24.03.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
09.05.84 Om Shanti Madhuban
ร้องเพลงของการโบยบินในอัตราความเร็วที่มั่นคงและสม่ำเสมอ
และทำให้ผู้อื่นโบยบินอย่างสม่ำเสมอ
วันนี้จากเวลาอมฤต
พ่อผู้ให้ความอบอุ่นแก่หัวใจได้ฟังบทเพลงในหัวใจของลูกอันเป็นที่รัก
ลูกทั้งหมดร้องเพลง และเนื้อเพลงของเพลงที่ลูกทุกคนร้องนั้นก็เป็นเช่นเดียวกัน
นั่นคือ "บาบา" ลูกทุกคนร้องเพลง “บาบา” ลูกทุกคนรู้จักเพลงเหล่านี้หรือ?
ลูกร้องเพลงเหล่านี้อย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืนหรือไม่?
ถึงแม้ว่าเนื้อร้องจะเหมือนกัน
แต่จังหวะและท่วงทำนองเสียงนั้นแตกต่างกันสำหรับลูกแต่ละคน
บางคนมีเสียงร้องและท่วงทำนองแห่งความสุข
บางคนมีเสียงร้องและท่วงทำนองของการโบยบินและการทำให้ผู้อื่นโบยบิน
ท่วงทำนองของลูกบางคนก็เป็นท่วงทำนองของการฝึกฝน บางครั้งพวกเขาก็ดีมาก
และบางครั้งเป็นเพราะไม่ได้มีการฝึกฝนอย่างเต็มที่พวกเขาจึงมีการร้องที่ขึ้นๆลงๆ
จังหวะหนึ่งปนกับอีกจังหวะหนึ่ง ตัวอย่างเช่น
เมื่อลูกรับฟังเสียงร้องและท่วงทำนองของบทเพลงที่นี่
บางเพลงเป็นเช่นนั้นที่ทำให้ลูกร่ายรำ บางเพลงทำให้ลูกดูดซับอยู่ในความรัก
บางเพลงเกี่ยวกับการร้องเรียกหา และบางเพลงของการได้มาซึ่งการบรรลุผล
บัพดาดาได้ยินเสียงเพลงที่บันทึกด้วยจังหวะและทำนองเสียงที่แตกต่างกัน
บางคนร้องเพลงอย่างสม่ำเสมอและโดยอัตโนมัติเหมือนกับสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน
สวิตช์ของการตระหนักรู้ของพวกเขาเปิดอยู่ตลอดเวลา
และเหตุนี้เองเพลงของพวกเขาจึงมีการเล่นโดยอัตโนมัติและต่อเนื่องสม่ำเสมอ
เพลงของบางคนจะเล่นก็ต่อเมื่อเปิดสวิตช์เท่านั้น ลูกทุกคนร้องเพลงจากหัวใจ
แต่เพลงของบางคนนั้นมีความมั่นคงอย่างสม่ำเสมอและอัตโนมัติ
ในขณะที่เพลงของคนอื่นจะบรรเลงต่อเมื่อพวกเขาเล่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามท่วงทำนองเสียงมีความแตกต่าง –
บางครั้งเป็นประเภทหนึ่งและบางครั้งก็เป็นอีกประเภทหนึ่ง
บัพดาดาพอใจที่ได้ยินเพลงของลูก ๆ
เพลงของการมีเพียงบาบาผู้เดียวเท่านั้นที่หลอมรวมอยู่ในหัวใจของลูกทุกคน
ลูกมีความรักต่อผู้เดียว ลูกทำทุกสิ่งเพื่อพ่อผู้เดียว
ลูกสร้างความสัมพันธ์ทั้งหมดของลูกกับพ่อผู้เดียว
ลูกมีพ่อผู้เดียวเท่านั้นในสำนึกรู้และในสายตาของลูก
และมีเพียงชื่อเดียวเท่านั้นบนริมฝีปากของลูก ลูกได้ทำให้พ่อเป็นโลกของลูก
ลูกกำลังสะสมรายได้หลายๆล้านในทุกย่างก้าวโดยการจดจำระลึกถึงพ่อ
ดวงดาวแห่งโชคที่สูงส่งกำลังเปล่งประกายบนหน้าผากของลูกแต่ละคน
ดวงวิญญาณพิเศษที่สูงส่งเช่นนี้ได้กลายเป็นตัวอย่างเบื้องหน้าของโลกด้วยเช่นกัน
ลูกได้รับมงกุฎและติลักและนั่งอยู่บนบัลลังก์หัวใจ
ลูกเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งเช่นนั้นซึ่งพ่อเองร้องเพลงของคุณธรรมของลูก
พ่อหมุนลูกปัดของลูกประคำของชื่อของลูกแต่ละคน
ลูกทุกคนได้รับโชคที่สูงส่งเช่นนี้ใช่ไหม? และแล้วในขณะที่ร้องเพลง
เหตุใดท่วงทำนองเสียงถึงเปลี่ยนไปอยู่เรื่อยๆ เหตุใดท่วงทำนองเสียงถึงเปลี่ยนไป
และเหตุใดบางครั้งลูกถึงมีเพลงแห่งการบรรลุผล และบางครั้งของความเพียรพยายาม
บางครั้งก็ร้องเรียกหา และบางครั้งก็รู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ
เหตุใดลูกร้องเพลงของการโบยบินอย่างสม่ำเสมอและทำให้ผู้อื่นโบยบิน?
ร้องเพลงเช่นนั้นที่
· ผู้ที่ได้ยินเสียงเพลงก็จะได้รับปีกและเริ่มโบยบินด้วยเช่นกัน
· คนพิการได้รับขาและเริ่มร่ายรำ
· พวกเขาลุกขึ้นจากเตียงแห่งความทุกข์และเริ่มร้องเพลงแห่งความสุข
·
มนุษย์ที่นั่งอยู่บนกองไฟแห่งความวิตกกังวลจะสามารถลุกขึ้นจากที่นั่นได้และเริ่มร่ายรำในความสุข
· ดวงวิญญาณที่ท้อแท้สิ้นหวังเริ่มร้องเพลงแห่งความจริงจังและความกระตือรือร้น
· ดวงวิญญาณขอทานจะเต็มไปด้วยสมบัติที่มีค่าทั้งหมดและเริ่มร้องเพลง “ฉันได้พบทุกสิ่งแล้ว
ฉันได้มาซึ่งทุกสิ่งแล้ว”
โลกจำเป็นต้องมีงานรับใช้ประเภทนี้ที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จ
ผู้คนกำลังเร่ร่อนไปทั่วเป็นอย่างมากเพื่อบรรลุความสำเร็จชั่วคราว
พวกเขาใช้เวลาและเงินจำนวนมากไปกับสิ่งนั้น
ในปัจจุบัน ดวงวิญญาณทั้งหมดนั้นเหนื่อยล้ากับความเพียรพยายาม
พวกเขาต้องการความสำเร็จ พวกเขาพอใจกับการบรรลุผลอันชั่วคราว
แต่เมื่อพวกเขาพอใจกับสิ่งหนึ่ง สถานการณ์อื่นๆ มากมายก็เกิดขึ้น
คนพิการเริ่มที่จะเดิน แต่เขาก็ยังมีความปรารถนาอื่นๆอีกมากมายด้วยเช่นกัน
สิ่งนี้ควรเกิดขึ้น สิ่งนั้นควรจะเกิดขึ้น ดังนั้นตามเวลาในปัจจุบัน
วิธีการของงานรับใช้สำหรับลูกนั้นคือจะต้องกลายเป็นตัวของความสำเร็จ
แสดงให้เห็นความสำเร็จทางจิตและความอัศจรรย์ทางจิตที่ไม่สูญสลาย
ความอัศจรรย์นี้เป็นเรื่องเล็กหรือไม่? 99%ของดวงวิญญาณในโลกกำลังนอนตายอยู่บนกองไฟแห่งความวิตกกังวล
ชุบชีวิตคนตายเช่นนั้น ให้พวกเขามีชีวิตใหม่ พวกเขามีขาข้างหนึ่งของการบรรลุผล
แต่สำหรับการบรรลุผลอื่นๆมากมายนับไม่ถ้วนพวกเขากลับพิการ
ให้ขาของการบรรลุผลทั้งหมดแก่ดวงวิญญาณเช่นนั้น ทำให้ผู้ที่ตาบอดเป็นตรีเนตร
ให้ตาที่สามแก่พวกเขา
ให้พวกเขาได้เห็นภาพที่พวกเขาสามารถมองเห็นปัจจุบันที่สูงส่งและอนาคตของชีวิตของพวกเขา
ลูกไม่สามารถให้ความสำเร็จนี้หรือ? ลูกไม่สามารถแสดงความมหัศจรรย์ทางจิตนี้หรือ?
ลูกไม่สามารถทำให้ขอทานเป็นจักรพรรดิหรือ?
ลูกไม่ได้รับพลังจากพ่อในการทำงานรับใช้ที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้หรือ?
เวลานี้กลายเป็นตัวของความสำเร็จโดยการกลายเป็นตัวของการใช้วิธีการที่ถูกต้อง
กลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้นี้โดยการกลายเป็นตัวของความสำเร็จ
วิธีการหมายถึงวิธีที่ลูกทำความพยายามในเวลาสำหรับการทำความพยายาม
เวลานี้ควรได้รับการเปิดเผยต่อหน้าโลกโดยการกลายเป็นตัวของความสำเร็จและโดยการทำงานรับใช้อันเป็นผลมาจากการเป็นตัวของการใช้วิธีการที่ถูกต้อง
เวลานี้ให้ได้ยินเสียงที่ดังและชัดเจนไปทั่วทั้งโลกว่ามีเพียงมหาวิทยาลัยของพระเจ้าแห่งเดียวนี้เท่านั้นที่สามารถให้ความสำเร็จที่ไม่สูญสลาย
พวกเขาไม่ใช่ผู้ที่เพียงแค่แสดงให้เห็น
แต่พวกเขายังทำให้ทุกคนกลายเป็นตัวของความสำเร็จด้วยเช่นกัน
มีเพียงที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ตัวลูกเองได้กลายเป็นตัวของความสำเร็จใช่ไหม?
ก่อนอื่นให้ประกาศชื่อเสียงนี้ในบอมเบย์
กลับมาเป็นอิสระจากความพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่า วันนี้ฉันทำความพยายามในเรื่องนี้
วันนี้ฉันทำความพยายามในเรื่องนั้น นี่คือความพยายามด้วยความลำบากตรากตรำ
เวลานี้จงกลายเป็นอิสระจากความลำบากตรากตรำนี้และกลายเป็นตัวของการบรรลุผล
นี่คือความหมายของการเป็นตัวของความสำเร็จ
เวลานี้จงกลายเป็นดวงวิญญาณญานีและโยคีที่เป็นตัวของความสำเร็จและเป็นผู้ที่ทำให้ผู้อื่นเป็นสิ่งนี้เช่นกัน
ลูกจะเพียรพยายามต่อไปจนกระทั่งเวลาสุดท้ายและได้รับรางวัลในอนาคตหรือไม่?
ลูกต้องรับประทานผลของความพยายามในทันทีอย่างแน่นอน เวลานี้รับประทานผลในทันที
หลังจากนั้นจึงรับประทานผลในอนาคต
อย่าได้สูญเสียผลในทันทีเพื่อรอคอยอย่างคาดหวังต่อผลของอนาคต อย่าแม้แต่จะเข้าใจผิด
และคิดว่าลูกจะได้รับผลในเวลาสุดท้าย “ ทำหนึ่งเท่าและรับหลายล้านเท่า”
สิ่งนี้หมายถึงเวลาปัจจุบันและไม่ใช่เวลาอื่น
ลูกจากบอมเบย์เข้าใจไหมว่าลูกต้องกลายเป็นอะไร?
ลูกจะไม่กลายเป็นผู้ที่เพียงแค่ให้ความหวังใช่ไหม?
บาบาผู้ที่ให้ความสำเร็จเป็นที่รู้จักกันดี พวกเขาพูดว่า
ผู้นี้คือบาบาที่นำมาซึ่งความสำเร็จ ท่านเป็นโยคีที่ประสบความสำเร็จ
ผู้ที่มาจากบอมเบย์นั้นก็เป็นโยคีที่ประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายด้วยเช่นกัน
นั่นก็คือลูกได้รับความสำเร็จทั้งหมดแล้ว อัจชะ
ถึงผู้ที่ร้องเพลงของการโบยบินโดยอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
ถึงผู้ที่กลายเป็นตัวของความสำเร็จและทำให้ผู้อื่นได้รับความสำเร็จทางจิตที่ไม่สูญสลาย
ถึงดวงวิญญาณที่มหัศจรรย์ที่แสดงความอัศจรรย์ทางจิต
ถึงดวงวิญญาณโยคีที่ง่ายดายที่เป็นตัวของความสำเร็จอย่างแท้จริงและผู้ที่ผู้อื่นได้รับประสบการณ์ของการได้มาซึ่งการบรรลุผล
ถึงลูกที่เป็นตัวของความสำเร็จ, เป็นโยคีที่ง่ายดายและเป็นตัวของความรู้
ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
บัพดาดาพบกับกุมารีกลุ่มต่างๆ
1. ลูกเป็นกุมารีทางจิตที่อยู่ในการจดจำระลึกถึงทางจิตอย่างสม่ำเสมอใช่ไหม?
มีกุมารีหลายคนที่มีจิตสำนึกที่เป็นร่าง แต่ลูกเป็นกุมารีทางจิต
ลูกคือผู้ที่รักษาสำนึกรู้ของจิตวิญญาณนั่นคือดวงวิญญาณไว้อย่างสม่ำเสมอ
ใครบางคนที่มองดูดวงวิญญาณอย่างเป็นดวงวิญญาณเรียกว่ากุมารีทางจิต
ลูกเป็นกุมารีประเภทไหน? ลูกไม่ใช่ผู้ที่มีจิตสำนึกที่เป็นร่างใช่ไหม?
การมีจิตสำนึกที่เป็นร่างหมายถึงการตกลงมาสู่มายา
ในขณะที่การรักษาความตระหนักรู้ทางจิตหมายถึงการเข้ามาใกล้ชิดพ่อ
ลูกไม่ใช่ผู้ที่ตกลงมา แต่เป็นผู้ที่อยู่กับพ่อ ใครที่จะอยู่กับพ่อได้?
กุมารีทางจิตเท่านั้นที่สามารถอยู่กับพ่อได้
เช่นเดียวกับที่พ่อเป็นสิ่งสูงสุดและไม่เคยมีจิตสำนึกที่เป็นร่างกาย
ในทำนองเดียวกันลูกคือผู้ที่ไม่กลับมามีสำนึกที่เป็นร่าง
ผู้ที่รักพ่อจะจดจำพ่อด้วยความรักทุกวัน พวกเขาศึกษาความรู้ด้วยความรัก
งานอะไรก็ตามที่ทำด้วยความรักจะประสบความสำเร็จเสมอ
หากลูกทำบางสิ่งเพราะลูกถูกสั่งให้ทำ สิ่งนั้นจะประสบความสำเร็จในบางครั้ง
ผู้ที่เคลื่อนไปพร้อมกับความรักด้วยจิตใจของตนเองจะเคลื่อนไปพร้อมๆกันอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อลูกได้สัมผัสกับสิ่งที่พ่อเป็นและสิ่งที่มายาเป็นแล้ว
เพราะลูกมีประสบการณ์ลูกจะไม่มีวันถูกหลอกลวง มายามาในหลายรูปแบบ
เธอจะมาในรูปแบบของเสื้อผ้า ในรูปแบบของความผูกพันยึดมั่นกับพ่อแม่
ในรูปแบบของภาพยนตร์ ในรูปแบบของการเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ฯลฯ
มายาบอกว่าลูกกุมารีควรเป็นของเธอ และพ่อบอกว่าลูกว่าลูกควรเป็นของพ่อ
แล้วลูกจะทำอย่างไร?
ลูกฉลาดในการขับไล่ล่ามายาออกไปหรือไม่? ลูกไม่ใช่ผู้ที่อ่อนแอที่หวาดกลัวใช่ไหม?
ลูกจะไม่ไปดูหนังกับกลุ่มเพื่อนฝูงใช่ไหม? อย่าได้รับการแต้มสีสันโดยมิตรนั้น
อยู่อย่างกล้าหาญเป็นอมตะและไม่สูญสลายเสมอ ทำให้ชีวิตของลูกสูงส่งเสมอ
อย่าตกลงไปในท่อน้ำทิ้ง ดูสิแม้กระทั่งเสียงของคำว่า “ท่อน้ำทิ้ง”! พ่อคือมหาสมุทร
ดังนั้นจงเคลื่อนไปในคลื่นของมหาสมุทรอย่างสม่ำเสมอ ในชีวิตกุมารีลูกได้พบความรู้
ลูกได้พบหนทาง ลูกได้พบจุดหมายปลายทาง
และเมื่อได้เห็นสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ลูกก็มีความสุข ลูกโชคดีมาก
ดูสภาพของโลกในปัจจุบัน ไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความเจ็บปวดและความทุกข์
แม้กระทั่งหลังจากตกลงไปในท่อน้ำทิ้ง
ไม่มีอะไรนอกจากความทุกข์ทรมานและความทุกข์ที่มากขึ้น นี่คือโลกของทุกวันนี้
ลูกได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้ใช่ไหมว่ามีบางคนแต่งงานในวันนี้และวันถัดไปที่เธอก็เผาตนเองจนตาย
วันนี้เธอแต่งงานและวันต่อมาเธอก็กลับไปบ้าน
ก่อนอื่นเธอตกลงไปในท่อน้ำทิ้งจากนั้นเธอก็เจ็บมากขึ้น - เจ็บและเจ็บมากขึ้น
ดังนั้นลูกต้องการที่จะเจ็บเช่นนั้นหรือไม่?
ดังนั้นพิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณที่มีโชคอยู่เสมอที่ได้รับการปกป้องและปลอดภัยจากพ่อ
ลูกมีความสุขใช่ไหมที่ลูกได้รับการปกป้องและปลอดภัยและเวลานี้ลูกเป็นของพ่อ?
บัพดาดามีความพอใจเช่นกันเพราะลูกได้รับความปลอดภัยจากการตกลงมาและความเจ็บปวด
ดังนั้นอยู่อย่างไม่สูญสลายอย่างสม่ำเสมอ
2. ลูกทุกคนเป็นกุมารีที่สูงส่งใช่ไหม?
ลูกได้กลายเป็นกุมารีที่สูงส่งจากการเป็นกุมารีธรรมดา
กุมารีที่สูงส่งเป็นเครื่องมือสำหรับการทำงานที่สูงส่งเสมอ
ลูกสัมผัสว่าตนเองเป็นเครื่องมือสำหรับงานที่สูงส่งอยู่เสมอหรือไม่?
งานที่สูงส่งของลูกคืออะไร? การให้คุณประโยชน์ต่อโลก
ดังนั้นลูกคือกุมารีผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลกที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อโลก
ลูกไม่ใช่กุมารีที่อาศัยอยู่ที่บ้าน ลูกไม่ใช่กุมารีที่ถือตะกร้าของความรับผิดชอบ
แต่เป็นกุมารีผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก
กุมารีเป็นผู้ที่ให้คุณประโยชน์แก่วงศ์สกุลของพวกเธอ ทั้งโลกเป็นวงศ์สกุลของลูก
ดังนั้นนี่คือวงศ์สกุลที่ไม่มีขีดจำกัด
กุมารีธรรมดาจะให้ประโยชน์แก่วงศ์สกุลที่มีขีดจำกัดของพวกเธอเอง
และกุมารีที่สูงส่งจะเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อวงศ์สกุลของโลก ลูกเป็นเช่นนี้ใช่ไหม?
ลูกไม่อ่อนแอใช่ไหม? ลูกไม่ใช่ผู้ที่หวาดกลัวใช่ไหม? พ่ออยู่กับลูกเสมอ
เมื่อพ่ออยู่กับลูกไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว เป็นสิ่งที่ดี
เป็นโชคดีที่ยิ่งใหญ่ที่ลูกได้รับการปกป้องให้ปลอดภัยในชีวิตกุมารีของลูก
การไปสู่หนทางที่ผิดแล้วก็ต้องกลับมาจากที่นั่นก็เป็นการเสียเวลาเช่นกัน
ดังนั้นนี่จึงเป็นการประหยัดเวลาและพลังของลูก
ลูกได้รับการหลุดพ้นจากความพยายามของการเร่ร่อนไปทั่ว ลูกได้รับประโยชน์มากมาย
เพียงแค่ ว้า โชคที่สูงส่งของฉัน! เมื่อเห็นสิ่งนี้จงร่าเริงเบิกบานอยู่เสมอ
อย่าได้ถูกตัดสิทธิ์จากงานรับใช้ที่สูงส่งของลูกเนื่องจากความอ่อนแอ
3. กุมารีหมายถึงผู้ที่ยิ่งใหญ่
ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์นั้นถูกเรียกว่าดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เสมอ
ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ในทุกวันนี้มีความยิ่งใหญ่อย่างไร? พวกเขากลับมาบริสุทธิ์
พวกเขาถูกเรียกว่าดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เนื่องจากความบริสุทธิ์ของพวกเขา
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีอะไรเลยเบื้องหน้าของลูกดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่
ความยิ่งใหญ่ของลูกคือความยิ่งใหญ่ที่ไม่สูญสลายซึ่งเต็มไปด้วยความรู้
พวกเขายิ่งใหญ่ในชาติเกิดเดียวและจากนั้นจะต้องกลับมายิ่งใหญ่ในลักษณะเดียวกันในชาติเกิดต่อไปของพวกเขา
ลูกเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ชาติแล้วชาติเล่า ด้วยความยิ่งใหญ่ของเวลาในปัจจุบัน
ลูกจะมีความยิ่งใหญ่ชาติแล้วชาติเล่า ลูกจะคงอยู่อย่างยิ่งใหญ่เป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เวลานี้ลูกเป็นของพ่อและดังนั้นลูกจะยังคงอยู่อย่างเป็นของพ่อเสมอ
ลูกมีความเข้มแข็งเช่นนั้นใช่ไหม? หากลูกอ่อนแอมายาก็จะกินลูก
มายากินผู้ที่อ่อนแอไม่ใช่ผู้ที่เข้มแข็ง ระวัง กำลังมีการถ่ายภาพของทุกคนที่นี่
คงอยู่อย่างเข้มแข็ง อย่าเป็นผู้ที่หวาดกลัว
ยิ่งลูกเข้มแข็งมากเท่าไหร่ลูกก็จะยิ่งมีความสุขและได้มาซึ่งการบรรลุผลมากเท่านั้น
หากลูกไม่เข้มแข็งก็จะไม่มีความสุขตลอดเวลา
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เสมอ
ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ไม่สามารถทำงานที่ธรรมดาได้
ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่จะไม่ก้มลงเบื้องหน้าผู้ใด
ดังนั้นลูกไม่ใช่ผู้ที่ก้มลงให้กับมายา กุมารีหมายถึงมือ
การที่กุมารีจะกลายเป็นชักตีนั้นหมายถึงการเติบโตในงานรับใช้
พ่อมีความพอใจที่ลูกเป็นดวงวิญญาณพิเศษที่จะกลายเป็นผู้รับใช้โลกและให้คุณประโยชน์ต่อโลก
4.
ไม่ว่าลูกกุมารีจะมีอายุน้อยหรืออายุมากทุกคนล้วนเป็นกุมารีที่สูงส่งยิ่งกว่าบราห์มิน100
คน ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นเช่นนี้หรือไม่? เพราะเหตุใด “กุมารีที่ยิ่งใหญ่กว่าบราห์มิน
100 คน” จึงได้รับการจดจำ? กุมารีแต่ละคนจะเตรียมบราห์มินอย่างน้อย 100
คนอย่างแน่นอน เหตุนี้เองลูกจึงได้รับการกล่าวว่ายิ่งใหญ่กว่าบราห์มิน100 คน
หนึ่งร้อยนั้นไม่มีอะไรเลย ลูกคือผู้ที่จะรับใช้โลก
ลูกทุกคนเป็นกุมารีที่สูงส่งยิ่งกว่าบราห์มิน 100 คน
ลูกคือดวงวิญญาณที่สูงส่งที่จะทำให้ทุกดวงวิญญาณสูงส่ง ลูกมีความซาบซึ้งนี้หรือไม่?
ลูกไม่ใช่กุมารีของวิทยาลัยหรือโรงเรียน ลูกคือกุมารีของมหาวิทยาลัยโลกของพระเจ้า
เมื่อมีคนถามลูกว่าลูกเป็นกุมารีประเภทใด
ให้บอกพวกเขาว่าลูกคือกุมารีของมหาวิทยาลัยโลกของพระเจ้า
ลูกกุมารีแต่ละคนจะกลายเป็นผู้รับใช้ ลูกจะเปิดศูนย์มากมายเพียงใด?
เมื่อเห็นกุมารีพ่อรู้สึกพอใจที่มีมือมากมายได้มีการเตรียมขึ้นมา
ลูกคือมือขวาใช่ไหม? ลูกไม่ใช่มือซ้าย
ไม่ว่าลูกจะทำอะไรด้วยมือซ้ายก็เป็นไปได้ที่จะมีความปั่นป่วนบ้าง
เมื่อลูกทำงานด้วยมือขวางานนั้นก็จะสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและปรากฏออกมาได้ดี
ดังนั้นถ้าลูกกุมารีทุกคนพร้อมแล้วจะมีศูนย์เปิดขึ้นมามากมายเพียงใด?
ลูกจะไปยังที่ที่ลูกถูกส่งไปใช่หรือไม่?
ลูกจะนั่งในที่ที่ลูกถูกขอให้นั่งใช่หรือไม่? กุมารีทุกคนยิ่งใหญ่
จงอยู่อย่างยิ่งใหญ่อยู่เสมอ อย่าได้รับอิทธิพลจากมิตรที่คบหา
ถ้ามีใครบางคนพยายามที่จะแต่งแต้มสีสันให้กับลูก
และแล้วลูกเองที่จะแต่งแต้มสีสันให้กับเขาหรือเธอด้วยสีสันของลูก
แม้ว่าพ่อแม่ของลูกพยายามที่จะสร้างบ่วงพันธะให้กับลูก
แต่ลูกก็ไม่ใช่ผู้ที่จะถูกผูกมัดอยู่ในบ่วงพันธะนั้นได้
จงอยู่อย่างเป็นอิสระจากบ่วงพันธะเสมอ มีโชคเสมอ
ชีวิตกุมารีคือชีวิตที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
ผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาจะไม่สามารถกลายเป็นผู้กราบไหว้บูชาได้
ลูกคือผู้ที่รักษาความซาบซึ้งนี้ไว้อย่างสม่ำเสมอ อัจชะ
5) ลูกทุกคนเป็นเทพธิดาใช่ไหม
กุมารีหมายถึงเทพธิดาผู้ที่ไปสู่หนทางที่ผิดจะกลายเป็นสาวใช้
ในขณะที่ผู้ที่กลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่คือเทพธิดา สาวใช้จะก้มลง
ลูกทุกคนเป็นเทพธิดาไม่ใช่ผู้ที่จะกลายเป็นสาวใช้
เหล่าเทพธิดาต่างก็ได้รับการกราบไหว้บูชาเป็นอย่างมาก
ดังนั้นนี่คือการกราบไหว้บูชาของลูกใช่ไหม?
ไม่ว่าลูกจะอายุน้อยหรืออายุมากทุกคนล้วนแต่เป็นเทพธิดา
เพียงจดจำอยู่ตลอดเวลาว่าลูกเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์
การเป็นของพ่อไม่ใช่เรื่องเล็ก แม้ว่าจะเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามลูกเป็นของใคร? ลูกกลับมาความสูงส่งเพียงใด?
ลูกกลายเป็นดวงวิญญาณที่พิเศษเพียงใด?
ในขณะที่เคลื่อนไปลูกจดจำว่าลูกดวงวิญญาณนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
ดวงวิญญาณที่มีโชคจะจดจำโชคของพวกเขาอยู่เสมอ ลูกคือใคร? เทพธิดา
เทพธิดาจะยิ้มอยู่เสมอ เธอไม่เคยร้องไห้
เมื่อลูกไปอยู่เบื้องหน้าภาพลักษณ์ของเทพธิดาลูกเห็นอะไร? เธอมีรอยยิ้มอยู่เสมอ
เธอเป็นผู้ประทานอย่างสม่ำเสมอ ผู้ประทานด้วยดวงตาและมือของเธอ
เทพหรือเทพธิดาหมายถึงผู้ที่ประทาน ลูกจะให้อะไร?
ลูกคือเทพธิดาที่จะให้สมบัติที่มีค่าของความสุข ความสงบ ความปีติ
และความรักให้กับทุกคน ลูกทุกคนเป็นมือขวา มือขวาหมายถึงผู้ที่มีการกระทำที่สูงส่ง
พร:
ขอให้ลูกเป็นตัวของการแก้ปัญหาและจบสิ้นความคิดที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดโดยการรู้ถึงสาเหตุของสิ่งเหล่านั้น
มีสองเหตุผลหลักสำหรับความคิดที่ไร้ประโยชน์ 1) ความหยิ่งยโส 2)
ความรู้สึกได้รับการดูถูก ทำไมฉันได้รับน้อยกว่า?
ฉันก็ควรจะได้รับสถานภาพนี้เช่นกัน ฉันควรจะถูกวางไว้ข้างหน้าด้วยเช่นกัน
ในสิ่งนี้ลูกคิดว่าตนเองได้รับการดูถูกหรือลูกพัฒนาความหยิ่งยโส
การสัมผัสกับความหยิ่งยโสหรือความรู้สึกถูกดูถูกในแง่ของชื่อเสียง, ความเคารพ,
เกียรติยศ การก้าวไปข้างหน้า หรือในงานรับใช้เป็นสาเหตุสำหรับความคิดที่ไร้ประโยชน์
การหาสาเหตุสำของสิ่งนี้และการหาวิธีแก้ไขคือการกลายเป็นตัวของการแก้ปัญหา
คติพจน์:
การเดินทางไปยังบ้านที่แสนหวานด้วยพลังแห่งความเงียบเป็นสิ่งที่ง่ายมาก