14.08.19 Morning
Thai Murli Om Shanti BapDada Madhuban
สาระ:
ลูกๆ
ที่แสนหวาน ยิ่งลูกจดจำพ่อมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีแสงสว่างในดวงวิญญาณมากขึ้นเท่านั้น
ดวงวิญญาณที่มีความรู้จะเริ่มเปล่งประกาย
คำถาม:
ลูกคนไหนที่มายาไม่สามารถก่อกวนได้แม้แต่เล็กน้อย?
คำตอบ:
ผู้ที่เป็นโยคีที่มั่นคง
ผู้ที่ทำให้อวัยวะทางร่างกายทั้งหมดของพวกเขาเยือกเย็นด้วยพลังโยคะ
ผู้ที่เพียรพยายามที่จะอยู่ในโยคะจะไม่มีวันถูกมายารบกวนแม้แต่น้อย
เมื่อลูกกลายเป็นโยคีที่มั่นคงลูกก็จะกลับมามีค่า
เพื่อที่จะกลับมามีค่าก่อนอื่นลูกต้องมีความบริสุทธิ์
โอมชานติ
พ่อนั่งที่นี่และอธิบายแก่ลูกๆ ที่สุดแสนหวาน เพราะความไม่รู้
ลูกดวงวิญญาณจึงกลับมาปัญญาทึบ เพชรนั้นมีประกายในตัวมันเอง
ในขณะที่หินไม่มีประกายเช่นนั้น เหตุนี้เองจึงมีคำกล่าวว่า
ลูกกลับมาปัญญาทึบเหมือนเช่นหิน
และแล้วเมื่อลูกตื่นขึ้นมาก็มีคำกล่าวว่าลูกเป็นเหมือนกับเพชรพลอยที่มีค่า
แสงสว่างของดวงวิญญาณกลับมามืดสลัวด้วยความไม่รู้ แสงนั้นไม่ได้มืดสนิท
เพียงแต่เรียกว่าสลัวลง ดวงวิญญาณทั้งหมดนั้นเหมือนกัน แต่ร่างกายต่างกัน
มีร่างกายหลายประเภทในขณะที่ดวงวิญญาณทั้งหมดเหมือนกัน
เวลานี้ลูกเข้าใจว่าลูกเป็นดวงวิญญาณ, ลูกของพ่อ
ลูกมีความรู้ทั้งหมดนี้แต่ความรู้นี้ก็ค่อยๆหายไปทีละน้อย
มันหายไปจนกระทั่งในที่สุดไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่เลย และดังนั้นจึงเรียกว่าความไม่รู้
ลูกก็ไม่รู้เช่นกัน เวลานี้ลูกกลับมามีความรู้ด้วยมหาสมุทรแห่งความรู้
ดวงวิญญาณนั้นละเอียดอ่อนมาก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยดวงตาคู่นี้
เมื่อพ่อมาและอธิบายแก่ลูกๆ และทำให้ลูกเต็มไปด้วยความรู้ ลูกก็จะกลับมาตื่นตัว
จะมีแสงสว่างในทุกบ้าน ขณะนี้มีความมืดมิดในทุกบ้านนั่นคือดวงวิญญาณได้กลับมาสลัวลง
เวลานี้พ่อพูดว่า จดจำพ่อและแสงสว่างนั้นก็จะมา แล้วลูกจะกลับมามีความรู้
พ่อไม่ได้ประณามใคร ท่านเพียงแต่อธิบายความลับของละคร ท่านได้พูดกับลูกๆว่า
ทุกคนกลายเป็นผู้ที่มีสติปัญญาที่โง่เขลา ใครที่กำลังพูดสิ่งนี้? พ่อ
ลูกๆสติปัญญาของลูกสวยงามมากด้วยการทำตามศรีมัท เวลานี้ลูกรู้สึกเช่นนั้นหรือไม่?
เวลานี้ลูกได้รับความรู้แล้ว ความรู้เรียกว่าการศึกษา
แสงของเราได้รับการจุดให้สว่างด้วยการศึกษาของพ่อ สิ่งนี้เรียกว่าดีพวาลีที่แท้จริง
ในวัยเด็กของเราผู้คนจะเทน้ำมันลงไปในตะเกียงดินเผาเล็กๆ และจุดตะเกียงเหล่านั้น
ประเพณีนั้นดำเนินต่อเนื่องมา อย่างไรก็ตามดีพวาลีไม่ได้มาจากสิ่งนั้น
เป็นดวงวิญญาณภายในที่กลับมามืดสลัว พ่อมาและปลุกแสงของดวงวิญญาณ
ท่านมาและให้ความรู้แก่ลูกๆ และสอนลูก ที่โรงเรียนครูสอนพวกเขา
นั่นคือความรู้ที่มีขีดจำกัด ในขณะที่นี่คือความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัด
ผู้รู้หรือผู้เคร่งศาสนาสอนลูกหรือไม่?
ลูกเคยได้ยินความรู้ของผู้สร้างหรือตอนเริ่มตอนกลางและตอนจบของสิ่งสร้างหรือไม่?
มีใครเคยมาและสอนสิ่งนี้แก่ลูกบ้างไหม?
ไปและดูว่ามีใครที่กำลังสอนความรู้นี้ที่อื่นไหม
เพียงพ่อผู้เดียวเท่านั้นที่สอนความรู้นี้แก่ลูก
และดังนั้นลูกควรศึกษาเล่าเรียนกับท่าน พ่อมาโดยมิได้คาดฝัน
ท่านไม่ได้ตีกลองว่าท่านกำลังจะมา ท่านมาและเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน
ท่านไม่สามารถส่งเสียงดังได้จนกว่าท่านได้รับอวัยวะ
ดวงวิญญาณเช่นกันก็ไม่สามารถส่งเสียงใดๆหากไม่มีอวัยวะ
ต่อเมื่อดวงวิญญาณเข้ามาในร่างกายแล้วเท่านั้นที่เขาจะส่งเสียงได้
เมื่อลูกอธิบายสิ่งนี้แก่ผู้คนก็ไม่มีใครเชื่อลูก เมื่อมีการให้ความรู้นี้แก่ลูกๆ
ลูกก็เข้าใจ ไม่มีใครนอกจากพ่อผู้เดียวสามารถให้ความรู้นี้แก่ลูก
ไม่มีใครต้องการที่จะมีนิมิตของการทำลายล้าง พ่อเองมาและให้สิ่งนี้ ตามละคร,
เวลานี้โลกเก่าจะถูกทำลาย โลกใหม่กำลังมีการก่อตั้งขึ้น
ผู้ที่ต้องการรับความรู้จากพ่อก็จะมาอยู่เรื่อยๆ จะมีการให้ความรู้แก่ผู้คนมากมาย!
ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนมาจากหลายหมู่บ้าน
เมล่าของดวงวิญญาณและดวงวิญญาณสูงสุดนี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
พ่อมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น พ่อมาและก่อตั้งโลกใหม่
ผู้ที่แสงของเขาได้ถูกจุดขึ้นมาแล้วก็ไปเพื่อจุดแสงของผู้อื่น
เวลานี้ลูกทั้งหมดต้องกลับบ้าน ลูกต้องใช้สติปัญญาของลูกสำหรับทุกสิ่ง
ในหนทางความเลื่อมใสศรัทธามีความมืดมิด
มีพ่อเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถให้ความรู้ได้ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็น
ท่านมาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น ความรู้นี้ไม่สามารถจะได้รับในโลกเก่า
ผู้คนคิดว่ายังคงเหลือเวลาอยู่อีก 40,000 ปี พวกเขาอยู่ในความมืดสนิทอย่างแท้จริง
พวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าจะมาหลังจาก 40,000 ปี
ท่านจะมาให้ความรู้และให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน
ดังนั้นนั่นหมายความว่ามีความไม่รู้ นั่นเรียกว่าความมืดของความไม่รู้
ผู้ที่ไม่รู้จำเป็นต้องมีความรู้ ความเลื่อมใสศรัทธาไม่สามารถเรียกว่าความรู้
ดวงวิญญาณไม่มีความรู้และเนื่องจากการมีสติปัญญาที่ทึบ
พวกเขาคิดว่าความเลื่อมใสศรัทธาคือความรู้ พวกเขาพูดว่า “เมื่อพระอาทิตย์แห่งความรู้มาก็จะมีแสงสว่าง”
แต่พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งใดเลย พวกเขาร้องเพลง: เมื่อพระอาทิตย์แห่งความรู้ขึ้น...พวกเขาเรียกใครว่าพระอาทิตย์แห่งความรู้?
ไม่มีใครรู้ว่าท่านมาเมื่อไร บัณฑิต ฯลฯ
ก็จะพูดว่าจะมีแสงสว่างเมื่อยุคเหล็กจบสิ้นลง พ่อมาและอธิบายสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด
ลูกเข้าใจสิ่งนั้นตามลำดับกันไป ครูสอนนักเรียน
แต่นักเรียนทั้งหมดก็ไม่ได้ศึกษาในระดับเดียวกัน
ทุกคนไม่สามารถมีคะแนนเหมือนกันได้ในการศึกษาเล่าเรียน
ลูกรู้ว่าพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดมาแล้ว การทำลายล้างโลกเก่าเพียงแค่อยู่เบื้องหน้า
ในเวลานี้เท่านั้นที่ลูกต้องรับความรู้นี้และศึกษาโยคะกับพ่อ
ด้วยการจดจำระลึกถึงเท่านั้นที่บาปของลูกจะได้รับการปลดเปลื้อง พ่อพูดว่า
พ่อมาและยืมร่างนี้มาใช้
นั่นคือพ่อรับการค้ำจุนของวัตถุธาตุเพียงในยุคบรรจบพบกันเท่านั้น
คำพูดเหล่านี้ก็ได้กล่าวไว้ในกีตะเช่นกัน บาบาไม่ได้กล่าวถึงชื่อของคัมภีร์อื่นๆ
มีเพียงกีตะเดียวเท่านั้น นี่คือการศึกษาราชาโยคะ พวกเขาได้ให้ชื่อคัมภีร์นั้นว่า“กีตะ”
ในตอนเริ่มต้นมีการเขียนไว้ว่า“พระเจ้าพูด” แต่ใครที่เรียกว่าพระเจ้า?
พระเจ้าไม่มีตัวตนและท่านไม่มีร่างกายของท่านเอง
นั่นคือโลกที่ไม่มีตัวตัวตนที่ดวงวิญญาณอาศัยอยู่
อาณาเขตที่ละเอียดอ่อนไม่สามารถเรียกว่าเป็นโลก นี่คือโลกวัตถุที่มีตัวตน
ในขณะที่โลกนั้นเป็นโลกของดวงวิญญาณ การละเล่นทั้งหมดมีการแสดงที่นี่
ดวงวิญญาณในโลกที่ไม่มีตัวตนนั้นเล็กมาก
และต่อมาพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อเล่นบทบาทของพวกเขา
ความคิดเหล่านี้ปลูกฝังอยู่ในสติปัญญาของลูกๆ เท่านั้น สิ่งนี้เรียกว่าความรู้
พระเวทย์และคัมภีร์คือความเลื่อมใสศรัทธา,ไม่ใช่ความรู้
ลูกไม่ได้พบกับซันยาสซีมากเท่ากับที่บาบาพบ
บาบาอยู่ในความเป็นมิตรของพวกเขาเป็นอย่างมาก ท่านยอมรับกูรูมากมาย
พวกเขาก็ถูกถามว่า เหตุใดท่านถึงสละละทิ้งและทิ้งบ้านและครอบครัวของท่าน?
พวกเขาก็จะพูดว่า สติปัญญากลับมาคดโกงด้วยกิเลส
และเหตุนี้เองเราจึงละทิ้งบ้านและครอบครัวของเรา อัจชะ ท่านไปและอาศัยอยู่ในป่า
ดังนั้นแล้วท่านจดจำบ้านและครอบครัวของท่านหรือไม่? พวกเขาตอบว่า ใช่
บาบาเห็นซันยาสซีผู้หนึ่งแม้กระทั่งกลับบ้านไป สิ่งนี้ถูกกล่าวถึงในคัมภีร์เช่นกัน
ผู้คนก็ไปสู่สภาพของการปลดเกษียณเมื่อพวกเขาแก่ชรา
เราไม่สามารถปลดเกษียณได้เมื่ออายุยังน้อย
มีชายหนุ่มที่เปลือยกายมากมายไปที่กุมภเมล่า
พวกเขากินยาเพื่อที่จะควบคุมอวัยวะทางร่างกาย
ลูกมีพลังโยคะที่ที่จะควบคุมอวัยวะทางร่างกาย ด้วยการควบคุมด้วยพลังโยคะ
ในที่สุดอวัยวะทางร่างนั้นก็จะเยือกเย็นลง ลูกบางคนพูดว่า บาบา,
มายารบกวนฉันอย่างมาก สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ที่นั่น
อวัยวะทางร่างกายจะถูกควบคุมเมื่อลูกกลับมามั่นคงในโยคะ
อวัยวะทางร่างกายจะกลับมาเยือกเย็นลง สิ่งนี้ต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมาก
ไม่ได้มีสิ่งใดสกปรกเช่นนี้ที่นั่น พ่อมาเพื่อพาลูกไปยังดินแดนแห่งสวรรค์เช่นนั้น
ท่านทำให้ลูกมีค่าในขณะที่มายาทำให้ลูกไม่มีค่า นั่นคือไม่มีค่าที่จะไปสวรรค์,ดินแดนแห่งการหลุดพ้นในชีวิต
พ่อนั่งที่นี่และทำให้ลูกมีค่า สำหรับสิ่งนั้นความบริสุทธิ์เป็นสิ่งแรก
ลูกแม้กระทั่งร้องเพลง: บาบา,พวกเราได้กลับมาไม่บริสุทธิ์!
โปรดมาและทำให้พวกเราบริสุทธิ์! บริสุทธิ์หมายถึงบริสุทธิ์ ได้มีการจดจำกันว่า
ทำไมเราควรละทิ้งน้ำทิพย์และดื่มยาพิษ?
สิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์ตั้งแต่ตอนต้นจนถึงตอนกลางและตอนจบนั้นเรียกว่ายาพิษ
นั่นก็ถูกกำหนดไว้ในละครเช่นกัน พ่อมาและพบกับลูกๆหลายครั้งแล้ว
จากการเป็นผู้ที่ตกต่ำสุดก็ทำให้ลูกกลายเป็นผู้ที่สูงส่งที่สุด
เมื่อดวงวิญญาณกลับมาบริสุทธิ์ ช่วงชีวิตของพวกเขานั้นก็ยืนยาว เขาได้รับทุกสิ่ง
สุขภาพที่ดี ความมั่งคั่งและความสุข ลูกสามารถเขียนสิ่งนี้บนกระดาน: สุขภาพที่ดี
ความมั่งคั่งและความสุขสำหรับ 21 ชั่วอายุคนในหนึ่งวินาที
ลูกได้รับมรดกนี้จากพ่อเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด ลูกบางคนกลัวแม้กระทั่งจะติดป้าย
มีการติดป้ายไว้นอกบ้านของทุกคน ลูกเป็นลูกของศัลยแพทย์ใช่ไหม? ลูกได้รับทุกสิ่ง
สุขภาพที่ดีความมั่งคั่งและความสุข และดังนั้นลูกต้องให้สิ่งนั้นแก่ผู้อื่น
ถ้าลูกสามารถให้สิ่งนั้นได้เหตุใดลูกจึงไม่เขียนบนป้าย?
แล้วผู้คนจะมาและเข้าใจว่าเมื่อ 5000
ปีก่อนวันนี้เคยมีสุขภาพที่ดีความมั่งคั่งและความบริสุทธิ์ในบารัตเช่นกัน
ลูกได้รับมรดกของลูกจากพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดในหนึ่งวินาที ผู้คนมากมายจะมาหาลูก
ลูกสามารถนั่งและอธิบายได้ว่า บารัตนี้เคยคือ “นกกระจอกทองคำ”
ที่เคยเป็นอาณาจักรของพวกเขา แล้วพวกเขาหายไปไหน? พวกเขาคือผู้ที่จะใช้ 84
ชาติเกิดก่อน เขาเป็นอันดับหนึ่งและแล้วเขาก็กลายเป็นอันดับสุดท้าย พ่อพูดว่า
วงจรของ 84 ชาติเกิดของลูกได้สิ้นสุดลงแล้วในเวลานี้และต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เพียงพ่อที่ไม่มีขีดจำกัดผู้เดียวเท่านั้นที่มาและทำให้ลูกได้มาซึ่งสถานภาพนี้
ท่านเพียงแค่พูดว่า จดจำพ่อแล้วลูกจะกลับมาบริสุทธิ์ ลูกต้องรู้ถึงวงจรของ 84
ชาติเกิดและประกาศสิทธิ์ในมรดกของลูกจากพ่อ แต่ลูกต้องศึกษาเล่าเรียนด้วยเช่นกัน
ลูกถูกเรียกว่าผู้ควงกงจักรแห่งการตระหนักรู้ในตนเอง
คนใหม่ๆที่มาที่นี่จะไม่สามารถเข้าใจได้ ลูกรู้ว่าดวงวิญญาณเรียกตนเองว่า ฉัน,ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์
ได้วนไปรอบวงจรของ 84 ชาติเกิดตั้งแต่ตอนเริ่มต้น
พ่อบอกลูกเช่นกันว่าลูกเคยกราบไหว้บูชาชีวาก่อนในตอนแรก
ลูกเคยเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาที่ไม่มีสิ่งใดเจือปน
ไม่มีใครนอกจากพ่อสามารถอธิบายสิ่งนี้แก่ลูก พ่อพูดว่า ลูกๆที่สุดแสนหวาน
ลูกคือคนแรกที่ใช้ชาติเกิดนี้
เมื่อบุคคลมีความมั่งคั่งพวกเขาพูดว่าเขาต้องเคยทำกรรมเช่นนั้นในชาติเกิดที่ผ่านมาของเขา
หากใครบางคนมีโรคภัยก็มีการกล่าวว่าต้องเป็นบัญชีกรรมของการกระทำในอดีตของเขา โอเค,
ลักษมีและนารายณ์ได้ทำกรรมประเภทใด? พ่อนั่งที่นี่และอธิบายสิ่งนั้น
พวกเขาได้จบสิ้น 84 ชาติเกิดของพวกเขาและพวกเขาจะต้องไปเกิดในชาติเกิดแรก
พระเจ้ามาในยุคบรรจบพบกันเท่านั้นเพื่อสอนราชาโยคะแก่ลูก
เวลานี้ลูกเข้าใจแล้วว่าบาบากำลังสอนราชาโยคะแก่ลูก อย่างไรก็ตามลูกก็ลืม
พ่อได้อธิบายแก่ลูกถึงปรัชญาของกรรมที่ลึกล้ำ กรรมที่เป็นกลางและกรรมที่เป็นบาปแล้ว
ในอาณาจักรของราวันการกระทำของลูกนั้นเป็นบาป ที่นั่น(ในยุคทอง)การกระทำของลูกเป็นกลาง
อาณาจักรของราวันไม่ได้คงอยู่ที่นั่น ไม่มีกิเลสอยู่ที่นั่น
ที่นั่นมีพลังโยคะเพราะเราได้กลายเป็นนายของโลกด้วยพลังของโยคะ
ดังนั้นแน่นอนว่าต้องมีโลกที่บริสุทธิ์เช่นกัน
โลกเก่านั้นไม่บริสุทธิ์และโลกใหม่นั้นบริสุทธิ์
นั่นคือโลกที่ปราศจากกิเลสและนี่คือโลกที่มีกิเลส
เพียงพ่อเท่านั้นที่มาและทำให้โรงค้าประเวณีเป็นวัดของชีวา ยุคทองคือวัดของชีวา
ชีพบาบามาและทำให้ลูกมีค่าต่อยุคทอง
ลูกสามารถจะไปยังวัดของลักษมีและนารายณ์และถามพวกเขาว่า
คุณรู้ไหมว่าพวกเขาได้มาซึ่งสถานภาพของพวกเขาได้อย่างไรและพวกเขากลายเป็นนายของโลกได้อย่างไร?
พ่อพูดว่า ลูกก็ไม่รู้สิ่งนั้นแต่พ่อรู้สิ่งนั้น เพียงลูกๆ
ของพ่อเท่านั้นที่สามารถบอกพวกเขาว่าลักษมีและนารายณ์ได้มาซึ่งสถานภาพของพวกเขาได้อย่างไร
พวกเขาคือผู้ที่ใช้ 84 ชาติเกิดเต็ม
และแล้วพ่อก็มาในยุคบรรจบพบกันที่เป็นสิริมงคลที่สุดและสอนราชาโยคะแก่ลูกแล้วให้อาณาจักรแก่ลูก
ก่อนหน้านั้นลูกเคยเป็นผู้ที่ไม่บริสุทธิ์อันดับหนึ่งแล้วลูกก็กลายเป็นผู้ที่บริสุทธิ์อันดับหนึ่ง
มีทั้งอาณาจักร ทุกสิ่งชัดเจนในภาพของลูกว่าใครสอนราชาโยคะแก่พวกเขา
สูงสุดเหนือสิ่งใดคือพ่อสูงสุด,ดวงวิญญาณสูงสุด เทพไม่สามารถสอนสิ่งนี้ได้
พระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่เรียกว่าเต็มไปด้วยความรู้และสอนสิ่งนี้ ท่านเรียกว่าพ่อ
ครูและสัตกูรูเช่นกัน
เพียงผู้ที่กราบไหว้บูชาชีวาตั้งแต่ตอนต้นเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้
ลูกสามารถถามคนที่สร้างวัดว่า
คุณได้สร้างวัดนี้แต่ลักษมีและนารายณ์ได้รับสถานภาพของพวกเขาอย่างไร?
อาณาจักรของพวกเขาคือเมื่อใด? และพวกเขาไปไหน? เวลานี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?
เมื่อลูกบอกเรื่องราวของ 84 ชาติเกิดแก่พวกเขา พวกเขาก็จะมีความสุขมาก
ให้มีภาพอยู่ในกระเป๋าของลูก ลูกสามารถอธิบายให้แก่ใครก็ตาม
ผู้ที่ได้เคยกราบไหว้บูชาชีวามาตั้งแต่ตอนต้นก็จะฟังสิ่งนี้ต่อไปและมีความสุข
และลูกก็จะเข้าใจว่าพวกเขาเป็นของสกุลของลูก
ในแต่ละวันบาบาก็สอนวิธีการที่ง่ายดายมากแก่ลูก
เวลานี้ลูกได้รับความเข้าใจแล้วว่าเพียงพ่อสูงสุด,ดวงวิญญาณสูงสุดเท่านั้นคือผู้ให้การหลุดพ้นจากบาปและความไม่บริสุทธิ์ของทุกคน
ลูกได้รับอำนาจในการปกครองยุคทองเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด
ด้วยการศึกษานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับมรดกถึง 21 ชาติเกิด มีหลายหัวข้อ
ลูกสามารถบอกพวกเขาถึงชีวประวัติของพ่อสูงสุด,ดวงวิญญาณสูงสุดด้วยหัวข้อที่ว่า
โรงค้าประเวณีคืออะไรและวัดของชีวาคืออะไร? เรื่องราวของ 84
ชาติเกิดของลักษมีและนารายณ์ก็เป็นหัวข้อเช่นกัน เคยมีความสงบในโลกอย่างไร
แล้วกลับมามีความไม่สงบได้อย่างไร
และเวลานี้กำลังมีการก่อตั้งความสงบขึ้นมาอีกครั้งอย่างไร ก็เป็นหัวข้อด้วยเช่นกัน
อัจชะ
ถึงลูกๆ ที่สุดแสนหวาน ผู้เป็นที่รักยิ่ง ที่จากหายไปนาน เวลานี้ได้พบพานอีกครั้ง
ด้วยความรัก ระลึกถึง และสวัสดีตอนเช้า จากแม่ พ่อ บัพดาดา
พ่อทางจิตพูดนมัสเตกับลูกๆ ทางจิต
สาระสำหรับการสร้างสมเพื่อการเป็นตัวของความรู้ คุณธรรม และการจดจำระลึกถึง:
1.
เพื่อที่จะกลับมาสูงส่ง ทำให้ตนเอง,ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยพลังของการจดจำระลึกถึง
อย่าได้กระทำกรรมที่เป็นบาปใดด้วยอวัยวะใดๆ ทางร่างกาย
2.กลับมามีความรู้และทำงานรับใช้ของการปลุกดวงวิญญาณให้ตื่น
เทน้ำมันของความรู้และโยคะลงไปในตะเกียงของดวงวิญญาณ
ทำความสะอาดสติปัญญาของลูกโดยการทำตามศรีมัท
พร:
ขอให้ลูกเป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจและสร้างสภาพของ "มานมานะบาฟ"
ด้วยสำนึกรู้ของการเป็นนาย
ให้สำนึกรู้นี้ปรากฏออกมาอยู่เสมอ: ฉัน, ดวงวิญญาณ, ฉันเป็นคาราวันฮาร์, เป็นนาย,
ดวงวิญญาณพิเศษ, นายผู้ทรงพลังอำนาจ โดยการมีสำนึกรู้ของการเป็นนาย, จิตใจ
สติปัญญาและซันสการ์ของลูกจะถูกควบคุม “ฉันแยกออกจากกันและเป็นนาย”
ด้วยสำนึกรู้นี้ลูกจะสร้างสภาพของ "มานมานะบาฟ" ได้อย่างง่ายดาย
การฝึกฝนของการละวางนี้จะทำให้ลูกอยู่เหนือบ่วงกรรม
คติพจน์:
การอดทนต่อการประณามและการรบกวนและการปรับตัวเข้ากับสิ่งเหล่านี้หมายถึงการกำหนดอาณาจักรของลูก