06.01.19 Avyakt Bapdada Thai Murli
08.04.84 Om Shanti Madhuban
ด้วยการได้มาซึ่งสิทธิ์ของยุคบรรจบกันลูกจะกลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในอาณาจักรของโลกนี้
วันนี้บัพดาดาได้เห็นราชสำนักที่สูงส่งของดวงวิญญาณที่สูงส่งซึ่งประกาศสิทธิ์ในอำนาจในการปกครองตนเอง
ลูกเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งผู้ที่มีสิทธิ์ในราชสำนักของอาณาจักรของโลก
และราชสำนักของอำนาจในการปกครองตนเอง
เพียงผู้ที่มีสิทธิ์ต่ออำนาจในการปกครองตนเองเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในอาณาจักรของโลก
ลูกมีความซาบซึ้งถึงสองเท่าหรือไม่
การเป็นของพ่อหมายถึงการประกาศสิทธิ์นับครั้งไม่ถ้วน
ลูกรู้ไหมว่าลูกประกาศสิทธิ์กี่ประเภท จงระลึกถึงลูกปะคำของสิทธิ์ของลูก
สิทธิ์แรกคือการที่ลูกได้กลายเป็นลูกของพระเจ้า
นั่นคือลูกแต่ละคนได้ประกาศสิทธิ์ที่จะกลายเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งที่สุดที่มีค่าควรแก่การได้รับความเคารพและการกราบไหว้บูชา
ลูกไม่สามารถที่จะประกาศสิทธิ์เป็นดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชาได้
โดยที่ไม่ต้องกลายเป็นลูกของพ่อ
ดังนั้นสิทธิ์แรกคือลูกได้กลายเป็นดวงวิญญาณที่มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา
สิทธิ์ที่สองคือลูกได้กลายเป็นนายของสมบัติที่มีค่าของความรู้
นั่นคือลูกได้ประกาศสิทธิ์ทั้งหมด สิทธิ์ที่สามคือลูกได้ประกาศสิทธิ์ในพลังทั้งหมด
สิทธิ์ที่สี่คือลูกได้กลายเป็นผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเองที่เอาชนะอวัยวะต่างๆของร่างกายทั้งหมดของลูก
ด้วยสิทธิ์ทั้งหมดเหล่านี้ลูกได้กลายเป็นผู้ที่มีชัยชนะต่อมายาและจึงเป็นผู้มีชัยชนะต่อโลก
ผู้ที่มีสิทธิ์ในอาณาจักรของโลก
ดังนั้นโดยการรักษาสิทธิ์เหล่านี้ไว้ในสำนึกรู้ของลูกอย่างสม่ำเสมอ
ลูกจะกลายเป็นดวงวิญญาณที่มีพลัง ลูกมีพลังในลักษณะนี้ใช่หรือไม่
ลูกสามารถประสบความสำเร็จในการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองตนเองและอาณาจักรของโลกได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซึมซับในสามสิ่ง
พื้นฐานของความสำเร็จในงานที่สูงส่งใดๆ คือ การสละสิทธิ์ ทาปาเซีย และงานรับใช้
บนพื้นฐานของสามสิ่งนี้จะไม่มีคำถามว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่
ความสำเร็จมีการรับประกันไว้แล้วในหนึ่งวินาทีเมื่อมีการซึมซับทั้งสามสิ่งนี้ –
สิ่งนี้สำเร็จแล้ว การสละละทิ้งอะไร?
การละทิ้งเพียงสิ่งเดียวที่ง่ายดายและเป็นธรรมชาติที่ทำให้ลูกสามารถละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างได้
การสละละทิ้งเดียวนั้นคือ การสละละทิ้งจิตสำนึกของร่างกาย
ซึ่งทำให้ลูกละทิ้งจิตสำนึกของ “ฉัน” ที่มีขีดจำกัดใดๆได้อย่างง่ายดาย จิตสำนึกของ
“ฉัน” ที่มีขีดจำกัดนี้หยุดลูกจากการทำทาปาเซียและงานรับใช้ ที่ใดมีจิตสำนึกของ “ฉัน”
ที่มีขีดจำกัด ที่นั่นไม่สามารถละทิ้งทาปาเซียหรืองานรับใช้ได้
จำเป็นต้องมีการละทิ้งสิ่งหนึ่งและนั่นคือจิตสำนึกของ “ฉัน” และ “ของฉัน”
ที่มีขีดจำกัด แล้วจะมีสิ่งใดหลงเหลืออยู่เมื่อ “ฉัน” และ “ของฉัน” สิ้นสุดลง?
นั่นคือสิ่งที่ไม่มีขีดจำกัด ฉันเป็นดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์
และของฉันคือพ่อผู้เดียวและไม่มีใครอื่น ดังนั้นเมื่อลูกมีพ่อที่ไม่มีขีดจำกัด
ผู้ทรงพลังอำนาจอยู่กับลูก ความสำเร็จได้รับประกันไว้แล้วสำหรับลูก
ด้วยการสละละทิ้งนี้ ทาปาเซียของลูกจะประสบความสำเร็จได้โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน
ทาปาเซียอะไร? ฉันเป็นของผู้เดียว ฉันทำตามหนทางที่สูงส่งของผู้เดียวท่านั้น
ด้วยสิ่งนี้เท่านั้นที่สภาพของลูกจะกลับมาสม่ำเสมอและมั่นคง
การมีสำนึกรู้ในพระเจ้าผู้เดียวคือทาปาเซีย
สภาพที่สม่ำเสมอและมั่นคงคือที่นั่งที่สูงส่งของลูก
สภาพของการเป็นเหมือนดอกบัวเป็นที่นั่งทาปาเซียของลูก ด้วยการสละละทิ้ง
ทาปาเซียของลูกจะสำเร็จได้โดยอัตโนมัติ
เมื่อลูกกลายเป็นตัวของการสละละทิ้งและทาปาเซีย ลูกจะทำอะไร?
การละทิ้งจิตสำนึกของตนเองนั้นหมายความว่าจิตสำนึกของ “ฉัน” ได้สิ้นสุดลงแล้ว
ลูกกลายเป็นทาปาสวีที่หลุดหายไปในความรักของผู้เดียวและลูกจะไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ได้ทำงานรับใช้.
“ฉัน” และ “ของฉัน”ที่มีขีดจำกัดใดๆ จะไม่ปล่อยให้ลูกทำงานรับใช้ที่แท้จริง
ผู้ที่เป็นตัวของการสละละทิ้งและทาปาเซียเป็นผู้รับใช้ที่แท้จริง
เมื่อลูกมีจิตสำนึกของร่างกายแม้แต่เล็กน้อย “ฉันทำสิ่งนี้” “ฉันเป็นอย่างนี้”
ลูกจะกลายเป็นอะไรแทนที่จะเป็นผู้รับใช้? ลูกจะเป็นผู้รับใช้แต่เพียงในนามเท่านั้น
ลูกไม่ได้เป็นผู้รับใช้ที่แท้จริง
รากฐานของงานรับใช้ที่แท้จริงคือการสละละทิ้งและทาปาเซีย ผู้ที่เป็นผู้สละละทิ้ง
ทาปาสวี และผู้รับใช้เช่นนั้น เป็นตัวของความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ
ชัยชนะและความสำเร็จกลายเป็นพวงมาลัยรอบคอของพวกเขา
พวกเขากลายเป็นผู้ที่มีสิ่งนี้อันเป็นสิทธิ์โดยกำเนิด
ดังนั้นบัพดาดาจะให้คำสอนที่สูงส่งเหล่านี้แก่ลูกทุกคนในโลก จงกลายเป็นผู้สะละทิ้ง,
ทาปาสวี และผู้รับใช้จริง
โลกปัจจุบันเป็นโลกที่เต็มไปด้วยการกลัวความตาย (มีพายุ)
แม้ว่าจะมีความปั่นป่วนของวัตถุธาตุธรรมชาติ ลูกก็จะไม่สั่นคลอนใช่ไหม
หน้าที่ของวัตถุธาตุธรรมชาติที่ตาโมกุนีคือการสร้างความปั่นป่วน
และหน้าที่ของลูกดวงวิญญาณที่ไม่สั่นคลอนคือการเปลี่ยนแปลงวัตถุธาตุธรรมชาติ
ไม่มีอะไรใหม่! ถึงอย่างไรทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้น
ด้วยความปั่นป่วนนี้เท่านั้นที่ลูกจะกลับมาไม่สั่นคลอน
ดังนั้นลูกดวงวิญญาณที่สูงส่งที่อาศัยอยู่ในราชสำนักและมีอำนาจในการปกครองตนเองเข้าใจหรือไม่
นี่ก็เป็นราชสำนักใช่หรือไม่ “ราชาโยคี” หมายถึงผู้ที่เป็นราชาของตนเอง “ราชสำนักของราชาโยคี”
หมายถึงราชสำนักของผู้ที่มีอำนาจในการปกครองตนเอง
ลูกทุกคนกลายเป็นผู้นำทางการเมืองด้วยเช่นกันใช่หรือไม่?
พวกเขาเป็นผู้นำทางการเมืองของประเทศของพวกเขาและลูกเป็นผู้นำของตนเอง
ผู้นำหมายถึงผู้ที่ดำเนินการทุกอย่างตามหลักการที่ถูกต้อง
ดังนั้นลูกเป็นผู้นำของตนเองที่ทำตามหลักการของศาสนาและอาณาจักร
หลักการที่ถูกต้องและสูงส่งคือศรีมัท
การกำหนดที่สูงส่งคือหลักการทางศีลธรรมที่ถูกต้อง
ผู้ที่ทำตามหลักการทางศีลธรรมเหล่านี้เป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ
บัพดาดาแสดงความยินดีกับผู้นำของโลก เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็มีความพยายาม
แม้ว่าจะมีความหลากหลายในพวกเขา อย่างน้อยพวกเขาก็รักประเทศของพวกเขา
อย่างน้อยพวกเขาก็เพียรพยายามด้วยความคิดที่ว่าอาณาจักรของพวกเขาควรจะคงอยู่ตลอดไป
ความรักของพวกเขาที่จะทำให้บารัตสูงส่งเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเพียรพยายามโดยอัตโนมัติ
ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ทั้งอำนาจของอาณาจักรและอำนาจของศาสนาจะมารวมกัน
แล้วจะมีเสียงร้องแห่งชัยชนะของบารัตไปทั่วทั้งโลก บารัตจะเป็นประภาคาร
สายตาของทุกคนจะจ้องมองมาที่บารัต
ทุกคนจะได้สัมผัสว่าบารัตเป็นดินแดนแห่งแรงบันดาลใจ บารัตเป็นดินแดนที่ไม่สูญสลาย
เป็นดินแดนของการจุติอวตารของพ่อที่คงอยู่ตลอดไป
ด้วยเหตุนี้การสรรเสริญของบารัตจึงยิ่งใหญ่เสมอ อัจชะ
ลูกทุกคนได้มาถึงบ้านที่แสนหวานของลูกแล้ว
บัพดาดาขอแสดงความยินดีกับลูกทุกคนที่มาที่นี่ ยินดีต้อนรับ!
ยินดีต้อนรับเครื่องประดับบ้านของพ่อ อัจชะ
ถึงดวงดาวแห่งความสำเร็จทั้งหมดที่อยู่อย่างมั่นคงสม่ำเสมอบนที่นั่งของสภาพที่มั่นคงและสม่ำเสมอ
ถึงลูกทาปาสวี ดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในการจดจำระลึกถึงผู้เดียวสูงสุด
ถึงลูกที่ให้คุณประโยชน์ต่อโลกที่เฝ้าแต่ทำงานรับใช้
ผู้ที่มีความปรารถนาดีที่สูงส่งและมีความรู้สึกที่บริสุทธิ์ที่สูงส่ง รัก ระลึกถึง
และ นมัสเต จาก บัพดาดา
บัพดาดาพบหัวหน้าคณะรัฐมนตรีของคุชราต:
ยินดีต้อนรับสู่บ้านของพ่อและบ้านของลูก พ่อรู้ว่าลูกรักการทำงานรับใช้เป็นอย่างมาก
เพียงหนึ่งกำมือจากหลายๆล้านที่เป็นผู้รับใช้เช่นนั้น
และเหตุนี้เองลูกจึงได้รับผลในทันทีอย่างต่อเนื่องสำหรับการทำงานอย่างหนักที่ลูกทำในงานรับใช้ในรูปของความสุขภายในอย่างสม่ำเสมอ
ความพยายามนี้เป็นพื้นฐานของความสำเร็จ
หากผู้รับใช้ที่เป็นเครื่องมือทั้งหมดเพียรพยายามในสิ่งนี้อาณาจักรของบารัตจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
ลูกจะได้รับความสำเร็จอย่างแน่นอน สิ่งนี้รับประกันไว้แล้ว
เพราะผู้ที่กลายเป็นเครื่องมือจะได้รับผลในทันทีของงานรับใช้และได้รับผลในอนาคตด้วยเช่นกัน
ดังนั้นลูกจึงเป็นเครื่องมือสำหรับงานรับใช้
จงมีจิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือและเคลื่อนไปข้างหน้าในงานรับใช้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
ที่ใดมีจิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือและไม่มีจิตสำนึกของ “ฉัน”ใดๆ
ที่นั่นจะมีความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ
ความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือจะปลุกความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์โดยอัตโนมัติ
เหตุผลที่ไม่มีความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ในโลกทุกวันนี้คือ
แทนที่จะมีความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือ กลับมีจิตสำนึกของ “ฉัน”
หากพวกเขาพิจารณาว่าตนเองเป็นเครื่องมือพวกเขาก็จะเข้าใจพ่อคาราวันฮาร์
สวามีคาราวันฮาร์ (พระเจ้าที่กระทำและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นกระทำ)
จะสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทำในสิ่งที่สูงส่ง แทนที่จะเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
พวกเขากลับเป็นผู้ครองเรือนในอาณาจักร
มีภาระในการเป็นผู้ครองเรือนและความเบาสบายในการเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
ลูกไม่สามารถมีพลังในการตัดสินใจจนกว่าลูกจะกลายเป็นแสงที่เบาสบาย
หากลูกเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ ลูกก็มีความเบาสบาย
และพลังในการตัดสินใจของลูกก็สูงส่งด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจงเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์อยู่เสมอ จิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือมีผลมาก
แน่นอนลูกจะได้รับผลของสำนึกรู้นี้
ความรู้สึกของการเป็นเครื่องมือนี้จะให้ผลที่สูงส่งแก่ลูกต่อไปอยู่เสมอ
ดังนั้นจงเตือนมิตรร่วมทางทั้งหมดของลูกให้มีจิตสำนึกของการเป็นเครื่องมือและผู้ดูแลผลประโยชน์
หลักการเหล่านี้ของอาณาจักรจะกลายเป็นหลักการที่สูงส่งสำหรับทั้งโลก
ทั้งโลกจะคัดลอกหลักการของรัฐบาลของบารัต
อย่างไรก็ตามพื้นฐานของสิ่งนี้คือจิตสำนึกของการเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์
นั่นคือของการเป็นเครื่องมือ
บัพดาดาพูดกับกุมาร:
“กุมาร”
หมายถึงผู้ที่สะสมพลังทั้งหมดและสมบัติที่มีค่าทั้งหมดและทำงานรับใช้ของการทำให้ผู้อื่นมีพลัง
ลูกไม่ว่างเว้นอยู่สมอในการทำงานรับใช้นี้ใช่หรือไม่?
หากลูกอยู่อย่างไม่ว่างเว้นก็จะมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อลูกว่างแม้กระทั่งเล็กน้อยก็จะมีความคิดที่ไร้ประโยชน์
จงอยู่อย่างไม่ว่างเว้นเพื่อที่จะอยู่อย่างมีพลัง กำหนดตารางเวลาของลูกเอง
เช่นเดียวกับที่ลูกทำตารางเวลาสำหรับร่างกายของลูก
ในทำนองเดียวกันทำตารางเวลาสำหรับสติปัญญาของลูกด้วยเช่นกัน
ทำแผนเพื่อให้สติปัญญาของลูกไม่ว่างเว้น
จากการอยู่อย่างไม่ว่างเว้นลูกจะมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
ตามเวลาในปัจจุบันชีวิตกุมารที่สูงส่งคือโชคอย่างมาก
คิดอยู่เสมอว่าลูกเป็นดวงวิญญาณที่มีโชคอันสูงส่ง
จงรักษาสมดุลระหว่างการจดจำระลึกถึงและงานรับใช้อยู่เสมอ
ผู้ที่รักษาสมดุลนี้อย่างสม่ำเสมอจะได้รับพรอย่างต่อเนื่อง อัจชะ
ซึมซับอยู่ในความรักของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ
ความรักของพระเจ้าคือการแกว่งไกวในความปิติสุข
ขณะที่แกว่งไกวอยู่ในชิงช้าแห่งความสุขนี้
จงอยู่อย่างดูดซับอยู่ในความรักของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ
และจะไม่มีสถานการณ์ที่เป็นอันตรายหรือความปั่นป่วนของมายาใดสามารถมาอยู่เบื้องหน้าของลูกได้
ความรักของพระเจ้าไม่มีที่สิ้นสุดและไม่สั่นคลอนและมีอย่างมากมายที่ทุกคนสามารถได้มาซึ่งความรักนั้น
อย่างไรก็ตามวิธีที่จะได้มาซึ่งความรักของพระเจ้าคือการละวาง
มากเท่าที่ลูกกลับมาละวาง ลูกจะประกาศสิทธิ์ในความรักของพระเจ้าได้มากตามนั้น
ซึมซับอยู่ในความรักของพระเจ้าให้มากเช่นนั้นที่จะไม่มีสิ่งที่มีขีดจำกัดใดสามารถมีอิทธิพลต่อลูกหรือดึงดูดลูกเข้าไปหาสิ่งนั้นได้
จงอยู่อย่างหลุดหายไปในการบรรลุผลที่ไม่มีขีดจำกัดอย่างสม่ำเสมอซึ่งกลิ่นหอมทางจิตจะกระจายไปสู่บรรยากาศ
สิ่งชี้บอกของความรักคือ ลูกสังเวยทุกสิ่งเพื่อผู้ที่ลูกรัก
พ่อมีความรักอย่างมากสำหรับลูกๆ
ที่ท่านเขียนจดหมายทุกวันเพื่อเป็นการตอบสนองของความรัก
ท่านให้ความรักและการจดจำระลึกถึง และในฐานะมิตรร่วมทาง
ท่านเติมเต็มความรับผิดชอบของความรักอย่างสม่ำเสมอ
จงสังเวยความอ่อนแอทั้งหมดของลูกสำหรับความรักนี้ พ่อรักลูกๆ
และเหตุนี้เองที่พ่อพูดอยู่เสมอว่า ลูกๆ ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร
ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ลูกเป็นของพ่อ
ในทำนองเดียวกันลูกจึงอยู่อย่างซึมซับอยู่ในความรักและพูดด้วยหัวใจของลูกว่า
บาบาไม่ว่าท่านจะเป็นอะไร ท่านเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
อย่าได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรที่จอมปลอม ลูกไม่จำเป็นต้องจดจำผู้ที่ลูกรัก
เพราะลูกรักผู้นั้นโดยอัตโนมัติ
เพียงแค่ให้ความรักของลูกมีความจริงแท้และไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
ที่เป็นความรักที่เห็นแก่ผู้อื่นและมาจากหัวใจ เมื่อลูกพูดว่า “บาบาของฉัน
บาบาที่น่ารัก” ลูกก็ไม่สามารถลืมผู้เดียวที่ลูกรักได้
ลูกไม่สามารถได้รับความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวจากดวงวิญญาณใดนอกจากพ่อ
ดังนั้นอย่าจดจำท่านด้วยแรงจูงใจอื่นใด
แต่คงอยู่อย่างดูดซับอยู่ในความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวนี้
จงมีประสบการณ์ในความรักของพระเจ้า
เพราะจากประสบการณ์นี้ลูกจะกลายเป็นโยคีที่ง่ายดายและเฝ้าแต่โบยบิน
ความรักของพระเจ้าคือวิธีที่จะทำให้ลูกโบยบิน
ผู้ที่โบยบินไม่สามารถติดกับจากการดึงของแรงโน้มถ่วงใดๆ
ไม่ว่ารูปแบบของมายาจะน่าดึงดูดมากมายเพียงใด
แรงดึงดูดนั้นก็ไม่สามารถไปถึงผู้ที่อยู่ในสภาพที่โบยบินได้
เชือกแห่งความรักของพระเจ้าดึงลูกมาที่นี่ จากที่ที่ไกลแสนไกล
ความรักนี้ให้ความสุขเป็นอย่างมากที่ว่าถ้าหากลูกหลุดหายไปในความรักนี้แม้กระทั่งหนึ่งวินาที
ลูกจะลืมความทุกข์ทุกประเภทและเริ่มแกว่งไกวอยู่ในชิงช้าแห่งความสุขตลอดเวลา
เมื่อลูกได้รับสิ่งที่ลูกต้องการในชีวิตจากใครบางคน นั่นเป็นสิ่งชี้บอกของความรัก
พ่อมีความรักลูกๆเป็นอย่างมาก
ที่ท่านจะเติมเต็มทุกความปรารถนาของลูกเพื่อความสุขและความสงบในชีวิต
พ่อไม่เพียงแค่ให้ความสุขเท่านั้น
แต่ท่านทำให้ลูกเป็นนายแห่งสมบัติที่มีค่าของความสุขด้วย
ท่านยังให้ปากกาแก่ลูกที่จะวาดเส้นโชคที่สูงส่งของลูกด้วยเช่นกัน
ลูกสามารถสร้างโชคได้มากเท่าที่ลูกต้องการ นี่คือความรักของพระเจ้า ลำแสงของประกาย
ความซาบซึ้ง
และประสบการณ์ของลูกที่อยู่อย่างดูดซับและหลุดหายไปในความรักของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอมีพลังเป็นอย่างมาก
ที่ปัญหาใดๆ ไม่เพียงแต่ห่างไกลไปจากพวกเขาเท่านั้น
แต่ไม่สามารถแม้กระทั่งที่จะเงยหน้ามองไปที่พวกเขา
พวกเขาไม่สามารถมีความยากลำบากใดๆ
พ่อมีความรักเป็นอย่างมากสำหรับลูกๆ ที่ท่านหล่อเลี้ยงลูกตั้งแต่เวลาอมฤต
จุดเริ่มต้นของวันนั้นสูงส่งมาก พระเจ้าเองเรียกลูกเพื่อเฉลิมฉลองการพบปะ
มีการสนทนาจากใจถึงใจ และเติมพลังให้กับลูก
เป็นเพลงแห่งความรักของพ่อที่ปลุกลูกให้ตื่นขึ้นมา
ท่านเรียกลูกและปลุกลูกด้วยความรักเป็นอย่างมาก ลูกที่แสนหวาน ลูกที่น่ารัก จงมา!
รูปในทางปฏิบัติของการหล่อเลี้ยงแห่งความรักนี้คือชีวิตโยคีที่ง่ายดาย
โดยทั่วไปลูกมักจะทำสิ่งที่คนที่ลูกรักชอบ พ่อไม่ชอบเมื่อลูกรู้สึกขุ่นมัวไม่พอใจ
ดังนั้นอย่าพูดว่า ฉันจะทำอย่างไรได้ สถานการณ์ก็เป็นเช่นนั้น
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฉันมีอารมณ์ขุ่นมัว
แม้ว่าสถานการณ์จะสามารถทำให้ลูกมีอารมณ์ขุ่นมัว และมาอยู่เบื้องหน้าของลูก
ก็อย่าได้ปล่อยให้ตนเองเข้าไปสู่สภาพของการมีความขุ่นมัวไม่พอใจ
บัพดาดามีความรักต่อลูกเป็นอย่างมากที่ท่านรู้สึกว่าลูกแต่ละคนของท่านควรไปข้างหน้าของท่านเอง
ในโลกนี้ด้วยเช่นกัน ลูกจะทำให้ผู้ที่ลูกมีความรักมากมายก้าวไปข้างหน้าตัวลูก
นี่เป็นสิ่งชี้บอกของความรัก บัพดาดาพูดด้วยเช่นกันว่า
อย่าให้มีความอ่อนแอคงอยู่ในลูกของพ่อ ขอให้ทุกคนกลับมาเพียบพร้อม, สมบูรณ์พร้อม
และทัดเทียม ในตอนต้นของวัน ในเวลาอมฤต
เติมหัวใจของลูกให้เต็มเปี่ยมด้วยความรักของพระเจ้า
หากหัวใจของลูกเต็มไปด้วยความรักของพระเจ้า, พลังของพระเจ้า
และความรู้ของพระเจ้าแล้ว
ความรู้สึกของความผูกพันยึดมั่นและความรักของลูกจะไม่มีวันไปในทิศทางอื่นใด
ความรักของพระเจ้าจะได้รับในชาติเกิดเดียวนี้เท่านั้น เป็นเวลา 83
ชาติเกิดที่ลูกได้รับความรักจากดวงวิญญาณเทพและดวงวิญญาณธรรมดา
เพียงแค่ในเวลานี้เท่านั้นที่ลูกได้รับความรักของพระเจ้า
ความรักต่อดวงวิญญาณทำให้ลูกสูญเสียโชคของอาณาจักร
ในขณะที่ความรักของพระเจ้าทำให้ลูกได้รับโชคแห่งอาณาจักร
ดังนั้นจงอยู่อย่างหลุดหายไปในประสบการณ์แห่งความรักนี้
หากลูกมีความรักที่แท้จริงต่อพ่อ
สิ่งชี้บอกของความรักนั้นคือการกลับมาทัดเทียมและอยู่ในสภาพที่เหนือบ่วงกรรม
มีการกระทำอย่างเป็น “คาราวันฮาร์” (ผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจ)
ไม่ใช่ว่าอวัยวะต่างๆของร่างกายของลูกทำให้ลูกทำบางสิ่งบางอย่าง
แต่ลูกเป็นผู้ที่ทำให้อวัยวะต่างๆของร่างกายของลูกทำงาน
อย่ากระทำสิ่งใดภายใต้อิทธิพลของจิตใจ สติปัญญา หรือซันสการ์ของลูก
พร:
ขอให้ลูกเป็นดวงวิญญาณที่กล้าหาญที่ทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้
โดยการกลับมาเข้มแข็งจากอ่อนแอ
บนพื้นฐานของพร “เมื่อลูกมีความกล้าหาญ
พ่อก็จะให้ความช่วยเหลือ”
ก่อนอื่นลูกต้องมีความมุ่งมั่นที่ลูกจะต้องกลับมาบริสุทธิ์อย่างแน่นอน
พ่อให้ความช่วยเหลือหลายล้านเท่าแก่ลูก พ่อพูดว่า
ลูกดวงวิญญาณทั้งหลายมีความบริสุทธิ์แต่ดั้งเดิมและคงอยู่ตลอดไป
ลูกต้องกลายเป็นเช่นนั้นหลายต่อหลายครั้ง และลูกจะเป็นเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ
จากการมีสำนึกรู้ของ “หลายครั้งก่อนหน้านี้” ลูกจะกลับมามีพลัง
จากความอ่อนแอลูกกลับมาเข้มแข็ง ที่ลูกจะท้าทายผู้คนและบอกว่า
ลูกจะทำให้โลกบริสุทธิ์อย่างแน่นอนและแสดงให้ทุกคนได้เห็น สิ่งที่ฤษี มุนี
และดวงวิญญาณที่ยิ่งใหญ่พิจารณาว่าเป็นสิ่งที่ยาก
นั่นคือการอยู่ในครัวเรือนและอยู่อย่างบริสุทธิ์
ซึ่งลูกพูดว่าเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด
คติพจน์:
คำสัญญาคือการมีความมุ่งมั่น ผู้เลื่อมใสศรัทธาที่แท้จริงไม่เคยผิดคำสัญญาของพวกเขา
ความเพียรพยายามพิเศษที่จะกลับมาทัดเทียมกับพ่อบราห์มา