19.03.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน นี่คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลและให้คุณประโยชน์ที่สุด มันอยู่ในยุคนี้ที่โลกเก่าได้รับการเปลี่ยนแปลงและถูกทำให้ใหม่ อย่าได้ลืมยุคนี้

คำถาม:
พ่อให้คำสอนด้วยความรักแบบใดที่ทำให้ลูกทั้งเยาว์วัยและแก่ชรามีความคล้ายคลึงกับพ่อเอง?

คำตอบ:
ลูกที่แสนหวาน อย่าได้ทำความผิดพลาดใดในเวลานี้ ลูกมาที่นี่เพื่อกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดา ดังนั้นสร้างสม คุณธรรมที่สูงส่ง อย่าได้เป็นเหตุของความทุกข์ให้แก่ใคร เมื่อลูกทำความผิด ลูกเป็นเหตุของความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น พ่อไม่เคยเป็นเหตุของความทุกข์แก่ลูกๆ พ่อให้แนวทางในการปฏิบัติแก่ลูก ลูกๆ จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น กลายเป็นโยคีและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องและลูกจะกลับมาอ่อนหวานอย่างมาก

โอมชานติ
ลูกๆ ผู้ที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและผู้ที่มีโยคะกับพ่อสูงสุด, ดวงวิญญาณสูงสุดนั้นเรียกว่าเป็นโยคีที่แท้จริง เพราะพ่อคือสัจจะ ดังนั้นโยคะของสติปัญญาของลูกอยู่กับสัจจะ ทุกสิ่งที่พ่อบอกลูกคือสัจจะ มีโยคีและโบคี(ผู้ที่ข้องแวะในความสุขจากการใช้ประสาทสัมผัส)หลากหลายประเภท มีโบคีประเภทต่างๆมากมายและมีโยคีประเภทต่างๆ มากมายเช่นกัน โยคะของลูกเป็นของประเภทเดียวเท่านั้น การสละละทิ้งของพวกเขาแตกต่างจากการสละละทิ้งของลูก ลูกคือโยคีของยุคบรรจบพบกันที่มีสิริมงคลที่สุด ไม่มีใครในพวกเขา,ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นโยคีที่บริสุทธิ์หรือโบคีที่ไม่บริสุทธิ์ที่รู้เกี่ยวกับโยคะนี้ แม้กระทั่งลูกๆก็ไม่รู้สิ่งนี้ บาบาเรียกลูกทั้งหมดว่า “ลูกๆ ลูกๆ” เพราะท่านรู้ว่าท่านเป็นพ่อของดวงวิญญาณจำนวนที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกเข้าใจว่าลูกทั้งหมดคือดวงวิญญาณเป็นพี่น้องเพศชาย และผู้เดียวนั้นคือพ่อของลูก ลูกกลับมาบริสุทธิ์ด้วยการมีโยคะกับพ่อ พวกเขาเป็นโบคีในขณะที่ลูกนั้นเป็นโยคี พ่อให้คำแนะนำของพ่อเองแก่ลูก ลูกเข้าใจด้วยเช่นกันว่านี้คือยุคบรรจบพบกันที่มีสิริมงคลที่สุด ไม่มีใครนอกจากลูกรู้สิ่งนี้ สิ่งนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคบรรจบพบกันที่มีสิริมงคลที่สุด เหตุนี้เองลูกต้องไม่มีวันลืมคำว่า ‘สิริมงคล’ นี่คือยุคที่จะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุด เป็นผู้ที่สูงสุดและบริสุทธิ์ที่สุดที่เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ที่สูงส่ง ลักษมีและนารายณ์เคยบริสุทธิ์และสูงส่ง เวลานี้ลูกรู้ว่าเป็นเวลาอะไรด้วยเช่นกัน โลกได้กลับมาเก่าหลังจาก 5000 ปี พ่อมาเพื่อทำให้โลกนั้นใหม่อีกครั้ง เวลานี้เราเป็นของสกุลบราห์มินของยุคบรรจบพบกัน บราห์มาคือผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด อย่างไรก็ตามมีการแสดงให้เห็นว่าบราห์มาเป็นผู้ที่มีตัวตนในขณะที่ชีพบาบาปราศจากร่าง ลูกๆ เข้าใจแล้วว่ามีการพบปะระหว่างผู้เดียวที่ปราศจากร่างและผู้ที่มีร่างกาย ลูกเรียกท่านว่า ‘บาบา’ นี้คือบทบาทที่น่าอัศจรรย์ ผู้นี้ได้รับการยกย่องด้วยเช่นกันและมีการสร้างวัดให้แก่ท่านด้วย บางคนก็ตกแต่งพาหนะในรูปแบบหนึ่งและผู้อื่นในรูปแบบอื่นๆ บาบาได้บอกลูกเช่นกันว่า พ่อเข้ามาในร่างของผู้นี้ในเวลาของชาติเกิดสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขา ท่านอธิบายทุกสิ่งอย่างชัดเจนมาก ก่อนอื่นใดพูดว่า พระเจ้าพูด หลังจากนั้นในตอนสุดท้ายของหลายชาติเกิดของลูกพ่ออธิบายความลับทั้งหมดแก่ลูกๆ ไม่มีใครอื่นสามารถเข้าใจสิ่งนี้ บางครั้งลูกๆ ก็ลืมด้วยเช่นกัน ด้วยการเขียนคำว่า ‘สิริมงคล’ ผู้คนก็จะเข้าใจว่าเพียงยุคที่เป็นสิริมงคลนี้เท่านั้นคือยุคที่ให้คุณประโยชน์ หากพวกเขาจะจดจำยุคนี้ พวกเขาก็จะเข้าใจด้วยเช่นกันว่าพวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะไปสู่โลกใหม่ เทพมีชีวิตอยู่ในโลกใหม่ ลูกรู้เกี่ยวกับยุคต่างๆด้วยเช่นกัน พ่ออธิบายว่า ลูกๆที่แสนหวาน อย่าได้ลืมยุคบรรจบพบกัน ด้วยการลืมสิ่งนี้ลูกจึงลืมความรู้ทั้งหมด เวลานี้ลูกๆ เข้าใจว่าลูกกำลังเปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งคนเก่าเวลานี้จะเปลี่ยนแปลงและกลายเป็นคนใหม่ พ่อมาและเปลี่ยนแปลงโลกและพ่อก็เปลี่ยนลูกด้วยเช่นกัน พ่อพูดกับทุกคน “ลูก ลูก” ดวงวิญญาณทั้งหมดของทั้งโลกคือลูกๆ ของพ่อ ทุกคนมีบทบาทในละครนี้ วงจรต้องมีการพิสูจน์ด้วยเช่นกัน แต่ละคนก่อตั้งศาสนาของตนเอง ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถก่อตั้งศาสนาเทพ บราห์มาไม่ได้ก่อตั้งศาสนานี้ ในโลกใหม่มีศาสนาเทพ ขณะที่ในโลกเก่าทั้งหมดคือมนุษย์ เหล่าเทพมีชีวิตอยู่ในโลกใหม่ เหล่าเทพมีความบริสุทธิ์ อาณาจักรของราวันไม่ได้คงอยู่ที่นั่น พ่อทำให้ลูกๆ สามารถได้รับชัยชนะเหนือราวัน ทันทีที่ลูกได้รับชัยชนะเหนือราวันอาณาจักรของรามก็เริ่มต้น โลกใหม่คืออาณาจักรของรามและโลกเก่าเรียกว่าเป็นอาณาจักรของราวัน ไม่มีใครนอกจากลูกๆที่รู้ว่าอาณาจักรของรามได้รับการก่อตั้งขึ้นมาอย่างไร พ่อผู้สร้างนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆถึงความลับของสิ่งสร้าง พ่อคือผู้สร้าง,เมล็ด เมล็ดเรียกว่าเป็นเมล็ดของต้นไม้ด้วยเช่นกัน เวลานี้,นั่นเป็นเมล็ดที่ไม่มีชีวิต แต่ลูกไม่สามารถพิจารณาว่าผู้เดียวนั้นเป็นสิ่งนี้(ไม่มีชีวิต) ลูกเข้าใจว่าต้นไม้ทั้งต้นปรากฏออกมาจากเมล็ด ทั้งโลกเป็นต้นไม้ที่ใหญ่โตมากเช่นนั้น สิ่งนั้นไม่มีชีวิตในขณะที่ผู้เดียวนี้มีชีวิต ท่านคือสัจจะ ผู้มีชีวิตและเป็นรูปของความปีติ พ่อคือเมล็ดของต้นไม้โลกมนุษย์ ต้นไม้ที่ใหญ่โตปรากฏออกมาจากท่าน อย่างไรก็ตามพวกเขาได้ทำแบบจำลองเล็กๆ ต้นไม้โลกมนุษย์ใหญ่โตที่สุด พ่อผู้ที่สูงสุดเหนือสิ่งใดเต็มไปด้วยความรู้ ผู้คนมากมายมีความรู้ของต้นไม้เหล่านั้น แต่เพียงพ่อเท่านั้นสามารถให้ความรู้ของต้นไม้นี้ เวลานี้พ่อได้เปลี่ยนสติปัญญาของลูกจากมีขีดจำกัดมาสู่ไม่มีขีดจำกัด เวลานี้ลูกได้มารู้เกี่ยวกับต้นไม้ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ ต้นไม้นั้น(ของดวงวิญญาณ)ได้รับพื้นที่ว่างที่ใหญ่โต(โลกที่ไม่มีตัวตน) พ่อพาลูกๆไปสู่ความไม่มีขีดจำกัด ทั้งโลกเวลานี้ไม่บริสุทธิ์ ทั้งโลกมีความรุนแรง พวกเขาใช้ความรุนแรงกับกันและกัน เวลานี้ลูกๆได้รับความรู้แล้ว เพียงศาสนาเทพเดียวเท่านั้นในยุคทองที่ไม่มีความรุนแรง ทุกคนมีความบริสุทธิ์ในยุคทองและพวกเขามีชีวิตอยู่ในความสงบและความสุข ความปรารถนาทั้งหมดของลูกได้รับการเติมเต็มเป็นเวลาถึง 21 ซาติเกิด ไม่มีความปรารถนาใดในยุคทอง ลูกได้รับทุกสิ่ง พืชพันธุ์ธัญญาหารที่ไม่มีขีดจำกัด ฯลฯ ก่อนหน้านี้บอมเบย์นี้ไม่ได้มีอยู่ เหล่าเทพไม่ได้อยู่บนริมฝั่งน้ำเค็ม เหล่าเทพอยู่ในที่ที่มีน้ำที่หวานชื่น มีมนุษย์จำนวนน้อยมาก ทุกคนมีผืนดินที่กว้างใหญ่ ยุคทองคือโลกที่ปราศจากกิเลส ลูกได้มาซึ่งอาณาจักรของโลกด้วยพลังโยคะและสิ่งนั้นซึ่งเรียกได้ว่าอาณาจักรของราม เริ่มต้นด้วยต้นไม้ใหม่ที่มีขนาดเล็กมาก ในตอนแรกมีเพียงศาสนาเดียวเท่านั้นซึ่งแทนด้วยลำต้น จากนั้นสามกิ่งก้านก็ปรากฏออกมาจากรากฐาน รากฐานนั้นคือศาสนาเทพ กิ่งก้านเล็กๆมากมายปรากฏออกมาจากลำต้น ลำต้นของต้นไม้นี้ไม่ได้คงอยู่อีกต่อไป ไม่มีต้นไม้อื่นใดเป็นเช่นนี้ ต้นไม้นี้เปรียบเทียบได้อย่างถูกต้องกับต้นไทร ต้นไทรทั้งต้นยืนอยู่โดยที่ไม่มีลำต้น มันไม่ได้แห้งเหี่ยว ทั้งต้นยังคงยืนอยู่และเขียวขจีแต่รากฐานของศาสนาเทพไม่ได้คงอยู่อีกต่อไป นี่คือลำต้นและลำต้นเป็นตัวแทนของอาณาจักรของราม นั่นคือศาสนาเทพ พ่อพูดว่า พ่อก่อตั้งสามศาสนา เพียงลูกบราห์มินของยุคบรรจบพบกันเท่านั้นที่เข้าใจประเด็นเหล่านี้ วงศ์สกุลของลูกบราห์มินนั้นเล็กมาก ลัทธิ นิกายเล็กๆมากมายปรากฏขึ้น เช่น อาโรบินโดอาศรม ซึ่งได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมาก เพราะไม่มีใครที่นั่นได้รับการบอกว่าอย่าได้ข้องแวะในกิเลส ที่นี่พ่อพูดว่า ตัณหาราคะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลูกต้องเอาชนะสิ่งนี้ ไม่มีใครอื่นที่สามารถพูดสิ่งนี้ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาเองก็จะถูกรบกวนที่นั่นด้วย ที่นี่มีผู้ที่ไม่บริสุทธิ์และดังนั้นพวกเขาจึงไม่รับฟังประเด็นของการกลับมาบริสุทธิ์ พวกเขาพูดว่าเด็กๆจะเกิดมาได้อย่างไรโดยไม่มีกิเลส? สิ่งนี้ไม่ได้เป็นความผิดของผู้ที่น่าสงสารเหล่านั้น ผู้ที่ศึกษากีตะก็ได้อ้างถึงคำพูดของพระเจ้าว่า “ตัณหาราคะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยการเอาชนะตัณหาราคะลูกสามารถกลายเป็นผู้เอาชนะโลก” อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เข้าใจสิ่งนี้ เมื่อพวกเขาอ้างถึงคำพูดเหล่านี้ลูกควรอธิบายแก่พวกเขา บาบาได้บอกลูกแล้วว่าเช่นเดียวกับที่หนุมานเคยนั่งใกล้กับรองเท้า ดังนั้นลูกควรไปนั่งอยู่ข้างนอกและรับฟัง เมื่อพวกเขาพูดคำพูดเหล่านี้ให้ถามพวกเขาว่า อะไรคือความหมายของสิ่งนั้น เหล่าเทพเคยเป็นผู้เอาชนะโลก ลูกต้องละทิ้งกิเลสเพื่อจะกลายเป็นเทพ ลูกสามารถพูดด้วยเช่นกันว่าลูกรู้ว่าอาณาจักรของรามมีการก่อตั้งขึ้นในเวลานี้ ลูกคือมหาวีระ (นักรบที่กล้าหาญ) ไม่มีเรื่องของความหวาดกลัวในสิ่งนี้ ลูกควรถามพวกเขาด้วยความรักอย่างมาก “สวามีจี ท่านพูดว่าด้วยการเอาชนะกิเลสเหล่านี้ท่านสามารถกลายเป็นนายของโลก แต่ท่านก็ไม่ได้บอกกับเราว่าเราจะสามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้อย่างไร เวลานี้ลูกๆคือมหาวีระผู้ที่อยู่อย่างบริสุทธิ์ มหาวีระที่ได้ถูกร้อยเข้าไปในลูกประคำแห่งชัยชนะ หูของผู้คนนั้นคุ้นเคยที่จะได้ยินสิ่งที่ผิดๆ ลูกไม่ชอบที่จะฟังสิ่งที่ผิดๆอีกต่อไป หูของลูกชอบฟังสิ่งที่ถูกต้อง อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย! แน่นอนลูกต้องปลุกมนุษย์ให้ตื่นขึ้น บอกพวกเขาว่า พระเจ้าพูด “กลับมาบริสุทธิ์” ในยุคทองทุกคนคือเทพที่บริสุทธิ์ เวลานี้ทุกคนไม่บริสุทธิ์ อธิบายแก่พวกเขาในลักษณะนี้ บอกพวกเขาว่า ในชุมนุมของเรามีการอธิบายว่าตัณหาราคะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หากพวกท่านต้องการที่จะกลับมาบริสุทธิ์พวกท่านสามารถทำเช่นนั้นได้ด้วยการใช้วิธีการนี้ พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ และทำให้สายตามั่นคงของการมองเห็นดวงวิญญาณเป็นพี่น้องเพศชาย ลูกๆรู้ว่าในตอนเริ่มต้นบารัตนี้เคยเป็นแผ่นดินที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก และนั่นเป็นเพราะเวลานี้บารัตได้กลับมาแห้งแล้งจึงได้ถูกให้ชื่อว่า ‘ฮินดูสถาน’ ก่อนหน้านี้บารัตเปี่ยมล้นไปด้วยทรัพย์สมบัติ ความบริสุทธิ์ ความสุข ความสงบและทุกสิ่งอื่น เวลานี้บารัตท่วมท้นไปด้วยความทุกข์ เหตุนี้เองพวกเขาจึงเรียกหาผู้ขจัดความทุกข์และผู้ประทานความสุข ลูกศึกษาเล่าเรียนกับพ่อด้วยความสุขอย่างมาก จะมีใครที่จะไม่ประกาศสิทธิ์ในมรดกของความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดหรือไม่? ก่อนอื่นใดจงเข้าใจอัลฟ่า หากลูกไม่เข้าใจว่าใครคืออัลฟ่าแล้วก็จะไม่สามารถมีความลับใดเข้าไปในสติปัญญาของลูกได้ ลูกสามารถทำความก้าวหน้าได้ต่อเมื่อลูกมีศรัทธาว่าพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดกำลังให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูกเท่านั้น ลูกไม่จำเป็นต้องถามคำถามใดกับพ่อ พ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ท่านคือผู้ที่ลูกจดจำ ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ด้วยการจดจำระลึกถึงท่าน เหตุนี้เองลูกจึงเรียกหาพ่อ การหลุดพ้นในชีวิตได้รับในหนึ่งวินาที อย่างไรก็ตามการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงนั้นใช้เวลา นั่นคือในการจาริกแสวงบุญแห่งการจดจำระลึกถึงที่อุปสรรคเกิดขึ้น เป็นเวลาครึ่งวงจรที่ลูกมีสำนึกที่เป็นร่าง ในชาติเกิดเดียวนี้ที่ลูกต้องทำความเพียรพยายามที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ เป็นสิ่งที่ง่ายมากสำหรับผู้นี้(บราห์มา บาบา) ลูกเรียกพวกเราว่า บัพดาดา ผู้นี้ก็เข้าใจด้วยเช่นกันว่าพ่อกำลังนั่งอยู่ในร่างของเขา ฉันสรรเสริญท่านเป็นอย่างมาก ฉันรักท่านอย่างมาก บาบา ท่านอ่อนหวานอย่างมาก! ท่านสอนฉันเป็นอย่างมากวงจรแล้ววงจรเล่า! และแล้วฉันก็จะไม่จดจำท่านถึงครึ่งหนึ่งของวงจร เวลานี้ฉันจดจำท่านอย่างมากมาย เมื่อวานนี้ฉันไม่มีความรู้ในตัวเองเลย ฉันไม่รู้ว่าฉันกำลังจะกลายเป็นผู้ที่ฉันเคยกราบไหว้บูชามาก่อน เวลานี้ฉันอัศจรรย์ใจ ด้วยการกลายเป็นโยคีเราจะกลายเป็นเทพ ลูกทั้งหมดเป็นลูกของพ่อด้วยเช่นกัน บาบานี้ดูแลลูกๆด้วยความรักมากมายและหล่อเลี้ยงพวกเขา พวกเขาจะกลายเป็นนารายณ์จากมนุษย์ธรรมดาเหมือนกับฉันด้วยเช่นกัน เหตุนี้เองลูกจึงได้มาที่นี่ พ่ออธิบายเป็นอย่างมากแก่ลูก ลูกๆ จดจำพ่อ สร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งและระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกรับประทานและดื่ม หากลูกไม่ทำสิ่งนี้พ่อคิดว่าบางทีอาจยังไม่ถึงเวลาและลูกก็จะยังคงทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป พ่ออธิบายแก่ลูกๆ ที่เยาว์วัยและแก่ชราว่า ลูกๆ อย่าได้ทำความผิดใดๆ อย่าได้เป็นเหตุของความทุกข์แก่ใคร หากลูกทำความผิด นั่นก็หมายความว่าลูกกำลังเป็นเหตุของความทุกข์ พ่อไม่เคยเป็นเหตุของความทุกข์ พ่อให้แนวทางในการปฏิบัติแก่ลูกว่าจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องและลูกจะกลับมาอ่อนหวานอย่างมาก ลูกต้องกลับมาอ่อนหวานอย่างมากและสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง กลับมาบริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์จะไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่ บางครั้งพวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้มา แต่เป็นเพียงในเวลานี้ เมื่อมีการขยายตัวเกิดขึ้นอย่างมากมายพวกเขาจะถูกบอกว่านี่เป็นหอคอยแห่งความบริสุทธิ์ หอคอยแห่งความเงียบสงบ นี่เป็นสถานที่ที่สูงสุดเหนือสิ่งใด การพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อคือพลังสูงสุด ที่นั่นมีความเงียบสงบอย่างมาก ไม่มีการต่อสู้หรือทะเลาะเบาะแว้งฯลฯเป็นเวลาครึ่งวงจร ที่นี่มีการต่อสู้และทะเลาะเบาะแว้งอย่างมากมาย ไม่สามารถมีความสงบใดๆได้ อาณาเขตสูงสุดเป็นอาณาเขตของความสงบ และแล้วลูกก็มาและนำร่างกายมาใช้เพื่อเล่นบทบาทของลูกในโลก มีความสงบในเวลานั้น ศาสนาดั้งเดิมของดวงวิญญาณคือความสงบ ราวันเป็นเหตุของความไม่สงบ ลูกได้รับคำสอนของความสงบอย่างต่อเนื่อง เมื่อใครบางคนโกรธเขาก็ทำให้คนอื่นไม่สงบ ขยะทั้งหมดของลูกถูกเผาทิ้งไปด้วยพลังโยคะนี้ ขยะจะไม่ถูกขจัดออกไปด้วยการศึกษาเล่าเรียน ขยะทั้งหมดของลูกถูกเผาไหม้ด้วยการจดจำระลึกถึงและสนิมของลูกจะถูกขจัดออกไป พ่อพูดว่า เมื่อวานนี้พ่อให้คำสอนทั้งหมดแก่ลูก ลูกลืมสิ่งเหล่านี้ไปแล้วหรือ? นี่เป็นเรื่องของ 5000 ปี พวกเขาพูดถึงหลายแสนปี เวลานี้ลูกเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างความหลอกลวงและสัจจะ เป็นพ่อที่มาและบอกลูกว่าความหลอกลวงคืออะไรและสัจจะคืออะไร ความเลื่อมใสศรัทธาคืออะไรและความรู้คืออะไร ความคดโกงคืออะไรและสภาพของความสูงส่งคืออะไร ผู้ที่คดโกงเกิดด้วยกิเลส ไม่มีกิเลสใดที่นั่น ลูกพูดว่าเหล่าเทพปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ ไม่มีอาณาจักรของราวันที่นั่น นี่เป็นสิ่งที่ง่ายดายอย่างมากที่จะเข้าใจ ดังนั้นแล้วลูกควรจะทำอะไร? ประการแรกจดจำพ่อ และประการที่สองลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. กลายเป็นมหาวีระในการกลับมาบริสุทธิ์ ขจัดขยะทั้งหมดที่มีอยู่ภายในตัวลูกออกไปด้วยการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง ทำให้ตนเองมั่นคงในศาสนาดั้งเดิมของความสงบ อย่าได้กระจายความไม่สงบ

2. เพียงรับฟังสิ่งที่ถูกต้องที่พ่อบอกลูกเท่านั้น อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย! อย่าได้ฟังสิ่งที่ผิดๆ เตือนทุกคน กลับมาสูงส่งในยุคที่เป็นสิริมงคลนี้และดลใจผู้อื่นให้กลายเป็นเช่นเดียวกัน

พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณพิเศษที่เคลื่อนออกไปจากโลกแห่งการหลงลืม และเล่นบทบาทของนักแสดงเอก(ฮีโร่)อย่างเป็นตัวของการจดจำระลึกถึง

ยุคบรรจบพบกันนี้คือยุคของการตระหนักรู้และยุคเหล็กคือยุคของการหลงลืม เวลานี้ลูกทั้งหมดได้เคลื่อนออกมาจากโลกแห่งการหลงลืมแล้ว ผู้ที่เป็นตัวของการจดจำระลึกถึงคือดวงวิญญาณพิเศษผู้เล่นบทบาทพิเศษ ในเวลานี้ลูกคือฮีโร่ทั้งสอง ประการแรก ลูกได้กลับมามีคุณค่าเช่นเพชร และประการที่สอง ลูกมีบทบาทนักแสดงเอก ดังนั้น ให้เพลงนี้เล่นอยู่ในหัวใจอย่างสม่ำเสมอ ว้า โชคที่สูงส่งของฉัน! เช่นที่ลูกจดจำอาชีพทางร่างกายของลูก ในทำนองเดียวกันจดจำอาชีพที่ไม่สูญสลายของลูก “ฉันเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่ง” และแล้วลูกก็จะกล่าวได้ว่าเป็นดวงวิญญาณพิเศษ

คติพจน์:
ก้าวไปหนึ่งก้าวด้วยความกล้าหาญ และลูกจะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากพ่อ