29.05.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ความเจ็บป่วยที่ร้ายแรงที่สุดคือการติดกับในรูปและนามของใครบางคน
จงกลับมาสำรวจตรวจสอบตนเอง ตรวจสอบความเจ็บป่วยนี้และเป็นอิสระจากสิ่งนี้
คำถาม:
วิธีที่จะจบสิ้นความเจ็บป่วยของ“รูปและนาม”คือวิธีใด?
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากความเจ็บป่วยนี้คืออะไร?
คำตอบ:
เพื่อที่จะจบสิ้นความเจ็บป่วยของ“รูปและนาม”จงมีความรักที่แท้จริงต่อพ่อผู้เดียว
หากสติปัญญาของลูกเร่ร่อนไปยังผู้ที่มีร่างกายในช่วงเวลาของการจดจำระลึกถึง
จงบอกพ่อเกี่ยวกับสิ่งนั้นด้วยความซื่อสัตย์
ด้วยการบอกพ่อเกี่ยวกับสิ่งนั้นท่านจะให้อภัยลูก
อย่าได้ซ่อนความเจ็บป่วยของลูกจากศัลยแพทย์ เมื่อลูกบอกบาบาเกี่ยวกับสิ่งนั้น
ลูกก็จะได้รับคำตักเตือน หากสติปัญญาของลูกแขวนอยู่กับรูปและนามของใคร
สติปัญญาก็ไม่สามารถเชื่อมโยงกับพ่อได้ แทนที่จะเป็นการทำงานรับใช้
ดวงวิญญาณเช่นนั้นก็ทำให้เกิดความเสียหายในงานรับใช้ พวกเขาทำให้พ่อถูกประณาม
และผู้ที่ประณามพ่อในลักษณะนั้นจะกลายเป็นผู้ที่ได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
โอมชานติ
เวลานี้ลูกๆ
รู้ว่า ลูกแต่ละคนจะได้รับมรดกของลูกจากพ่อ
น้องชายไม่สามารถที่จะรับมรดกจากพี่ชายได้ ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องหญิงหรือชาย
ไม่มีใครรู้ถึงสภาพของใคร บัพดาดาได้รับข่าวทั้งหมด สิ่งนี้เป็นไปในทางปฏิบัติ
ลูกแต่ละคนต้องดูว่าลูกจดจำพ่อมากแค่ไหนและลูกติดกับในรูปหรือนามของใครบางคนมากแค่ไหน:
ทัศนคติของฉันเอง, ดวงวิญญาณถูกดูดดึงไปที่ไหน?
แต่ละดวงวิญญาณเองรู้ว่าเขาต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
ทัศนคติของฉันตรงไปหาชีพบาบาผู้เดียวเท่านั้นหรือตรงไปหารูปและนามของใครอื่นหรือไม่?
มากเท่าที่จะเป็นไปได้
จงพิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อผู้เดียวและเฝ้าแต่ลืมทุกคน ถามหัวใจตนเองว่า
หัวใจของฉันไปที่ไหนนอกจากมาหาพ่อหรือไม่?
สติปัญญาของฉันได้หันเหไปสู่ธุรกิจหรือเรื่องราวของครอบครัวหรือไปหาเพื่อนฝูงและญาติมิตร
ฯลฯ หรือไม่? ลูกต้องกลับมาสำรวจตรวจสอบตนเองและตรวจสอบสิ่งนี้ในตนเอง
เมื่อลูกมาและนั่งที่นี่ลูกต้องตรวจสอบตนเอง
ที่นี่ใครคนใดคนหนึ่งนั่งอยู่ในโยคะเบื้องหน้าลูก
ผู้นั้นต้องจดจำชีพบาบาด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าผู้นั้นจะจดจำลูกของเขาหรือของเธอ
ลูกต้องจดจำชีพบาบาผู้เดียวเท่านั้น ลูกกำลังนั่งที่นี่ในการจดจำระลึกถึงชีพบาบา
และแล้วไม่ว่าใครบางคนจะนั่งเปิดตาหรือปิดตาก็ตาม
นี่คือสิ่งที่จะต้องเข้าใจด้วยสติปัญญา ลูกต้องถามหัวใจของลูกว่า
บาบาอธิบายอะไรกับฉัน? เราเพียงแค่ต้องจดจำผู้เดียว
ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ที่นี่ก็จะอยู่ในการจดจำระลึกถึงชีพบาบาด้วยเช่นกัน
ผู้นั้นจะไม่เห็นลูกเพราะผู้นั้นจะไม่ตระหนักถึงสภาพของใคร
บาบาได้รับข่าวของแต่ละคน ท่านรู้ว่าใครคือลูกที่ดี ผู้ที่เส้นของสติปัญญาชัดเจน
โยคะของสติปัญญาของพวกเขาไม่ได้ไปที่ใดอื่น มีบุคคลเช่นนั้นด้วยเช่นกัน
โยคะของสติปัญญาของบางคนก็ถูกดึง
และเมื่อพวกเขาได้ยินมุรลีพวกเขาก็กระทั่งเปลี่ยนตนเอง
พวกเขารู้สึกว่านั่นเป็นความผิดของพวกเขา
สายตาและทัศนคติของพวกเขาเคยผิดไปอย่างแท้จริงและเวลานี้ต้องทำให้ถูกต้อง
ลูกต้องปล่อยทัศนคติที่ไม่ถูกต้องไป พ่ออธิบายสิ่งนี้
พี่น้องเพศชายไม่สามารถอธิบายให้แก่กันและกันได้
เพียงพ่อเท่านั้นที่เห็นสายตาและทัศนคติของแต่ละคนเป็นเช่นไร
ลูกทั้งหมดถ่ายทอดสภาพของหัวใจของลูกต่อพ่อ เมื่อลูกแบ่งปันบางสิ่งกับชีพบาบา
ดาด้าก็เข้าใจด้วยเช่นกัน
ท่านเข้าใจจากการฟังในสิ่งที่แต่ละคนพูดรและจากการที่ได้เห็นพวกเขา
ตราบจนกระทั่งท่านได้ยินบางสิ่ง
ไม่เช่นนั้นแล้วท่านจะสามารถบอกได้อย่างไรว่าผู้นั้นกำลังทำอะไร?
จากกิจกรรมและงานรับใช้ของพวกเขา,ท่านก็สามารถเข้าใจได้
ผู้นี้มีสำนึกที่เป็นร่างอย่างมากและผู้นี้มีน้อย กิจกรรมของผู้นี้ไม่ถูกต้อง
เขาอยู่อย่างติดกับในรูปและนามของใครบางคน บาบาถามว่า
สติปัญญาของลูกถูกดึงไปที่ใครหรือไม่? บางคนบอกบาบาอย่างซื่อสัตย์
ในขณะที่คนอื่นติดกับอยู่ในรูปและนามของคนอื่นอย่างมากเช่นนั้นที่พวกเขาไม่แม้แต่จะบอกบาบาถึงสิ่งนั้น
พวกเขากำลังสร้างการสูญเสียให้กับตนเองเท่านั้น ด้วยการบอกพ่อ
พวกเขาก็จะได้รับการให้อภัย
และพวกเขาก็จะสามารถอยู่อย่างระมัดระวังในอนาคตด้วยเช่นกัน
มีลูกๆมากมายที่ไม่ได้บอกบาบาอย่างซื่อสัตย์เกี่ยวกับทัศนคติของพวกเขาเพราะพวกเขาละอายใจ
ตัวอย่างเช่น เมื่อใครบางคนทำบางสิ่งที่ผิด เขาก็ไม่บอกศัลยแพทย์เกี่ยวกับสิ่งนั้น
แต่กลับซ่อนไว้และโรคภัยนั้นก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมือนกันกับที่นี่
ด้วยการบอกพ่อเกี่ยวกับสิ่งนั้น ลูกก็จะเบาสบาย
ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อสิ่งนั้นอยู่ภายในตัวลูก ลูกก็คงอยู่อย่างหนัก
ด้วยการบอกพ่อถึงสิ่งนั้น, ลูกก็จะไม่ทำสิ่งเดียวกันนั้นอีกครั้ง
ลูกจะอยู่อย่างระมัดระวังกับตนเองในอนาคต แต่หากลูกไม่บอกบาบาถึงสิ่งนั้น
สิ่งนั้นก็จะเติบโตตัวขึ้น
พ่อรู้ว่าผู้นั้นผู้นี้เฝ้าแต่ทำงานรับใช้อย่างมากและคุณสมบัติของเขาคืออะไรและเขาทำงานรับใช้อย่างไรหรือเขาติดกับอยู่กับใคร
บาบามองดูดวงชะตาของแต่ละคน
และแล้วท่านก็มีความรักอย่างมากต่อผู้นั้นที่เขาดึงดูดผู้นั้น
บางคนทำงานรับใช้ที่ดีมาก โยคะของสติปัญญาของพวกเขาไม่เคยถูกดึงไปที่ใดเลย ใช่
ก่อนหน้านี้เคยถูกดึง แต่เวลานี้ลูกระมัดระวัง ลูกบอกบาบาว่า บาบา
เวลานี้ลูกระมัดระวัง ก่อนหน้านี้ลูกเคยทำความผิดมามากมาย
ลูกเข้าใจว่าด้วยการมีสำนึกที่เป็นร่าง, ลูกก็ทำความผิดเท่านั้น
ในกรณีนั้นสถานภาพของลูกจะถูกทำลาย แม้ว่าจะไม่มีใครจะตระหนักถึงสิ่งนี้
สถานภาพของลูกก็จะถูกทำลาย ต้องมีความซื่อสัตย์และความสะอาดอย่างมากในหัวใจ
และแล้วเมื่อนั้นลูกจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
ลูกมีความสะอาดอย่างมากในสติปัญญาของลูก
เช่นที่มีความสะอาดในดวงวิญญาณของลักษมีและนารายณ์
นี่คือวิธีที่ลูกจะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง
สำหรับบางคนเป็นที่เข้าใจได้ว่าทัศนคติของพวกเขาถูกดึงดูดเข้าไปหารูปและนามของใครบางคน
และพวกเขาก็ไม่ได้คงอยู่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
เป็นเพราะสิ่งนี้สถานภาพของพวกเขาจึงลดลงด้วยเช่นกัน จากราชาเป็นยาจก
สถานภาพก็ตามลำดับกันไป ลูกควรจะเข้าใจด้วยเช่นกันว่าทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้น
ลูกนั้นตามลำดับกันไปอย่างแน่นอนและองศาของลูกก็ลดลงเรื่อยๆ ผู้ที่เคยเต็ม 16
องศาก็ได้กลับมามี 14 องศา องศาของลูกค่อยๆ ลดลงทีละน้อยในลักษณะนี้
เป็นสิ่งดีถึงแม้ว่าลูกจะมี 14 องศา และแล้วเมื่อลูกไปสู่หนทางแห่งบาป
ลูกก็ได้กลับมามีกิเลส
ช่วงอายุขัยของลูกก็สั้นลงแล้วลูกก็เฝ้าแต่กลับมารโชและตโมกูนี
เมื่อช่วงอายุขัยลดลงลูกก็กลับมาแก่ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ใช้ร่างกาย,
ดวงวิญญาณก็เฝ้าแต่แก่ลง ลูกๆมีความรู้ทั้งหมดนี้ในตัวลูก ลูกลงมาจากการมี 16
องศาอย่างไรแล้วลูกได้กลายเป็นมนุษย์อย่างไร ไม่มีคำแนะนำของเหล่าเทพใด
เมื่อลูกได้รับคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติของพ่อแล้ว
ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับคำแนะนำและแนวทางปฏิบัติเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด
คำแนะนำและแนวทางปฏิบัติของพระเจ้านี้คงอยู่กับลูกเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด
และแล้วเมื่อมีอาณาจักรของราวัน ลูกก็ได้รับการกำหนดของราวัน
พวกเขาแม้กระทั่งแสดงให้เห็นว่าเหล่าเทพนั้นไปสู่หนทางบาป
ไม่ได้เป็นเช่นนั้นสำหรับผู้คนของศาสนาอื่น เมื่อเหล่าเทพไปสู่หนทางบาป,
ผู้คนของศาสนาอื่นก็ลงมา พ่ออธิบายว่า ลูกๆ เวลานี้ลูกต้องกลับบ้าน โลกนี้เก่า
นี่คือบทบาทของพ่อในละคร ลูกเข้าใจว่าพ่อต้องทำให้โลกเก่านั้นใหม่อีกครั้ง
ผู้คนในโลกไม่ได้รู้ถึงสิ่งใดเลย ลูกอธิบายอย่างมาก
แต่แม้กระนั้นบางคนก็ได้แสดงความสนใจอย่างดีมาก
ในขณะที่ผู้อื่นเฝ้าแต่ให้ความคิดเห็นของเขาเองแก่ลูก เมื่อเคยมีลักษมีและนารายณ์,
ก็เคยมีความบริสุทธิ์ ความสงบและความสุข มีทุกสิ่ง ความบริสุทธิ์คือสิ่งหลัก
ผู้คนไม่รู้ว่าเหล่าเทพในยุคทองเคยบริสุทธิ์ พวกเขาพูดว่าแม้แต่เทพก็มีลูก
แต่ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งสร้างเกิดขึ้นที่นั่นด้วยพลังโยคะอย่างไร พวกเขาพูดว่า
หากลูกอยู่อย่างบริสุทธิ์ตลอดชีวิต, ลูกจะมีลูกๆได้อย่างไร?
ลูกต้องอธิบายแก่พวกเขาว่า
ด้วยการกลับมาบริสุทธิ์ในเวลานี้ลูกจะอยู่อย่างบริสุทธิ์เป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด
นั่นหมายความว่าพวกเรากำลังก่อตั้งโลกที่ปราศจากกิเลสด้วยการทำตามศรีมัท
ศรีมัทมาจากพ่อ
ได้มีการจดจำกันว่าไม่ได้ใช้เวลานานเลยที่พระเจ้าจะเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ
เวลานี้ลูกๆทั้งหมดคือมนุษย์ผู้ที่ต่อมากลายเป็นเทพ
เวลานี้ลูกกำลังก่อตั้งรัฐบาลเทพโดยการทำตามศรีมัท
ความบริสุทธิ์คือสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดในสิ่งนี้
เป็นดวงวิญญาณที่ต้องกลับมาบริสุทธิ์ เป็นดวงวิญญาณที่มีสติปัญญาที่เป็นหิน
บอกพวกเขาถึงสิ่งนี้อย่างชัดเจน
พ่อเองได้ก่อตั้งรัฐบาลเทพของยุคทองที่ซึ่งเคยเรียกว่าสวรรค์
เป็นพ่อผู้ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นเทพ มนุษย์เคยไม่บริสุทธิ์
ดังนั้นจะทำให้พวกเขาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์อย่างไร? ท่านพูดกับลูกๆ
ให้จดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอแล้วลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
หากลูกบอกสิ่งนี้แก่ใครพวกเขาก็จะสัมผัสสิ่งนั้นได้จากภายใน
ในเวลานี้ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์อย่างไร? ลูกต้องจดจำพ่ออย่างแน่นอน
ตัดขาดสติปัญญาของลูกออกจากทุกคนอื่นและเชื่อมโยงกับผู้เดียวเท่านั้น
เพราะเมื่อนั้นลูกจึงจะสามารถกลายเป็นเทพจากมนุษย์ได้
นี่คือวิธีที่ลูกควรจะอธิบายแก่ผู้อื่น
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ลูกอธิบายจะมีความถูกต้องแม่นยำอย่างสมบูรณ์ตามละคร
ลูกเข้าใจสิ่งนี้
แต่อย่างไรก็ตามลูกเฝ้าแต่ได้รับประเด็นต่างๆทุกวันเพื่อที่จะอธิบายแก่ผู้อื่น
สิ่งหลักคือเราจะสามารถกลับมาบริสุทธิ์จากไม่บริสุทธิ์อย่างไร
พ่อพูดว่าละทิ้งศาสนาทางร่างกายทั้งหมดและจดจำพ่อผู้เดียวเท่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
เพียงลูกๆเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดนี้
เวลานี้ลูกได้กลายเป็นบราห์มิน ลูกของประชาบิดาบราห์มา พ่อกำลังสอนพวกเรา
พวกเรากลายเป็นเทพโดยที่ไม่ได้กลายเป็นบราห์มินได้อย่างไร? บราห์มานี้ได้ใช้ 84
ชาติเกิดเต็มด้วยเช่นกันและต่อจากนั้นท่านก็ต้องใช้ชาติเกิดที่หนึ่งด้วย
พ่อมาและเข้ามาในท่าน สิ่งหลักคือการพิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
ด้วยการกลับมามีสำนึกที่เป็นร่าง ลูกก็ติดอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง
ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ ลูกต้องตรวจสอบตนเองอย่างเต็มที่
ฉันมีสำนึกที่เป็นร่างหรือไม่? ฉันทำกรรมที่เป็นบาปหรือไม่?
พฤติกรรมของฉันไม่ถูกต้องตามกฎหรือไม่?
ลูกๆมากมายได้ทำความผิดนี้และดังนั้นในเวลาสุดท้าย
พวกเขาได้รับการลงโทษอย่างมากอย่างแน่นอน
แม้ว่าลูกจะยังไปไม่ถึงสภาพเหนือบ่วงกรรมของลูก
ความทุกข์ทั้งหมดจะถูกขจัดออกไปจากผู้ที่ไปถึงสภาพเหนือบ่วงกรรม
พวกเขาเป็นอิสระจากการลงโทษ ลองคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้
ราชาถูกสร้างขึ้นมาตามลำดับกันไป
แน่นอนที่บางคนทำความเพียรพยายามน้อยกว่าเนื่องจากพวกเขาต้องประสบกับการลงโทษ
เป็นดวงวิญญาณที่มีประสบการณ์ของการลงโทษในกรงขังของครรภ์
เมื่อดวงวิญญาณอยู่ในครรภ์เขาพูดว่า ให้ฉันออกไป! ฉันจะไม่ทำกรรมที่เป็นบาปอีก
เป็นดวงวิญญาณที่มีประสบการณ์ของการลงโทษ
เป็นดวงวิญญาณที่ทำกรรมและกระทำสิ่งที่เป็นบาป ร่างกายนี้ไม่มีประโยชน์ สิ่งหลักคือ
ลูกต้องพิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณ
เพื่อที่ลูกจะเข้าใจว่าเป็นดวงวิญญาณทำทุกสิ่งอย่างแท้จริง
เวลานี้ลูกดวงวิญญาณทั้งหมดต้องกลับบ้าน
เป็นเพียงเวลานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับความรู้นี้ ลูกจะไม่ได้รับความรู้นี้อีกครั้ง
บางคนผู้ที่มีจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณจะมองดูทุกคนว่าเป็นพี่น้องเพศชาย
ไม่มีเรื่องของร่างกาย เมื่อลูกได้มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
จะไม่มีความผูกพันยึดมั่นต่อร่างกายใดๆ เหตุนี้เองพ่อพูดว่า นี่คือสภาพที่สูงส่งมาก
เมื่อพี่น้องหญิงชายติดกับในกันและกัน ก็เกิดความเสียหายในงานรับใช้อย่างมาก
ขอให้ลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ! สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายาม
มีวิชาต่างๆในการศึกษา ลูกสามารถเข้าใจได้ด้วยเช่นกันว่า ฉันจะสอบตกในวิชานี้
เนื่องจากการสอบตก และแล้วลูกก็จะกลับมาหย่อนยานในวิชาอื่นด้วย
เวลานี้ลูกๆดวงวิญญาณจะกลายเป็นภาชนะทองคำด้วยพลังของโยคะของสติปัญญาของลูก
หากไม่มีโยคะลูกก็จะไม่มีความรู้มากเช่นนั้น และแล้วลูกก็จะไม่มีพละกำลังนั้น
จะไม่มีพลังของโยคะเลย สิ่งนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้วในละคร
บาบาอธิบายแก่ลูกๆว่าลูกควรจะเพิ่มสภาพของลูกมากแค่ไหน ลูกต้องมองดูว่า ฉัน,
ดวงวิญญาณทำกรรมที่ไม่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ตลอดทั้งวันหรือไม่?
หากลูกมีนิสัยใดๆเช่นนั้น ลูกควรจะปล่อยนิสัยนั้นไปในทันที
อย่างไรก็ตามมายายังคงทำให้ลูกทำความผิดในวันที่สองหรือวันที่สามหลังจากนั้น
สิ่งที่ละเอียดอ่อนเช่นนั้นดำเนินไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ความรู้ทั้งหมดนี้แฝงตัว
มนุษย์รู้อะไรบ้าง? ลูกบอกพวกเขาว่า
เราทำทุกสิ่งเพื่อตัวเราเองและเราครอบคลุมค่าใช้จ่ายของเราเอง
เราจะทำอะไรกับผู้อื่นที่มีค่าใช้จ่ายเหล่านั้น? เหตุนี้เองบาบาจึงพูดเสมอว่า
ตายเสียดีกว่าที่จะร้องขอสิ่งใด อะไรก็ตามที่ลูกได้รับอย่างง่ายดายก็เหมือนนม
และอะไรก็ตามที่ลูกต้องร้องขอก็เหมือนน้ำ หากลูกได้รับบางสิ่งด้วยการร้องขอ
พวกเขาให้ลูกที่มาจากการถูกบีบบังคับ ราวกับว่าพวกเขาต้องเสียสละบางสิ่งเพื่อให้ลูก
และดังนั้นสิ่งนั้นจึงกลายเป็นเหมือนน้ำ หากลูกดึงบางสิ่งเข้ามาหาตนเอง
นั่นก็เป็นเหมือนเลือด บางคนก็ทำให้เกิดความทุกข์อย่างมาก
พวกเขาสร้างหนี้สินและดังนั้นสิ่งนั้นจึงกลายเป็นเหมือนเลือด
ไม่มีความจำเป็นที่จะสร้างหนี้สินใดๆ หากลูกให้ทานบางสิ่งแล้วนำสิ่งนั้นกลับคืนไป
มีตัวอย่างของราชาฮาริชจันทราผู้ที่ทำเช่นนั้น (เขาเฝ้าแต่จดจำสิ่งที่เขาได้ให้ทานไป)
อย่าได้ทำเช่นนั้น เก็บส่วนแบ่งของลูกเอาไว้เพื่อที่สิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์กับลูก
ลูกๆต้องทำความเพียรพยายามอย่างมากที่ในเวลาสุดท้ายลูกจะมีการจดจำระลึกถึงพ่อเท่านั้นและลูกก็ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองด้วยเช่นกัน
แล้วเมื่อนั้นที่ลูกควรจากร่างของลูก
และแล้วเมื่อนั้นลูกจะสามารถกลายเป็นราชาที่เป็นผู้ปกครองโลกได้
ไม่ใช่ว่าลูกจะสามารถจดจำบาบาได้ในเวลาสุดท้ายและสภาพของลูกจะกลายเป็นเช่นนั้นในเวลาสุดท้ายได้
ไม่เลย
ลูกต้องเพียรพยายามในเวลานี้จนถึงเวลาสุดท้ายและทำให้สภาพนั้นเข้มแข็งอย่างมาก
ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้นที่ในเวลาสุดท้ายทัศนคติของลูกจะถูกดึงเข้าไปสู่สิ่งอื่น
ด้วยการจดจำบาบาบาปของลูกจะเฝ้าแต่ถูกตัดออกไป
ลูกๆรู้ว่าประเด็นของความบริสุทธิ์ต้องใช้ความเพียรพยายาม
ลูกไม่ต้องใช้ความเพียรพยายามมากนักในการศึกษา ลูกๆ
ต้องให้ความใส่ใจอย่างดีมากต่อสิ่งนี้ เหตุนี้เองบาบาพูดว่า
ถามตนเองทุกวันว่าฉันได้ทำสิ่งที่ผิดกฎเกณฑ์หรือไม่? ฉันติดกับใน“รูปและนาม”หรือไม่?
ฉันคลั่งไคล้เมื่อเห็นใครบางคนหรือไม่?
ฉันได้ทำกรรมที่ผิดกฎด้วยอวัยวะทางร่างกายของฉันหรือไม่?
ลูกไม่ควรจะมีความรักต่อร่างเก่าที่ไม่บริสุทธิ์
นั่นคือจิตสำนึกที่เป็นร่างด้วยเช่นกัน ลูกต้องอยู่อย่างเป็นอิสระจากแรงดึงดูด
ลูกมีความรักที่แท้จริงต่อผู้เดียวเท่านั้น และมีความรักโดยที่ไม่มีแรงดึงดูดกับใคร
แม้ว่าลูกจะมีลูก ฯลฯ ก็ไม่ควรที่จะมีการดึงดูดไปที่ใคร
ลูกรู้ว่าไม่ว่าอะไรก็ตามที่ลูกเห็นทั้งหมดจะถูกทำลาย
ดังนั้นลูกต้องนำความรักทั้งหมดของลูกออกไปจากสิ่งนั้น
ความรักของลูกควรจะมีกับผู้เดียวเท่านั้น
และลูกต้องอยู่อย่างเป็นอิสระจากแรงดึงดูดใดๆแม้กระทั่งกับชื่อของใครก็ตาม อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
ทำให้ทัศนคติของลูกสะอาดและบริสุทธิ์มาก
อย่าได้มีการกระทำที่ผิดๆหรือไม่ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ใดๆ อยู่อย่างระมัดระวังอย่างมาก
อย่าได้ปล่อยให้สติปัญญาของลูกติดอยู่ที่ใด
2. มีความรักที่แท้จริงต่อพ่อผู้เดียว มีความรักต่อทุกคนเพียงแค่ในนาม
และอยู่อย่างเป็นอิสระจากแรงดึงดูด
สร้างสภาพของจิตสำนึกเป็นดวงวิญญาณเช่นนั้นที่ลูกไม่มีความผูกพันยึดมั่นแม้แต่กับร่างกายของลูก
พร:
ขอให้ลูกละวางจากทุกคนและมีความรักต่อพระเจ้าโดยการเปลี่ยนบ่วงกรรมเป็นพันธะของงานรับใช้
ความรักของพระเจ้าคือพื้นฐานของชีวิตบราห์มิน
แต่ลูกสามารถได้รับสิ่งนั้นเมื่อลูกอยู่อย่างละวางเท่านั้น
หากลูกอาศัยอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก นั่นก็เป็นไปเพื่องานรับใช้
อย่าคิดว่าลูกอยู่ที่นั่นเพราะเนื่องจากบัญชีกรรมหรือบ่วงกรรม
แต่เป็นไปเพื่องานรับใช้ เมื่อลูกถูกผูกด้วยพันธะของงานรับใช้
บ่วงกรรมของลูกจะจบสิ้น เมื่อไม่มีจิตสำนึกของงานรับใช้ บ่วงกรรมก็จะดึงลูก
ที่ใดมีบ่วงกรรม ที่นั่นจะมีคลื่นของความทุกข์ ในขณะที่มีความสุขในงานรับใช้
ดังนั้นจงเปลี่ยนบ่วงกรรมใดๆไปเป็นพันธะของงานรับใช้ อยู่อย่างมีความรักและละวาง
และลูกจะเป็นที่รักของพระเจ้า
คติพจน์:
ดวงวิญญาณที่สูงส่งคือผู้ที่เอาชนะสถานการณ์ที่เลวร้ายด้วยสภาพดั้งเดิมของเขาเอง