06.05.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน
ในขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก
จงกลายเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์เช่นนั้นที่ลูกจะไม่ถูกดึงเข้าหาสิ่งใด
กลายเป็นขอทานที่จะไม่มีสิ่งใดเป็นของลูก
คำถาม:
อะไรคือจุดหมายปลายทางของลูกโดยผ่านความเพียรพยายามของลูก?
คำตอบ:
เมื่อลูกตาย
โลกก็จะตายไปจากลูก นี่คือจุดหมายปลายทางของลูก
ความผูกพันยึดมั่นต่อร่างกายทั้งหมดต้องตัดออกไป
จงกลายเป็นขอทานเช่นนั้นที่ลูกดวงวิญญาณจะกลับมาปราศจากร่างและลูกจะไม่จดจำสิ่งใด
ฉันเพียงแต่ต้องกลับบ้าน
เพียงผู้ที่ทำความเพียรพยายามเช่นนั้นเท่านั้นที่จะเปลี่ยนจากขอทานเป็นเจ้าชาย
เพียงลูกๆเท่านั้นที่จะกลับมามั่งคั่งจากยากจนและยากจนจากมั่งคั่ง
เมื่อลูกมั่งคั่งก็จะไม่มีคนยากจนแม้แต่คนเดียว
โอมชานติ
พ่อถามลูกๆ
เป็นดวงวิญญาณที่รับฟังหรือร่างกายที่รับฟัง? (ดวงวิญญาณ)
ดวงวิญญาณจะรับฟังด้วยร่างกายอย่างแน่นอน ลูกๆเขียนว่า
ดวงวิญญาณของผู้นั้นผู้นี้กำลังจดจำบัพดาดา
ดวงวิญญาณของผู้นั้นผู้นี้กำลังจะไปยังสถานที่นั้นสถานที่นี้ในวันนี้
ราวกับว่าได้มีการปลูกฝังนิสัยนี้“ฉันคือดวงวิญญาณ”ในตัวลูก
เพราะลูกๆต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ที่ใดก็ตามที่ลูกมองไป
ลูกรู้ว่ามีดวงวิญญาณและร่างกาย อย่างไรก็ตามมีสองดวงวิญญาณในผู้นี้(บราห์มา)
หนึ่งนั้นเรียกว่าดวงวิญญาณและอีกหนึ่งนั้นเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดเองพูดว่า
พ่อเข้ามาในร่างของผู้นี้ซึ่งดวงวิญญาณของเขาเองก็อยู่ด้วยเช่นกัน พ่อเข้ามาในเขา
ดวงวิญญาณไม่สามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีร่างกาย เวลานี้พ่อพูดว่า
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ เมื่อลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณลูกจะจดจำพ่อ
ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์และไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ
ยิ่งลูกสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งมากเท่าไหร่และดลใจให้ผู้อื่นสร้างสมมากเท่าไร
และยิ่งลูกกลายเป็นผู้ที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองและทำให้ผู้อื่นเป็นเช่นนั้นมากเท่าไร
ลูกก็จะยิ่งประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงมากเท่านั้น
หากลูกกลับมาสับสนเกี่ยวกับสิ่งนี้ ลูกก็สามารถถามได้ ฉันคือดวงวิญญาณแน่นอน
เพียงลูกๆเท่านั้นที่กลายเป็นบราห์มินที่พ่อพูด พ่อจะไม่บอกคนอื่น
พ่อรักลูกๆของพ่อเท่านั้น พ่อทุกคนก็รักลูกของเขา แม้ว่าพวกเขาจะรักผู้อื่นภายนอก
สติปัญญาของพวกเขาก็ตระหนักว่าผู้อื่นไม่ใช่ลูกของเขา พ่อพูดกับลูกๆเท่านั้น
เพราะเป็นเพียงลูกเท่านั้นที่พ่อต้องสอน
แล้วก็เป็นหน้าที่ของลูกที่จะสอนผู้คนภายนอก
บ้างก็เข้าใจอย่างรวดเร็วในขณะที่ผู้อื่นก็เข้าใจเล็กน้อยแล้วก็จากไป
เมื่อพวกเขาได้เห็นว่ามีการขยายตัวอย่างมากที่นี่ พวกเขาก็จะมาที่นี่ “ขอให้พวกเราไปและเห็นสิ่งที่พวกเขามี”
ลูกอธิบายว่า พ่อพูดกับลูกๆและดวงวิญญาณทั้งหมด จดจำพ่อ!
เพียงพ่อเท่านั้นที่ชำระดวงวิญญาณทั้งหมดให้บริสุทธิ์ ท่านพูดว่า
อย่าได้จดจำใครนอกจากพ่อ มีการจดจำระลึกถึงพ่อที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน
และลูกดวงวิญญาณจะกลับมาบริสุทธิ์ พ่อผู้เดียวเท่านั้นคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์
เป็นเพียงด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อเท่านั้นที่ดวงวิญญาณจะกลับมาบริสุทธิ์
เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า ลูกๆจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
พ่อผู้เดียวเท่านั้นที่เปลี่ยนอาณาจักรที่ไม่บริสุทธิ์เป็นอาณาจักรที่บริสุทธิ์และปลดปล่อยลูก
ท่านพาลูกไปที่ไหน? ไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ จากนั้นก็ดินแดนแห่งความสุข
สิ่งหลักคือการกลับมาบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่ง่ายดายที่จะอธิบายวงจรของ 84 ชาติเกิด
ทันทีที่ลูกเห็นรูปภาพ ศรัทธาก็ปลูกฝังในตัวลูก เหตุนี้เองบาบาจึงเฝ้าแต่พูดเสมอว่า
เปิดพิพิธภัณฑ์ด้วยความโอฬารตระการตา และแล้วความโอฬารตระการนั้นจะดึงดูดผู้คน
หลายคนก็จะมาและลูกสามารถบอกพวกเขาได้ว่า
พวกเรากำลังจะกลายเป็นสิ่งนี้ด้วยการทำตามศรีมัทของพ่อ พ่อพูดว่า
จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอและสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง
ลูกควรจะมีเข็มกลัดติดหน้าอกอยู่กับลูกอย่างแน่นอน
ลูกรู้ว่าลูกจะเปลี่ยนจากขอทานเป็นเจ้าชาย ก่อนอื่นลูกจะกลายเป็นเช่นกฤษณะ
ถ้าลูกไม่กลายเป็นเช่นกฤษณะ,ลูกก็จะไม่สามารถกลายเป็นเหมือนนารายณ์ได้
เป็นเพียงเมื่อลูกเติบโตขึ้นจากการเป็นเด็กเท่านั้นที่ลูกจะได้รับชื่อว่า “นารายณ์”
ภาพลักษณ์ทั้งสองอยู่ในสิ่งนี้(เข็มกลัด) ลูกกำลังจะกลายเป็นสิ่งนี้
เวลานี้ลูกทั้งหมดกลายเป็นขอทาน บราห์มากุมารและกุมารีเหล่านี้เป็นขอทานด้วยเช่นกัน
พวกเขาไม่มีสิ่งใดเลย การเป็นขอทานหมายถึง การเป็นผู้ที่ไม่มีสิ่งใดเลย
เราจะไม่เรียกใครบางคนว่าเป็นขอทาน บาบานี้คือขอทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ลูกต้องกลายเป็นขอทานที่สมบูรณ์ที่นี่
ขณะที่อยู่ที่บ้านลูกต้องตัดแรงดึงดูดทั้งหมดของลูก
ตามละครลูกได้ตัดแรงดึงดูดทั้งหมดของลูกแล้ว
เพียงผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาให้สิ่งใดก็ตามที่พวกเขามีกับบาบา
พวกเขาพูดว่า โอ พระเจ้า! ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ท่านให้แก่เราทั้งหมดนั้นเป็นของท่าน
ไม่ใช่ของฉัน นั่นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ในเวลานั้นบาบาอยู่ห่างไกล
เวลานี้บาบาอยู่ใกล้มาก ขณะที่ท่านอยู่เบื้องหน้าลูก ลูกต้องเป็นของท่าน ลูกพูดว่า
“บาบา!” ลูกต้องไม่มองดูที่ร่างของบาบา สติปัญญาของลูกก็ขึ้นไปสู่เบื้องบน
แม้ว่านี่คือร่างกายที่บาบาได้ยืมใช้ ก็อยู่ในสติปัญญาของลูกว่า
ลูกกำลังพูดกับชีพบาบา นี่คือพาหนะที่ท่านได้เช่าไว้ พาหนะนี้ไม่ได้เป็นของท่าน
เป็นที่แน่นอนว่ายิ่งผู้เช่ายิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ เขาก็จะได้รับค่าเช่ามากเท่านั้น
เจ้าของที่ดินก็จะดูว่าหากราชาต้องการสิ่งปลูกสร้างแล้วแทนที่จะเป็น 1000 เขาก็จะขอ
4000 เพราะเขารู้ว่าบุคคลนั้นมั่งคั่ง ราชาจะไม่มีวันพูดว่าคิดราคาแพงมากเกินไป
พวกเขาไม่ได้กังวลเรื่องเงิน ฯลฯ พวกเขาเองก็ไม่ได้พูดกับใคร (เกี่ยวกับเรื่องเงิน)
เลขาส่วนตัวของเขาก็จะพูดเกี่ยวกับสิ่งนี้
ทุกวันนี้ไม่มีอะไรได้ผลโดยที่ไม่ติดสินบน บาบามีประสบการณ์อย่างมาก
ผู้คนเหล่านั้นสูงศักดิ์มาก ทันทีที่พวกเขาเลือกบางสิ่งที่พวกเขาชอบ
พวกเขาจะขอให้เลขาของเขาไปเจรจาและนำสิ่งนั้นมาให้
เจ้าของร้านจะเก็บสินค้าทั้งหมดที่จัดแสดงไว้ในตู้โชว์สำหรับจักรพรรดิและจักรพรรดินี
ทั้งสองก็เพียงแต่ให้สัญญาณด้วยสายตาของเขาต่อที่สิ่งที่พวกเขาชอบ
และเลขาของเขาก็จะพูดกับเจ้าของร้านและได้รับค่านายหน้าของเขาเองด้วยเช่นกัน
ราชาบางคนก็ถือเงินไปกับเขาด้วย และขอให้เลขาของเขาให้เงินนั้นกับเจ้าของร้าน
บาบาเคยมีการติดต่อกับทุกคน ท่านรู้ว่าพวกเขาปฏิบัติตนอย่างไร
เช่นที่ราชามีผู้ดูแลทรัพย์สิน ดังนั้นชีพบาบาก็มีผู้ดูแลทรัพย์สินเช่นกัน
เขาคือผู้ดูแลผลประโยชน์ บาบาไม่ได้มีความผูกพันยึดมั่นใดๆต่อสิ่งนี้
ผู้นี้ก็ไม่ได้มีความผูกพันยึดมั่นใดๆกับเงินของเขา และเขาได้ให้ทุกสิ่งกับชีพบาบา
ดังนั้นเขาจะมีความผูกพันยึดมั่นต่อทรัพย์สมบัติของชีพบาบาได้อย่างไร?
เขาคือผู้ดูแลผลประโยชน์ ทุกวันนี้รัฐบาลก็ได้สำรวจผู้ที่มีความมั่งคั่งอย่างมากมาย
เมื่อผู้คนมาจากต่างประเทศ พวกเขาก็จะสืบค้นอย่างระมัดระวังมาก
เวลานี้ลูกรู้แล้วว่าลูกต้องกลายเป็นขอทานอย่างไร ลูกไม่ควรจะจดจำสิ่งใด
ดวงวิญญาณต้องกลับมาปราศจากร่าง อย่าได้แม้แต่จะคิดว่าร่างกายนั้นเป็นของลูก “ไม่ควรจะมีสิ่งใดที่เป็นของฉัน”
พ่ออธิบายว่า พิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณ เวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน
ลูกรู้ว่าลูกต้องกลายเป็นขอทานอย่างไร
ความผูกพันยึดมั่นทั้งหมดต่อร่างกายควรจะถูกทำลาย เมื่อลูกตาย
โลกก็ตายไปจากลูกด้วยเช่นกัน นี่คือจุดหมายปลายทางของลูก
ลูกเข้าใจว่าสิ่งที่บาบาพูดนั้นถูกต้อง เวลานี้เราต้องกลับบ้าน
ไม่ว่าลูกจะให้สิ่งใดกับชีพบาบา
ลูกก็จะได้รับผลตอบแทนของสิ่งนั้นในชาติเกิดต่อไปของลูก เหตุนี้เองลูกจึงพูดว่า
พระเจ้าได้ให้ทั้งหมดนี้
ลูกได้มีการทำกรรมที่ดีในชาติเกิดก่อนหน้านี้และดังนั้นลูกจึงได้รับผลของสิ่งนั้น
ชีพบาบาไม่ได้เก็บสิ่งใดของใครเลย
ผู้คนก็ให้ของขวัญแก่ราชาและเจ้าของที่ดินที่ยิ่งใหญ่ ฯลฯ
บ้างก็รับของขวัญเหล่านั้นในขณะที่ผู้อื่นไม่รับ ที่นั่นลูกไม่ได้ให้ทานหรือทำบุญ
เพราะที่นั่นทุกคนมีความมั่งคั่งมากมาย แล้วลูกจะให้ทานแก่ใคร? ไม่มีคนยากจนใดๆ
อยู่ที่นั่น ลูกเองได้กลายเป็นผู้ที่มั่งคั่งจากยากจนและยากจนจากมั่งคั่ง
ผู้คนก็พูดกับพระเจ้าว่า “โปรดให้ผู้นี้มีสุขภาพที่ดี!” “โปรดเมตตาด้วยเถิด!” “โปรดทำสิ่งนี้!”
ก่อนหน้านี้ผู้คนก็เพียงแต่ร้องขอชีพบาบาเท่านั้น
และแล้วพวกเขาก็กลับมามีสิ่งเจือปน
และดังนั้นพวกเขาจึงไปอยู่เบื้องหน้าทุกคนและพูดว่า เติมอาภรณ์ของพวกเราด้วยเถิด!
พวกเขามีสติปัญญาที่เป็นหินเช่นนั้น
พวกเขาพูดว่าพระเจ้าเปลี่ยนผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหินให้กลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่สูงส่ง
ดังนั้นลูกๆลูกควรจะมีความสุขอย่างมาก ได้มีการจดจำกันว่า
หากลูกต้องการที่จะรู้เกี่ยวกับความสุขที่เหนือประสาทสัมผัส,ให้ถามโก๊ปและโก๊ปี้ของโก๊ปี้วัลลาภ(พ่อของโก๊ปและโก๊ปี้)
เมื่อใครบางคนได้ประโยชน์อย่างมากเขาก็จะมีความสุขมาก
ดังนั้นลูกๆควรจะอยู่อย่างมีความสุขมากด้วยเช่นกัน ลูกเคยมีความสุข 100%
แล้วความสุขนั้นก็ลดลงมาเรื่อยๆ เวลานี้ลูกไม่มีอะไรเลย
ในตอนแรกลูกก็มีอำนาจในการปกครองที่ไม่มีขีดจำกัด
และแล้วก็มีอาณาจักรที่มีขีดจำกัดเป็นระยะเวลาชั่วคราว
ดูซิว่าเบอร์ล่านั้นมีความมั่งคั่งมากมายเพียงใด! เขาสร้างวัดอยู่เรื่อยๆ
ไม่ได้รับอะไรจากสิ่งนั้น เขาไม่ได้ให้อะไรแก่ผู้ที่ยากจน
เขาได้สร้างวัดที่ซึ่งผู้คนไปและโค้งคำนับ ใช่ ถ้าใครบางคนให้ทานแก่คนจน,เขาก็สามารถได้รับผลตอบแทนของสิ่งนั้น
เมื่อใครบางคนสร้างธรรมศาลาที่ซึ่งผู้คนมากมายไปและพักผ่อน
และแล้วเขาก็จะได้รับความสุขในชาติเกิดต่อไปของเขาเป็นระยะเวลาชั่วคราว
หากใครบางคนสร้างโรงพยาบาลแล้วเขาก็จะได้รับความสุขชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งชาติเกิดเช่นกัน
ดังนั้นพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ
มีคำยกย่องของยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้อย่างมากมาย
ลูกกำลังจะกลายเป็นมนุษย์ที่สูงส่งที่สุดที่ทำตามกฎเกณฑ์ระเบียบวินัยของการใช้ชีวิตที่สูงสุด
และกำลังได้รับการยกย่องอย่างมากมายด้วยเช่นกัน เมื่อพระเจ้ามา
ท่านสอนลูกๆบราห์มินเท่านั้น ท่านผู้เดียวเท่านั้นคือมหาสมุทรแห่งความรู้
ท่านคือเมล็ดของทั้งต้นไม้โลกมนุษย์นี้ ท่านอธิบายแก่ลูกถึงความลับของตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของทั้งละคร
เมื่อผู้คนถามลูกว่า ท่านสอนอะไรกับลูก ให้ถามพวกเขาว่า
ท่านได้ลืมไปแล้วหรือที่พระเจ้าพูดไว้ในกีตะว่า “พ่อทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา”?
ลูกเข้าใจความหมายของสิ่งนี้ในเวลานี้
ราชาที่ไม่บริสุทธิ์ก็กราบไหว้บูชาราชาที่บริสุทธิ์ และเหตุนี้เองพ่อพูดว่า
พ่อทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา ลักษมีและนารายณ์นี้เคยเป็นนายของโลก
ในยุคทองแดงและยุคเหล็ก,ทุกคนก้มลงและกราบไหว้บูชาเหล่าเทพแห่งสวรรค์
ลูกเข้าใจสิ่งเหล่านี้ในเวลานี้ ผู้เลื่อมใสศรัทธาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
พวกเขาเพียงแค่ศึกษาและรับฟังเรื่องราวของคัมภีร์ พ่อถามว่า
ลูกเคยสัมผัสกับการบรรลุผลใดๆจากกีตะที่ลูกเคยศึกษาและฟังมาเป็นเวลาครึ่งวงจรหรือไม่?
ลูกไม่ได้รับการเติมเต็มใดๆจากสิ่งนั้น เวลานี้ลูกกำลังได้รับการเติมเต็ม
ลูกรู้ว่าบทบาทนี้ได้มีการเล่นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น พระเจ้าเองพูดว่า
พ่อเข้ามาในร่างนี้ พ่อพูดผ่านผู้นี้ และดังนั้นท่านจะเข้ามาในเขาอย่างแน่นอน
ท่านจะให้คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติจากเบื้องบนนั้นหรือไม่? ท่านพูดว่า
พ่อมาที่นี่เป็นการส่วนตัว เวลานี้ลูกกำลังรับฟังสิ่งนี้
แม้แต่บราห์มานี้ก็ไม่รู้สิ่งใด แต่เวลานี้ท่านก็จะเข้าใจต่อไปเรื่อยๆด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามน้ำของแม่น้ำคงคาไม่สามารถชำระลูกให้บริสุทธิ์ได้
นี่เป็นเรื่องของความรู้
ลูกรู้ว่าพ่อกำลังนั่งอยู่ที่นี่เบื้องหน้าลูกเป็นการส่วนตัว
และดังนั้นสติปัญญาของลูกไม่ควรจะขึ้นไปสู่เบื้องบน นี่คือพาหนะของท่าน
บาบาเรียกผู้นี้ว่ารองเท้าบูทและเป็นภาชนะด้วยเช่นกัน ท่านคือเพชรที่อยู่ในภาชนะนี้
ท่านนั้นชั้นหนึ่ง ควรจะมีการวางท่านไว้ในภาชนะทองคำ
ท่านกำลังทำให้ภาชนะนี้มีสภาพเป็นของยุคทอง บาบาพูดว่า
สิ่งสกปรกก็ได้ออกไปจากเสื้อผ้าเมื่อคนซักผ้าทุบตีเสื้อผ้าเหล่านั้น
สิ่งนี้เรียกว่าเวทมนตร์ สิ่งนี้เรียกว่ามันตราวิเศษ ด้วยมันตราวิเศษนี้,ลูกจะได้รับการหลุดพ้นในชีวิตในหนึ่งวินาที
และเหตุนี้เองท่านจึงเรียกว่าเป็นนักมายากลด้วยเช่นกัน
ลูกมีศรัทธาในหนึ่งวินาทีว่าลูกจะกลายเป็นสิ่งนี้
เวลานี้ลูกกำลังฟังสิ่งเหล่านี้ในทางปฏิบัติ
ก่อนหน้านี้เมื่อลูกเคยฟังเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริง ลูกเข้าใจหรือไม่?
ในเวลานั้น,ในเวลาของการรับฟังเรื่องราว,ลูกก็จะจดจำแผ่นดินในต่างแดน เรือกลไฟ ฯลฯ
ผู้คนจะรับฟังเรื่องราวของนารายณ์ที่แท้จริง และแล้วก็ไปในการเดินทางของพวกเขา
แต่แล้วพวกเขาก็จะกลับมา พ่อพูดว่า ลูกจะไม่กลับมายังโลกที่สกปรกนี้
บารัตเคยเป็นดินแดนแห่งอมตะ, สวรรค์, อาณาจักรของเหล่าเทพ
ลักษมีและนารายณ์นี้เคยเป็นนายของโลก เคยมีความบริสุทธิ์,ความสงบและความสุขในอาณาจักรของพวกเขา
โลกกำลังร้องขอสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน ควรจะมีความสงบในโลก
ทุกคนควรจะรวมกันและกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน
ศาสนาเหล่านี้ทั้งหมดจะสามารถรวมกันและเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร?
ศาสนาของแต่ละคนและรูปลักษณ์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน
ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจะสามารถกลายเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร?
นั่นคือดินแดนแห่งความสงบและความสุข มีศาสนาเดียวและอาณาจักรเดียวที่นั่น
ไม่มีศาสนาอื่นใดที่นั่นที่จะมีความขัดแย้งใดๆ นั่นเรียกว่าความสงบในโลก
เวลานี้พ่อกำลังสอนลูกๆ
ลูกรู้ด้วยเช่นกันว่าไม่ใช่ลูกทุกคนที่จะศึกษาได้ในระดับเดียวกัน
เป็นสิ่งที่ตามลำดับกันไป อาณาจักรกำลังมีการก่อตั้งขึ้น
มีการทำให้ลูกรู้คิดอย่างมาก! นี่คือมหาวิทยาลัยของพระเจ้า
ผู้เลื่อมใสศรัทธานั้นก็ไม่ได้เข้าใจ พวกเขาเคยได้ยินมาหลายครั้งว่า พระเจ้าพูด
เพราะกีตะคือคัมภีร์ศาสนาของผู้คนของบารัต มีคำยกย่องกีตะที่ไร้ขีดจำกัด
กีตะคือเพชรพลอยของคัมภีร์ทั้งหมด, เป็นคัมภีร์ที่สูงสุด
เพชรพลอยของคัมภีร์ทั้งหมดหมายถึงคัมภีร์ที่สูงส่งที่สุด
ผู้ชำระให้บริสุทธิ์และผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์สำหรับทุกคนคือพระเจ้าผู้เดียวที่เป็นพ่อของดวงวิญญาณทั้งหมด
ผู้คนของบารัตไม่เข้าใจความหมายของสิ่งนี้
พวกเขาเพียงแต่พูดโดยไม่เข้าใจว่าทุกคนคือพี่น้องกัน
เวลานี้พ่อได้อธิบายแก่ลูกแล้วว่า พวกเราคือพี่น้องเพศชาย
พวกเราคือผู้อาศัยในดินแดนแห่งความสงบ ในขณะที่กำลังเล่นบทบาทของพวกเราที่นี่
พวกเราก็ลืมพ่อของเราและบ้านของเราด้วยเช่นกัน
ทุกคนลืมพ่อที่ให้อาณาจักรของทั้งโลกแก่บารัต
เพียงพ่อเท่านั้นที่อธิบายความลับทั้งหมดนี้ อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะมีประสบการณ์กับความสุขที่เหนือประสาทสัมผัส
จงมีสำนึกรู้ว่านี่คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
เมื่อพระเจ้าสอนลูกที่จะทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา
เวลานี้เรามีความรู้ของตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของละคร
2.
เวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน
ดังนั้นจงกลายเป็นขอทานอย่างสมบูรณ์แม้แต่ในเรื่องเกี่ยวกับร่างกายของลูก
ลืมร่างกายและพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่ปราศจากร่าง
พร:
ขอให้ลูกเป็นนายผู้ประทานและมีความเมตตาเหมือนกับพ่อโดยการให้อภัยทุกคนและให้ความรักแก่พวกเขา
เช่นที่ได้มีการกล่าวว่าพ่อมีความเมตตา
ในทำนองเดียวกันลูกๆก็เป็นนายที่มีความเมตตาด้วยเช่นกัน
เพียงผู้ที่มีความเมตตาเท่านั้นที่จะสามารถให้คุณประโยชน์แก่ผู้อื่นได้และให้อภัยผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับพวกเขา
พวกเขาเป็นมหาสมุทรแห่งความรัก พวกเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากความรัก
ในปัจจุบันมีความต้องการความรักยิ่งกว่าความมั่งคั่ง
ดังนั้นจงกลายเป็นนายผู้ประทานและให้ความรักแก่ทุกคนต่อไป
ไม่ควรจะมีใครจากไปมือเปล่า
คติพจน์:
เมื่อลูกมีความปรารถนาที่จะเป็นผู้เพียรพยายามอย่างจริงจังแล้วที่ใดมีความปรารถนาลูกจะพบหนทางอย่างแน่นอน