22.09.19    Avyakt Bapdada     Thai Murli     30.01.85     Om Shanti     Madhuban


เพียงผู้ที่เอาชนะมายาและเอาชนะวัตถุธาตุเท่านั้นที่จะกลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเอง
 


วันนี้บาบากำลังดูราชสำนักของลูกทุกคนในทุกหนแห่งผู้ที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเอง ในทุกๆที่มีลูกที่รักเป็นพิเศษ ลูกผู้รับใช้ที่ไม่มีขีดจำกัดที่จากหายไปนานและเวลานี้ได้พานพบ ลูก ๆ เช่นนั้นที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเองแม้กระทั่งในเวลาปัจจุบันก็ยังปรากฏตัวอยู่ในราชวงศ์ เมื่อเห็นลูกที่มีค่าเช่นนั้น ลูกผู้เป็นโยคีอย่างสม่ำเสมอ ลูก ๆ ที่มีความถ่อมตนและเคารพตนเองที่สูงส่ง บัพดาดามีความพอใจเป็นอย่างยิ่ง จากราชสำนักทั้งหมดของวงจร ราชสำนักของการเป็นนายของตนเองคือที่เป็นทางจิต ที่พิเศษสุดไม่เหมือนใครและน่ารัก ลูกแต่ละคนที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเองเป็นรากฐานของอาณาจักรของโลกและผู้สร้างโลกใหม่ ลูกแต่ละคนที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเองกำลังแต้มติลักที่สูงส่งที่มีประกายระยิบระยับและสวมมงกุฎที่ประดับด้วยลูกปัดอันล้ำค่าซึ่งเปล่งประกายด้วยคุณสมบัติพิเศษทั้งหมด ลูกกำลังสวมใส่ลูกประคำแห่งคุณธรรมอันสูงส่ง มงกุฎแห่งแสงที่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ และนั่งอยู่บนบัลลังก์แห่งสภาพที่สูงส่งของตนเอง ลูกทุกคนปรากฏตัวที่ได้รับการประดับในลักษณะนี้ในราชสำนัก ราชสำนักเช่นนั้นอยู่เบื้องหน้าบัพดาดา มีสาวใช้และผู้รับใช้กี่คนที่อยู่เบื้องหน้าลูกแต่ละคนที่มีสิทธิต่ออำนาจในการปกครองตนเอง ลูกแต่ละคนเป็นผู้เอาชนะวัตถุธาตุและเอาชนะกิเลสหรือไม่? มีกิเลสทั้งห้าและวัตถุธาตุห้า แล้ววัตถุธาตุกลายเป็นผู้รับใช้หรือไม่? ศัตรูได้กลายเป็นผู้รับใช้ ผู้ที่รักษาความซาบซึ้งทางจิตวิญญาณของพวกเขา ที่เปลี่ยนกิเลสตัณหาราคะไปเป็นในรูปแบบของความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์และใช้สิ่งเหล่านี้สำหรับงานรับใช้ ผู้ที่ทำให้ศัตรูกลายเป็นผู้รับใช้ จะไม่มีวันได้รับอิทธิพลจากวัตถุธาตุใดๆ แต่พวกเขาจะเปลี่ยนวัตถุธาตุทั้งหมดจากรูปที่ตาโมกุนีเป็นรูปที่สโตประธาน ในยุคเหล็กวัตถุธาตุเหล่านั้นหลอกลวงลูกและทำให้ลูกมีความทุกข์ ในยุคบรรจบพบกันวัตถุธาตุจะได้รับการเปลี่ยนแปลง วัตถุธาตุจะเปลี่ยนรูปแบบของเขา ในยุคทองธาตุทั้งห้ากลายเป็นวิธีแห่งความสุขของเหล่าเทพ ดวงอาทิตย์จะเตรียมอาหารของลูกและดังนั้นจึงกลายเป็นบันดารี (อาหาร) ลมจะกลายเป็นพัดลมธรรมชาติของลูก ลมนั้นจะกลายเป็นวิธีที่ให้ความบันเทิงสำหรับลูก จะมีลม ต้นไม้จะเคลื่อนไหว กิ่งก้านและกิ่งไม้จะแกว่งไปแกว่งมาในลักษณะเช่นนั้นที่การเล่นดนตรีที่แตกต่างกันจะถูกเล่นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นวิธีของความบันเทิงสำหรับลูกใช่ไหม? ท้องฟ้านั้นจะกลายเป็นเส้นทางของลูก ลูกจะโบยบินด้วยวิมานของลูกไปที่ไหน? ท้องฟ้านั้นก็จะกลายเป็นรันเวย์(ทางวิ่งของเครื่องบิน)ของลูก มีที่ไหนที่จะมีทางหลวงที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้หรือไม่? มีอยู่ในต่างประเทศบ้างไหม? ไม่ว่าลูกจะสร้างมันให้ยาวกี่ไมล์แค่ไหนมันก็ยังเล็กกว่าท้องฟ้า มีถนนใหญ่ที่ใหญ่เท่านั้นไหม? ในอเมริกามีไหม? และมันจะเป็นเส้นทางที่ไม่มีอุบัติเหตุเลย แม้กระทั่งเด็กแปดขวบจะขับวิมานนั้นเขาก็จะไม่ตกลงมา ดังนั้นลูกเข้าใจหรือไม่? น้ำจะเป็นโอดะโคโลญจ์ (น้ำหอม) ของลูก เป็นเพราะสมุนไพรน้ำคงคาจึงบริสุทธิ์กว่าน้ำอื่น ๆ เนื่องจากมีกลิ่นหอมของสมุนไพรจึงมีกลิ่นหอมตามธรรมชาติในน้ำ เช่นเดียวกับน้ำนมที่นี่ให้ความแข็งแรง ในทำนองเดียวกันน้ำจะมีพลังและสะอาด เหตุนี้เองจึงมีการกล่าวว่าแม่น้ำแห่งน้ำนมจะไหลริน เวลานี้ลูกทุกคนมีความสุขใช่ไหม? ในทำนองเดียวกันโลกจะให้ผลไม้ที่สูงส่งเช่นนั้นที่ไม่ว่าลูกต้องการรสชาติใดของผลไม้ ผลไม้ของรสชาตินั้นจะปรากฏต่อหน้าลูก จะไม่มีเกลือหรือน้ำตาลอยู่ที่นั่น สำหรับรสเปรี้ยวเวลานี้ลูกใช้มะเขือเทศ ดังนั้นนั่นเป็นสิ่งที่ทำไว้แล้วใช่ไหม? มีรสเปรี้ยวในนั้น ในทำนองเดียวกันจะมีผลไม้ตามรสชาติที่ลูกต้องการ ลูกแค่ใส่น้ำผลไม้ลงไปแล้วมันก็จะกลายเป็นรสชาตินั้น ดังนั้นประการแรกโลกจะรับใช้เพื่อให้ผลไม้ที่มีคุณภาพสูงและธัญพืชที่ดีแก่ลูก และประการที่สองจะมีฉากธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ที่ลูกเรียกว่าธรรมชาติ,ฉากธรรมชาติ จะมีภูเขา ฯลฯ จะไม่มีภูเขาที่ตรงๆเช่นนั้น จะมีความงามตามธรรมชาติ ภูเขามีรูปร่างต่าง ๆ บางเขาจะอยู่ในรูปนก ส่วนเขาอื่นๆจะอยู่ในรูปของดอกไม้ จะมีการก่อตัวตามธรรมชาติที่นั่น ลูกจะต้องสัมผัสกับสิ่งนั้นสักเล็กน้อย ด้วยวิธีนี้วัตถุธาตุทั้งห้าจะกลายเป็นผู้รับใช้ของลูก แต่วัตถุธาตุนั้นจะเป็นผู้รับใช้ของใคร? พวกเขาจะกลายเป็นผู้รับใช้ของดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเอง ดังนั้นเวลานี้ให้ตรวจสอบตนเองว่า: กิเลสทั้งห้าเปลี่ยนจากศัตรูเป็นผู้รับใช้หรือไม่? และแล้วเมื่อนั้นลูกจึงจะถูกเรียกตัวว่าเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเอง ให้ไฟของความโกรธเปลี่ยนเป็นไฟของโยคะ พิจารณากิเลสของความโลภในลักษณะเดียวกัน ความโลภหมายถึงความปรารถนา ให้ความปรารถนาที่มีขีดจำกัดเปลี่ยนแปลง และให้มีความปรารถนาที่บริสุทธิ์เข้ามาแทนที่ ที่จะเป็นผู้รับใช้ที่ไม่เห็นแก่ตัวและไม่มีขีดจำกัดอย่างสม่ำเสมอในทุกความคิดคำพูดและการกระทำของลูก “ฉันต้องกลับมาทัดเทียมกับพ่อ” การมีความปรารถนาที่บริสุทธิ์เช่นนั้นหมายถึงการเปลี่ยนรูปแบบของความโลภ แทนที่จะเป็นศัตรูให้ใช้สิ่งนั้นเพื่องานรับใช้ ทุกคนมีความผูกพันยึดมั่นมากมาย ลูกมีความผูกพันต่อบัพดาดาใช่ไหม? ลูกไม่ต้องการที่จะอยู่ห่างแม้แต่วินาทีเดียว นั่นคือความผูกพันใช่ไหม? อย่างไรก็ตามความผูกพันนี้จะทำให้งานรับใช้เกิดขึ้น ให้ใครก็ตามที่มองเข้าไปในดวงตาของลูกได้เห็นว่าพ่อหลอมรวมอยู่ในดวงตาของลูก สิ่งใดก็ตามที่ลูกพูดให้เกี่ยวข้องกับคำพูดที่มีคุณค่าเหลือล้นของพ่อ ดังนั้นกิเลสของความผูกพันยึดมั่นก็ใช้สำหรับงานรับใช้ด้วยใช่ไหม? มันเปลี่ยนรูปแล้วใช่ไหม? เช่นเดียวกันกับความหยิ่งยโส (ความภาคภูมิใจ) จากจิตสำนึกที่เป็นร่าง ลูกจะกลายเป็นจิตสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณ มีความภาคภูมิใจที่บริสุทธิ์ นั่นคือ“ ฉันคือดวงวิญญาณที่ได้กลายเป็นดวงวิญญาณที่พิเศษ ดวงวิญญาณที่มีโชคหลายล้านเท่า เป็นจักรพรรดิที่ไร้ความกังวล ความภาคภูมิใจอันบริสุทธิ์นี้นั่นคือความซาบซึ้งทางจิตนี้จะกลายเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้ ดังนั้นหากกิเลสทั้งห้าได้เปลี่ยนไปและกลายเป็นวิธีของงานรับใช้ พวกเขาได้เปลี่ยนจากศัตรูเป็นผู้รับใช้แล้วใช่ไหม? ดังนั้นตรวจสอบดูว่าลูกได้กลายเป็นผู้เอาชนะมายาและผู้เอาชนะวัตถุธาตุมากแค่ไหน ลูกจะกลายเป็นราชาเมื่อสาวใช้และคนรับใช้พร้อมก่อน ผู้ที่พึ่งพาผู้รับใช้ของพวกเขาจะกลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในอธิปไตยได้อย่างไร?

ตามโปรแกรมของเมล่าของลูกๆในบารัตนี้ วันนี้เป็นวันสุดท้าย ดังนั้นนี่คือการจุ่มครั้งสุดท้ายของเมล่า มีนัยสำคัญอย่างยิ่งในสิ่งนี้ ในวันสำคัญนี้พวกเขาไปที่เมล่านั้นโดยเชื่อว่าพวกเขาจะกลับมาหลังจากที่บาปทั้งหมดของพวกเขาได้รับการปลดเปลื้อง ดังนั้นสำหรับทุกคนที่มีความคิดของการจบสิ้นกิเลสทั้งห้าตลอดเวลาจึงเป็นนัยสำคัญของการจุ่มครั้งสุดท้าย ดังนั้นลูกทุกคนมีความคิดที่มุ่งมั่นที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงหรือไม่? ลูกต้องไม่ละทิ้งพวกเขา แต่เปลี่ยนแปลงพวกเขา หากศัตรูกลายเป็นผู้รับใช้ของลูก ลูกจะชอบศัตรูหรือผู้รับใช้? ดังนั้นในวันนี้จงตรวจสอบและเปลี่ยนแปลงแล้วเมื่อนั้นเมล่าของการพบปะจึงจะมีนัยสำคัญ ลูกเข้าใจสิ่งที่ลูกต้องทำหรือไม่? อย่าคิดว่าลูกโอเคในสี่และอีกหนึ่งนั้นไม่เป็นไร หนึ่งนั้นจะนำอีกสี่กลับคืนมา พวกเขาเชื่อมโยงกัน นี่คือเหตุผลที่หัวของราวันแสดงว่ามีการเชื่อมต่อกัน ดังนั้นลูกต้องกลับไปหลังจากที่ได้เฉลิมฉลองดาเชร่า การเป็นผู้เอาชนะวัตถุธาตุทั้งห้าและผู้เอาชนะกิเลสทั้งห้าหมายความว่ามีสิบใช่หรือไม่? ดังนั้นจงกลับไปเมื่อได้มีการเฉลิมฉลองวิจายาดาชมี (วันแห่งชัยชนะ – ดาเชร่า) จบสิ้นและเผามัน แต่อย่านำขี้เถ้ากลับไปกับลูก หากลูกนำขี้เถ้ากลับไปกับลูก พวกเขาจะกลับมา พวกเขาจะกลายเป็นภูตผีและกลับมา ดังนั้นจงจบสิ้นพวกเขาทั้งหมดในมหาสมุทรแห่งความรู้ก่อนที่ลูกจะจากไป อัจชะ

ถึงผู้ที่เป็นนายของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ถึงผู้ที่มีติลักและมงกุฎทางจิต ถึงผู้ที่เปลี่ยนวัตถุธาตุให้เป็นสาวใช้ ถึงผู้ที่เปลี่ยนศัตรูทั้งห้าให้กลายเป็นผู้รับใช้ ถึงผู้ที่เป็นจักรพรรดิที่ไร้ความกังวล จักรพรรดิที่อยู่ในความซาบซึ้งทางจิตอย่างสม่ำเสมอ ถึงลูก ๆ ที่ได้รับชัยชนะอย่างสม่ำเสมอเช่นนั้นที่ทัดเทียมกับพ่อ ด้วยความรัก ความทรงจำระลึกถึง และนมัสเตจากบัพดาดา

อะแวคบัพดาดาพบกุมารี
1) ลูกทุกคนมีประสบการณ์ว่าตนเองเป็นกุมารีที่สูงส่งหรือไม่? กุมารีธรรมดาถือตะกร้างานของพวกเธอหรือพวกเธอกลายเป็นคนรับใช้ แต่ลูกเป็นกุมารีที่สูงส่งที่กลายเป็นผู้ให้คุณประโยชน์โลก ลูกเป็นกุมารีที่สูงส่งเช่นนั้นใช่ไหม? อะไรคือเป้าหมายที่สูงส่งในชีวิตของลูก? ลูกมีเป้าหมายที่จะเป็นอิสระจากอิทธิพลของมิตรที่ไม่ดีและจากบ่วงพันธะใดๆในความสัมพันธ์ของลูกใช่ไหม? ลูกไม่ใช่ผู้ที่ผูกติดอยู่กับบ่วงพันธะ "ฉันจะทำอะไรได้ ฉันมีบ่วง? ฉันจะทำอย่างไรถ้าฉันต้องทำงาน" สิ่งนี้เรียกว่าการมีบ่วงพันธะ ดังนั้นลูกไม่มีบ่วงในความสัมพันธ์ใด ๆ และลูกไม่มีตะกร้า(ภาระ)ของงานใด ๆ เพียงผู้ที่เป็นอิสระจากบ่วงทั้งสองเท่านั้นที่จะเป็นที่รักของพระเจ้า ลูกเป็นอิสระจากการบ่วงพันธะนี้ในระดับนี้หรือไม่? ชีวิตทั้งสองประเภทอยู่เบื้องหน้าลูก อนาคตของกุมารีธรรมดาและกุมารีพิเศษนั้นอยู่เบื้องหน้าลูก ดังนั้นเมื่อเห็นทั้งสอง ลูกสามารถตัดสินได้ด้วยตัวลูกเอง อย่าเป็นผู้ที่ทำในสิ่งที่พวกเขาบอก เป็นผู้พิพากษาของลูกเองและตัดสินด้วยตนเอง ศรีมัทบอกว่าจงกลายเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก นั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่พร้อมกับศรีมัทนั้นผู้ที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยความกระตือรือร้นของตนเองจะก้าวไปข้างหน้าด้วยความง่ายดายอย่างสม่ำเสมอ ถ้าลูกก้าวไปข้างหน้าเพราะมีคนบอกลูกหรือเพราะความคิดเห็นของผู้อื่นลูกก็จะรู้สึกละอายใจกับสิ่งที่คนอื่นพูดและคิดว่า "ถ้าฉันไม่กลายเป็นเช่นนี้ ทุกคนจะมองฉันในลักษณะนี้ โดยคิดว่าฉันอ่อนแอ" หากลูกกลายเป็นสิ่งนี้ด้วยการบีบบังคับของผู้อื่น ลูกก็จะพบว่ามันยากที่จะผ่านข้อสอบ ในขณะที่เมื่อลูกมีความกระตือรือร้นของตนเอง และเพราะลูกมีความกระตือรือร้นของตนเอง ไม่ว่าสถานการณ์ภายนอกที่ลูกเผชิญอยู่นั้นจะใหญ่โตเพียงใด ลูกก็จะเห็นว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ความจริงจังและความกระตือรือร้นของตนเองกลายเป็นปีก ไม่ว่าจะมีภูเขาที่ใหญ่โตเพียงใด นกที่โบยบินก็สามารถข้ามภูเขาลูกนั้นไปได้อย่างง่ายดาย ผู้ที่กำลังเดินหรือปีนเขาก็จะสามารถข้ามภูเขานั้นได้หลังจากความยากลำบากอย่างมากและหลังจากที่ใช้เวลานาน ดังนั้นความกระตือรือร้นของจิตใจจึงเป็นปีก สำหรับผู้ที่โบยบินด้วยปีกเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ง่ายดายเสมอ ลูกเข้าใจไหม? ดังนั้นคำแนะนำที่สูงส่งคือ: กลายเป็นผู้ให้คุณประโยชน์ต่อโลก อย่างไรก็ตามจงเป็นผู้พิพากษาของตัวลูกเองและตัดสินเพื่อชีวิตของลูกเอง พ่อได้ให้ลูกทำการตัดสินแล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งใหม่ เวลานี้ตัดสินด้วยตัวลูกเองและลูกจะประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ ผู้ที่รู้คิดคือผู้ที่ใช้ทุกย่างก้าวหลังจากพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ อย่าเพียงแค่คิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น แต่คิดถึงสิ่งนั้น เข้าใจสิ่งนั้น แล้วลงมือทำ สิ่งนี้เรียกว่าการรู้คิด การเป็นกุมารีในยุคบรรจบพบกันคือโชคแรก ลูกได้รับโชคนี้ตามละคร เวลานี้จงสร้างโชคของลูกต่อไปภายในโชคนี้ หากลูกใช้โชคนี้ โชคของลูกจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามหากลูกสูญเสียโชคแรกนี้ ลูกจะสูญเสียโชคทั้งหมดของลูกตลอดเวลา ดังนั้นลูกมีโชค กลับมามีโชคและเวลานี้จงสร้างโชคของผู้รับใช้อื่นๆ ลูกเข้าใจไหม?

บัพดาดาพบครูที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้:
ผู้ที่ทำงานรับใช้คือผู้ที่มีประสบการณ์กับความสุขของงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอ พวกเขาเป็นผู้ที่มีประสบการณ์กับชีวิตที่มีความสุขอย่างสม่ำเสมอ ชีวิตที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้หมายถึงชีวิตที่มีความสุข ดังนั้นลูกเป็นผู้ที่อยู่ในความสุขของการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่? ลูกมีความสุขของการมีการจดจำระลึกถึงและมีความสุขในการทำงานรับใช้ ชีวิตของลูกมีความสุขและอายุก็มีความสุข เมื่อได้เห็นผู้ที่มีความสุขอยู่ตลอดเวลา คนอื่นๆ ก็มีความสุขในชีวิตของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าใครที่มาอยู่เบื้องหน้าลูกจะมีความสับสนแค่ไหน คนที่อยู่อย่างมีความสุขก็สามารถทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากความสับสน และนำพวกเขาเข้าสู่สภาพแห่งความสุข ผู้รับใช้เช่นนั้นที่อยู่ในความสุขจะมีสุขภาพที่ดีในร่างกายและจิตใจของพวกเขาอยู่เสมอ ผู้ที่อยู่อย่างมีความสุขจะโบยบินอยู่เรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอเพราะพวกเขามีความสุข โดยทั่วไปแล้วจะพูดว่า: ผู้นี้เฝ้าแต่ร่ายรำอย่างมีความสุข; เขาไม่ได้แค่เดิน แต่กำลังร่ายรำ การร่ายรำหมายถึงการขึ้นไปสูง ลูกสามารถร่ายรำได้เมื่อลูกยกเท้าของลูก ดังนั้นผู้ที่มีความสุขก็คือผู้อยู่อย่างมีความสุข การเป็นผู้รับใช้หมายถึงการได้รับพรพิเศษจากผู้ประทานพร ผู้รับใช้มีพรพิเศษ: หนึ่งคือความใส่ใจของลูกเอง และอีกหนึ่งคือพร – ลิฟต์สองเท่า การเป็นผู้รับใช้หมายถึงการเป็นดวงวิญญาณที่มีอิสระอย่างสม่ำเสมอ ที่สัมผัสกับสภาพของการหลุดพ้นในชีวิต

2) ลูกซึ่งเป็นผู้รับใช้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอหรือไม่? ความสำเร็จคือสิทธิ์โดยกำเนิดของลูก ได้รับสิทธิ์อย่างง่ายดายเสมอ ไม่ต้องใช้ความพยายาม ดังนั้นลูกคือผู้ที่ประสบความสำเร็จในรูปของสิทธิ์ ให้มีศรัทธาและความซาบซึ้งที่รับประกันความสำเร็จ ลูกไม่ได้คิดว่าลูกจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ใช่ไหม? ลูกมีสิทธิ์ทั้งหมดและเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ทั้งหมดจะไม่มีสิทธิ์ ลูกมีความศรัทธาและดังนั้นชัยชนะจึงได้รับการประกันไว้แล้ว นี่คือคำจำกัดความของผู้รับใช้ และคำจำกัดความนี้เป็นจริงในทางปฏิบัติ ผู้รับใช้หมายถึงผู้ที่ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย

เมื่อถึงเวลาอำลา
(ทุกคนร้องเพลง: อย่าจากเราไปในตอนนี้ หัวใจของเรายังไม่ได้รับการเติมเต็ม) มากเท่าที่บัพดาดาเป็นมหาสมุทรแห่งความรักท่านก็ละวางด้วยเช่นกัน คำพูดของความรักเป็นหนึ่งในความสุขของยุคบรรจบพบกัน ลูกสามารถเฉลิมฉลองด้วยความสุข กิน ดื่ม และร่ายรำ แต่สม่ำเสมอ เช่นเดียวกับที่ลูกหลอมรวมอยู่ในความรัก ดังนั้นเวลานี้จงอยู่อย่างหลอมรวมอยู่ตลอดเวลา บัพดาดาเฝ้าแต่ได้ยินเสียงเพลงจากหัวใจของลูกแต่ละคน วันนี้ท่านได้ยินเพลงที่ลูกร้องด้วยปากของลูก บัพดาดาไม่ได้จดจ่ออยู่กับเนื้อเพลงหรือทำนองเพลง แต่ได้ยินเสียงของหัวใจ เวลานี้ลูกอยู่กับท่านเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปที่มีตัวตนหรืออยู่ในรูปที่อะแวค ลูกก็อยู่กับท่านเสมอ วันแห่งการแยกจากกันได้สิ้นสุดลงแล้ว เวลานี้ยุคบรรจบพบกันคือเมล่าของการพบปะ มันเป็นเพียงฉากที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆในเมล่า บางครั้งเป็นฉากทางกายภาพและบางครั้งก็เป็นฉากที่อะแวค อัจชะ สวัสดีตอนเช้า

พร:
ขอให้ลูกมีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอและสัมผัสพลังทางกายบนพื้นฐานของพลังทางจิตของลูก

ในชีวิตทางจิตนี้ สุขภาพของทั้งดวงวิญญาณและวัตถุธาตุ (ร่างกาย) เป็นสิ่งจำเป็น เมื่อดวงวิญญาณมีสุขภาพที่ดีบัญชีกรรมใดๆของร่างกายหรือความเจ็บป่วยของร่างกายจะกลายเป็นเหมือนหนามจากไม้กางเขน เนื่องจากสภาพดั้งเดิมของลูก ลูกจะสัมผัสด้วยตนเองว่ามีสุขภาพที่ดี ไม่มีสิ่งชี้บอกของความเจ็บปวดจากโรคภัยไข้เจ็บนั้นบนใบหน้าของลูก แทนที่จะพูดถึงความทุกข์ทรมานของกรรม ลูกจะพูดถึงสภาพของคาร์มาโยคี ด้วยพลังของการเปลี่ยนแปลง,ดวงวิญญาณเช่นนั้นเปลี่ยนความเจ็บปวดของพวกเขาให้กลายเป็นความพอใจ พวกเขาอยู่อย่างพอใจและกระจายคลื่นของความพอใจ

คติพจน์:
รับใช้ด้วยหัวใจของลูก ด้วยร่างกาย และด้วยความรักต่อกันและกัน และลูกจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน