23.10.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ยิ่งลูกจดจำพ่อด้วยความรักมากเท่าไร ลูกก็จะได้รับพรมากขึ้นเท่านั้น และบาปของลูกจะถูกตัดออกไปอย่างต่อเนื่องมากเท่านั้น

คำถาม:
พ่อชี้ทางให้ลูกอยู่ในศาสนาใด?

คำตอบ:
บาบาพูดว่า ลูกๆ จงอยู่ในศาสนาของลูกของการไม่มีภาพลักษณ์ อย่าได้อยู่ในศาสนาของภาพลักษณ์(ร่างกาย) เช่นที่พ่อปราศจากร่างกายและไม่มีภาพลักษณ์ ดังนั้นลูกๆ ก็ไม่มีภาพลักษณ์เช่นกัน และจากนั้นจึงเข้ามาในภาพลักษณ์(ร่างกาย)ที่นี่ เวลานี้พ่อพูดกับลูกๆ ว่า: ลูกๆ กลายเป็นผู้ที่ไม่มีภาพลักษณ์ (ปราศจากร่างกาย) มั่นคงในศาสนาดั้งเดิมของตนเอง อย่าได้เข้ามาสู่สำนึกที่เป็นร่าง

คำถาม:
พระเจ้าถูกผูกมัดให้ทำอะไรตามละคร

คำตอบ:
ตามละครพระเจ้าถูกผูกมัดไว้ให้ชำระลูกๆ ให้บริสุทธิ์ ท่านต้องมาในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด

โอมชานติ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ทางจิต เมื่อมีการพูดว่า “โอมชานติ” ดวงวิญญาณก็ได้รับคำแนะนำถึงศาสนาดั้งเดิมของตนเอง ดังนั้นแน่นอนว่าพ่อจะถูกจดจำโดยอัตโนมัติ เพราะมนุษย์ทุกคนนั้นจดจำพระเจ้าอย่างแน่นอน แต่เป็นเพียงที่พวกเขาไม่มีคำแนะนำของพระเจ้า พระเจ้ามาเพียงเพื่อจะแนะนำตัวของท่านเองและแนะนำดวงวิญญาณ พระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ พระเจ้าถูกผูกกับละครเพื่อที่จะทำให้ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์ ท่านต้องมาในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด ท่านยังให้คำอธิบายของยุคบรรจบพบกันด้วยเช่นกัน พ่อมาระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่เท่านั้น โลกเก่าเรียกว่าดินแดนแห่งความตาย และโลกใหม่เรียกว่าดินแดนแห่งความเป็นอมตะ ลูกเข้าใจด้วยเช่นกันว่าช่วงชีวิตนั้นสั้นในดินแดนแห่งความตายและยังคงมีความตายก่อนเวลาอันควรต่อไป นั่นคือดินแดนแห่งความเป็นอมตะที่ไม่มีความตายก่อนเวลาอันควรเพราะพวกเขาบริสุทธิ์ ด้วยความไม่บริสุทธิ์พวกเขาจึงมีสิ่งเจือปน ช่วงชีวิตของพวกเขาจึงสั้นลงและพลังของพวกเขาก็ลดลง ในยุคทองเพราะพวกเขาบริสุทธิ์ พวกเขาจึงไม่มีสิ่งใดเจือปนและพวกเขามีพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า พวกเขาได้มาซึ่งอาณาจักรของพวกเขาโดยที่ไม่มีพลังได้อย่างไร พวกเขาต้องได้รับพรจากพ่ออย่างแน่นอน พ่อคือผู้ทรงพลังอำนาจ พวกเขาจะประกาศสิทธิ์ในพรได้อย่างไร? พ่อพูดว่า จดจำพ่อ! ผู้ที่มีการจดจำระลึกถึงมากกว่าจะประกาศสิทธิ์ในพร พรไม่ใช่สิ่งที่จะร้องขอ เป็นสิ่งที่ลูกทำความเพียรพยายาม ยิ่งลูกมีการจดจำระลึกถึงมากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งได้รับพรมากเท่านั้น นั่นคือลูกจะได้รับสถานภาพที่สูงขึ้น หากลูกไม่มีการจดจำระลึกถึง ลูกจะไม่ได้รับพร พ่อทางร่างไม่เคยบอกให้ลูกของเขาให้จดจำเขา ตั้งแต่วัยเด็กของเขา เด็กจะพูดว่า “มาม่า” และ “บาบา”โดยอัตโนมัติ อวัยวะของเขามีขนาดเล็ก เด็กโตจะไม่พูดว่า “มาม่า” และ “บาบา” มันอยู่ในสติปัญญาของเด็กๆเหล่านั้นว่าพวกเขาเป็นแม่และพ่อผู้ที่พวกเขาจะได้รับมรดกของเขาจากพ่อแม่เหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะต้องพูดถึงหรือจดจำ ที่นี่พ่อพูดว่า จดจำพ่อและมรดก สละละทิ้งความสัมพันธ์ที่มีขีดจำกัด และเวลานี้จดจำความสัมพันธ์ที่ไม่มีขีดจำกัด มนุษย์ทั้งหมดต้องการการหลุดพ้น การหลุดพ้นหมายถึงดินแดนแห่งการหลุดพ้น การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์หมายถึงการไปสู่ดินแดนแห่งความสุขอีกครั้ง ใครก็ตามที่มาก่อนก็จะได้รับความสุขอย่างแน่นอน พ่อมาเพียงเพื่อให้ความสุข จะต้องมีบางสิ่งที่ยากอย่างแน่นอน เพราะเหตุนี้เองจึงมีการกล่าวว่าเป็นการศึกษาชั้นสูง ยิ่งการศึกษานั้นสูงเท่าไร ก็จะยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนสามารถสอบผ่านได้ มีนักเรียนเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สอบผ่านในระดับที่สูงที่สุด เพราะเมื่อใครบางคนสอบผ่านในระดับสูง รัฐบาลก็ต้องให้เงินเดือนที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน นักเรียนบางคนก็สอบผ่านได้ในระดับที่สูง แต่พวกเขาก็ยังคงนั่งเฉยๆ รัฐบาลไม่ได้มีเงินมากพอที่จะให้เงินเดือนที่สูงแก่พวกเขา ที่นี่พ่อพูดว่า ยิ่งลูกศึกษาเล่าเรียนมากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงมากเท่านั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกลายเป็นราชาหรือปวงประชาที่มั่งคั่ง ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับว่าลูกศึกษาเล่าเรียนอย่างไร ความเลื่อมใสศรัทธาไม่ได้เรียกว่าการศึกษาเล่าเรียน นี่คือความรู้ทางจิตที่พ่อทางจิตสอน การศึกษานี้สูงมาก! ลูกๆ ก็พบว่าสิ่งนี้ยาก เพราะพวกเขาไม่ได้จดจำพ่อและพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงลักษณะนิสัยของตนเอง ลักษณะนิสัยของผู้ที่มีการจดจำระลึกถึงที่ดีก็จะยังคงเป็นสิ่งที่ดีต่อไป พวกเขาเฝ้าแต่กลับมาอ่อนหวานอย่างมากและเป็นประโยชน์ต่องานรับใช้ หากลักษณะนิสัยของพวกเขาไม่ดีก็ไม่มีใครชอบพวกเขา ผู้ที่สอบตกแน่นอนว่ามีบางสิ่งที่ผิดในบุคลิกลักษณะของเขา บุคลิกลักษณะนิสัยของลักษมีและนารายณ์นั้นดีมาก รามนั้นกล่าวได้ว่ามีสององศาที่ลดลง บารัตได้กลายเป็นดินแดนแห่งความหลอกลวงในอาณาจักรของราวัน ไม่สามารถมีความหลอกลวงแม้แต่น้อยในดินแดนแห่งสัจจะ ในอาณาจักรของราวันไม่ได้มีสิ่งใดเลยนอกจากความหลอกลวง มนุษย์ที่หลอกลวงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่มีคุณธรรมที่สูงส่ง นี่คือสิ่งที่ไม่มีขีดจำกัด เวลานี้พ่อพูดว่า อย่าได้รับฟังเรื่องราวที่เป็นเท็จเช่นนั้นจากผู้อื่นหรือถ่ายทอดสิ่งเหล่านั้นแก่ผู้อื่น มีเพียงคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติของพระเจ้าเท่านั้นที่เป็นแนวทางที่ถูกกฎหมาย แนวทางของมนุษย์เป็นแนวทางที่ผิดกฎหมาย ลูกได้กลับมาสูงส่งโดยทำตามคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติที่ถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนสามารถทำตามสิ่งเหล่านั้น และดังนั้นพวกเขาจึงเป็นผู้ที่ผิดกฎหมาย บางคนแม้กระทั่งสัญญากับพ่อว่า: บาบาจนกระทั่งอายุขนาดนี้พวกเราได้เคยทำงานที่ผิดกฎหมายและเวลานี้พวกเราจะไม่ทำเช่นนั้นแล้ว งานที่ผิดกฎหมายที่สุดคือวิญญาณปีศาจร้ายของตัณหาราคะ มีวิญญาณปีศาจร้ายของสำนึกที่เป็นร่างในทุกคนอยู่แล้ว มีสำนึกที่เป็นร่างในคนที่ได้รับอิทธิพลจากมายา พ่อนั้นปราศจากร่าง ปราศจากภาพลักษณ์ ดังนั้นลูกๆก็ปราศจากภาพลักษณ์เช่นกัน นี่คือสิ่งที่จะต้องเข้าใจ พวกเราดวงวิญญาณนั้นปราศจากภาพลักษณ์ แล้วพวกเราก็เข้าไปสู่ภาพลักษณ์(ร่างกาย)ที่นี่ พ่อพูดอีกครั้งหนึ่ง จงกลับมาปราศจากภาพลักษณ์ ทำให้ตนเองมั่นคงในศาสนาดั้งเดิมของลูก อย่าทำให้ตนเองมั่นคงในศาสนาของภาพลักษณ์ของลูก ทำให้ตนเองมั่นคงในศาสนาของการเป็นผู้ที่ปราศจากภาพลักษณ์ อย่าได้กลับมามีสำนึกที่เป็นร่าง พ่ออธิบายแก่ลูกอย่างมาก มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการจดจำระลึกถึงในสิ่งนี้ พ่อพูดว่าพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อแล้วลูกจะกลับมาสโตประธานและบริสุทธิ์ จะได้รับการลงโทษอย่างมากจากการที่ไม่บริสุทธิ์ มีการจดจำถึงผู้ที่ทำความผิดหลังจากที่เป็นของพ่อ ผู้ที่ได้ประณามสัตกูรูไม่สามารถที่จะได้รับสถานภาพที่สูง หากลูกไม่ทำตามคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติของพ่อเพื่อที่จะกลับมาบริสุทธิ์จะต้องมีการลงโทษ 100 เท่า ลูกต้องใช้จิตสำนึกของลูก หากฉันไม่สามารถจะมีการจดจำระลึกถึง ฉันก็จะไม่สามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงเช่นนั้นได้ ลูกต้องใช้เวลาในการเพียรพยายาม เมื่อลูกถูกถามว่าลูกมีข้อพิสูจน์อะไร บอกพวกเขาว่า: ร่างกายที่พระเจ้าเข้ามานี้คือร่างของประชาบิดาบราห์มาผู้ที่เป็นมนุษย์ ร่างกายของมนุษย์ได้รับชื่อ ชีพบาบานั้นไม่ใช่มนุษย์หรือเทพ ท่านเรียกว่าดวงวิญญาณสูงสุด ท่านไม่ได้กลับมาไม่บริสุทธิ์หรือบริสุทธิ์ ท่านอธิบายว่า: ด้วยการจดจำพ่อบาปของลูกจะถูกตัดออกไป พ่อนั่งที่นี่และอธิบาย ลูกเคยสโตประธานและเวลานี้ได้กลับมาตโมประธาน จดจำพ่อเพื่อที่จะกลับมาสโตประธานอีกครั้ง ดูซิว่าคุณสมบัติของเทพเป็นเช่นไร และดูผู้คนที่ร้องขอความเมตตาจากพวกเขา แล้วลูกก็จะสงสัยว่าลูกเคยเป็นอะไร ลูกกลายเป็นผู้ที่ตกต่ำโดยสิ้นเชิงโดยการตกลงมาผ่าน 84 ชาติเกิด พ่อพูดว่า ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ลูกเคยเป็นของราชวงศ์เทพ เวลานี้ดูที่พฤติกรรมของลูกและดูว่าลูกสามารถกลายเป็นเช่นเทพเหล่านั้นได้หรือไม่ อย่าคิดว่าทุกคนจะกลายเป็นลักษมีและนารายณ์ ในกรณีนั้นทุกสิ่งก็จะกลายเป็นสวนดอกไม้ ควรจะออฟเฟอร์เพียงดอกกุหลาบเท่านั้นให้แก่ชีพบาบา แต่ไม่เลย มีการออฟเฟอร์ดอกไม้ทั้งหมดรวมทั้งดอกอั๊คให้แก่ท่าน ลูกของพ่อบางคนกลายเป็นดอกไม้ และบางคนกลายเป็นดอกอั๊ค มีผู้ที่สอบผ่านและผู้ที่สอบตกด้วยเช่นกัน พวกเขาสามารถเข้าใจได้ด้วยตนเองว่าพวกเขาจะไม่สามารถกลายเป็นราชาได้ พวกเขาไม่ได้ทำให้ใครเป็นเช่นเดียวกับตนเอง เพียงพ่อเท่านั้นที่รู้ว่าใครจะกลายเป็นผู้ที่มั่งคั่งและเป็นอย่างไร ในขณะลูกๆ ก้าวหน้าต่อไปลูกจะเข้าใจว่าลูกเป็นผู้ช่วยประเภทไหนของพ่อโดยเฉพาะ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พวกเขาทำในวงจรก่อนหน้านี้ พวกเขาจะทำสิ่งเดียวกันอีกครั้ง ไม่สามารถจะมีความแตกต่างใดในสิ่งนี้ พ่อยังคงให้ประเด็นต่างๆกับลูกต่อไป ลูกต้องจดจำพ่อในวิธีนี้และโยกย้ายทุกสิ่งด้วยเช่นกัน ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาลูกทำทุกสิ่งในนามของพระเจ้า แต่ลูกไม่รู้จักพระเจ้า ลูกเข้าใจว่าพระเจ้านั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด ไม่ใช่ว่าท่านคือผู้ที่มีรูปและนามสูงสุด ท่านคือผู้ไม่มีตัวตน และแล้วผู้ที่มีตัวตนสูงสุดเหนือสิ่งใดก็อยู่ที่นี่ บราห์มา,วิษณุและชางก้าเรียกว่าเทพ มีคำกล่าวว่า ขอคารวะต่อเทพบราห์มา ขอคารวะต่อเทพวิษณุและจากนั้นพวกเขาก็พูดว่าขอคารวะต่อดวงวิญญาณสูงสุดชีวา ดังนั้นพระเจ้ายิ่งใหญ่ที่สุด บราห์มา,วิษณุและชางก้าไม่สามารถเรียกว่าเป็นพระเจ้า ผู้คนพูดด้วยปากของเขาว่าขอคารวะต่อดวงวิญญาณสูงสุดชีวา และดังนั้นพระเจ้าจะต้องเป็นหนึ่งเดียวอย่างแน่นอน ผู้คนก้มลงให้กับเหล่าเทพ ในโลกมนุษย์,มนุษย์ก็เรียกว่ามนุษย์ การพูดว่า “ขอคารวะต่อดวงวิญญาณสูงสุด” เมื่อกล่าวถึงมนุษย์คือความไม่รู้อย่างแท้จริง มันอยู่ในสติปัญญาของทุกคนว่าพระเจ้าอยู่ในทุกหนแห่งในเวลาเดียวกัน เวลานี้ลูกๆเข้าใจว่าพระเจ้าคือหนึ่งเดียว และท่านผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าเป็นผู้ชำระให้บริสุทธิ์ การทำให้ทุกคนบริสุทธิ์คืองานของพระเจ้าผู้เดียวเท่านั้น ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถเป็นกูรูของโลกได้ กูรูมีความบริสุทธิ์ ที่นี่ทุกคนคือผู้ที่เกิดมาจากกิเลส ความรู้เรียกว่าน้ำทิพย์ ความเลื่อมใสศรัทธาไม่สามารถเรียกว่าเป็นน้ำทิพย์ ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธามีเพียงความเลื่อมใสศรัทธาเท่านั้น มนุษย์ทั้งหมดอยู่ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่ามหาสมุทรแห่งความรู้ กูรูของโลก เวลานี้ลูกรู้ว่าพ่อทำอะไรเมื่อพ่อมา พ่อชำระวัตถุธาตุที่บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน นั่นคือบทบาทของพ่อในละคร พ่อกลายเป็นเครื่องมือ พ่อคือผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์สำหรับทุกคน แต่ท่านจะสามารถอธิบายได้อย่างไร ผู้คนมากมายมาที่นี่ เมื่อมีการทำพิธีเปิดจะมีการส่งโทรเลขไปหาผู้คน: ก่อนที่การทำลายล้างจะมาถึง โปรดมาและรู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด และประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อ ผู้เดียวนี้คือพ่อทางจิต มนุษย์ทั้งหมดเรียกท่านว่าพ่อ ท่านคือผู้สร้างและดังนั้นสิ่งสร้างจะได้รับมรดกอย่างแน่นอน ไม่มีใครรู้จักพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด การลืมพ่อก็ถูกกำหนดไว้แล้วในละครเช่นกัน พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดนั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด พ่อไม่ได้ให้มรดกที่มีขีดจำกัดแก่ลูก แม้ว่าทุกคนจะมีพ่อทางร่าง พวกเขาก็ยังคงจดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ในยุคทองไม่มีใครจดจำท่าน เพราะพวกเขาได้รับมรดกของความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดของเขา เวลานี้ลูกจดจำพ่อ เป็นดวงวิญญาณที่จดจำพ่อ แล้วพวกเขาก็ได้ลืมตนเอง ลืมพ่อของเขาและละคร มีเงามืดของมายา สติปัญญาที่สโตประธานต้องกลับมาตโมประธานอย่างแน่นอน เวลานี้ลูกตระหนักว่าเหล่าเทพนั้นสโตประธานในโลกใหม่ ไม่มีใครรู้สิ่งนี้ โลกเองก็กลับมาสโตประธานและเป็นยุคทอง สิ่งนั้นเรียกว่าโลกใหม่ นี่คือโลกยุคเหล็ก พ่อผู้เดียวเท่านั้นที่มาและอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด มรดกใดก็ตามที่ลูกได้รับทุกวงจรตามความเพียรพยายามของลูก ลูกก็จะได้รับมรดกเดียวกันนั้น เวลานี้ลูกรู้เช่นกันว่าลูกเคยเป็นเช่นนั้น และเวลานี้ลูกได้ลงมา พ่อเองได้บอกลูกว่า: สิ่งนี้และสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น บางคนพูดว่า เราพยายามอย่างมาก แต่เราก็ไม่สามารถที่จะจดจำระลึกถึงได้ พ่อหรือครูจะสามารถทำอะไรได้เกี่ยวกับสิ่งนี้ ครูจะสามารถทำอะไรถ้าใครบางคนไม่ศึกษาเล่าเรียน? หากครูต้องให้พร ทุกคนก็จะสอบผ่าน มีความแตกต่างอย่างมากมายในการศึกษาเล่าเรียน นี่คือการศึกษาใหม่อย่างแท้จริง ที่นี่โดยทั่วไปแล้วก็เป็นผู้ที่ยากจนและไม่มีความสุขที่มาหาลูก ผู้ที่มั่งคั่งไม่ได้มาที่นี่ เป็นเพราะผู้คนไม่มีความสุขที่มาที่นี่ ผู้ที่มั่งคั่งก็คิดว่าพวกเขากำลังนั่งอยู่ในสวรรค์ สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในโชคของพวกเขา ผู้ที่มีสิ่งนี้อยู่ในโชคของเขาก็จะมีศรัทธาในสิ่งนี้ทันที ศรัทธาและความสงสัยไม่ได้ใช้เวลา ในไม่ช้ามายาก็ทำให้ลูกลืม สิ่งนี้ใช้เวลา ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสับสนเกี่ยวกับสิ่งนี้ จงมีเมตตากับตนเอง ลูกจะยังคงได้รับศรีมัทอย่างต่อเนื่อง พ่อบอกลูกในสิ่งที่ง่ายมาก เพียงแค่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ ลูกรู้ว่านี่คือดินแดนแห่งความตาย และนั่นคือดินแดนแห่งความเป็นอมตะ ไม่มีความตายก่อนเวลาอันควรที่นั่น นักเรียนในชั้นเรียนก็นั่งในชั้นเรียนตามลำดับกันไป นี่ก็เป็นโรงเรียนเช่นกัน มีการถามครูว่า ใครคือนักเรียนที่ฉลาดอันดับหนึ่งในชั้นเรียนของท่าน ผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดีควรจะอยู่ด้านขวา มือขวานั้นมีความสำคัญ การกราบไหว้บูชาก็ดำเนินไปด้วยมือขวาเช่นกัน ลูกๆ ควรจะเฝ้าแต่คิดถึงสิ่งที่จะมีอยู่ในยุคทอง หากลูกจดจำยุคทอง ลูกก็จะจดจำบาบาที่แท้จริงเช่นกัน บาบากำลังทำให้พวกเรากลายเป็นนายของยุคทอง ที่นั่นลูกจะไม่รู้ว่าลูกได้รับอาณาจักรของลูกอย่างไร เหตุนี้เองบาบาจึงพูดว่า แม้แต่ลักษมีและนารายณ์ก็ไม่มีความรู้นี้ พ่อเฝ้าแต่อธิบายทุกสิ่งเป็นอย่างดีต่อไป ผู้ที่เข้าใจในวงจรก่อนหน้านี้ก็จะเข้าใจอีกครั้งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามลูกยังคงต้องทำความเพียรพยายาม พ่อมาเพื่อสอนลูก นี่คือการศึกษาและจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างมากสำหรับเรื่องนี้ อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1 การศึกษาทางจิตนี้สูงมากและยาก ดังนั้นเพื่อที่จะสอบผ่านลูกต้องได้รับพรจากพ่อโดยการจดจำระลึกถึงพ่อ เปลี่ยนแปลงบุคลิกลักษณะของลูก

2 อย่าทำสิ่งใดที่ผิดกฎในเวลานี้ จงกลายเป็นผู้ที่ปราศจากภาพลักษณ์และอยู่อย่างมั่นคงในศาสนาดั้งเดิมของลูก และทำตามคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติที่ถูกกฎของพ่อผู้ที่ปราศจากภาพลักษณ์

พร:
ขอให้ลูกมีความรักอย่างแท้จริงและหลอมรวมอยู่ในความรักที่มีต่อพระเจ้าและยังคงดูดซับในการพบปะนั้น

สิ่งบ่งบอกถึงความรักที่ได้รับการจดจำคือ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสองสิ่งที่มีชีวิต แต่พวกเขาไม่ใช่สอง แต่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว สิ่งนี้เรียกว่าการหลอมรวม ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้กล่าวถึงสภาพของความรักนี้ว่าเป็นการหลอมรวมหรือซึมซับ การหลอมรวมในความรักคือสภาพ อย่างไรก็ตามแทนที่จะเป็นสภาพ พวกเขาพิจารณาตัวตนของดวงวิญญาณที่จะจบสิ้นตลอดกาล เมื่อลูก ๆ ซึมซับอยู่ในการพบปะกับพ่อหรือผู้เป็นที่รักทางจิตแล้วลูกก็จะกลับมาทัดเทียม

คติพจน์:
ผู้ที่สำรวจตนจะเป็นอิสระจากความคิดที่ไร้ประโยชน์และรักษาความสงบของจิตใจ