21.12.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ลูกๆ ดวงวิญญาณต้องชาร์ทแบตเตอรี่ของลูกด้วยพลังของความรู้และโยคะ และเหตุนั้นเองทำให้ตัวลูกเองสโตประธาน ไม่ใช่ด้วยการอาบในน้ำ

คำถาม:
ใครทำให้ดวงวิญญาณมนุษย์ทั้งหมดเร่รอนอย่างไร้จุดหมายในเวลานี้? เหตุใดเขาจึงทำให้ลูกเร่ร่อน?

คำตอบ:
เป็นราวันที่ทำให้ทุกคนเร่ร่อนอย่างไร้จุดหมายเพราะตัวเขาเองกำลังเร่ร่อนอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่มีบ้านของเขาเอง ไม่มีใครเรียกราวันว่า “บาบา” พ่อมาจากบ้านของท่าน, อาณาเขตสูงสุด (พารามดาม) เพื่อแสดงจุดหมายปลายทางให้แก่ลูก เวลานี้ลูกรู้จักบ้านของลูก ลูกไม่เร่ร่อนอีกต่อไป ลูกพูดว่าลูกได้แยกห่างจากพ่อก่อนและดังนั้นลูกจะกลับบ้านก่อน

โอมชานติ
ลูกๆที่สุดแสนหวานในขณะที่นั่งที่นี่ ลูกรู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ชีพบาบาผู้ที่เข้ามาในผู้นี้จะพาเรากลับบ้านไปกับท่านอย่างแน่นอน นั่นคือบ้านของดวงวิญญาณ ลูกๆจะมีประสบการณ์ของความสุขอย่างแน่นอนเพราะพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดมาเพื่อทำให้เราสวยงาม ไม่ใช่ว่าท่านทำให้เราสวมใส่เสื้อผ้า สิ่งนี้เรียกว่าพลังโยคะ พลังของการจดจำระลึกถึง ไม่ว่าครูจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพใดก็ตาม เขาก็สามารถทำให้นักเรียนของเขาได้รับสถานภาพตามนั้น นักเรียนสามารถเข้าใจได้จากการศึกษาของพวกเขาว่าเขาจะกลายเป็นอะไร ลูกเข้าใจเช่นกันว่าบาบาของลูกเป็นครูและสัตกูรูของลูกด้วยเช่นกัน นี่คือประเด็นใหม่ เราจดจำบาบาของเราในฐานะที่เป็นครูของเราด้วยเช่นกัน นี่คือสิ่งที่ท่านกำลังสอนให้เราเป็น บาบาที่ไม่มีขีดจำกัดของเรามาเพื่อพาเรากลับบ้านไปกับท่าน ราวันไม่มีบ้านของตนเอง รามมีบ้าน ชีพบาบาอาศัยอยู่ที่ไหน? ลูกจะพูดอย่างรวดเร็วว่า “อาณาเขตสูงสุด” ราวันจะไม่เรียกว่า “บาบา” ราวันอาศัยอยู่ที่ไหน? ไม่มีใครรู้ ลูกจะไม่พูดว่าราวันอาศัยอยู่ในอาณาเขตสูงสุด ไม่เลย ราวกับว่าเขาไม่มีจุดหมายปลายทาง เขาเพียงแต่เร่ร่อนทั่วไปและทำให้ลูกเร่ร่อนไปทั่วเช่นกัน ลูกจดจำราวันหรือไม่? ไม่ เขาทำให้ลูกเร่ร่อนไปทั่วอย่างมาก: ลูกศึกษาคัมภีร์ ทำความเลื่อมใสศรัทธา ทำสิ่งนี้และสิ่งนั้น พ่อพูดว่า สิ่งนั้นเรียกว่าหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา อาณาจักรของราวัน คานธีก็เคยพูดเช่นกันว่าควรมีอาณาจักรของราม ชีพบาบาของเราได้เข้ามาในพาหนะนี้ ท่านเป็นพ่ออาวุโส ท่านพูดคุยกับเราดวงวิญญาณและพูดว่า ลูกๆ เวลานี้พ่อทางจิตอยู่ในสติปัญญาของลูก และลูกๆทางจิตก็อยู่ในสติปัญญาของพ่อทางจิต การเชื่อมโยงของเราเป็นไปกับโลกที่ไม่มีตัวตน ดวงวิญญาณได้แยกห่างจากดวงวิญญาณสูงสุดเป็นเวลานาน ดวงวิญญาณทั้งหลายอาศัยอยู่ที่นั่นกับพ่อ และแล้วก็ได้แยกห่างจากท่านเพื่อมาเล่นบทบาทของพวกเขา จะต้องมีบัญชีเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งนี้ เวลานี้ลูกกำลังศึกษาการศึกษานี้ ลูกผู้ที่ศึกษาอย่างดีก็ตามลำดับกันไป พวกเขาเป็นผู้ที่แยกห่างจากพ่อก่อน แล้วพวกเขาก็เป็นผู้ที่จดจำพ่ออย่างมากและก็จะกลับไปหาพ่อก่อน บาบานั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกทั้งหมดถึงความลับที่ลึกล้ำของทั้งวงจรโลก ไม่มีใครอื่นรู้สิ่งนี้ ความรู้นี้สามารถเรียกได้ว่าความรู้ที่ลึกล้ำและสามารถเรียกได้ว่าเป็นความรู้ที่ลึกล้ำที่สุด ลูกรู้ว่าพ่อไม่ได้นั่งอยู่ข้างบนนั้นขณะที่อธิบายแก่เรา ลูกรู้ว่าท่านลงมาที่นี่เพื่ออธิบายทั้งหมดนี้ พ่อคือเมล็ดของต้นกัลปะ ต้นไม้โลกมนุษย์นี้มีชื่อว่าต้นกัลปะเช่นกัน ผู้คนในโลกนี้ไม่รู้อะไรเลย พวกเขากำลังนอนหลับใหลอยู่ในการหลับใหลของความไม่รู้ (กุมภกัณฑ์) และดังนั้นพ่อจึงมาเพื่อปลุกพวกเขาให้ตื่น เวลานี้ท่านได้ปลุกลูกๆ ในขณะที่คนอื่นยังคงนอนหลับอยู่ ลูกก็เคยหลับใหลเหมือนกุมภกัณฑ์ในการหลับที่เป็นเช่นปีศาจเช่นกัน พ่อมาและปลุกลูกให้ตื่น ท่านกล่าวว่า ลูกๆ ตื่นขึ้นมา! ลูกไม่ระมัดระวังและยังนอนหลับใหลอยู่ ที่เรียกว่าการนอนหลับของความไม่รู้ ทุกคนมีการนอนหลับประเภทอื่น พวกเขานอนหลับเช่นกันในยุคทอง ในปัจจุบันลูกทั้งหมดกำลังนอนหลับใหลอยู่ในการหลับของความไม่รู้ พ่อมาเพื่อปลุกลูกทั้งหมดโดยการให้ความรู้แก่ลูก เวลานี้ลูกๆ ได้ถูกปลุกให้ตื่นแล้ว ลูกรู้ว่าบาบามาแล้วและท่านจะพาเรากลับบ้านไปกับท่าน ทั้งร่างกายและดวงวิญญาณนี้ไม่มีประโยชน์ใดเลยในเวลานี้ ทั้งสองไม่บริสุทธิ์ มีอัลลอยด์ปะปนอยู่ ลูกสามารถเรียกได้ว่าทองคำเก้ากะรัตหรือมีทองคำอยู่น้อยมาก ทองคำแท้มี 24 กะรัต เวลานี้พ่อต้องการทำให้ลูกทุกคนเป็นทอง 24 กะรัต ท่านทำให้ลูกเป็นดวงวิญญาณยุคทองอย่างแท้จริง บารัตเคยได้ชื่อว่านกกระจอกทอง เวลานี้ลูกเรียกบารัตว่าเป็นนกกระจอกเหล็ก นกกระจอกของก้อนกรวดและหิน ถึงอย่างนั้นบารัตก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งเหล่านี้จะต้องเข้าใจ เช่นที่ดวงวิญญาณสามารถที่จะเข้าใจได้ ในทำนองเดียวกันดวงวิญญาณสูงสุดก็สามารถเข้าใจได้เช่นกัน พวกเขาพูดถึงดวงดาวที่เปล่งประกาย เป็นดวงดาวที่เล็กมาก พวกแพทย์ ฯลฯ ได้พยายามอย่างมากที่จะทดลองเพื่อเห็นดวงวิญญาณ อย่างไรก็ตามหากปราศจากสายตาที่ศักดิ์สิทธิ์/เทพนิมิตแล้วก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นดวงวิญญาณได้ ดวงวิญญาณละเอียดอ่อนมาก บางคนพูดว่าดวงวิญญาณออกไปทางตา บางคนก็พูดว่าวิญญาณออกไปทางปาก ดวงวิญญาณไปไหนเมื่อเขาจากร่างของเขา? ดวงวิญญาณไปและเข้าสู่อีกร่างหนึ่ง เวลานี้ลูกดวงวิญญาณกำลังจะขึ้นไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ ลูกแน่ใจมากว่าพ่อจะมาและจะพาลูกกลับบ้าน ในด้านหนึ่งมียุคเหล็กและอีกด้านหนึ่งมียุคทอง เวลานี้เราอยู่ที่ยุคบรรจบพบกัน มันน่าแปลกใจ! มีมนุษย์หลายพันล้านที่นี่ แต่ในยุคทองมีเพียงเก้าแสนเท่านั้น เกิดอะไรขึ้นกับส่วนที่เหลือของพวกเขา? การทำลายล้างเกิดขึ้น! พ่อเท่านั้นที่มาเพื่อก่อตั้งโลกใหม่ การก่อตั้งเกิดขึ้นโดยผ่านบราห์มา และแล้วมีการหล่อเลี้ยงผ่านรูปที่เป็นคู่ ไม่มีมนุษย์ที่มีสี่แขน จะไม่มีความงามเลยในสิ่งนั้น บาบาอธิบายแก่ลูกๆ ว่ารูปที่มีสี่แขนนั้นเป็นตัวแทนของรูปรวมของศรีลักษมีและศรีนารายณ์ “ศรี” หมายถึงสูงส่ง ในยุคเงินมีลดลงไปสององศา ลูกๆ ต้องตระหนักถึงความรู้ที่ลูกกำลังได้รับอยู่ในขณะนี้ สิ่งหลักคือการจดจำคำว่า: จดจำพ่อ! ไม่มีใครสามารถเข้าใจสิ่งนี้ เพียงพ่อเท่านั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ผู้ทรงอำนาจ พวกเขาร้องเพลงว่า “บาบา ท่านได้ให้ทุกสิ่งแก่เรารวมทั้งผืนดินและท้องฟ้า ไม่มีสิ่งใดที่ท่านไม่ได้ให้แก่เรา! ท่านให้อาณาจักรของทั้งโลกแก่เรา” ลูกรู้ว่าลักษมีและนารายณ์เคยเป็นนายของโลก วงจรของละครนี้ยังคงหมุนไป ลูกจะกลับมาปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิงตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามที่ลูกทำ ลูกรู้ว่าลูกกลายเป็นผู้ที่มีกิเลสจากปราศจากกิเลสและปราศจากกิเลสจากมีกิเลส ลูกได้เล่นบทบาทของ 84 ชาติเกิดมานับครั้งไม่ถ้วน ลูกไม่สามารถนับได้ ลูกสามารถนับจำนวนประชากรได้ แต่ลูกไม่สามารถนับว่ากี่ครั้งที่ลูกเปลี่ยนจากตโมประธานเป็นสโตประธาน หรือกี่ครั้งที่ลูกเปลี่ยนจากสโตประธานเป็นตโมประธาน บาบาพูดว่า วงจรนี้มี 5000 ปี นี่คือระยะเวลาที่ถูกต้องแม่นยำ หากเป็นเวลาหลายแสนปี ลูกจะไม่สามารถจดจำสิ่งใดได้ เวลานี้ลูกกำลังสร้างสมคุณธรรม ลูกได้รับดวงตาที่สามของความรู้ ลูกเห็นโลกเก่าด้วยดวงตาทางร่าง ลูกต้องใช้ดวงตาที่สามของความรู้ของลูกที่ลูกได้รับมาเพื่อเห็นโลกใหม่ โลกนี้ไม่มีประโยชน์ นี่เป็นโลกเก่า เพียงแต่ดูความแตกต่างระหว่างโลกใหม่และโลกเก่า! ลูกรู้ว่ามีเพียงลูกเท่านั้นที่เป็นนายของโลกใหม่ จากนั้นในขณะที่ใช้ 84 ชาติเกิด นี่คือสิ่งที่ลูกกลายเป็น! ลูกต้องจดจำสิ่งเหล่านี้อย่างดีมากแล้วอธิบายแก่ผู้อื่นว่าลูกกลายเป็นเช่นนี้อย่างไร บราห์มากลายเป็นวิษณุแล้ววิษณุกลายเป็นบราห์มา ลูกสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างบราห์มาและวิษณุ วิษณุกำลังนั่งอยู่ในรูปที่ได้รับการประดับประดาอย่างสวยงามในขณะที่บราห์มากำลังนั่งในรูปที่ธรรมดา ลูกรู้ว่าบราห์มานี้จะกลายเป็นวิษณุ เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะอธิบายให้แก่ใครก็ตามถึงความสัมพันธ์ระหว่างบราห์มา,วิษณุและชางก้า ลูกรู้ว่าวิษณุเป็นรูปที่เป็นคู่ของลักษมีและนารายณ์ วิษณุเทพกลายเป็นบราห์มาที่เป็นมนุษย์ธรรมดา วิษณุเป็นของยุคทองและบราห์มาเป็นของที่นี่ พ่อได้อธิบายว่าใช้เวลาเพียงหนึ่งวินาทีที่จะกลายเป็นวิษณุจากบราห์มา แต่ใช้เวลา 5000 ปีที่เปลี่ยนจากวิษณุเป็นบราห์มา กับลูกก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่เป็นเพียงผู้เดียวนี้เท่านั้นที่กลายเป็นบราห์มา ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถอธิบายสิ่งเหล่านี้แก่ลูก ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับมนุษย์หรือกูรูที่นี่ กูรูของผู้นี้คือชีพบาบา และกูรูของลูกบราห์มินก็คือชีพบาบาด้วยเช่นกัน ท่านได้ชื่อว่าสัตกูรู ดังนั้นลูกๆ ต้องจดจำชีพบาบาเท่านั้น เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะบอกใครให้จดจำชีพบาบา ชีพบาบาสร้างโลกใหม่แห่งสวรรค์ พระเจ้าชีวาเป็นผู้ที่สูงสุด ท่านคือบาบาของพวกเราดวงวิญญาณทั้งหมด ดังนั้นพระเจ้าพูดกับลูกๆ ว่า: จดจำฉัน พ่อของลูก! นี่เป็นสิ่งที่ง่ายมากที่จะจดจำ เมื่อเด็กทารกเกิดมา คำว่า “แม่ แม่” ก็จะออกมาจากปากของเขาโดยอัตโนมัติ เขาจะไม่ไปหาใครนอกจากพ่อแม่ของเขา แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่แตกต่างกันถ้าแม่ตาย อันดับแรกคือแม่และพ่อ จากนั้นก็มีเพื่อนฝูงและญาติมิตร ฯลฯ มีผู้เป็นคู่ในนั้นด้วยเช่นกัน; ลุงป้าน้าอา เมื่อกุมารีกลายเป็นหญิงสาว บางคนก็เรียกเธอว่าน้าและบางคนก็เรียกว่าอา พ่ออธิบายกับลูกว่า เวลานี้ลูกทั้งหมดเป็นพี่น้องกัน ความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมดของลูกถูกยกเลิกไปแล้ว เมื่อลูกคิดว่าตนเองเป็นพี่น้อง ลูกก็จะจดจำพ่อผู้เดียว พ่อพูดด้วยเช่นกันว่า ลูกๆ จดจำฉัน,พ่อของลูก! ท่านเป็นพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด,ผู้อาวุโสที่สุดของเรา บาบาอาวุโสมาเพื่อให้มรดกที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูก บาบาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า มานมานะบาฟ! พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ อย่าได้ลืมสิ่งนี้! เป็นด้วยการมีสำนึกที่เป็นร่างที่ลูกลืม ก่อนอื่นใดลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ เราดวงวิญญาณคือซาลิแกรม เราต้องจดจำพ่อผู้เดียว พ่อบอกลูกว่า: พ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ ด้วยการจดจำพ่อ,แบตเตอรี่ซึ่งว่างเปล่าของลูกจะเต็มเปี่ยมและลูกจะกลับมาสโตประธานลูกเคยสำลักในน้ำของแม่น้ำคงคามาชาติแล้วชาติเล่า แต่ลูกก็ไม่สามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้ น้ำจะเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร? เป็นเพียงด้วยความรู้เท่านั้นที่ลูกได้รับการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ ในปัจจุบันโลกนั้นหลอกลวงและเต็มไปด้วยดวงวิญญาณบาป การให้และการรับของลูกก็เป็นไปกับดวงวิญญาณบาปด้วยเช่นกัน ลูกได้กลายเป็นดวงวิญญาณบาปด้วยความคิด,คำพูดและการกระทำ เวลานี้ลูกๆได้รับความเข้าใจแล้ว ลูกพูดว่าลูกกำลังเพียรพยายามที่จะกลายเป็นเช่นลักษมีและนารายณ์เวลานี้ลูกได้หยุดทำพิธีความเลื่อมใสศรัทธาแล้ว มีเพียงด้วยความรู้เท่านั้นที่จะสามารถมีการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ เทพเหล่านั้นเคยอยู่อย่างหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ พ่อได้อธิบายว่าผู้นี้อยู่ในชาติเกิดสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขา พ่ออธิบายทุกสิ่งอย่างง่ายมาก! ลูกๆ ทำความเพียรพยายามอย่างมาก ลูกทำความเพียรพยายามนี้ทุกวงจร ลูกต้องเปลี่ยนโลกเก่าเป็นโลกใหม่ พวกเขาพูดว่าพระเจ้าเป็นนักมายากล,พ่อค้าเพชรและนักธุรกิจ ท่านเป็นนักมายากล ท่านเปลี่ยนโลกเก่าแห่งนรกให้เป็นสวรรค์ ดังนั้นจึงมีการแสดงมายากลอย่างมากมาย เวลานี้ลูกกำลังกลายเป็นชาวสวรรค์ และลูกรู้ว่าในปัจจุบันลูกกำลังอาศัยอยู่ในนรก สวรรค์แยกจากนรก วงจรนี้คือ 5000 ปี ไม่สามารถเป็นเรื่องของหลายแสนปีได้ ลูกต้องไม่ลืมสิ่งเหล่านี้ มีคำพูดของพระเจ้า จะต้องมีใครบางคนผู้อยู่เหนือการกลับมาใช้ชาติเกิดอย่างแน่นอน กฤษณะมีร่างกายของเขาเองในขณะที่ชีวาไม่มี ดังนั้นท่านต้องการปากของใครบางคนอย่างแน่นอนที่ท่านสามารถให้ความรู้นี้แก่ลูกได้ ท่านมาที่นี่เพื่อสอนลูก ตามละครพ่อมีความรู้ทั้งหมด ท่านมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในทั้งวงจรเพื่อเปลี่ยนดินแดนแห่งความทุกข์ให้เป็นดินแดนแห่งความสุข ลูกได้รับมรดกแห่งความสงบและความสุขของลูกจากพ่ออย่างแน่นอน และนี่คือสิ่งที่ลูกๆ ต้องการอีกครั้ง เหตุนี้เองลูกจึงจดจำพ่อ ดูซิว่าพ่อให้ความรู้นี้แก่ลูกง่ายเพียงใด ในขณะที่ลูกกำลังนั่งอยู่ที่นี่ ลูกต้องจดจำพ่อและจดจำการตีลังกานี้ด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งนี้คือ “มานมานะบาฟ”เช่นกัน พ่อคือผู้เดียวเท่านั้นที่ให้ความรู้ทั้งหมดนี้ ลูกบอกผู้อื่นว่าลูกกำลังจะได้พบพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดนั่นคือพ่อกำลังแสดงหนทางสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุขแก่เรา ในขณะที่ลูกกำลังนั่งอยู่ที่นี่ลูกควรจดจำบ้านของลูกด้วยเช่นกัน พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ลูกต้องจดจำพ่อ,บ้านและโลกใหม่ โลกเก่านี้กำลังจะถูกทำลายอย่างแน่นอน เมื่อลูกก้าวหน้า, ลูกจะจดจำสวรรค์อย่างมาก ราวกับว่าลูกไปสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า ในตอนเริ่มต้น, ลูกสาวเคยนั่งด้วยกันและไปไวยกุณฑ์ (สวรรค์) ครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อคนจากครอบครัวสำคัญได้เห็นสิ่งนี้, พวกเขาก็ส่งลูกของพวกเขามา ในเวลานั้นสถานที่นั้นเรียกว่าโอมนิวาส มีเด็กจำนวนมากมาแล้วก็เกิดความปั่นป่วน ท่านเคยสอนเด็กๆ และพวกเขาจะเข้าฌานโดยอัตโนมัติ บทบาทของนิมิตและการเข้าฌานได้หยุดลงแล้วในเวลานี้ พวกเขาจะสมมุติว่าเป็นสุสาน ทุกคนถูกสั่งให้นอนลงและบอกว่า จดจำชีพบาบา! แล้วพวกเขาจะเข้าฌาน เวลานี้ลูกๆก็เป็นนักมายากลด้วยเช่นกัน ใครก็ตามที่ลูกมองดูจะเข้าฌานอย่างรวดเร็วเช่นกัน มายากลนี้น่าอัศจรรย์มาก! เพียงเมื่อผู้คนที่ทำความเลื่อมใสศรัทธาอย่างจริงจังเท่านั้นที่พร้อมจะสังเวยชีวิตของพวกเขาที่ทำให้พวกเขาได้รับนิมิต พ่อเองมาที่นี่ ท่านให้การศึกษาแก่ลูกๆ และทำให้ลูกสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง เมื่อลูกก้าวหน้าไป ลูกๆ จะมีนิมิตมากมาย หากลูกจะถามพ่อในเวลานี้ ท่านก็สามารถที่จะบอกลูกว่าใครจะกลายเป็นดอกกุหลาบ ใครจะกลายเป็นดอกมะลิ และใครจะกลายเป็นดอกไม้ที่ไม่มีกลิ่นหอมเลย อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ยกเลิกความสัมพันธ์ทางร่างกายทั้งหมดของลูกและมีศรัทธาว่าดวงวิญญาณทั้งหมดเป็นพี่น้องเพศชาย จดจำพ่อและประกาศสิทธิ์ในมรดกที่เต็มเปี่ยมของลูก

2. เวลานี้การให้และการรับของลูกไม่เป็นไปกับดวงวิญญาณบาปอีกต่อไป ปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นจากการนอนหลับของความไม่รู้ของพวกเขา และแสดงหนทางไปสู่อาณาเขตแห่งความสงบและอาณาเขตแห่งความสุขให้แก่พวกเขา

พร:
ขอให้ลูกละวางและมีความรักและพิจารณาว่าตนเองเป็นตัวอย่างด้วยการเก็บสัญลักษณ์ดอกบัวไว้ในสติปัญญาของลูก

สัญลักษณ์สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในครัวเรือนคือดอกบัว ดังนั้นจงนำสิ่งนี้ไปปฏิบัติและกลายเป็นดอกบัว หากลูกไม่ฝึกฝนสิ่งนี้ลูกจะไม่สามารถกลายเป็นดอกบัวได้ ดังนั้นให้เก็บสัญลักษณ์ดอกบัวไว้ในสติปัญญาของลูกและเคลื่อนไปพร้อมกับพิจารณาว่าตนเองเป็นตัวอย่าง ในขณะที่ทำงานรับใช้จงละวางและมีความรัก ไม่เพียงแค่มีความรัก แต่ต้องละวางก่อนแล้วจึงมีความรัก เพราะบางครั้งความรักสามารถเปลี่ยนเป็นความผูกพันยึดมั่นได้ ดังนั้นในขณะที่ทำงานรับใช้ใด ๆ จงละวางและมีความรัก

คติพจน์:
มายาไม่สามารถมาอยู่ภายใต้ร่มฉัตรแห่งการปกป้องของความรักได้