04.08.19    Avyakt Bapdada     Thai Murli     09.01.85     Om Shanti     Madhuban


บุคลิกภาพทางจิตของดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่ง


วันนี้ พ่อผู้ประทานโชคได้เห็นลูกที่มีโชคที่สูงส่งของท่าน เส้นโชคของลูกแต่ละคนนั้นสูงส่งมากและไม่มีวันสูญสลาย ลูกๆทั้งหมดนั้นโชคดีเพราะลูกทั้งหมดเป็นของผู้ประทานโชค ด้วยเหตุนี้โชคจึงเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของลูก ลูกทุกคนประกาศสิทธิ์ในรูปของสิทธิ์โดยกำเนิดโดยอัตโนมัติ ทุกคนมีสิทธิ์ แต่มีความแตกต่างในประสบการณ์ของสิทธิ์นั้นในชีวิตสำหรับตัวเองและสำหรับผู้อื่นและทำให้ผู้อื่นได้รับประสบการณ์นั้น การมีค่าในสิทธิ์ที่จะได้รับโชคและการอยู่ในความสุขและความซาบซึ้งนั้นหรือการทำให้ผู้อื่นมีโชคโดยผ่านผู้ประทานโชค คือการรักษาความซาบซึ้งของการมีสิทธิ์ไว้ เช่นเดียวกับความซาบซึ้งของความมั่งคั่งชั่วคราวปรากฏให้เห็นบนใบหน้าและในพฤติกรรมของผู้ที่มีความมั่งคั่งทางวัตถุ ในทำนองเดียวกันความซาบซึ้งของความมั่งคั่งของโชคที่สูงส่งและไม่มีวันสูญสลายที่ได้รับจากผู้ประทานโชคนั้นจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าและการกระทำของลูกโดยอัตโนมัติ รูปของการได้มาซึ่งการบรรลุผลของความมั่งคั่งของโชคที่สูงส่งนั้นเป็นเรื่องทางจิตและเรื่องของจิตวิญญาณ จากดวงวิญญาณทั้งหมดในโลกนี้ ประกายและความซาบซึ้งทางจิตในโชคที่สูงส่งของลูกนั้นมีความสูงส่ง,มีความรักและพิเศษสุด ดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่งจะเต็มเปี่ยมเสมอและจะมีประสบการณ์ของการมีความซาบซึ้งทางจิตนั้น รัศมีของดวงอาทิตย์ของโชคที่สูงส่งจะมีประสบการณ์ว่ากำลังเปล่งประกายจากระยะที่ห่างไกล บุคลิกภาพของดวงวิญญาณที่มีโชคที่มีสมบัติแห่งโชคจะได้รับประสบการณ์จากระยะไกล ทุกคนจะได้รับประสบการณ์ของความสูงศักดิ์ทางจิตจากดวงตาของดวงวิญญาณผู้มีโชคที่สูงส่ง ไม่ว่าจะมีดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่มีความสูงศักดิ์และบุคลิกภาพในโลกนี้มากมายแค่ไหน เบื้องหน้าของดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่ง ผู้ที่มีบุคลิกภาพทางโลกเหล่านั้นจะสัมผัสว่าบุคลิกภาพทางจิตนั้นสูงส่งและพิเศษที่สุด พวกเขาจะสัมผัสว่าดวงวิญญาณผู้ที่มีโชคที่สูงส่งนั้นมาจากโลกที่พิเศษสุดและเป็นทางจิต ที่พวกเขานั้นเป็นคนที่พิเศษสุดไม่เหมือนใครโดยสิ้นเชิง,ผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้คนของอัลหล่า เมื่อสิ่งใหม่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา ผู้คนก็เฝ้ามองดูสิ่งนั้นด้วยความรัก ในทำนองเดียวกันพวกเขาจะมีความสุขอย่างที่สุดเมื่อได้เห็นดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่ง จากทัศนคติที่สูงส่งของดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่ง บรรยากาศก็จะเป็นเช่นนั้นที่ผู้อื่นได้สัมผัสว่าตัวเขาเองได้รับบางสิ่ง นั่นคือพวกเขาได้สัมผัสกับบรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมที่จะเป็นหนึ่งในการได้มาซึ่งการบรรลุผล พวกเขาจะหลุดหายเข้าไปในประสบการณ์ของการได้มาซึ่งบางสิ่งบางอย่าง เมื่อเห็นดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่ง พวกเขาจะมีประสบการณ์ราวกับว่า:บ่อน้ำเองได้เดินมาหาผู้ที่กระหาย ดวงวิญญาณที่ขาดการได้มาซึ่งการบรรลุผลก็สัมผัสกับความหวังของการได้มาซึ่งการบรรลุผลบางอย่าง ท่ามกลางความมืดมนของความสิ้นหวังในทุกหนแห่ง พวกเขาได้สัมผัสกับตะเกียงแห่งความหวังอันบริสุทธิ์ที่ส่องแสง ดวงวิญญาณที่ท้อแท้ก็ประสบกับความสุขในหัวใจ ลูกกลายเป็นผู้ที่มีโชคที่สูงส่งเช่นนั้นหรือไม่? ลูกรู้จักคุณสมบัติพิเศษทางจิตวิญญาณเหล่านี้ของลูกหรือเปล่า? ลูกยอมรับสิ่งเหล่านี้หรือไม่? ลูกมีประสบการณ์ในสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า? หรือลูกเพียงแค่คิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้หรือได้ยินเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เท่านั้น? ในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปมารอบๆ ลูกไม่เคยลืมเพชรอันล้ำค่าของดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่งที่ซ่อนอยู่ในรูปที่ธรรมดาของลูกใช่ไหม? ลูกไม่ได้พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ธรรมดาใช่ไหม? ร่างกายนั้นเก่าและธรรมดาแต่ดวงวิญญาณนั้นยิ่งใหญ่และพิเศษ ดูดวงชะตาของโชคของทั้งโลก! ไม่มีใครสามารถมีเส้นโชคที่สูงส่งเหมือนกับที่ลูกมี ไม่ว่าดวงวิญญาณเหล่านั้นจะเต็มไปด้วยความมั่งคั่งแค่ไหน ดวงวิญญาณเหล่านั้นจะเต็มเปี่ยมด้วยสมบัติแห่งความรู้จากคัมภีร์ของดวงวิญญาณแค่ไหน ดวงวิญญาณเหล่านั้นจะเต็มไปด้วยพลังแห่งความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพียงใด พวกเขาจะเป็นอะไรเมื่อปรากฏอยู่เบื้องหน้าของลูกๆทั้งหมดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโชค? เวลานี้พวกเขาเองเริ่มมีประสบการณ์ว่า ถึงแม้ภายนอกจะเต็มเปี่ยม แต่พวกเขาก็ว่างเปล่าภายใน ในขณะที่ลูกนั้นเต็มเปี่ยมภายใน ภายนอกนั้นธรรมดา ดังนั้นในขณะที่เฝ้ารักษาโชคที่สูงส่งของลูกไว้ในสำนึกของลูกอย่างสม่ำเสมอ จงรักษาความซาบซึ้งทางจิตของการมีพลัง ภายนอกลูกอาจจะธรรมดาแต่ให้มองเห็นความยิ่งใหญ่ในความธรรมดานั้น ดังนั้นตรวจสอบตัวเองว่า ในทุกการกระทำที่ธรรมดาได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่หรือไม่? เมื่อตัวลูกเองมีประสบการณ์เช่นนี้ ลูกก็จะให้ประสบการณ์นี้แก่ผู้อื่น ลูกทำธุรกิจทางโลกของลูกเช่นเดียวกับที่ผู้อื่นทำธุรกิจของเขา หรือลูกทำธุรกิจของลูกในฐานะที่ลูกเป็นบุคคลทางจิตผู้เป็นของพระเจ้า? ในขณะที่เดินและเคลื่อนไหวไปมาและเข้ามามีสายใยกับผู้อื่น ให้พวกเขาได้สัมผัสและรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่พิเศษในสายตาของลูกและบนใบหน้าของลูกอย่างแน่นอน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจน ในขณะที่เห็นสิ่งนั้น อย่างน้อยให้พวกเขามีคำถามว่า “นี่คืออะไร?” “คนเหล่านี้เป็นใคร?” ลูกศรของคำถามนี้จะนำพวกเขาเข้ามาใกล้ชิดกับพ่ออย่างแน่นอน ลูกเข้าใจหรือไม่? ลูกคือดวงวิญญาณที่มีโชคที่สูงส่งเช่นนั้น เมื่อเห็นความไร้เดียงสาของลูกๆ บางครั้งบัพดาดาก็ยิ้ม ลูกเป็นของพระเจ้าแต่ลูกก็ไร้เดียงสาที่ลูกลืมแม้กระทั่งโชคของลูก อะไรก็ตามที่ผู้อื่นไม่ลืม,แต่ลูกที่ไร้เดียงสากลับลืม ผู้คนเหล่านั้นลืมตัวเองหรือไม่? มีใครลืมผู้เป็นพ่อหรือไม่? ดังนั้นลูกได้กลับมาไร้เดียงสามาก เป็นเวลา 63 ชาติเกิดที่ลูกได้เรียนรู้บทเรียนที่ผิดอย่างหนักแน่นว่า แม้ว่าเมื่อพระเจ้าบอกให้ลูกลืม,ลูกก็จะไม่ลืม อย่างไรก็ตามลูกก็ยังลืมสิ่งที่สูงส่งเหล่านั้น เหตุนี้เองลูกจึงไร้เดียงสามาก พ่อพูดว่า นี่ก็เป็นบทบาทของพ่อในละครกับผู้ที่ไร้เดียงสาเหล่านี้ ลูกได้อยู่อย่างไร้เดียงสามาเป็นเวลานาน ขณะนี้จะกลับมาเป็นนายที่เต็มไปด้วยความรู้ ที่มีพลังเช่นเดียวกับพ่อ ลูกเข้าใจหรือไม่? อัจชะ

ถึงผู้ที่สูงส่งและมีโชคอย่างสม่ำเสมอ ถึงผู้ที่ให้พลังของการกลับมามีโชคแก่ผู้อื่นโดยผ่านโชคของพวกเขา ถึงผู้ที่ให้ประสบการณ์ของความยิ่งใหญ่ในความธรรมดา ถึงผู้ที่กลับมามีโชคจากความไร้เดียงสา ถึงผู้ที่รักษาความซาบซึ้งและความสุขในสิทธิ์แห่งโชคอย่างสม่ำเสมอ ถึงผู้ที่กลายเป็นดวงดาวแห่งโชคในโลกและเปล่งประกายอย่างสม่ำเสมอ ถึงดวงวิญญาณที่มีโชคและสูงส่งเช่นนั้น ด้วยความรัก การจดจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา ผู้ประทานโชค

บัพดาดาพบพี่น้องชายหญิงชาวมธุบัน
ผู้ที่อยู่ในมธุบันหมายถึงผู้ที่ทำให้ทุกๆคนอ่อนหวานด้วยความอ่อนหวานของพวกเขาเองอย่างสม่ำเสมอ และด้วยทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดของพวกเขา จึงเป็นแรงบันดานใจให้ผู้อื่นมีการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดเช่นกัน คุณสมบัติพิเศษของชาวมธุบันคือความอ่อนหวานที่สุดและวางเฉยที่สุด ผู้ที่รักษาสมดุลนี้ก็จะสัมผัสกับการก้าวไปข้างหน้าอย่างง่ายดายและโดยอัตโนมัติ ผลกระทบของคุณสมบัติพิเศษทั้งสองเหล่านี้ของมธุบันจะเกิดขึ้นกับโลก แม้ว่าดวงวิญญาณอาจจะไม่มีความรู้ มธุบันก็เป็นประภาคารแห่งแสงและพลังที่ที่แสงของประภาคารจะสาดส่องไปที่ทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะต้องการหรือไม่ ยิ่งมีกระแสเหล่านี้ที่นี่มากแค่ไหน ผู้คนก็จะเข้าใจเมื่อพวกเขากลับไปที่ลูกพิเศษตามนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะปัญหา,สภาพแวดล้อมหรือการขาดการได้มาซึ่งการบรรลุผลบางอย่างของพวกเขา จะมีผลกระทบต่อพวกเขาอย่างแน่นอนผ่านทัศนคติของการวางเฉยอันชั่วคราว เมื่อลูกมีพลังที่นี่,แล้วที่นั่นเช่นกันก็จะมีสิ่งที่มีพลังอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น คลื่นที่มีอยู่ที่นี่จะเกิดขึ้นกับผู้คนในโลกเช่นเดียวกับบราห์มิน หากผู้ที่เป็นเครื่องมือพิเศษมีความกระตือรือร้นเพียงช่วงเวลาสั้นๆแล้วจากนั้นก็กลับมาธรรมดา แล้วผู้อื่นก็จะมีความกระตือรือร้นและหลังจากนั้นก็กลับมาธรรมดาเช่นกัน ดังนั้นมธุบันจึงเป็นเวทีพิเศษ บนเวทีทางโลกผู้ที่ให้การบรรยายหรือผู้ที่จัดการเวทีนั้นจะต้องให้ความใส่ใจกับเวที หรือพวกเขาจะคิดว่ามันขึ้นอยู่กับผู้ที่ให้คำบรรยาย? อาจจะมีบางคนที่กำลังร้องเพลงสั้นๆหรือแม้กระทั่งเพียงแค่มอบช่อดอกไม้ แต่เมื่อเขาหรือเธอก้าวขึ้นไปบนเวที พวกเขาจะขึ้นมาด้วยคุณสมบัติพิเศษและความตั้งใจนั้น ดังนั้นไม่ว่าลูกจะมีหน้าที่อะไรในมธุบัน ไม่ว่าลูกจะพิจารณาตนเองว่าเป็นเด็ก(จูเนียร์)หรือยิ่งใหญ่(ซีเนียร์) ลูกก็อยู่บนเวทีพิเศษของมธุบัน มธุบันหมายถึงเวทีที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นผู้ที่เล่นบนบาทบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ก็จะยิ่งใหญ่ใช่ไหม? ทุกคนเห็นลูกในลักษณะที่สูงส่ง เพราะคำสรรเสริญของมธุบัน หมายถึงคำสรรเสริญของชาวมธุบัน

ทุกคำพูดของชาวมธุบันจึงเป็นไข่มุก ไม่ใช่เป็นคำพูดแต่เป็นไข่มุก ราวกับว่ามีการประพรมไข่มุก ลูกไม่ได้พูดแต่กำลังประพรมไข่มุก สิ่งนี้เรียกว่าความอ่อนหวาน จงพูดคำพูดเช่นนั้นที่คนที่ได้ยินลูกจะคิดว่า: ฉันจะพูดเช่นนั้นเช่นกัน ทุกคนผู้ที่ได้ยินลูกควรได้รับแรงบันดาลใจที่จะเรียนรู้และทำตามลูก ไม่ว่าคำพูดใดที่ปรากฏออกมาให้เป็นคำพูดเช่นนั้นที่ใครก็ตามจะอัดเทปไว้และฟังคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง ผู้คนจะอัดเทปบางสิ่งไว้เพราะพวกเขาชอบสิ่งนั้น และก็จะฟังสิ่งนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นขอให้คำพูดของลูกมีความอ่อนหวานเช่นนั้น กระแสของคำพูดที่อ่อนหวานเช่นนั้นจะกระจายไปในโลกโดยอัตโนมัติ บรรยากาศนี้จะดึงดูดกระแสเหล่านั้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นให้ทุกคำพูดของลูกมีความยิ่งใหญ่ ให้ทุกความคิดในจิตใจของลูกสำหรับทุกดวงวิญญาณนั้นมีความยิ่งใหญ่และอ่อนหวาน ประการที่สองยิ่งคลังสมบัติทั้งหมดเต็มเปี่ยมในมธุบันมากแค่ไหน ก็ให้มีการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดมากแค่นั้น ขอให้มีการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ลึกล้ำเท่ากับการมีทัศนคติของการวางเฉย และจึงอาจกล่าวได้ว่าลูกมีทัศนคติของการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด หากไม่มีการได้มาซึ่งการบรรลุผล แล้วจะมีทัศนคติของการวางเฉยได้อย่างไร? หากมีการได้มาซึ่งการบรรลุผลและลูกมีทัศนคติของการวางเฉยในเวลาเดียวกันนั่นเรียกว่า “การวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด” ไม่ว่าลูกแต่ละคนจะทำอะไรก็ตาม ลูกจะได้รับผลของสิ่งนั้นในปัจจุบัน และแน่นอนว่าลูกจะได้รับผลของสิ่งนั้นในอนาคตเช่นกัน ในเวลาปัจจุบันลูกได้รับความรักและพรที่แท้จริงจากหัวใจของทุกคน และการได้มาซึ่งการบรรลุผลนี้ยิ่งใหญ่กว่าโชคของอาณาจักรแห่งสวรรค์ เวลานี้ลูกสามารถเข้าใจว่าความรักและพรของแต่ละคนนั้นทำให้หัวใจก้าวไปข้างหน้าอย่างไร ความสุขที่ลูกได้สัมผัสจากพรที่มาจากหัวใจของทุกคนนั้นมีความพิเศษสุด ลูกจะได้สัมผัสกับสิ่งนั้นราวกับว่ามีใครบางคนกำลังโอบอุ้มลูกไว้ในฝ่ามือของเขาและทำให้ลูกโบยบิน ความรักและพรของทุกคนจะให้ประสบการณ์นี้แก่ลูก อัจชะ

ลูกทุกคนมีความคิดที่เต็มไปด้วยความจริงจังและความกระตือรือร้นใหม่สำหรับปีใหม่นี้ใช่ไหม? มีความมุ่งมั่นในสิ่งนั้นหรือไม่? เฝ้าแต่ทบทวนความคิดใดก็ตามที่ลูกมีทุกวัน เช่นเดียวกับที่ลูกทำบางสิ่งให้มั่นคงและสิ่งนั้นก็จะกลับมามั่งคงมากขึ้นภายในสำหรับลูก ดังนั้นเช่นเดียวกันอย่าได้ปล่อยความคิดที่ลูกมีนั้นออกไป ทบทวนความคิดนั้นทุกวันและทำสิ่งนั้นด้วยความมุ่งมั่น แล้วความมุ่งมั่นนี้ก็จะเป็นประโยชน์เสมอ บางครั้งลูกคิดเกี่ยวกับความคิดที่ลูกได้สร้างขึ้นมา บางครั้งลูกก็ลืมว่าลูกได้คิดอะไรไว้ขณะที่กำลังเคลื่อนไป และแล้วความอ่อนแอก็มา จงทบทวนความคิดนั้นทุกวัน ย้ำซ้ำความคิดนั้นเบื้องหน้าพ่อทุกวัน แล้วความคิดนั้นจะมั่นคงและลูกจะได้รับความสำเร็จอย่างง่ายดาย พ่อรู้ว่าทุกคนมองเห็นแต่ละดวงวิญญาณของมธุบันด้วยความรักมากแค่ไหน ความสำคัญของคุณสมบัติพิเศษของชาวมธุบันนั้นไม่ใช่น้อยเลย หากใครบางคนทำงานแม้กระทั่งงานพิเศษเล็กๆแล้วแม้ว่างานนั้นจะทำในสถานที่เดียวแต่ทุกคนก็ได้รับแรงบันดาลใจ ดังนั้นดวงวิญญาณนั้นก็จะได้รับส่วนแบ่งทั้งหมดของคุณประโยชน์ของคุณสมบัติพิเศษนั้น ดังนั้นเมื่อผู้ที่มาจากมธุบันมีความคิดที่สูงส่ง, มีการวางแผนหรือมีการกระทำ สิ่งนั้นก็จะสร้างความกระตือรือร้นให้ทุกคนได้เรียนรู้ ดังนั้นดวงวิญญาณที่สร้างความกระตือรือร้นให้กับทุกคนจะได้รับคุณประโยชน์มากมายแค่ไหน! ลูกทั้งหมดมีความสำคัญนี้ ลูกทำบางสิ่งในมุมหนึ่งและสิ่งนั้นก็กระจายไปทุกหนแห่ง อัจชะ

แผนใหม่สำหรับปีนี้ ปีนี้จงสร้างกลุ่มเพื่อที่ว่าเมื่อคนอื่นมองเห็นคุณสมบัติของกลุ่มนั้นในทางปฏิบัติพวกเขาก็จะได้รับแรงบันดาลใจและกระแสเหล่านั้นจะกระจายไปทุกหนแห่ง เช่นเดียวกับที่รัฐบาลบอกลูกให้คัดเลือกหมู่บ้านและสาธิตให้พวกเขาเห็นโดยการทำตัวอย่าง ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าใจได้ว่าลูกกำลังทำบางสิ่งในทางปฏิบัติ และสิ่งนี้จะสร้างผลกระทบต่อพวกเขา ดังนั้นให้กลุ่มเช่นนั้นถูกสร้างขึ้นมาโดยที่ผู้อื่นจะได้รับแรงบันดาลใจ หากใครต้องการจะเห็นคุณธรรมคืออะไร พลังคืออะไร ความรู้คืออะไร การจดจำระลึกถึงคืออะไร ให้รูปในทางปฏิบัติของสิ่งเหล่านี้ปรากฏให้พวกเขาเห็น หากกลุ่มเล็กๆกลายเป็นตัวอย่างในทางปฏิบัติเช่นนั้น กระแสที่สูงส่งเหล่านั้นก็จะกระจายไปสู่บรรยากาศโดยอัตโนมัติ ทุกวันนี้ทุกคนต้องการที่จะเห็นรูปแบบในทางปฏิบัติ พวกเขาไม่เพียงแค่ต้องการได้ยิน ผลกระทบของบางสิ่งที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติจะไปถึงพวกเขาอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นขอให้มีรูปในทางปฏิบัติของความจริงจังและความกระตือรือร้นเช่นนั้น ให้มีกลุ่มเช่นนั้นที่ผู้อื่นสามารถได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขาได้อย่างง่ายดาย และแรงบันดาลใจจะไปถึงทุกหนแห่งในทุกทิศทาง แล้วสิ่งนี้ก็จะกระจายออกไปอย่างต่อเนื่องจากหนึ่งเป็นสองเป็นสามไปเรื่อยๆ ฯลฯ เหตุนี้เองที่เวลานี้ลูกจะต้องสร้างคุณสมบัติพิเศษบางอย่างเช่นนั้นขึ้นมา ทุกคนเข้าใจว่าดวงวิญญาณที่เป็นเครื่องมือพิเศษนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ และที่พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากพวกเขาเหล่านั้น ในทำนองเดียวกันจงสร้างข้อพิสูจน์ต่อไป และแล้วเมื่อพวกเขาเห็นสิ่งนี้ พวกเขาทั้งหมดจะพูดได้ว่า ใช่ พวกเขาสามารถจะมีประสบการณ์ของการเป็นตัวแห่งความรู้ในทางปฏิบัติ จงเติมบรรยากาศด้วยการกระทำที่สูงส่งและบริสุทธิ์เหล่านี้และด้วยทัศนคติของความคิดที่สูงส่งและบริสุทธิ์ แสดงให้เห็นสิ่งนี้ด้วยการทำบางสิ่งเช่นนี้ ทุกวันนี้การรับใช้ด้วยคำพูดยังไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนักเท่ากับการรับใช้ผ่านจิตใจ เมื่อลูกพูดหนึ่งคำและกระจายกระแสของร้อยคำออกไป นั่นถึงจะมีผลกระทบนั้น คำพูดเป็นเรื่องธรรมดาแต่กระแสที่มีพลังที่มาพร้อมกับคำพูดนั้นจะไม่มีอยู่ที่อื่นแต่จะมีอยู่ที่นี่เท่านั้น แสดงให้เห็นคุณสมบัติพิเศษนี้ การประชุมสัมมนาและโปรแกรมของกลุ่มเยาวชนเกิดขึ้นตลอดเวลาและจะต้องเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ความจริงจังและกระตือรือร้นจะเพิ่มขึ้นด้วยสองสิ่งนี้ แต่ขณะนี้มีความจำเป็นสำหรับพลังของดวงวิญญาณ นี่คือการกระจายกระแสผ่านทัศนคติของลูก นี่คือสิ่งที่มีพลัง อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกได้รับชัยชนะเสมอโดยนำสัจจะมาใช้ผ่านการสร้างสมพลังแห่งความอดทน

ผู้คนในโลกพูดว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ซื่อสัตย์ที่จะอยู่ในโลกนี้ ที่พวกเขาต้องพูดโกหก ดวงวิญญาณบราห์มินมากมายคิดว่าบางครั้งพวกเขาต้องประพฤติตนด้วยความฉลาดแกมโกง อย่างไรก็ตามลูกได้เห็นพ่อบราห์มาแล้ว: เขาต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างมากสำหรับสัจจะและความบริสุทธิ์ แต่เขาไม่หวาดกลัว เพื่อสัจจะลูกต้องมีพลังของความอดทน ลูกต้องอดทน ลูกต้องก้มลง ลูกต้องยอมรับความพ่ายแพ้ แต่นั่นไม่ใช่ความพ่ายแพ้ มันคือชัยชนะตลอดกาล

คติพจน์:
การมีความสุขและการทำให้ผู้อื่นมีความสุขคือการให้พรและรับพร