28.06.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ลูกคือพี่น้องทางจิตของกันและกัน ลูกควรจะมีความรักอย่างมากต่อกัน
จงกลายเป็นแม่น้ำคงคาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
ไม่ต่อสู้รบราหรือทะเลาะเบาะแว้งกัน
คำถาม:
พ่อทางจิตมีความรักลูกคนไหนเป็นอย่างมาก?
คำตอบ:
1)
พ่อรักลูกที่ให้คุณประโยชน์ต่อโลกโดยการทำตามศรีมัท 2)
ผู้ที่กลายเป็นดอกไม้และไม่เคยทิ่มแทงผู้อื่นด้วยหนาม
ผู้ที่อยู่กับผู้อื่นด้วยความรักเป็นอย่างมากและไม่เคยบูดบึ้งขึงตึงคือลูกที่เป็นที่รักของพ่อ
ผู้ที่มีสำนึกที่เป็นร่างและต่อสู้กันเองและกลายเป็นเช่นน้ำเกลือทำให้สูญเสียเกียรติของพ่อ
พวกเขากลายเป็นผู้ที่ประณามพ่อ
โอมชานติ
เช่นที่ลูกๆ
ทางจิตรักพ่อทางจิต ในทำนองเดียวกันพ่อทางจิตก็รักลูกๆ ทางจิตด้วยเช่นกัน
เพราะลูกกำลังให้คุณประโยชน์แก่ทั้งโลกด้วยการทำตามศรีมัท
ผู้ที่เป็นผู้ให้คุณประโยชน์ทั้งหมดเป็นที่รักของทุกคน
ลูกทั้งหมดคือพี่น้องเพศชายของกันและกัน
ดังนั้นลูกจะต้องเป็นที่รักของกันและกันอย่างแน่นอน
จะไม่มีความรักมากมายเช่นนั้นในหมู่คนภายนอกเหมือนอย่างที่ลูกของพ่อมี
ลูกควรมีความรักอย่างมากมายให้กันด้วยเช่นกัน
หากพี่น้องรบรากันที่นี่หรือไม่มีความรักต่อกันและกัน พวกเขาก็ไม่ใช่พี่น้องกัน
ลูกควรจะมีความรักต่อกัน
พ่อมีความรักต่อดวงวิญญาณและดังนั้นดวงวิญญาณควรมีความรักต่อกันและกันเช่นกัน
ในยุคทองดวงวิญญาณทั้งหมดรักกัน เพราะสำนึกที่เป็นร่างจะแตกสลายไป
ลูกพี่น้องทั้งหลายได้ให้คุณประโยชน์แก่ทั้งโลกด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียว
ลูกกำลังให้ประโยชน์แก่ตนเองและลูกควรจะให้ประโยชน์แก่พี่น้องของลูกด้วย
เหตุนี้เองพ่อจึงทำให้ลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณจากสำนึกที่เป็นร่าง
พี่น้องทางกายก็รบรากันเองเพื่อแบ่งทรัพย์สมบัติของพวกเขา
ไม่มีเรื่องของการรบราหรือทะเลาะเบาะแว้งกันที่นี่
ลูกแต่ละคนต้องทำการเชื่อมต่อสายใยโดยตรง นี่คือประเด็นที่ไม่มีขีดจำกัด
ลูกต้องประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อด้วยพลังโยคะ
ลูกประกาศสิทธิ์ในมรดกทางกายจากพ่อทางร่างกายในขณะที่ผู้เดียวนี้คือพ่อทางจิต
ผู้ที่ลูกๆทางจิตได้รับมรดกทางจิตของลูกจากท่าน
ลูกแต่ละคนต้องประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกโดยตรงจากพ่อ
ยิ่งลูกแต่ละคนจดจำพ่อมากเท่าไหร่ลูกก็จะได้รับมรดกมากเท่านั้น
เมื่อพ่อเห็นว่าลูกกำลังรบรากัน พ่อก็จะถามว่า ลูกเป็นเด็กกำพร้าหรือ?
พี่น้องทางจิตไม่ควรที่จะรบรากับกันและกัน
หากในฐานะที่เป็นพี่น้องแล้วลูกต่อสู้กันเอง
หากไม่มีความรักแล้วก็เหมือนกับว่าลูกเป็นของราวัน
พวกเขาทั้งหมดคือลูกที่เป็นเช่นปีศาจ
ในกรณีนี้เมื่อลูกต่อสู้กันเมื่อลูกมีสำนึกที่เป็นร่างมันก็จะเป็นเหมือนราวกับว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างลูกที่เป็นเช่นปีศาจและลูกของพระเจ้า
ดวงวิญญาณไม่ได้ต่อสู้กับดวงวิญญาณ เหตุนี้เองพ่อจึงพูดว่า ลูกที่สุดแสนหวาน
อย่าได้กลายเป็นเช่นน้ำเกลือซึ่งกันและกัน
เป็นเมื่อลูกกลายเป็นเช่นนั้นพ่อจึงอธิบายแก่ลูก
แล้วพ่อจะพูดว่าลูกคือลูกที่มีสำนึกที่เป็นร่าง
ลูกเช่นนั้นคือลูกของราวันไม่ใช่ลูกของพ่อ เพราะลูกอยู่ด้วยกันเหมือนน้ำเกลือ
ลูกคงอยู่เหมือนน้ำนมและน้ำตาลเป็นเวลา 21 ชาติเกิด
ในเวลานี้ลูกต้องอยู่อย่างมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
หากลูกเข้ากันไม่ได้หรือไม่ลงรอยกันแล้วลูกควรจะพิจารณาตนเองว่าเป็นของชุมนุมราวันในเวลานั้น
ด้วยการเป็นเหมือนกับน้ำเกลือซึ่งกันและกันลูกก็เป็นเหตุที่ทำให้พ่อสูญเสียเกียรติของท่าน
แม้ว่าลูกจะเรียกว่าเป็นลูกของพระเจ้าหากมีลักษณะนิสัยที่เป็นเช่นปีศาจในตัวลูก
ลูกก็มีสำนึกที่เป็นร่าง ลูกที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณจะมีคุณธรรมของพระเจ้าในตัวเขา
เมื่อลูกสร้างสมคุณธรรมของพระเจ้าที่นี่พ่อก็พาลูกกลับไปกับพ่อแล้วลูกก็จะนำสันสการ์เหล่านั้นไปกับลูก
พ่อรู้ว่าลูกมีสำนึกที่เป็นร่างและอยู่กันเหมือนน้ำเกลือ
พวกเขาไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นลูกของพระเจ้า
พวกเขาสร้างความเสียหายอย่างมากต่อตัวเขาเอง พวกเขาได้รับอิทธิพลของมายา
พวกเขากลายเป็นเหมือนน้ำเกลือกับกันและกัน(ผู้ที่มีความขัดแย้ง)
ที่จริงแล้วทั้งโลกเป็นเหมือนน้ำเกลือดังนั้นหากแม้กระทั่งลูกๆ
ของพระเจ้ากลายเป็นเหมือนกับน้ำเกลือแล้วมันจะแตกต่างอะไร?
พวกเขาเป็นเหตุที่ทำให้พ่อถูกประณาม
ผู้ที่กลายเป็นเหมือนกับน้ำเกลือและเป็นเหตุที่ทำให้พ่อถูกประณามไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางของเขาได้
พวกเขาแม้กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า
ลูกที่กลายเป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้าจะไม่มีการรบรากับใคร ลูกต้องไม่รบรากันและกัน
ลูกต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยความรักที่นี่เพื่อที่จะมีความรักนั้นเป็นเวลาถึง
21 ชาติเกิด
หากหลังจากที่เรียกตนเองว่าเป็นลูกของพ่อแล้วลูกไม่ได้กลายเป็นพี่น้องกันและแล้วลูกก็เป็นลูกที่เป็นเช่นปีศาจ
พ่อพูดมุรลีเพื่อที่จะอธิบายแก่ลูกๆ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากสำนึกที่เป็นร่างบางคนก็ไม่ได้ตระหนักว่าพ่อกำลังพูดสิ่งนี้กับพวกเขา
มายาฉลาดมาก เหมือนกับที่หนูกัดในลักษณะเช่นนั้นที่ลูกไม่แม้แต่จะรับรู้เลย
ดังนั้นมายาเช่นกันก็เป่าลูกอย่างหวานชื่นมากแล้วก็กัดลูก
และลูกก็ไม่แม้แต่จะรับรู้ถึงสิ่งนั้นเลย
การบูดบึ้งขึงตึงกับกันและกันคืองานของชุมนุมที่เป็นเช่นปีศาจ
ที่ศูนย์ต่างๆมากมายลูกๆก็เป็นเหมือนกับน้ำเกลือ ยังไม่มีใครกลับมาสมบูรณ์พร้อม
มายาก็เฝ้าแต่ทำสงคราม มายาถลกหนังศีรษะลูกเช่นนั้นที่ลูกไม่รู้ตัวเลย
ลูกต้องถามหัวใจของลูกว่าลูกมีความรักในหัวใจของลูกต่อกันและกันหรือไม่
ลูกคือลูกของมหาสมุทรแห่งความรักและดังนั้นลูกต้องกลายเป็นแม่น้ำคงคาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
แทนที่จะต่อสู้และทะเลาะเบาะแว้งกันและพูดสิ่งที่ไม่ดีหรือสิ่งที่ผิด
เป็นการดีเสียกว่าที่จะไม่พูดอะไรเลย อย่าได้ยินสิ่งที่เลวร้าย!
หากใครบางคนมีร่องรอยของความโกรธนั่นก็แสดงว่าไม่มีความรักนั้น
เหตุนี้เองบาบาพูดว่า จงเขียนชาร์ทของลูกทุกวัน
หากลูกไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เป็นเช่นปีศาจของลูกได้ผลที่ตามมานั้นจะเป็นเช่นไร?
ลูกจะได้รับสถานภาพอะไร? พ่ออธิบายว่า
หากใครบางคนไม่ทำงานรับใช้สภาพของเขาจะกลายเป็นเช่นไร? สถานภาพของเขาก็จะลดลง
ทุกคนจะมีนิมิต ลูกก็จะมีนิมิตของการศึกษาเล่าเรียนของลูกเช่นกัน
เป็นเพียงหลังจากที่ลูกได้นิมิตแล้วเท่านั้นที่ลูกจะได้รับการโยกย้าย
หลังจากที่ได้รับการโยกย้ายลูกก็จะไปสู่โลกใหม่
ในเวลาสุดท้ายลูกจะมีนิมิตของทุกสิ่ง ใครที่สอบผ่านและด้วยคะแนนมากเท่าไร
และแล้วก็จะมีการร้องไห้คร่ำครวญ
จะมีประสบการณ์ของการลงโทษและจะมีการเสียใจภายหลังเพราะลูกไม่ได้รับฟังบาบา
บาบาอธิบายแก่ลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าลูกต้องไม่มีลักษณะนิสัยที่เป็นเช่นปีศาจใดในตัวลูก
ผู้ที่มีคุณธรรมที่สูงส่งควรทำให้ผู้อื่นทัดเทียมกับตนเอง
เป็นสิ่งที่ง่ายดายมากที่จะจดจำพ่อ: อัลฟ่าและเบต้า
อัลฟ่าหมายถึงพ่อและเบต้าหมายถึงอำนาจในการปกครอง ดังนั้นลูกๆ
ลูกควรจะมีความซาบซึ้ง
หากลูกเป็นเหมือนน้ำเกลือซึ่งกันและกันแล้วลูกจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นลูกของพระเจ้าได้อย่างไร?
บาบาก็จะคิดว่าลูกคือลูกที่เป็นเช่นปีศาจและมายาก็ได้คว้าจมูกลูกไว้
พวกเขาไม่แต่จะตระหนักว่าสภาพของพวกเขานั้นขึ้นลง และสถานภาพของพวกเขาก็ลดลง ลูกๆ
ควรจะพยายามที่จะสอนพวกเขาด้วยความรัก ให้มีสายตาของความรัก
พ่อคือมหาสมุทรแห่งความรักและดังนั้นพ่อจึงดึงดูดลูกๆ
ลูกเช่นกันต้องกลายเป็นมหาสมุทรแห่งความรัก พ่ออธิบายแก่ลูกๆ
ด้วยความรักอย่างมากและให้คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติที่ดีแก่ลูก
ด้วยการทำตามคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติของพระเจ้าลูกจะกลายเป็นดอกไม้
ท่านให้คุณธรรมทั้งหมดแก่ลูก
เหล่าเทพมีความรักและดังนั้นลูกต้องสร้างสภาพนั้นที่นี่
ลูกมีความรู้ในเวลานี้แต่เมื่อลูกกลายเป็นเทพลูกก็จะไม่มีความรู้นี้
มีเพียงความรักที่สูงส่งที่นั่น
ดังนั้นลูกๆต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งในเวลานี้ด้วยเช่นกัน
ในเวลานี้ลูกกำลังทำความเพียรพยายามเพื่อที่จะกลับมามีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
เวลานี้ลูกอยู่ในยุคบรรจบพบกัน
พ่อมาในบารัตและผู้คนก็เฉลิมฉลองวันเกิดของชีวาแต่พวกเขาไม่รู้ว่าท่านคือใคร
ท่านมาเมื่อไหร่หรือท่านทำอะไร ลูกๆ รู้สิ่งนี้
ในเวลานี้ตามลำดับกันไปตามความเพียรพยายามของลูก
ผู้ที่ไม่รู้ก็ไม่สามารถที่จะอธิบายแก่ใครได้ และแล้วสถานภาพของพวกเขาก็ลดลง
ในบรรดาผู้ที่ศึกษาในโรงเรียนพฤติกรรมของบางคนก็ไม่ดีและพฤติกรรมของบางคนก็ดีเสมอ
บางคนมาเรียนเสมอและบางคนยังคงขาดเรียน
ที่นี่ผู้ที่จดจำพ่อเสมอและควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองจะมาเรียน พ่อพูดว่า
ขณะที่เดินเหินและเคลื่อนไหวไปทั่ว
จงพิจารณาว่าตนเองเป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
เมื่อลูกลืมสิ่งนี้ลูกก็ขาดเรียน
เพียงเมื่อลูกมาเรียนเสมอเท่านั้นที่ลูกจะได้รับสถานภาพที่สูง
หากลูกลืมลูกก็จะได้รับสถานภาพที่ต่ำ พ่อรู้ว่ายังคงมีเวลา
กงจักรจะหมุนอยู่ในสติปัญญาของผู้ที่จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง มีคำกล่าวว่า
ให้มีการจดจำระลึกถึงชีพบาบา
ให้มีน้ำทิพย์แห่งความรู้ในปากของลูกแล้วจึงออกจากร่างของลูก
หากมีความรักต่อสิ่งใดลูกก็จะเฝ้าแต่จดจำสิ่งนั้นในเวลาสุดท้าย
หากมีความละโมบต่ออาหารแล้วในช่วงเวลาของความตายลูกก็จะจดจำอยู่เสมอว่าลูกต้องการจะรับประทานสิ่งนั้น
และแล้วสถานภาพของลูกก็จะถูกทำลาย พ่อพูดว่า
ตายในขณะที่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง อย่าได้จดจำสิ่งอื่นใด
ดวงวิญญาณต้องกลับไปอย่างเช่นที่พวกเขามาโดยไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ
ความละโมบนั้นก็ไม่ยิ่งหย่อน
หากมีความละโมบลูกจะเฝ้าแต่จดจำสิ่งที่มีความละโมบในเวลาสุดท้าย
และหากลูกไม่ได้รับสิ่งนั้นลูกก็จะตายด้วยความปรารถนานั้น ดังนั้นลูกๆ
ไม่ควรจะมีความละโมบใดๆ ฯลฯ พ่ออธิบายอย่างมาก
แต่มีเพียงผู้ที่เข้าใจเท่านั้นที่จะเข้าใจ
ขอให้การจดจำระลึกถึงพ่อเกาะเกี่ยวอยู่กับหัวใจของลูก: บาบา โอ บาบา!
ลูกต้องไม่พูดแม้แต่คำว่า “บาบา บาบา!” ให้มีเสียงท่องเงียบๆนั้นคงอยู่ภายใน
เพียงเมื่อลูกละร่างกายนั้นในการจดจำระลึกถึงพ่อและในสภาพอยู่เหนือบ่วงกรรมเท่านั้นที่ลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
กลายเป็นแม่น้ำคงคาแห่งความรักที่เปี่ยมล้น ให้มีสายตาของความรักต่อทุกคน
อย่าได้ใช้คำพูดที่ผิดๆ
2. อย่าได้มีความละโมบต่อสิ่งใด เป็นผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
ฝึกฝนเพื่อที่ลูกจะไม่จดจำสิ่งใดในเวลาสุดท้าย
พร:
ขอให้ลูกได้รับเหรียญตราในรูปแบบของสภาพที่สูงส่งในชีวิตบราห์มินของลูกและกลายเป็นจักรพรรดิแห่งดินแดนที่ไร้กังวล
ลูกทุกคนกลายเป็นบราห์มินเพื่อทำให้สภาพส่วนตัวของลูกดีที่สุด
ในชีวิตบราห์มินสภาพที่สูงส่งเป็นสมบัติส่วนตัวของลูก
มันเป็นเหรียญแห่งชีวิตบราห์มิน
ผู้ที่ได้รับเหรียญนี้จะอยู่อย่างมั่นคงอย่างสม่ำเสมอในสภาพที่สม่ำเสมอไม่ไหวหวั่นสั่นคลอนและจะมีความไร้กังวลอย่างสม่ำเสมอ
พวกเขากลายเป็นจักรพรรดิของดินแดนที่ไร้กังวล
พวกเขาเป็นอิสระจากความปรารถนาทั้งหมดและเป็นตัวของการไม่รู้ความรู้ใด ๆ
ของความปรารถนา
คติพจน์:
เมื่อลูกจบสิ้นสำนึกที่เป็นร่าง สถานการณ์ที่เลวร้ายทั้งหมดจะจบสิ้นลงโดยอัตโนมัติ
คำพูดที่สูงส่งของมาเตซวารีจี
มหาภารตะซ้ำรอยในทางปฏิบัติในช่วงเวลาของยุคบรรจบพบกันนี้
ดูสิพวกเขากล่าวว่า การต่อสู้เกิดขึ้นระหว่างคาราวาสและพันดาวาสในทุ่งคุรุเกษตร
แล้วพวกเขาได้แสดงให้เห็นว่ามิตรของพันดาวาส คือศรีกฤษณะผู้ที่ให้คำแนะนำแก่พวกเขา
ดังนั้นด้านที่มีพระเจ้าแห่งวัตถุธาตุอยู่กับพวกเขาจะชนะอย่างแน่นอน
ดูซิพวกเขาสับสนกับทุกสิ่งอย่างไร
ก่อนอื่นลูกต้องเข้าใจว่าพระเจ้าของวัตถุธาตุไม่ใช่กฤษณะ
เป็นดวงวิญญาณสูงสุดที่เป็นพระเจ้าแห่งวัตถุธาตุ
ในขณะที่กฤษณะเป็นเทพองค์แรกของยุคทองและเขาไม่สามารถถูกเรียกว่าพระเจ้าได้
ดังนั้นผู้ร่วมขับรถม้าของพันดาวาสคือพระเจ้าและไม่ศรีกฤษณะ
พระเจ้าไม่สามารถสอนพวกเราลูกๆใช้ความรุนแรงและพันดาวาสไม่ควรสู้รบในการต่อสู้ที่รุนแรงและประกาศสิทธิ์ในอำนาจในการปกครองตนเอง
โลกนี้เป็นสนามแห่งการกระทำซึ่งไม่ว่าผู้คนจะหว่านเมล็ดใดก็ตามผ่านการกระทำของพวกเขา
พวกเขาจะได้รับผลที่ดีหรือไม่ดีตามนั้น
ในสนามของการกระทำนี้พันดาวาสและแม่ของบารัตซึ่งเป็นการอวตารมาเกิดของชัคตีในปัจจุบัน
พระเจ้ามาในดินแดนของบารัตและเหตุนี่เองบารัตจึงถูกกล่าวว่าเป็นดินแดนที่ไม่สูญสลาย
พระเจ้าได้จุติลงมาในดินแดนบารัตโดยเฉพาะ
เพราะการขยายตัวของความไม่ถูกต้องในศีลธรรมมาจากดินแดนบารัต
ที่นี่ที่พระเจ้าทำลายอาณาจักรของคาราวาสด้วยพลังโยคะและก่อตั้งอาณาจักรของพันดาวาส
ดังนั้นพระเจ้ามาและก่อตั้งอาณาจักรแห่งความถูกต้องในศีลธรรม
แต่ผู้คนของบารัตได้ลืมศาสนาที่บริสุทธิ์ที่ยิ่งใหญ่และการกระทำที่สูงส่งของพวกเขาและเรียกตนเองว่าฮินดู
เพราะไม่รู้ศาสนาของตนเอง ผู้ที่น่าสงสารจึงได้เปลี่ยนไปสู่ศาสนาอื่น
นี่คือความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัดซึ่งนายที่ไม่มีขีดจำกัดเองได้บอกกับเรา
พวกเขาลืมศาสนาดั้งเดิมของพวกเขาและติดกับอยู่ในสิ่งที่มีขีดจำกัด
สิ่งนี้กล่าวได้ว่าเป็นการประณามศาสนาอย่างที่สุด
เพราะสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดเป็นศาสนาแห่งวัตถุธาตุ
อย่างไรก็ตามสิ่งแรกต้องมีศาสนาของตนเองก่อน
ดังนั้นศาสนาดั้งเดิมของตนเองของแต่ละคนคือ: ฉัน
ดวงวิญญาณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสงบ และแล้วศาสนาของวัตถุธาตุ (ของร่างกาย)
คือศาสนาเทพ มี 330 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในบารัตเป็นเทพ เหตุนี้เองพระเจ้าพูดว่า
ละทิ้งศาสนาทางร่างกายทั้งหมดที่นับไม่ถ้วน ละทิ้งศาสนาอื่นทั้งหมด
เคยมีการปฏิวัติมากมายเพราะศาสนาที่มีขีดจำกัดเหล่านั้น
ดังนั้นเวลานี้จงเคลื่อนออกไปจากศาสนาที่มีขีดจำกัดและเข้าไปสู่ความไม่มีขีดจำกัด
ลูกต้องมีโยคะกับพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด,ผู้ทรงพลังอำนาจ,พระเจ้า
และเหตุนี้เองผู้ทรงพลังอำนาจ พระเจ้าแห่งวัตถุธาตุคือดวงวิญญาณสูงสุดไม่ใช่กฤษณะ
ดังนั้นเมื่อวงจรที่แล้วเช่นกัน ชัยชนะของฝ่ายที่มีพระเจ้าแห่งวัตถุธาตุ
พระเจ้าอยู่กับพวกเขาได้รับการจดจำเช่นกัน อัจชะ