01.04.19       Morning Thai  Murli        Om Shanti      BapDada       Madhuban


สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน ทุกสิ่งที่ลูกเห็นด้วยดวงตาคู่นี้กำลังจะจบสิ้นลง ดังนั้นจงมีการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัดในสิ่งนั้นทั้งหมด พ่อกำลังสร้างโลกใหม่เพื่อลูก

คำถาม:
นัยสำคัญใดที่หลอมรวมอยู่ในความเงียบสงบของลูกๆ

คำตอบ:
เมื่อลูกนั่งในความเงียบสงบ ลูกจดจำดินแดนแห่งความเงียบสงบ ลูกรู้ว่าความเงียบสงบหมายถึงการตายขณะที่มีชีวิต พ่อในรูปของสัตกูรูได้สอนวิธีที่จะทำให้ลูกคงอยู่อย่างเงียบสงบที่นี่ เมื่อลูกอยู่ในความเงียบสงบลูกก็กำลังเผาบาปของลูก ลูกมีความรู้ว่าเวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน ผู้คนในชุมนุมทางจิตอื่นนั่งในความเงียบสงบแต่พวกเขาก็ไม่มีความรู้ของดินแดนแห่งความเงียบสงบ

โอมชานติ
ชีพบาบากำลังพูดกับลูกๆ ทางจิตที่สุดแสนหวาน ในกีตะได้มีการเขียนไว้ว่า ศรีกฤษณะพูดแต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นชีพบาบาที่พูด กฤษณะไม่สามารถเรียกว่าเป็นบาบา ผู้คนของบารัตรู้ว่ามีสองพ่อ พ่อทางโลกและเหนือโลก พ่อเหนือโลกเรียกว่าพ่อสูงสุดพ่อทางร่างไม่สามารถเรียกว่าพ่อสูงสุด ไม่ใช่พ่อทางร่างกายที่กำลังอธิบายสิ่งเหล่านี้แก่ลูก เป็นพ่อเหนือโลกที่กำลังอธิบายแก่ลูกเหนือโลก ก่อนอื่นลูกไปสู่ดินแดนแห่งความสงบซึ่งลูกเรียกว่าดินแดนนิพพาน ดินแดนแห่งการหลุดพ้นหรือดินแดนที่อยู่เหนือเสียง เวลานี้พ่อพูดว่า ลูกๆ เวลานี้ลูกต้องไปสู่ดินแดนแห่งความเงียบสงบ เพียงสถานที่นั้นเท่านั้นที่เรียกว่าหอคอยแห่งความสงบ ขณะที่นั่งที่นี่ ก่อนอื่นลูกต้องนั่งในความเงียบสงบ ในชุมนุมทางจิตอื่นๆก่อนอื่นเขาก็นั่งในความเงียบสงบแต่พวกเขาไม่ได้มีความรู้ของดินแดนแห่งความเงียบสงบ ลูกๆรู้ว่าลูกดวงวิญญาณต้องละร่างเก่านี้และกลับบ้าน จะมีการละร่างกายไปเมื่อไรก็ได้ตลอดเวลาและดังนั้นลูกจงศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดีในสิ่งที่พ่อกำลังสอนลูก ท่านคือครูสูงสุด ผู้ประทานการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์และเป็นกูรูด้วยเช่นกัน ลูกต้องมีโยคะกับท่าน ผู้เดียวนั้นก็ทำงานรับใช้ทั้งสามรูปแบบ ไม่มีบุคคลใดสามารถทำงานรับใช้ได้ทั้งสามรูปแบบ พ่อผู้เดียวนี้สอนให้ลูกมีความเงียบสงบ การตายขณะที่มีชีวิตก็เรียกว่าเป็นความเงียบสงบ ลูกรู้ว่าเวลานี้พวกเราต้องไปบ้านสู่ดินแดนแห่งความเงียบสงบ ถ้าดวงวิญญาณไม่กลับมาบริสุทธิ์ก็ไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้ ทุกคนต้องกลับไปและเหตุนี้เองจึงมีประสบการณ์ของการลงโทษสำหรับการกระทำที่เป็นบาปในเวลาสุดท้าย และแล้วบางครั้งแม้กระทั่งสถานภาพก็ถูกทำลาย ต้องมีผลรางวัลและการลงโทษสำหรับลูกที่พ่ายแพ้ต่อมายา พ่อมาเพื่อทำให้ลูกสามารถเอาชนะมายา แต่เนื่องจากความไม่ระมัดระวัง ลูกจึงไม่จดจำพ่อ ที่นี่ ลูกต้องจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้น ในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาผู้คนก็เร่ร่อนไปทั่วอย่างมาก พวกเขาไม่รู้จักผู้เดียวผู้ที่พวกเขาเคยก้มกราบ พ่อมาและปลดปล่อยลูกจากการเร่ร่อน ได้มีการอธิบายแล้วว่าความรู้คือกลางวันและความเลื่อมใสศรัทธาคือกลางคืน ผู้คนล้มลุกคลุกคลานในเวลากลางคืนเท่านั้น ความรู้คือกลางวันนั่นคือยุคทองและยุคเงิน ขณะที่ความเลื่อมใสศรัทธาหมายถึงกลางคืน นั่นคือยุคทองแดงและยุคเหล็ก ทั้งหมดนี้คือช่วงระยะเวลาของละคร สำหรับครึ่งหนึ่งของเวลาเป็นกลางวันและอีกครึ่งหนึ่งของเวลาเป็นกลางคืน เป็นกลางวันและกลางคืนของประชาบิดาบราห์มากุมารและกุมารี นี่คือเรื่องราวที่ไม่มีขีดจำกัด พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดมาในยุคบรรจบพบกันที่ไม่มีขีดจำกัด เหตุนี้เองผู้คนพูดถึงชีพราตรีว่าเป็นกลางคืนของชีวา ผู้คนไม่เข้าใจว่าชีพราตรีคืออะไร นอกจากลูกแล้วไม่มีแม้แต่บุคคลเดียวที่รู้ถึงนัยสำคัญของชีพราตรีเพราะนี่คือช่วงกลาง เมื่อกลางคืนกำลังจะสิ้นสุดลงและกลางวันเริ่มขึ้น นี่เรียกว่ายุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุด ช่วงระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่ พ่อมาในยุคบรรจบพบกันของทุกๆวงจร ไม่ใช่ว่าท่านมาในทุกยุค พวกเขาแม้กระทั่งเรียกการบรรจบกันของยุคทองและยุคเงินว่าเป็นยุคบรรจบพบกัน พ่อพูดว่า นั่นเป็นสิ่งที่ผิด ชีพบาบาพูดว่า จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง สิ่งนี้เรียกว่าเป็นไฟของโยคะ ลูกทั้งหมดคือบราห์มินผู้ที่สอนโยคะเพื่อให้พวกเขากลับมาบริสุทธิ์ พราห์มเหล่านั้นทำให้ผู้อื่นนั่งอยู่บนกองไฟของตัณหาราคะ มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืนระหว่างพราห์มเหล่านั้นกับลูก พวกเขาคือสิ่งสร้างทางร่างกายในขณะที่ลูกคือสิ่งสร้างทางปาก ทุกสิ่งต้องเป็นที่เข้าใจอย่างดีมาก เมื่อมีใครบางคนมาก็อธิบายแก่พวกเขาว่า จดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดและบาปของท่านจะได้รับการปลดเปลื้องและท่านจะได้รับมรดกของท่านจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด และแล้วยิ่งลูกสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งและดลใจให้ผู้อื่นสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งมากเพียงใดลูกก็จะยิ่งประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูงมากตามนั้น พ่อมาเพื่อทำให้ลูกที่ไม่บริสุทธิ์กลับมาบริสุทธิ์ ดังนั้นลูกต้องทำงานรับใช้นี้ด้วยเช่นกัน ทุกคนนั้นไม่บริสุทธิ์ กูรูเหล่านั้นไม่สามารถชำระผู้ใดให้บริสุทธิ์ได้ ชื่อของชีพบาบาคือ “ผู้ที่ชำระให้บริสุทธิ์” ท่านมาที่นี่เมื่อทุกคนได้กลับมาไม่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ตามแผนของละครแล้วพ่อก็มา ก่อนอื่นใด อัลฟ่าอธิบายให้แก่ลูกๆ จดจำพ่อ ลูกพูดว่าพ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์ พ่อทางจิตนั้นก็เรียกว่าผู้ชำระให้บริสุทธิ์ พวกเขาพูดว่า “โอ้ พระเจ้า!” หรือ “โอ้ บาบา!” อย่างไรก็ตามไม่มีใครมีคำแนะนำของท่าน ลูกผู้ที่เป็นของยุคบรรจบพบกันในเวลานี้ได้รับคำแนะนำนั้นแล้ว ผู้คนเหล่านั้นเป็นชาวนรก ลูกไม่ใช่ชาวนรก ใช่ หากบางคนพ่ายแพ้เขาก็ตกลงไปอย่างสมบูรณ์และทุกสิ่งที่เขาเคยหามาได้ก็สูญสิ้น สิ่งหลักคือการกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์ นี่คือโลกที่เต็มไปด้วยกิเลสในขณะที่นั่นคือโลกที่ปราศจากกิเลส,โลกใหม่ที่ซึ่งเหล่าเทพปกครอง เวลานี้ลูกๆรู้ว่า ก่อนอื่นเป็นเหล่าเทพที่ใช้ชาติเกิดมากที่สุด ในสิ่งนั้นเช่นกันผู้ที่เป็นดวงวิญญาณของสุริยะวงศ์อันดับหนึ่งก็ลงมาก่อน ลูกประกาศสิทธิ์ในมรดกเป็นเวลา 21 ชั่วอายุ เป็นมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดเช่นนั้นของความบริสุทธิ์ ความสงบ และความสุข ยุคทองเรียกว่าดินแดนแห่งความสุขอย่างสมบูรณ์ ยุคเงินคือครึ่งหนึ่งเพราะสององศาได้ลดลงไป เนื่องจากมีองศาที่น้อยลงพลังของแสงของพวกเขาก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน เมื่อองศาของพระจันทร์ลดลงก็จะมีแสงที่น้อยลง ในที่สุดก็เหลือเพียงแค่เสี้ยวพระจันทร์ พระจันทร์นั้นไม่ได้เป็นศูนย์อย่างสมบูรณ์ เป็นเช่นเดียวกันสำหรับลูก ลูกไม่ได้กลายเป็นศูนย์อย่างสมบูรณ์ สิ่งนี้กล่าวได้ว่าเป็นหยิบหนึ่งของเกลือในถุงแป้ง พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ดวงวิญญาณ นี่คือกี่ชุมนุมของดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด สิ่งนี้จะต้องเข้าใจด้วยสติปัญญา พระเจ้ามาเมื่อไร? เมื่อมีดวงวิญญาณอยู่มากมาย นั่นคือมีมนุษย์อยู่มากมาย ดวงวิญญาณสูงสุดก็มาในชุมนุมนี้ เหตุใดจึงมีชุมนุมของดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุด? ชุมนุมเหล่านั้นเป็นไปเพื่อการกลับมาสกปรก ในเวลานี้ลูกกำลังเปลี่ยนจากหนามเป็นดอกไม้ด้วยนายของสวนดอกไม้ ลูกกำลังกลายเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ด้วยพลังของการจดจำระลึกถึง พ่อเรียกว่าผู้ทรงพลังอำนาจ เช่นที่พ่อคือผู้ทรงพลังอำนาจ ในทำนองเดียวกันราวันก็เป็นผู้ทรงอำนาจที่ไม่ยิ่งหย่อนเลย พ่อเองพูดว่า มายานั้นแข็งแกร่งมากและมีพลัง บางคนพูดว่า บาบา ฉันจดจำท่านและมายาก็ทำให้ฉันลืมท่าน ลูกเป็นศัตรูของกันและกัน พ่อมาและทำให้ลูกสามารถเอาชนะมายาและแล้วมายาก็เอาชนะลูก พวกเขาได้แสดงให้เห็นการรบราระหว่างเหล่าเทพกับปีศาจแต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น นี่คือการรบรา ลูกกลายเป็นเทพด้วยการจดจำพ่อ มายาสร้างอุปสรรคในการจดจำระลึกถึงไม่ใช่ในการศึกษาเล่าเรียน อุปสรรคมาในการจดจำระลึกถึงเท่านั้น มายาทำให้ลูกลืมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยการกลับมามีสำนึกที่เป็นร่างลูกก็ถูกตบตีโดยมายา คำพูดที่แรงอย่างมากก็ใช้กับผู้ที่มีตัณหาราคะ นี่คืออาณาจักรของราวัน ที่นี่เช่นกันที่บอกลูกให้กลับมาบริสุทธิ์แต่บางคนก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น พ่อพูดว่า ลูกๆ อย่าได้ข้องแวะในกิเลส อย่าทำให้ใบหน้าของลูกสกปรก แม้กระนั้นพวกเขาก็เขียนว่า บาบา มายาทำให้ฉันพ่ายแพ้ นั่นคือฉันทำให้ใบหน้าของฉันสกปรก มีผู้ที่น่าเกลียดและสวยงาม ผู้ที่มีกิเลสนั้นน่าเกลียดและผู้ที่ไม่มีกิเลสนั้นสวยงาม ไม่มีใครในโลกนอกจากลูกที่จะเข้าใจความหมายของ “น่าเกลียดและสวยงาม” กฤษณะนั้นเรียกว่า“ชยัม-ซุนดร้า”ด้วยเช่นกัน พ่ออธิบายความหมายของสิ่งนี้กับลูก เขาคือเจ้าชายอันดับหนึ่งของสวรรค์ ผู้นี้ก็ได้สอบผ่านเป็นอันดับหนึ่งในความงาม และแล้วด้วยการกลับมาใช้ชาติเกิดขณะที่ลงมาเขาก็กลับมาน่าเกลียดและดังนั้นเขาจึงได้ชื่อว่า“ชยัม-ซุนดร้า” พ่ออธิบายความหมายนี้ ชีพบาบาบริสุทธิ์เสมอ ท่านมาและทำให้ลูกๆ สวยงาม ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ก็น่าเกลียดและผู้ที่บริสุทธิ์นั้นก็สวยงาม ที่นั่นมีความสวยงามตามธรรมชาติ ลูกๆมาที่นี่เพื่อจะกลายเป็นนายแห่งสวรรค์ ดังนั้นจึงมีคำยกย่องคำพูดของพระเจ้าว่า ผู้เป็นแม่เปิดประตูไปสู่สวรรค์ เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่า ขอคารวะต่อผู้เป็นแม่! เมื่อลูกพูดว่าขอคารวะต่อผู้เป็นแม่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่ามีพ่อเช่นกัน พ่อเพิ่มคำยกย่องของผู้เป็นแม่ อันดับแรกคือลักษมีแล้วก็นารายณ์ ที่นี่พวกเขามีคำว่านาย(มิสเตอร์) ก่อนแล้วจึงเป็นนาง(มิสซิส) ความลับของละครนี้ถูกสร้างขึ้นมาในลักษณะนี้ ก่อนอื่นใดพ่อผู้สร้างได้ให้คำแนะนำของท่าน หนึ่งคือพ่อทางร่างที่มีขีดจำกัด และอีกหนึ่งคือพ่อเหนือโลกที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกจดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดเพราะลูกได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากท่าน แม้แต่ขณะที่ได้รับมรดกที่มีขีดจำกัดลูกก็จดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกพูดว่า “บาบาเมื่อท่านมาเรานั้นจะตัดขาดจากคนอื่นและเชื่อมโยงตัวเรากับท่านผู้เดียวเท่านั้น” ใครพูดสิ่งนี้? ดวงวิญญาณ เป็นดวงวิญญาณที่เล่นบทบาทของเขาด้วยอวัยวะเหล่านี้ แต่ละดวงวิญญาณกลับมาใช้ชาติเกิดใหม่และกลายเป็นผู้ที่มั่งคั่งหรือยากจนตามการกระทำประเภทต่างๆที่เขาได้กระทำ สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับการกระทำ ลักษมีและนารายณ์ได้กลายเป็นนายของโลก พวกเขาได้ทำอะไร? เพียงลูกเท่านั้นที่รู้สิ่งนี้ เพียงลูกเท่านั้นที่สามารถอธิบายสิ่งนี้ พ่อพูดว่า จงมีการวางเฉยต่อสิ่งใดก็ตามที่ลูกเห็นด้วยดวงตาคู่นี้ ทั้งหมดนี้กำลังจะจบสิ้นลง เมื่อบ้านใหม่กำลังมีการสร้างขึ้นมาก็มีการวางเฉยต่อบ้านเก่า ลูกๆจะพูดว่าบาบาของพวกเราได้สร้างบ้านใหม่สำหรับพวกเรา และดังนั้นพวกเขาก็จะไปและอยู่ที่นั่น บ้านเก่านี้จะถูกถูกทำลาย นี่คือเรื่องราวที่ไม่มีขีดจำกัด ลูกๆ รู้ว่าพ่อมาเพื่อก่อตั้งสวรรค์ นี่คือโลกเก่าที่สกปรก เวลานี้ลูกกำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าตรีมูรติชีวา ลูกกลายเป็นผู้ที่มีชัยชนะ ในความเป็นจริงตรีมูรตินี้คือตราประจำตระกูลของลูก สกุลบราห์มินของลูกนี้คือสกุลที่สูงส่งที่สุด นั่นคือจุก อาณาจักรกำลังมีการก่อตั้งขึ้นมา เพียงลูกบราห์มินเท่านั้นที่รู้ถึงตราประจำตระกูลนี้ ชีพบาบากำลังสอนพวกเราผ่านบราห์มาบาบาเพื่อทำให้พวกเรากลายเป็นเทพ การทำลายล้างต้องเกิดขึ้น เมื่อโลกกลับมาตาโมประธาน ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็จะช่วยเหลือด้วยเช่นกัน พวกเขาเฝ้าแต่ใช้สติปัญญาของพวกเขาในการประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์มากมายด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าขีปนาวุธจะปรากฏออกมาจากท้องของพวกเขา แต่สิ่งเหล่านั้นจะปรากฏออกมาด้วยวิทยาศาสตร์ที่สิ่งนั้นจะทำลายเผ่าพันทั้งหมด ได้มีการอธิบายแก่ลูกว่า ชีพบาบานั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด ชีพบาบาและเหล่าเทพที่ควรได้รับการกราบไหว้บูชา บราห์มินไม่สามารถได้รับการกราบไหว้บูชาเพราะแม้ว่าลูกดวงวิญญาณจะบริสุทธิ์แต่ร่างกายของลูกก็ไม่บริสุทธิ์ เหตุนี้เองลูกจึงไม่สามารถเป็นผู้ที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา ลูกมีค่าควรได้รับการยกย่อง เมื่อลูกกลายเป็นเทพ ลูกดวงวิญญาณจะกลับมาบริสุทธิ์และลูกได้รับร่างใหม่ที่บริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน ในเวลานี้ลูกมีค่าควรแก่การยกย่อง มีคำกล่าวว่า ขอคาราวะต่อผู้เป็นแม่! กองทัพของผู้เป็นแม่ทำอะไร? ผู้เป็นแม่ที่ให้ความรู้ด้วยการทำตามศรีมัท ผู้เป็นแม่ให้ความรู้แก่ทุกคนบนพื้นฐานของศรีมัท ผู้เป็นแม่ให้ทุกคนดูดซับน้ำทิพย์แห่งความรู้ เพียงลูกเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งนี้อย่างถูกต้องแม่นยำ มีการเขียนเรื่องราวต่างๆมากมายในคัมภีร์ซึ่งพวกเขานั่งและถ่ายทอดแก่ผู้อื่น ลูกเฝ้าแต่พูดว่า นั่นคือความจริง นั่นเป็นความจริง หากลูกนั่งที่นี่และถ่ายทอดความรู้นี้แก่พวกเขา พวกเขาจะพูดว่า นั่นคือความจริง นั่นคือความจริง “สัต สัต” (“จริง จริง”) เวลานี้ลูกจะไม่พูดว่าสิ่งนั้นเป็นจริงอีกต่อไป ผู้คนมีสติปัญญาที่เป็นหินเช่นนั้นที่พวกเขาเฝ้าแต่พูดว่า “นี่เป็นความจริง นี่เป็นความจริง” มีการจดจำกันว่า มีผู้ที่มีสติปัญญาเป็นหินและผู้ที่มีสติปัญญาที่สูงส่ง การมีสติปัญญาที่สูงส่งหมายถึงการเป็นเจ้าแห่งความสูงส่ง ในเนปาลพวกเขามีภาพของเจ้าแห่งความสูงส่ง นั่นคือลักษมีและนารายณ์ผู้ที่เป็นเจ้าของดินแดนแห่งความสูงส่ง นี่คือราชวงศ์ของพวกเขา สิ่งหลักคือการรู้ความลับของผู้สร้างและสิ่งสร้าง ฤาษีและมุนีก็เคยพูดว่า “เนติ เนติ” (“ไม่ใช่สิ่งนี้หรือสิ่งนั้น”) เกี่ยวกับท่าน เวลานี้ลูกรู้ทุกสิ่งจากพ่อ นั่นคือในเวลานี้ลูกได้กลายเป็นผู้ที่นับถือพระเจ้า มายาราวันทำให้ลูกเป็นผู้ที่ไม่นับถือในพระเจ้า อัจชะ

ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง ด้วยความรัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต

สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. มีสำนึกเสมอว่าลูกบราห์มินคือสิ่งสร้างที่เกิดจากปากของบราห์มา สกุลของลูกสูงสุดในบรรดาทั้งหมด ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์และทำให้ผู้อื่นบริสุทธิ์ กลายเป็นผู้ช่วยของพ่อผู้ชำระให้บริสุทธิ์

2. อย่าได้ไม่ระมัดระวังเกี่ยวกับการจดจำระลึกถึง เป็นเพราะสำนึกที่เป็นร่างที่มายาสร้างอุปสรรคในการจดจำระลึกถึง ดังนั้นก่อนอื่นใดละทิ้งสำนึกที่เป็นร่าง ทำลายบาปทั้งหมดของลูกด้วยพลังโยคะ

พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้เอาชนะมายาและมองเห็นเกมในรูปที่น่ากลัวของมายาอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง

ผู้ที่ต้อนรับมายาจะไม่หวาดกลัวเมื่อมองเห็นรูปที่น่ากลัวของมายา เมื่อดูเกมอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวาง ลูกจะสนุกกับตนเอง เพราะจากภายนอกมายาอาจจะมีรูปแบบของสิงโตแต่เธอไม่ได้มีพละกำลังแม้กระทั่งเท่ากับแมว เป็นเพียงเพราะว่าลูกกลัวและให้รูปที่ใหญ่โตแก่เธอ “ฉันจะทำอย่างไรดี? สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?” ลูกต้องจดจำบทเรียนของ “สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ดีและสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะดียิ่งกว่า ดูเกมอย่างเป็นผู้สังเกตการณ์ที่ละวางและลูกจะกลายเป็นผู้เอาชนะมายา

คติพจน์:
ผู้ที่มีความอดทนจะไม่อิจฉาความรู้สึกหรือธรรมชาติของใคร พวกเขาฟังสิ่งที่ไร้สาระด้วยหูข้างหนึ่งและให้มันออกไปด้วยหูอีกข้างหนึ่ง