01.12.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
15.03.85 Om Shanti Madhuban
วิธีที่ง่ายดายที่จะได้รับการปลดปล่อยจากการเพียรพยายาม คือ
การมีสภาพในรูปที่ไม่มีตัวตน
ด้วยความรักที่มีต่อลูกๆบัพดาดาเข้ามาสู่เสียง
จากการอยู่ในสภาพของนิพพานที่อยู่เหนือเสียง เพื่ออะไร? เพื่อที่จะให้ลูก ๆ
ได้รับประสบการณ์จากสภาพของนิพพานที่อยู่เหนือเสียงเช่นเดียวกับที่ท่านอยู่
เพื่อที่จะพาลูกไปสู่นิพพานบ้านที่แสนหวาน
สภาพของนิพพานคือสภาพที่เป็นอิสระจากความคิดในด้านลบ
ในขณะที่อยู่อย่างไม่มีตัวตนในสภาพของนิพพาน ลูกก็เข้ามาสู่เสียงในรูปที่มีตัวตน
เมื่อเข้ามาอยู่ในร่างกายตัวตน ลูกมีสำนึกรู้ของรูปที่ไม่มีตัวตน
ฉันผู้ที่ไม่มีตัวตนกำลังพูดด้วยการค้ำจุนของรูปที่มีตัวตน
เมื่อลูกมีสภาพที่ไม่มีตัวตนในสำนึกรู้ของลูกในขณะที่อยู่ในรูปที่มีตัวตน
ที่เรียกว่าการเข้ามาในคำพูดและการกระทำจากสภาพที่ไม่มีตัวตนผ่านรูปที่มีตัวตน
รูปดั้งเดิมคือรูปที่ไม่มีตัวตน และรูปที่มีตัวตนคือสิ่งค้ำจุน
สำนึกของทั้งสองของรูปที่ไม่มีตัวตนและรูปที่มีตัวตนนี้มีพลัง
ในขณะที่รับการค้ำจุนจากรูปที่มีตัวตน อย่าได้ลืมรูปที่ไม่มีตัวตน
เป็นเพราะลูกลืมสิ่งนี้ ลูกจึงต้องใช้ความเพียรพยายามที่จะจดจำระลึกถึง
ในชีวิตทางโลกลูกจะจดจำรูปแบบทางร่างกายของลูกโดยอัตโนมัติว่าลูกคือคนนั้นคนนี้
ลูกกำลังทำงานนั้นในเวลานั้น
งานเปลี่ยนแปลงไปแต่สภาพของการเป็นคนนั้นคนนี้ของลูกไม่ได้เปลี่ยนแปลงและลูกก็ไม่ได้ลืมสิ่งนั้น
ในทำนองเดียวกันให้รูปดั้งเดิมที่ “ฉันเป็นดวงวิญญาณไม่มีตัวตน”
ควรได้รับการจดจำโดยอัตโนมัติและสม่ำเสมอเมื่อใดก็ตามที่ลูกทำงาน
เมื่อลูกมีการตระหนักถึงสิ่งนี้และลูกมีการแนะนำว่า: ลูกเป็นดวงวิญญาณที่ไม่มีตัวตน
-การแนะนำหมายถึงความรู้-แล้วลูกรู้จักรูปนั้นด้วยพลังแห่งความรู้
ลูกจะลืมสิ่งนี้หลังจากที่รู้สิ่งนี้แล้วได้อย่างไร? ด้วยพลังของความรู้
ลูกจะไม่ลืมการตระหนักรู้ของร่างกายแม้ว่าลูกพยายามที่จะลืมก็ตาม
ดังนั้นลูกจะลืมรูปแบบของจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณนี้ได้อย่างไร?
ดังนั้นจงถามตนเองเกี่ยวกับสิ่งนี้และฝึกฝน ในขณะที่กำลังเดินเหินและ
เคลื่อนไหวไปมารอบๆ หรือทำงานใดก็ตาม ให้ตรวจสอบดูว่า:
รูปที่ไม่มีตัวตนกำลังทำงานด้วยการค้ำจุนของร่างกายที่มีตัวตนหรือไม่
และแล้วลูกก็จะมีสภาพของการเป็นอิสระจากความคิดที่เป็นลบ
สภาพที่ไม่มีตัวตนและสภาพที่ปราศจากอุปสรรคได้โดยอัตโนมัติ
ลูกจะได้รับการปลดปล่อยจากความเพียรพยายาม
ลูกพบว่าเป็นความพยายามเมื่อลูกสิ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จากนั้นลูกก็ต้องเพียรพยายามที่จะจดจำ ทำไมลูกถึงลืมสิ่งนี้? ลูกควรลืมสิ่งนี้หรือ?
บัพดาดากำลังถามว่า: ลูกคือใคร! ลูกมีตัวตนหรือไม่มีตัวตน? ลูกไม่มีตัวตนใช่ไหม?
ในขณะที่ไม่มีตัวตน ทำไมลูกถึงลืมสิ่งนี้?
ลูกลืมรูปดั้งเดิมของลูกแล้วลูกจดจำสิ่งที่ให้การค้ำจุน
ลูกไม่รู้สึกขบขันกับตัวเองเพราะสิ่งที่ลูกกำลังทำหรือ? เวลานี้ลูกรู้สึกสนุกใช่ไหม?
ลูกลืมสิ่งที่แท้จริงแล้วลูกจดจำสิ่งที่ไม่จริง
บางครั้งบัพดาดาก็รู้สึกประหลาดใจกับลูกๆ ลูกลืมตนเองและหลังจากนั้นลูกทำอะไร?
ลูกลืมตนเองและหลังจากนั้นก็เป็นทุกข์
ลูกสามารถเรียกพ่อจากรูปที่ไม่มีตัวตนมาอยู่ในรูปที่มีตัวตนเพราะความรักของลูก
ดังนั้นลูกไม่สามารถอยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่ไม่มีตัวตนเหมือนกับสภาพของผู้เดียวที่ลูกรักหรือ?
บัพดาดาไม่สามารถทนเห็นลูกๆทำงานหนัก นายผู้ทรงพลังอำนาจและความลำบากตรากตรำ
ลูกเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจคือผู้เป็นนายของทุกพลัง
ไม่ว่าลูกจะปลุกเรียกพลังใดก็ตามด้วยความคิดบริสุทธิ์พลังนั้นก็จะปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูกผู้เป็นนาย
ผู้เป็นนายซึ่งเป็นผู้รับใช้ที่มีพลังทั้งหมดจะต้องทำงานหนักเช่นนั้นหรือ
หรือเขาจะออกคำสั่งกับผู้รับใช้เหล่านั้นด้วยความคิดที่บริสุทธิ์? เขาจะทำอะไร?
ลูกคือราชาใช่ไหม? หรือลูกเป็นปวงประชา? โดยทั่วไปแล้ว
ลูกที่มีค่าจะถูกเรียกว่าอะไร? เขาจะถูกเรียกว่าลูกที่เป็นราชาใช่ไหม?
ดังนั้นลูกคือใคร? ลูกคือลูกที่เป็นราชาหรือเป็นลูกที่ต้องพึ่งพิง?
ลูกเป็นดวงวิญญาณที่มีสิทธิใช่ไหม?
ดังนั้นพลังเหล่านี้และคุณธรรมเหล่านี้จึงเป็นผู้รับใช้ทั้งหมดของลูก
ปลุกสิ่งเหล่านี้และสิ่งเหล่านี้จะมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าลูก
เพราะการมีความอ่อนแอของพวกเขา
ผู้ที่มีพลังจึงพ่ายแพ้แม้ว่าพวกเขาจะมีอาวุธที่ทรงพลัง ลูกอ่อนแอหรือไม่?
ลูกเป็นลูกที่กล้าหาญใช่ไหม? ทุกคนจะพูดอะไร ถ้าลูกของผู้ทรงพลังอำนาจนั้นอ่อนแอ?
มันจะดูดีไหม? ดังนั้นเรียนรู้วิธีที่จะปลุกเรียกสิ่งเหล่านั้นและออกคำสั่ง
อย่างไรก็ตามผู้รับใช้จะเชื่อฟังคำสั่งของใคร? คำสั่งของผู้ที่เป็นนาย
นายเองกลายเป็นผู้รับใช้ คนที่ทำงานหนักคือผู้รับใช้ใช่ไหม
เวลานี้ลูกมีอิสระจากการทำงานอย่างหนักของจิตใจนี้หรือไม่?
การทำงานอย่างหนักด้วยร่างกายของลูกเมื่อรับใช้ยักย่าเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป
นั่นก็จะดูเหมือนไม่ทำงานหนักเมื่อลูกเข้าใจถึงความสำคัญของการทำงานรับใช้ของยักย่า
เมื่อดวงวิญญาณที่มีการติดต่อกันมาที่มธุบันและพวกเขาได้เห็นว่าอาหารนั้นถูกเตรียมไว้สำหรับผู้คนจำนวนมากมายเพียงใด
และในเวลาเดียวกันทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
พวกเขาสงสัยว่าลูกสามารถทำงานที่หนักเช่นนั้นได้อย่างไร
พวกเขาประหลาดใจจริงๆว่างานที่ใหญ่โตเช่นนั้นดำเนินไปได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตามผู้ที่ทำสิ่งนี้จะพิจารณาว่างานใหญ่เช่นนี้ว่าเป็นอย่างไร?
เนื่องจากความสำคัญของงานรับใช้ ทุกสิ่งจึงดูเหมือนเป็นเกม
ดูเหมือนว่าจะไม่ทำงานหนัก
รูปแบบของการทำงานหนักเปลี่ยนไปเพราะลูกถึงความสำคัญนี้และเพราะลูกรักพ่อ
ดังนั้นตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเป็นอิสระจากการทำงานอย่างหนักของจิตใจ
ตั้งแต่ยุคทองแดงเป็นต้นมาลูกทำงานอย่างหนักกับการแสวงหาด้วยจิตใจ การหมดหวัง
และร้องเรียกหา เนื่องจากการทำงานหนักในจิตใจของลูก
การทำงานหนักเพื่อหารายได้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทุกคนที่ลูกถามทุกวันนี้พูดว่าอะไร?
การหาเงินนั้นไม่ง่ายเหมือนกับไปบ้านป้าของลูก! ด้วยการทำงานอย่างหนักของจิตใจ
ลูกก็เพิ่มการทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินและร่างกายก็กลับมาเจ็บป่วย
ด้วยเหตุนี้จึงมีการทำงานอย่างหนักในการทำสิ่งต่างๆด้วยร่างกาย
มีงานหนักของจิตใจและทำงานหนักเพื่อหาเงิน ไม่เพียงแค่นั้น
แต่ทุกวันนี้ยังมีงานหนักเช่นกันในการเติมเต็มความรับผิดชอบของความรักต่อครอบครัวของลูกด้วยเช่นกัน
บางครั้งคนหนึ่งก็บูดบึ้ง บางครั้งคนอื่นก็บูดบึ้ง
แล้วลูกก็ต้องยุ่งอยู่กับการเกลี้ยกล่อมบุคคลนั้นและพยายามกลับมาคืนดีกับเขาหรือเธอ
วันนี้บางสิ่งเป็นของลูกและในวันพรุ่งนี้สิ่งนั้นจะไม่เป็นของลูกหรืออาจจะกลับกัน
ดังนั้นลูกจึงเหนื่อยล้ากับการทำงานกับสิ่งทั้งหมดนั้นใช่ไหม?
ลูกเหนื่อยล้ากับร่างกาย กับจิตใจ กับทรัพย์สมบัติ และกับความสัมพันธ์
ก่อนอื่นบัพดาดาจบสิ้นการทำงานหนักของจิตใจ เพราะเมล็ดคือจิตใจ
การทำงานหนักของจิตใจทำให้ลูกสัมผัสกับการทำงานหนักผ่านร่างกายและเพื่อเงิน
เมื่อจิตใจไม่ถูกต้องและเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงาน ลูกจะพูดว่า
ลูกไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้ในวันนั้น ลูกไม่ใช่ว่าจะป่วย
แต่ลูกรู้สึกว่าลูกมีไข้สูงถึง 103 องศา
ดังนั้นงานหนักในจิตใจของลูกทำให้ลูกได้สัมผัสกับงานหนักผ่านร่างกายของลูก
มันก็เหมือนกันกับเงิน ถ้าจิตใจของลูกไม่ค่อยดีเพียงเล็กน้อย ลูกก็จะพูดว่า
ลูกจะต้องทำงานมาก นั่นเป็นสิ่งที่ยากมากที่จะหาเงิน หรือที่บรรยากาศนั้นไม่ดี
อย่างไรก็ตามเมื่อจิตใจมีความสุข ลูกก็จะพูดว่า ไม่มีอะไรเป็นเรื่องใหญ่
เป็นงานเดียวกันแต่งานหนักของจิตใจจะทำให้ลูกมีประสบการณ์ถึงงานหนักผ่านร่างกาย
ความอ่อนแอของจิตใจนำมาซึ่งความอ่อนแอในบรรยากาศ
บัพดาดาไม่สามารถทนเห็นลูกทำงานหนักด้วยจิตใจของพวกเขาได้
ลูกทำงานหนักมาแล้วเป็นเวลา 63 ชาติเกิด
เวลานี้ในชาติเกิดเดียวนี้เป็นชาติเกิดแห่งความสุข เป็นชาติเกิดของความรัก
เป็นชาติเกิดของการได้มาซึ่งการบรรลุผล ชาติเกิดของพร
เป็นชาติเกิดของการได้รับความช่วยเหลือ
แล้วทำไมจึงมีการทำงานอย่างหนักแม้ในชาติเกิดนี้?
ดังนั้นเวลานี้จงเปลี่ยนการทำงานหนักให้เป็นความรัก
จบสิ้นสิ่งนั้นด้วยการรู้ถึงความสำคัญของสิ่งนี้
วันนี้บัพและดาดามีการพูดคุยกันอย่างมากมายเกี่ยวกับการทำงานหนักของลูกๆ
บัพและดาดากำลังยิ้มเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกกำลังทำ
เกี่ยวกับเหตุผลของการทำงานหนักของจิตใจและสิ่งที่ลูกทำ
ลูกได้สร้างลูกๆขึ้นมาทุกประเภท ลูกที่มีความพิการ บางคนไม่มีแม้กระทั่งใบหน้า
หรือขา หรือแขน ลูกได้สร้างลูกหลานของสิ่งที่ไร้ประโยชน์
และเนื่องจากลูกได้สร้างสิ่งสร้างนั้นขึ้นมา ลูกจะทำอย่างไร?
ลูกต้องทำงานหนักเพื่อหล่อเลี้ยงสิ่งสร้างนั้น
เนื่องจากการสร้างสิ่งสร้างเช่นนี้ลูกจึงต้องทำงานให้หนักมากขึ้น
แล้วลูกก็เหนื่อยล้าและท้อแท้ใจด้วยเช่นกัน แล้วลูกก็พบว่ามันเป็นสิ่งที่ยากมาก “สิ่งนั้นดีมากแต่ก็ยากมาก”
ลูกไม่ต้องการที่จะปล่อยวางและไม่ต้องการที่จะโบยบิน ดังนั้นจะต้องทำอย่างไร?
ลูกจะต้องเดิน และการเดินจะต้องใช้ความพยายามอย่างแน่นอน
ดังนั้นเวลานี้จงหยุดการสร้างสิ่งสร้างที่อ่อนแอ
และลูกจะได้รับการปลดปล่อยจากการทำงานหนักของจิตใจ แล้วลูกพูดอะไรที่น่าขบขัน ?
พ่อถามว่าทำไมลูกถึงสร้างสิ่งสร้างเช่นนั้น ลูกพูดในสิ่งที่ผู้คนพูดในปัจจุบันว่า:
ฉันจะทำอะไรได้ เมื่อพระเจ้าให้สิ่งนั้นมา? ลูกโยนความผิดทั้งหมดให้พระเจ้า
ลูกจะพูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งสร้างที่ไร้ประโยชน์นี้? ฉันไม่ต้องการ แต่มายามา
ฉันไม่ต้องการ แต่สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น ดังนั้นจงกลายเป็นนาย ลูกของผู้ทรงพลังอำนาจ
กลายเป็นราชา ความอ่อนแอหมายถึงปวงประชาที่พึ่งพิง ผู้เป็นนายหมายถึงราชาที่ทรงพลัง
ดังนั้นจงเป็นนายและปลุกเรียก นั่งอยู่บนบัลลังก์ที่สูงส่งของสภาพดั้งเดิมของลูก
นั่งอยู่บนบัลลังก์และปลุกเรียกพลังซึ่งเป็นผู้รับใช้ของลูก
จงออกคำสั่งกับพลังเหล่านั้น!
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้รับใช้ของลูกจะไม่ทำตามคำสั่งของลูก
จากนั้นลูกจะไม่พูดว่า:“ฉันจะทำอย่างไรดี? เพราะไม่มีพลังที่จะอดทน
ฉันจึงต้องทำงานหนัก” “สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะฉันขาดพลังของการปรับตัว”
หากผู้รับใช้ของลูกไม่มีประโยชน์สำหรับลูกเมื่อเวลาลูกต้องการ
พวกเขาเป็นผู้รับใช้ประเภทไหน?
จะเกิดอะไรขึ้นหากผู้รับใช้ของลูกมาถึงเมื่องานเสร็จสิ้นไปแล้ว?
เมื่อลูกให้ความสำคัญกับเวลาแล้ว
เมื่อรู้ถึงความสำคัญของเวลาผู้รับใช้ของลูกจะปรากฏตัวในเวลาที่ถูกต้อง
หากพลังหรือคุณธรรมใดๆไม่ปรากฏขึ้นมาในเวลาที่ถูกต้อง
ก็พิสูจน์ได้ว่าผู้เป็นนายไม่รู้ถึงความสำคัญของเวลา ดังนั้นลูกควรทำอย่างไร
เป็นการดีที่จะนั่งอยู่บนบัลลังก์หรือเป็นการดีที่จะทำงานหนัก?
ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องให้เวลากับสิ่งนี้ ลูกชอบทำงานหนักหรือลูกชอบการเป็นนาย?
ลูกชอบสิ่งไหนมากกว่ากัน? ลูกได้รับการบอกว่า
สำหรับสิ่งนี้จงเฝ้าแต่ฝึกฝนเพียงสิ่งเดียวอย่างสม่ำเสมอ “ฉันผู้ไม่มีตัวตน
กำลังทำงานนี้ด้วยการค้ำจุนของร่างกายที่มีตัวตน”
กลายเป็นคาราวันฮาร์และทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นผ่านอวัยวะทางร่างกายของลูก
หากลูกรักษารูปที่ไม่มีตัวตนที่แท้จริงของลูกไว้ในสำนึกรู้ของลูก
คุณธรรมและพลังของรูปที่แท้จริงก็จะปรากฏออกมาโดยอัตโนมัติ รูปของลูกเป็นเช่นไร
คุณธรรมและพลังของรูปแบบนั้นก็จะเริ่มลงมือทำโดยอัตโนมัติ เมื่อกุมารีกลายเป็นแม่
และแล้วในรูปของการเป็นแม่ คุณธรรมและพลัง เช่นการรับใช้, การสละละทิ้ง, ความรัก,
การรับใช้ที่ไม่รู้เหนื่อย และพลังทั้งหมดจะปรากฏออกมาโดยอัตโนมัติ
ดังนั้นด้วยการจดจำรูปที่คงอยู่ตลอดไปและไม่สูญสลายของลูก
คุณธรรมและพลังเหล่านี้จะปรากฏขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
รูปแบบจะสร้างสำนึกรู้และสภาพขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ลูกเข้าใจสิ่งที่ลูกต้องทำหรือไม่?
จบสิ้นคำว่า “ทำงานหนัก” ในชีวิตของลูก ลูกพบบางสิ่งที่ยากเพราะลูกต้องทำงานหนัก
เมื่องานหนักจบสิ้นลง คำว่า“ยาก”ก็จะจบสิ้นลงโดยอัตโนมัติเช่นกัน อัจชะ
ถึงผู้ที่ทำให้สิ่งที่ยากเป็นสิ่งที่ง่ายอย่างสม่ำเสมอ
ถึงผู้ที่เปลี่ยนงานหนักให้กลายเป็นความรัก
ถึงผู้ที่สัมผัสถึงพลังและคุณธรรมที่สูงส่งของพวกเขาด้วยสำนึกรู้ในรูปดั้งเดิมของพวกเขา
ถึงผู้ที่ให้การตอบสนองของความรักต่อผู้เป็นพ่อเสมอ ถึงผู้ที่ทัดเทียมกับพ่อ
ถึงผู้ที่นั่งอยู่บนที่นั่งที่สูงส่งของสำนึกรู้ที่สูงส่งเสมอ
และในฐานะผู้เป็นนายที่ทำงานผ่านผู้รับใช้ของพวกเขา ถึงลูกที่เป็นราชาเช่นนั้น
ลูกผู้เป็นนาย ด้วยความรัก การจดจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
บัพดาดาพบบราเธอร์และซิสเตอร์ดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ เป็นการส่วนตัว
งานรับใช้ทำให้ลูกสัมผัสกับความเป็นมิตรร่วมทางของพ่อ
การไปทำงานรับใช้หมายถึงการมีพ่อเป็นมิตรร่วมทางอย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าลูกจะอยู่ในรูปที่มีตัวตนหรือในรูปที่ละเอียดอ่อน
พ่อจะอยู่กับลูกที่เป็นผู้รับใช้เสมอ คาราวันฮาร์กำลังทำให้ลูกทำสิ่งนั้น
ผู้เดียวที่ทำให้ทุกคนเคลื่อนไปกำลังทำให้ลูกเคลื่อนไป และลูกทำอะไร?
ลูกกลายเป็นเครื่องมือและเล่นเกม ลูกประสบกับสิ่งนี้ใช่ไหม?
ลูกเป็นผู้รับใช้เช่นนั้นที่ประกาศสิทธิ์ในความสำเร็จใช่ไหม?
ความสำเร็จเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของลูก
ความสำเร็จจะทำให้ลูกได้รับประสบการณ์ของการเป็นดวงวิญญาณบุญที่ยิ่งใหญ่อย่างสม่ำเสมอ
ผู้ที่เป็นดวงวิญญาณบุญที่ยิ่งใหญ่จะได้รับลิฟต์แห่งพรจากทุกคน อัจชะ
เวลานี้ วันนั้นจะมาถึง เมื่อมีเพลงจะออกมาจากปากของทุกคนว่า “มีเพียงผู้เดียวเท่านั้น
นี่คือผู้เดียวเท่านั้น” เพียงบทบาทนี้ในละครที่ยังคงหลงเหลืออยู่
ทันทีที่สิ่งนี้เกิดขึ้นความสมบูรณ์พร้อมก็จะเกิดขึ้น
เวลานี้ลูกจะต้องนำบทบาทนี้ให้เข้ามาใกล้
การให้ประสบการณ์นี้เป็นวิธีพิเศษที่จะดึงดูด จงเฝ้าแต่ให้ความรู้แก่พวกเขา
ให้ประสบการณ์แก่พวกเขา พวกเขาจะไม่พอใจเพียงแค่ได้ยินความรู้
ดังนั้นในขณะที่พวกเขากำลังรับฟังความรู้
จงเฝ้าแต่ให้ประสบการณ์แก่พวกเขาด้วยเช่นกัน แล้วพวกเขาก็จะให้ความสำคัญของความรู้
และเนื่องจากการได้มาซึ่งการบรรลุผลของพวกเขา
พวกเขาจะรู้สึกถึงความจริงจังและความกระตือรือร้นนั้นเช่นกัน
คำบรรยายของคนเหล่านั้นเป็นเพียงแค่เต็มไปด้วยความรู้เท่านั้น
แต่คำบรรยายของลูกไม่เพียงแค่เต็มไปด้วยความรู้
แต่ให้พวกเขามีอำนาจของประสบการณ์ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นในขณะที่พูดด้วยอำนาจแห่งประสบการณ์ จงเฝ้าแต่ให้ประสบการณ์แก่พวกเขาต่อไป
ตัวอย่างเช่น
ผู้ที่เป็นนักพูดที่ดีสามารถทำให้ผู้คนร้องไห้หรือแม้กระทั่งหัวเราะเมื่อพวกเขาพูด
ในความเงียบพวกเขาก็จะพาผู้ฟังเข้าสู่ความเงียบ
พวกเขาทำให้บรรยากาศในห้องประชุมเหมือนกับสิ่งที่พวกเขากำลังพูดถึง
นั่นเป็นเพียงชั่วครู่เท่านั้น เนื่องจากพวกเขาสามารถทำเช่นนั้น
แล้วลูกผู้เป็นนายของผู้ทรงพลังอำนาจจะไม่ได้รับความสำเร็จได้อย่างไร?
เมื่อมีคนพูดว่า “ความสงบ” ก็ให้มีบรรยากาศของความสงบ เมื่อมีใครพูดว่า “ความปิติสุข”
ก็ให้มีบรรยากาศของความปิติสุข
การบรรยายที่ให้ประสบการณ์เช่นนี้จะเป็นการชักธงของการเปิดเผย
พวกเขาต้องเห็นคุณสมบัติพิเศษบางอย่าง อัจชะ เวลาจะเติมพลังให้กับลูกโดยอัตโนมัติ
มันสำเร็จแล้ว ลูกเพียงแค่ต้องทำซ้ำ อัจชะ
บัพดาดาพบกับดาดี้แจงกี ในช่วงเวลาของการลา
ลูกมีความสุขที่ได้เห็นสิ่งทั้งหมดนี้
ลูกที่รักเป็นพิเศษมีความสุขที่สุดในทุกเรื่องใช่ไหม?
ผู้ที่เฝ้าแต่เคลื่อนไปตามคลื่นแห่งมหาสมุทรแห่งความสุข -
มหาสมุทรแห่งความสุขและมหาสมุทรแห่งการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด –
ก็เฝ้าแต่ทำให้ผู้อื่นสามารถเคลื่อนไปในคลื่นของมหาสมุทรเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
ลูกทำอะไรตลอดทั้งวัน? พวกเขาทำอะไรกับใครบางคนที่ไม่รู้วิธีอาบน้ำในมหาสมุทร?
พวกเขาจะจับมือเขาและอาบน้ำให้เขาใช่ไหม? นี่คืองานที่ลูกทำ –
เคลื่อนไปตามเกลียวคลื่นแห่งความสุข คลื่นแห่งความสุขสันต์ ...
ลูกทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องใช่ไหม?
ลูกได้พบงานที่ดีที่จะทำให้ตัวลูกเองไม่ว่างเว้นอยู่เสมอ ลูกยุ่งแค่ไหน?
ลูกมีเวลาหรือไม่? ลูกจะยุ่งกับสิ่งนี้เสมอ ดังนั้นเมื่อผู้อื่นเห็นลูก
พวกเขาก็ทำตามลูกเช่นกัน
มันเป็นเพียงความทรงจำระลึกถึงและงานรับใช้และไม่มีสิ่งใดปรากฏให้เห็น
สติปัญญาของลูกจะไปที่การจดจำระลึกถึงและงานรับใช้โดยอัตโนมัติและไม่มีที่อื่นเลย
ลูกไม่จำเป็นต้องทำให้สติปัญญาของลูกทำงาน มันทำงานโดยอัตโนมัติ
สิ่งนี้เรียกว่าผู้ที่เรียนรู้บางสิ่งที่สอนผู้อื่น ลูกได้รับงานที่ดี
พ่อจากไปแล้วทำให้ลูกฉลาดขึ้นใช่ไหม? ท่านไม่ได้ไปแล้วทำให้ลูกเป็นเช่นนั้นหรือ?
ท่านไปหลังจากที่ทำให้ลูกฉลาดขึ้นและให้สถานที่กับลูก
ลูกมีท่านเป็นมิตรร่วมทางอยู่เสมอ แต่ท่านทำให้ลูกเป็นเครื่องมือ
ท่านทำให้ลูกฉลาดและให้ที่นั่งแก่ลูก ระบบของการให้ที่นั่งเริ่มต้นที่นี่
พ่อเคลื่อนต่อไปหลังจากมอบบัลลังก์ของงานรับใช้และที่นั่งของงานรับใช้ให้แก่ลูก
ตอนนี้ท่านกำลังเฝ้าดูในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ละวางว่าลูกๆกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างไร
ลูกมี มิตรร่วมทางของท่าน และท่านก็เป็นผู้สังเกตการณ์เช่นกัน
ท่านกำลังเล่นทั้งสองบทบาท ในรูปที่มีตัวตน
ท่านจะถูกเรียกว่าผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง และในรูปที่อะแวค
ท่านจะถูกเรียกว่ามิตรร่วมทาง ท่านกำลังเล่นทั้งสองบทบาท อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกอยู่อย่างมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ
และได้รับพรโดยการรักษาความสมดุลของการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้ในทุกลมหายใจ
เช่นที่ลูกให้ความใส่ใจกับการทำให้ลิ้งค์(การเชื่อมโยง)ของการจดจำระลึกถึงเชื่อมต่ออยู่เสมอ
ในทำนองเดียวกันให้ลิ้งค์ของงานรับใช้เชื่อมต่ออยู่เสมอเช่นกัน
ให้มีการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้ในทุกลมหายใจ; สิ่งนี้เรียกว่าการรักษาความสมดุล
ด้วยความสมดุลนี้ลูกจะเฝ้าแต่ได้รับพรอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
และเสียงจะปรากฏในหัวใจของลูกว่าลูกได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยพร
ลูกจะกลายเป็นอิสระจากการทำงานหนักหรือต้องต่อสู้รบรา ลูกจะเป็นอิสระจากคำถาม“ อะไร?
ทำไม? อย่างไร?” และจะมีความสุขอยู่เสมอ
และแล้วลูกจะประสบความสำเร็จในรูปของสิทธิ์โดยกำเนิดของลูก
คติพจน์:
เพื่อที่ประกาศสิทธิ์ที่จะได้รับรางวัลจากพ่อ
ลูกจะต้องมีใบประกาศนียบัตรของตัวลูกเองอยู่กับลูกและมิตรของลูกจะเป็นอิสระจากอุปสรรค