12.10.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ด้วยการได้รับการเหลือบมองเพียงแวบเดียวจากพ่อ
มนุษย์ทั้งโลกก็สามารถไปอยู่เหนือทุกสิ่ง
เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่าดวงวิญญาณไปอยู่เหนือทุกสิ่งด้วยการเหลือบมองเพียงแวบเดียว
คำถาม:
เหตุใดจึงมีการตีกลองแห่งความสุขในหัวใจของลูกๆ?
คำตอบ:
เพราะลูกรู้ว่าบาบามาเพื่อพาทุกคนกลับไปกับท่าน
เวลานี้พวกเราจะกลับบ้านกับพ่อของเรา
หลังจากเสียงร้องแห่งความทุกข์ก็จะมีเสียงร้องแห่งชัยชนะ
ด้วยการได้รับการเหลือบมองเพียงแวบเดียวจากพ่อ
ทั้งโลกก็จะได้รับมรดกของการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
ทั้งโลกจะไปอยู่เหนือทุกสิ่ง
โอมชานติ
ชีพบาบาทางจิตกำลังนั่งที่นี่และอธิบายให้แก่ลูกๆทางจิตของท่าน
ลูกรู้ว่ามีดวงตาที่สาม
พ่อรู้ว่าท่านได้มาเพื่อที่จะให้มรดกของดวงวิญญาณของทั้งโลกแก่พวกเขา
มีการจดจำระลึกถึงมรดกในหัวใจของพ่อเท่านั้น
ในหัวใจของพ่อทางร่างด้วยก็มีการจดจำระลึกถึงของมรดก
เขาจดจำว่าเขาจะให้มรดกแก่ลูกๆของเขา หากเขาไม่มีบุตรชาย
เขานั้นก็สับสนว่าเขาควรจะให้มรดกนั้นแก่ใคร และแล้วเขาก็นำเด็กมาเลี้ยงดู
พ่อกำลังนั่งที่นี่และสายตาของท่านนั้นก็ถูกดูดดึงไปหาดวงวิญญาณของทั้งโลก
ท่านรู้ว่าท่านต้องให้มรดกแก่ทุกคน แม้ว่าท่านกำลังนั่งอยู่ที่นี่
สายตาของท่านนั้นก็อยู่ที่ทั้งโลกและอยู่ที่มนุษย์ทั้งหมดของโลก
เพราะท่านต้องนำทั้งโลกไปอยู่เหนือทุกสิ่ง พ่ออธิบายว่า
นี่คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ลูกรู้ว่าพ่อได้มาเพื่อพาทุกคนไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
ทุกคนจะไปอยู่เหนือทุกสิ่ง วงจรแล้ววงจรเล่า, ตามแผนของละคร,
พวกเขาจะไปอยู่เหนือทุกสิ่ง พ่อจดจำลูกๆทั้งหมด
สายตาของท่านนั้นถูกดูดดึงเข้าไปหาทุกคน แต่ไม่ใช่ทุกคนศึกษาเล่าเรียน
ตามแผนของละคร,ทุกคนต้องกลับบ้าน เพราะการละเล่นกำลังจะจบสิ้นลง
เมื่อพวกเขาก้าวหน้าไปอีกเล็กน้อย,
พวกเขาเองก็จะเข้าใจว่าในขณะนี้การทำลายล้างกำลังจะเกิดขึ้น
ในขณะนี้ต้องมีการก่อตั้งโลกใหม่ขึ้น อย่างไรก็ตาม ดวงวิญญาณนั้นคือผู้มีความรู้สึก
และดังนั้นก็จะเข้าไปสู่สติปัญญาของพวกเขาว่าพ่อได้มาแล้ว
ดินแดนสุขาวดีจะมีการก่อตั้งขึ้นและพวกเราจะกลับไปสู่ดินแดนแห่งความสงบ
ทุกคนอื่นจะได้รับการหลุดพ้น แต่ลูกจะได้รับการหลุดพ้นในชีวิต
เวลานี้บาบาได้มาแล้วและพวกเราจะไปสู่สวรรค์ จะมีเสียงร้องของชัยชนะ
ในขณะนี้มีเสียงร้องของความทุกข์ระทมอย่างมาก
ในบางแห่งก็มีความอดอยากในบางแห่งนั้นก็มีสงคราม
และในอีกแห่งหนึ่งนั้นก็มีแผ่นดินไหว ผู้คนนับพันๆ ก็ตายอย่างต่อเนื่อง
ความตายต้องเกิดขึ้น สิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในยุคทอง
พ่อรู้ว่าในเวลานี้ท่านจะไปและแล้วก็จะมีเสียงร้องแห่งชัยชนะเหนือทั้งโลก
พ่อจะมาในบารัตเท่านั้น บารัตจะเป็นเหมือนกับหมู่บ้านที่อยู่ภายในทั้งโลกนี้
สำหรับบาบาก็เป็นเหมือนกับหมู่บ้าน
จะมีมนุษย์น้อยนิดอย่างยิ่งในยุคทองราวกับว่าทั้งโลกนั้นเป็นเหมือนกับหมู่บ้านเล็กๆ
ในเวลานี้มีการขยายตัวอย่างมาก
พ่อมีทุกสิ่งในสติปัญญาของท่านและเวลานี้ท่านกำลังอธิบายแก่ลูกๆผ่านร่างนี้
ในเวลานี้ความเพียรพยายามของลูกเป็นเช่นเดียวกันกับที่เคยเป็นในวงจรที่แล้ว
พ่อคือเมล็ดของต้นกัลปะ
นี่คือต้นไม้ที่มีตัวตนและเหนือขึ้นไปบนนั้นคือต้นไม้ที่ไม่มีตัวตน
ลูกเข้าใจว่าได้มีการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมาอย่างไร ไม่มีมนุษย์อื่นใดมีความเข้าใจนี้
เพียงแต่มองดูความแตกต่างระหว่างผู้ที่รู้คิดและผู้ที่ไม่รู้คิด
ผู้ที่รู้คิดเคยปกครองอาณาจักรแห่งสวรรค์
สิ่งนั้นเรียกว่าดินแดนแห่งสัจจะหรือสวรรค์
ในเวลานี้ลูกๆควรจะมีประสบการณ์ของความสุขภายในอย่างมากมาย
บาบาได้มาแล้วและอย่างแน่นอนที่โลกเก่านี้กำลังจะเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม
อะไรก็ตามที่ลูกทำความเพียรพยายาม ลูกก็ได้รับสถานภาพตามนั้น พ่อกำลังสอนทุกคน
โรงเรียนของลูกก็จะเฝ้าแต่ขยายตัว จะมีโรงเรียนมากมาย
ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถมาโรงเรียนเดียวกันได้ พวกเขาทั้งหมดจะสามารถอยู่ที่ใดกันเล่า?
ลูกๆจดจำว่าเวลานี้ลูกกำลังจะไปสู่ดินแดนแห่งความสุข เมื่อใครบางคนไปต่างแดน
เขาก็อยู่ที่นั่นเป็นเวลา 8 – 10 ปี และแล้วก็กลับมาสู่บารัต บารัตนั้นยากจน
ผู้คนจากต่างแดนนั้นก็จะไม่มีความสุขที่นี่ ในความเป็นจริงลูกๆ
นั้นก็ไม่ได้มีความสุขที่นี่เช่นกัน
ลูกรู้ว่าลูกกำลังศึกษาการศึกษาที่สูงส่งอย่างยิ่งที่จะทำให้ลูกกลายเป็นเทพ
นายแห่งสวรรค์ จะมีความสุขอย่างมากมายที่นั่น ทุกคนจดจำความสุขนั้น
ลูกจะไม่จดจำหมู่บ้านนี้(ยุคเหล็ก)เพราะมีความทุกข์ที่ไม่มีขีดจำกัดที่นี่
วันนี้ในอาณาจักรของราวันโลกที่ไม่บริสุทธิ์นี้มีความทุกข์ที่ไม่มีขีดจำกัด
ในขณะที่โลกของวันพรุ่งนี้ก็จะมีความสุขที่ไม่มีขีดจำกัด
พวกเรากำลังก่อตั้งโลกของความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดด้วยพลังโยคะ นี่คือราชาโยคะ
พ่อตัวท่านเองนั้นพูดว่า
พ่อทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชาและดังนั้นลูกควรจะจดจำครู,
ผู้ที่ทำให้ลูกกลายเป็นเช่นนั้น
ลูกไม่สามารถจะกลายเป็นนักกฎหมายหรือวิศวกรโดยที่ไม่มีครู นี่คือประเด็นใหม่
ดวงวิญญาณต้องมีโยคะกับพ่อ ดวงวิญญาณสูงสุด,
ผู้เดียวที่ลูกนั้นได้แยกห่างจากท่านมาเป็นเวลายาวนาน นั่นเป็นเวลานานเพียงไร?
พ่อตัวท่านเองอธิบายสิ่งนี้ มนุษย์พูดว่าระยะเวลาของโลกนี้หลายแสนปี พ่อพูดว่า
ไม่เลย
ลูกๆผู้ที่ได้แยกห่างมาตั้งแต่แรกเริ่มนั้นก็ได้มาที่นี่เพื่อพบกับพ่ออีกครั้งหลังจาก
5000 ปี ลูกคือผู้ที่ต้องทำความเพียรพยายาม
บาบานั้นไม่ได้ให้ความยากลำบากใดๆเลยแก่ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ท่านเพียงแต่พูดว่า
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ลูกคือมนุษย์
ดวงวิญญาณนั้นคงอยู่ตลอดไปและร่างกายนั้นสูญสลาย
ดวงวิญญาณละร่างหนึ่งและใช้อีกร่างหนึ่ง
เป็นความมหัศจรรย์ที่ดวงวิญญาณนั้นไม่เคยแก่ลงเลย
ผู้เดียวที่สอนนั้นก็มหัศจรรย์และการศึกษาเล่าเรียนนั้นก็มหัศจรรย์ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามไม่มีใครจดจำสิ่งนี้ ทุกคนลืม
มีใครจดจำสิ่งที่เขาเคยศึกษาเล่าเรียนมาในชาติเกิดที่แล้วของเขาไหม?
ลูกศึกษาเล่าเรียนในชาติเกิดนี้และลูกได้รับผลลัพธ์ในโลกใหม่
เพียงลูกๆเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้
ลูกควรจะจดจำว่าในเวลานี้คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด
ลูกกำลังจะไปสู่โลกใหม่ หากลูกจดจำสิ่งนี้, ลูกก็จะจดจำพ่อด้วยเช่นกัน
พ่อได้ชี้หลายต่อหลายวิธีการที่จะจดจำท่านให้แก่ลูก ท่านคือพ่อ ครูและสัทกูรู
จดจำท่านในทั้งสามรูป ท่านได้ให้ยุคตีมากมายแก่ลูกสำหรับการจดจำระลึกถึง
แต่มายาก็ทำให้ลูกลืม
พ่อก่อตั้งโลกใหม่และเป็นพ่อผู้ที่บอกลูกให้จดจำว่านี่คือยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคล
แต่กระนั้นลูกก็ยังคงไม่สามารถที่จะมีการจดจำระลึกถึง
ท่านได้ชี้วิธีการต่างๆมากมายสำหรับการจดจำระลึกถึงให้แก่ลูก
และพร้อมกันกับสิ่งนั้นท่านก็พูดว่า มายานั้นก็มีพลังอย่างยิ่ง
เธอจะทำให้ลูกลืมซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทำให้ลูกมีสำนึกที่เป็นร่าง ดังนั้น
มากเพียงไรก็ตามที่เป็นไปได้ จงจดจำท่านอย่างต่อเนื่อง เมื่อลูกเดิน นั่ง
และเคลื่อนไหวไปมา แทนการที่จะคิดว่าตนเองเป็นร่างกาย จงคิดว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
สิ่งนี้อาศัยความเพียรพยายาม ในขณะที่ความรู้นั้นง่ายดายอย่างยิ่ง
ลูกๆทั้งหมดพูดว่าพวกเขาไม่สามารถจะอยู่ในการจดจำระลึกถึงได้
ลูกพยายามที่จะจดจำพ่อและมายาก็ดึงลูกเข้าไปหาตัวเธอเอง
ได้มีการสร้างการละเล่นเกี่ยวกับสิ่งนี้
ถึงแม้ว่าลูกเข้าใจว่าโยคะของสติปัญญาของลูกควรจะอยู่กับพ่อและอยู่กับวิชาของการศึกษานี้,
ลูกก็ยังคงลืม ยังไรก็ตามลูกไม่ควรลืม ในความเป็นจริง,ไม่มีความจำเป็นสำหรับภาพเหล่านี้
แต่ลูกนั้นก็ยังต้องการบางสิ่งอยู่เบื้องหน้าลูกในเวลาของการสอน
ภาพต่างๆมากมายก็มีการทำขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่มองดูแผนการของรัฐบาลพันดาบ
รัฐบาลนั้นก็มีแผนการด้วย
ลูกเข้าใจว่าเคยเป็นเพียงบารัตเท่านั้นในโลกใหม่และนั่นก็เล็กอย่างยิ่ง
ทั้งบารัตนั้นเคยเป็นนายของโลก ทุกสิ่งนั้นใหม่
มีเพียงโลกเดียวเท่านั้นและนักแสดงก็เป็นเช่นเดียวกันด้วย วงจรหมุนไปอย่างต่อเนื่อง
ลูกสามารถที่จะนับว่ามีกี่วินาที กี่ชั่วโมง กี่วัน
กี่ปีที่ได้ผ่านไปแล้วเมื่อวงจรหมุนไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพูดว่าวันนี้
วันพรุ่งนี้, วันนี้ วันพรุ่งนี้ 5000 ปีก็ได้ผ่านไปแล้ว ฉาก ทิวทัศน์
และเกมทั้งหมดก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้นไม้ที่ไม่มีขีดจำกัดนี้ใหญ่โตอย่างยิ่ง
ลูกไม่สามารถจะนับใบไม้ของต้นไม้ได้ นี่คือต้นไม้และรากฐานของต้นไม้ก็คือศาสนาเทพ
และแล้วสามกิ่ง(ศาสนาหลัก)ก็ได้ปรากฏขึ้น
อย่างไรก็ตามมีใบไม้จำนวนนับไม่ถ้วนบนต้นไม้นี้
ไม่มีใครมีแรงที่จะนับใบไม้เหล่านั้น
ในเวลานี้ต้นไม้ของทุกศาสนาได้ไปถึงจุดสิ้นสุดของการขยายตัว
นี่คือต้นไม้ที่ใหญ่โตที่ไม่มีขีดจำกัด
หลังจากนั้นก็ไม่มีศาสนาใดๆเหล่านี้จะหลงเหลืออยู่ เวลานี้ทั้งต้นไม้กำลังยืนอยู่
แต่รากฐานนั้นก็ไม่ได้หลงเหลืออยู่อีกต่อไป
ตัวอย่างของต้นไทรนั้นก็ถูกต้องอย่างแท้จริง ต้นไม้นี้เท่านั้นที่มหัศจรรย์
พ่อได้ใช้ตัวอย่างนี้ที่จะอธิบายละคร
เป็นเรื่องของความเข้าใจว่ารากฐานนั้นไม่ได้คงอยู่อย่างไร
พ่อได้ทำให้ลูกรู้คิดอย่างยิ่ง ในเวลานี้ไม่มีรากฐานใดๆของศาสนาเทพ
แต่มีสิ่งชี้บอกบางประการของสิ่งนั้น
สิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนกับหยิบหนึ่งของเกลือในถุงแป้ง ทุกสิ่งได้หายไปแล้ว
มีเพียงสิ่งชี้บอกเหล่านั้นเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่
ดังนั้นความรู้ทั้งหมดนี้ควรจะเข้าไปสู่สติปัญญาของลูกๆ
มีความรู้ในสติปัญญาของพ่อด้วย
ท่านได้ให้ความรู้ทั้งหมดและทำให้ลูกทัดเทียมกับตัวท่านเอง
พ่อคือเมล็ดและนี่คือต้นไม้กลับหัว นี่คือละครที่ใหญ่โตที่ไม่มีขีดจำกัด
ในเวลานี้สติปัญญาของลูกได้ถูกดึงขึ้นไปเบื้องบน
ลูกได้มาเพื่อที่จะรู้จักพ่อและสิ่งสร้าง
แม้ว่าได้มีการอ้างถึงสิ่งต่างๆเหล่านี้ในคัมภีร์ ฤาษีและมุนีก็ไม่ได้รู้
หากแม้เพียงหนึ่งคนรู้สิ่งนี้ และแล้วสิ่งนั้นก็สามารถคงอยู่อย่างไม่สิ้นสุด
และแล้วก็จะไม่มีความจำเป็นสำหรับสิ่งนั้นอีกครั้งเพราะชีวิตใหม่ที่ไม่มีกิเลสนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว
ไม่มีใครสามารถที่จะกลับบ้านไปในระหว่างกลางได้
นักแสดงทั้งหมดก็จะอยู่ที่นี่อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งการละเล่นนั้นจบลงและตราบเท่าที่ชีพบาบายังอยู่ที่นี่
และแล้วเมื่อสถานที่(โลกดวงวิญญาณ)นั้นว่างเปล่าอย่างแท้จริง,
ที่ขบวนพิธีของชีพบาบาก็จะกลับบ้าน ไม่มีใครจะไปและนั่งที่นั่นก่อนหน้านั้น
ดังนั้นพ่อนั่งที่นี่และให้ความรู้ทั้งหมดแก่ลูก ท่านอธิบายว่าวงจรโลกซ้ำรอยอย่างไร
มียุคทอง, ยุคเงิน, ยุคทองแดงและยุคเหล็ก และแล้วก็มีการบรรจบพบกัน
ได้มีการจดจำสิ่งนี้มา แต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ยุคบรรจบพบกันนั้นคงอยู่
ลูกๆได้เข้าใจแล้วว่ามีสี่ยุค และนี่คือยุคของการก้าวกระโดด
สิ่งนี้เรียกว่าเป็นสิ่งที่แคระแกรน
ได้มีการแสดงว่ากฤษณะนั้นเป็นคนแคระแกรนด้วยเช่นกัน ดังนั้นนี่คือความรู้
ด้วยการเปลี่ยนแปลงและด้วยการปรับเปลี่ยนนั้นก็เพียงแต่มองดูว่าพวกเขานั้นได้ทำสิ่งใดในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
เส้นด้ายทั้งหมดของความรู้นั้นก็ยุ่งเหยิงอย่างแท้จริง
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถอธิบายแก่พวกเขา
ผู้คนก็ไปต่างแดนเพื่อสอนราชาโยคะโบราณ ในความเป็นจริงสิ่งนี้คือโยคะนั้น
โบราณหมายถึงเป็นสิ่งแรกที่สุด พ่อได้มาเพื่อสอนราชาโยคะที่ง่ายดาย
ต้องมีการให้ความใส่ใจอย่างมาก ลูกให้ความใส่ใจที่จะมีการก่อตั้งสวรรค์ด้วยเช่นกัน
ดวงวิญญาณจดจำสิ่งนี้ พ่อพูดว่า
พ่อจะมาอีกครั้งและให้ความรู้เดียวกันที่พ่อให้แก่ลูกในเวลานี้
นี่คือความรู้ใหม่สำหรับโลกใหม่ ด้วยการเก็บความรู้นี้ไว้ในสติปัญญาของลูก
ก็จะมีประสบการณ์ของความสุขอย่างมากมาย ในเวลานี้มีเวลาเหลือน้อยมาก
ในเวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน ในด้านหนึ่งนั้นก็มีความสุข
และอีกด้านหนึ่งนั้นก็มีความรู้สึกว่าเราจะไม่ได้เห็นบาบาที่แสนหวานเช่นนั้นอีกครั้งจนกว่าจะถึงวงจรหน้าด้วยเช่นกัน
เพียงพ่อเท่านั้นที่ให้ความสุขอย่างมากมายแก่ลูกๆ
พ่อมาเพื่อพาลูกไปสู่ดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
หากลูกจดจำดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข
ลูกก็จะสามารถจดจำพ่อด้วยเช่นกันลืมดินแดนของความทุกข์นี้
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดได้บอกสิ่งที่ไม่มีขีดจำกัดแก่ลูก
เมื่อความผูกพันยึดมั่นต่อโลกเก่านั้นถูกขจัดทิ้ง ก็จะมีความสุข และแล้วในการตอบแทน,
ลูกก็จะไปสู่ดินแดนแห่งความสุข ลูกจะกลับมาสโตประธานอย่างต่อเนื่อง
ผู้ที่ได้กลายเป็นเช่นนี้ทุกๆวงจร ก็จะทำเช่นเดียวกันนั้นอีกครั้ง
พวกเขาจะมีประสบการณ์ของความสุข และแล้วพวกเขาก็จะจากร่างเก่าของเขา
และแล้วพวกเขาก็จะไปสู่โลกที่สโตประธานและนำร่างใหม่มาใช้
และแล้วความรู้นี้ก็จะจบสิ้นลง สิ่งต่างๆเหล่านี้ง่ายดายอย่างยิ่ง
ในเวลาของการเข้านอนในตอนกลางคืนจงไตร่ตรองสิ่งเหล่านี้และจะมีความสุขอย่างมากมายว่านี่คือสิ่งที่ลูกกำลังจะกลายเป็น
ตรวจสอบตนเองเพื่อจะดูว่าลูกได้ทำกรรมที่เป็นเช่นปีศาจใดตลอดทั้งวันหรือไม่?
กิเลสทั้งห้านั้นได้เป็นเหตุของความทุกข์ระทมใดๆ แก่ลูกหรือไม่? มีความละโมบใดๆ ไหม?
ลูกต้องเฝ้าแต่ตรวจสอบตนเอง อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ด้วยพลังของโยคะจงก่อตั้งโลกแห่งความสุขที่ไร้ขีดจำกัด
ลืมโลกเก่าแห่งความทุกข์นี้ จงมีความสุขว่าเรากำลังกลายเป็นนายของดินแดนแห่งสัจจะ
2. ตรวจสอบตนเองทุกวัน: มีกิเลสใดที่ทำให้เกิดความทุกข์ตลอดทั้งวันหรือไม่?
ฉันทำการกระทำที่เป็นเช่นปีศาจใดๆหรือไม่? ฉันตกภายใต้อิทธิพลของความละโมบหรือไม่?
พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่ให้ความร่วมมือและโยคีที่ง่ายดาย
ที่หลอมรวมอยู่ในความรักต่อพ่อผู้เดียวเสมอ
ลูกที่รักเหล่านั้นผู้ที่มีความรักที่ลึกซึ้งต่อพ่อจะให้ความร่วมมือในงานที่สูงส่งของพ่อเสมอ
และมากเท่าที่พวกเขาให้ความร่วมมือ พวกเขาก็จะกลายเป็นโยคีที่ง่ายดายมากตามนั้น
ดวงวิญญาณที่ให้ความร่วมมือที่หลอมรวมอยู่ในความรักต่อพ่อไม่มีวันร่วมมือกับมายาได้
พวกเขามี “บาบา” และงานรับใช้ในทุกความคิดของพวกเขา
ดังนั้นแม้กระทั่งเมื่อพวกเขานอนหลับ
พวกเขาก็นอนหลับอย่างสบายและได้รับความสงบและพลัง
การนอนของพวกเขาจะไม่ใช่การนอนหลับ
แต่จะเป็นราวกับว่าพวกเขามีรายได้มหาศาลและนอนลงด้วยความสุข
จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายนั้น
คติพจน์:
น้ำตาแห่งความรักกลายเป็นไข่มุกในภาชนะของหัวใจ