15.12.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
21.03.85 Om Shanti Madhuban
ได้รับเหรียญแห่งชัยชนะด้วยกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
วันนี้บัพดาดาในรูปของผู้บัญชาการแห่งกองทัพทางจิตของท่านกำลังมองดูกองทัพทางจิตของท่าน
ในกองทัพทางจิตนี้ท่านเห็นว่าผู้ที่เป็นมหาวีระและอาวุธอันทรงพลังที่พวกเขาถืออยู่
เช่นเดียวกับผู้ที่มีอาวุธทางกายภาพเหล่านั้นยังคงทำอาวุธเหล่านั้นทุกวันที่ละเอียดอ่อนมากและมีความเร็วที่ทรงพลังมาก
ในทำนองเดียวกันกองทัพทางจิตนี้ได้กลายเป็นผู้ที่ถืออาวุธที่ละเอียดอ่อนและมีพลังอย่างยิ่งหรือไม่?
ดวงวิญญาณที่จะนำมาซึ่งการทำลายล้างได้สร้างอาวุธเช่นนั้นแล้วที่พวกเขาจะนำมาซึ่งการทำลายล้างด้วยลำแสงของอาวุธเหล่านี้
แม้กระทั่งในขณะที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่บ้านห่างออกไปหลายไมล์
พวกเขาไม่จำเป็นจะต้องไปที่นั่น ขณะที่นั่งอยู่ในที่ที่ห่างไกล
พวกเขาสามารถยิงไปที่เป้าหมายของพวกเขาได้
ในทำนองเดียวกันกองทัพทางจิตเป็นกองทัพที่กำลังทำงานของการสร้างใช่ไหม?
พวกเขาคือผู้ที่นำมาซึ่งการทำลายล้างและลูกคือผู้ที่ดำเนินงานของการสร้าง
พวกเขาคิดถึงแผนการสำหรับการทำลายล้างและลูกคิดถึงแผนการสำหรับการสิ่งสร้างใหม่และสำหรับการเปลี่ยนแปลงโลก
ลูกกองทัพกำลังดำเนินงานสร้าง ลูกใช้เครื่องมือทางจิตด้วยความเร็วที่พอๆกันหรือไม่?
ขณะที่กำลังนั่งอยู่ ณ ที่หนึ่ง
ลูกสามารถสัมผัสดวงวิญญาณใดก็ตามที่ดวงวิญญาณนั้นอยู่ผ่านรัศมีของการจดจำระลึกถึงทางจิตได้หรือไม่?
พลังของการเปลี่ยนแปลงของลูกพร้อมที่จะทำงานด้วยความเร็วเช่นนั้นหรือไม่?
ลูกทุกคนได้รับความรู้ นั่นคือพลัง
ด้วยพลังแห่งความรู้ลูกกลายเป็นผู้ที่มีอาวุธอันทรงพลังหรือไม่? ลูกกลายเป็นมหาวีระ(นักรบที่ยิ่งใหญ่)หรือวีระ
(นักรบ)? ลูกได้รับเหรียญแห่งชัยชนะหรือไม่?
ผู้ที่อยู่ในกองทัพทางโลกได้รับเหรียญหลายประเภทเป็นรางวัล
ลูกทั้งหมดได้รับเหรียญแห่งชัยชนะเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จหรือไม่?
ชัยชนะได้รับประกันไว้แล้ว
ดวงวิญญาณมหาวีระผู้ที่มีศรัทธาในสติปัญญาเช่นนั้นมีสิทธิ์ที่จะได้เหรียญแห่งชัยชนะ
บัพดาดากำลังมองดูผู้ที่ได้รับเหรียญแห่งชัยชนะของพวกเขา
ลูกได้รับเหรียญแห่งชัยชนะด้วยกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
ดังนั้นลูกทั้งหมดได้กลายเป็นผู้ที่กำลังถืออาวุธหรือไม่?
อนุสรณ์ของอาวุธทางจิตเหล่านี้มีการแสดงให้เห็นในภาพที่เป็นอนุสรณ์ของลูกภาพลักษณ์ของเทพเจ้าแสดงให้เห็นว่าพวกเขาถืออาวุธ
มีการแสดงว่าพันดาวาสก็ถืออาวุธด้วยใช่ไหม? อาวุธทางจิต
นั่นคือพลังทางจิตถูกแสดงให้เห็นในรูปของอาวุธทางวัตถุ
ที่จริงแล้วลูกๆทั้งหมดได้รับพลังเดียวกันของความรู้ในเวลาเดียวกันจากบัพดาดา
ท่านไม่ได้ให้ความรู้ที่แตกต่างในแต่ละคน แล้วทำไมลูกถึงตามลำดับกันไป
บัพดาดาได้สอนใครแยกต่างหากหรือไม่? ท่านสอนลูกทั้งหมดในเวลาเดียวกันใช่ไหม?
ท่านให้การศึกษาแก่ลูกที่เหมือนกันใช่ไหม?
หรือว่าท่านสอนสิ่งหนึ่งในกลุ่มหนึ่งและสอนอีกสิ่งหนึ่งในกลุ่มอื่นหรือไม่?
ที่นี่ไม่ว่าลูกจะเป็นนักเรียนของพระเจ้าที่มีอายุ 6 เดือน หรือ 50 ปี
ลูกก็นั่งในชั้นเรียนเดียวกัน ลูกนั่งแยกกันหรือไม่?
บัพดาดาสอนเพียงแค่การศึกษาเดียวในเวลาเดียวกันกับทุกคนในเวลาเดียวกัน
แม้ว่าบางคนจะมาในภายหลัง การศึกษาอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นไปแล้ว
ลูกก็ยังคงสอนการศึกษาเดียวกันนั้นต่อไปแก่พวกเขาแม้กระทั่งเวลานี้
ลูกกำลังศึกษาบทเรียนที่มีการทบทวนเช่นกัน
หรือว่าคนที่เก่าแก่กว่ามีหลักสูตรที่แตกต่างจากหลักสูตรของลูก
เป็นหลักสูตรเดียวกันใช่ไหม? ไม่ใช่ว่าเมอร์ลีที่ลูกมีสำหรับผู้ที่อยู่ที่นี่ 40
ปีนั้นแตกต่างจากเมอร์ลีสำหรับผู้ที่อยู่ที่นี่เพียง 6 เดือนเท่านั้นใช่ไหม?
เป็นเมอร์ลีเดียวกันใช่ไหม?การศึกษาเหมือนกัน ครูเดียวกัน แล้วทำไมจึงตามลำดับกันไป?
หรือลูกทั้งหมดเป็นอันดับหนึ่ง? อันดับถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร?
เป็นเพราะถึงแม้ว่าทุกคนจะศึกษาเล่าเรียน
ความแตกต่างอยู่ที่ว่าลูกจะรับแต่ละประเด็นของการศึกษาหรือความรู้ในรูปของอาวุธหรือพลังหรือลูกเพียงแค่ดูดซับความรู้ในรูปแบบของจุดเท่านั้น
– นี่คือสิ่งที่สร้างอันดับขึ้น
บางคนรับฟังสิ่งนี้และสติปัญญาของพวกเขาเพียงแค่ดูดซับในรูปของจุด
พวกเขาพูดได้ดีมากเกี่ยวกับประเด็นที่พวกเขาได้ดูดซับไว้
ลูกส่วนใหญ่มีความฉลาดในการให้คำบรรยายและให้บทเรียน
บัพดาดาพอใจที่ได้เห็นวิธีการที่ลูกๆให้คำบรรยายและบทเรียน
ลูกบางคนแม้กระทั่งให้คำบรรยายได้ดีกว่าบัพดาดาเสียอีก
พวกเขาพูดถึงประเด็นต่างๆได้ดีมาก
อย่างไรก็ตามความแตกต่างอยู่ที่การซึมซับความรู้ในรูปที่เป็นจุดของความรู้และในการซึมซับทุกจุดของความรู้ในรูปของพลัง
ตัวอย่างเช่น เมื่อพูดถึงประเด็นของละคร
นี่เป็นอาวุธที่ใหญ่มากและทรงพลังมากที่จะทำให้ลูกมีชัยชนะ
ผู้ที่ปลูกฝังพลังของความรู้ของละครในชีวิตในทางปฏิบัติของพวกเขาไม่สามารถสั่นคลอนได้
พลังพิเศษที่จะอยู่อย่างมั่นคงสม่ำเสมอไม่หวั่นไหวไม่สั่นคลอนคือจุดของละครนี้
ผู้ที่ซึมซับสิ่งนี้อย่างเป็นพลังไม่มีวันพ่ายแพ้ได้
อย่างไรก็ตามผู้ที่เพียงแค่ดูดซับสิ่งนั้นอย่างเป็นจุดทำอะไร?
เขาแม้กระทั่งพูดถึงประเด็นของละคร
แล้วพวกเขาเข้ามาสู่ความปั่นป่วนและพวกเขาก็ยังคงพูดถึงจุดของละคร!
บางครั้งดวงตาของเขายังคงหลั่งน้ำตาอยู่เรื่อยๆ “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร”แต่พวกเขาก็ยังคงพูดถึงจุดของละครต่อไป! “ใช่ฉันต้องได้รับชัยชนะ
ถึงอย่างไรฉันก็คือเพชรพลอยแห่งชัยชนะ ฉันจดจำละครแต่ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!”
แล้วลูกจะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร?
เป็นความรู้ที่ถูกซึมซับในรูปของพลังหรืออาวุธหรือว่ามันเป็นเพียงแค่การซึมซับในรูปของประเด็นหนึ่งเท่านั้น?
ในทำนองเดียวกันดวงวิญญาณก็จะพูดกับตัวเองว่า “ฉันเป็นดวงวิญญาณที่มีพลัง
ฉันเป็นลูกของผู้ทรงพลังอำนาจ แต่สถานการณ์นี้ใหญ่มาก
ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งเช่นนี้จะเกิดขึ้น”
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการเป็นดวงวิญญาณที่เป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจกับคำพูดเหล่านั้น
ลูกชอบสิ่งเหล่านี้หรือไม่? แล้วลูกจะเรียกสิ่งนั้นว่าอะไร?
ดังนั้นจึงมีบทเรียนของดวงวิญญาณ บทเรียนของพระเจ้า บทเรียนของละคร บทเรียนของ 84
ชาติเกิด มีบทเรียนมากมายแค่ไหน? การซึมซับสิ่งเหล่านี้ในรูปของพลัง
นั่นคืออย่างเป็นอาวุธ หมายถึงการได้รับชัยชนะ
ถ้าลูกเพียงแค่ซึมซับสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงแค่จุด บางครั้งจุดนั้นก็ใช้ได้
และบางครั้งก็ไม่เป็นเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามลูกก็ซึมซับจุดต่างๆเหล่านั้นอย่างเป็นจุด
และเนื่องจากลูกไม่ว่างเว้นในงานรับใช้และลูกก็พูดจุดนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ลูกจึงอยู่อย่างปลอดภัยจากมายา
อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์หรือรูปที่สูงส่งของมายามาอยู่เบื้องหน้าลูก
ลูกจะไม่สามารถได้รับชัยชนะอย่างสม่ำเสมอได้ ลูกพูดถึงจุดเดียวกัน
แต่เนื่องจากไม่มีพลัง ลูกจึงไม่สามารถเป็นผู้ที่ชนะมายาได้อย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นลูกเข้าใจไหมว่าลูกตามลำดับกันไปอย่างไร? ดังนั้นขณะนี้จงตรวจสอบดูว่า
ถ้าลูกได้ซึมซับทุกจุดของความรู้อย่างเป็นอาวุธหรือพลัง
ลูกเพียงแค่กลับมาเต็มไปด้วยความรู้หรือลูกสามารถกลับมาเต็มไปด้วยพลังด้วยเช่นกันหรือไม่?
พร้อมกับการเต็มไปด้วยความรู้ ลูกมีพลังเช่นกันหรือไม่?
หรือลูกเพียงแค่กลับมาเต็มไปด้วยความรู้? ความรู้ที่ถูกต้องคือรูปของแสงและอำนาจ
ลูกได้ซึมซัมความรู้นั้นในรูปเช่นนั้นหรือไม่?
หากความรู้ไม่ได้ทำให้ลูกได้รับชัยชนะในเวลาที่ถูกต้องแล้วลูกก็ไม่ได้ซึมซับความรู้ในรูปของพลัง
ถ้านักรบไม่ได้ใช้อาวุธของเขาในเวลาที่ถูกต้อง ลูกจะเรียกเขาว่าอะไร?
ลูกจะเรียกเขาว่ามหาวีระหรือไม่? ทำไมลูกถึงได้รับพลังแห่งความรู้?
ลูกได้รับพลังแห่งความรู้เพื่อที่จะเป็นผู้ที่เอาชนะมายาใช่ไหม?
หรือว่าลูกจะจดจำจุดหลังจากเวลานั้นได้ผ่านไป “ฉันควรจะทำสิ่งนี้ฉันควรจะคิดถึงสิ่งนี้”
ดังนั้นตรวจสอบดูว่าลูกได้ทำบทเรียนของพลังมากแค่ไหน?
ลูกทั้งหมดพร้อมที่จะให้หลักสูตรบทเรียนใช่ไหม? มีใครบ้างที่ไม่สามารถให้บทเรียนได้?
ลูกทั้งหมดสามารถให้บทเรียนและลูกก็ทำสิ่งนั้นด้วยความรักอย่างมากและทำได้ดีมาก
บัพดาดาเห็นว่าลูกได้ให้บทเรียนแก่ผู้อื่นด้วยความรักอย่างมากอย่างไม่รู้เหนื่อยและด้วยความกระตือรือร้น
ลูกมีโปรแกรมที่ดีมาก ลูกใช้ร่างกาย จิตใจ
และทรัพย์สมบัติของลูกสำหรับสิ่งเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองจึงมีการเติบโตมากมาย
นี่คือสิ่งที่ลูกทำได้ดีมาก อย่างไรก็ตามตามเวลาลูกได้ผ่านสิ่งนี้ไปแล้ว
วัยเด็กของลูกได้จบสิ้นลงแล้วใช่ไหม?
ขณะนี้ลูกอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาวหรืออยู่ในช่วงวัยเกษียณ? ลูกได้มาถึงสภาพใดแล้ว?
ในกลุ่มนี้ส่วนมากเป็นคนใหม่
อย่างไรก็ตามงานรับใช้หลายปีในต่างประเทศขณะนี้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้วและไม่อยู่ในวัยเด็กอีกต่อไป
เวลานี้ลูกได้มาถึงสภาพของการเป็นเยาชนวัยหนุ่มสาวแล้ว ขณะนี้จงทำบทเรียนของพลัง
แล้วให้สิ่งนั้นแก่ผู้อื่น
ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามเยาวชนนั้นมีพลังมาก วัยของเยาวชนมีพลังมาก
พวกเขาสามารถทำอะไรก็ตามที่พวกเขาต้องการ
ด้วยเหตุนี้เองลูกต้องเห็นว่าทุกวันนี้แม้แต่รัฐบาลยังกลัวเยาวชน
เพราะเมื่อพูดถึงเรื่องทางโลกกลุ่มเยาวชนมีพลังของสติปัญญาและความแข็งแกร่งทางร่างกายด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามที่นี่ลูกไม่ใช่ผู้ที่ทำลายทุกสิ่ง ลูกคือผู้ที่แก้ไข
ที่นั่นพวกเขาใช้กำลังในขณะที่ที่นี่ลูกดวงวิญญาณเป็นตัวแห่งความสงบ
ลูกคือผู้ที่แก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง ลูกคือผู้ที่ขจัดความทุกข์ของทุกคน
พวกเขาคือผู้ที่ให้ความทุกข์แต่ลูกคือผู้ที่ขจัดความทุกข์
ลูกคือผู้ที่ขจัดความทุกข์และประทานความสุข พ่อเป็นเช่นไรลูกก็เป็นเช่นนั้น
ทุกความคิดของลูกสำหรับทุกดวงวิญญาณสำหรับตัวลูกเองและสำหรับผู้อื่นคือความคิดที่ให้ความสุข
เพราะลูกได้จากโลกแห่งความทุกข์นี้ไปแล้ว ลูกไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความทุกข์อีกต่อไป
ลูกได้ออกไปจากดินแดนแห่งความทุกข์เข้าสู่ยุคบรรจบพบกัน
ลูกกำลังนั่งอยู่ในยุคบรรจบพบกันที่มีสิริมงคลที่สุด
เยาวชนเหล่านั้นเป็นของยุคเหล็ก ลูกเป็นเยาวชนในยุคบรรจบพบกัน
ดังนั้นจงซึมซับความรู้นี้ไว้ในตนเองในรูปของพลังเสมอและทำให้ผู้อื่นทำเช่นเดียวกัน
หากลูกไม่ให้บทเรียนแห่งพลัง
มิฉะนั้นแล้วลูกก็เพียงแค่ให้บทเรียนของการให้จุดต่างๆเท่านั้น
ดังนั้นเวลานี้จงทบทวนบทเรียนอีกครั้ง
เวลานี้ลูกสามารถฝึกฝนตนเองว่าในแต่ละจุดของความรู้มีพลังใด มีพลังมากแค่ไหน
พลังไหนที่สามารถใช้ในเวลาใดและใช้ในลักษณะใด ดังนั้นเวลานี้จงตรวจสอบดูว่า:
ลูกได้ใช้อาวุธที่ทรงพลังของจุดของดวงวิญญาณในทางปฏิบัติตลอดทั้งวันหรือไม่?
ลูกสามารถฝึกฝนสิ่งนี้ด้วยตนเองเพราะถึงอย่างไรลูกคือผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้
หากลูกได้รับการบอกให้ดึงจุดต่างๆเกี่ยวกับดวงวิญญาณ ลูกจะดึงออกมาได้มากแค่ไหน?
มากมาย ลูกมีความฉลาดเมื่อพูดถึงการบรรยาย
อย่างไรก็ตามดูแต่ละจุดซิว่าลูกสามารถใช้จุดต่างๆในทางปฏิบัติในสถานการณ์ได้มากแค่ไหน
อย่าคิดว่า “ฉันสบายดี แต่มีบางสิ่งเกิดขึ้น เป็นเพราะสถานการณ์นี้
ที่สิ่งนั้นเกิดขึ้น” อาวุธมีไว้เพื่ออะไร? มีไว้ให้ลูกใช้เมื่อศัตรูมาหรือไม่?
หรือเป็นเพราะศัตรูมาที่ลูกพ่ายแพ้ ที่ลูกขึ้นลงเพราะมายามาหรือไม่?
อาวุธนั้นมีไว้สำหรับเมื่อมายา(ศัตรูของลูก)มา! ทำไมลูกจึงซึมซับพลัง?
ลูกกลับมามีพลังเพื่อที่ลูกจะได้รับชัยชนะในเวลาที่ถูกต้อง
ดังนั้นลูกเข้าใจหรือไม่ว่าลูกต้องทำอะไร?
ลูกยังคงมีการสนทนาจากใจถึงใจที่ดีมากอยู่เรื่อยๆท่ามกลางลูกๆ
บัพดาดาได้รับข่าวทั้งหมด
บัพดาดาพอใจที่ได้เห็นความกระตือรือร้นนี้ของลูกๆและลูกรักการศึกษาเล่าเรียนและรักพ่อ
ลูกรักงานรับใช้เช่นกัน แต่บางครั้งลูกก็เปราะบางและลูกก็วางอาวุธ
ลูกควรถ่ายทำภาพยนตร์ในเวลานั้นและนำมาแสดงให้ลูกเห็น
สิ่งนั้นคงอยู่เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่นานนัก
แต่อย่างไรก็ตามมีความแตกต่างระหว่างการเป็นอิสระจากอุปสรรคอย่างสม่ำเสมอกับการมีอุปสรรคในบางครั้งและบางครั้งเป็นอิสระจากอุปสรรคใช่ไหม?
ยิ่งมีปมรอยต่อในเชือกมากแค่ไหน เชือกก็จะอ่อนแอมากแค่นั้น
จะต้องนำมาต่อกันอีกครั้ง
แต่มีความแตกต่างระหว่างสิ่งที่นำมาต่อกันกับบางสิ่งที่เป็นอันเดียวกันทั้งหมดซึ่งไม่มีรอยต่อ
ลูกชอบบางสิ่งที่ถูกซ่อมแซมหรือไม่?
ดังนั้นที่นี่เช่นกันมีอุปสรรคหนึ่งแล้วลูกก็เป็นอิสระจากอุปสรรค
และหลังจากนั้นอุปสรรคก็มาอีกครั้ง
นั่นก็เป็นเหมือนกับบางสิ่งที่แตกหักแล้วก็ถูกนำมาซ่อมแซมใหม่
ดังนั้นจึงมีรอยต่อนั้นใช่ไหม? เหตุนี้เองสิ่งนี้จึงกระทบต่อสภาพของลูกเช่นกัน
บางคนเป็นผู้ที่เพียรพยายามอย่างจริงจังที่ดีมาก
พวกเขาเต็มไปด้วยความรู้และเฝ้าแต่ทำงานรับใช้เช่นกัน
พวกเขาอยู่ในดวงตาของบัพดาดาและครอบครัว
อย่างไรก็ตามดวงวิญญาณที่หยุดไปแล้วภายหลังมาต่อใหม่นั้นไม่ได้อยู่อย่างมีพลังอย่างสม่ำเสมอ
ดวงวิญญาณเช่นนั้นจะต้องเพียรพยายามกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ
บางครั้งพวกเขาจะเบาสบายและสดชื่นแจ่มใส และร่ายรำในความสุข
แต่ลูกจะไม่เห็นพวกเขาเป็นเช่นนั้นตลอดเวลา พวกเขาอาจจะอยู่ในรายชื่อของมหาระตี
แต่ผู้ที่มีซันสการ์เช่นนั้นจะอ่อนแออย่างแน่นอน อะไรคือสาเหตุของสิ่งนี้?
ซันสการ์เหล่านี้ของการขาดและต่อใหม่ทำให้เขาอ่อนแอภายใน ภายนอกจะไม่มีอะไร?
พวกเขาดูเหมือนจะดีมาก ดังนั้นอย่าได้สร้างซันสการ์เหล่านี้
อย่าคิดว่าถึงแม้ว่ามายาจะมา ลูกก็ยังเคลื่อนไปได้ดี เพราะขณะที่กำลังเคลื่อนไป
บางครั้งก็ขาด แล้วก็มาต่ออีกครั้ง อะไรคือสิ่งนั้น? อยู่อย่างสมบูรณ์เสมอ
อยู่อย่างเป็นอิสระจากอุปสรรค สดชื่นแจ่มใสเสมอ
อยู่ภายใต้ร่มฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครองอย่างสม่ำเสมอ
มีความแตกต่างระหว่างชีวิตนั้นกับชีวิตนี้ใช่ไหม?
เหตุนี้เองบาบาจึงพูดว่ากระดาษของดวงชะตาของบางคนนั้นสะอาดหมดจดอย่างมาก
บางคนมีรอยเปื้อนบนกระดาษนั้น แม้ว่ารอยเปื้อนนั้นจะถูกลบไปแล้ว
แต่รอยเปื้อนนั้นก็ยังคงมองเห็นได้ใช่ไหม? อย่าให้มีรอยเปื้อนใดๆ
ลูกชอบอย่างไหนมากกว่ากัน – กระดาษที่สะอาด หรือกระดาษที่มีรอยเปื้อนแล้วถูกลบออกไป?
พื้นฐานการทำให้กระดาษสะอาดเสมอนั้นง่ายมาก
อย่ากลัวด้วยการคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ยากมาก ไม่เลย
เป็นสิ่งที่ง่ายมากเพราะเวลาใกล้เข้ามาแล้ว เวลาได้รับพรพิเศษเช่นกัน
ผู้ที่มาทีหลังดังนั้นตามเวลาแล้วเขาก็จะได้รับของขวัญของลิฟต์พิเศษ
และขณะนี้บทบาทของรูปที่ละเอียดอ่อนก็เป็นบทของการได้รับพร
ดังนั้นลูกได้รับความช่วยเหลือของเวลาด้วย
ลูกได้รับความช่วยเหลือของบทบาทที่ละเอียดอ่อนและของความร่วมมือที่ละเอียดอ่อนด้วยเช่นกัน
นี่เป็นเวลาที่มีความรวดเร็วมาก ลูกได้รับความช่วยเหลือนี้
ก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลาพอสมควรสำหรับสิ่งประดิษฐ์ที่จะผลิตออกมา
เวลานี้ทุกสิ่งสำเร็จรูป ลูกมาในช่วงเวลาที่ทุกสิ่งสำเร็จรูป
พรนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ผู้ที่มาก่อนได้สกัดเนยออกมา
และลูกมาในช่วงเวลาของการรับประทานเนย ดังนั้นลูกจึงได้รับพรใช่ไหม?
เพียงแค่ให้ความใส่ใจอีกเล็กน้อย มิฉะนั้นแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ลูกมีความช่วยเหลือทุกประเภท
ดวงวิญญาณในตอนเริ่มต้นไม่ได้รับการหล่อเลี้ยงมากมายเหมือนกับตอนที่ลูกได้รับในขณะนี้จากดวงวิญญาณมหาระตีที่เป็นเครื่องมือ
พวกเขาเพียรพยายามอย่างมากกับลูกแต่ละคนและให้เวลากับลูก
ในตอนแรกก็ได้รับการหล่อเลี้ยงทั่วไป
อย่างไรก็ตามลูกได้รับการหล่อเลี้ยงอย่างเป็นผู้ที่เป็นที่รักพิเศษที่จากหายไปนานและขณะนี้ได้กลับมาพานพบ
ลูกคือผู้ที่จะให้การตอบแทนของการหล่อเลี้ยงใช่ไหม? ไม่ใช่สิ่งที่ยาก
เพียงแค่ใส่ใจที่จะใช้จุดทุกจุดให้เป็นพลัง ลูกเข้าใจไหม? อัจชะ
ถึงดวงวิญญาณผู้ที่เป็นมหาวีระอย่างสม่ำเสมอและอยู่ภายใต้ฉัตรแห่งการปกป้องคุ้มครอง
ถึงผู้ที่ใช้พลังแห่งความรู้ตามเวลาอย่างสม่ำเสมอ ถึงผู้ที่นำสภาพที่สม่ำเสมอ
มั่นคง ไม่สั่นคลอนมาใช้ ถึงผู้ที่มีประสบการณ์ว่าตนเองเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจ
ถึงลูกผู้ที่สูงส่งที่เอาชนะมายาอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความรัก ระลึกถึง และนมัสเต
จากบัพดาดา
บัพดาดาพบดาดี้:
เพชรพลอยอันเป็นที่รักพิเศษไม่เพียงแต่จะได้รับรายได้หลายล้านในทุกย่างก้าวเท่านั้น
แต่ผู้อื่นยังได้รับรายได้ด้วยเช่นกัน
เพชรพลอยที่รักเป็นพิเศษยังคงก้าวหน้าต่อไปในทุกย่างก้าวอย่างต่อเนื่อง
ลูกได้รับกุญแจอันเป็นนิรันดร์ นี่เป็นกุญแจอัตโนมัติ
การเป็นเครื่องมือหมายถึงการใช้กุญแจอัตโนมัติ
เพชรพลอยที่รักเป็นพิเศษต้องก้าวหน้าต่อไปด้วยกุญแจที่เป็นนิรันดร์
งานรับใช้หลอมรวมอยู่ในทุกความคิดของลูกทุกคน
คนคนหนึ่งกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างความจริงจังและความกระตือรือร้นให้กับดวงวิญญาณอื่นๆ
พวกเขาไม่ต้องใช้ความพยายามเลย แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นเครื่องมือ
คลื่นนั้นก็กระจายออกไปราวกับว่าบางคนได้รับการแต่งแต้มสีสันเพียงแค่เห็นกันและกัน
ดังนั้นคลื่นของความจริงจังและความกระตือรือร้นนี้จึงเพิ่มความจริงจังและความกระตือรือร้นของผู้อื่นโดยอัตโนมัติโดยทั่วไปเมื่อมีคนแสดงการร่ายรำได้ดี
เท้าของคนอื่นก็เริ่มร่ายรำและคลื่นนั้นก็กระจายไปทุกหนทุกแห่ง
มือและเท้าของลูกก็ร่ายรำแม้จะขัดกับความปรารถนาของลูกก็ตาม อัจชะ
กิจกรรมทั้งหมดของมธุบันดำเนินไปได้ดี มธุบันได้รับการตกแต่งด้วยชาวมธุบัน
บัพดาดาไร้กังวลเสมอเมื่อเขาเห็นลูกที่เป็นเครื่องมือเพราะลูกฉลาดมาก
ลูกไม่ยิ่งหย่อนเลย พ่อมีศรัทธาในลูกอย่างเต็มที่และลูกแม้กระทั่งล้ำหน้าพ่อ
เครื่องมือคือผู้ที่ทำให้พ่อไร้กังวล ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามไม่ต้องมีความกังวลใดๆ
แต่ลูกจะให้ข่าวดีกับพ่อ จะไม่มีลูกคนอื่น ๆ ที่ใดที่แต่ละคนอยู่ข้างหน้าคนอื่นๆ
ที่ซึ่งลูกแต่ละคนมีความพิเศษ ไม่มีใครสามารถมีลูกเช่นนั้นได้มากมาย
จะมีบางคนที่ต่อสู้รบราและคนอื่นที่ศึกษาเล่าเรียน ที่นี่แต่ละคนเป็นเพชรพลอยพิเศษ
แต่ละคนมีคุณสมบัติพิเศษ
พร:
ขอให้ลูกเป็นผู้ขจัดความทุกข์และประทานความสุขด้วยการบรรลุผลทั้งหมดโดยการมีสายตาและทัศนคติของความบริสุทธิ์
ยาของวิทยาศาสตร์มีพลังชั่วคราวที่จะหยุดความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน
แต่พลังของความบริสุทธิ์นั่นคือพลังแห่งความเงียบมีพลังแห่งพร
สายตาและทัศนคติของความบริสุทธิ์ที่มีพลังนี้ทำให้ลูกได้มาซึ่งการบรรลุผลตลอดเวลา
เหตุนี้เองพวกเขาจึงไปอยู่เบื้องหน้าภาพลักษณ์ที่ไม่มีชีวิตของลูกและร้องเรียกหาลูกและขอความเมตตา
สิ่งนี้เป็นเพราะลูกได้กลายเป็นนายผู้ขจัดความทุกข์และประทานความสุขและมีความเห็นอกเห็นใจในรูปที่มีชีวิต
ซึ่งลูกได้รับการกราบไหว้บูชาในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธา
คติพจน์:
ตามความใกล้ของเวลา
ตาปาเซียที่แท้จริงและความพยายามทางจิตคือการวางเฉยที่ไม่มีขีดจำกัด
ประกาศพิเศษ:
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่สามของเดือนที่ทุกคนจะมารวมตัวกันในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา
18.30 น. - 19.30 น. เพื่อมีโยคะสากลพิจารณาตนเองว่าเป็นดวงวิญญาณที่จุติอวตารลงมา
- เข้ามาในร่างกายของลูกด้วยสำนึกรู้นี้และละวางจากร่างกาย
นั่งอยู่ในสภาพของรูปที่เป็นเมล็ดของลูกและทำงานรับใช้ของการกระจายพลังของพระเจ้าไปในบรรยากาศ