26.12.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน
กลายเป็นผู้ช่วยของพ่อในการเปลี่ยนภูเขาของยุคเหล็กให้กลายเป็นภูเขาของยุคทอง
เพียรพยายามที่จะสำรองที่นั่งชั้นหนึ่งในโลกใหม่
คำถาม:
หน้าที่ของพ่อคืออะไร? เพื่อที่จะเติมเต็มหน้าที่ใดที่พ่อต้องมาในยุคบรรจบพบกัน?
คำตอบ:
หน้าที่ของพ่อคือการทำให้ลูกที่ป่วยและไม่มีความสุขกลับมามีความสุขและสบายดีอีกครั้ง
ท่านต้องนำพวกเขาออกจากกรงขังของมายา และให้ความสุขมากมายแก่ลูกๆ
พ่อทำหน้าที่นี้ให้สมบูรณ์ในยุคบรรจบพบกัน บาบาพูดว่า:
พ่อมาเพื่อรักษาความเจ็บป่วยให้กับลูกทุกคน พ่อมาเพื่อให้ความเมตตาต่อทุกคน
เวลานี้ลูกทุกคนควรเพียรพยายามและสร้างโชคที่สูงส่งให้กับตนเองสำหรับ 21 ชาติเกิด
เพลง:
ไม่มีใครพิเศษเท่ากับพระเจ้าที่ไร้เดียงสา
โอมชานติ
เจ้าผู้ไร้เดียงสา พระเจ้าชีวาพูดผ่านปากดอกบัวของบราห์มา พ่อพูดว่า
นี่คือต้นไม้โลกมนุษย์ของศาสนาที่หลากหลาย
พ่ออธิบายความลับของต้นกัลปะนี้ให้กับลูกๆ นั่นคือพ่อบอกลูกถึงความลับของตอนต้น
ตอนกลาง และตอนจบของโลก ชีพบาบาคือผู้ที่ได้รับการยกย่องในเพลง
การเกิดของชีพบาบาเกิดขึ้นที่นี่ พ่อพูดว่า: พ่อมาในบารัต
เพราะมีการใส่ชื่อของกฤษณะไว้ในกีตะ ผู้คนจึงไม่รู้ว่าบาบามาเมื่อไร
ท่านไม่มาในยุคทองแดง พ่ออธิบาย: ลูกๆ พ่อมาที่นี่เมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว
และให้ความรู้นี้แก่ลูก ทุกคนสามารถเข้าใจได้จากภาพต้นไม้นี้
ดูที่ต้นไม้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
แน่นอนว่าเคยเป็นอาณาจักของเหล่าเทพในยุคทองและต่อมามีอาณาจักรของรามและสีดาในยุคเงิน
บาบาบอกลูกถึงความลับของตอนต้น ตอนกลาง และตอนจบ ลูกๆ ถามว่า:
เราติดกับดักในมายาเมื่อใด? บาบาพูดว่า: ในยุคทองแดง ต่อมาศาสนาต่างๆ
ก็เริ่มเข้ามาตามลำดับกันไป
โดยการคำนวณเวลาลูกสามารถเข้าใจได้ว่าลูกจะมาอีกครั้งในโลกนี้เมื่อใดชีพบาบาพูดว่า:
พ่อมาหลังจาก 5,000ปี
พ่อต้องมาในยุคบรรจบพบกันเพื่อทำหน้าที่ของพ่อให้สำเร็จเสร็จสมบูรณ์
มนุษย์ทุกคนในโลกโดยทั่วไปและผู้คนในบารัตโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีความสุขในตอนนี้
ตามละครแล้วพ่อทำให้บารัตมีความสุข
หน้าที่ของพ่อคือจัดหายาให้กับลูกของพ่อที่เจ็บป่วย นี่คือความเจ็บป่วยที่รุนแรงมาก
กิเลสทั้งห้าเหล่านี้เป็นต้นเหตุของความเจ็บป่วยทั้งหมด ลูกๆ
ถามว่าความเจ็บป่วยเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด ความเจ็บป่วยเหล่านั้นเริ่มต้นในยุคทองแดง
ลูกต้องอธิบายเกี่ยวกับราวัน ไม่มีใครสามารถมองเห็นราวัน
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ด้วยสติปัญญา ดวงวิญญาณมีจิตใจและสติปัญญาอยู่ภายใน
ลูกดวงวิญญาณเข้าใจว่านั่นคือพ่อของพวกเราผู้เป็นดวงวิญญาณสูงสุด
เป็นดวงวิญญาณที่มีประสบการณ์ของความสุขและความทุกข์
และเป็นดวงวิญญาณที่ได้รับอิทธิพลจากสิ่งต่างๆ
ดวงวิญญาณประสบกับความทุกข์เมื่ออยู่ในร่างกายของพวกเขา ดวงวิญญาณไม่ได้พูดว่า “อย่าทำให้ฉัน
ดวงวิญญาณสูงสุด ไม่มีความสุข” พ่ออธิบายว่า: พ่อมีบทบาทต้องแสดงด้วยเช่นกัน
พ่อเล่นบทบาทของพ่อวงจรแล้ววงจรเล่าในยุคบรรจบพบกัน ลูกๆ
ผู้ที่พ่อส่งไปยังดินแดนแห่งความสุขคือผู้ที่ไม่มีความสุขและเหตุนี้เองที่พ่อต้องมาตามละคร
อย่างไรก็ตามพ่อไม่ได้จุติในปลาหรือจระเข้ พวกเขาพูดว่า พาร์ชู-ราม (รามที่มีขวาน)
ได้ฆ่านักรบด้วยขวานของเขา ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องเล่าหรือเรื่องโกหก
เวลานี้พ่อพูดว่า จดจำพ่อ! ทั้งสองนี้คือจากัดอัมบาและจากัดปิตา
ผู้คนพูดถึงบ้านเกิดเมืองนอน ผู้คนชาวบารัตจดจำสิ่งนี้และพูดว่า ท่านคือแม่และพ่อ
ด้วยความเมตตาของพระเจ้า เราได้รับความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างแน่นนอน
อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความเพียรพยายามของแต่ละคน
เมื่อผู้คนไปดูภาพยนตร์เขาจองที่นั่งชั้นหนึ่ง พ่อพูดว่า:
ขึ้นอยู่กับลูกว่าจะจองที่นั่งของสุริยะวงศ์หรือที่นั่งจันทรวงศ์
ไม่ว่าลูกจะทำความเพียรพยายามอะไรลูกจะสามารถประกาศสิทธิ์ในสถานภาพตามนั้น
พ่อมาเพื่อรักษาความเจ็บป่วยทั้งหมดของลูก ราวันได้ทำให้ทุกคนไม่มีความสุขอย่างมาก
ไม่มีมนุษย์คนใดที่สามารถให้ปลดปล่อยหรือการหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์แก่มนุษย์ได้
เวลานี้คือตอนสุดท้ายของยุคเหล็ก เมื่อกูรูตาย พวกเขาต้องเกิดใหม่ที่นี่อีกครั้ง
ดังนั้นพวกเขาจะสามารถให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์กับใครได้อย่างไร?
กูรูที่มีจำนวนนับไม่ถ้วนทั้งหมดเหล่านั้นสามารถมารวมตัวกันและชำระโลกที่ไม่บริสุทธิ์ได้หรือไม่?
พวกเขาพูดเกี่ยวกับภูเขาโกวาดัน
เวลานี้ลูกผู้เป็นแม่กำลังเปลี่ยนภูเขายุคเหล็กให้เป็นภูเขายุคทอง
ผู้คนกราบไหว้บูชาภูเขาโกวาดันด้วยเช่นกัน นั่นคือการกราบไหว้บูชาวัตถุธาตุ
ซันยาสีจดจำบราห์ม นั่นคือการจดจำวัตถุธาตุ
พวกเขาเชื่อว่าวัตถุธาตุนั้นคือดวงวิญญาณสูงสุด พวกเขาเชื่อว่าบราห์มเป็นพระเจ้า
พ่อพูดว่า: นั่นคือจินตนาการของพวกเขาเอง
ดวงวิญญาณอาศัยอยู่ในรูปไข่วงรีในบราห์มันด์ ธาตุบราห์ม
มีการแสดงต้นไม้ที่ไม่มีตัวตนด้วยเช่นกัน ดวงวิญญาณทั้งหมดต้องอยู่ในส่วนของตนเอง
รากฐานของต้นไม้นี้คือสกุลของสุริยะวงศ์และจันทราวงศ์ของบารัต
หลังจากนั้นการขยายตัวจึงเกิดขึ้น
มีสี่ศาสนาหลักและลูกสามารถคำนวณได้อย่างถูกต้องแม่นยำว่าแต่ละศาสนามาเมื่อใด
ตัวอย่างเช่น กูรูนานักมาเมื่อ 500 ปีที่แล้ว มันไม่ใช่ว่าชาวซิกซ์เล่นบทบาท 84
ชาติเกิด พ่อพูดว่า: เพียงลูกบราห์มินผู้ที่รอบด้านเท่านั้นที่ใช้ 84 ชาติเกิด
บาบาได้อธิบายว่า ลูกเป็นผู้ที่มีบทบาทรอบด้าน ลูกกลายเป็นบราห์มิน เทพ นักรบ
พ่อค้า และศูทร ผู้ที่กลายเป็นเทพก่อนคือผู้ที่วนไปรอบวงจร พ่อพูดว่า:
ลูกได้ฟังพระเวทย์และคัมภีร์เหล่านั้นมาอย่างมากมาย ตอนนี้จงฟังสิ่งนี้
แล้วจึงตัดสินว่าคัมภีร์ถูกต้องหรือไม่ กูรูเหล่านั้นถูกต้องหรือไม่
หรือสิ่งที่พ่อบอกลูกถูกต้องหรือไม่ พ่อเรียกว่าสัจจะ
พ่อบอกสัจจะแก่ลูกซึ่งยุคแห่งสัจจะ,ยุคทองถูกสร้างขึ้นมา ตั้งแต่ยุคทองแดงเป็นต้นมา
ลูกได้รับฟังสิ่งที่เป็นเท็จมาโดยตลอด และดังนั้นโลกนี้จึงกลายเป็นนรก พ่อพูดว่า:
พ่อคือคนรับใช้ของลูก ลูกร้องเพลงในหนทางความเลื่อมใสศรัทธา: ฉันเป็นผู้รับใช้
ฉันเป็นผู้รับใช้ของท่าน เวลานี้พ่อมาเพื่อรับใช้ลูกๆ
พ่อได้รับการจดจำว่าเป็นผู้ที่ไม่มีตัวตน และผู้ที่ไม่มีความหลงทะนงตน พ่อพูดว่า
หน้าที่ของพ่อคือทำให้ลูกมีความสุขอย่างสม่ำเสมอ มีเพลงที่กล่าวว่า “พระเจ้าเปิดเผยเกมของการมาและการไปของท่าน”
ไม่มีเรื่องของการตีกลอง อย่างไรก็ตามผู้เดียวนั้นบอกลูกถึงข่าวทั้งหมดของตอนต้น
ตอนกลางและตอนจบ พ่อพูดว่า: ลูกๆ ลูกทั้งหมดคือนักแสดง
เวลานี้พ่อเป็นคารันคาราวันฮาร์ พ่อดำเนินการก่อตั้งโดยผ่านผู้นี้ (บราห์มา)
สิ่งซึ่งกล่าวไว้ในกีตะเป็นเรื่องไม่จริง
ทุกสิ่งเหล่านั้นกำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ในทางปฏิบัติ
พ่อกำลังสอนความรู้ที่ง่ายดายและโยคะที่ง่ายดายให้แก่ลูกๆ พ่อดลใจลูกให้มีโยคะ
พ่อถูกเรียกว่าผู้เดียวที่ดลใจให้มีโยคะ ผู้เดียวที่เติมเต็มอาภรณ์
ผู้เดียวที่รักษาความเจ็บป่วยทั้งหมด
บาบาอธิบายความหมายที่ถูกต้องของกีตะด้วยเช่นกัน พ่อสอนโยคะแก่ลูก
แต่พ่อก็สอนลูกถึงวิธีที่จะสอนโยคะให้แก่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน ลูกๆ
เรียนโยคะแล้วลูกก็สอนโยคะให้แก่ผู้อื่นด้วย พวกเขาพูดว่า:
ท่านคือผู้เดียวที่จุดแสงสว่างให้เราด้วยโยคะ ด้วยการฟังเพลงเช่นนี้ที่บ้าน
ความรู้ทั้งหมดนี้จะหมุนไปในสติปัญญาของลูก ด้วยการจดจำระลึกถึงพ่อ
ความซาบซึ้งในมรดกของลูกจะยิ่งสูงขึ้น
ปากของลูกจะไม่กลับมาหวานชื่นโดยเพียงแค่พูดว่า “ดวงวิญญาณสูงสุด” หรือ “พระเจ้า”
การพูดว่า “บาบา” ก็หมายถึงมรดกด้วยเช่นกัน ขณะนี้ลูกๆ กำลังฟังความรู้ของตอนต้น
ตอนกลาง และตอนจบ และจากนั้นลูกก็ถ่ายทอดให้ผู้อื่นฟัง
สิ่งนี้เรียกว่าการเป่าหอยสังข์ ลูกๆ ไม่ต้องถือหนังสือใดๆ ฯลฯ
ลูกเพียงแค่ต้องซึมซับสิ่งเหล่านี้ ลูกคือบราห์มินทางจิตที่แท้จริง ลูกของพ่อทางจิต
บารัตเปลี่ยนเป็นสวรรค์ด้วยกีตะที่แท้จริง
ผู้เขียนคัมภีร์เพียงแต่นั่งและแต่งเรื่องราว ลูกทั้งหมดคือปารวตี
พ่อกำลังเล่าเรื่องราวของความเป็นอมตะให้กับลูก ลูกทั้งหมดเป็นดรุพดี
ไม่มีใครถูกเปลื้องผ้าที่นั่น ผู้คนถามว่า:
ในกรณีนี้เด็กๆจะเกิดมาที่นั่นได้อย่างไร? บอกพวกเขาว่า:
เนื่องจากพวกเขาปราศจากกิเลสที่นั่น แล้วจะมีเรื่องของกิเลสได้อย่างไร?
คุณไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเด็กๆ จะเกิดขึ้นมาจากพลังโยคะได้อย่างไร
คุณก็โต้เถียงกันต่อไป! สิ่งเหล่านั้นเขียนไว้ในคัมภีร์
นั่นคือโลกที่ปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง ในขณะที่นี่คือโลกที่มีกิเลส
พ่อรู้ว่าตามละครแล้ว มายาจะทำให้ลูกไม่มีความสุขอีกครั้ง
วงจรแล้ววงจรเล่าพ่อมาเพื่อทำหน้าที่ของพ่อ บาบารู้ว่าทุกคนจากวงจรก่อนหน้านี้
ผู้ที่ได้จากหายไปเป็นเวลานานจะกลับมาและประกาศสิทธิ์ในมรดกของพวกเขาอีกครั้ง
พวกเขาแสดงให้เห็นสัญญาณของสิ่งนี้ นี่คือสงครามมหาภารตะเดียวกัน
ลูกต้องเพียรพยายามที่จะเปลี่ยนเป็นเทพซึ่งหมายถึงการเป็นนายของสวรรค์อีกครั้ง
ไม่มีเรื่องของสงครามทางโลกในสิ่งนี้ ไม่เคยมีการต่อสู้รบราใดๆ
ระหว่างปีศาจร้ายกับเทพ ที่นั่นไม่มีมายาที่จะทำให้ลูกต้องต่อสู้รบรา
เป็นเวลาครึ่งวงจรไม่มีใครต่อสู้รบรา ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีความไม่สงบ
หรือความทุกข์ใดๆ มีความสุขที่สม่ำเสมอที่นั่น มีเพียงฤดูใบไม้ผลิตลอดเวลาที่นั่น
ไม่มีโรงพยาบาลที่นั่น แต่มีโรงเรียนสำหรับการศึกษา
ลูกแต่ละคนกำลังประกาศสิทธิ์ในมรดกที่นี่ เมื่อผู้คนได้รับการศึกษา
พวกเขาสามารถยืนด้วยขาของตนเองได้ไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน
ผู้เป็นพ่อถามลูกสาวของเขาว่าเธอกำลังรับประทานจากโชคของผู้ใด
เธอตอบว่าเธอกำลังรับประทานจากโชคของเธอเอง อย่างไรก็ตามนั่นเป็นโชคที่มีขีดจำกัด
ในขณะที่เวลานี้ลูกกำลังสร้างโชคที่ไร้ขีดจำกัดของลูก
เวลานี้ลูกกำลังสร้างโชคนี้ให้กับตนเองที่ลูกจะได้สัมผัสกับโชคแห่งอาณาจักรของลูกเป็นเวลา
21 ชาติเกิด นั่นคือมรดกของความสุขที่ไม่มีขีดจำกัดของลูก เวลานี้ลูกๆ
เข้าใจถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนมาก บารัตเคยมีความสุขมาก!
บารัตกลายเป็นเช่นไรในเวลานี้?
ผู้ที่มีประสบการณ์ในโชคของอาณาจักรของเขาเองในวงจรก่อนหน้านี้จะเป็นผู้ที่ประกาศสิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามลูกไม่ควรพูดว่าสิ่งใดก็ตามที่อยู่ในละครเป็นสิ่งที่ลูกจะได้รับอีกครั้ง
มิฉะนั้นลูกจะตายด้วยความหิวโหย! ลูกต้องเข้าใจความลับของละครอย่างถูกต้องแม่นยำ
บางคัมภีร์กล่าวว่า
ช่วงระยะเวลาของวงจรเป็นสิ่งหนึ่งและคัมภีร์อื่นๆก็พูดเป็นอย่างอื่น
มีความคิดเห็นแตกต่างกันมากมาย บางคนพูดว่าพวกเขามีความสุขอยู่เสมอ
เมื่อพวกเขาถูกถามว่าพวกเขาเคยล้มป่วยหรือไม่
พวกเขาก็ตอบว่าเป็นร่างกายสิ่งที่ประสบกับความเจ็บป่วย
ดวงวิญญาณมีภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบใดๆ อย่างไรก็ตามเมื่อลูกเจ็บปวด
เป็นดวงวิญญาณเป็นที่มีประสบการณ์ของความเจ็บปวด
สิ่งเหล่านี้จะต้องเข้าใจอย่างชัดเจนมาก
นี่คือโรงเรียนที่มีเพียงครูผู้เดียวที่สอนลูก ความรู้เดียวกันสำหรับลูกทุกคน
และลูกก็มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์เดียวกันด้วย
นั่นก็คือการเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นนารายณ์
ผู้ที่สอบตกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจันทราวงศ์ เมื่อเทพดำรงอยู่
ก็ไม่มีนักรบปรากฏอยู่ เมื่อมีนักรบอยู่ ก็ไม่มีพ่อค้า
รวมทั้งศูทรก็ไม่ได้คงอยู่ในเวลาเดียวกันกับพ่อค้า เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจ
นี่เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากสำหรับลูกผู้เป็นแม่ มีการสอบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
อย่าคิดว่า: ผู้ที่มาช้าจะศึกษาได้อย่างไร? คนใหม่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วมาก
สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้นในทางปฏิบัติ มายาหรือราวันไม่มีรูปใดเลย
ลูกสามารถพูดได้ว่าใครบางคนมีวิญญาณปีศาจร้ายของตัณหาราคะ
แต่ราวันไม่มีร่างกายหรือรูป อัจชะ หัวน้ำตาล (สาระที่หวานชื่น) ของทุกสิ่งคือ “มานมานะบาฟ”
บาบาพูดว่า: จดจำฉัน! และแล้วด้วยไฟโยคะนี้บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง
พ่อมาในฐานะผู้นำทางของลูก บาบาพูดว่า: ลูกๆ
พ่อมาและสอนลูกด้วยตนเองวงจรแล้ววงจรเล่า พ่อมาทำหน้าที่ของพ่อ พ่อเหนือโลกพูดว่า:
พ่อมาทำหน้าที่ของพ่อโดยได้รับการช่วยเหลือของลูกๆ
ลูกจะได้รับสถานภาพเมื่อลูกให้การช่วยเหลือ พ่อเป็นพ่อที่ยิ่งใหญ่มาก!
พ่อสร้างไฟบูชายันที่ใหญ่โต
ลูกบราห์มินทั้งหมดลูกที่เกิดจากปากของบราห์มาเป็นพี่น้องชายหญิงกัน
เมื่อลูกคงอยู่ในสำนึกของการเป็นพี่น้องชายหญิงแล้ว
ลูกจะสามารถเปลี่ยนแปลงสายตาของการเป็นสามีและภรรยาได้ พ่อพูดว่า:
อย่าประณามชื่อของสกุลบราห์มิน มีหลายวิธีที่ลูกสามารถอยู่อย่างบริสุทธิ์ได้
ผู้คนพูดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ด้วยกันและไม่จุดไฟ บาบาพูดว่า:
ตราบใดที่ลูกรักษาดาบของความรู้ไว้ระหว่างลูก ไฟนั้นจะไม่ถูกจุดขึ้นมา
อย่างไรก็ตามต่อเมื่อลูกทั้งสองคงอยู่ใน “มานมานะบาฟ”
เมื่อลูกทั้งสองเฝ้าแต่จดจำชีพบาบา และเมื่อลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นบราห์มิน
สิ่งนั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้
เป็นเพราะผู้คนไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้พวกเขาจึงสร้างความปั่นป่วน
และแล้วลูกต้องทนต่อคำประณาม ไม่มีใครจะประณามกฤษณะ ถ้ากฤษณะจะมาในตอนนี้
ผู้คนจากต่างประเทศ ฯลฯ จะรีบขึ้นเครื่องบินมาที่นี่ จะมีฝูงชนจำนวนมาก
ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบารัต? อัจชะ วันนี้เป็นวันออฟเฟ่อร์โบ๊ก
บ้านนี้คือบ้านพ่อของลูกๆ บ้านนั้นเป็นบ้านฝ่ายสามี
และการพบปะเกิดขึ้นในยุคบรรจบพบกัน บางคนคิดว่านี่เป็นเวทมนตร์
บาบาอธิบายว่านิมิตคืออะไร และผู้คนได้รับนิมิตในหนทางของความเลื่อมใสศรัทธาอย่างไร
ลูกต้องไม่ปล่อยให้สติปัญญาของลูกพัฒนาความสงสัยใดๆเกี่ยวกับสิ่งนี้
นี่คือประเพณีและระบบของลูก นี่คือคลังสมบัติของชีพบาบา
และดังนั้นลูกจึงควรออฟเฟ่อร์โบ้กให้แก่ท่านในการจดจำระลึกถึงท่าน
เป็นการดีที่จะอยู่ในโยคะ ลูกจะมีการจดจำระลึกถึงบาบา อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
รัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ
ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1. พิจารณาตนเองว่าเป็นลูกที่เกิดจากปากของบราห์มา
และกลายป็นบราห์มินที่แท้จริงและบริสุทธิ์ อย่าได้ประณามชื่อของสกุลบราห์มิน
2. เป็นผู้ที่ไม่มีตัวตนและไม่มีความหลงทะนงตนเหมือนพ่อ และปฏิบัติตามหน้าที่ของลูก
อยู่อย่างไม่ว่างเว้นในงานรับใช้ทางจิต
พร:
ขอให้ลูกสำรวจตนเป็นครั้งคราวในขณะที่อยู่ในสนามของงานรับใช้
เพื่อที่จะทดสอบด้วยพลังแห่งความเงียบจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะสำรวจตนและอยู่ในความสันโดษ
ลูกบางคนบอกว่าพวกเขาไม่มีเวลาที่จะสัมผัสกับช่วงเวลาของการสำรวจตรวจสอบตนเองหรืออยู่ในสันโดษเพราะสนามของงานรับใช้และสนามของคำพูดได้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
อย่างไรก็ตามสำหรับสิ่งนี้แทนที่จะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงในคราวเดียว
จงหาเวลาแม้กระทั่งเล็กน้อยเป็นครั้งคราวและสภาพของลูกก็จะกลับมามีพลัง
คติพจน์:
แทนที่จะรบราในชีวิตของบราห์มิน
จงเฉลิมฉลองด้วยความสุขและทุกสิ่งที่ยากจะกลายเป็นเรื่องง่าย