13.03.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆที่แสนหวาน ทำความเพียรพยายามที่จะอยู่อย่างสำรวจตนเมื่อใดก็ตามที่ลูกมีเวลา
อย่าได้หันความสนใจไปสู่สิ่งภายนอก แล้วบาปของลูกจะสามารถตัดออกไปได้
คำถาม:
ลูกจะต้องทำความเพียรพยายามอะไรสำหรับสภาพของการขึ้น ซึ่งพ่อสอนลูกทุกคน?
คำตอบ:
1) ลูกๆ
หากลูกต้องการไปสู่สภาพของการขึ้น เชื่อมสติปัญญาของลูกในโยคะกับพ่อผู้เดียว
ไม่มีความจำเป็นที่จะเข้าไปสู่ประเด็นต่างๆ เช่น คนนั้นคนนี้เป็นเช่นนั้น
คนนี้ทำสิ่งนี้สิ่งนั้น คนนี้มีข้อบกพร่อง
หันใบหน้าของลูกออกไปจากข้อบกพร่องของใครก็ตาม 2)
อย่าได้มีวันบูดบึ้งขึงตึงกับการศึกษานี้ เฝ้าแต่ซึมซับประเด็นที่ดีจากมุรลี
และแล้วเมื่อนั้นที่ลูกจึงจะสามารถไปสู่สภาพของการขึ้น
โอมชานติ
เวลานี้
ชั้นเรียนนี้เป็นชั้นเรียนของความรู้ ในขณะที่ชั้นเรียนตอนเช้าเป็นของโยคะ โยคะใด?
ลูกต้องอธิบายสิ่งนี้อย่างชัดเจนมาก
เพราะมนุษย์มากมายติดกับในหัตถะโยคะที่สอนโดยมนุษย์
นี้คือราชาโยคะซึ่งดวงวิญญาณสูงสุดสอน
เพราะไม่มีราชาใดๆที่นี่ที่สามารถสอนราชาโยคะได้ ลักษมีและนารายณ์นี้คือเทวาและเทวี
เมื่อพวกเขาศึกษาราชาโยคะเท่านั้นที่พวกเขาสามารถกลายเป็นเทวาและเทวีในอนาคต
ได้มีการอธิบายความรู้นี้ในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้
สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคที่เป็นสิริมงคลที่สุดที่อยู่ระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่,
มนุษย์เก่าและเทพใหม่ ในเวลานี้มนุษย์ทั้งหมดนั้นเก่า มีดวงวิญญาณใหม่ๆ
อยู่ในโลกใหม่ พวกเขาเป็นเทพ พวกเขาไม่ได้เรียกว่าเป็นมนุษย์
แม้ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์พวกเขาก็มีคุณธรรมที่สูงส่ง
และเหตุนี้เองพวกเขาจึงเรียกว่าเป็นเทพ พวกเขาอยู่อย่างบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน
พ่ออธิบายแก่ลูกๆ ตัณหาราคะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เป็นวิญญาณปีศาจร้ายอันดับแรกของราวัน เมื่อใครบางคนมีความโกรธมาก ผู้คนก็พูดว่า
ทำไมคุณถึงเห่า? กิเลสทั้งสองนี้เป็นศัตรูที่ใหญ่ที่สุดของลูก คำว่า ‘เห่า’
ไม่ใช้กับความละโมบหรือความผูกพันยึดมั่น
บางคนที่มีความโกรธอย่างมากอันเนื่องจากความหยิ่งยโสของวิทยาศาสตร์
สิ่งนี้ก็เป็นเหตุของความเสียหายเป็นอย่างยิ่งด้วยเช่นกัน
วิญญาณปีศาจร้ายของตัณหาราคะเป็นเหตุของความทุกข์ตั้งแต่ตอนเริ่มตลอดจนตอนกลางจนถึงตอนจบ
พวกเขาใช้ดาบของตัณหาราคะกับกันและกัน
ลูกต้องเข้าใจประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดแล้วอธิบายให้กับผู้อื่น
ไม่มีใครนอกจากลูกสามารถชี้หนทางที่แท้จริงแก่ใครก็ตามเพื่อประกาศสิทธิ์ในมรดกจากพ่อ
เพียงลูกเท่านั้นที่สามารถชี้หนทางนี้แก่พวกเขาที่พวกเขาจะสามารถประกาศสิทธิ์ในมรดกของพวกเขาจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดได้อย่างไร
หากลูกไม่สามารถอธิบายแก่ผู้อื่นนั่นก็หมายความว่าลูกไม่ได้ให้ความใส่ใจกับการศึกษานี้
และโยคะของสติปัญญาของลูกกำลังเร่ร่อนไปที่อื่น นี่คือสนามรบ
ไม่ควรจะมีใครคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ง่ายดาย ถึงแม้ว่าลูกไม่ต้องการให้พวกเขามา
พายุและความคิดที่ไร้ประโยชน์มากมายจะเข้ามาในจิตใจของลูก
อย่าได้กลับมาสับสนด้วยสิ่งนั้น ด้วยพลังของโยคะของลูกเท่านั้นที่มายาจะวิ่งหนีไป
สิ่งนี้ใช้ความเพียรพยายามเป็นอย่างยิ่ง ลูกเหน็ดเหนื่อยมากในธุรกิจและงานของลูก
เพราะลูกอยู่อย่างมีสำนึกที่เป็นร่าง เป็นเพราะสำนึกที่เป็นร่างที่ลูกต้องพูดมากมาย
พ่อพูดว่า กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ด้วยการกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณลูกจะอธิบายให้กับผู้อื่นถึงสิ่งต่างๆที่พ่อได้อธิบายแก่ลูกเท่านั้น
นั่นคือพิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ พ่อให้คำสอนแก่ลูก
ลูกๆอย่าได้อยู่อย่างสนใจสิ่งภายนอก อยู่อย่างสำรวจตรวจสอบตนเอง
ถึงแม้ว่าในบางครั้งลูกต้องสนใจในสิ่งภายนอก
ก็จงพยายามกลับมาสำรวจตรวจสอบตนเองเมื่อใดก็ตามที่ลูกมีเวลา
และแล้วเมื่อนั้นบาปของลูกจะถูกตัดออกไป
ไม่เช่นนั้นบาปของลูกจะไม่ถูกตัดออกไปและลูกจะไม่ได้รับสถานภาพที่สูง
มีภาระของบาปของหลายต่อหลายชาติเกิดบนศีรษะของลูก
บราห์มินได้ทำบาปมากที่สุดและพวกเขาเองก็ตามลำดับกันไปในสิ่งนี้ด้วย
ผู้ที่สูงมากก็ได้กลับมาต่ำมากเช่นกัน ผู้ที่กลายเป็นเจ้าชายต่อมาต้องกลายเป็นขอทาน
ลูกต้องเข้าใจละครนี้อย่างดีมาก ผู้ที่มาในตอนต้นจะมาในเวลาสุดท้ายด้วยเช่นกัน
ผู้ที่กลับมาบริสุทธิ์ก่อนก็จะกลับมาไม่บริสุทธิ์ก่อนด้วยเช่นกัน พ่อพูดว่า
พ่อเข้ามาในร่างของผู้นี้ ในชาติเกิดสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขา
นั่นคือเมื่อเขาอยู่ในสภาพที่ปลดเกษียณด้วยเช่นกัน
ในเวลานี้ทั้งหนุ่มสาวและแก่ชราทั้งหมดอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณของพวกเขา
มีคำยกย่องของพ่อ ผู้เดียวที่ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่ทุกคน
สิ่งนั้นเกิดขึ้นในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ลูกควรจะจดจำยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคล
ผู้คนจดจำยุคเหล็กในขณะที่ลูกจดจำยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลเท่านั้น
อย่างไรก็ตามลูกก็ตามลำดับกันไปเช่นกัน ลูกๆมากมายจดจำธุรกิจทางโลกของลูกเท่านั้น
เมื่อใบหน้าของลูกหันออกไปจากสิ่งภายนอกแล้ว ลูกก็สามารถซึมซับความรู้นี้ได้
มีคำกล่าวว่า ชาติเกิดถัดไปของลูกจะเป็นไปตามสิ่งที่ลูกจดจำในชั่วขณะสุดท้ายของลูก
คำพูดที่ดี และเพลงซึ่งใช้กับความรู้ของเรานั้นมีค่าควรแก่การเก็บไว้ ยกตัวอย่าง
มีเพลงที่ว่า “เวลานี้ลูกต้องทิ้งโลกที่สกปรกนี้” อีกเพลงหนึ่งก็คือ “ชี้หนทางแก่ผู้ที่ตาบอดเถิด”
ลูกควรจะเก็บเพลงเช่นนั้นไว้ มนุษย์ได้แต่งเพลงเหล่านั้น
แต่พวกเขาไม่ได้มีสำนึกรู้ของยุคบรรจบพบกันใดๆ
ในเวลานี้ทุกคนตาบอดและไม่มีดวงตาของความรู้
เมื่อดวงวิญญาณสูงสุดมาเท่านั้นที่ท่านจะสามารถชี้หนทางให้แก่ทุกคน
ท่านไม่ได้ชี้หนทางนี้แก่เพียงคนเดียวเท่านั้น นี่คือกองทัพชีพชัคตีของท่าน
กองทัพชัคตีนี้ทำอะไร? พวกเขาก่อตั้งโลกใหม่บนฐานของศรีมัท
ลูกกำลังศึกษาราชาโยคะซึ่งไม่มีใครนอกจากพระเจ้าจะสามารถสอนได้ พระเจ้าไม่มีตัวตน
ท่านไม่ได้มีร่างกายของท่านเอง ที่เหลือทั้งหมดคือผู้มีร่างกาย
สูงสุดเหนือสิ่งใดคือพ่อผู้เดียวเท่านั้น ท่านกำลังสอนลูก
เพียงลูกเท่านั้นรู้สิ่งนี้ ลูกทั้งหมดตามลำดับกันไปด้วยเช่นกัน
ดังนั้นลูกควรออกคำเตือน ใส่ไว้ในหนังสือพิมพ์ใหญ่ว่าโยคะที่มนุษย์สอนเป็นหัตถะโยคะ
ในขณะที่พ่อสูงสุดดวงวิญญาณสูงสุดผู้เดียวเท่านั้นสามารถสอนราชาโยคะที่จะทำให้พวกท่านสามารถได้รับการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
พวกท่านไม่สามารถได้รับสิ่งนั้นผ่านหัตถะโยคะ นั่นเป็นหัตถะโยคะซึ่งมีมาตั้งแต่ต้น
เป็นสิ่งที่เก่าแก่ ราชาโยคะนี้สามารถสอนโดยพ่อในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น
บาบาได้อธิบายว่า เมื่อลูกจะให้คำบรรยาย ก่อนอื่นลูกควรเลือกหัวข้อ
แต่ลูกไม่ได้ทำเช่นนั้น มีลูกน้อยมากที่ทำตามศรีมัทนี้
ก่อนอื่นเขียนคำบรรยายของลูกและเตรียมการเพื่อที่ลูกจะสามารถจำทุกสิ่งได้
ลูกต้องให้คำบรรยายของลูกด้วยปากเปล่า ไม่ใช่อ่านคำบรรยายนั้นจากกระดาษ
ผู้ที่ไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้และพูดขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณจะมีพลังที่จะให้การบรรยาย
จะมีพลังด้วยการอยู่ในสำนึกของการพูดกับพี่น้องเพศชายของลูก
นี่คือจุดหมายปลายทางที่สูงมาก
การมีความรับผิดชอบนี้ไม่เหมือนกับการไปบ้านป้าของลูก!
ยิ่งลูกกลับมามีพลังมากเท่าไร มายาที่พลังก็จะจู่โจมลูกมากเท่านั้น
องคดและมหาวีระมีพลังมากอย่างยิ่ง
เหตุนั้นเองพวกเขาจึงท้าทายราวันเพื่อทดลองเขย่าพวกเขา นั่นไม่ใช่ประเด็นทางร่างกาย
มีเรื่องเล่ามากมายในคัมภีร์
หูของลูกที่ครั้งหนึ่งคุ้นเคยกับการได้ยินคำพูดเช่นทองคำที่พูดโดยพระเจ้าพ่อสูงสุดเวลานี้ได้กลายเป็นเหมือนกับก้อนหินด้วยการรับฟังเรื่องราวในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธาลูกสูญเสียเงินทั้งหมดและทำให้หน้าผากของลูกอ่อนล้าในขณะที่ลูกเดินลงบันไดมาเรื่อยๆ
มีเรื่องราวของ 84 ชาติเกิด ด้วยการทำตามความเลื่อมใสศรัทธาลูกก็ลงมาเรื่อยๆ
เวลานี้พ่อกำลังสอนลูกถึงวิธีที่จะปีนขึ้นไปอีกครั้ง
เวลานี้คือสภาพของการขึ้นของลูก หากลูกไม่เชื่อมโยงสติปัญญาในโยคะของของลูกกับพ่อ
ลูกจะตกลงมาอย่างแน่นอน เมื่อลูกจดจำพ่อลูกก็ขึ้นไป ใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก,แต่ลูกบางคนก็กลับมาไม่ระมัดระวัง
ในขณะที่ทำธุรกิจของลูก ลูกลืมพ่อและความรู้ มายานำพายุมามากมาย
คนนั้นคนนี้เป็นอย่างนี้ เขาทำสิ่งนั้น ครูคนนี้เป็นอย่างนี้ คนนี้มีข้อบกพร่องนี้
โอ้! แต่สิ่งนั้นมันเกี่ยวอะไรกับลูกหรือ?
ยังไม่มีใครกลับมาเต็มไปด้วยทุกคุณธรรมและสมบูรณ์พร้อม
อย่าได้มองดูข้อบกพร่องของใคร เพียงแต่สร้างสมคุณธรรมของพวกเขา
หันใบหน้าของลูกออกจากข้อบกพร่องของใครก็ตาม
ลูกได้รับมุรลีและดังนั้นฟังมุรลีและซึมซับ
ใช้สติปัญญาของลูกที่จะเข้าใจว่าสิ่งต่างๆที่บาบาบอกลูกนั้นถูกต้อง
เพียงแต่กันประเด็นใดก็ตามที่ไม่ดึงดูดความสนใจของลูกออกไป
ลูกต้องไม่บูดบึ้งขึงตึงกับการศึกษานี้ หากลูกบูดบึ้งกับครูหรือการศึกษา
นั่นก็หมายความว่าลูกบูดบึ้งกับพ่อ มีลูกมากมายที่ไม่ไปศูนย์
ไม่ว่าใครบางคนจะเป็นเช่นไร ความใส่ใจของลูกอยู่กับมุรลี ไม่ว่าใครจะอ่านมุรลี
รับฟังและซึมซับประเด็นต่างๆจากมุรลีที่ดี
หากลูกไม่พบความสุขในการพูดคุยกับใครแล้วจงอยู่เงียบๆ ฟังมุรลีแล้วกลับบ้าน
อย่าได้บูดบึ้งขึงตึงหรือพูดว่าฉันจะไม่มาที่นี่ ทุกคนนั้นตามลำดับกันไป
เป็นสิ่งที่ดีด้วยเช่นกันที่ลูกนั่งในการจดจำระลึกถึงในตอนเช้าตรู่
บาบามาเพื่อให้ไฟส่องทาง บาบาถ่ายทอดประสบการณ์ของท่าน
เมื่อท่านนั่งก่อนอื่นท่านจดจำลูกพิเศษของท่านก่อน
ไม่ว่าพวกเขาอยู่ในต่างแดนหรืออยู่ในโกลกาต้า
ท่านจดจำลูกพิเศษและให้ไฟส่องทางแก่พวกเขา แม้ว่าลูกๆ กำลังนั่งอยู่ที่นี่
บาบาก็จดจำผู้ที่ทำงานรับใช้ เมื่อลูกที่ดีที่ทำงานรับใช้ได้จากร่างของพวกเขา
บาบาก็จดจำดวงวิญญาณเหล่านั้นที่พวกเขาได้จากไปหลังจากทำงานรับใช้มามากมาย
พวกเขาควรจะไปเกิดในบ้านที่ใกล้ชิดอย่างแน่นอน
ดังนั้นบาบาจดจำพวกเขาและให้ไฟส่องทางแก่พวกเขาด้วยเช่นกัน
ในความเป็นจริงทุกคนเป็นลูกของบาบา แต่ทุกคนรู้ว่าใครทำงานรับใช้ที่ดี บาบากล่าวว่า
ให้ไฟส่องทางที่นี่ แล้วท่านก็ให้ มีสองเครื่องยนต์
ผู้นี้ได้มาซึ่งสถานภาพที่สูงและดังนั้นท่านจึงมีพลังอย่างแน่นอน บาบาพูดว่า
ให้พิจารณาว่าชีพบาบากำลังสอนลูกและลูกควรจดจำท่าน ลูกก็เข้าใจว่ามีแสงสองแสง
ไม่สามารถมีสองแสงในใครอื่น
เหตุนี้เองลูกจึงมาอยู่เบื้องหน้าทั้งสองแสงและกลับมาสดชื่นอย่างมาก
ชั่วโมงในตอนเช้าตรู่นั้นดีมาก
หลังจากอาบน้ำลูกสามารถที่จะไปนั่งบนดาดฟ้าและนั่งในสันโดษ
เหตุนี้เองบาบาจึงได้ทำดาดฟ้าที่ใหญ่ นักบวชเหล่านั้นเดินในความเงียบอย่างแท้จริง
พวกเขาต้องจดจำพระคริสต์แน่นอน พวกเขาไม่รู้จักพระเจ้า หากพวกเขาจดจำพระเจ้า,
ชีวาลิงกัมก็จะเข้าไปในสติปัญญาของพวกเขา พวกเขาอยู่ในความซาบซึ้งของตนเอง
ลูกควรที่จะเก็บเกี่ยวคุณธรรมนั้นจากพวกเขา
มีคำกล่าวถึงดัทตะเตรยาด้วยเช่นกันที่เขาเก็บเกี่ยวคุณธรรมจากทุกคน
ลูกก็เป็นดัทตะเตรยาด้วยเช่นกันแต่ตามลำดับกันไป
ที่นี่ลูกสามารถมีสันโดษที่ดีมากและลูกก็สามารถหารายได้มากเท่าที่ลูกต้องการ
ภายนอกลูกจดจำธุรกิจทางโลกของลูก เวลาตี 4 นั้นดีมาก
ไม่มีความจำเป็นที่จะออกไปข้างนอก
ลูกนั่งในบ้านของลูกและระวังความปลอดภัยด้วยเช่นกัน
ทุกสิ่งในยักย่าจะต้องได้รับการปกป้อง ลูกต้องดูแลทุกสิ่งในไฟบูชายัญนี้
เพราะทุกสิ่งของยักย่านี้มีคุณค่าอย่างมาก ดังนั้นปลอดภัยไว้ก่อน!
จะไม่มีใครมาที่นี่ พวกเขาเข้าใจว่าไม่มีเครื่องประดับเพชรพลอยฯลฯที่นี่
นี่ไม่ใช่แม้กระทั่งวัด ทุกวันนี้ขโมยเกิดขึ้นในทุกหนแห่ง
วัตถุโบราณถูกขโมยและถูกนำไปต่างประเทศ โลกสกปรกมาก
ตัณหาราคะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันทำให้ลูกลืมทุกสิ่ง
ในตอนเช้าตรู่ลูกมีการเรียนที่จะกลับมามีพลานามัยดีเสมอ
และลูกก็มีการเรียนที่จะกลับมามั่งคั่งเสมอ
ลูกต้องจดจำพ่อและไตร่ตรองมหาสมุทรแห่งความรู้ด้วยเช่นกัน ด้วยการจดจำพ่อ,ลูกจะจดจำมรดกของลูกด้วย
นี่คือวิธีที่ง่ายดายและดีมาก เช่นที่พ่อเป็นเมล็ดและพ่อก็รู้ตอนเริ่ม ตอนกลาง
และตอนจบของต้นไม้ ดังนั้นนี้เป็นธุรกิจของลูกด้วยเช่นกัน
ด้วยการจดจำเมล็ดลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ ด้วยการจดจำวงจรลูกจะกลายเป็นผู้ปกครองโลก
นั่นคือลูกจะได้รับทรัพย์สมบัติ ผู้คนได้ปะปนช่วงเวลาของกษัตริย์วิคามาจีท(ผู้เอาชนะบาป)
และกษัตริย์วิกรรม(ผู้ที่กระทำบาป) ปฏิทินของวิกรรมเริ่มต้นเมื่อราวันมา
แล้วช่วงเวลาก็เปลี่ยนไป ปฏิทินวันแรกเริ่มจากปีที่ 1 ถึง 2500 จากนั้นต่อมา จากปี
2500 ถึงปีที่ 5000 ชาวฮินดูไม่รู้ถึงศาสนาของตนเอง
นี่คือศาสนาเดียวเท่านั้นที่ซึ่งพวกเขาได้ลืมศาสนาดั้งเดิมของตนและกลายเป็นผู้ที่ไร้ศีลธรรม
พวกเขาแม้กระทั่งลืมผู้เดียวที่ก่อตั้งศาสนานั้น
ลูกสามารถอธิบายได้ว่าอารยะสมาชเริ่มต้นเมื่อใด อารยัน(ผู้ที่เปลี่ยนแปลงแล้ว)อยู่ในยุคทอง
ผู้ที่ไร้อารยะธรรมคงอยู่ในเวลานี้ เวลานี้พ่อมาเพื่อเปลี่ยนแปลงลูก
ทั้งวงจรอยู่ในสติปัญญาของลูก
ผู้ที่ทำความเพียรพยายามอย่างดีจะเข้าใจสิ่งนี้อย่างดีมากและจะดลใจผู้อื่นให้ทำความเพียรพยายาม
พ่อคือเจ้าแห่งคนจน ลูกเองต้องให้สาสน์นี้แก่ผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านด้วยเช่นกัน
ภาพโปสเตอร์หกภาพก็เพียงพอแล้ว ภาพของวงจร 84 ชาติเกิดนั้นดีมาก
ลูกควรอธิบายภาพนี้อย่างชัดเจนมาก
อย่างไรก็ตามมายาก็มีพลังอย่างมากที่เธอทำให้ลูกลืมทุกสิ่ง
ที่นี่ทั้งสองแสงอยู่ด้วยกัน แสงหนึ่งเป็นของพ่อ และอีกแสงหนึ่งเป็นของผู้นี้
แม้ว่าทั้งสองจะมีพลังมาก ผู้นี้ก็พูดว่า ลูกๆ
ต้องเกาะติดอยู่กับแสงที่มีพลังที่สุด ลูกๆ ทั้งหมดวิ่งมาที่นี่
พวกเขาเข้าใจว่ามีสองแสงที่นี่ พ่อพูดกับลูกๆ เป็นการส่วนตัว มีเพลงที่ร้องว่า
ขอให้ฉันพูดกับท่านเท่านั้น ขอให้ฉันรับฟังท่านเท่านั้น
สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าลูกสามารถนั่งที่นี่ตลอดไป! แปดวันนั้นก็เพียงพอแล้ว
หากทุกคนจะนั่งที่นี่ก็จะมีคนมากมาย ทุกสิ่งดำเนินต่อเนื่องไปตามละคร
อย่างไรก็ตามลูกควรจะมีความสุขที่ลึกล้ำอยู่ภายใน
ผู้ที่ทำให้ผู้อื่นทัดเทียมกับตัวเขาเองเป็นผู้ที่จะสัมผัสกับความสุขนั้น
เมื่อลูกสร้างปวงประชาแล้วเท่านั้นที่ลูกจะสามารถกลายเป็นราชาได้
ลูกต้องการพาสปอร์ต หากลูกจะถามบาบา บาบาก็จะสามารถบอกลูกในทันที
มองดูตนเองแล้วดูว่าลูกมีข้อบกพร่องใดในตัวลูกหรือไม่ ลูกต้องอดทนทุกสิ่ง
คำยกย่องสรรเสริญและคำประณาม
ลูกควรอยู่อย่างมีความสุขกับสิ่งใดก็ตามที่ลูกได้รับจากยักย่า
ลูกควรจะรักอาหารที่ลูกได้รับในยักย่า
ซันยาสซีแม้กระทั่งล้างจานของพวกเขาแล้วดื่มน้ำนั้นหลังจากรับประทาน
เพราะพวกเขารู้ถึงความสำคัญของอาหาร
เวลาเช่นนั้นจะมาถึงเมื่อลูกจะไม่สามารถได้รับพืชพรรณธัญญาหารเลย
เมื่อลูกสามารถอดทนต่อทุกสิ่งได้เท่านั้นลูกจึงจะสามารถสอบผ่านได้ อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดาพ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
หากลูกเห็นข้อบกพร่องในผู้ใด หันใบหน้าของลูกออกไป
อย่าได้บูดบึ้งขึงตึงกับการศึกษาเล่าเรียน
เป็นเหมือนกับดัทตะเตรยาและเก็บเกี่ยวคุณธรรมจากทุกคน
2. นำสติปัญญาของลูกออกไปจากสิ่งต่างๆภายนอก และฝึกฝนที่จะอยู่อย่างสำรวจตน
ขณะที่อยู่ที่ธุรกิจหรืองานของลูก คงอยู่อย่างมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
และอย่าได้พูดมากเกินไป
พร:
ขอให้ลูกเป็นนายผู้ประทานความสุข
และให้ความสุขแก่ทุกดวงวิญญาณโดยการเป็นตัวของความสุข
ลูกๆผู้ที่มีการกระทำที่ถูกต้องตามศีลธรรมจรรยาจะได้รับความสุขและพลังอย่างเป็นผลทันทีของการกระทำเหล่านั้น
หัวใจของพวกเขาอยู่อย่างมีความสุขเสมอ
สำหรับพวกเขาไม่สามารถสัมผัสแม้กระทั่งคลื่นของความทุกข์ใดๆแม้แต่น้อยแม้กระทั่งในความคิดของพวกเขา
การเป็นบราห์มินแห่งยุคแห่งการบรรจบพบกันหมายความว่าไม่มีชื่อหรือร่องรอยของความทุกข์ใดเลยเพราะลูกคือลูกๆของผู้ประทานความสุข
ลูกๆของผู้ประทานความสุขเช่นนั้นตัวเขาเองก็เป็นนายผู้ประทานความสุข
พวกเขาจะให้ความสุขแก่ทุกดวงวิญญาณอยู่เสมอ
พวกเขาไม่เคยเป็นเหตุของความทุกข์หรือรับความทุกข์
คติพจน์:
การเป็นนายผู้ประทานและให้ความร่วมมือ ความรัก และความเห็นอกเห็นใจ
คือสิ่งชี้บอกของดวงวิญญาณที่มีความเมตตา