08.10.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ ที่แสนหวาน จงอยู่อย่างซื่อสัตย์กับพ่อที่แท้จริง
เก็บรักษาชาร์ทของความซื่อสัตย์ของลูก
ละทิ้งความหยิ่งยโสของความรู้ใดๆและเพียรพยายามอย่างเต็มที่ที่จะอยู่ในการจดจำระลึกถึง
คำถาม:
อะไรคือสิ่งชี้บอกหลักของลูกมหาวีระ (นักรบที่กล้าหาญ)?
คำตอบ:
ลูกมหาวีระจะมีการจดจำระลึกถึงพ่อในสติปัญญาของพวกเขาอย่างสม่ำเสมอ
มหาวีระหมายถึงผู้ที่มีพลัง มหาวีระมีความสุขอย่างสม่ำเสมอและมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณ
พวกเขาไม่มีความหยิ่งยโสของร่างกายแม้แต่น้อย สิ่งนี้คงอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ
มหาวีระเช่นนั้นว่าพวกเขาเป็นดวงวิญญาณและบาบากำลังสอนพวกเขา
โอมชานติ
พ่อทางจิตถามลูกๆ ทางจิต:
ลูกกำลังนั่งที่นี่ด้วยการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณหรือจิตวิญญาณหรือไม่?
เพราะพ่อรู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ยากลำบากเล็กน้อย
เป็นในสิ่งนี้ที่ต้องใช้ความเพียรพยายาม
ผู้ที่นั่งที่นี่ในสภาพของสำนึกเป็นดวงวิญญาณนั้นเรียกว่ามหาวีระ
ผู้ที่พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและผู้ที่จดจำพ่อก็เรียกว่ามหาวีระ
เฝ้าแต่ถามตนเองเสมอว่า: ฉันมีสำนึกเป็นดวงวิญญาณหรือไม่?
ลูกกลายเป็นมหาวีระด้วยการจดจำระลึกถึง, นั่นคือลูกกลับมาสูงสุด
ผู้คนของศาสนาอื่นที่มาไม่ได้กลับมาสูงสุดเพราะพวกเขามาในภายหลัง
ลูกกลับมาสูงสุดตามลำดับกันไป การเป็นผู้ที่สูงสุดหมายถึงการมีพลังและเป็นมหาวีระ
ดังนั้นลูกมีความสุขอยู่ภายในว่าลูกคือดวงวิญญาณและพ่อของลูกดวงวิญญาณทั้งหมดกำลังสอนลูก
พ่อรู้ว่าลูกบางคนก็ได้แสดงชาร์ทของลูกให้เห็น 25% และบางคนก็แสดงให้เห็น 100%
บางคนพูดว่าพวกเขาอยู่ในการจดจำระลึกถึงเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงเท่านั้นจาก 24 ชั่วโมง
ดังนั้นนั่นเป็นกี่เปอร์เซ็นต์? ลูกต้องระมัดระวังอย่างมากกับตนเอง
ลูกต้องค่อยๆกลายเป็นมหาวีระทีละน้อย ลูกไม่สามารถจะกลายเป็นสิ่งนี้ได้ในทันที;
สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายาม
อย่าได้คิดว่าผู้ที่มีความรู้ของธาตุบราห์มจะพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ
พวกเขาพิจารณาว่าธาตุบราห์ม,บ้าน,เป็นดวงวิญญาณสูงสุด และพวกเขาพูดถึงตนเองว่า
ฉันคือบราห์มเช่นกัน ใครก็ตามไม่สามารถจะมีโยคะกับบ้านได้ เวลานี้ลูกๆ
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ ลูกแต่ละคนต้องดูชาร์ทของลูกและถามตนเองว่า ใน 24
ชั่วโมงลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณเป็นเวลานานเท่าไร
เวลานี้ลูกรู้ว่าลูกอยู่ในงานรับใช้ของพระเจ้า ลูกอยู่ในงานรับใช้ของพระเจ้า
ลูกต้องบอกทุกคนว่า พ่อเพียงแค่พูดว่า มานมานะบาฟ!
นั่นคือพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ นี่คืองานรับใช้ที่ลูกต้องทำ
ยิ่งลูกทำงานรับใช้มากเท่าไร ลูกก็จะยิ่งได้รับผลมากเท่านั้น
ลูกต้องเข้าใจประเด็นนี้อย่างชัดเจน
แม้แต่ลูกๆมหาระตีที่ดีมากก็ไม่เข้าใจประเด็นนี้อย่างสมบูรณ์
สำหรับสิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก
ลูกไม่สามารถได้รับรางวัลโดยที่ไม่เพียรพยายาม
บาบาเห็นว่าบางคนก็เขียนชาร์ทของเขาและส่งมา
ในขณะที่ผู้อื่นไม่แม้แต่จะเพียรพยายามที่จะเขียนชาร์ทนั้น
พวกเขามีความหยิ่งยโสของความรู้ของพวกเขา
พวกเขาไม่สามารถเพียรพยายามใดๆที่จะนั่งในการจดจำระลึกถึง
พ่ออธิบายว่าสิ่งหลักคือการจดจำระลึกถึง
ลูกต้องจับตาดูตนเองและดูว่าชาร์ทของลูกเป็นเช่นไรและจดลงไป
บางคนพูดว่าพวกเขาไม่มีเวลาที่จะเขียนชาร์ทเลย สิ่งหลักที่พ่อพูดคือ:
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำอัลฟ่า
ลูกนั่งที่นี่เป็นเวลานานแค่ไหนก็ถามใจตนเองในตอนนี้:
แล้วฉันอยู่ในการจดจำระลึกถึงเป็นเวลานานแค่ไหน? เมื่อลูกกำลังนั่งอยู่ที่นี่,ลูกต้องอยู่ในการจดจำระลึกถึง
และก็ไม่เป็นไรหากลูกจะควงกงจักรด้วยเช่นกัน เราต้องกลับไปกับบาบาอย่างแน่นอน
เราต้องกลับไปหลังจากที่เรากลับมาบริสุทธิ์และสโตประธาน
ลูกต้องเข้าใจประเด็นนี้อย่างดีมาก บางคนก็ลืมสิ่งนี้ทันทีที่บอกพวกเขา
พวกเขาไม่ได้บอกชาร์ทที่แท้จริงของตนเองแก่บาบา มีมหาระตีมากมายที่ไม่เคยบอกสัจจะ
คำพูดที่หลอกลวงนั้นคงอยู่มาถึงครึ่งวงจร
และดังนั้นจึงเป็นราวกับว่าความหลอกลวงนั้นได้ถูกกำหนดไว้ภายในพวกเขา
คนธรรมดาก็เขียนชาร์ทของพวกเขาในทันที พ่อพูดว่า
ด้วยการอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงบาปของลูกก็จะถูกเผาไปและลูกจะกลับมาบริสุทธิ์
ลูกจะไม่กลับมาบริสุทธิ์เพียงด้วยความรู้ แล้วจะมีประโยชน์อะไร?
ลูกเรียกหาเพื่อให้ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์
สำหรับสิ่งนี้ลูกจำเป็นต้องมีการจดจำระลึกถึง
แต่ละคนควรจะแสดงชาร์ทของตนด้วยความซื่อสัตย์ เมื่อลูกนั่งที่นี่เป็นเวลา 45 นาที
ลูกต้องตรวจสอบและดูว่าในช่วงระยะเวลานั้นลูกพิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณและคงอยู่ในการจดจำระลึกถึงพ่อเป็นเวลายาวนานแค่ไหน
บางคนก็ละอายอย่างมากที่จะบอกสัจจะ พวกเขาไม่ได้บอกสัจจะกับพ่อ
พวกเขาเพียงแค่ให้ข่าวของงานรับใช้ที่พวกเขาทำ
และที่พวกเขาได้อธิบายให้แก่ผู้คนมากมายแค่ไหน และที่พวกเขาได้ทำสิ่งนี้และสิ่งนั้น
แต่พวกเขาไม่ได้เขียนชาร์ทของการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงของเขา พ่อพูดว่า
เป็นเพราะการไม่อยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงที่ลูกศรของลูกจึงยิงไม่ตรงเป้า
ไม่มีพละกำลังในดาบของความรู้ของพวกเขา
พวกเขาสามารถถ่ายทอดความรู้แต่หากไม่มีโยคะก็เป็นสิ่งที่ยากที่ลูกศรของเขาจะยิงตรงเป้า
บาบาพูดว่า ลูกไม่มีการจดจำระลึกถึงแม้กระทั่ง 5 นาทีจาก 45 นาทีที่ลูกนั่ง
บางคนก็ไม่รู้แม้กระทั่งวิธีที่จะพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและวิธีที่จะจดจำพ่อ
บางคนพูดว่าพวกเขาอยู่ในการจดจำระลึกถึงอย่างสม่ำเสมอ บาบาพูดว่า
เป็นไปไม่ได้ที่จะมีสภาพนั้นในตอนนี้ หากลูกมีการจดจำระลึกถึงที่สม่ำเสมอ,
ลูกก็จะไปถึงสภาพที่อยู่เหนือบ่วงกรรมของลูก
และลูกก็จะรู้แจ้งอย่างสมบูรณ์ด้วยความรู้ ด้วยการอธิบายเล็กน้อยแก่ใครบางคน,
ลูกศรของลูกก็จะยิงตรงเป้า อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายาม
ลูกไม่สามารถกลายเป็นนายของโลกเพียงเช่นนั้น!
มายาได้นำโยคะของสติปัญญาของลูกจากทิศทางเดียวไปสู่อีกทิศทางอื่น
ลูกจดจำเพื่อนฝูงและญาติมิตรของลูกฯลฯ เมื่อใครบางคนต้องเดินทางไปต่างประเทศ
เขาก็เริ่มที่จะจดจำเพื่อนฝูงและญาติมิตร เรือกลไฟและเครื่องบินฯลฯ
ความปรารถนาที่จะไปต่างประเทศของพวกเขานั้นก็ดึงรั้งสติปัญญาของพวกเขา
และนั่นก็ตัดโยคะของสติปัญญาของพวกเขาอย่างสมบูรณ์
ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากที่จะปกป้องสติปัญญาของลูกจากการไปสู่ทิศทางอื่น
ลูกควรจะมีการจดจำระลึกถึงพ่อผู้เดียวเท่านั้น ไม่ควรแม้แต่จะจดจำร่างนี้
ลูกจะไปถึงสภาพนั้นในเวลาสุดท้าย
แต่ละวันยิ่งลูกเพิ่มการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงมากเท่าไร
ลูกก็จะยิ่งให้ประโยชน์แก่ตนเองมากเท่านั้น ยิ่งลูกอยู่ในการจดจำระลึกถึงมากเท่าไร,
รายได้ของลูกก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หากลูกจากร่างของลูกในเวลานี้
ลูกจะไม่สามารถหารายได้นี้ ลูกจะกลายเป็นทารกเล็กๆแล้วลูกจะหารายได้ประเภทใด?
แม้ว่าดวงวิญญาณจะนำสันสการ์ไปกับเขา แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีครูเพื่อเตือนเขา
พ่อก็เตือนลูกด้วยเช่นกัน: จดจำพ่อ
ไม่มีใครนอกจากลูกที่รู้ว่าด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อเท่านั้นที่ลูกจะสามารถกลับมาบริสุทธิ์
พวกเขาพิจารณาว่าการอาบน้ำในแม่น้ำคงคาเป็นสิ่งที่สูงส่ง
เหตุนี้เองพวกเขายังคงอาบน้ำในแม่น้ำคงคากันต่อไป
บาบาก็มีประสบการณ์กับสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ท่านเคยมีกูรูมามากมายด้วยเช่นกัน
พวกเขาไปอาบน้ำในน้ำ
ที่นี่การอาบน้ำของลูกเกิดขึ้นในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง ลูกๆ
ดวงวิญญาณไม่สามารถกลับมาบริสุทธิ์ได้หากไม่มีการจดจำระลึกถึงพ่อ
สิ่งนี้เรียกว่าโยคะ นั่นคือการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึง
อย่าคิดว่าความรู้คือการอาบน้ำ มันคือโยคะที่กำลังอาบน้ำ
ความรู้คือการศึกษาเล่าเรียน, แต่โยคะคือการอาบน้ำซึ่งบาปของลูกถูกตัดออกไป
มีสองสิ่งคือความรู้และโยคะ
เป็นไปด้วยการจดจำระลึกถึงที่บาปของหลายต่อหลายชาติเกิดจะถูกเผาไป พ่อพูดว่า
ด้วยการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงนี้ที่ลูกจะกลับมาบริสุทธิ์และสโตประธาน
พ่ออธิบายอย่างชัดเจนมาก: ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน เข้าใจประเด็นเหล่านี้อย่างชัดเจนมาก
อย่าลืมว่าบาปของหลายต่อหลายชาติเกิดของลูกจะถูกตัดออกไปด้วยการอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงนี้
ความรู้เป็นวิธีของการหารายได้ การศึกษาและการจดจำระลึกถึงเป็นสองสิ่งที่แยกจากกัน
ญาณและวิญาณ: ญาณหมายถึงการศึกษา และวิญาณหมายถึงโยคะ ซึ่งคือการจดจำระลึกถึง
อะไรสูงส่งกว่ากัน:ความรู้หรือโยคะ? การจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงนั้นสูงมาก
เป็นสิ่งนี้ที่ต้องใช้ความเพียรพยายาม ลูกทั้งหมดจะไปสวรรค์
ยุคทองเป็นสวรรค์และยุคเงินเป็นกึ่งสวรรค์
ลูกจะไปที่นั่นและได้รับตำแหน่งหรือฐานะของลูกตามที่ลูกศึกษาเล่าเรียนมามากเท่าไร
อย่างไรก็ตามโยคะเป็นประเด็นหลัก
ลูกสามารถอธิบายความรู้นี้ได้ที่นิทรรศการและพิพิธภัณฑ์
แต่ลูกไม่สามารถอธิบายโยคะได้ ลูกสามารถพูดเพียงแค่ว่า
พิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ อย่างไรก็ตามลูกให้ความรู้มากมาย พ่อพูดว่า
ก่อนอื่นใดบอกประเด็นนี้แก่พวกเขา: พิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
ลูกได้สร้างรูปภาพจำนวนมาก ฯลฯ เพื่อที่จะให้ความรู้นี้
แต่ไม่จำเป็นต้องใช้รูปภาพเพื่ออธิบายโยคะ
รูปภาพเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อที่ลูกจะสามารถอธิบายความรู้ได้
ด้วยการพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณ,
ความหยิ่งยโสทั้งหมดทางร่างกายของลูกก็จะหมดลงโดยสิ้นเชิง
ลูกต้องใช้ปากของลูกในการที่จะพูดความรู้อย่างแน่นอน มีประเด็นเดียวเท่านั้นในโยคะ-ลูกต้องพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณและจดจำพ่อ
อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องใช้ร่างกายเพื่อที่จะศึกษาเล่าเรียน
ลูกจะสามารถศึกษาเล่าเรียนหรือสอนโดยที่ไม่มีร่างกายได้อย่างไร?
พ่อคือผู้ชำระให้บริสุทธิ์และดังนั้นลูกต้องมีโยคะกับท่าน แต่ไม่มีใครรู้สิ่งนี้
พ่อเองมาและสอนลูก มนุษย์ไม่สามารถสอนสิ่งนี้แก่มนุษย์ได้ พ่อพูดว่า จดจำพ่อ!
สิ่งนี้เรียกว่าความรู้ของดวงวิญญาณสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุดคือมหาสมุทรแห่งความรู้
ประเด็นเหล่านี้ต้องใช้ความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง บอกทุกคนให้จดจำพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด,
ผู้เดียวที่ก่อตั้งโลกใหม่
พวกเขาไม่แม้กระทั่งจะตระหนักรู้ว่าโลกใหม่กำลังจะถูกสร้างขึ้นเพื่อพวกเขาจะได้จดจำระลึกถึงพระเจ้า
ในเมื่อพวกเขาไม่ได้แม้แต่จะตระหนักในสิ่งนี้แล้วเหตุใดพวกเขาจึงคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้?
ลูกรู้ว่ามีเพียงพ่อสูงสุด ดวงวิญญาณสูงสุด พระเจ้าชีวาผู้เดียวเท่านั้น
พวกเขาพูดว่าขอคารวะต่อเทพบราห์มา
และจากนั้นในเวลาสุดท้ายพวกเขาก็พูดว่าขอคารวะต่อดวงวิญญาณสูงสุด ชีวา
พ่อนั้นสูงสุดเหนือสิ่งใด แต่พวกเขาไม่รู้ว่าท่านคือใคร
ถ้าท่านนั้นอยู่ในก้อนกรวดและก้อนหิน พวกเขาจะก้มลงให้แก่ใคร?
พวกเขาพูดโดยที่ไม่มีความเข้าใจถึงนัยสำคัญของสิ่งที่พวกเขาพูด
ที่นี่ลูกต้องไปอยู่เหนือเสียง ลูกต้องไปสู่ดินแดนนิพพาน, ดินแดนแห่งความเงียบสงบ
มีดินแดนแห่งความสงบและดินแดนแห่งความสุข นั่นคือดินแดนแห่งสวรรค์
ลูกจะไม่เรียกนรกว่าเป็นดินแดน คำพูดนั้นง่ายมาก
ศาสนาของพระคริสต์จะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน? พวกเขาไม่รู้สิ่งนี้
พวกเขาพูดว่าดินแดนสุขาวดีมีอยู่เมื่อ 3000 ปีก่อนพระคริสต์
นั่นหมายความว่าเคยมีอาณาจักรของเหล่าเทพ ดังนั้นเมื่อ 2000
ปีมาแล้วนับตั้งแต่ศาสนาคริสต์ได้ปรากฏขึ้นก็จะต้องมีศาสนาเทพอีกครั้ง
สติปัญญาของมนุษย์ไม่ได้ทำงานเลย เนื่องจากการไม่รู้ถึงความลับของละคร
พวกเขาจึงเฝ้าแต่วางแผนมากมาย
ผู้เป็นแม่ที่แก่ชราก็ไม่สามารถเข้าใจประเด็นเหล่านี้ได้ พ่ออธิบาย:
เวลานี้เป็นสภาพของการปลดเกษียณของลูกทั้งหมด ลูกต้องไปอยู่เหนือเสียง
แม้ว่าพวกเขาจะพูดว่าใครบางคนจากไปสู่ดินแดนนิพพาน แต่ก็ไม่มีใครสามารถไปที่นั่นได้
พวกเขาต้องกลับมาใช้ชาติเกิดอย่างแน่นอน ไม่มีใครสามารถกลับบ้านได้
พวกเขามีความเป็นมิตรของกูรูเพื่อที่จะไปสู่สภาพของการปลดเกษียณ
มีอาศรมมากมายสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ มีผู้เป็นแม่อยู่มากมายด้วยเช่นกัน
ลูกสามารถทำงานรับใช้ที่นั่นได้ด้วยเช่นกัน
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกถึงความหมายของสภาพของการปลดเกษียณ
ในเวลานี้ลูกทั้งหมดอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ ทั้งโลกอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ
มนุษย์ทั้งหมดที่ลูกเห็นนั้นอยู่ในสภาพของการปลดเกษียณ
สัตกูรูเดียวเท่านั้นคือผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปสำหรับทุกคน ทุกคนต้องกลับไป
ผู้ที่ทำความเพียรพยายามอย่างดีมากก็จะประกาศสิทธิ์ในสถานภาพที่สูง เวลานี้เรียกว่า
“เวลาแห่งการตัดสิน” ผู้คนไม่รู้ความหมายของ “เวลาแห่งการตัดสิน” ลูกๆ
เข้าใจสิ่งนี้ตามลำดับกันไปด้วยเช่นกัน จุดหมายปลายทางนั้นสูงมาก
ทุกคนต้องเข้าใจว่าเวลานี้พวกเขาต้องกลับบ้านอย่างแน่นอน
ดวงวิญญาณต้องไปอยู่เหนือเสียง และพวกเขาทั้งหมดก็จะลงมาเพื่อเล่นบทบาทของพวกเขาซ้ำ
อย่างไรก็ตามหากลูกกลับไปในขณะที่จดจำพ่อ, ลูกก็จะได้รับสถานภาพที่สูง
ลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่งด้วยเช่นกัน
ลูกต้องไม่ทำกรรมที่สกปรกหรือลักขโมยใดๆฯลฯ ลูกสามารถกลายเป็นดวงวิญญาณบุญด้วยโยคะ
ไม่ใช่ด้วยความรู้ ดวงวิญญาณต้องกลับมาบริสุทธิ์
เพียงดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถกลับไปยังดินแดนแห่งความสงบได้
ดวงวิญญาณทั้งหมดอาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขายังคงลงมาในเวลานี้
ผู้ที่ยังคงเหลืออยู่ที่นั่นก็จะลงมาเรื่อยๆด้วยเช่นกัน ลูกๆ
ต้องอยู่ในการจาริกแสวงบุญแห่งการทรงจำระลึกถึงอย่างมาก
ลูกสามารถได้รับความช่วยเหลือที่ดีมากที่นี่ ลูกได้รับพลังจากกันและกัน
พละกำลังของลูกเพียงไม่กี่คนกำลังทำงาน
พวกเขาแสดงให้เห็นว่าภูเขาโกวันทันถูกยกขึ้นมาด้วยนิ้วของความร่วมมือ
ลูกคือโก๊ปและโก๊ปี้ เทพแห่งยุคทองนั้นไม่ได้เรียกว่าโก๊ปหรือโก๊ปี้
เป็นลูกผู้ที่ให้นิ้วของความร่วมมือของลูก
ลูกเชื่อมโยคะของสติปัญญาของลูกกับพ่อผู้เดียวเพื่อที่จะเปลี่ยนยุคเหล็กให้กลายเป็นยุคทองและนรกเป็นสวรรค์
ด้วยการมีโยคะที่ลูกต้องกลับมาบริสุทธิ์ ลูกต้องไม่ลืมประเด็นเหล่านี้
ลูกได้รับพลังนี้ที่นี่ ภายนอกนั้นก็มีมิตรของมนุษย์ที่เป็นเช่นปีศาจ
เป็นสิ่งที่ยากมากที่จะอยู่ในการจดจำระลึกถึงที่นั่น
ลูกไม่สามารถจะคงอยู่อย่างไม่สั่นคลอนได้ที่นั่น ลูกต้องการชุมนุมนี้
เมื่อลูกทั้งหมดนั่งด้วยกันที่นี่อย่างมั่นคงลูกก็สามารถได้รับการช่วยเหลือ
ไม่มีธุรกิจฯลฯ ที่นี่ และดังนั้นสติปัญญาของลูกไปที่ไหน? เมื่อลูกอยู่ข้างนอก
ธุรกิจของลูกและบ้านฯลฯ จะดึงลูกอย่างแน่นอน ที่นี่ไม่มีอะไรเช่นนั้น
บรรยากาศที่นี่ดีมากและบริสุทธิ์
ตามละครลูกกำลังนั่งอยู่ห่างออกไกลที่สถานีบนเนินเขา
อนุสรณ์ที่ถูกต้องแม่นยำของลูกอยู่เบื้องหน้าลูก
ได้มีการแสดงภาพสวรรค์อยู่เหนือเพดาน ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะแสดงสิ่งนั้นที่ไหน?
ดังนั้นบาบาพูดว่า เมื่อลูกมาและนั่งที่นี่,
ตรวจสอบดูว่าลูกนั่งในการจดจำระลึกถึงพ่อหรือไม่
ลูกควรจะเฝ้าแต่ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเองด้วยเช่นกัน อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. จับตาดูชาร์ทของการจดจำระลึกถึงของลูก และดูว่าลูกจดจำพ่อเป็นเวลานานแค่ไหน
สติปัญญาของลูกเร่ร่อนไปที่ใดในเวลาของการจดจำระลึกถึง?
2. ในช่วงเวลาของการตัดสินนี้ จงเพียรพยายามที่จะไปอยู่เหนือเสียง
พร้อมกับการจดจำระลึกถึงพ่อ แน่นอนลูกต้องสร้างสมคุณธรรมที่สูงส่ง
อย่าได้ทำกรรมที่สกปรกใดหรือลักขโมยฯลฯ
พร:
ขอให้ลูกร่าเริงแจ่มใสและมีความสุขในหัวใจและอยู่อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยการได้มาซึ่งการบรรลุผลทั้งหมด
เมื่อพวกเขาสร้างรูปปั้นของเทพพวกเขามักจะแสดงใบหน้าที่มีรอยยิ้ม (ร่าเริงแจ่มใส)
พวกเขาแสดงให้ลูกเห็นถึงความร่าเริงแจ่มใสในภาพลักษณ์ของอนุสรณ์ของลูกในเวลานี้
การเป็นคนร่าเริงแจ่มใสหมายถึงการเต็มไปด้วยการบรรลุผลทั้งหมดอย่างสม่ำเสมอ
เพียงผู้ที่เต็มเท่านั้นที่สามารถอยู่อย่างร่าเริงแจ่มใสได้
หากมีการขาดการได้มาซึ่งการบรรลุผลบางอย่างลูกก็จะไม่อยู่อย่างร่าเริงแจ่มใส
ไม่ว่าใครพยายามที่จะร่าเริงแจ่มใสมากแค่ไหนเขาก็อาจจะหัวเราะภายนอก
แต่ไม่ได้อยู่ในหัวใจของเขา
ในขณะที่ลูกยิ้มในหัวใจเพราะลูกเป็นคนร่าเริงแจ่มใสและเต็มไปด้วยการบรรลุผลทั้งหมด
คติพจน์:
เพื่อที่จะสอบผ่านด้วยเกียรตินิยม
ให้บัญชีของลูกของการสะสมสมบัติที่มีค่าทั้งหมดเต็มเปี่ยม