24.11.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
12.03.85 Om Shanti Madhuban
พลังแห่งสัจจะ
วันนี้ พ่อที่แท้จริง ครูที่แท้จริง และสัตกูรู
กำลังมองดูลูกๆของท่านผู้ที่เป็นตัวของพลังแห่งสัจจะ
ลูกคือดวงวิญญาณที่มีประสบการณ์ว่าความรู้ที่แท้จริงและพลังแห่งสัจจะนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
ทำไมลูกๆทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลที่มาจากศาสนาต่างๆและมีความเชื่อ
วัฒนธรรม และระบบที่แตกต่างกัน
ได้ถูกดึงดูดมายังมหาวิทยาลัยทางจิตของโลกแห่งโลกนี้และราชาโยคะนี้?
ลูกได้รับคำแนะนำที่แท้จริงของพ่อที่แท้จริง นั่นคือลูกได้รับความรู้ที่แท้จริง
ลูกได้พบครอบครัวที่แท้จริง ลูกได้พบความรักที่แท้จริง
และมีประสบการณ์ของการได้รับทุกสิ่งที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้ลูกจึงถูกดึงดูดมาที่พลังแห่งสัจจะนี้ ลูกมีชีวิต
ลูกได้มาซึ่งการบรรลุผล และลูกก็มีความรู้ตามความสามารถของลูกด้วย
แต่ลูกไม่มีความรู้ที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้พลังแห่งสัจจะจึงทำให้ลูกเป็นของพ่อที่แท้จริง
คำว่า “สัจจะ” มี 2 ความหมาย สัจจะคือสัจจะ และสัจจะไม่มีวันสูญสลาย
ดังนั้นพลังแห่งสัจจะก็ไม่สูญสลายเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ลูกจึงมีการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ไม่สูญสลาย ความสัมพันธ์ที่ไม่สูญสลาย
ความรักที่ไม่สูญสลาย และครอบครัวที่ไม่สูญสลาย
ลูกจะมีครอบครัวเดียวกันนี้ต่อไปในชื่อและรูปที่แตกต่างกันเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ลูกจะไม่รู้จักพวกเขา
ในปัจจุบันลูกรู้ว่าลูกคือผู้ที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเดียวกันนี้ผ่านความสัมพันธ์ที่แตกต่าง
แม้ว่าจะอาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกล
การได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ไม่สูญสลายและการตระหนักรู้นี้ได้ดึงลูกเข้ามาหาครอบครัวที่แท้จริง
พ่อที่แท้จริงและความรู้ที่แท้จริง ที่ใดมีสัจจะและไม่สูญสลาย
ที่นั่นมีการตระหนักรู้ถึงพระเจ้า
ดังนั้นเช่นที่ลูกทั้งหมดถูกดึงดูดบนพื้นฐานของคุณสมบัติพิเศษนี้
ดังนั้นลูกจะต้องเปิดเผยพลังแห่งสัจจะและความรู้ที่จริงนี้แก่โลก
ลูกได้เตรียมสนามมาเป็นเวลา 50 ปี ลูกให้ความรักแก่ผู้คน นำพวกเขาเข้ามามีสายใย
ลูกดึงดูดพวกเขามาสู่ราชาโยคะ ลูกดึงดูดพวกเขาเข้าสู่ประสบการณ์ของความสงบ
ดังนั้นเวลานี้ยังมีอะไรเหลืออยู่อีกไหม?
เช่นที่ศาสนาต่างๆทั้งหมดเชื่อว่าพระเจ้าคือหนึ่งเดียว ในทำนองเดียวกัน
ดวงวิญญาณจะยังไม่หยุดแสวงหาการค้ำจุนของเศษฟางจนกว่าเสียงที่ดังนี้แพร่กระจายออกไปว่าความรู้ที่ถูกต้องและแท้จริงนี้มาจากพ่อผู้เดียวเท่านั้น
และมีเพียงหนทางเดียวนี้เท่านั้น
ปัจจุบันนี้พวกเขาคิดว่านี่ก็เป็นหนึ่งในหนทางเช่นกันและเป็นหนทางที่ดี
อย่างไรก็ตามในที่สุดแล้วพวกเขาควรจะคิดว่า:นี่เป็นคำแนะนำของพ่อผู้เดียวเท่านั้น
นี่เป็นหนทางเดียวเท่านั้น เมื่อภาพลวงตามากมายจบสิ้นลง
นั่นจะเป็นพื้นฐานของความสงบในโลก
จนกระทั่งคลื่นแห่งการแนะนำสัจจะและพลังแห่งความรู้ที่แท้จริงนี้ได้กระจายไปทุกหนแห่ง
ดวงวิญญาณทั้งหมดจะยังไม่สามารถได้รับการค้ำจุนภายใต้ธงของการเปิดเผย
ดังนั้นลูกจึงเชื้อเชิญดวงวิญญาณมายังบ้านของพ่อโดยเฉพาะเป็นพิเศษ
ด้วยคำเชิญพิเศษสำหรับการฉลองครบรอบ50ปี(golden jubilee) นั่นคือมายังเวทีของลูก
มีบรรยากาศที่สูงส่ง มีอิทธิพลของสติปัญญาที่สะอาด
มีสนามของความรักและการเลี้ยงดูที่บริสุทธิ์
การเปิดเผยความรู้ที่แท้จริงของลูกท่ามกลางบรรยากาศเช่นนั้นหมายความว่าการเปิดเผยกำลังเริ่มต้นขึ้น
ลูกจดจำสิ่งที่ลูกเคยทำเมื่อลูกเริ่มต้นงานรับใช้ด้วยความเร็วสูงด้วยการรับใช้ที่นิทรรศการหรือไม่?
ลูกเคยขอให้พวกเขากรอกแบบฟอร์มของคำถามหลักว่า: พระเจ้าอยู่ในทุกหนแห่งใช่หรือไม่?
ใครคือพระเจ้าของกีตะ? ลูกเคยขอให้พวกเขากรอกแบบฟอร์มเหล่านี้ใช่ไหม?
ลูกเคยขอให้พวกเขาเขียนความคิดเห็นของพวกเขา ลูกเคยถามปริศนากับพวกเขา
ดังนั้นลูกได้เริ่มต้นสิ่งนั้นก่อน
แต่หลังจากนั้นขณะที่ลูกเคลื่อนไปลูกก็ให้คำตอบของคำถามเหล่านั้นกับพวกเขาอย่างแฝงตัวและนำพวกเขาเข้ามาอยู่ในสายใยและนำพวกเขาเข้ามาใกล้ด้วยการให้ความรักกับพวกเขา
เวลานี้เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินนี้
จงให้คำแนะนำที่แท้จริงอย่างกระจ่างชัดมากแก่พวกเขา เมื่อพวกเขาพูดว่า: “สิ่งนี้ดีด้วย”
เป็นเพียงแค่ทำให้ลูกพอใจ
อย่างไรก็ตามให้คำแนะนำที่ถูกต้องเดียวของพ่อผู้เดียวเข้าไปอยู่ในสติปัญญาของพวกเขาอย่างชัดเจน
เวลานี้ลูกต้องนำมาซึ่งสิ่งนั้น ลูกเพียงแต่บอกเขาโดยตรงว่า:พ่อกำลังให้ความรู้นี้และท่านได้มาแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาจากไป
พวกเขาจากไปด้วยความเชื่อหรือไม่ว่านี่คือความรู้ของพระเจ้าหรืองานของพระเจ้าที่กำลังดำเนินอยู่?
พวกเขามีประสบการณ์ของความใหม่ของความรู้นี้หรือไม่?
ลูกเคยจัดประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเช่นนั้นที่ลูกถามพวกเขาว่าพระเจ้าอยู่ในทุกหนแห่งหรือไม่
หรือท่านนั้นมาเพียงครั้งเดียวหรือมาหลายครั้ง?
ให้พวกเขาได้รับคำแนะนำที่ชัดเจนที่พวกเขาเข้าใจพวกเขาได้ยินสิ่งต่าง ๆ
ที่นี่ที่พวกเขาไม่เคยได้ยินในโลกภายนอก
เมื่อลูกพูดถึงความลับของความรู้เหล่านี้กับนักพูดหลักๆที่มา
สิ่งนี้ควรเข้าไปอยู่ในสติปัญญาของพวกเขา และพร้อมกับสิ่งนั้นในการให้คำบรรยาย
นอกจากนั้นให้ผู้พูดแต่ละคนในการบรรยายที่ลูกเสนอให้ชี้แจงประเด็นหนึ่งของความรู้ใหม่นี้ในขณะที่ถ่ายทอดประสบการณ์การเปลี่ยนแปลงของตนเอง
อย่าได้มีหัวข้อที่ระบุตรงๆว่า: พระเจ้าไม่ได้อยู่ในทุกหนแห่ง
แต่บอกพวกเขาเกี่ยวกับการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ลูกได้รับเป็นพิเศษด้วยการรู้จักพ่อผู้เดียวในรูปเดียว
แล้วลูกจึงจะสามารถอธิบายประเด็นของการอยู่ในทุกหนแห่งให้ชัดเจน บอกพวกเขาว่า:สติปัญญาสามารถกลับมามั่นคงและมีสมาธิได้ด้วยการจดจำพ่อด้วยการพิจารณาว่าตนเองเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในอาณาเขตสูงสุด
และสิ่งที่ลูกได้มาซึ่งการบรรลุผลจากประสบการณ์ของลูกโดยการมีความสัมพันธ์กับพ่อ
ลูกสามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิธีนี้ทั้งสัจจะและความถ่อมตนเพื่อที่พวกเขาจะไม่รู้สึกว่าลูกมีความหลงทะนงตนหรือที่ลูกก็แค่ยกย่องตนเองเท่านั้น
เมื่อพวกเขารู้สึกถึงความถ่อมตนและความกรุณาของลูก
พวกเขาจะไม่รู้สึกว่าลูกมีความหลงทะนงตน ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกได้ยินเมอลี
ไม่มีลูกคนไหนที่จะพูดว่านั่นคือความหยิ่งยโส พวกเขาจะพูดว่านั่นพูดด้วยอำนาจ
ไม่ว่าคำพูดนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน ลูกก็จะไม่เรียกสิ่งนั้นว่าความหยิ่งยโส
มีประสบการณ์ของพลังอำนาจจากสิ่งนั้น ทำไมจึงเป็นเช่นนี้? ยิ่งมีพลังอำนาจมากแค่ไหน
ก็จะต้องมีความถ่อมตนและความกรุณามากเท่านั้น พ่อพูดเช่นนี้เบื้องหน้าลูกๆของท่าน
และลูกๆทั้งหมดสามารถทำให้สิ่งนี้กระจ่างชัดบนเวทีด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้
ลูกได้รับการบอกแล้วว่าจะทำอย่างไร
ดังนั้นให้หยิบยกประเด็นของการอยู่ในทุกหนทุกแห่งขึ้นมา
ประการที่สองให้นำเอาประเด็นของการอยู่เหนือรูปและนามขึ้นมา
ประการที่สามให้ประเด็นของละครอยู่ในสติปัญญาของลูก
เก็บคุณสมบัติพิเศษใหม่ของดวงวิญญาณไว้ในสติปัญญาของลูก
เก็บหัวข้อพิเศษเหล่านั้นไว้ในจิตใจและอธิบายหัวข้อเหล่านั้นให้ชัดเจนต่อไปบนพื้นฐานของประสบการณ์และการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่จะทำให้พวกเขานั้นเข้าใจว่ายุคทองกำลังถูกสร้างขึ้นมาด้วยความรู้ที่แท้จริงนี้
มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับคำพูดของพระเจ้าที่ไม่มีใครนอกจากพระเจ้าจะสามารถพูดได้?
มีคติพจน์พิเศษที่ลูกสามารถบอกพวกเขาได้โดยตรง:
มนุษย์ไม่สามารถเป็นสัตกูรูของมนุษย์ได้ เขาไม่สามารถเป็นพ่อที่แท้จริง
มนุษย์ไม่สามารถเป็นพระเจ้า ลูกได้ยินประเด็นพิเศษเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
จงสร้างคติพจน์ประเภทเหล่านี้ที่จะทำให้ความรู้ที่แท้จริงนั้นกระจ่างชัดขึ้น
นี่เป็นความรู้ใหม่ของโลกใหม่ ให้พวกเขามีประสบการณ์ของความใหม่และสัจจะ
ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกจัดการประชุมสัมมนา งานรับใช้ที่ดีมากก็เกิดขึ้น
ลูกได้นำเอาวิธีการที่จะติดตามผลของการประชุมนั้นมาใช้ด้วยกฎบัตรหรือสิ่งอื่น
ลูกได้นำเอาวิธีการที่หลากหลายมาใช้เพื่อที่ยังคงติดต่อกัน
สิ่งเหล่านั้นเป็นวิธีการที่ดีเช่นกัน
เพราะหลังจากนั้นลูกก็มีโอกาสที่จะติดต่อกับคนเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามเช่นที่ผู้คนผู้ที่มาที่นี่พูดว่า:สิ่งนี้ดีมาก นี่เป็นแผนที่ดีมาก
นี่เป็นกฎบัตรที่ดีมาก และนี่เป็นวิธีการที่ดีมากของงานรับใช้
ในทำนองเดียวกันเวลานี้พวกเขาควรจะกลับไปด้วยการพูดว่า:
ความรู้ใหม่เกิดความกระจ่างแจ้งในวันนี้
หากลูกเตรียมดวงวิญญาณพิเศษเช่นนี้ห้าถึงหกคน
เพราะลูกไม่สามารถมีการสนทนาประเภทนี้กับทุกคนได้
แต่เพียงกับแค่คนเหล่านั้นไม่กี่คนที่มาที่นี่โดยเฉพาะเป็นพิเศษเท่านั้น
ลูกจัดเตรียมตั๋วสำหรับพวกเขาที่จะพาพวกเขามาที่นี่
พวกเขาได้รับการหล่อเลี้ยงเป็นพิเศษเช่นกัน
จงมีการสนทนาจากใจถึงใจกับผู้ที่รู้จักเป็นอย่างดีที่มาและแน่นอนว่าให้สิ่งนั้นเข้ามาในสติปัญญาของเขาอย่างชัดเจนมาก
จงสร้างแผนเช่นนั้นที่พวกเขาจะไม่รู้สึกว่าลูกเพียงแค่มีความซาบซึ้งของตนเองอย่างมาก
แต่พวกเขาควรจะรู้สึกว่านี่คือสัจจะ สิ่งนี้ถูกกล่าวว่าเป็น “การโจมตีเป้าหมายโดยไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด”
อย่าปล่อยให้พวกเขาร้องออกมา แต่ร่ายรำในความสุข ค้นหาวิธีใหม่ในการให้คำบรรยาย
มีการบรรยายมากมายหลายครั้งสำหรับสันติภาพโลก มีความจำเป็นสำหรับจิตวิญญาณ
ไม่มีสิ่งใดสามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากพลังทางจิตวิญญาณ
สิ่งนี้ถูกตีพิมพ์ไว้ในหนังสือพิมพ์ แต่พลังทางจิตวิญญาณคืออะไร?
ความรู้ทางจิตวิญญาณคืออะไร? ใครเป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งนั้น?
พวกเขายังไม่ได้มาไกลถึงขนาดนี้
ให้พวกเขาควรจะเข้าใจว่างานของพระเจ้ากำลังดำเนินอยู่ ในปัจจุบันพวกเขาพูดว่า
พวกลูกซึ่งเป็นผู้หญิงกำลังทำงานที่ดีมาก ตามเวลา
แผ่นดินนี้จะต้องถูกเตรียมด้วยเช่นกัน เช่นที่ลูกชายแสดงให้เห็นพ่อ เช่นเดียวกัน
พ่อก็แสดงให้เห็นลูกชาย ขณะนี้คือพ่อที่แสดงให้เห็นลูกชาย
ดังนั้นเสียงที่ดังนี้จะช่วยชักธงแห่งการเปิดเผยได้ ลูกเข้าใจไหม?
ลูกเข้าใจสิ่งที่ลูกต้องทำสำหรับปี golden jubilee การฉลองครบรอบ50ปีนี้ใช่ไหม?
ในสถานที่อื่นลูกยังต้องพิจารณาถึงบรรยากาศ
แต่บ้านของพ่อเป็นบ้านของลูกและเป็นเวทีของลูก
ดังนั้นในสถานที่เช่นนั้นลูกสามารถส่งเสียงดังของการเปิดเผยนี้
หากแม้กระทั่งเพียงไม่กี่คนมีศรัทธาในสติปัญญาเกี่ยวกับประเด็นนี้
พวกเขาก็จะกระจายเสียงนี้ออกไป ผลลัพธ์ขณะนี้คืออะไร?
ผู้ที่เข้ามาติดต่อหรือผู้ที่อยู่ในสายใยและรู้สึกถึงความรักคือผู้ที่กำลังทำงานรับใช้
พวกเขากำลังพาผู้อื่นเข้ามามีสายใยและให้ความรักแก่พวกเขา
ยิ่งพวกเขาเองกลับมาเป็นสิ่งนี้มากเท่าไหร่ พวกเขาก็กำลังทำงานรับใช้มากเท่านั้น
สิ่งนี้เรียกว่าความสำเร็จเช่นกัน อย่างไรก็ตามเวลานี้ลูกจะต้องก้าวต่อไปข้างหน้า
จากการมีชื่อเสียงที่ไม่ดี ชื่อของลูกจะได้รับการประกาศเกียรติคุณ
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยหวาดกลัวในขณะที่เวลานี้พวกเขาต้องการที่จะมา
ดังนั้นจึงมีความแตกต่างอย่างมาก ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ต้องการได้ยินชื่อของลูก
ในขณะที่เวลานี้พวกเขาต้องการจะกล่าวถึงชื่อของลูก
สิ่งนี้เช่นกันคือความสำเร็จที่ลูกได้รับใน 50 ปี ต้องใช้เวลาสำหรับการเตรียมสนาม
อย่าได้คิดว่าลูกใช้เวลา 50 ปีที่ลูกจะประสบความสำเร็จมากในสิ่งนี้
ดังนั้นจะเกิดอะไรขึ้นอีก? ก่อนอื่นต้องใช้เวลาในการพรวนดินและเตรียมให้พร้อม
ไม่ได้ใช้เวลานานในการเพาะเมล็ด ผลที่ทรงพลังจะปรากฏออกมาจากเมล็ดที่ทรงพลัง
อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ก็ต้องเกิดขึ้น
อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นแล้วเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ลูกเข้าใจไหม?
(มองดูลูกๆจากต่างแดน): ลูก คือ ชัททรัคที่ดีมาก
พ่อบราห์มาได้ให้กำเนิดลูกหลังจากที่ปลุกเรียกลูกเป็นเวลาที่ยาวนาน
ลูกเกิดมาด้วยการปลุกเรียกเป็นพิเศษ การเกิดของลูกใช้เวลานานมากอย่างแน่นอน
แต่ลูกก็เกิดมาอย่างดีและมีพลานามัยที่ดี เสียงของพ่อกำลังมาถึงลูก
และลูกก็เข้ามาใกล้ในเวลาที่ถูกต้อง พ่อบราห์มามีความสุขเป็นพิเศษ ถ้าพ่อมีความสุข
ลูกๆก็จะมีความสุขเช่นกัน แต่พ่อบราห์มามีความรักเป็นพิเศษ
ด้วยเหตุนี้แม้ว่าลูกส่วนใหญ่จะไม่เคยเห็นพ่อบราห์มา
ประสบการณ์ของลูกราวกับว่าลูกได้เห็นท่าน ภาพมีชีวิตขึ้นมาเพื่อลูก
นี่คือคุณสมบัติพิเศษ ลูกดวงวิญญาณมีความร่วมมือแห่งความรักเป็นพิเศษต่อพ่อบราห์มา
ชาวบารัตมีคำถามว่า “ทำไมต้องบราห์มา ทำไมต้องเป็นผู้นี้โดยเฉพาะเป็นพิเศษ”
แต่ลูกๆจากต่างประเทศถูกดึงดูดมาหาพ่อบราห์มาทันทีที่ลูกมาและผูกพันอยู่กับท่านด้วยความรัก
ดังนั้นนี่เป็นพรพิเศษของความร่วมมือ ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ว่าลูกไม่เคยเห็นท่าน
ลูกก็มีประสบการณ์ว่าได้รับการเลี้ยงดูอย่างมากจากท่าน ลูกพูดว่า “บราห์มาบาบา”
จากส่วนลึกในหัวใจของลูก นี่เป็นสายใยของความรักที่ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ
ไม่ใช่เช่นนั้นที่พ่อจะคิดว่า
ทำไมพวกเขาถึงมาหลังจากที่ฉันไปสู่สภาพที่อะแวคหรือสภาพที่ละเอียดอ่อน?
ลูกไม่ได้คิดเช่นนี้ และบราห์มาก็ไม่ได้คิดเช่นนี้ ท่านเพียงแต่อยู่เบื้องหน้าลูก
รูปที่ละเอียดอ่อนกำลังให้การหล่อเลี้ยงเช่นเดียวกับรูปที่มีตัวตน
ลูกมีประสบการณ์ในสิ่งนี้ใช่ไหม? ดังนั้นครูที่ดีมากมายมีความพร้อมในเวลาอันสั้น
นานเท่าไรแล้วที่งานรับใช้เริ่มขึ้นในต่างประเทศ? มีครูมากมายแค่ไหนที่พร้อม?
เป็นสิ่งที่ดี บัพดาดายังคงเห็นความรักต่องานรับใช้ที่ลูกมีอย่างต่อเนื่อง
เพราะการเลี้ยงดูที่ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษที่ลูกได้รับ
สันสการ์พิเศษที่เห็นในพ่อบราห์มาคืออะไร?
ท่านสามารถอยู่ได้โดยไม่มีงานรับใช้หรือไม่?
เพราะผู้ที่อาศัยอยู่ห่างไกลในต่างประเทศมีความร่วมมือของการหล่อเลี้ยงเป็นพิเศษ
พวกเขามีความจริงจังและกระตือรือร้นอย่างมากสำหรับงานรับใช้
ลูกจะทำอะไรอีกสำหรับงานฉลองครบรอบ 50 ปี (Golden jubilee) ?
ตัวลูกเองจะกลายเป็นทอง และการครบรอบก็เป็นทองเช่นกัน เป็นสิ่งที่ดี
แน่นอนว่าจงให้ความใส่ใจกับการรักษาสมดุลของตนเองกับงานรับใช้
ความก้าวหน้าของตนเองและความก้าวหน้าในงานรับใช้
ด้วยการรักษาสมดุลลูกก็จะกลายเป็นเครื่องมือในการให้พรแก่ตนเองและแก่ดวงวิญญาณอื่นๆ
ลูกเข้าใจไหม? ในขณะที่วางแผนเกี่ยวกับงานรับใช้
ก่อนอื่นให้ความใส่ใจกับสภาพของตัวลูกเองก่อน แล้วเมื่อนั้นจะมีพลังในแผนนั้น
แผนนั้นคือเมล็ด หากเมล็ดไม่มีพลัง
หากเมล็ดไม่มีพลังแล้วไม่ว่าลูกจะทำงานหนักมากแค่ไหนมันก็จะไม่ให้ผลที่สูงส่ง
ดังนั้นพร้อมกับการวางแผน จะต้องเติมพลังให้กับแผนนั้นด้วยสภาพของลูกเอง
ลูกเข้าใจไหม? อัจชะ
ถึงผู้ที่เปิดเผยสัจจะ
ถึงผู้ที่เฝ้าแต่รักษาสมดุลของสัจจะและความถ่อมตนอย่างสม่ำเสมอ
ถึงผู้ที่พิสูจน์คำแนะนำของพ่อผู้เดียวด้วยทุกคำพูด
ถึงผู้ที่ได้รับความสำเร็จผ่านความก้าวหน้าในตนเอง
ถึงผู้ที่ชักธงแห่งการเปิดเผยพ่อในงานรับใช้ ถึงลูกที่แท้จริงของสัตกูรู
และพ่อที่แท้จริง ด้วยความรัก การจดจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
ในช่วงเวลาแห่งการอำลา ดาดี้จีกำลังลาไปโบปาล:
มีงานรับใช้ในการไปและงานรับใช้ในการกลับมา ลูก ๆ
ที่กลายเป็นเครื่องมือในงานรับใช้จะมีงานรับใช้ในทุกความคิดในทุกวินาทีของพวกเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นลูกความจริงจังและความกระตือรือร้นของพวกเขาจะเพิ่มขึ้น
พวกเขาจะจดจำพ่อ
พวกเขาจะก้าวไปข้างหน้าในงานรับใช้และเหตุนี้เองความสำเร็จจึงอยู่กับลูกเสมอ
ลูกกำลังนำพ่อไปกับลูกและประสบความสำเร็จกับลูกด้วยเช่นกัน
ไม่ว่าลูกจะไปที่ใดก็จะประสบความสำเร็จที่นั่น (พูดกับโมฮินีเบน):
ลูกกำลังจะเดินทางไปท่องทัวร์เพื่อเยี่ยมเยือนพวกเขา
การไปเยี่ยมเยือนพวกเขาหมายถึงการให้ความร่วมมือกับดวงวิญญาณมากมายในการพัฒนาตนเอง
พร้อมกันนั้นถ้าลูกมีโอกาสอยู่บนเวที จงทำเช่นนั้นแล้วกลับมาให้การบรรยายใหม่
ลูกเริ่มต้นก่อนและลูกจะกลายเป็นอันดับหนึ่ง
ไม่ว่าลูกจะไปที่ใดผู้คนจะพูดว่าอย่างไร?
พวกเขาจะพูดว่าลูกได้นำความรักและความทรงจำระลึกถึงจากบัพดาดามาหรือไม่?
เช่นเดียวกับที่บัพดาดาให้พลังแห่งความรักและความร่วมมือ
ในทำนองเดียวกันลูกก็ให้พลังแห่งความรักและความร่วมมือที่ลูกได้รับจากพ่ออย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ในการที่จะทำให้ทุกคนโบยบินด้วยความจริงจังและความกระตือรือร้น
จงเฝ้าแต่พูดคติพจน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ทุกคนจะเฝ้าแต่ร่ายรำอย่างมีความสุข
ทำให้ทุกคนร่ายรำด้วยความสุขทางจิตวิญญาณและด้วยธรรมชาติที่สนุกสนานของลูก
สอนทุกคนให้ทำความพยายามอย่างมีความสุขและก้าวไปข้างหน้า
พร:
ขอให้ลูกรู้จักวงจรของตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณญาณี และเป็นที่รักของพระเจ้า
สำหรับดวงวิญญาณที่รู้ว่าดวงวิญญาณมีบทบาทอะไรในวงจรโลกนี้หมายความว่าพวกเขาคือผู้ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
การปลูกฝังความรู้ของวงจรทั้งหมดอย่างถูกต้องในสติปัญญาของลูกคือการควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
การรู้จักวงจรของตนเองหมายถึงการเป็นดวงวิญญาณที่มีความรู้
ดวงวิญญาณญาณีเช่นนั้นเป็นที่รักของพระเจ้า มายาไม่สามารถอยู่เบื้องหน้าพวกเขาได้
กงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองนี้จะทำให้ลูกเป็นผู้ปกครองโลกในอนาคต
คติพจน์:
ให้ลูกแต่ละคนกลายเป็นเหมือนพ่อ
แล้วข้อพิสูจน์ในทางปฏิบัติและปวงประชาต่างๆจะถูกจัดเตรียมได้อย่างง่ายดาย