09.06.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
10.12.84 Om Shanti Madhuban
สิ่งชี้บอกของการจบสิ้นบัญชีกรรมเก่า
(บัพดาดาพูดมุรลีนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เมืองโบปาลประเทศอินเดีย
ในวันที่ 2 ธันวาคม 1984 เมื่อแก๊สลีเธิล (แก๊สพิษที่มีอันตราย)กว่า 40
ตันรั่วไหลออกมาจากโรงงานในโบปาลและทำให้มีผู้เสียชีวิตนับพันคน)
วันนี้
บัพดาดาได้รับการค้ำจุนจากร่างที่มีตัวตนนี้และมาพบกับลูกๆที่มีตัวตนของท่านในโลกที่มีตัวตน
บัพดาดากำลังมองดูลูกที่ไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนของท่านที่อยู่ท่ามกลางความปั่นป่วนในโลกปัจจุบันนี้
นั่นคือในโลกที่มีบรรยากาศแห่งความทุกข์
ท่านเห็นดอกบัวที่อยู่ท่ามกลางความปั่นป่วนที่อยู่อย่างละวางและมีความรักต่อพ่อ
ท่านเห็นลูกที่ปราศจากความกลัวที่เป็นตัวของพลังที่อาศัยอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของความหวาดกลัว
ท่านเห็นจักรพรรดิที่ไร้ความกังวลที่เป็นผู้เปลี่ยนแปลงโลก
ลูกคือจักรพรรดิที่ไร้ความกังวลที่ไม่สามารถมีร่องรอยของอิทธิพลของบรรยากาศของความวิตกกังวลในทุกหนแห่งกับลูกได้แม้แต่น้อย
ในปัจจุบันดวงวิญญาณส่วนใหญ่ในโลกมีความวิตกกังวลและหวาดกลัวโดยเฉพาะในพวกเขา
อย่างไรก็ตามยิ่งพวกเขามีความวิตกกังวลมากเท่าไหร่
ลูกก็จะยิ่งมีความคิดในแง่บวกกับพวกเขามากเท่านั้น
ลูกเปลี่ยนความวิตกกังวลเป็นการเป็นตัวของการมีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกสำหรับพวกเขา
แทนที่จะมีความกลัว ลูกกำลังร้องเพลงแห่งความสุข
ลูกกำลังสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเช่นนี้ใช่ไหม?
ลูกคือผู้ที่ให้หนึ่งหยดของความสงบและความสุขกับทุกคนด้วยการมีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกต่อผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอและกำลังรับใช้ด้วยจิตใจของลูกด้วยความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์
ลูกคือผู้ที่กลายเป็นภาพลักษณ์ที่เป็นอมตะและให้ความร่วมมือของความสงบและพลังแก่ดวงวิญญาณที่ประสบกับความตายก่อนเวลาอันควรเพราะปัจจุบันเป็นฤดูกาลของความตายก่อนเวลาอันควร
เช่นเดียวกับที่มีพายุเฮอริเคนเกิดขึ้นในทันที
ในทำนองเดียวกันพายุแห่งความตายก็จะพาพวกเขามากมายไปด้วยกันในทันทีและรวดเร็วมาก
พายุแห่งความตายก่อนเวลาอันควรเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบารัต
เป็นสงครามกลางเมืองและภัยพิบัติทางธรรมชาติที่จะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงในทุกวงจร
รูปของการเปลี่ยนแปลงในต่างประเทศนั้นจะแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามในบารัตสองสิ่งนี้โดยเฉพาะที่จะเป็นเครื่องมือและลูกก็ได้เห็นการซักซ้อมของสองสิ่งนี้แล้ว
ทั้งสองกำลังเล่นบทบาทในเวลาเดียวกัน
ลูกๆ ถามว่า ทำไมถึงมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้อย่างไร?
เหตุผลสำหรับสิ่งนี้คืออะไร?
ลูกรู้และยังมีประสบการณ์ด้วยเช่นกันว่าเวลาสำหรับการจบสิ้นอย่างสมบูรณ์ใกล้เข้ามาแล้ว
บัญชีของการกระทำบาปทั้งหมดและบาปที่กระทำโดยดวงวิญญาณทั้งหมดในยุคทองแดงและยุคเหล็กที่ยังคงหลงเหลืออยู่จะต้องจบสิ้นอย่างสมบูรณ์
เพราะเวลานี้ทุกคนจะต้องกลับบ้าน
ถ้าผลของการกระทำที่จะได้รับและบาปที่ทำมาตั้งแต่ยุคทองแดงนั้งยังไม่ได้มีการสะสางในชาติเกิดนี้
บัญชีของการสะสางหรือการได้รับผลของการทำบาปนั้นจะดำเนินการสะสางในชาติเกิดต่อไป
อย่างไรก็ตามนี่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายและบัญชีบาปนั้นก็ใหญ่มาก
เหตุนี้เองบัญชีเก่าของดวงวิญญาณมากมายกำลังถูกสะสางโดยการลงโทษของการเกิดเร็วและตายเร็ว
ดังนั้นในปัจจุบันนี้ความตายจึงเจ็บปวดและคนส่วนใหญ่ก็เกิดมาด้วยความเจ็บปวดและความทุกข์อย่างมาก
ไม่ได้มีการตายง่ายและเกิดง่ายเช่นกัน
ดังนั้นความตายที่เจ็บปวดและการเกิดมาด้วยความทุกข์ทรมานจึงเป็นวิธีของการสะสางบัญชีกรรมอย่างรวดเร็ว
เช่นเดียวกับวิธีการที่ใช้ในการฆ่ามดเล็ก,มดใหญ่,ยุง ฯลฯ
ยุงและมดและเชื้อโรคหลายประเภทสามารถถูกทำลายในเวลาเดียวกันด้วยวิธีการเหล่านั้น
ในทำนองเดียวกันมนุษย์ในทุกวันนี้ก็จะประสบกับความตายก่อนเวลาอันควรเหมือนกับยุงและมดเช่นกัน
ไม่มีความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับมดในแง่นี้อีกต่อไป
เนื่องจากบัญชีกรรมเหล่านี้ทั้งหมดและเนื่องจากพวกเขาต้องจบสิ้นสิ่งเหล่านี้ตลอดไป
พายุแห่งการตายก่อนเวลาอันควรก็จะมาเป็นครั้งคราว
ในทำนองเดียวกัน บทบาทของการลงโทษในดินแดนของดารามราชก็ถูกกำหนดไว้ในเวลาสุดท้าย
อย่างไรก็ตามการถูกลงโทษนั้นจะมีประสบการณ์โดยดวงวิญญาณเป็นรายบุคคลเมื่อพวกเขาต้องชำระสะสางบัญชีกรรมของพวกเขา
แม้ในขณะที่ดวงวิญญาณมีบัญชีกรรมหลายประเภท แต่ก็มีอยู่สามประเภทที่พิเศษ
นั่นคือบัญชีกรรมที่ดวงวิญญาณจะต้องทุกข์ทรมานกับตนเอง ตัวอย่างเช่น ความเจ็บป่วย
ดวงวิญญาณจะสะสางบัญชีของเขาเองผ่านการเจ็บป่วยของร่างกาย
อีกอย่างหนึ่งก็คือหัวของเขาจะทึบจากอิทธิพลของวิญญาณชั่วร้ายบางประเภท
ดวงวิญญาณจะประสบกับความทุกข์ทรมานของบัญชีกรรมผ่านการลงโทษประเภทนั้น
อีกบัญชีหนึ่งคือการได้รับความทุกข์จากความสัมพันธ์และสายใย
ลูกสามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งนั้นทำงานอย่างไร
ประเภทที่สามคือการสะสางบัญชีกรรมผ่านภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ดังนั้นบัญชีกรรมจะถูกสะสางบนพื้นฐานของทั้งสามประเภทนี้
ดังนั้นบัญชีกรรมบางอย่างจะไม่ถูกสะสางในดินแดนของดารามราชเกี่ยวกับความสัมพันธ์
สายใย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ สิ่งนั้นสะสางที่นี่ในโลกที่มีตัวตน
บัญชีเก่าทั้งหมดของทุกคนจะต้องจบสิ้น
ดังนั้นเครื่องจักรของการสะสางบัญชีกรรมนี้จะต้องทำงานด้วยความเร็วสูงในขณะนี้
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในโลก ลูกเข้าใจไหม?
เหล่านี้เป็นบัญชีกรรมของปรัชญาแห่งกรรม เวลานี้จงตรวจสอบตนเองว่า
ฉันดวงวิญญาณบราห์มินได้สะสางบัญชีกรรมที่ผ่านมาในอดีตทั้งหมดของฉันด้วยความเพียรพยายามอย่างจริงจังด้วยความเร็วสูงหรือไม่
หรือยังมีภาระบางอย่างหลงเหลืออยู่หรือไม่?
บัญชีกรรมเก่าบางอย่างยังคงหลงเหลืออยู่หรือว่าบัญชีทั้งหมดนั้นจบสิ้นไปหมดแล้ว
ลูกรู้ถึงสัญญาณพิเศษสำหรับสิ่งนี้หรือไม่?
หากซันสการ์หรือธรรมชาติของลูกยังสร้างอุปสรรคต่อการนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สูงส่งหรือต่อการกระทำที่สูงส่งของลูก
หากลูกไม่สามารถทำอะไรได้มากเท่าที่ลูกต้องการหรือเท่าที่ลูกคิดว่าลูกต้องทำ
หากลูกพูดหรือคิดในจิตใจของลูกเช่น “ฉันไม่รู้ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นโดยที่ฉันไม่ได้ตั้งใจ
ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ถ้าลูกมีความปรารถนาที่สูงส่ง,
มีความกล้าหาญและความกระตือรือร้น แต่ลูกยังรู้สึกว่าตัวเองได้รับอิทธิพลจากบางสิ่ง
ถ้าลูกพูดว่าลูกไม่ควรทำบางสิ่ง ที่ลูกไม่ได้คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น
แต่สิ่งนั้นก็เกิดขึ้น
สิ่งนี้เรียกว่าการได้รับอิทธิพลจากธรรมชาติหรือซันสการ์เก่าของตนเอง
การได้รับอิทธิพลจากเพื่อนที่ไม่ดีหรือได้รับอิทธิพลจากกระแสและบรรยากาศ
เมื่อลูกได้รับอิทธิพลใดๆในสามสภาพนี้แล้วสำหรับบางสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่ลูกไม่ปรารถนา
สำหรับลูกที่ไม่สามารถทำอะไรได้แม้ว่าลูกคิดที่จะทำ
เมื่อลูกไม่ได้รับความสำเร็จเพราะได้รับอิทธิพลจากบางสิ่ง
นี่เป็นสิ่งชี้บอกว่าภาระของบัญชีในอดีตบางอย่างยังคงหลงเหลืออยู่
จงตรวจสอบตนเองเกี่ยวกับสิ่งชี้บอกเหล่านี้
ภาระประเภทใดที่ทำให้ลูกลงมาจากประสบการณ์ของสภาพที่โบยบิน?
การสะสางบัญชีกรรมหมายถึงการมีประสบการณ์ของสภาพที่โบยบินภายในทุกการบรรลุผล
ถ้ามีการบรรลุผลแค่บางครั้งแล้ว “บางครั้ง”ก็หมายความว่าบัญชีนั้นยังคงหลงเหลืออยู่
ดังนั้นจงตรวจสอบตนเองด้วยวิธีนี้
ในโลกแห่งความทุกข์ภูเขาของสถานการณ์แห่งความทุกข์จะระเบิดออกมาอย่างแน่นอน
ในช่วงเวลาเช่นนั้น วิธีที่จะปลอดภัยคือ “ร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครองของพ่อ”
ลูกมีร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครองแล้วใช่ไหม? อัจชะ
ลูกทั้งหมดมาเพื่อเฉลิมฉลองเมล่าของการพบปะ
นี่เป็นเมล่าของการพบปะซึ่งไม่ว่าฉากนั้นจะเจ็บปวดแค่ไหน
ถ้าลูกอยู่ในเมล่าฉากนั้นจะดูเหมือนเป็นเกมส์ ลูกจะไม่รู้สึกหวาดกลัว
ลูกจะเฝ้าแต่ร้องเพลงของการพบปะและร่ายรำอยู่ในความสุข
ลูกจะให้ความร่วมมือของความกล้าหาญกับผู้อื่น
ไม่ใช่การร่ายรำทางร่างกายแต่นี่เป็นการร่ายรำในความสุข
ลูกเฉลิมฉลองเมล่าอย่างสม่ำเสมอใช่ไหม? ลูกได้อยู่ในเมล่าของการพบปะด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามลูกมาเมล่าที่มธุบันและบัพดาดาก็ยินดีที่ได้เห็นลูกๆ
ที่เฉลิมฉลองเมล่าเช่นนั้น เครื่องประดับของมธุบันได้มาถึงมธุบันแลัว อัจชะ
ถึงดวงวิญญาณทั้งหมดที่อยู่ในรูปของพลังและชำระสะสางบัญชีกรรมของพวกเขาอย่างสม่ำเสมอและทำให้ผู้อื่นได้สะสางบัญชีกรรมของพวกเขา
ถึงดอกบัวทางจิตซึ่งในขณะที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่มีความทุกข์และความเจ็บปวดแต่ก็ยังคงอยู่อย่างละวางและมีความรักต่อพ่อ
ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งที่มีความคิดที่บริสุทธิ์และเป็นบวกต่อดวงวิญญาณทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ
รัก ระลึกถึงและนมัสเตจากบัพดาดา
บัพดาดาพูดกับพวกครู: ลูกเป็นผู้รับใช้ ไม่ใช่ครู
การสละละทิ้งและทาปาเซียได้หลอมรวมอยู่ในงานรับใช้
การกลายเป็นผู้รับใช้หมายถึงการมีสิทธิ์ในเหมือง
งานรับใช้เป็นเช่นนั้นที่ทำให้ลูกอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในทุกวินาที
ลูกกลับมาเต็มเปี่ยมที่ลูกจะเฝ้าแต่รับประทานจากสิ่งนั้นต่อเนื่องไปเป็นเวลาครึ่งวงจร
ลูกเป็นผู้รับใช้เช่นนั้นที่ลูกไม่จำเป็นต้องเพียรพยายาม
แม้ว่าในสิ่งนั้นลูกจะเป็นผู้รับใช้ทางจิตที่ทำให้ตนเองมั่นคงอยู่ในสำนึกรู้ของจิตวิญญาณและรับใช้ดวงวิญญาณ
สิ่งนี้เรียกว่าการเป็นผู้รับใช้ทางจิตวิญญาณ
บัพดาดาได้ให้สมญากับผู้รับใช้ทางจิตว่าเป็น “ดอกกุหลาบทางจิต” อยู่เสมอ
ดังนั้นลูกทั้งหมดเป็นดอกกุหลาบทางจิตที่ไม่เคยเหี่ยวเฉา
ลูกคือผู้ที่จะทำให้ทุกคนสดชื่นด้วยกลิ่นหอมทางจิตวิญญาณของลูก
การเป็นผู้รับใช้นั้นเป็นโชคที่สูงส่งมาก ผู้รับใช้หมายถึงการทัดเทียมกับพ่อ
เช่นที่พ่อเป็นผู้รับใช้ ในทำนองเดียวกัน ลูกคือผู้รับใช้ที่เป็นเครื่องมือ
พ่อเป็นครูที่ไม่มีขีดจำกัดและลูกคือครูที่เป็นเครื่องมือ
ดังนั้นลูกได้รับโชคของการมีความทัดเทียมกับพ่อ
ด้วยโชคที่สูงส่งนี้จงเฝ้าแต่ให้พรของโชคที่ไม่มีวันดับสูญแก่ผู้อื่นเสมอ
มีดวงวิญญาณน้อยมากในทั้งโลกที่มีโชคเช่นนี้
ในขณะที่เก็บรักษาโชคพิเศษนี้ไว้ในสำนึกรู้ของลูก
จงกลับมามีพลังและเฝ้าแต่ทำให้ผู้อื่นมีพลัง เฝ้าแต่ทำให้ผู้อื่นโบยบิน
ทำให้ตนเองเคลื่อนไปข้างหน้าอยู่เสมอและทำให้ผู้อื่นเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน
อัจชะ
คำพูดที่สูงส่งที่ละเอียดอ่อนที่เลือกสรรมา
พร้อมกับการเป็นผู้เอาชนะของมายาจงกลายเป็นผู้เอาชนะธรรมชาติ
ลูกๆกำลังกลายเป็นผู้เอาชนะมายา
แต่ลูกต้องกลายเป็นผู้เอาชนะธรรมชาติด้วยเช่นกันเพราะเวลานี้จะมีความปั่นป่วนทางธรรมชาติมากมาย
บางครั้งน้ำของมหาสมุทรจะแสดงอิทธิพลของมันและบางครั้งโลกจะแสดงอิทธิพลของมัน
หากลูกเป็นผู้เอาชนะธรรมชาติก็จะไม่มีความปั่นป่วนของธรรมชาติประเภทใดที่จะทำให้ลูกสั่นไหว
ลูกจะเห็นเกมทั้งหมดอย่างสม่ำเสมออย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง
เท่าที่ลูกคงอยู่ในรูปที่เป็นเทวดานางฟ้านั่นคือในสภาพที่สูงส่งของลูกมากเท่าไหร่
ลูกก็จะอยู่เหนือความปั่นป่วนทั้งหมดโดยอัตโนมัติมากตามนั้น
ก่อนที่จะกลายเป็นผู้เอาชนะธรรมชาติจงกลายเป็นผู้เอาชนะประสาทสัมผัสทางกายของลูก
และแล้วเมื่อนั้นลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะธรรมชาติและอยู่อย่างมั่นคงในสภาพที่เหนือบ่วงกรรมของลูกและประกาศสิทธิ์ในอำนาจในการปกครองโลก
ดังนั้นถามตัวเองว่า ประสาทสัมผัสทั้งหมดของลูกพูดว่า“จี ฮาโซ, จี ฮาจี”หรือไม่? (ขอรับเจ้านาย,
ฉันอยู่เบื้องหน้าท่านแล้ว) ที่ปรึกษาและรัฐมนตรีไม่หลอกลวงลูกใช่ไหม?
ลูก ๆ
ของลูกมีพลังของความบริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นที่ด้วยความคิดที่บริสุทธิ์นั่นคือทัศนคติที่บริสุทธิ์ของลูก
ลูกสามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ
ข้อพิสูจน์ในทางปฏิบัติของพลังแห่งความบริสุทธิ์ในความคิดของลูกคือการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ
ดังนั้นด้วยการเปลี่ยนแปลงตนเองลูกสามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาติและผู้คนได้
วิธีที่ง่ายดายที่จะปกป้องตัวลูกเองจากดวงวิญญาณมนุษย์ที่ไม่บริสุทธิ์,จากบรรยากาศที่ไม่บริสุทธิ์และกระแสของวัตถุธาตุที่ไม่บริสุทธิ์คือกฎเกณฑ์ระเบียบวินัยของพระเจ้า
คงอยู่ในกฎเกณฑ์ระเบียบวินัยและลูกจะปลอดภัยจากความลำบากตรากตรำ
ลูกต้องลำบากตรากตรำเมื่อลูกก้าวออกไปจากเส้นของกฎเกณฑ์ระเบียบวินัยในความคิดคำพูดหรือการกระทำของลูก
จงอยู่อย่างมั่นคงในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษของลูกและสั่งกิเลสทั้งห้าด้วยความคิดของลูกเพื่อที่จะอำลาเป็นเวลาครึ่งวงจร
บอกธรรมชาติให้กลับมาสาโตประธานและให้ความสุขกับทุกคน
และเธอจะทำทุกสิ่งตามคำสั่งของลูก แล้วธรรมชาติไม่สามารถหลอกลวงลูกได้
อย่างไรก็ตามก่อนอื่นจงเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในตัวลูกเอง
ลูกต้องไม่พึ่งพิงแม้กระทั่งกับธรรมชาติและซันสการ์ของลูกเอง
เมื่อลูกมีสิทธิ์ทั้งหมดแล้วทุกสิ่งจะทำงานตามคำสั่งของลูก
ทุกวันนี้ธรรมชาตินั่นคือวัตถุธาตุยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมด้วยพลังของวิทยาศาสตร์
แล้วธรรมชาติและสถานการณ์จะไม่กลายเป็นผู้รับใช้เบื้องหน้าลูกๆของพระเจ้า,นายผู้สร้าง,นายผู้ทรงพลังอำนาจหรือ?
ในเมื่อพลังปรมณูของวิทยาศาสตร์สามารถทำงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นได้
แล้วพลังของดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุดจะไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
ลูกสามารถเปลี่ยนรูปแบบและคุณธรรมของธรรมชาติและสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย
เพื่อที่จะได้รับชัยชนะเหนืออุปสรรคทุกประเภทและภัยพิบัติจากธรรมชาติที่ไม่บริสุทธิ์ในหนึ่งวินาที
เพียงแค่มีศรัทธาและความซาบซึ้งของสิ่งหนึ่ง “ว้าว ฉัน!”
ฉันเป็นดวงวิญญาณบราห์มินที่สูงส่ง รักษาสำนึกรู้นี้ไว้และลูกจะกลายเป็นตัวของพลัง
เมื่อใดก็ตามที่มีข้อสอบจากธรรมชาติลูกจะมีสภาพที่ขึ้นลงโดยถามคำถามว่า “ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น?
นี่คืออะไร?” การเข้ามาสู่ความปั่นป่วนหมายถึงการสอบตกล้มเหลว
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเสียงที่ควรจะปรากฏออกมาคือ“ ว้าว ละครที่แสนหวาน!”
อย่าให้เป็นเช่นนั้นที่ลูกมีความคิดของความทุกข์แม้แต่น้อยว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
ทำให้ตนเองเข้มแข็งด้วยความรู้ของละคร
เพื่อที่จะกลายเป็นผู้เอาชนะมายาและผู้เอาชนะธรรมชาติ
จงซึมซับพลังของการเก็บแต่สิ่งที่ให้ประโยชน์ สำหรับสิ่งนี้ ดูแต่ไม่เห็น
ฟังแต่ไม่ได้ยิน! ฝึกฝนที่จะมีสภาพที่มีตัวตนในช่วงเวลาหนึ่ง,ที่ละเอียดอ่อนในอีกช่วงเวลาหนึ่งและไม่มีตัวตนในช่วงเวลาถัดไป
เมื่อเห็นความปั่นป่วนของธรรมชาติจงกลายเป็นเจ้าแห่งธรรมชาติและเมื่อลูกใช้จุดฟูลสต๊อป
หยุดความปั่นป่วนของธรรมชาติ
เพิ่มการฝึกฝนในการเปลี่ยนสภาพที่ตาโมกุนีเป็นสภาพที่สาโตกุนี
เป็นเพียงในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่ธรรมชาติเริ่มบทบาทของความร่วมมือของเธอ
เธอจะต้อนรับเจ้าแห่งธรรมชาติและเจ้าผู้เป็นนายแห่งธรรมชาติในทุก ๆ ทาง
เธอจะขอบลูกและเสนอตัวเองในทุก ๆ ทาง
เหตุนี้เองวัตถุธาตุของธรรมชาติทั้งหมดจึงถูกแสดงให้เห็นอย่างเป็นภาพเทพ
เทพเป็นผู้ประทาน ผู้ที่ให้ ดังนั้นในเวลาสุดท้าย
วัตถุธาตุของธรรมชาติจะกลายเป็นผู้ประทานที่ให้ความร่วมมือกับลูก
ไม่ว่าจะมีความปั่นป่วนทางธรรมชาติมากมายแค่ไหนในทุกหนทุกแห่งธรรมชาติจะรับใช้ลูกในฐานะผู้รับใช้ของลูก
ลูกเพียงแค่ต้องกลายเป็นผู้เอาชนะธรรมชาติ
แล้วธรรมชาติจะสวมพวงมาลัยให้กับนายของเธอด้วยพวงมาลัยแห่งความร่วมมือ
ไม่มีความเสียหายใดๆ ไม่ว่าลูกบราห์มินจะอยู่ที่ไหน ลูกเอาชนะธรรมชาติ ก้าวเท้า
หรือที่ใดก็ตามที่ลูกมีที่อยู่
แล้วทุกคนจะวิ่งมาหาลูกเพื่อรับการค้ำจุนที่ละเอียดอ่อนและทางกายภาพ
สถานที่ของลูกจะกลายเป็นที่ลี้ภัยและคำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากของทุกคนจะเป็น“
พระเจ้าที่รัก เกมของท่านวิเศษมาก! ท่านยิ่งใหญ่มาก! ท่านยอดเยี่ยมมาก!
พวกท่านทั้งหมดบรรลุแล้วและเราไม่รู้! เราสูญเสียทุกสิ่ง!”
เสียงนี้จะมาจากทุกทิศทาง อัจชะ โอมชานติi
พร:
ขอให้ลูกเป็นอิสระจากบ่วงกรรมโดยการทำให้พ่อผู้เดียวเป็นโลกของลูกและอยู่อย่างถูกดึงดูดโดยผู้เดียว
อยู่ในประสบการณ์ของการเป็นของพ่อผู้เดียวและไม่มีใครอื่นอยู่เสมอ เพียงแค่ “บาบาผู้เดียวเท่านั้นคือโลกของฉันและอย่าให้มีสิ่งดึงดูดอื่นๆ
อย่าได้มีบ่วงกรรม” อย่าให้มีบ่วงของซันสการ์ที่อ่อนแอใดๆของลูก
ผู้ที่มีสิทธิ์บางอย่างของ“ของฉัน”
เหนือใครก็ตามจะมีความโกรธหรือความหยิ่งยโสและนั่นก็เป็นบ่วงกรรมเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อบาบาคือโลกของลูก เมื่อลูกมีสำนึกรู้นี้แล้ว "ของฉัน,ของฉัน"
ทั้งหมดจะถูกหลอมรวมกับ “บาบาของฉัน” และลูกจะเป็นอิสระจากบ่วงกรรมอย่างง่ายดาย
คติพจน์:
ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่คือผู้ที่มีทัศนคติและสายตาที่ไม่มีขีดจำกัด