23.03.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน
ความรู้นี้เป็นความรู้ของความเงียบสงบอย่างสมบูรณ์ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดสิ่งใดในสิ่งนี้
เพียงจดจำพ่อมหาสมุทรของความเงียบสงบอย่างต่อเนื่อง
คำถาม:
พื้นฐานของความก้าวหน้าของลูกคืออะไร? ลูกจะสามารถซึมซับคำสอนของพ่อเมื่อใด?
คำตอบ:
พื้นฐานของความก้าวหน้าของลูกคือความรัก ลูกต้องมีความรักที่แท้จริงต่อพ่อผู้เดียว
แม้ว่าลูกจะอยู่ใกล้ หากลูกไม่มีความก้าวหน้า แน่นอนที่ความรักขาดหายไป
หากมีความรักลูกจะจดจำพ่อ ด้วยการจดจำพ่อลูกจะสามารถซึมซับคำสอนทั้งหมดของพ่อได้
เพื่อที่จะก้าวหน้า จงเขียนชาร์ทของลูกด้วยความซื่อสัตย์ อย่าซ่อนเร้นสิ่งใดจากพ่อ
ขณะที่กลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ เฝ้าแต่เปลี่ยนแปลงตนเอง
โอมชานติ
ลูกๆ
นั่งที่นี่ในขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ บาบาถามลูกว่า
เมื่อใดก็ตามที่ลูกให้การบรรยายแก่ชุมนุม ลูกถามพวกเขาอยู่เสมอหรือไม่ว่า
ท่านพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณหรือร่างกาย?
นั่งที่นี่และพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ เป็นดวงวิญญาณที่กลับมาใช้ชาติเกิด
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด
บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้องด้วยการจดจำพ่อ สิ่งนี้เรียกว่าไฟของโยคะ
พ่อที่ไม่มีตัวตนพูดกับลูกที่ไม่มีตัวตนว่า
ด้วยการจดจำพ่อบาปของลูกจะถูกตัดออกไปและลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
แล้วลูกจะได้มาซึ่งการหลุดพ้นและการหลุดพ้นในชีวิต
แน่นอนทุกคนต้องเข้ามาสู่การหลุดพ้นในชีวิตหลังจากการหลุดพ้น
ดังนั้นจึงต้องมีการบอกลูกซ้ำๆว่า
จงมีศรัทธาในขณะที่นั่งอยู่ที่นี่ว่าลูกคือดวงวิญญาณ
พี่น้องหญิงชายนั่งที่นี่ขณะที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
พ่อได้ให้คำสั่งนี้แล้ว นี่คือการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง พ่อพูดว่า
ให้สติปัญญาของลูกเชื่อมโยงกับพ่อในโยคะและบาปของหลายต่อหลายชาติเกิดของลูกจะถูกเผา
เมื่อลูกเตือนพวกเขาถึงสิ่งนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและอธิบายสิ่งนี้ให้พวกเขา
พวกเขาก็จะเข้าใจว่าดวงวิญญาณไม่สูญสลายและร่างกายสูญสลาย
ดวงวิญญาณไม่สูญสลายนำร่างที่สูญสลายมาใช้เล่นบทบาทของเขาละร่างนั้นและรับอีกร่างหนึ่ง
ศาสนาดั้งเดิมของดวงวิญญาณถึงอย่างไรก็คือความสงบ ดวงวิญญาณไม่รู้จักศาสนาของตนเอง
เวลานี้พ่อพูดว่า จดจำพ่อและบาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง นี่คือสิ่งหลัก
ก่อนอื่นใดลูกๆต้องทำความเพียรพยายามนี้
พ่อที่ไม่มีขีดจำกัดพูดสิ่งนี้กับลูกดวงวิญญาณ
ไม่มีความจำเป็นต้องหยิบยกคัมภีร์ใดๆขึ้นมาในสิ่งนี้
ถึงแม้ว่าลูกจะให้ตัวอย่างของกีตะแก่พวกเขา
พวกเขาก็จะพูดว่าลูกเพียงแค่หยิบยกมาจากกีตะ, ทำไมลูกไม่อ้างถึงพระเวทย์?
บาบาพูดว่า ถามพวกเขาว่าพระเวทย์เป็นคัมภีร์ของศาสนาใด (ศาสนาอารยะ)
พวกเขาเรียกศาสนาใดว่าศาสนาอารยะ? ไม่มีศาสนาฮินดู
ศาสนาดั้งเดิมที่คงอยู่ตลอดไปคือศาสนาเทพ ดังนั้นศาสนาใดคือศาสนาอารยะ?
ศาสนาอารยะนั้นจะเป็นของศาสนาอารยสมาช ไม่มีศาสนาที่มีชื่อว่าศาสนาอารยะ
ใครก่อตั้งศาสนาอารยะ? ในความเป็นจริงลูกไม่ควรแม้กระทั่งหยิบยกกีตะขึ้นมา
สิ่งแรกคือพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อและลูกจะกลับมาสาโตประธาน
ในเวลานี้ทั้งหมดตาโมประธาน ก่อนอื่นใดลูกต้องให้คำแนะนำของพ่อ
ลูกต้องสรรเสริญพ่อผู้เดียวเท่านั้น ลูกจะสามารถพูดสิ่งนี้ได้เมื่อลูกเองจดจำพ่อ
ลูกบางคนอ่อนแอในประเด็นนี้ บาบาพูดเสมอว่า
เก็บชาร์ทของการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงของลูก
ลูกแต่ละคนควรถามหัวใจตนเองว่า ฉันอยู่ในการจดจำระลึกถึงมากเพียงใด? ลูกๆ
ควรจะมีความสุขภายในหัวใจของลูก หากลูกมีความสุขอยู่ภายใน
สิ่งนี้ก็จะมีผลกระทบเมื่อลูกอธิบายแก่ผู้อื่น
สิ่งแรกและสิ่งหลักที่ต้องบอกพวกเขาคือ พี่น้องหญิงชายพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
ไม่มีใครที่จะพูดสิ่งนี้ในชุมนุมทางจิตอื่น ในความเป็นจริง
ไม่มีชุมนุมใดเหล่านั้นที่เป็นชุมนุมทางจิต(ซัทซัง)
มิตรร่วมทางของสัจจะมีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เหลือทั้งหมดคือมิตรปลอมๆ
ที่นี่เป็นบางสิ่งที่ใหม่อย่างแท้จริง ไม่มีศาสนาใดถูกก่อตั้งด้วยพระเวทย์
ดังนั้นเหตุใดเราจึงควรที่จะหยิบยกพระเวทย์ขึ้นมา? ไม่มีใครมีความรู้นี้
พวกเขาเองพูดว่า “เนติ เนติ” (ไม่ใช่สิ่งนี้หรือสิ่งนั้น) นั่นคือพวกเราไม่รู้
ดังนั้น นั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่เชื่อในพระเจ้า เวลานี้พ่อเองพูดว่า
จงกลายเป็นผู้ที่เชื่อในพระเจ้า พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
สิ่งต่างๆเหล่านี้ถูกอ้างอิงเล็กน้อยในกีตะแต่ไม่ได้อ้างอิงในพระเวทย์
มีพระเวทย์และอุปนิษัทมากมาย สิ่งเหล่านั้นเป็นของคัมภีร์ศาสนาใด?
ผู้คนพูดเกี่ยวกับความคิดเห็นของตนเอง ลูกต้องไม่รับฟังผู้ใด
พ่ออธิบายทุกสิ่งให้แก่ลูกอย่างง่ายดาย
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อและลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
เหตุนี้เองลูกต้องรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของโลก
ภาพตรีมูรติและวงจรที่ลูกมีเหล่านี้คือภาพหลัก ศาสนาทั้งหมดรวมอยู่ในภาพเหล่านั้น
ก่อนอื่นใดคือศาสนาเทพ บาบาบอกว่า
ทำภาพตรีมูรติและวงจรที่ใหญ่มากและติดตั้งภาพเหล่านั้นไว้ในสถานที่หลักๆในเดลีที่ซึ่งมีการมาและการไปมากมาย
ภาพเหล่านั้นควรจะอยู่บนแผ่นดีบุก ภาพของบันไดไม่ได้แสดงศาสนาอื่นๆทั้งหมด
สองภาพนี้คือภาพหลัก นี่คือภาพที่ลูกต้องอธิบาย สิ่งแรกคือการแนะนำของพ่อ
ลูกได้รับมรดกจากพ่อเท่านั้น
หากลูกไม่ปลูกฝังศรัทธาในประเด็นเดียวนี้ให้กับพวกเขาก็จะไม่มีใครสามารถเข้าใจสิ่งใดที่ลูกบอกกับพวกเขาได้
หากพวกเขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับพ่อผู้เดียวก็ไร้ประโยชน์ที่จะอธิบายภาพอื่นๆ
ให้กับพวกเขา โดยไม่เข้าใจอัลฟ่าพวกเขาก็จะไม่เข้าใจสิ่งใดเลย
อย่าได้พูดสิ่งอื่นใดโดยที่ไม่ให้คำแนะนำของพ่อกับพวกเขาก่อน
ลูกได้รับมรดกที่ไม่มีขีดจำกัดจากพ่อเท่านั้น
บาบาประหลาดใจว่าเหตุใดลูกจึงไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ง่ายดายเช่นนั้น!
พ่อของลูกดวงวิญญาณคือชีว่าและลูกได้รับมรดกจากท่าน
ลูกทั้งหมดเป็นพี่น้องกันในบรรดาลูกเอง เมื่อลูกลืมสิ่งนี้ลูกก็กลับมาตาโมประธาน
เวลานี้จดจำพ่อและลูกจะกลับมาสาโตประธาน สิ่งหลักคือการรู้จักผู้สร้างและสิ่งสร้าง
ไม่มีใครรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ แม้กระทั่งฤๅษีและมุนีก็ไม่รู้สิ่งนี้
ดังนั้นก่อนอื่นใดจงให้คำแนะนำของพ่อและทำให้ทุกคนกลายเป็นผู้ที่นับถือพระเจ้า
พ่อพูดว่า ด้วยการรู้จักพ่อลูกจะรู้ทุกสิ่ง
หากลูกไม่รู้จักพ่อลูกจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดได้
แล้วลูกก็จะสูญเสียเวลาของลูกไปโดยไม่จำเป็น
ภาพใดก็ตามที่สร้างขึ้นมาตามละครก็เป็นสิ่งที่ดี
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าลูกทำความเพียรพยายามมากมาย
สิ่งนั้นก็ไม่ได้นั่งอยู่ในสติปัญญาของใคร ลูกๆ ถามบาบาว่า
มีความผิดพลาดในวิธีการที่เราอธิบายหรือไม่? บาบาก็พูดในทันทีว่า ใช่ ลูกๆ
มีความผิดพลาด หากพวกเขาไม่เข้าใจอัลฟาแล้วก็ขอให้พวกเขาไปในทันที บอกพวกเขาว่า “ถ้าท่านไม่รู้จักพ่อก็จะไม่มีสิ่งใดนั่งอยู่ในสติปัญญาของท่าน”
หากลูกไม่อยู่ในสำนึกเป็นดวงวิญญาณดวงตาของลูกก็จะอยู่อย่างเป็นอาชญากร
สายตาเหล่านั้นจะมีอารยะธรรมเมื่อลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
หากลูกมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณดวงตาของลูกจะไม่หลอกลวงลูก
หากลูกไม่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณมายาก็จะเฝ้าแต่หลอกลวงลูก
เหตุนี้เองก่อนอื่นใดลูกต้องกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ บาบาพูดว่า
แสดงชาร์ทของลูกให้แก่พ่อเพื่อที่พ่อจะได้รู้ ถ้าแม้กระทั่งตอนนี้ลูกพูดเท็จ,ทำบาปหรือมีความโกรธ
ลูกก็ทำลายสัจจะของลูกเอง บาบาเข้าใจเมื่อได้เห็นชาร์ทของลูก
ว่าลูกได้เขียนความจริงหรือไม่ หรือว่าลูกไม่เข้าใจแม้กระทั่งความหมาย
บาบาบอกลูกทั้งหมดว่า จงเขียนชาร์ทของลูก
ลูกที่ไม่อยู่ในโยคะจะไม่สามารถทำงานรับใช้ได้มากเช่นนั้น
พวกเขาไม่สามารถเติมพลังให้กับตนเอง บาบาพูดว่า
เพียงกำมือเดียวจากหลายล้านเท่านั้นที่จะปรากฏออกมา
อย่างไรก็ตามหากลูกเองไม่อยู่ในโยคะแล้วลูกจะสามารถบอกผู้อื่นได้อย่างไร?
ซันยาสซีพูดว่าความสุขนั้นเป็นเหมือนดั่งมูลกา
พวกเขาไม่พูดถึงแม้กระทั่งชื่อของความสุข ลูกรู้ว่ามีความเลื่อมใสศรัทธามากมาย
มีเสียงดังมากในสิ่งนั้น ในขณะที่ความรู้ของลูกเงียบและสงบอย่างยิ่ง
บอกพวกเขาว่าพ่อผู้เดียวเท่านั้นคือมหาสมุทรของความสงบ
ลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ พ่อพูดว่า มานมานะบาฟ
อย่าได้แม้แต่พูดคำนี้ ภาษาฮินดีเป็นภาษาของฮินดูสถาน
ดังนั้นเหตุใดจึงมีภาษาอื่นเช่นสันสกฤตเล่า? ตอนนี้เก็บภาษานั้นไว้ก่อน
ก่อนอื่นใดให้คำบรรยายว่า พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
มีหลายคนที่ไม่สามารถพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณหรืออยู่ในการจดจำระลึกถึง
ไม่มีใครในพวกเขาสามารถเข้าใจการสูญเสียของพวกเขาได้
การจดจำพ่อเท่านั้นที่มีคุณประโยชน์ ไม่มีชุมนุมทางจิตอื่นใดที่พวกเขาพูดว่า
พิจารณาว่าตนเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
เด็กๆเคยนั่งลงในสถานที่หนึ่งเพื่อจดจำพ่อของพวกเขาหรือไม่?
พวกเขามีการจดจำพ่อของเขาอย่างเป็นธรรมชาติในขณะที่เดิน,นั่งและเคลื่อนไหวไปมา
เวลานี้ลูกต้องฝึกฝนที่จะมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
ลูกพูดได้ดีแต่ลูกไม่ควรพูดมากเช่นนั้น
สิ่งหลักคือการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง
ด้วยไฟของโยคะเท่านั้นที่ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ เวลานี้ทุกคนไม่มีความสุข
ด้วยการกลับมาบริสุทธิ์เท่านั้นจึงได้รับความสุข
หากลูกอธิบายให้แก่ผู้อื่นในขณะที่มีสำนึกเป็นดวงวิญญาณลูกธนูจะยิงตรงพวกเขา
หากบางคนข้องแวะในกิเลสเองแต่ยังบอกผู้อื่นให้กลับมาปราศจากกิเลสลูกธนูนั้นก็จะไม่ยิงตรงเป้า
พ่อพูดว่า ลูกๆ,
ลูกเองไม่ได้อยู่ในการจาริกแสวงบุญและเหตุนี้เองลูกธนูจึงไม่ยิงตรงเป้า พ่อพูดว่า
ในเวลานี้ให้อดีตเป็นอดีต ก่อนอื่นใดจงเปลี่ยนแปลงตนเอง ถามหัวใจของตนเองว่า
ฉันพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณมากแค่ไหนและฉันจดจำพ่อผู้ที่ทำให้ฉันเป็นนายของโลกมากแค่ไหน?
เราเป็นลูกๆของชีพบาบาและดังนั้นเราจะกลายเป็นนายของโลกอย่างแน่นอน
ผู้เป็นที่รักมาเพียงผู้เดียวและเวลานี้กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าลูกและดังนั้นลูกควรมีความรักอย่างมากมายต่อท่าน
ความรักหมายถึงการจดจำระลึกถึง
เมื่อผู้เป็นคู่แต่งงานกันภรรยาก็มีความรักอย่างมากต่อสามีของเธอ
เวลานี้ลูกหมั้นหมายแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน
ลูกจะแต่งงานเมื่อลูกไปยังดินแดนของวิษณุ ลูกจะไปหาชีพบาบาก่อน
จากนั้นลูกจะไปบ้านฝ่ายสามีของลูก ความสุขของการหมั้นหมายนั้นไม่น้อยเลย!
ทันที่ที่ลูกหมั้นหมายกับใครบางคน การจดจำระลึกถึงนั้นก็มั่นคง
การหมั้นหมายเกิดขึ้นในยุคทองด้วยเช่นกัน แต่การหมั้นหมายไม่เคยมีการล้มเลิกที่นั่น
ที่นั่นไม่มีความตายก่อนเวลาอันควรใดๆที่นั่น สิ่งนั้นเกิดขึ้นที่นี่
ลูกๆต้องอยู่อย่างบริสุทธิ์ขณะที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัวของลูก
แม้ว่าลูกจะอาศัยอยู่ใกล้กันแต่ลูกก็ไม่ได้มีความก้าวหน้ามากนัก
ผู้ที่มาที่นี่ด้วยความรักนั้นก็ทำความก้าวหน้ามากมาย
หากไม่มีการจดจำระลึกถึงแล้วก็จะไม่มีความรักนั้นเช่นกัน
แล้วลูกก็ไม่สามารถซึมซับคำสอนของท่านได้ พระเจ้าพูดว่า ลูกๆ ต้องให้สาสน์แก่ทุกคน
นั่นคือ
ตัณหาราคะเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นเหตุที่ทำให้ลูกมีความทุกข์ตั้งแต่ตอนเริ่มตลอดจนตอนกลางจนถึงตอนจบ
ลูกเคยเป็นนายที่บริสุทธิ์ของยุคทอง เวลานี้ลูกได้ตกลงมาและกลับมาสกปรก
เวลานี้จงกลับมาบริสุทธิ์อีกครั้งในชาติเกิดสุดท้ายนี้
ยกเลิกพันธะของการนั่งบนกองไฟของตัณหาราคะ
เมื่อลูกๆพูดในลักษณะที่โยกยุตสิ่งนั้นก็จะนั่งอยู่ในสติปัญญาของผู้คน
ต้องมีพลังของโยคะในดาบของความรู้ สิ่งแรกและสิ่งหลักคือลูกๆ พูดว่า
บาบาเราใช้ความเพียรพยายามอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นแทบจะไม่มีใครปรากฏออกมา
บาบาพูดว่า อธิบายขณะที่อยู่ในโยคะ เพียรพยายามที่จะอยู่ในการจาริกแสวงบุญของโยคะ
ลูกได้พ่ายแพ้ต่อราวันและกลับมามีกิเลส เวลานี้จงกลับมาปราศจากกิเลส
ความปรารถนาทั้งหมดของลูกจะได้รับการเติมเต็มด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อ
บาบาทำให้ลูกกลายเป็นนายแห่งสวรรค์ บาบาได้ให้แนวทางในการปฏิบัติมากมาย
แต่ลูกๆบางคนก็ไม่สามารถจับทิศทางเหล่านั้นได้ดีนักแล้วพวกเขาก็ไปสนใจอยู่กับเรื่องอื่นๆ
สิ่งหลักคือการให้สาสน์ของพ่อ
อย่างไรก็ตามหากลูกเองไม่อยู่ในการจดจำระลึกถึงแล้วลูกจะบอกผู้อื่นได้อย่างไร?
ลูกไม่สามารถหลอกลวงได้
หากลูกบอกผู้อื่นไม่ให้ข้องแวะในกิเลสแต่ตัวลูกเองกลับข้องแวะในกิเลส
สำนึกของลูกก็จะกัดกร่อนอย่างแน่นอน มีแม้กระทั่งการหลอกลวงเช่นนั้น!
เหตุนี้เองบาบาพูดว่า สิ่งหลักคือการรู้จักอัลฟ่า
ด้วยการรู้จักอัลฟ่าลูกจะรู้ทุกสิ่ง ด้วยการไม่รู้จักอัลฟ่า
ลูกจะไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดได้เลย อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
รักษาความสุขภายในของการอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อและให้คำแนะนำของพ่อแก่ผู้อื่น
บอกทุกคนถึงคำสรรเสริญของพ่อผู้เดียว
2. ฝึกฝนที่จะกลับมามีสำนึกเป็นดวงวิญญาณอย่างมาก ลูกต้องไม่พูดมากเกินไป
ปล่อยให้อดีตเป็นอดีตและก่อนอื่นใดให้เปลี่ยนแปลงตนเอง
รักษาชาร์ทของการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงด้วยความซื่อสัตย์
พร:
ขอให้ลูกบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์และทำให้ความคิดของลูกบริสุทธิ์ เป็นตัวของความรู้
และเป็นตัวของพลัง
เพื่อที่จะกลับมาทัดเทียมพ่อ ทำให้รากฐานของความบริสุทธิ์แข็งแกร่ง
การทำสัญญาของการรักษาพรหมจรรย์สำหรับรากฐานเป็นเรื่องปกติ
และดังนั้นอย่าได้มีความสุขเพียงแค่นั้น
ขีดเส้นใต้มากขึ้นที่ลูกต้องมีความบริสุทธิ์ในสายตาและทัศนคติ
รวมทั้งให้ความคิดของลูกเป็นความคิดที่บริสุทธิ์ เป็นตัวของความรู้
และเป็นตัวของพลัง ยังคงมีความอ่อนแออย่างมากในความคิด
จบสิ้นความอ่อนแอนี้และแล้วลูกจะกล่าวได้ว่าเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์
คติพจน์:
ให้มีความเมตตาและความปรารถนาดีสำหรับทุกคนในสายตาของลูก
และจะไม่มีร่องรอยของความหยิ่งยโสหรือการดูถูก