20.10.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
24.02.85 Om Shanti Madhuban
ยุคบรรจบพบกัน คือ ยุคที่ได้มาซึ่งการบรรลุผลที่สูงส่งทั้งหมด
วันนี้
บัพดาดากำลังมองดูดวงวิญญาณพิเศษทั้งหมดทุกหนแห่ง
ผู้ที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด
ด้านหนึ่งมีดวงวิญญาณมากมายที่ได้มาซึ่งการบรรลุผลเพียงชั่วคราว
นั่นคือผู้ที่ได้มาซึ่งการบรรลุผลและขาดการได้มาซึ่งการบรรลุผลบางอย่างเช่นกัน
วันนี้พวกเขาได้มาซึ่งการบรรลุผล พรุ่งนี้ก็ขาดการได้มาซึ่งการบรรลุผล
ดังนั้นในด้านหนึ่งเป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลนับไม่ถ้วนและขาดแคลน
ในอีกด้านหนึ่งมีลูกดวงวิญญาณพิเศษจำนวนน้อยมากที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลตลอดเวลา
บาบาได้เห็นความแตกต่างอย่างมากมายระหว่างทั้งสอง
บัพดาดาพอใจและยินดีที่ได้เห็นลูกๆที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด
ลูกๆที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดมีโชคหลายล้านเท่า
ลูกดวงวิญญาณพิเศษที่ได้มาซึ่งการบรรลุผลมากมายจนทุกย่างก้าวของลูกทำให้ได้มาซึ่งหลายล้าน
ในชีวิตทางโลกในชีวิตของการเป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด
การบรรลุผลในสี่สิ่งที่พิเศษเป็นสิ่งที่จำเป็น 1. ความสัมพันธ์ที่ให้ความสุข 2.
ธรรมชาติและซันสการ์ที่เยือกเย็นและมีความรักเสมอ 3.ความมั่งคั่งที่สูงส่งของรายได้ที่แท้จริง
4. การกระทำที่สูงส่งและสายใยที่สูงส่ง
หากลูกมีการบรรลุผลทั้งสี่สิ่งนี้ก็จะมีความสำเร็จและความสุขในชีวิตทางโลกของลูกเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการได้มาซึ่งการบรรลุผลในชีวิตทางโลกนั้นเป็นเพียงการได้มาเพียงชั่วคราวเท่านั้น
วันนี้ความสัมพันธ์เป็นเช่นนั้นที่ให้ความสุข
ในขณะที่ในวันพรุ่งนี้ความสัมพันธ์เดียวกันนั้นจะเป็นเช่นนั้นที่ทำให้เกิดความทุกข์
วันนี้มีความสำเร็จและพรุ่งนี้ไม่มี
ในทางตรงกันข้ามลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลจะมีทั้งสี่สิ่งนี้สม่ำเสมอตลอดเวลาในชีวิตทางจิตที่สูงส่ง
เพราะลูกมีความสัมพันธ์ที่ไม่สูญสลายโดยตรงกับผู้ประทานความสุข
ผู้ประทานการบรรลุผลทั้งหมด
ความสัมพันธ์นี้เป็นความสัมพันธ์ที่จะไม่สร้างความทุกข์ให้กับลูกหรือหลอกลวงลูก
ในความสัมพันธ์ที่สูญสลายในปัจจุบันมีแต่ความทุกข์หรือความหลอกลวง
ในความสัมพันธ์ที่ไม่สูญสลายจะมีความรักที่แท้จริงและมีความสุข
ดังนั้นลูกมีความรักและมีความสัมพันธ์ของความสุขกับพ่อเสมอ
ไม่มีแม้กระทั่งความสัมพันธ์เดียวที่ขาดหายไป
ลูกสามารถสัมผัสกับการได้มาซึ่งการบรรลุผลผ่านความสัมพันธ์ใดก็ตามที่ลูกต้องการ
ไม่ว่าความสัมพันธ์ใดก็ตามที่ดวงวิญญาณพบว่าน่ารัก
พระเจ้าจะเติมเต็มความรับผิดชอบของความรักผ่านความสัมพันธ์นั้น
ลูกทำให้พระเจ้าเป็นผู้เดียวที่ลูกมีความสัมพันธ์ทั้งหมด
ไม่มีช่วงเวลาไหนตลอดทั้งวงจรที่จะสามารถได้มาซึ่งความสัมพันธ์ที่สูงส่งเช่นนั้นได้
ดังนั้นลูกได้มาซึ่งความสัมพันธ์เช่นกัน
พร้อมกับสิ่งนั้นเนื่องจากลูกมีธรรมชาติที่สูงส่งและซันสการ์ของพระเจ้าในชีวิตที่สูงส่งทางจิตนี้
ธรรมชาติและซันสการ์ของลูกจะไม่มีวันสร้างความทุกข์ให้กับผู้ใด
สิ่งใดก็ตามที่เป็นซันสการ์ของบัพดาดาก็เป็นซันสการ์ของลูกๆ
ธรรมชาติของบัพดาดาก็เป็นธรรมชาติของลูกๆ “สวาบาฟ”(ความรู้สึกของตนเอง,
ธรรมชาติของเรา) หมายถึง การมีความรู้สึกในสำนึกที่เป็นดวงวิญญาณต่อทุกคน
สวายังหมายถึงความสูงส่งด้วย
ความรู้สึกของตนเองหรือความรู้สึกที่สูงส่งนั้นคือสวาบาฟ(ธรรมชาติ)
เป็นผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่มีความเมตตาและเป็นผู้ที่ให้คุณประโยชน์แก่โลกอย่างสม่ำเสมอคือซันสการ์ของพ่อและดังนั้นควรจะเป็นซันการ์ของลูกด้วย
ด้วยเหตุนี้ธรรมชาติและซันสการ์ของลูกจึงให้การบรรลุผลแห่งความสุขแก่ลูกเสมอ
ในทำนองเดียวกันลูกมีความมั่งคั่งของรายได้ที่แท้จริงที่ให้ความสุขแก่ลูก
ดังนั้นลูกได้รับสมบัติที่ไม่มีวันสูญสลายมากมายแค่ไหน?
ลูกแต่ละคนนั้นเป็นนายของเหมืองแห่งสมบัติที่มีค่า
ลูกไม่เพียงแค่ได้รับสมบัติที่มีค่าแต่ลูกได้รับสมบัติที่ไม่มีที่สิ้นสุดและนับไม่ถ้วนที่ลูกสามารถเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆโดยการใช้จ่ายสิ่งเหล่านั้น
ยิ่งลูกใช้มากเท่าไรก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
ลูกมีประสบการณ์ของสิ่งนี้แล้วใช่ไหม?
ด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ลูกได้รับทรัพย์สมบัติทางกายภาพ?
ก็เพื่อที่ลูกจะได้รับประทานซุปถั่วและโรตีในความสุขและครอบครัวของลูกจะสามารถมีความสุข
เพื่อที่ลูกจะได้มีชื่อเสียงที่ดีในโลก จงดูตัวเอง
ลูกกำลังได้รับซุปถั่วและโรตีของความสุขและความสนุกสนานเช่นนั้น เป็นที่จดจำว่า:รับประทานซุปถั่วและโรตีและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า
ลูกกำลังรับประทานซุปถั่วและโรตีที่ได้รับการจดจำด้วยวิธีนี้
ลูกบราห์มินมีการรับประกันของบัพดาดาว่าลูกๆบราห์มินจะไม่ถูกตัดสิทธิ์จากซุปถั่วและโรตี
ลูกอาจจะไม่ได้รับอาหารที่มีแรงดึงดูดบางอย่าง
แต่ลูกจะได้รับซุปถั่วและโรตีอย่างแน่นอน ลูกมีซุปถั่วและโรตี
ครอบครัวของลูกก็โอเคและชื่อเสียงของลูกก็ได้รับการยกย่องมาก
ชื่อของลูกได้รับการยกย่องอย่างมาก แม้ว่าลูกจะมาถึงชาติเกิดสุดท้ายของลูก
ดวงวิญญาณมากมายก็ประสบความสำเร็จในการทำงานของพวกเขาผ่านชื่อเสียงของภาพลักษณ์ที่ไม่มีตัวตนของลูก
พวกเขาใช้ชื่อของลูกผู้เป็นเทพและทำให้งานของพวกเขาประสบความสำเร็จ
ชื่อของลูกได้รับการประกาศเกียรติคุณถึงขนาดนี้
ชื่อของลูกจะไม่ได้รับการประกาศเกียรติคุณเพียงชาติเกิดเดียวแต่ชื่อของลูกจะได้รับการประกาศเกียรติคุณตลอดทั้งวงจร
ดังนั้นลูกก็คือผู้ที่มีความมั่งคั่งของความสุขอย่างแท้จริง
ด้วยการมีสายใยเชื่อมโยงกับพ่อ สายใยกับลูกก็จะสูงส่งด้วยเช่นกัน
สายใยกับลูกสูงส่งมากที่ทำให้ดวงวิญญาณที่กระหายจะมีสายใยแม้กระทั่งหนึ่งวินาทีกับภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูก
พวกเขานั้นกระหายเพียงแค่จะมีสายใยหรือได้เหลือบมองลูกเท่านั้น
พวกเขายังคงตื่นอยู่ตลอดทั้งคืน
พวกเขาเฝ้าแต่ร้องเรียกหาสายใยแม้กระทั่งการเหลือบมองเพียงแค่หนึ่งวินาที
พวกเขาเฝ้าแต่ร้องไห้ออกมาอย่างมากและพวกเขาก็อดทนเป็นอย่างมากเพียงเพื่อที่จะได้ไปอยู่เบื้องหน้าภาพลักษณ์เหล่านั้น
นั่นเป็นเพียงแค่ภาพลักษณ์ และภาพลักษณ์เช่นนั้นก็อยู่ในบ้านของพวกเขาเช่นกัน
แต่พวกเขาก็ยังกระหายที่จะมีสายใยเชื่อมโยงเป็นการส่วนตัวกับภาพลักษณ์พิเศษนั้นโดยเฉพาะแม้กระทั่งหนึ่งวินาที
เนื่องจากลูกเป็นของพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดผู้เดียว
ลูกจึงมีสายใยกับดวงวิญญาณในโลกทั้งหมด เวลานี้ลูกเป็นของครอบครัวที่ไม่มีขีดจำกัด
เวลานี้ลูกมีสายใยกับดวงวิญญาณทั้งหมดในโลก
ดังนั้นลูกจึงได้รับทั้งสี่สิ่งนี้ตลอดไป
ด้วยเหตุนี้ลูกจึงมีชีวิตที่มีความสุขอย่างสม่ำเสมอ
ลูกมีชีวิตของการเป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผล
ไม่มีสิ่งใดขาดในชีวิตของบราห์มิน นี่คือเพลงของลูกใช่ไหม?
ลูกเป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลเช่นนั้นหรือลูกจะต้องกลายเป็นสิ่งนั้น?
ดังนั้นเมื่อลูกได้รับการบอกวันนี้บาบาก็กำลังมองดูลูกๆผู้ที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผล
ผู้คนในโลกเพียรพยายามอย่างมากเพื่อชีวิตที่สูงส่งนั้น แล้วลูกทำอะไร?
ลูกเพียรพยายามหรือลูกเพียงแค่มีความรัก?
ลูกได้ทำให้พ่อเป็นของลูกที่มาจากความรักของลูกที่มีต่อท่าน
ดังนั้นผู้คนในโลกนี้จึงเพียรพยายามและลูกก็ได้บรรลุถึงท่านจากความรักของลูกที่มีต่อท่าน
ลูกพูดว่า “บาบา” แล้วลูกก็ได้รับกุญแจไปสู่คลังสมบัติ
ผู้คนในโลกจะพูดอะไรถ้าลูกถามพวกเขา “เป็นการยากที่จะได้รับบางสิ่งบางอย่าง” “เป็นการยากมากที่จะอยู่ในโลกนี้”
แล้วลูกพูดอย่างไร? ลูกหามาได้หลายล้านในทุกย่างก้าว
เป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับลูกที่จะเคลื่อนไปในชีวิตนี้ เนื่องจากอยู่ในสภาพที่โบยบิน
ลูกจึงรอดพ้นจากการเดิน ลูกพูดว่า “ลืมเกี่ยวกับการเดิน เราต้องโบยบิน!”
มีความแตกต่างอย่างมากมาย วันนี้บัพดาดามองดูลูกๆทั้งหมดในโลก
ทุกคนนั้นยุ่งอยู่อย่างเต็มที่ในความรักที่จะได้มาซึ่งการบรรลุผลของพวกเขา
แต่ผลลัพธ์คืออะไร? พวกเขาทั้งหมดยุ่งอยู่ในการแสวงหาบางสิ่งบางอย่าง
ดูนักวิทยาศาสตร์สิ
พวกเขาก็มุ่งมั่นอยู่กับงานวิจัยของพวกเขาจนพวกเขาไม่สามารถคิดถึงสิ่งใดอีกเลย
ดูซิว่าดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ยุ่งอยู่กับการแสวงหาพระเจ้า
เนื่องจากความเข้าใจผิดเล็กๆน้อยๆ พวกเขาจึงถูกตัดสิทธิ์จากการได้มาซึ่งการบรรลุผล
เนื่องจากการเข้าใจผิดคิดว่าดวงวิญญาณเป็นดวงวิญญาณสูงสุด
หรือการคิดว่าพระเจ้าอยู่ทั่วไปในทุกหนแห่ง พวกเขาจึงยังคงแสวงหาต่อไป
พวกเขายังคงถูกตัดสิทธิ์จากการได้มาซึ่งการบรรลุผล
นักวิทยาศาสตร์เช่นกันก็ได้หลุดหายไปในงานวิจัยของพวกเขาและคิดว่าพวกเขาจะต้องไปให้ไกลกว่านี้อีกเล็กน้อย
และพวกเขาจะไปถึงดวงจันทร์ ดวงดาว แล้วก็สร้างโลกที่นั่น
ดูซิว่านักปราชญ์ของคัมภีร์ศาสนาที่หลุดหายไปในใยของการค้นหาความหมายของคัมภีร์ต่างๆอย่างไร
พวกเขามีเป้าหมายที่จะค้นหาความหมายในคัมภีร์แล้วก็ไม่ได้รับความหมายนั้น
ดูซิว่าผู้นำทางการเมืองเองก็หลุดหายไปกับการวิ่งไล่ตามตำแหน่งที่นั่ง
ดูซิว่าดวงวิญญาณที่ไม่มีความรู้ในโลกนี้เพียงแค่นั่งลง!และยึดอยู่กับสิ่งค้ำจุนที่เหลือบเห็นเล็กๆน้อยๆของการบรรลุผลที่ชั่วคราวบางอย่าง
และคิดว่านั่นคือสิ่งค้ำจุนที่แท้จริง แล้วลูกทำอะไร?
พวกเขาได้สูญเสียสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดแต่ลูกได้รับทุกสิ่ง ลูกได้จบสิ้นภาพลวงตา
ดังนั้นลูกจึงกลายเป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผล
ดังนั้นลูกคือดวงวิญญาณที่สูงส่งที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลอย่างสม่ำเสมอ
บัพดาดาขอแสดงความยินดีเป็นพิเศษกับลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์
เพราะจากดวงวิญญาณทั้งหมดในโลก
สายตาที่ตระหนักรู้ของลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งนั้นทรงพลังมากที่ลูกสามารถตระหนักรู้จักพ่อและบรรลุถึงท่าน
ดังนั้นเมื่อเห็นดวงตาที่ตระหนักรู้ในลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์
บัพดาดาก็ร้องเพลงสรรเสริญพวกเขา ว้าว! ลูกๆ ว้าว!
เพราะแม้ว่าจะอาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกล แม้กระทั่งขณะที่มีศาสนาที่แตกต่าง
ขณะที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่แตกต่าง ถึงแม้ว่าลูกจะอยู่ห่างไกล
ลูกก็ยังรู้จักพ่อที่แท้จริงของลูกอย่างใกล้ชิด
เวลานี้ลูกเข้ามามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดแล้ว
เวลานี้ลูกเข้าใจขนบธรรมเนียมและระบบต่างๆของชีวิตบราห์มินว่าเป็นขนบธรรมเนียมและระบบของลูกเองและก็นำมาใช้อย่างง่ายดายในชีวิตของลูก
สิ่งนี้เรียกว่าการเป็นลูกที่โชคดีและน่ารักเป็นพิเศษ เช่นที่ลูกมีความสุขเป็นพิเศษ
ดังนั้นบัพดาดาก็มีความสุขพิเศษเช่นกัน
ดวงวิญญาณของครอบครัวบราห์มินได้จากไปยังมุมเมืองต่างๆของโลก
แต่ดวงวิญญาณที่สูงส่งในทุกมุมเมืองผู้ที่แยกจากกันไปก็ได้กลับมาหาครอบครัวของพวกเขาอีกครั้ง
พ่อได้เสาะหาลูกและลูกก็ได้ตระหนักรู้จักท่าน
และด้วยเหตุนี้ลูกจึงประกาศสิทธิ์ที่จะได้มาซึ่งการบรรลุผล อัจชะ
ถึงลูกๆผู้ที่เป็นตัวของการได้มาซึ่งการบรรลุผลที่ไม่สูญสลาย
ถึงลูกที่มีประสบการณ์ของความสัมพันธ์ทั้งหมดเสมอ
ถึงลูกๆที่มีความมั่งคั่งที่ไม่สูญสลายเสมอ
ถึงลูกๆผู้ที่มีซันสการ์ที่สูงส่งเหมือนกับพ่อและผู้ที่รักษาความรู้สึกที่สูงส่งต่อตัวเองอยู่เสมอ
ถึงผู้ที่เป็นคลังสมบัติของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมดและผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ของการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด
ด้วยความรัก การจดจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา
อะแวคบัพดาดาพบกับคู่แต่งงาน:
ในขณะที่อยู่ในครัวเรือนของลูก
ลูกเป็นอิสระจากบ่วงพันธะทั้งหมดและมีความรักต่อพ่อใช่ไหม?
ลูกไม่ได้ถูกขังอยู่ใช่ไหม ลูกไม่ได้เป็นนกที่ถูกเลี้ยงอยู่ในกรงใช่ไหม?
ลูกเป็นนกที่โบยบินใช่ไหม? บ่วงที่น้อยที่สุดสามารถดักลูกได้
เมื่อลูกเป็นอิสระจากบ่วง ลูกก็จะเฝ้าแต่โบยโบยบินต่อไปอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นลูกไม่มีบ่วงพันธะในรูปแบบใด ๆ : ไม่ใช่ของร่างกาย, ความสัมพันธ์,
ในครัวเรือนหรือทรัพย์สิน ไม่มีบ่วงพันธะใดๆ กล่าวได้ว่ามีความละวางและมีความรัก
ผู้ที่ไม่ขึ้นอยู่กับใคร (เป็นอิสระ) จะอยู่ในสภาพที่โบยบินอยู่เสมอ
ในขณะที่ผู้ที่ขึ้นอยู่กับใครหรือพึ่งพิงสิ่งใดก็จะโบยบินเพียงเล็กน้อย
และจากนั้นบ่วงของพวกเขาก็จะดึงพวกเขาลงมา
ดังนั้นบางครั้งพวกเขาก็ลงมาด้านล่างและบางครั้งก็ขึ้นไปด้านบน
เวลาของพวกเขาจะผ่านไปกับสิ่งนี้ การมีสภาพที่โบยบินที่มั่นคงและสม่ำเสมอ
และการมีสภาพที่บางครั้งลงมาด้านล่างและบางครั้งขึ้นไปข้างบน –
มีความแตกต่างของกลางวันและกลางคืนระหว่างทั้งสอง ลูกมีสภาพแบบไหน?
เป็นอิสระจากบ่วงพันธะและเป็นนกที่อิสระตลอดเวลาหรือไม่? ใครที่อยู่กับพ่ออยู่เสมอ?
ลูกจะไม่ถูกดึงดูดไปยังสิ่งดึงดูดประเภทใด นี่คือชีวิตที่น่ารัก
ผู้ที่รักพ่อจะมีชีวิตที่น่ารักอย่างสม่ำเสมอ จะไม่เป็นชีวิตของความขัดแย้ง –
วันนี้สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อวานนี้สิ่งนั้นเกิดขึ้น; ไม่เลย
อย่างไรก็ตามลูกคือผู้ที่อยู่กับพ่อตลอดเวลา
ผู้ที่อยู่ในสภาพที่มั่นคงตลอดเวลาและสม่ำเสมอ นี่คือชีวิตของความสุข
หากไม่มีความพอใจก็จะมีความสับสนอย่างแน่นอน วันนี้มีปัญหานี้ เมื่อวานมีปัญหานั้น
ทุกสิ่งในดินแดนแห่งความทุกข์จะเกิดขึ้นในดินแดนแห่งความทุกข์อย่างแน่นอน
แต่ลูกเป็นบราห์มินในยุคบรรจบพบกัน และดังนั้นความทุกข์ทั้งหมดจะถูกทิ้งไว้ข้างล่าง
ลูกก้าวออกไปจากดินแดนแห่งความทุกข์ และดังนั้นแม้ว่าลูกจะเห็นความทุกข์
สิ่งนั้นก็จะไม่แตะต้องลูก ลูกได้ออกจากยุคเหล็กแล้ว
ลูกออกจากชายฝั่งและมาถึงยุคบรรจบพบกันแล้ว
และการบรรจบกันนั้นก็จะแสดงให้เห็นว่าสูงที่สุดเสมอ
ดวงวิญญาณในยุคบรรจบพบกันนั้นสูงที่สุดเสมอ พวกเขาไม่ได้อยู่ด้านล่าง
เมื่อพ่อมาเพื่อทำให้ลูกโบยบิน แล้วทำไมลูกจึงลงมาจากสภาพที่โบยบิน?
การลงมาหมายถึงการติดกับดัก เวลานี้ลูกได้รับปีก จงเฝ้าแต่โบยบินต่อไป
อย่าลงมาข้างล่างเลย อัจชะ
พูดกับกึ่งกุมาร:
ลูกทุกคนคือผู้ที่อยู่อย่างดูดซับอยู่ในความรักต่อผู้เดียวใช่ไหม?
พ่อผู้เดียวกับพวกเราและไม่มีบุคคลที่สาม สิ่งนี้เรียกว่าการดูดซับอยู่ในความรัก
ฉันและบาบาของฉัน นอกเหนือจากสิ่งนี้ ลูกมี "ของฉัน" อื่น ๆ อีกไหม? ลุงของฉัน
หลานของฉัน…. มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นใช่ไหม? มีความผูกพันยึดมั่นใน“ของฉัน”
การจบสิ้นจิตสำนึกของ“ของฉัน”หมายถึงการจบสิ้นความผูกพันยึดมั่น
ดังนั้นความผูกพันยึดมั่นทั้งหมดของลูกคือพ่อ มันได้เปลี่ยนไปแล้ว
กลายเป็นความผูกพันยึดมั่นที่บริสุทธิ์
พ่อนั้นบริสุทธิ์เสมอและดังนั้นความผูกพันยึดมั่นของลูกก็เปลี่ยนไปเป็นความรัก
มีเพียงบาบาผู้เดียวของฉัน – ในผู้นี้
ทุกสิ่งก็จบสิ้นและการจดจำระลึกถึงผู้เดียวก็กลับมาง่ายดาย
ดังนั้นลูกเป็นโยคีที่ง่ายดายอย่างสม่ำเสมอ ฉันเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งกับบาบาของฉัน
แค่นี้! เมื่อพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่ง
ลูกก็จะมีการกระทำที่สูงส่งโดยอัตโนมัติ
และมายาไม่สามารถมาอยู่เบื้องหน้าของดวงวิญญาณที่สูงส่งได้
พูดกับผู้เป็นแม่:
ลูกผู้เป็นแม่แกว่งไกวอยู่ในชิงช้าแห่งความสุขกับพ่ออย่างสม่ำเสมอใช่ไหม?
โก๊ปและโกปี้จะร่ายรำอย่างมีความสุขหรือแกว่งไกวในชิงช้า
ผู้ที่อยู่กับพ่ออยู่เสมอก็จะร่ายรำอย่างมีความสุขเสมอ
เมื่อพ่ออยู่กับลูกพลังทั้งหมดก็อยู่กับลูกเช่นกัน มิตรร่วมทางของพ่อทำให้ลูกมีพลัง
ผู้ที่มีมิตรร่วมทางของพ่อจะเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่น
พวกเขาจะไม่มีปัญหากับการผูกติดอยู่กับใครเลย
ดังนั้นลูกเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่นหรือไม่? ไม่ว่าสถานการณ์จะมาในรูปแบบไหน
ลูกก็เป็นอิสระจากความผูกพันในทุกสถานการณ์
มากเท่าที่ลูกเป็นอิสระจากความผูกพันยึดมั่น
ลูกจะก้าวหน้าต่อไปในความทรงจำระลึกถึงและงานรับใช้ของลูกมากเท่านั้น
พูดกับผู้รับใช้ที่มาที่มธุบัน:
ลูกได้สะสมในบัญชีของงานรับใช้ของลูกแล้วใช่ไหม?
แม้กระทั่งตอนนี้ในบรรยากาศของมธุบัน ลูกได้รับโอกาสที่จะทำให้สภาพของลูกมีพลัง
และลูกได้สะสมไว้สำหรับอนาคตเช่นกัน
และดังนั้นลูกจึงมีการได้มาซึ่งการบรรลุผลเป็นสองเท่า โดยการรับใช้ยักย่ะ
นั่นคือโดยการทำงานรับใช้ที่สูงส่งในสภาพที่สูงส่ง ลูกก็จะสะสมผลที่ได้หลายล้านเท่า
ไม่ว่าลูกจะทำงานรับใช้อะไร
อันดับแรกให้ตรวจสอบดูว่าลูกมีความมั่นคงในสภาพที่มีพลังและกำลังทำงานรับใช้อย่างเป็นผู้รับใช้
ไม่ใช่ผู้รับใช้ธรรมดา แต่เป็นผู้รับใช้ทางจิต
ความซาบซึ้งทางจิตและประกายทางจิตต้องปรากฏออกมาในผู้รับใช้ทางจิตเสมอ
ในขณะที่กลิ้งจาปาตี จงเฝ้าแต่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองด้วยเช่นกัน
ลูกอาจจะกำลังทำงานทางโลกของลูก
แต่ให้งานรับใช้ทั้งทางกายและทางที่ละเอียดอ่อนดำเนินต่อไปในเวลาเดียวกัน:
ทำงานทางกายภาพด้วยมือของลูกและทำงานที่ละเอียดอ่อนด้วยจิตใจของลูกและมันจะกลายเป็นสองเท่า
แม้ในขณะที่ทำงานด้วยมือของลูกในสถานที่เดียว
ลูกก็สามารถทำงานรับใช้ได้มากมายด้วยพลังของการจดจำระลึกถึง ไม่ว่าจะในกรณีใด
มธุบันเป็นประภาคาร ประภาคารจะอยู่ในที่เดียว
แต่ประภาคารนั้นจะรับใช้ทุกที่ที่อยู่บริเวณรอบ ๆ
ด้วยวิธีนี้ผู้รับใช้สามารถสร้างรางวัลที่สูงส่งมากมายสำหรับตนเองและผู้อื่น อัจชะ
โอมชานติ
วันนี้
บัพดาดาได้เฉลิมฉลองการพบปะกับลูกๆตลอดทั้งคืนและได้ให้ความรักและการจดจำระลึกถึงในเวลา
7 โมงเช้า และก็อำลาพวกเขา บัพดาดาได้ให้บทเรียนในตอนเช้าตรู่
ด้วยการรับฟังคำพูดที่สูงส่งจากบัพดาดาทุกเช้า ลูกก็กลายเป็นดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่
ดังนั้นด้วยเสียงดนตรีในจิตใจ
จงรับฟังสาระของวันนี้ตลอดทั้งวันว่าลูกจะกลับมายิ่งใหญ่ด้วยการรับฟังคำพูดที่สูงส่งอย่างไร
ลูกเป็นเครื่องมือที่จะทำงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเสมอ
ลูกเป็นดวงวิญญาณผู้ให้ทานที่ยิ่งใหญ่แก่ดวงวิญญาณทั้งหมดด้วยความคิด คำพูด
และสายใยของลูก และลูกก็คือดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์ที่จะปลุกยุคที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา
เพียงแค่จดจำสิ่งนี้ ถึงดวงวิญญาณที่สูงส่งที่รักษาสำนึกรู้ที่สูงส่งนี้ไว้เสมอ
ถึงลูกผู้เป็นที่รักเป็นพิเศษที่จากหายไปนานและเวลานี้ได้พานพบ
รักระลึกถึงและสวัสดีตอนเช้าจากบัพดาดา
นมัสเตจากพ่อถึงผู้ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิในอนาคตและผู้ที่เป็นจักรพรรดิในเวลาปัจจุบัน
อัจชะ
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้รับใช้ที่แท้จริงที่จบสิ้นกระแสจิตที่เสียทั้งหมดด้วยพลังของความคิดที่บริสุทธิ์และที่ทรงพลังของลูก
กล่าวกันว่า: ความคิดสามารถสร้างโลก เมื่อลูกมีความคิดที่อ่อนแอหรือไร้ประโยชน์
โลกที่มีบรรยากาศเสียจะถูกสร้างขึ้น
ผู้รับใช้ที่แท้จริงคือผู้ที่จบสิ้นกระแสจิตเก่าด้วยความคิดที่บริสุทธิ์และทรงพลังของเขา
เช่นเดียวกับที่วิทยาศาสตร์ทำลายอาวุธด้วยอาวุธ
พวกเขาทำลายเครื่องบินลำหนึ่งด้วยเครื่องบินอีกลำหนึ่ง
ในทำนองเดียวกันกระแสจิตของความคิดที่บริสุทธิ์และทรงพลังของลูกจะทำให้บรรยากาศที่เสียจบสิ้นลง
เวลานี้ทำงานรับใช้เช่นนั้น
คติพจน์:
จงเป็นอิสระจากเส้นด้ายทองคำที่ละเอียดอ่อนของอุปสรรค และเฉลิมฉลองปีแห่งการหลุดพ้น
ประกาศพิเศษ:
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่สามของเดือน และทุกคนจะมารวมกันเพื่อมีโยคะสากล ตั้งแต่เวลา
18.30 น. - 19.30 น. อยู่ในสำนึกรู้ของรูปรวม
ทำงานรับใช้ในการสร้างบรรยากาศที่มีพลังด้วยทัศนคติที่ละเอียดอ่อนของลูก