14.02.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน พิสูจน์ให้กับชาวบารัตว่าชีวาชยันตีคือคีตะชยันตี
และศรีกฤษณะชยันตีก็เกิดขึ้นด้วยกีตะ
คำถาม:
อะไรคือพื้นฐานหลักสำหรับการก่อตั้งศาสนาใดก็ตาม? งานใด ซึ่งพ่อเท่านั้นที่ทำ
ที่ผู้ก่อตั้งศาสนาไม่ได้ทำ?
คำตอบ:
สำหรับการก่อตั้งศาสนาใดก็ตาม จำเป็นต้องใช้พลังของความบริสุทธิ์
ศาสนาทั้งหมดสร้างขึ้นบนพื้นฐานของพลังของความบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม
ไม่มีผู้ก่อตั้งศาสนาใดสามารถชำระใครให้บริสุทธิ์เพราะเมื่อศาสนามีการก่อตั้งขึ้น
ก็เป็นอาณาจักรของมายาและพวกเขาทั้งหมดต้องอยู่อย่างไม่บริสุทธิ์
นี่เป็นหน้าที่ของพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ทำให้ผู้ไม่บริสุทธิ์นั้นบริสุทธิ์
ท่านผู้เดียวเท่านั้นที่ให้ศรีมัทที่จะกลับมาบริสุทธิ์
เพลง:
พาพวกเราออกไปจากโลกของบาปนี้สู่สถานที่ของการพักผ่อนและความสบายเถิด!
โอมชานติ
เวลานี้ลูกๆ
เข้าใจแล้วว่าโลกของบาปคืออะไรและโลกของบุญคืออะไร นั่นคือ โลกที่บริสุทธิ์คืออะไร
ในความเป็นจริงบารัตนี้คือโลกของบาปแล้วบารัตเองต่อมาได้กลายเป็นโลกของบุญ สวรรค์
บารัตเองเคยเป็นสรวงสวรรค์และบารัตก็ได้กลายเป็นนรกที่ลึกที่สุดเพราะพวกเขาเผาไหม้บนกองไฟของตัณหาราคะอย่างต่อเนื่อง
ที่นั่นไม่มีใครเผาไหม้บนกองไฟของตัณหาราคะ ไม่มีกองไฟของตัณหาราคะที่นั่น
ลูกจะไม่พูดว่ามีกองไฟของตัณหาราคะในยุคทอง ประเด็นเหล่านี้ต้องเป็นที่เข้าใจ
ก่อนอื่นใด คำถามก็เกิดขึ้น
บารัตซึ่งไม่บริสุทธิ์และไม่มีความสุขแน่นอนเคยบริสุทธิ์และมีความสุข
พวกเขาแม้กระทั่งพูดถึงศาสนาฮินดูดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป
แต่ใครที่จะเรียกได้ว่าเป็นผู้คนดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไป? ‘ดั้งเดิม’ หมายถึงอะไร
และ ‘คงอยู่ตลอดไป’ หมายถึงอะไร? ‘ดั้งเดิม’หมายถึงยุคทอง ใครคงอยู่ในยุคทอง?
ทุกคนรู้ว่าลักษมีและนารายณ์มีชีวิตอยู่ที่นั่น
แน่นอนที่พวกเขาจะเป็นลูกของใครบางคนด้วยเช่นกันที่พวกเขาได้กลายเป็นนายของยุคทอง
พวกเขาเป็นลูกของพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ผู้ที่ก่อตั้งยุคทอง อย่างไรก็ตาม
พวกเขาไม่พิจารณาว่าตนเองเป็นลูกของพ่อในเวลานี้ (ในยุคเหล็ก)
หากพวกเขาพิจารณาว่าตนเองเป็นลูกของพ่อ พวกเขาก็จะรู้จักพ่อ แต่พวกเขาไม่รู้จักพ่อ
ศาสนาฮินดูไม่ได้มีการกล่าวถึงในกีตะ
ชื่อบารัตได้มีการกล่าวถึงในกีตะและผู้คนเหล่านั้นก็เรียกได้ว่าเป็นเป็นผู้คนของฮินดูมหาสภา
ศรีมัทภควัทคีตาเป็นเพชรพลอยเป็นแม่ของทุกคัมภีร์
พวกเขาเฉลิมฉลองกีตะชยันตีและชีวาชยันตีด้วยเช่นกัน
ลูกควรรู้ว่าเมื่อไรคือชีวาชยันตี แล้วต่อมาก็มีกฤษณะชยันตี
เวลานี้ลูกรู้ว่าหลังจากชีวาชยันตี ก็เป็นกีตะชยันตี หลังจากกีตะชยันตี
ก็จะมีกฤษณะชยันตี ด้วยกีตะชยันตีเท่านั้นที่มีการก่อตั้งศาสนาเทพ
กีตะชยันตีนั้นมีการเชื่อมโยงกับมหาภารตะด้วยเช่นกันและมีสิ่งต่างๆเกี่ยวกับการรบราที่อ้างอิงไว้ในนั้น
พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่ามี 3 กองทัพในสนามรบ พวกเขาได้แสดงให้เห็นยาดาวาส
ฆราวาสและพันดาวาส ยาดาวาสคือผู้ที่ประดิษฐ์คิดค้นขีปนาวุธ
พวกเขาดื่มสุราและทำให้ขีปนาวุธขึ้นมา
ลูกรู้ว่าในเวลานี้ขีปนาวุธกำลังมีการประดิษฐ์ขึ้น
พวกเขากำลังข่มขู่กันและกันเพื่อทำลายวงสกุลของตนเอง พวกเขาทั้งหมดคือคริสเตียน
ชาวยุโรปก็เป็นยาดาวาสเช่นเดียวกันด้วย ดังนั้นนั่นเป็นชุมนุมของพวกเขา
พวกเขาถูกทำลายโดยการต่อสู้กันเอง ยุโรปทั้งหมดก็รวมอยู่ในนั้น ผู้ที่เป็นชาวอิสลาม
ชาวพุทธและชาวคริสเตียนทั้งหมดรวมอยู่ในนั้น ที่นี่มีฆราวาสและพันดาวาส
ฆราวาสถูกทำลายด้วยเช่นกันและพันดาวาสได้รับชัยชนะ เวลานี้มีคำถามเกิดขึ้น
ใครคือพระเจ้าของกีตะที่สอนราชาโยคะที่ง่ายดายและความรู้ที่ง่ายดายและทำให้ลูกกลายเป็นราชาเหนือราชา
นั่นคือใครก่อตั้งโลกที่บริสุทธิ์? ศรีกฤษณะมาเพื่อทำสิ่งนั้นหรือไม่?
ฆราวาสอยู่ในยุคเหล็ก ศรีกฤษณะจะมาในเวลาของฆราวาสและพันดาวาสได้อย่างไร?
พวกเขาฉลองศรีกฤษณะชยันตี เขามีความสมบูรณ์พร้อม 16 องศาในตอนเริ่มต้นของยุคทอง
หลังจากศรีกฤษณะ ก็เป็นชยันตีของรามผู้ที่มี 14 องศา กฤษณะนั้นเป็นราชาเหนือราชา
นั่นคือเป็นเจ้าชายเหนือเจ้าชายทั้งหลาย
แม้กระทั่งเจ้าชายที่มีกิเลสก็กราบไหว้บูชาศรีกฤษณะเพราะพวกเขารู้ว่าศรีกฤษณะนั้นมีความสมบูรณ์เต็ม
16 องศา เป็นเจ้าชายที่สมบูรณ์พร้อมของยุคทองและพวกเขาเองก็มีกิเลส
แน่นอนเจ้าชายจะพูดเช่นนี้ เวลานี้เป็นชีพชยันตี
สัญลักษณ์ที่ใหญ่โตที่สุดของท่านอยู่ในวัด นั่นคือวัดของชีวาที่ไม่มีตัวตน
ท่านผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด บราห์มา,วิษณุและชางก้านั้นคือเทพ
ชีวาชยันตีนั้นเฉลิมฉลองในบารัตเท่านั้น เวลานี้ชีวาชยันตีกำลังจะมาถึง
ลูกจะต้องอธิบายและพิสูจน์ว่าชีวาผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกได้ว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
นั่นคือ เป็นพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด ที่ทำให้โลกบริสุทธิ์
คานธีจีเองก็เคยร้องเพลงนี้ด้วยเช่นกัน แต่เขาไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของกฤษณะ
ดังนั้นเวลานี้จึงมีคำถามเกิดขึ้น เป็นชีว่าชยันตีที่นำมาซึ่งกีตะชยันตี
หรือเป็นกฤษณะชยันตีที่นำมาซึ่งกีตะชยันตี? กฤษณะชยันตีกล่าวได้ว่าอยู่ในยุคทอง
ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เป็นชยันตีของชีวา ชีวาคือพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด
ที่ไม่มีตัวตนและท่านสร้างโลกในยุคบรรจบพบกัน ในยุคทองเป็นอาณาจักรของศรีกฤษณะ
ดังนั้นแน่นอนที่ชีวาชยันตีจะอยู่มาก่อนหน้านั้น ลูกๆ
ผู้ที่เป็นเครื่องประดับของสกุลบราห์มิน ผู้ที่พร้อมที่จะทำงานรับใช้
ควรที่จะนำสิ่งต่างๆ
เหล่านี้เข้ามาสู่สติปัญญาของพวกเขาและเข้าใจวิธีที่จะอธิบายและพิสูจน์ให้ผู้คนของบรารัติได้เห็นว่าด้วยชีพชยันตีจึงมีกีตะชยันตี
และแล้วจากกีตะก็มีกฤษณะชยันตี นั่นคือชยันตีของราชาเหนือราชา
กฤษณะเป็นราชาของโลกที่บริสุทธิ์ นั่นเคยเป็นอาณาจักรที่นั่น
ศรีกฤษณะไม่ได้ถือกำเนิดที่นั่นและพูดกีตะ ไม่สามารถที่จะมีสงครามมหาภารตะในยุคทอง
แน่นอนที่ต้องเคยเกิดขึ้นในยุคบรรจบพบกัน ลูกๆ
ต้องอธิบายสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจนมาก ชุมนุมของพันดาวาสและฆราวาสนั่นโด่งดังมาก
พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าศรีกฤษณะเป็นหัวหน้าของพันดาวาส
พวกเขาเชื่อว่ากฤษณะนั้นสอนราชาโยคะที่ง่ายดายและความรู้ที่ง่ายดาย ในความเป็นจริง
ไม่มีเรื่องของการรบราฯลฯ พ่อสูงสุด
ดวงวิญญาณสูงสุดได้สอนราชาโยคะที่ง่ายดายได้ให้กับพันดาวาสจนกลายเป็นผู้มีชัยชนะ
พวกเขาเคยเป็นผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของสุริยะวงศ์และจันทราวงศ์ถึง 21 ชาติเกิด
ดังนั้น ก่อนอื่นใด อธิบายแก่ผู้คนของฮินดูมหาสภา มีชุมนุมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
เช่นโลกสภา ราชยสภา (พรรคการเมืองที่ต่างกัน) ฮินดูสภานั้นคือพรรคหลัก
กองทัพทั้งสามที่ได้รับการจดจำนั้นก็คือยาดาวาส,ฆราวาสและพันดาวาส
และพวกเขาคงอยู่ในยุคบรรจบพบกัน เวลานี้กำลังมีการก่อตั้งยุคทอง
ขณะนี้กำลังมีการเตรียมการสำหรับการเกิดของกฤษณะ
มีการพูดกีตะในยุคบรรจบพบกันอย่างแน่นอน
ดังนั้นเวลานี้ลูกควรจะแสดงใครในยุคบรรจบพบกัน? กฤษณะไม่สามารถมาที่นี่ได้ในเวลานี้
ทำไมเขาต้องจากโลกที่บริสุทธิ์ไปและเข้ามาสู่โลกที่ไม่บริสุทธิ์เล่า?
ในความเป็นจริง กฤษณะไม่ได้คงอยู่ในเวลานี้ ลูกรู้ว่าเวลานี้เขาอยู่ในชาติเกิดที่
84 ของเขา พวกเขาคิดว่ากฤษณะปรากฎอยู่ในทุกหนแห่ง
นั่นคือเขาอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
ผู้เลื่อมใสศัทธาของกฤษณะพูดว่าทุกคนคือกฤษณะ ที่กฤษณะได้นำรูปเหล่านั้นมาใช้
ผู้ที่เป็นของหนทางของราเด้ก็พูดว่าราเด้อยู่ในทุกคน ฉันคือราเด้และเธอคือราเด้
การกำหนดมากมายได้ปรากฏขึ้น บางคนพูดว่าพระเจ้าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
บางคนพูดว่ากฤษณะอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน
บางคนพูดว่าราเด้อยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน เวลานี้พ่อกำลังอธิบายแก่ลูกๆว่า
พ่อคือผู้ทรงพลังอำนาจโลกและดังนั้นพ่อกำลังให้อำนาจแก่ลูกๆเพื่ออธิบายแก่ผู้คนเหล่านั้นทั้งหมด
อธิบายแก่ผู้คนของฮินดูมหาสภา พวกเขาจะสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้
พวกเขาพิจารณาว่าตนเองเป็นผู้ที่มีจิตใจฝักใฝ่ในศาสนา
รัฐบาลไม่เชื่อในศาสนาใดๆโดยเฉพาะ พวกเขาเองสับสน ชีวา ดวงวิญญาณสูงสุด
คือมหาสมุทรแห่งความรู้ที่ไม่มีตัวตน
ไม่มีใครอื่นสามารถจะเรียกว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้
เมื่อท่านมาที่นี่เป็นการส่วนตัวและให้ความรู้แก่ลูกเท่านั้นที่อาณาจักรจะมีการก่อตั้ง
และแล้วอาณาจักรก็ถูกก่อตั้งขึ้นมา
ท่านจะมาอีกครั้งด้วยตนเองเมื่อลูกได้สูญเสียอาณาจักรของลูก
ดังนั้นลูกต้องพิสูจน์ว่าชีวา ดวงวิญญาณสูงสุด
คือมหาสมุทรของความรู้ที่ไม่มีตัวตนและเป็นชีพชยันตีที่ได้นำมาซึ่งกีตะชยันตี
ลูกควรทำละครที่อยู่บนฐานของสิ่งนี้เพื่อให้ประเด็นของกฤษณะถูกลบออกไปจากสติปัญญาของผู้คน
เพียงชีวา
ดวงวิญญาณสูงสุดที่ไม่มีตัวตนเท่านั้นที่เรียกได้ว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์
คัมภีร์ทั้งหมดถูกเขียนขึ้นโดยมนุษย์และอยู่บนพื้นฐานของการกำหนดของมนุษย์
บาบาไม่ได้มีคัมภีร์ใดๆ พ่อพูดว่า พ่อมาเป็นการส่วนตัวและทำให้ลูกๆ
กลายเป็นเจ้าชายจากขอทาน แล้วพ่อก็จากไป
เพียงพ่อเท่านั้นสามารถให้ความรู้นี้แก่ลูกเป็นการส่วนตัว
ถึงแม้ว่าผู้คนเหล่านั้นจะถ่ายทอดกีตะ
พระเจ้าก็ไม่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาเป็นการส่วนตัว
พวกเขาพูดว่าพระเจ้าแห่งกีตะอยู่ที่นั่นเป็นการส่วนตัว ท่านสร้างสวรรค์และจากไป
ดังนั้น ผู้คนสามารถกลายเป็นชาวสวรรค์ด้วยการรับฟังกีตะอย่างนั้นหรือ?
เมื่อใครบางคนกำลังตาย พวกเขาก็อ่านกีตะให้กับเขา พวกเขาไม่ได้อ่านคัมภีร์อื่นใด
พวกเขาเชื่อว่าสวรรค์นั้นถูกสร้างขึ้นมาด้วยกีตะและเหตุนี้เองพวกเขาจึงอ่านกีตะเท่านั้น
ดังนั้นจึงควรจะมีกีตะเดียวเท่านั้น ศาสนาอื่นทั้งหมดมาในภายหลัง
ไม่สามารถมีใครสามารถพูดว่าพวกเขาจะกลายเป็นชาวสวรรค์
พวกเขาให้น้ำของคงคาแก่ผู้คนดื่ม พวกเขาไม่ได้ให้น้ำของแม่น้ำยมุนา
ให้ความสำคัญกับน้ำของคงคาเท่านั้น ไวชนาฟมากมายไปที่นั่นและนำไหของน้ำนั้นกลับมา
พวกเขาพูดว่าด้วยการดื่มน้ำหนึ่งหยดที่ผสมกับน้ำธรรมดาความเจ็บป่วยทั้งหมดของพวกเขาจะจบสิ้นลง
ในความเป็นจริง คือลำธารของน้ำทิพย์แห่งความรู้ที่จะขจัดความทุกข์ของลูกถึง 21
ชาติเกิด ด้วยการอาบในคงคาของความรู้ที่มีชีวิต ผู้คนจะสามารถกลายเป็นชาวสวรรค์
ดังนั้นคงคาแห่งความรู้จะปรากฏขึ้นมาในเวลาสุดท้ายอย่างแน่นอน
ถึงอย่างไรก็มีแม่น้ำที่เป็นน้ำอยู่แล้ว
ไม่ใช่ว่าด้วยการดื่มน้ำใครๆก็สามารถกลายเป็นเทพได้
ที่นี่หากใครบางคนได้ยินความรู้แม้เพียงเล็กน้อยเขาก็ประกาศสิทธิ์ที่จะไปสวรรค์
เหล่านี้คือคงคาของความรู้ของชีพบาบา,มหาสมุทรแห่งความรู้ มหาสมุทรแห่งความรู้,ผู้ประทานความรู้ของกีตะ
คือชีวาผู้เดียวเท่านั้น,ไม่ใช่กฤษณะ
ไม่มีใครที่ไม่บริสุทธิ์ในยุคทองที่จะได้รับความรู้
พระเจ้านั่งที่นี่และอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด โอ อรชุน! หรือ โอ สันเจ!
มีชื่อเสียงโด่งดัง เขามีความฉลาดมากในการเขียนและดังนั้นเขาจึงกลายเป็นเครื่องมือ
เวลานี้
ชีวาชยันตีกำลังจะมาถึงและดังนั้นลูกควรจะเขียนสิ่งนี้ด้วยตัวหนังสือขนาดใหญ่
ชีวาไม่มีตัวตน ท่านเรียกว่าเป็นมหาสมุทรแห่งความรู้ ผู้ที่เต็มไปด้วยความปิติ
กฤษณะไม่สามารถเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความรู้หรือมีความปิติ เพียงชีวา
ดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้น ที่ให้ความรู้และมีความเมตตา
ความรู้ของท่านคือความเมตตาของท่าน
ผู้เป็นนายมีความเมตตาและสอนลูกและเหตุนี้เองลูกจึงกลายเป็นนักกฎหมายหรือวิศวกร
ไม่มีความจำเป็นสำหรับความปิติในยุคทอง ดังนั้น ก่อนอื่นใด ลูกต้องพิสูจน์ว่า
เป็นชีวาชยันตี มหาสมุทรแห่งความรู้ ที่ไม่มีตัวตน ที่นำมาซึ่งกีตะชยันตี
หรือเป็นกฤษณะชยันตีที่มีตัวตนของยุคทองที่นำมาซึ่งกีตะชยันตี ลูกๆ
ต้องพิสูจน์สิ่งนี้
ลูกรู้ว่าไม่มีใครในผู้นำสาสน์ที่มาแล้วสามารถทำให้ใครบริสุทธิ์ได้
เพราะนั่นเคยเป็นอาณาจักรของมายาตั้งแต่ยุคทองแดง ทั้งหมดจึงกลับมาไม่บริสุทธิ์
เมื่อผู้คนกลับมาทุกข์ระทมพวกเขาก็พูดว่าพวกเขาต้องการจะไปจากที่นี่
ศาสนาซึ่งก่อตั้งขึ้นก็ได้เติบโต
ศาสนาถูกก่อตั้งขึ้นด้วยพลังของความบริสุทธิ์แล้วพวกเขาต้องกลับมาไม่บริสุทธิ์
มีสี่ศาสนาหลักและการขยายตัวเกิดขึ้นด้วยศาสนาเหล่านั้น กิ่งก้านสาขาก็ปรากฏขึ้น
เมื่อมีการพิสูจน์แล้วว่าชีพชยันตีได้นำกีตะชยันตีมา คัมภีร์อื่นๆ
ทั้งหมดจะพิสูจน์ได้ว่าไร้ประโยชน์ เพราะคัมภีร์เหล่านั้นเขียนขึ้นโดยมนุษย์
ในความเป็นจริง คัมภีร์ของบารัตคือกีตะเดียวเท่านั้น
พ่อผู้เป็นที่รักที่สุดอธิบายแก่ลูกและทำให้มันง่ายสำหรับลูก
การกำหนดของท่านนั้นสูงส่งที่สุด
เวลานี้ลูกต้องพิสูจน์ว่าเป็นชยันตีของมหาสมุทรแห่งความรู้ที่ไม่มีตัวตนที่นำมาซึ่งกีตะชยันตี
หรือเป็นชยันตีของศรีกฤษณะที่มีตัวตนของยุคทองที่นำมาซึ่งกีตะชยันตี
ลูกต้องจัดการประชุมขนาดใหญ่เพื่อที่จะทำสิ่งนี้ หากสิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้ว
บัณฑิตทั้งหมดก็จะมาหาลูกและรับเป้าหมายนี้ ลูกต้องทำบางสิ่งในชีวาชยันตี
อธิบายแก่ผู้คนของฮินดูมหาสภา ของเขานั้นเป็นองค์กรขนาดใหญ่
ในยุคทองมีศาสนาเทพดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไป ไม่ได้มีสภา(ชุมนุม)อื่นใดที่นั้น
สภาคงอยู่ในยุคบรรจบพบกัน ก่อนอื่น
ลูกต้องพิสูจน์ว่าสภาดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปในความเป็นจริงแล้วคือบราห์มินหรือพันดาวาส
พันดาวาสได้รับชัยชนะและแล้วก็กลายเป็นชาวสวรรค์ ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าสภา(ศาสนา)เทพดั้งเดิมคงอยู่ในเวลานี้
ลูกจะไม่พูดว่าเป็นสภาของเทพ พวกเขามีอำนาจในการปกครอง
สภาเหล่านั้นคงอยู่ในยุคบรรจบพบกันของวงจร
หนึ่งในนั้นคือพันดาวาสสภาซึ่งเรียกว่าเป็นสภาดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปของสภาบราห์มิน
ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ ไม่มีบราห์มินที่มีชื่อของกฤษณะ
จุกของบราห์มินได้รับชื่อเนื่องจากชื่อของบราห์มา
สภาของลูกบราห์มินควรจะอยู่ในชื่อของบราห์มา
จำเป็นต้องมีใครบางคนที่ฉลาดเพื่อที่จะอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
เขาจำเป็นที่จะต้องมีการรู้แจ้งของความรู้
เพียงชีวาที่ไม่มีตัวตนเท่านั้นคือผู้ประทานความรู้ของกีตะ ผู้ประทานตาที่สูงส่ง
ซึมซับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดแล้วจัดการประชุม
ผู้ที่รู้สึกว่าพวกเขาสามารถพิสูจน์สิ่งนี้ควรที่จะพบกันเป็นกลุ่ม
มีสภาของนายพลและผู้บัญชาการในสนามรบ ที่นี่ มหาระตีเรียกได้ว่าเป็นผู้บัญชาการ
บาบาคือผู้สร้างและผู้กำกับ
ท่านกำลังสร้างสวรรค์และดังนั้นท่านให้การกำหนดสำหรับสิ่งนี้
จัดตั้งมหาสภาแล้วใช้หัวข้อนี้
เมื่อมีการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าใครคือพระเจ้าแห่งกีตะ
ทุกคนก็จะเข้าใจว่าพวกเขาควรจะมีโยคะกับท่าน บาบาพูดว่า พ่อมาอย่างเป็นผู้นำทาง
อย่างน้อยลูกก็ควรกลับมีค่าและสามารถที่จะโบยบินได้ มายาได้ตัดปีกของลูก
ด้วยการมีโยคะ ลูกดวงวิญญาณก็จะกลับมาบริสุทธิ์และโบยบิน! อัจชะ
ถึงลูกๆที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ทำงานรับใช้ของการทำให้ทุกคนเป็นอิสระจากโรคภัยและเป็นชาวสวรรค์ด้วยน้ำทิพย์แห่งความรู้
มนุษย์ต้องถูกทำให้กลายเป็นเทพ กลายเป็น ‘นายผู้มีความเมตตา’ เช่นเดียวกับพ่อ
2.
กลายเป็นผู้ที่มีปัญญาด้วยการรู้แจ้งของความรู้ และในชีวาชยันตี
พิสูจน์ให้เห็นว่าชีวาชยันตีคือกีตะชยันตี
ซี่งด้วยความรู้ของกีตะเท่านั้นที่ศรีกฤษณะถือกำเนิดมา
พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่มีความรักอย่างแท้จริงและอยู่อย่างเป็นอิสระจากการดึงดูดทั้งหมด
โดยหัวใจของลูกอยู่อย่างเต็มไปด้วยความรักของพ่อ
พ่อให้ความรักแก่ลูกๆ
ทั้งหมดทัดเทียมกัน แต่ลูกๆ รับความรักนั้นเป็นไปตามความสามารถของพวกเขาเอง
ผู้ที่รับความรักของพ่อในตอนเริ่มของวันในเวลาอมฤตจะไม่ถูกจู่โจมด้วยความรักของคนอื่นเพราะพวกเขามีความรักของพระเจ้าในหัวใจของพวกเขา
ถ้าพวกเขาไม่ได้เติมหัวใจของพวกเขาให้เต็มไปด้วยความรัก
และแล้วเพราะว่าการมีช่องว่างในหัวใจของพวกเขา
มายาจู่โจมสิ่งเหล่านั้นด้วยความรักในรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้น
จงเป็นผู้ที่มีความรักอย่างแท้จริงและอยู่อย่างเต็มไปด้วยความรักของพระเจ้า
คติพจน์:
ผู้ที่โบยบินอยู่เหนือร่างกาย โลกเก่า และความสัมพันธ์เก่าทางร่าง
กล่าวได้ว่าเป็นผู้ที่อาศัยของอินทราพัชร