูกจึงไม่สามารถมีความรักต่อร่างกายที่ไม่บริสุทธิ์ได้ ดวงวิญญาณอาจจะกลับมาบริสุทธิ์ แต่ร่างกายของพวกเขาไม่บริสุทธิ์ ร่างกายไม่กลับมาบริสุทธิ์ในโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้ ดวงวิญญาณต้องกลับมาบริสุทธิ์ที่นี่ จากนั้นร่างเก่าเหล่านี้ก็จะถูกทำลาย ดวงวิญญาณไม่เสื่อมสลาย หน้าที่ของดวงวิญญาณคือการจดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดและกลับมาบริสุทธิ์ เมื่อดวงวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขาก็ต้องการร่างกายที่บริสุทธิ์และร่างกายนั้นจะได้รับในโลกใหม่ ขอให้ดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์! ดวงวิญญาณต้องมีโยคะอยู่กับพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด เท่านั้นเอง ร่างกายที่ไม่บริสุทธิ์นี้จะต้องไม่แตะต้องเลย พ่อกำลังพูดกับลูกๆดวงวิญญาณ สิ่งเหล่านี้ต้องเป็นที่เข้าใจ ตั้งแต่ยุคทองจนถึงยุคเหล็ก ลูกยังคงยึดติดอยู่กับร่างกายของตนเอง ทั้งดวงวิญญาณและร่างกายบริสุทธิ์ที่นั่น ลูกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกิเลสที่จะทำให้ทั้งดวงวิญญาณและร่างกายมีกิเลส มีพวกวัลลาภาจารี (ลัทธิหนึ่ง) ที่ไม่อนุญาตให้ใครสัมผัสร่างกายของพวกเขา ลูกรู้ว่าดวงวิญญาณเหล่านั้นไม่ได้ปราศจากกิเลสหรือบริสุทธิ์ ลัทธิวัลลาภาจารีพิจารณาตนเองว่าเป็นของสกุลที่สูงส่ง พวกเขาไม่อนุญาตให้ใครแตะต้องร่างกายของพวกเขา พวกเขาไม่เข้าใจว่าพวกเขามีกิเลสและไม่บริสุทธิ์และร่างกายของพวกเขายังถูกสร้างขึ้นมาด้วยความคดโกง พ่อมาและอธิบายประเด็นเหล่านี้ เมื่อดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ พวกเขาต้องเปลี่ยนร่างกายของพวกเขา ร่างกายของลูกจะสามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อธาตุทั้งห้ากลับมาบริสุทธิ์ ในยุคทองธาตุทั้งห้านั้นบริสุทธิ์ และดังนั้นร่างกายก็บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน เทพไม่อาจก้าวเท้าเข้ามาในโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้ได้หรือมีร่างกายที่ไม่บริสุทธิ์ ทั้งดวงวิญญาณและร่างกายของพวกเขาบริสุทธิ์ เหตุนี้พวกเขาจึงก้าวเท้าเข้ามาในยุคทองเท่านั้น นี่คือโลกที่ไม่บริสุทธิ์ ดวงวิญญาณจดจำพ่อเหนือโลก ดวงวิญญาณสูงสุด หนึ่งคือพ่อทางกายและอีกหนึ่งคือพ่อที่ปราศจากร่าง พ่อที่ปราศจากร่างได้รับการจดจำเพราะลูกได้รับมรดกของความสุขเช่นนั้นจากท่านอย่าแน่นอน ด้วยเหตุนี้ลูกจึงไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่จดจำท่าน แม้ว่าเวลานี้ลูกจะตโมประธาน แต่ลูกยังคงจดจำพ่อนั้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามผู้คนได้รับคำสอนที่ผิดว่า พระเจ้าอยู่ทุกหนแห่ง จากนั้นพวกเขาก็สับสนเกี่ยวกับว่ามนุษย์เท่านั้นที่จะกลายเป็นมนุษย์ พ่อมาและอธิบายความผิดพลาดเหล่านั้นทั้งหมด พ่อให้เพียงมันตราเดียวเท่านั้น มานมนาบาฟ! ความหมายของสิ่งนี่คือ: ให้พิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ มีเพียงความใส่ใจนี้เท่านี้ ก็เท่านั้นเอง ด้วยสิ่งนี้ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ เทพมีความบริสุทธิ์ เวลานี้พ่อมาแล้วและทำให้ลูกบริสุทธิ์อีกครั้งเช่นเดียวกับพวกเขา พ่อเก็บเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของลูกไว้เบื้องหน้าลูก ประติมากรสามารถสร้างรูปปั้นมนุษย์ขึ้นมาได้ทันทีด้วยการมองที่ใบหน้าของเขา เหล่านั้นคือรูปปั้นที่ไม่มีชีวิต แต่ดูเหมือนราวกับว่าบุคคลนั้นกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าพวกเขาในรูปที่มีชีวิต ที่นี่พ่อพูดว่า ลูกต้องกลายเป็นลักษมีนารายณ์ที่มีชีวิต ลูกจะกลายเป็นคนเหล่านั้นได้อย่างไร? ลูกจะกลายเป็นเทพจากมนุษย์ด้วยการศึกษานี้และด้วยความบริสุทธิ์ นี่คือ โรงเรียนที่จะเปลี่ยนจากมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ ประติมากรเหล่านั้นสร้างรูปปั้นขึ้นมามากมาย ที่เรียกว่าศิลปะ พวกเขาสร้างใบหน้าที่เหมือนกัน ที่นี่ไม่มีเรื่องของใบหน้าที่เหมือนกัน ภาพลักษณ์เหล่านั้นเป็นภาพที่ไม่มีชีวิต ในขณะที่ลูกจะกลายเป็นสิ่งนี้โดยธรรมชาติในรูปที่มีชีวิต ร่างกายของวัตถุธาตุทั้งห้าจะมีชีวิต ภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ ภาพลักษณ์เหล่านั้นไม่สามารถเหมือนเทพได้เพราะไม่สามารถถ่ายรูปเทพได้ แม้พวกเขาจะมีนิมิตของเทพในขณะเข้าฌาน แต่ก็ไม่สามารถถ่ายรูปได้ พวกเขาจะพูดว่าเขามีนิมิตของเทพ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสร้างภาพลักษณ์นั้นขึ้นมาได้ และผู้อื่นก็ไม่สามารถสร้างได้เช่นกัน ลูกเองก็สามารถกลายเป็นเช่นนั้นได้เมื่อลูกศึกษาความรู้จากพ่อสมบูรณ์แล้ว และแล้วเมื่อนั้นลูกก็จะกลับมาเป็นเช่นเดียวกับที่ลูกเคยเป็นในวงจรก่อนหน้านี้ นี่คือละครที่มหัศจรรย์และเป็นธรรมชาติเช่นนั้น! พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งมหัศจรรย์ของธรรมชาติให้กับลูกๆ มนุษย์ไม่แม้แต่จะคิดถึงเรื่องเหล่านี้ พวกเขาไปอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นเทพและก้มศีรษะลง แม้ว่าพวกเขาเข้าใจว่าพวกเขาเคยปกครองอาณาจักรนั้น แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อใด พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเวลาว่าพวกเขาจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อไหร่หรือพวกเขาจะทำอะไรเมื่อพวกเขามา ลูกรู้ว่าผู้ที่เป็นของสุริยะวงศ์และจันทราวงศ์ได้คงอยู่มาและจากไป พวกเขาจะกลายเป็นเช่นเดิมอีกครั้งอย่างแน่นอนด้วยการศึกษาความรู้นี้ นี่คือความมหัศจรรย์ ดังนั้นเวลานี้พ่ออธิบายว่า ด้วยการทำความเพียรพยายามเช่นนั้นลูกจะกลับมาเป็นเทพเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง ลูกจะทำกิจกรรมต่างเดียวกันที่เคยทำก่อนหน้านี้ในยุคทองและยุคเงิน นี่คือความรู้ที่มหัศจรรย์! ความรู้นี้สามารถคงอยู่ในสติปัญญาของลูกได้เมื่อหัวใจของลูกสะอาด ประเด็นเหล่านี้ไม่สามารถคงอยู่ในสติปัญญาของผู้อื่นได้ ลูกต้องเพียรพยายามสำหรับสิ่งนี้ ลูกไม่สามารถได้รับผลใดๆโดยไม่เพียรพยายาม พ่อดลใจให้ลูกทำความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้นตามละคร ลูกก็ยังคงต้องเพียรพยายาม ลูกต้องไม่เพียงแค่นั่งและคิดว่า ถ้ามันอยู่ในละคร ฉันก็จะเพียรพยายามได้ มีหลายคนมีความคิดที่บ้าเช่นนั้นว่า จะต้องมีความพยายามอย่างแน่นอนถ้ามันอยู่ในโชคของฉัน อ่า! แต่เป็นลูกที่ต้องทำความเพียรพยายาม มีความเพียรพยายามและจากนั้นก็มีรางวัล มนุษย์ถามว่า สิ่งไหนยิ่งใหญ่กว่ากัน ความเพียรพยายามหรือรางวัล? รางวัลนั้นยิ่งใหญ่กว่าแต่ความเพียรพยายามก็กล่าวได้ว่ายิ่งใหญ่กว่า เพราะผ่านความเพียรพยายาม รางวัลจึงถูกสร้างขึ้น ด้วยการทำความเพียรพยายามเท่านั้นที่มนุษย์ได้รับทุกสิ่ง มีบางคนที่มีสติปัญญาเป็นหินเช่นนั้นที่พวกเขาทำให้ความหมายของสิ่งนี้ผิดไป เป็นที่เข้าใจว่าสิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในโชคของพวกเขา พวกเขาจึงแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่นี่ลูกๆได้รับแรงบันดาลใจให้เพียรพยายามอย่างมาก ลูกได้รับการอธิบายทั้งวันและคืน แน่นอนว่าลูกต้องเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของลูก บุคลิกภาพอันดับหนึ่งคือการมีความบริสุทธิ์ ถึงอย่างไรเทพก็บริสุทธิ์อยู่แล้ว เมื่อพวกเขาตกต่ำบุคลิกภาพของเขาจึงเสียไปแล้วพวกเขาก็กลับมาไม่บริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิง เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าบุคลิกภาพของลูกคือ A1 จากนั้นลูกก็ตกต่ำลงมาโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ มันอยู่ในสิ่งนี้ที่มีความยากลำบากมาก ดวงตาของผู้คนนั้นหลอกลวงพวกเขาอย่างมากเพราะนี่คืออาณาจักรของราวัณ ที่นั่นดวงตาไม่เคยหลอกลวงลูก ลูกได้รับดวงตาที่สามของความรู้ เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่า ศาสนาคืออำนาจ พ่อผู้ทรงพลังอำนาจมาและก่อตั้งศาสนาเทพ เป็นดวงวิญญาณที่ทำทุกสิ่ง แต่ดวงวิญญาณทำโดยผ่านรูปของมนุษย์ พ่อคือมหาสมุทรแห่งความรู้ คำสรรเสริญของท่านต่างหากจากคำสรรเสริญของเทพโดยสิ้นเชิง แล้วเหตุใดลูกจึงไม่จดจำพ่อเช่นนั้น? ท่านถูกเรียกว่าผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้,เป็นเมล็ด เหตุใดท่านจึงถูกเรียกว่าสัจจะ ผู้มีชีวิตและเป็นตัวแห่งความปีติสุข? เมล็ดของต้นไม้ตระหนักรู้ว่าต้นไม้ปรากฏขึ้นมาจากท่าน อย่างไรก็ตามเมล็ดเหล่านั้นไม่มีชีวิต ราวกับว่าดวงวิญญาณของต้นไม้นั้นไม่มีจิตสำนึก ในขณะที่ดวงวิญญาณมนุษย์มีจิตสำนึก ดวงวิญญาณที่มีชีวิตสามารถเรียกได้ว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ต้นไม้เจริญเติบโตจากเล็กไปใหญ่ ดังนั้นต้องมีดวงวิญญาณอย่างแน่นอน แต่ไม่สามารถพูดได้ มีการสรรเสริญดวงวิญญาณสูงสุดอย่างมาก ท่านคือมหาสมุทรแห่งความรู้ การสรรเสริญนี้ไม่ได้เป็นของดวงวิญญาณ การสรรเสริญนี้เป็นการร้องเพลงให้กับดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้น ท่านถูกเรียกว่าอิศวร ฯลฯ ชื่อที่แท้จริงของท่านคือพ่อสูงสุด, ดวงวิญญาณสูงสุด ปารามหมายถึงสูงสุด คำสรรเสริญที่ผู้คนร้องให้กับท่านนั้นทรงพลังอย่างมาก เวลานี้, ในแต่ละวันการสรรเสริญของท่านก็ลดลง เพราะสติปัญญาของพวกเขานั้นสโตในตอนแรก และจากนั้นราโจและเวลานี้ตโมประธาน พ่อมาและอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด พ่อมาทุก 5000 ปีเพื่อทำให้โลกเก่านี้กลับมาใหม่ มีการจดจำกันว่ายุคทองคือสัจจะ และไม่ว่าสิ่งใดที่เกิดขึ้นก็มีสัจจะ (เขียนไว้ในแกรนธ์ซาฮิบ-คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาซิกข์) มีการเขียนคำพูดที่ดีบางคำเพราะพวกเขาไม่ใช่ว่าจะไม่บริสุทธิ์มากนัก ผู้ที่มาในภายหลังไม่ได้ไม่บริสุทธิ์มากนัก ผู้คนของบารัตเคยสโตประธานอย่างสมบูรณ์ และพวกเขาก็คือผู้ที่กลับมาตโมประธานที่สุดในชาติเกิดสุดท้ายของหลายๆชาติเกิด สิ่งนี้ไม่สามารถพูดได้เกี่ยวกับผู้ก่อตั้งศาสนาใดๆ พวกเขาจะไม่กลับมาสโตประธานหรือกลับมาตโมประธาน พวกเขาไม่ได้มีประสบการณ์ของความทุกข์หรือความสุขมากนัก สติปัญญาของใครที่ตโมประธานที่สุด? ที่มาจากศาสนาทั้งหมด มันคือผู้ที่เป็นเทพในตอนแรกที่ตกต่ำที่สุด ผู้คนร้องเพลงสรรเสริญบารัตเพราะความเก่าแก่โบราณมาก ถ้าลูกคิดถึงสิ่งนี้แล้ว ในเวลานี้บารัตตกต่ำเป็นอย่างมาก ความรุ่งเรืองและความตกต่ำของบารัตคือความรุ่งเรืองและความตกต่ำของเทพ ลูกต้องใช้สติปัญญาเพื่อเข้าใจสิ่งนี้ เราประสบกับความสุขอย่างมากเมื่อเราสโตประธาน จากนั้นเราก็ประสบกับความทุกข์อย่างมากเมื่อเราตโมประธาน มีสี่ศาสนาหลัก: ศาสนาเทพ, อิสลาม, พุทธ และคริสต์ การขยายตัวเกิดขึ้นผ่านศาสนาเหล่านี้ ผู้คนของบารัตไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นของศาสนาใด เพราะไม่รู้จักศาสนาของพวกเขา พวกเขาจึงออกจากศาสนาของพวกเขา ความจริงแล้วศาสนาของพวกเขาคือศาสนาหลัก แต่พวกเขาก็ลืมมันไป ผู้ที่ฉลาดและรู้คิดเข้าใจว่าผู้คนเหล่านั้นไม่มีความซื่อสัตย์ในศาสนาของพวกเขา มิฉะนั้นแล้ว บารัตเคยเป็นอะไรมาก่อนและเวลานี้กลายเป็นอะไร? พ่อนั่งที่นี่และอธิบายว่า ลูกๆ ลูกเคยเป็นเช่นไร? ท่านนั่งที่นี่และอธิบายประวัติศาสตร์ทั้งหมด ลูกเคยเป็นเทพ ลูกปกครองเป็นเวลาครึ่งวงจร และจากนั้นอีกครึ่งวงจรการกระทำและศาสนาของลูกก็ไม่บริสุทธิ์ในอาณาจักรของราวัณ เวลานี้ลูกจะกลายเป็นผู้ที่เป็นของชุมชนเทพอีกครั้งหนึ่ง พระเจ้าพูดว่า พ่ออธิบายให้กับลูกๆ เท่านั้นในทุกวงจรและทำให้ลูกเป็นของชุมชนพระเจ้า อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ด้วยความสะอาดในหัวใจของลูก ซึมซับความรู้ที่มหัศจรรย์ของพ่อไว้ในชีวิตของลูก สร้างรางวัลที่สูงส่งด้วยความเพียรพยายาม อย่าเพียงแต่พูดว่า “ละคร!” และหยุดความเพียรพยายาม

2. เพื่อที่จะปลอดภัยจากการถูกหลอกลวงจากสายตาอาชญากรในอาณาจักรของราวัณ ฝึกฝนที่จะมองด้วยดวงตาที่สามของความรู้ สร้างสมความบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นบุคลิกภาพอันดับหนึ่ง

พร:
ขอให้ลูกมีสัจจะและซื่อสัตย์และด้วยรากฐานของสัจจะจงให้ประสบการณ์แห่งความสูงส่งผ่านพฤติกรรมและใบหน้าของลูก

ดวงวิญญาณมากมายในโลกพูดและคิดว่าตนเองเป็นคนซื่อสัตย์และมีสัจจะ อย่างไรก็ตามความซื่อสัตย์ที่สมบูรณ์ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์เท่านั้น หากไม่มีความบริสุทธิ์ก็จะไม่มีความจริงหรือความซื่อสัตย์ตลอดเวลา รากฐานของสัจจะคือความบริสุทธิ์และข้อพิสูจน์ของสัจจะคือความสูงส่งบนใบหน้าและในพฤติกรรมของลูก บนพื้นฐานของความบริสุทธิ์จะมีรูปของสัจจะตามธรรมชาติและง่ายดาย เมื่อทั้งดวงวิญญาณและร่างกายมีความบริสุทธิ์ ลูกก็สามารถกล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่ซื่อสัตย์และมีสัจจะอย่างสมบูรณ์นั่นคือเทพที่เต็มไปด้วยความสูงส่ง

คติพจน์:
อยู่อย่างไม่ว่างเว้นในงานรับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัด และจะมีการวางเฉยโดยธรรมชาติอย่างไม่มีขีดจำกัด