26.05.19    Avyakt Bapdada     Thai Murli     03.12.84     Om Shanti     Madhuban


กลายเป็นผู้ที่ซึมซับคำสอนที่สูงส่งของครูที่มีพลังที่สุด


วันนี้พ่อผู้ทรงพลังอำนาจกำลังมองดูกองทัพชักตีของท่านทุกหนแห่ง ท่านกำลังมองดูว่าคนไหนเป็นมหาเวียผู้ที่ถืออาวุธของพลังทั้งหมดไว้อย่างสม่ำเสมอ, ดวงวิญญาณที่มีชัยชนะพิเศษ ท่านเห็นว่าคนไหนที่ไม่ถืออาวุธอย่างสม่ำเสมอแต่ถือในเวลาที่จำเป็นตามเวลา และคนไหนที่พยายามที่จะกลายเป็นผู้ที่มีอาวุธในเวลาที่จำเป็น ด้วยเหตุนี้บางครั้งพวกเขาสามารถจะจู่โจมได้แต่บางครั้งก็พ่ายแพ้ พวกเขาก็เฝ้าแต่เคลื่อนต่อไปในวังวนของบางครั้งจู่โจมและบางครั้งก็พ่ายแพ้ บาบาเห็นลูกสามประเภทในกองทัพผู้ที่ได้ประกาศสิทธิ์ อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณที่มีชัยชนะที่สูงส่งจะมีความพร้อมเสมอล่วงหน้า สำหรับผู้ที่ถืออาวุธในเวลาที่จำเป็น เวลาก็จะกลายเป็นครูของพวกเขา ผู้ที่เคลื่อนไปบนพื้นฐานของเวลาที่เป็นครูของพวกเขาและไม่ได้เป็นผู้ที่พร้อมเสมอผ่านคำสอนของครูผู้ทรงพลังอำนาจ บางครั้งก็ถูกหลอกลวงในเวลาที่วิกฤต และหลังจากถูกหลอกลวง พวกเขาก็จะกลับไปสู่สำนึกที่ถูกต้องของพวกเขา ดังนั้นจงกลับมาเป็นผู้ที่ซึมซับคำสอนอันสูงส่งของครูผู้ทรงพลัง อย่าได้กลับมาเป็นผู้ที่นำเอาคำสอนของเวลาที่เป็นครู

ลูกๆบางคนมีการสนทนาจากใจถึงใจกับบัพดาดาหรือพวกเขามีการสนทนาจากใจถึงใจในบรรดาพวกเขาเอง ในทางที่ธรรมดาพวกเขาเฝ้าแต่พูดว่าเมื่อถึงเวลาทุกสิ่งจะออกมาดี เราจะแสดงสิ่งนี้เมื่อถึงเวลาหรือเราจะทำสิ่งนี้เมื่อถึงเวลา อย่างไรก็ตามลูกซึ่งเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงโลกได้รับมอบงานของการปลุกเรียกเวลาที่สูงส่งที่สมบูรณ์พร้อม ลูกเป็นเครื่องมือที่จะนำเวลารุ่งอรุณให้มาถึง ลูกคือนายผู้สร้างเวลาซึ่งเป็นสิ่งสร้าง ลูกคือผู้ที่เปลี่ยนแปลงเวลา นั่นคือยุค ลูกเป็นผู้ที่มีชัยชนะเหนือกาลทั้งสอง (กาลหมายถึงความตายและเวลา) กาลที่หนึ่งหมายถึงเวลา กาลที่สองหมายถึงการที่ลูกไม่ได้รับอิทธิพลของความตาย ลูกมีชัยชนะ ลูกคือผู้ที่ได้รับพร: ขอให้ลูกมีความเป็นอมตะ ด้วยเหตุนี้ลูกจึงไม่ใช่ผู้ที่ทำทุกสิ่งตามเวลาแต่เป็นผู้ที่ทำตามคำสั่งของพ่อ เวลาจะเป็นครูแม้กระทั่งกับดวงวิญญาณที่ไม่มีความรู้ ครูของลูกคือพ่อผู้ทรงพลังอำนาจ จะต้องมีการเตรียมการก่อนล่วงหน้าไม่ใช่ตามเวลาที่จำเป็น ลูกเป็นของกองทัพที่พร้อมเสมอที่มีอาวุธของพลังทั้งหมด ดังนั้นจงเฝ้าตรวจสอบสม่ำเสมอว่า ฉันได้ซึมซับอาวุธของพลังทั้งหมดหรือไม่? ถ้าพลังใดนั่นคืออาวุธใดขาดหายไป มายาก็จะจู่โจมลูกโดยการใช้ความอ่อนแอนั้น ดังนั้นอย่าได้ไม่ระมัดระวังในสิ่งนี้ สิ่งอื่นๆก็ดีแต่มีเพียงความอ่อนแอเล็กน้อยในสิ่งนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตามความอ่อนแอเดียวนี้จะกลายเป็นหนทางให้มายาจู่โจม เช่นที่พ่อได้สัญญาว่าเมื่อลูกๆจดจำพ่อ พ่อจะอยู่กับพวกเขาเสมอ ในทำนองเดียวกันมายาก็ท้าทายเช่นกันว่า ฉันจะอยู่ในที่ที่มีความอ่อนแอ ด้วยเหตุนี้แม้กระทั่งร่องรอยของความอ่อนแอเพียงเล็กน้อยก็จะปลุกลูกหลานของมายาขึ้นมา ลูกคือลูกๆของผู้ทรงพลังอำนาจและดังนั้นลูกจะต้องกลับมาเต็มเปี่ยมในทุกๆเรื่อง ลูกจะอธิบายเกี่ยวกับสิทธิ์ในมรดกที่พ่อได้ให้กับลูกหรือรางวัลของการศึกษาเล่าเรียนของพระเจ้าหรือประกาศนียบัตรที่ลูกจะได้รับจากผู้เป็นครูว่าอย่างไร? ลูกพูดว่า“เต็มไปด้วยทุกคุณธรรม” หรือลูกพูดว่า“เต็มไปด้วยคุณธรรม”? ลูกพูดว่า ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง 16 องศาสมบูรณ์พร้อม ลูกไม่ได้พูดว่า 14 องศา ลูกพูดถึงมรดกของความสุข และความสงบที่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นลูกจะต้องกลายเป็นสิ่งนั้นใช่ไหม? หรือลูกคิดว่าจะปล่อยไปให้มีความอ่อนแอเดียวนั้นหรือครึ่งหนึ่งของความอ่อนแอนั้น? บัญชีนั้นลึกล้ำ ท่านเป็นพระเจ้าที่ไร้เดียวสาแต่ท่านก็เป็นผู้ที่รู้ถึงปรัชญาของกรรมด้วยเช่นกัน ท่านจะให้หลายล้านเท่าสำหรับเมล็ดข้าวหนึ่งเมล็ด และท่านก็มีบัญชีสำหรับทุกเมล็ด หากความอ่อนแอหนึ่งหรือครึ่งหนึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ ในแง่ของการได้มาซึ่งบรรลุผลเช่นกันลูกก็จะต้องมาเพียงแค่ครึ่งชาติเกิดหรือหนึ่งชาติในภายหลังเช่นกัน และแล้วลูกก็จะไม่สามารถมาพร้อมกับศรีกฤษณะหรืออยู่ในครอบครัวราชนิกุลหรือมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจักรพรรดิและจักรพรรดินีองค์แรกของโลก,ลักษมีนารายณ์ เช่นเดียวกับที่ยุคจะเริ่มต้นด้วย วันที่ 1 เดือน 1 ปี 1 ในทำนองเดียวกันเพียงดวงวิญญาณอันดับหนึ่งเท่านั้นที่สามารถจะได้รับความสุขของความสัมพันธ์ใหม่ วัตถุธาตุใหม่ ดวงวิญญาณใหม่อันดับหนึ่ง - ใหม่หมายถึงดวงวิญญาณใหม่ที่ลงมาจากเบื้องบน - อาณาจักรใหม่,ความสุขของเวลาแห่งความใหม่ และความสุขของวัตถุธาตุธรรมชาติอันดับหนึ่งที่สโตประธาน อันดับหนึ่งจึงหมายถึงผู้ที่มีชัยชนะเหนือมายา แล้วบัญชีจะมีความถูกต้องแม่ยำ คำสัญญาที่ลูกได้ทำกับพ่อเพื่อที่จะได้รับพรและมรดกคือลูกจะมีชีวิตอยู่กับท่าน กลับไปกับท่าน และจะกลับเข้ามาในอาณาจักรกับพ่อบราห์มา ลูกไม่ได้สัญญาว่าลูกจะตามมาในภายหลัง ลูกต้องกลับมาทัดเทียมและลูกต้องมีชีวิตอยู่กับท่าน สภาพที่สมบูรณ์พร้อมและทัดเทียมจะทำให้ลูกประกาศสิทธิ์ในรางวัลของการเป็นมิตรร่วมทางอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นลูกจะได้รับอะไรถ้าลูกสูญเสียเวลาของการที่จะกลับมาเต็มเปี่ยมและทัดเทียมด้วยการอยู่อย่างไม่ระมัดระวังแล้วกลับมาตระหนักรู้ในเวลาสุดท้าย

ดังนั้นวันนี้บัพดาดากำลังตรวจสอบอาวุธของพลังทั้งหมดของทุกคน บาบาให้ผลลัพธ์ว่า บาบาได้เห็นลูกสามประเภท ลูกอาจคิดว่าเมื่อลูกก้าวหน้าต่อไป ความซุกซนของความไม่ระมัดระวังเล็กน้อยนี้จะได้รับการอนุญาตเพราะพ่อจะช่วยลูกไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตามตรวจสอบให้แน่ใจว่าความซุกซนนี้ไม่ได้หลอกลวงลูกในช่วงเวลาที่เปราะบางเหล่านั้น ลูกไม่ควรที่จะพร่ำบ่นของความซุกซนหรือพูดว่า เอ่อ,เราไม่ได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ! ดังนั้นจงตระหนักรู้ว่าเวลาที่เปราะบางกำลังจะมาอยู่เบื้องหน้าลูก ความปั่นป่วนต่างๆมากมายหลายรูปแบบจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหล่านี้เป็นสิ่งชี้บอกของเวลาที่จะมาถึง นี่เป็นสัญญาณในละครสำหรับลูกให้กลับมาเต็มเปี่ยมอย่างรวดเร็ว ลูกเข้าใจหรือไม่?

ทุกวันนี้ในมธุบันมีการพบปะของแม่น้ำจากสามแห่ง มีเมร่าของแม่น้ำตรีเวนีใช่หรือไม่? บัพดาดาพอใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความรักของลูกๆที่มาด้วยความรักที่ลึกซึ้งจากทั้งสามสถานที่ ลูกไม่รู้จักภาษาของคำพูดแต่ลูกรู้จักภาษาของความรัก ผู้ที่มาจากคาร์นาตากะคือผู้ที่รู้ภาษาแห่งความรัก ผู้ที่มาจากปัญจาบรู้อะไร? ผู้ที่มาจากปัญจาบมีความฉลาดในการท้าทาย ดังนั้นการท้าทายดินแดนที่สูงส่งแห่งราชา(ราชาสถาน)จึงเป็นสิ่งที่จะนำเสียงร้องแห่งชัยชนะแทนเสียงร้องของความทุกข์ ผู้ที่มาจากคุชราตจะทำอะไร? ผู้ที่มาจากคุชราตจะเฝ้าแต่แกว่งไกวอยู่ในชิงช้าอย่างสม่ำเสมอ ลูกนั่งอยู่ในชิงช้าแห่งโชคของการอยู่อย่างใกล้ชิดทางร่างกายในยุคบรรจบพบกันนี้ ลูกแกว่งไกวอยู่ในความสุขที่ลูกมีความใกล้ชิดมากที่สุด ดังนั้นคุชราตหมายถึงผู้ที่แกว่งไกวอยู่ในชิงช้าประเภทต่างๆ นี่เป็นกลุ่มที่หลากหลาย ทุกคนรักความหลากหลาย ในช่อดอกไม้, ลูกรักที่จะเห็นดอกไม้ที่หลากหลายที่มีสีสันความงามและกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน อัจชะ

ถึงดวงวิญญาณที่มีพลังทั้งหมดผู้ที่มาจากทั่วทุกสารทิศและเป็นผู้ที่ตื่นตัวอย่างสม่ำเสมอเสมอ ถึงผู้ที่มีอาวุธของพลังทั้งหมดอยู่เสมอ ถึงผู้ที่กลับมาสมบูรณ์พร้อมและเต็มเปี่ยมและให้ความร่วมมือของพลังแก่ดวงวิญญาณทั้งหมด ถึงผู้ที่นำเวลาที่สูงส่งและยุคที่สูงส่งมา ถึงลูกๆที่สูงส่งที่สุดที่กลายเป็นผู้ที่เปลี่ยนแปลงยุคอันดับหนึ่ง และประกาศสิทธิ์ในโชคอันดับหนึ่งของอาณาจักรที่สมบูรณ์พร้อม ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา

บัพดาดาพบกลุ่มที่มาจากปัญจาบ
ลูกกำลังเคลื่อนไปข้างหน้าในทุกย่างก้าวด้วยพลังของการจดจำระลึกถึงและการหารายได้หลายล้านอย่างสม่ำเสมอใช่หรือไม่? ลูกเฝ้าแต่ตรวจสอบดูว่ามีการสะสมหลายล้านในทุกย่างก้าวหรือไม่? การย่างก้าวในการจดจำระลึกถึงนำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ การย่างก้าวที่ไม่มีการจดจำระลึกถึงจะไม่นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ จะไม่มีรายได้ในสิ่งเหล่านั้น ดังนั้นลูกคือลูกที่หารายได้ด้วยการสะสมในทุกย่างก้าวใช่หรือไม่? ลูกที่หารายได้จะถูกกล่าวว่าเป็นผู้ที่นำมาซึ่งรายได้ ประเภทหนึ่งคือผู้ที่เพียงแต่กิน ดื่ม และสูญเสียทุกสิ่ง อีกประเภทหนึ่งคือผู้ที่สะสมรายได้ ลูกเป็นลูกประเภทไหน? ที่นั่นลูกจะต้องหารายได้เพื่อตนเองและเพื่อพ่อของพวกเขา แต่ที่นี่พ่อไม่ต้องการสิ่งใด ลูกหารายได้เพื่อตัวลูกเอง ตรวจสอบดูว่าลูกเป็นลูกที่หารายได้อย่างสม่ำเสมอในทุกย่างก้าวแล้วสะสม เพราะเวลาจะเปราะบางมากขึ้น ยิ่งลูกมีการสะสมรายได้ของลูกมากแค่ไหน ลูกก็จะเฝ้าแต่มีประสบการณ์ของรางวัลที่สูงส่งอย่างง่ายดายมากเท่านั้น ในอนาคตลูกมีการได้มาซึ่งการบรรลุผลอยู่แล้ว ดังนั้นจะมีการได้มาซึ่งรายได้นี้ในเวลานี้ในยุคบรรจบพบกันและในอนาคตด้วยเช่นกัน ดังนั้นลูกทั้งหมดคือผู้ที่หารายได้หรือเป็นผู้ที่หาแล้วใช้จนหมดไป?

พ่อเป็นเช่นไรลูกก็เป็นเช่นนั้น เช่นที่พ่อเต็มเปี่ยมและสมบูรณ์พร้อม ในทำนองเดียวกันลูกๆก็ต้องเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมอย่างสม่ำเสมอ ลูกทุกคนมีความกล้าหาญใช่หรือไม่? ลูกไม่ใช่ผู้ที่หวาดกลัวใช่ไหม? ลูกไม่กลัวใช่ไหม? มีความกลัวน้อยที่สุดแม้กระทั่งในความคิดของลูกหรือไม่? สิ่งนี้ไม่มีอะไรใหม่ สิ่งนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว มีการเกิดซ้ำหลายครั้งแล้ว มันจะเกิดอีกครั้งในขณะนี้และดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่จะต้องกลัว ซักตีเช่นกันก็ไม่กลัวใช่ไหม? ลูกชักตีมีชัยชนะอยู่เสมอ, ไม่กลัวอยู่เสมอ เมื่อลูกอยู่ภายใต้ร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครอบของพ่อ,ลูกก็จะอยู่อย่างไม่หวาดกลัว มีความกลัวเมื่อลูกคิดว่าลูกเองอยู่คนเดียวตามลำพัง ไม่สามารถมีความกลัวภายใต้ร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครอง ปราศจากความกลัวเสมอ “ชัยชนะของชักตี” ได้รับการจดจำตลอดเวลาว่า ลูกทั้งหมดเป็นสิงโตที่มีชัยชนะใช่หรือไม่? ถ้าไม่มีชัยชนะสำหรับชีพชักตีและพันดาวาสแล้วจะมีชัยชนะของใคร? พันดาวาสและชักตีมีชัยชนะทุกวงจร พ่อมีความรักต่อลูกๆ ไม่มีสิ่งใดสามารถเกิดขึ้นกับลูกที่เป็นที่รักของพ่อและลูกที่คงอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อ หากมีความอ่อนแอในการจดจำระลึกถึง ลูกสามารถได้รับผลกระทบเล็กน้อย เมื่อลูกมีร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครองของการจดจำระลึกถึง จะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับลูกได้ บัพดาดาจะช่วยให้ลูกปลอดภัยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เนื่องจากท่านคือเป็นผู้ค้ำจุนดวงวิญญาณผู้เลื่อมใสศรัทธา,และท่านก็จะเป็นผู้ที่ค้ำจุนลูกๆเสมอ

ลูกคือผู้ที่โบยบินอย่างสม่ำเสมอด้วยปีกของความกล้าหาญและความจริงจังและความกระตือรือร้นใช่หรือไม่? ปีกของความจริงจังและความกระตือรือร้นทำให้ลูกโบยบินเสมอและทำให้ลูกแสดงวิธีการโบยบินให้แก่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน ให้ปีกทั้งสองนี้อยู่กับลูกเสมอ ถ้าแม้กระทั่งปีกหนึ่งอ่อนแอ ลูกก็จะไม่สามารถบินได้สูง เหตุนี้เองทั้งสองปีกจึงมีความสำคัญ: ความกล้าหาญและความจริงจังและความกระตือรือร้น ความกล้าหาญเป็นเช่นนั้นที่จะทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ และความกล้าหาญทำให้สิ่งที่ยากนั้นง่ายดาย ทำให้ลูกบินสูงขึ้นจากด้านล่าง ดังนั้น ลูกคือดวงวิญญาณที่มีประสบการณ์เช่นนั้นที่โบยบินอย่างสม่ำเสมอในลักษณะเช่นนี้ใช่หรือไม่? ลูกได้เห็นแล้วว่าลูกได้รับอะไรเมื่อลูกลงมา ลูกเฝ้าแต่ลงมาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วสำหรับสภาพที่โบยบิน ไม่ใช่เวลาแม้กระทั่งจะกระโดดสูง ลูกมีความคิดในหนึ่งวินาทีและลูกก็โบยบิน ลูกก็จะเฝ้าแต่ได้รับพลังเช่นนั้นจากพ่ออย่างสม่ำเสมอ

ลูกพิจารณาตนเองว่าเป็นนายของพระอาทิตย์แห่งความรู้อย่างสม่ำเสมอหรือไม่? งานของพระอาทิตย์แห่งความรู้คือทำลายความมืดของความไม่รู้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยแสงของพระอาทิตย์สามารถที่จะเปลี่ยนกลางคืนให้เป็นกลางวัน และดังนั้นในทำนองเดียวกันลูกผู้เป็นนายพระอาทิตย์แห่งความรู้คือผู้ที่ขจัดความมืดออกไปจากโลก,ผู้ที่ชี้หนทางให้กับดวงวิญญาณที่กำลังเร่ร่อนและผู้ที่เปลี่ยนกลางคืนให้เป็นกลางวันใช่หรือไม่? ลูกจดจำงานนี้ของลูกตลอดเวลาหรือไม่? ลูกไม่สามารถที่จะลืมอาชีพการงานทางโลกของลูกได้แม้กระทั่งลูกพยายามที่จะลืมก็ตามและนั่นเช่นกันเป็นงานที่สูญสลายของชาติเกิดเดียว นั่นเป็นหน้าที่การงานที่สูญสลายในขณะที่หน้าที่การงานนี้ของการเป็นนายพระอาทิตย์แห่งความรู้เป็นของลูกตลอดเวลา ดังนั้นจงพิจารณาว่านั่นเป็นหน้าที่การงานที่ไม่สูญสลายของลูกที่จะจบสิ้นความมืดและนำมาซึ่งแสงสว่าง ด้วยการเช่นนี้ความมืดจะจบสิ้นลงในตัวลูกเองและจะมีแสงสว่าง เพราะผู้ที่ให้แสงสว่างจะเต็มไปด้วยแสงในตนเองอยู่แล้ว ดังนั้นจดจำงานนี้เสมอและตรวจสอบตนเองทุกวันว่า ฉันอยู่อย่างเป็นแสง, นายแห่งพระอาทิตย์แห่งความรู้หรือไม่? เช่นเดียวกับนักดับเพลิงจะไม่ได้รับผลกระทบจากไฟ ในทำนองเดียวกันผู้ที่ขจัดความมืด ตัวเขาเองจะไม่เข้าไปอยู่ในความมืด ดังนั้น ให้มีความซาบซึ้งและมีความสุขเสมอ ฉันเป็นนายของพระอาทิตย์แห่งความรู้

อะแวคบัพดาดาพบกุมาร
ชีวิตกุมารเป็นชีวิตที่สูงส่ง อยู่อย่างมีความสุขอย่างสม่ำเสมอเมื่อเห็นโชคที่สูงส่งของลูกของการเป็นของพ่อในชีวิตกุมารของลูก และเฝ้าแต่บอกผู้อื่นเกี่ยวกับวิธีนี้ที่จะอยู่อย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน ผู้ที่เป็นอิสระจากบ่วงพันธะมากที่สุดคือกุมารและกุมารี กุมารสามารถสร้างโชคอะไรก็ตามที่เขาต้องการสำหรับตัวเขาเอง ลูกคือกุมารผู้ที่มีความกล้าหาญใช่หรือไม่ ? ลูกไม่ใช่กุมารที่อ่อนแอ ไม่ว่าผู้อื่นจะดึงดูดลูกไปหาพวกเขามากแค่ไหน ดวงวิญญาณมหาเวียคือผู้ที่ไม่สามารถถูกดึงดูดเข้าไปหาผู้ใดได้นอกจากพ่อ ลูกมีความกล้าหาญ มายาจะพยายามให้ลูกเป็นของเธอโดยผ่านรูปต่างๆมากมาย แต่ลูกคือผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาและมีชัยชนะ ลูกไม่ใช่ผู้ที่มีความหวาดกลัว เป็นสิ่งที่ดี ว้าวโชคที่สูงส่งของฉัน! รักษาสำนึกรู้นี้ไว้เสมอ ไม่มีใครสามารถจะเป็นเหมือนฉันได้ จงมีความซาบซึ้งนี้เสมอ ที่ใดที่มีความซาบซึ้งของพระเจ้า ลูกจะอยู่ห่างไกลจากมายา ลูกอยู่อย่างไม่ว่างเว้นในงานรับใช้เสมอใช่ไหม? นี่เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน ยิ่งลูกไม่ว่างเว้นอยู่ในงานรับใช้มากแค่ไหน ลูกก็จะอยู่อย่างเป็นโยคีที่ง่ายดายมากเท่านั้น อย่างไรก็ตามจะมีความปลอดภัยเมื่องานรับใช้เต็มไปด้วยการจดจำระลึกถึง ถ้าไม่มีการจดจำระลึกถึงก็ไม่มีความปลอดภัยนั้น

ลูกคือกุมารผู้ที่เป็นอิสระจากอุปสรรคอยู่เสมอใช่หรือไม่? มายาไม่ได้มาจู่โจมลูกใช่ไหม? มายาพยายามอย่างมากที่จะทำให้กุมารเป็นของเธอ มายาชอบกุมาร เธอรู้สึกว่าพวกเขาควรเป็นของเธอ อย่างไรก็ตาม ลูกทุกคนมีกล้าหาญใช่หรือไม่? ลูกไม่ได้เป็นทาสของมายา ลูกคือผู้ที่ท้าทายมายา ลูกเคยเป็นทาสของมายามาเป็นเวลาครึ่งวงจรและลูกได้รับอะไร? ลูกสูญเสียทุกสิ่ง! เหตุนี้เองเวลานี้ลูกจึงเป็นของพระเจ้า การเป็นของพระเจ้าหมายถึงการประกาศสิทธิ์ในสวรรค์ ดังนั้นกุมารทั้งหมดคือกุมารที่มีชัยชนะ เพียงแค่ต้องระมัดระวังว่าลูกจะไม่กลับมาอ่อนแอ มายาจะมีความรักเป็นพิเศษต่อกุมารและด้วยเหตุนี้เธอจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ลูกเป็นของเธอ แต่ลูกทุกคนก็ได้ตัดสินใจแล้ว เวลานี้ลูกเป็นของพ่อ ลูกเป็นอิสระจากความวิตกกังวล ขอให้ลูกเป็นอิสระจากอุปสรรคอย่างสม่ำเสมอและขอให้ลูกอยู่ในสภาพที่โบยบิน

กุมารมีพลังเสมอ ที่ใดมีพลังที่นั้นมีการบรรลุผล ลูกนั้นเป็นตัวของการบรรลุผลทั้งหมดอยู่เสมอ เพราะการเต็มไปด้วยความรู้ลูกจึงรู้ถึงรูปที่หลากหลายของมายา ดังนั้นจงเฝ้าแต่เพิ่มโชคของลูก จงทำให้สิ่งหนึ่งมั่นคงเสมอว่า ชีวิตกุมารคือชีวิตของการมีอิสรภาพ ผู้ที่ได้รับการหลุดพ้นในชีวิตจะมีการบรรลุผลของยุคบรรจบพบกัน จงเฝ้าแต่เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอและทำให้ผู้อื่นเคลื่อนไปข้างหน้า กุมารควรจะร่ายรำในความสุขเสมอ ว้าว ชีวิตกุมาร ว้าว โชค ! ว้าว ละคร ! ว้าว บาบา ! จงเฝ้าแต่ร้องเพลงนา คงอยู่ในความสุขแล้วความอ่อนแอจะไม่เข้ามา เฝ้าแต่เติมพลังให้กับตนเองด้วยการทำงานรับใช้และการจดจำระลึกถึง ชีวิตกุมารเป็นชีวิตของความเบาสบาย การสร้างโชคของลูกในชีวิตนี้ถือว่าเป็นโชคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลูกเป็นอิสระจากการถูกผูกมัดด้วยบ่วงพันธะมากมาย พิจารณาตนเองว่าเป็นแสงที่เบาสบายและเฝ้าแต่โบยบินในสภาพที่โบยบินและลูกจะได้รับอันดับต้นๆ อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่ให้พร ผู้ให้คุณธรรมด้วยน้ำเย็นแห่งความเมตตาต่อดวงวิญญาณที่มีความโกรธในตัวพวกเขา

เมื่อใครบางคนที่กำลังเผาไหม้อยู่ในไฟของความโกรธมาอยู่เบื้องหน้าลูกและดูถูกและประณามลูกแล้ว ด้วยความปรารถนาดี และความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของลูก ด้วยทัศนคติและสภาพของลูก จงให้ทานคุณธรรมและพรของพลังความอดทนแก่ดวงวิญญาณนั้น ดวงวิญญาณที่โกรธอยู่ภายใต้อิทธิพลภายนอก และดังนั้นด้วยน้ำเย็นของความเมตตาทำให้ดวงวิญญาณเช่นนั้นสงบลง นี่เป็นหน้าที่ของลูกดวงวิญญาณที่ได้รับพร เป็นเพราะลูกเต็มไปด้วยสันสการ์เช่นนั้นในรูปที่มีชีวิตที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาได้รับพรเช่นนั้นผ่านภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูก

คติพจน์:
ผู้ที่สัมผัสประสบการณ์กับสมบัติที่มีค่าทั้งหมดโดยการมีการจดจำระลึกถึงจะกลับมาเต็มไปด้วยพลังทั้งหมด

 

6