14.05.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน พ่อมาเพื่อให้ดวงตาที่มีอารยะธรรมแก่ลูก ลูกได้รับตาที่สามของความรู้แล้วและดังนั้นดวงตาของลูกไม่ควรจะเป็นอาชญากร

คำถาม:
ศรีมัทใดที่พ่อให้ลูกสละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัด?

คำตอบ:
ศรีมัทของพ่อคือ ลูกต้องนำเอาโยคะของสติปัญญาของลูกออกไปจากนรกนี้และชาวนรกและจดจำสวรรค์ ขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูกจงละทิ้งนรกด้วยสติปัญญาของลูก นรกคือโลกเก่า สติปัญญาของลูกต้องลืมโลกเก่า ไม่ใช่ว่าลูกละทิ้งบ้านที่มีขีดจำกัดหลังหนึ่งและไปสู่บ้านที่มีขีดจำกัดอีกหลังหนึ่ง ลูกมีการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด ในเวลานี้เป็นสภาพของการปลดเกษียณของลูก ลูกต้องละทิ้งทุกสิ่งและกลับบ้าน

โอมชานติ
พระเจ้าชีวาพูด ไม่มีชื่อของใครอื่นที่ถูกกล่าวถึง แม้กระทั่งชื่อของผู้นี้(บราห์มา)ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึง พ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์และดังนั้นท่านจะมาที่นี่เพื่อทำให้ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน ท่านแสดงให้ลูกเห็นถึงวิธีที่จะกลับมาบริสุทธิ์ที่นี่ มีคำกล่าวว่า พระเจ้าชีวาพูดไม่ใช่พระเจ้ากฤษณะพูด เมื่อลูกนั้นมีเข็มกลัดติดหน้าอกลูกต้องเข็มนี้อธิบายอย่างแน่นอน ความลับทั้งหมดของผู้สร้างและตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของสิ่งสร้างแสดงไว้ในเข็มกลัดนี้ เข็มกลัดนี้ไม่ยิ่งหย่อนเลย เป็นเรื่องของสัญญาณ ลูกทั้งหมดคือผู้ที่มีความเชื่อในพระเจ้าตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามของลูก “ตามลำดับ” จะมีการกล่าวถึงอย่างแน่นอน มีบางคนที่ไม่สามารถอธิบายความรู้ของผู้สร้างหรือสิ่งสร้างได้เลย ดังนั้นพวกเขาก็จะไม่เรียกว่าผู้ที่มีสติปัญญาที่สโตประธาน มีสติปัญญาที่สโตประธาน สติปัญญาที่รโช แล้วก็สติปัญญาที่ตโม ความเข้าใจของเราเป็นเช่นไรสมญาที่เราได้รับก็เป็นเช่นนั้น ผู้นี้มีสติปัญญาที่สโตประธาน ผู้นี้มีสติปัญญาที่รโช อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการบอกสิ่งนี้แก่ลูกที่ลูกจะท้อแท้หมดกำลังใจ สิ่งนี้ตามลำดับกันไป คุณค่าของผู้ที่ชั้นหนึ่งนั้นดีมาก เวลานี้ลูกได้พบกับสัตกูรูที่แท้จริงแล้ว เวลานี้ลูกรู้ว่าลูกได้พบสัตกูรูแล้วและท่านทำให้ลูกจริงแท้อย่างสมบูรณ์ เหล่าเทพมีความจริงแท้และแล้วพวกเขาก็ไปสู่หนทางบาปและกลับมาไม่จริงแท้ มีเพียงลูกเหล่าเทพเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในยุคทอง ไม่มีใครอื่นที่นั่น บางคนเป็นเช่นนั้นที่พวกเขามีคำถามว่า สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร? นี่ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่มีความรู้ เวลานี้ลูกๆ รู้ว่าลูกได้กลายเป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้าจากผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า เวลานี้ลูกรู้เกี่ยวกับความรู้ของผู้สร้าง และตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของสิ่งสร้างอย่างถูกต้องแม่นยำ บางสิ่งที่อยู่เหนือรูปและนามก็ไม่สามารถแม้กระทั่งจะมองเห็นได้ ท้องฟ้าคือพื้นที่ว่างเปล่าแต่ลูกสามารถรู้สึกว่านั่นคือท้องฟ้า ลูกมีความรู้นั้น ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับสติปัญญาของลูก เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่ให้ความรู้ของผู้สร้างและสิ่งสร้างแก่ลูก ลูกต้องเขียนลงไปด้วยเช่นกันว่า ที่นี่ลูกสามารถได้รับความรู้ของตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบของสิ่งสร้าง มีคติพจน์เช่นนั้นอยู่มากมาย ในแต่ละวันประเด็นใหม่ๆและคติพจน์ใหม่ๆก็ปรากฏขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ เพื่อที่จะกลายเป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้าลูกต้องมีความรู้ของผู้สร้างและสิ่งสร้างอย่างแน่นอน และแล้วลูกก็หยุดที่จะเป็นผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า จากการเป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้าลูกก็จะกลายเป็นนายของโลก ลูกคือผู้ที่เชื่อในพระเจ้าที่นี่แต่ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามของลูก เป็นมนุษย์ที่ต้องรู้สิ่งนี้ สัตว์จะไม่รู้สิ่งนี้ เป็นมนุษย์ผู้ที่สูงที่สุดและเป็นมนุษย์ที่ต่อมากลายเป็นผู้ที่ต่ำสุด ในเวลานี้ไม่มีมนุษย์คนไหนที่มีความรู้ของผู้สร้างหรือสิ่งสร้าง สติปัญญาของพวกเขาถูกปิดล็อคอย่างสมบูรณ์ด้วยแม่กุญแจยี่ห้อก็อดเร็จ ลูกรู้ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามของลูก ที่ลูกมาหาพ่อเพื่อที่จะกลายเป็นนายของโลก ลูกอยู่ในความบริสุทธิ์ 100% มีความบริสุทธิ์ ความสงบ และความเจริญรุ่งเรือง ลูกได้รับพรแล้ว อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านี้เป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ลูกกลายเป็นลักษมีและนารายณ์ด้วยการศึกษานี้ ลูกต้องศึกษาเล่าเรียนและสอนผู้อื่นด้วยเช่นกัน กุมารและกุมารีไปที่โรงเรียนเพื่อศึกษาเล่าเรียน เพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันพวกเขาจึงเสียคนอย่างมาก เพราะดวงตาเป็นอาชญากร เพราะการมีสายตาที่เป็นอาชญากรพวกเขาจึงสวมผ้าคลุมหน้า ไม่มีสายตาที่อาชญากรใดที่นั่น(ในสัตยุค) และดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องสวมผ้าคลุมหน้า ลูกเคยเห็นลักษมีหรือนารายณ์อยู่หลังผ้าคลุมหน้าไหม? ที่นั่นไม่มีใครแม้แต่ที่จะมีความคิดที่สกปรกเช่นนั้น ที่นี่คืออาณาจักรของราวัน ดวงตาเหล่านี้เลวร้ายมาก พ่อมาและให้ดวงตาที่สามของความรู้แก่ลูก เป็นดวงวิญญาณที่ได้ยินทุกสิ่ง พูดทุกสิ่ง และทำทุกสิ่ง เวลานี้ลูกดวงวิญญาณกำลังได้รับการเปลี่ยนแปลง เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาเสื่อมเสียและเป็นบาป ผู้ที่มีดวงตาที่เป็นอาชญากรเรียกว่าเป็นดวงวิญญาณบาป ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถเปลี่ยนแปลงดวงตาที่เป็นอาชญากรเหล่านั้น เป็นเพียงพ่อเท่านั้นที่ทำให้ดวงตาของลูกมีอารยะธรรมด้วยความรู้ เพียงลูกเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับความรู้นี้ ความรู้นี้ไม่ได้อยู่ในคัมภีร์ พ่อพูดว่า พระเวท อุปนิษัท และคัมภีร์ ฯลฯ เป็นของหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา ไม่สามารถจะพบพ่อได้ด้วยการทำทาปาเซีย การสวดมนต์ การไปจาริกแสวงบุญ ฯลฯ นั่นคือหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาที่คงอยู่มาเป็นเวลาครึ่งหนึ่งของวงจร เวลานี้ลูกๆต้องให้สาสน์นี้กับทุกคน มาและเราจะให้ความรู้ของผู้สร้างและตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้างแก่ท่าน เราจะบอกท่านเกี่ยวกับชีวประวัติของพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด มนุษย์ไม่รู้ถึงสิ่งนี้เลย เหล่านี้คือคำพูดหลัก เข้ามาพี่น้องหญิงชาย มาและรับฟังความรู้ของผู้สร้างและตอนเริ่ม, ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง มาและศึกษาสิ่งนี้และนี่คือสิ่งที่ท่านจะกลายเป็น ด้วยการรับความรู้นี้และโดยการเข้าใจวงจรท่านจะสามารถกลายเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินีที่เป็นผู้ปกครองยุคทองได้ ลักษมีและนารายณ์ได้กลายเป็นสิ่งนั้นด้วยการศึกษานี้ ลูกกำลังจะกลายเป็นสิ่งนี้ด้วยการศึกษาเช่นกัน ยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้มีผลกระทบอย่างยิ่ง พ่อมาในบารัต เหตุใดท่านจะมาในดินแดนอื่น? พ่อคือศัลยแพทย์ที่ไม่สูญสลาย ดังนั้นท่านจะมาในดินแดนที่คงอยู่เสมออย่างแน่นอน แผ่นดินที่พระเจ้าได้วางเท้าของท่านจะไม่มีวันถูกทำลาย บารัตนี้คงอยู่เพื่อเหล่าเทพ เป็นเพียงแค่บารัตนั้นได้เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามบารัตคือดินแดนแห่งสัจจะและเป็นบารัตที่ได้กลายเป็นดินแดนของความหลอกลวง คือบารัตเท่านั้นที่มีบทบาทรอบด้าน ลูกจะไม่พูดสิ่งนี้ของดินแดนอื่นๆ พระเจ้าผู้เป็นสัจจะมาและสร้างดินแดนแห่งสัจจะด้วยตัวท่านเองและแล้วราวันก็ทำให้ดินแดนนี้กลายเป็นดินแดนแห่งความหลอกลวง และแล้วก็ไม่มีแม้แต่เมล็ดพันธุ์แห่งสัจจะเมล็ดเดียวที่หลงเหลืออยู่และเหตุนี้เองลูกจึงไม่สามารถจะพบกูรูที่จริงแท้ได้ ผู้คนเหล่านั้นคือซันยาสซีและสาวกของพวกเขาคือผู้ครองเรือน ดังนั้นพวกเขาจะสามารถเรียกว่าเป็นสาวกได้อย่างไร เวลานี้พ่อเองพูดว่า ลูกๆจงกลับมาบริสุทธิ์และสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง เวลานี้ลูกต้องกลายเป็นเทพ ซันยาสซีไม่ใช่ผู้ที่ปราศจากกิเลสอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเกิดมากับผู้ที่ข้องแวะในกิเลสซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้ว่าบางคนจะถือพรหมจรรย์ตั้งแต่เกิดก็ตาม มีผู้คนมากมายที่เป็นเช่นนั้น มีผู้คนมากมายเป็นเช่นนั้นในต่างประเทศและแล้วพวกเขาก็แต่งงานเมื่อพวกเขาแก่ชราเพื่อที่จะได้รับการดูแลเอาใจใส่ และแล้วเมื่อพวกเขาตายเขาก็ทิ้งสมบัติบางส่วนให้กับเธอและสมบัติที่เหลือก็ไปทำบุญ ที่นี่พวกเขามีความผูกพันยึดมั่นอย่างมากกับลูกของพวกเขา หลังจากอายุ 60 ปีพวกเขาก็ยกทุกสิ่งให้กับลูกๆของเขา แล้วพวกเขาก็จับตาดูลูกๆของพวกเขาเพื่อจะดูว่าทุกสิ่งได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่ในกรณีที่พวกเขาไม่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามลูกๆในทุกวันนี้พูดว่า เป็นสิ่งดีที่พ่อไปสู่สภาพของการปลดเกษียณ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็มีกุญแจ แม้กระทั่งในขณะที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ลูกๆก็ทำลายทุกสิ่ง และแล้วพวกเขาก็บอกพ่อของเขาว่า ออกไปจากที่นี่! พ่ออธิบายว่า จงเขียนที่นิทรรศการว่า พี่น้องหญิงชายจงมาและรับฟังความรู้ของผู้สร้างและตอนเริ่ม,ตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้าง ด้วยการมีความรู้ของวงจรโลกนี้ท่านจะกลายเป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินี เหล่าเทพเป็นผู้ปกครองโลก บาบานี้ก็ได้ให้คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติแก่ลูกๆ เวลานี้พ่อพูดว่า นี่คือตอนสิ้นสุดของชาติเกิดสุดท้ายของหลายๆชาติเกิด พ่อเข้ามาในผู้นี้เท่านั้น ตรงข้ามกับบราห์มาคือวิษณุ ทำไมจึงได้แสดงให้เห็นวิษณุที่มีสี่แขน? สองแขนเป็นของผู้ชายและสองแขนเป็นของผู้หญิง ไม่สามารถจะมีมนุษย์ใดที่มีสี่แขนที่นี่ เป็นเพียงแค่คำอธิบายว่าวิษณุหมายถึงลักษมีและนารายณ์ พวกเขาแม้กระทั่งแสดงบราห์มาด้วยสี่แขน สองแขนของบราห์มาและสองแขนของสรัสวตี ทั้งสองคือผู้สละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัด ไม่ใช่ว่าลูกมีการสละละทิ้งและไปยังสถานที่อื่น ไม่เลย พ่อพูดว่า ในขณะที่อยู่ที่บ้านลูกต้องละทิ้งนรกจากสติปัญญาของลูก ลืมนรกและจดจำสวรรค์ด้วยสติปัญญาของลูก นำโยคะของสติปัญญาของลูกออกไปจากนรกและชาวนรกและเชื่อมโยคะของสติปัญญาของลูกกับเหล่าเทพผู้เป็นชาวสวรรค์ สิ่งนี้อยู่ในสติปัญญาของผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนว่าพวกเขาจะสอบผ่านและกลายเป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ผู้คนก็มีกูรูเมื่อพวกเขาไปถึงสภาพของการปลดเกษียณ พ่อพูดว่า พ่อเข้ามาในผู้นี้ในสภาพของการปลดเกษียณของเขาด้วย เมื่อเขาอยู่ในชาติเกิดสุดท้ายของหลายชาติเกิดของเขา พระเจ้าพูดว่า พ่อเข้ามาในเขาในชาติเกิดสุดท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของเขา พ่อเข้ามาในผู้ที่ได้เล่นบทบาทตั้งแต่ตอนเริ่มต้นจนถึงตอนจบเท่านั้นเพราะเขาต้องไปเป้นอันดับหนึ่ง บราห์มากลายเป็นวิษณุและวิษณุกลายเป็นบราห์มา พวกเขาแสดงให้เห็นว่าทั้งสองมีสี่แขน มีบัญชีอยู่ บราห์มาและสรัสวตีแล้วก็กลายเป็นลักษมีและนารายณ์ ลักษมีและนารายณ์แล้วก็กลายเป็นบราห์มาและสรัสวตี ลูกๆได้แสดงบัญชีนี้อย่างรวดเร็ว วิษณุหมายถึงลักษมีและนารายณ์ผู้ที่ใช้ 84 ชาติเกิดและแล้วก็ได้กลายเป็นสรัสวตีและบราห์มาที่ธรรมดานี้ ต่อมาภายหลังที่บาบาให้ชื่อเขาว่าบราห์มา อย่างไรก็ตามใครคือพ่อของบราห์มา? ก็จะมีการพูดว่าชีพบาบาอย่างแน่นอน เขาถูกสร้างขึ้นได้อย่างไร? เขาได้ถูกนำมาเลี้ยงดู พ่อพูดว่า พ่อเข้ามาในผู้นี้และดังนั้นลูกควรเขียนว่า พระเจ้าชีวาพูด พ่อเข้ามาในบราห์มาผู้ที่ไม่รู้ชาติเกิดของตนเอง พ่อเข้ามาในตัวเขาในตอนสุดท้ายของชาติเกิดสุดท้ายของหลายต่อหลายชาติเกิดของเขา พ่อเข้ามาในเขาเมื่อเขาอยู่ในสภาพที่ปลดเกษียณของเขา พ่อมาเมื่อทั้งโลกกลับมาเก่าและไม่บริสุทธิ์ นี่เป็นคำอธิบายที่ง่ายดายอย่างมาก ก่อนหน้านี้ผู้คนเคยมีกูรูเมื่ออายุ 60 ปี เดี๋ยวนี้พวกเขาก็มีกูรูตั้งแต่เกิด พวกเขาเรียนรู้สิ่งนี้จากชาวคริสเตียน โอ้! แต่มีความจำเป็นอะไรหรือที่จะต้องมีกูรูในวัยเด็ก? พวกเขาเชื่อว่าหากเด็กตายในวัยทารกของเขาแล้วเขาก็จะได้รับการหลุดพ้น พ่ออธิบายว่าไม่มีใครสามารถมีการหลุดพ้นที่นี่ พ่ออธิบายแก่ลูกอย่างง่ายดายมากในเวลานี้และท่านก็ทำให้ลูกสูงส่งด้วยเช่นกัน ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาลูกลงบันไดมาเรื่อยๆ มันคืออาณาจักรของราวัน และแล้วโลกที่มีกิเลสก็เริ่มขึ้น ลูกทั้งหมดเคยมีกูรู ผู้นี้เองก็พูดว่า พ่อเคยมีกูรูมากมาย พวกเขาไม่รู้จักแม้กระทั่งพระเจ้าที่ให้การหลุดพ้นกับทุกคน โซ่ของความเลื่อมใสศรัทธากลายเป็นโซ่ที่แข็งแกร่งมากด้วยเช่นกัน โซ่บางอันหนาและบางอันก็บางมาก เมื่อจะต้องมีการยกบางสิ่งที่หนัก พวกเขาก็ผูกสิ่งนั้นด้วยโซ่หนาแล้วก็ยกขึ้น เป็นเช่นเดียวกันกับที่นี่ บางคนจะมาอย่างรวดเร็วและรับฟังลูกและพวกเขาจะศึกษาเล่าเรียนได้เป็นอย่างดี ผู้อื่นไม่เข้าใจอะไรเลย ลูกปัดของลูกประคำก็ถูกสร้างขึ้นตามลำดับกันไป ผู้คนหมุนลูกปัดของลูกประคำในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาแต่พวกเขาไม่มีความรู้ใดๆเลย กูรูของพวกเขาก็ขอให้พวกเขาหมุนลูกปัดของลูกประคำไปเรื่อยๆ พวกเขาเพียงแค่ท่องชื่อ “ราม ราม” เช่นเดียวกับการเล่นฮาร์โมเนียม(ออร์แกนเล็ก) เสียงของฮาร์โมเนียมนั้นอ่อนหวานมากแต่ก็เท่านั้นเอง! พวกเขาไม่รู้สิ่งใดว่ารามคือใครหรือกฤษณะคือใคร หรือพวกเขามามาเมื่อไหร่ พวกเขาไม่รู้สิ่งใดเลย พวกเขาแม้กระทั่งแสดงให้เห็นกฤษณะในยุคทองแดง ใครสอนสิ่งนั้นกับพวกเขา? กูรูทั้งหลาย! ถ้ากฤษณะเข้ามาในยุคทองแดงแล้วจะตามมาด้วยยุคเหล็กได้อย่างไร และพวกเขากลับมาตโมประธานได้อย่างไร? พ่อพูดว่า พ่อเข้ามาในยุคบรรจบพบกันเพื่อทำให้ผู้ที่ตโมประธานกลับมาสโตประธาน ลูกกลายเป็นผู้ที่มีศรัทธาที่งมงายเช่นนั้น พ่ออธิบายว่า ผู้ที่จะกลายเป็นดอกไม้จากหนามจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาจะพูดว่า นี่คือสัจจะอย่างแน่นอน ผู้คนบางคนก็เข้าใจอย่างดีมากและพูดกับลูกว่า คุณอธิบายได้ดีมาก เรื่องราวของ 84 ชาติเกิดก็ถูกต้องด้วยเช่นกัน พ่อผู้เดียวคือมหาสมุทรแห่งความรู้และท่านมาและให้ความรู้ทั้งหมดอย่างเต็มที่แก่ลูก อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. ทำให้สติปัญญาของลูกสโตประธานด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เป็นสัตกูรู กลายเป็นผู้มีสัจจะ กลายเป็นผู้เชื่อในพระเจ้าและทำงานรับใช้ของการทำให้ผู้อื่นกลายเป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้า

2. ในเวลานี้เป็นสภาพของการการปลดเกษียณของลูก ดังนั้นจงกลายเป็นผู้สละละทิ้งที่ไม่มีขีดจำกัดและนำโยคะของสติปัญญาของลูกออกไปจากทุกคน กลับมาบริสุทธิ์และสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง
พร:
ขอให้ลูกเป็นแสงที่เบาสบายโดยการให้ทุกสิ่งเป็น “ของท่าน”และจบสิ้นแม้กระทั่งร่องรอยที่เล็กน้อยที่สุดของจิตสำนึกของ “ของฉัน”

จิตสำนึกของ“ของฉัน”ประเภทใดก็ตาม – ไม่ว่าจะเป็น “ธรรมชาติของฉัน” สันสการ์ของฉัน “ธรรมชาติของฉัน” - สิ่งใดที่เป็นของฉันนั่นคือภาระ และผู้ที่มีภาระไม่สามารถโบยบินได้ จิตสำนึกของ“ของฉัน”นี้ทำให้ลูกสกปรก และเหตุนี้เองเวลานี้ลูกต้องพูดว่า“ของท่าน ของท่าน”และกลับมาสะอาด เทวดานางฟ้าหมายถึงไม่มีแม้ร่องรอยแม้แต่น้อยของจิตสำนึกของ“ของฉัน” ถ้ามีความรู้สึกของ“ของฉัน”แม้กระทั่งในความคิดของลูกแล้วลูกสามารถเข้าใจได้ว่าลูกได้กลับมาสกปรก ดังนั้น เวลานี้ จบสิ้นภาระของการกลับมาสกปรก และกลายเป็นแสงที่เบาสบาย

คติพจน์:
แสงของโลกคือผู้ที่หลอมรวมบัพดาดาในดวงตาของพวกเขา