06.10.19    Avyakt Bapdada     Thai Murli     18.02.85     Om Shanti     Madhuban


ยุคบรรจบพบกันเป็นยุคของการใช้ร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สมบัติ และเวลาของลูกในทางที่มีค่า
 


วันนี้ พ่อผู้ให้คุณประโยชน์โลกกำลังมองดูลูกๆผู้ให้ความร่วมมือของท่าน ลูกๆทุกคนมีความปรารถนาที่ลึกซึ้งในหัวใจของเขาหรือของเธอที่จะเปิดเผยพ่อ ทุกคนมีความคิดหนึ่งที่สูงส่งและทุกคนก็ข้องแวะอยู่ในงานนี้ด้วยความจริงจังและกระตือรือร้น เพราะการมีความรักต่อพ่อผู้เดียวพวกเขาจึงมีความรักต่องานรับใช้ด้วยเช่นกัน ทั้งวันทั้งคืนในกิจกรรมทางร่างและในความฝันของพวกเขาเช่นกัน พวกเขาจะมองเห็นแต่พ่อและงานรับใช้เท่านั้น พ่อรักการทำงานรับใช้และเหตุนี้เองลูกๆที่รักและให้ความร่วมมือจึงรักที่จะทำงานรับใช้เช่นกัน นี่คือข้อที่พิสูจน์ นี่คือตัวอย่างของความรัก พ่อพอใจที่ได้เห็นลูกๆที่ให้ความร่วมมือเช่นนั้น ลูกกำลังใช้ร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สมบัติ และเวลาของลูกในหนทางที่มีค่าด้วยความรักอย่างมาก ลูกกำลังเปลี่ยนสิ่งนั้นจากบัญชีบาปเป็นบัญชีบุญและกำลังทำให้ปัจจุบันของลูกสูงส่งและยังสะสมสำหรับอนาคตของลูกด้วยเช่นกัน ยุคบรรจบพบกันเป็นยุคของการสะสมหลายล้านเท่าจากหนึ่งเท่า ยุคที่จะได้รับร่างกายที่เป็นอิสระจากโรคภัยโดยสิ้นเชิงเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิดด้วยการใช้ร่างกายของลูกในงานรับใช้ ร่างกายของลูกอาจจะอ่อนแอ อาจจะเจ็บป่วย และลูกก็ไม่สามารถรับใช้ด้วยคำพูดหรือการกระทำ แต่อย่างน้อยลูกก็สามารถรับใช้ด้วยจิตใจจนถึงวินาทีสุดท้าย ลูกสามารถที่จะเปิดเผยพลังของความสุขเหนือประสาทสัมผัสและความสงบของลูกผ่านใบหน้าและดวงตาของลูก เพื่อที่ผู้ที่เข้ามามีสายใยกับลูกจะเห็นลูกและพูดว่า: ผู้นี้เป็นคนไข้ที่มหัศจรรย์ แม้กระทั่งหมอก็จะมีความสดชื่นแจ่มใสเมื่อเห็นคนไข้ โดยทั่วไปแล้วหมอจะให้ความสุขแก่คนไข้และทำให้ผู้อื่นให้ความสุขแก่คนไข้ด้วย แต่แทนที่พวกเขาจะให้สิ่งนั้นจงให้พวกเขาได้รับประสบการณ์ของการได้รับสิ่งนั้นแทน ไม่ว่าลูกจะเจ็บป่วยแค่ไหน ถ้าสติปัญญาที่สูงส่งของลูกมีพลานามัยที่ดี ลูกก็จะสามารถรับใช้จนกระทั่งเวลาสุดท้าย เพราะลูกรู้ว่าลูกจะรับประทานผลของงานรับใช้นั้นจากร่างกายนั้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด เช่นที่ลูกทำงานรับใช้ด้วยร่างกายของลูก ในทำนองเดียวกันด้วยจิตใจของลูกก็จะกลายเป็นตัวของความสงบในจิตใจของลูก จงมีพลังในทุกความคิดเสมอ และด้วยการเป็นผู้ให้ความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ของลูก จงกระจายรัศมีของพลังแห่งความสุขและความสงบไปสู่บรรยากาศอยู่เรื่อยๆ เมื่อสิ่งสร้างของลูกนั่นคือดวงอาทิตย์กระจายรัศมีแห่งแสงไปทุกหนทุกแห่ง ลูกผู้เป็นนายผู้สร้าง, ลูกผู้เป็นนายผู้ทรงพลังอำนาจ, ผู้สร้างกฎเกณฑ์ ผู้ประทานพรและโชคจะไม่สามารถกระจายรัศมีแห่งความสำเร็จออกไปได้หรือ? ด้วยพลังแห่งความคิดของลูกนั่นคือด้วยจิตใจของลูก ลูกสามารถสร้างบรรยากาศในทุกหนแห่งโดยผ่านกระแสจิตของลูก แม้ว่าลูกจะนั่งในที่เดียวก็ตาม ด้วยการทำงานรับใช้ด้วยจิตใจประเภทนี้เป็นเวลาสั้นๆในชาติเกิดนี้ จิตใจของลูกจะอยู่ในสภาพที่มีความสงบและมีความสุขเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด จากนั้นอีกครึ่งวงจรด้วยความเลื่อมใสศรัทธาของลูกและภาพลักษณ์ของลูก ลูกจะกลายเป็นเครื่องมือที่จะให้ความสงบของจิตใจ แม้กระทั่งภาพลักษณ์เช่นนั้นก็จะให้ความสงบและพลังได้อย่างมากมาย ดังนั้นด้วยการรับใช้ด้วยจิตใจของลูกเพียงหนึ่งชาติเกิด ลูกจะกลายเป็นตัวของความสงบตลอดทั้งวงจรไม่ว่าจะในรูปที่มีชีวิตหรือผ่านภาพลักษณ์ของลูก

ในทำนองเดียวกันผู้ที่เป็นเครื่องมือในการรับใช้ด้วยทรัพย์สมบัติของพวกเขา ก็จะกลายเป็นนายแห่งทรัพย์สมบัติมากมายนับไม่ถ้วนเป็นเวลาถึง 21 ชาติเกิด พร้อมกับสิ่งนั้นดวงวิญญาณเช่นนั้นจะไม่มีวันเป็นขอทานในทรัพย์สมบัติตั้งแต่ยุคทองแดงจนถึงปัจจุบัน พวกเขาจะประกาศสิทธิ์ในโชคแห่งอาณาจักรของพวกเขาเป็นเวลา 21 ชาติเกิด และทรัพย์สมบัตินั้นจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นเหมือนฝุ่นที่พวกเขาจะได้รับสมบัตินั้นอย่างมากมายและอย่างายดาย ปวงประชาของปวงประชาของลูก นั่นคือแม้กระทั่งผู้รับใช้ปวงประชาของลูกก็จะกลายเป็นนายของทรัพย์สมบัติที่ไร้ขีดจำกัด ที่พวกเขาจะไม่มีวันเป็นขอทานในทรัพย์สมบัติแม้กระทั่ง 1 ใน 63 ชาติเกิดของพวกเขา พวกเขาจะกลายเป็นผู้รับประทานดัล(ซุปถั่ว)และโรตีด้วยความสุขอย่างยิ่ง พวกเขาไม่เคยแม้กระทั่งจะร้องขอโรตี(ขนมปัง) ดังนั้นเมื่อลูกใช้ทรัพย์สมบัติของลูกสำหรับผู้ประทานในชาติเกิดเดียวนี้ ผู้ประทานจะทำอะไร? ท่านจะใช้สมบัตินั้นเพื่องานรับใช้ ลูกใส่สมบัตินั้นลงไปในบันดาลีของพ่อ(กล่องของบาบา) และจากนั้นพ่อก็จะใช้สิ่งนั้นเพื่องานรับใช้ ดังนั้นการใช้ทรัพย์สมบัติสำหรับงานรับใช้หรือสำหรับผู้ประทานหมายถึงการอยู่รอดปลอดภัยจากการเป็นขอทานตลอดทั้งวงจร ยิ่งลูกให้มากแค่ไหนในตอนนี้ ลูกก็จะยิ่งสามารถรับประทานได้อย่างสบายในยุคทองแดงและยุคเหล็ก ดังนั้นลูกต้องใช้ร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สมบัติ และเวลาของลูกในหนทางที่มีค่า

ผู้ที่ใช้เวลาของเขาสำหรับงานรับใช้ ก็จะมาก่อน,ในเวลาที่สูงส่งที่สุดของวงจรโลกหรือยุคทอง พวกเขามาในยุคที่สาโตประทาน ช่วงเวลาที่ผู้เลื่อมใสศรัทธาเฝ้าแต่ร้องเพลงสรรเสริญแม้กระทั่งเวลานี้ พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญสวรรค์ใช่ไหม? ดังนั้นเมื่อพวกเขามาในช่วงที่สาโตประทาน พวกเขาจะมาในช่วงเวลาของ วันที่ 1 เดือน 1 ปีที่ 1 นั่นคือพวกเขามาในชาติเกิดแรกของยุคทอง พวกเขาจะประกาศสิทธิ์ในเวลาที่สูงส่งเช่นนั้น พวกเขาจะเป็นผู้ที่ใช้เวลาในชีวิตของพวกเขากับดวงวิญญาณอันดับหนึ่ง พวกเขาจะเป็นผู้ที่ศึกษาเล่าเรียนกับดวงวิญญาณเหล่านั้น ที่จะเล่นและเดินทางไปทั่วกับดวงวิญญาณเช่นนั้น ผู้ที่ใช้เวลาของเขาในทางที่มีค่าในยุคบรรจบพบกันจะได้รับผลที่สูงส่งของสิทธิ์ในเวลาทองที่สมบูรณ์พร้อมและสวยงาม หากลูกไม่ระมัดระวังในการใช้เวลาของลูกแล้วแทนที่จะมากับดวงวิญญาณอันดับหนึ่ง นั่นคือปีแรกของสวรรค์กับศรีกฤษณะ ลูกก็จะตามลงมาภายหลังตามลำดับ นี่คือความสำคัญของการให้เวลาของลูก ลูกให้อะไรและลูกได้รับอะไร? ดังนั้นตรวจสอบทั้งสี่สิ่งนี้ตลอดเวลาว่าลูกกำลังใช้ทั้งสี่สิ่งนี้ นั่นคือ ร่างกาย จิตใจ ทรัพย์สมบัติ และเวลาของลูกมากเท่าที่ลูกทำได้หรือไม่? ไม่ใช่ว่าลูกไม่ได้ใช้สิ่งเหล่านี้มากเท่าที่ลูกทำได้ใช่ไหม? ด้วยการใช้สิ่งเหล่านี้ตามความสามารถของลูก การบรรลุผลของลูกก็จะเป็นไปตามความสามารถ; มันจะไม่เต็ม ลูกดวงวิญญาณบราห์มินได้ให้สาสน์อะไรกับทุกคน? ความสุขและความสงบที่สมบูรณ์เป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของท่าน ลูกไม่ได้พูดว่าเป็นสิทธิ์โดยกำเนิดของท่านตามความสามารถของท่าน ลูกพูดว่าเป็นสิทธิ์อย่างเต็มที่ของท่าน เมื่อลูกมีสิทธิ์อย่างเต็มที่แล้วการมีการบรรลุผลอย่างเต็มที่คือการมีชีวิตที่เป็นบราห์มินอย่างแท้จริง ถ้าหากไม่เต็มที่ ลูกก็จะเป็นนักรบ จันทรวงศ์จะมาในภายหลังครึ่งทาง ดังนั้นการเป็นไปตามความสามารถของลูกจึงหมายถึงการไม่เต็มเปี่ยม ในขณะที่ชีวิตบราห์มินหมายถึงการเต็มเปี่ยมในทุกเรื่อง ดังนั้นลูกเข้าใจหรือไม่? บัพดาดากำลังมองดูบันทึกชาร์ทของลูกๆในเรื่องของการให้ความร่วมมือของพวกเขา ลูกทั้งหมดให้ความร่วมมือ เมื่อลูกให้ความร่วมมือลูกก็จะเป็นโยคีที่ง่ายดาย ลูกทั้งหมดเป็นดวงวิญญาณที่ให้ความร่วมมือ เป็นโยคีที่ง่ายดาย และเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่ง บัพดาดาทำให้ลูกแต่ละคนเป็นดวงวิญญาณที่มีสิทธิ์ทั้งหมด แล้วทำไมลูกถึงกลายเป็นผู้ที่เป็นไปตามความสามารถ? หรือลูกคิดว่าคนอื่นจะกลายเป็นสิ่งนั้น? มีลูกมากมายที่จะกลายเป็นเช่นนั้น ลูกไม่ได้เป็นเช่นนั้นหรือ? ถึงเวลาแล้วที่ลูกจะต้องประกาศสิทธิ์ของลูกอย่างเต็มที่ ลูกได้รับการบอกแล้วว่าป้ายของคำว่า “สายเกินไป” ยังไม่ถูกยกขึ้นมา ผู้ที่มาทีหลังนั่นคือผู้ที่มาสายสามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้ เหตุนี้เองลูกจึงยังมีโอกาสทองแม้กระทั่งเวลานี้ เมื่อป้ายของคำว่า “สายเกินไป”ถูกยกขึ้นมาแล้วแทนที่จะเป็นโอกาสทองลูกก็จะมีเพียงแค่โอกาสเงินเท่านั้น ลูกควรจะทำอย่างไร? ลูกคือผู้ที่จะรับโอกาสทองใช่ไหม? ถ้าลูกไม่เข้ามาในยุคทอง แล้วลูกทำอะไรหลังจากที่เป็นบราห์มิน? ด้วยเหตุนี้เองบาบาจึงยังคงเตือนลูกๆที่รัก เพราะด้วยความรักของพ่อ ลูกจึงยังมีโอกาสในเวลาปัจจุบันที่จะได้รับผลตอบแทนหลายล้านเท่าสำหรับหนึ่ง ในขณะนี้ไม่ใช่ว่าลูกจะได้รับตามจำนวนที่ลูกให้ มันเป็นหลายล้านเท่าสำหรับหนึ่ง หลังจากนั้นบัญชีจะขึ้นอยู่กับว่าลูกทำอะไรมากแค่ไหน - ลูกก็จะได้รับตามนั้น อย่างไรก็ตามในเวลานี้คลังสมบัติที่มีค่าที่เปี่ยมล้นของพระเจ้าที่ไร้เดียงสานั้นเปิดอยู่ แม้ว่าจะมีลูกมากมายเพียงใดลูกก็สามารถจะรับได้มากเท่าที่ลูกต้องการ หลังจากนั้นลูกก็จะได้รับการบอกว่าที่นั่งอันดับหนึ่งของยุคทองไม่ว่างแล้ว ดังนั้นจงกลับมาเต็มเปี่ยมเช่นเดียวกันพ่อ จงรู้ถึงความสำคัญและกลับมายิ่งใหญ่ ลูกดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์คือผู้ที่จะประกาศสิทธิ์ในโอกาสทองใช่ไหม? เมื่อลูกก้าวไปข้างหน้าด้วยความรักมากมายและลูกก็มีความรักและร่วมมือกัน ดังนั้นลูกจึงมีเป้าหมายที่จะสั่งสมความสมบูรณ์พร้อมในทุกสิ่งด้วยการมีเป้าหมายอย่างเต็มที่ ถ้าลูกไม่มีความรัก ลูกจะมาถึงที่นี่ได้อย่างไร? เช่นที่ลูกบินมาที่นี่ ในทำนองเดียวกันจงเฝ้าแต่โบยบินในสภาพที่โบยบินอย่างสม่ำเสมอ ลูกฝึกฝนที่จะบินด้วยร่างกายของลูกใช่ไหม? ให้ดวงวิญญาณอยู่ในสภาพที่โบยบินเสมอเช่นกัน นี่เป็นความรักของบัพดาดา อัจชะ

ถึงผู้ที่เฝ้าแต่เป็นตัวของความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอและผู้ที่ใช้ความคิดและเวลาของเขาในทางที่มีค่า ถึงผู้ที่มีความจริงจังและความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้ด้วยทุกการกระทำ ถึงผู้ที่ทำให้ตนเองสมบูรณ์พร้อมและได้รับสิทธิ์อย่างเต็มที่ ถึงผู้ที่ใช้โอกาสทองที่พวกเขาได้รับ ถึงลูกที่มีค่าเช่นนั้นที่ทำตามพ่อ ด้วยความรัก การจดจำระลึกถึง และนมัสเต จากบัพดาดา แด่ลูกอันดับหนึ่ง

บัพดาดาพบกลุ่มที่มาจากกาตมันดูและดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์: ลูกทั้งหมดมีประสบการณ์ว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณพิเศษหรือไม่? จะมีดวงวิญญาณพิเศษในโลกนี้มากแค่ไหน? มีคำสรรเสริญว่า เพียงแค่กำมือเดียวจากหลายๆล้าน พวกเขาเป็นใคร? เป็นลูกใช่หรือไม่? ดังนั้นลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งเช่นนั้น ที่เป็นหนึ่งกำมือจากหลายล้านและเป็นเพียงไม่กี่คนจากกำมือเดียวนั้นหรือไม่? ลูกไม่เคยมีความคิดแม้กระทั่งในความฝันว่าลูกจะกลายเป็นดวงวิญญาณที่สูงส่งเช่นนั้น อย่างไรก็ตามลูกมีประสบการณ์นั้นในรูปที่มีตัวตน ดังนั้นโชคที่สูงส่งนี้คงอยู่ในสำนึกของลูกเสมอหรือไม่? ว้าว! โชคที่สูงส่งของฉัน! พระเจ้าเองได้สร้างโชคของลูก พระเจ้าเองได้วาดเส้นโชคของลูกโดยตรง ดังนั้นโชคของลูกเป็นโชคที่สูงส่งนั้น เมื่อลูกตระหนักถึงโชคที่สูงส่งนี้ เท้าของสติปัญญาของลูกก็จะไม่อยู่บนพื้นดิน นั่นใช่หรือไม่? ไม่ว่าในกรณีใด เทวดานางฟ้าจะไม่วางเท้าลงบนพื้นดิน พวกเขาจะอยู่เหนือพื้นดินเสมอ ดังนั้นเท้าของสติปัญญาของลูกจะอยู่ที่ไหน? จะไม่อยู่ข้างล่างบนพื้นดิน สำนึกที่เป็นร่างคือพื้นดิน(โลก) ลูกคือผู้ที่อยู่เหนือพื้นดินของสำนึกที่เป็นร่าง สิ่งนี้เรียกว่าเทวดานางฟ้า ดังนั้นลูกมีสมญามากแค่ไหน? ผู้ที่มีโชค,เทวดานางฟ้า,ผู้ที่จากหายไปนานเวลานี้ได้พบพาน สมญาที่สูงส่งทั้งหมดนี้เป็นของลูก ดังนั้นจงเฝ้าแต่ร่ายรำอยู่ในความสุขนี้ ผู้ที่จากหายไปนานและเวลานี้ได้พานพบจะไม่วางเท้าลงบนพื้นดิน พวกเขาจะอยู่บนชิงช้าเพราะพวกเขาได้ฝึกที่จะอยู่ข้างล่างบนพื้นดินเป็นเวลา 63 ชาติเกิด จากประสบการณ์นั้นลูกได้เห็นแล้วว่า:ในขณะที่อยู่บนพื้นดิน,อยู่ในฝุ่นละออง ลูกกลับมาสกปรกเพียงใด? เวลานี้ลูกได้กลายเป็นผู้ที่จากหายไปนานและขณะนี้ได้กลับมาพานพบ จงอยู่เหนือพื้นดินเสมอ อย่าได้กลับไปสกปรก รักษาความสะอาดเสมอ ลูกๆที่มีหัวใจที่ซื่อสัตย์และหัวใจที่สะอาดจะอยู่กับพ่อตลอดเวลาสม่ำเสมอ เพราะพ่อสะอาดอยู่ตลอดเวลาเสมอ ดังนั้นผู้ที่อยู่กับพ่อก็จะสะอาดอยู่เสมอด้วยเช่นกัน เป็นการดีมากที่ลูกได้มาชุมนุมกันเพื่อเฉลิมฉลองการพบปะ ความรักของลูกทำให้ลูกมาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลองการพบปะ บัพดาดาพอใจที่ได้เห็นลูกๆ เพราะถ้าไม่ใช่เพื่อลูกพ่อจะทำอะไรด้วยตนเอง? ยินดีต้อนรับสู่บ้านของลูกเอง! เมื่อผู้เลื่อมใสศรัทธาไปจาริกแสวงบุญ พวกเขาจะต้องข้ามเส้นทางที่ยากลำบากมากมาย ลูกมาจากกาตมันดูโดยรถบัส ลูกมาถึงที่นี่ในขณะที่ตัวลูกเองก็สนุกสนาน อัจชะ

กลุ่มลอนดอน: ลูกทั้งหมดเป็นลูกปัดในลูกประคำของพ่อที่ถูกร้อยอยู่ในเส้นด้ายแห่งความรักใช่ไหม? ทำไมถึงให้ความสำคัญกับลูกประคำมาก? เพราะเส้นด้ายแห่งความรักเป็นเส้นด้ายที่สูงส่งที่สุด ดังนั้นเวลานี้ลูกทั้งหมดเป็นของพ่อในเส้นด้ายแห่งความรักและอนุสรณ์ของสิ่งนี้คือลูกประคำ เพียงผู้ที่เป็นของพ่อผู้เดียวและไม่มีใครอื่นเท่านั้นที่จะถูกร้อยอยู่ในเส้นด้ายเส้นเดียวแห่งความรักเดียวนี้อย่างเป็นลูกปัดของลูกประคำ มีเพียงเส้นด้ายเส้นเดียวแต่มีลูกปัดมากมาย ดังนั้นนี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อพ่อผู้เดียว ลูกพิจารณาว่าตนเองเป็นลูกปัดของลูกประคำใช่ไหม? หรือลูกคิดว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้ามาอยู่ใน 108? ลูกคิดอย่างไร? หรือจำนวน 108 นั้นเป็นเพียงแต่ชื่อ? พวกเขาทั้งหมดเหล่านั้นหลอมรวมอยู่ในความรักของพ่อ เป็นไข่มุกของมาลัยรอบคอของบาบา ลูกคือผู้ที่ซึมซับอยู่ในความรักของผู้เดียว ดังนั้นสภาพที่อยู่อย่างซึมซับนี้ทำให้ลูกเป็นอิสระจากอุปสรรค และเพียงดวงวิญญาณที่เป็นอิสระจากอุปสรรคเท่านั้นที่จะได้รับคำยกย่องและการกราบไหว้บูชา ใครร้องเพลงยกย่องมากที่สุด? ถ้าบาบาไม่ยกย่องแม้แต่ลูกคนเดียวลูกคนนั้นก็จะบูดบึ้งขึงตึง ดังนั้นบาบาจึงยกย่องลูกทุกคน เพราะลูกแต่ละคนพิจารณาว่านี่เป็นสิทธิ์ของเขา เนื่องจากการมีสิทธิ์นั้น แน่นอนพวกเขาก็คิดว่าเป็นสิทธิ์ของเขา ความเร็วของพ่อนั้นรวดเร็วมาก ไม่มีใครที่จะมีความเร็วสูงเช่นนั้น ท่านสามารถจะทำให้คนมากมายพอใจได้ในหนึ่งวินาที ดังนั้นพ่อจึงไม่ว่างเว้นกับลูกเสมอ และลูกก็ไม่ว่างเว้นอยู่กับพ่อเสมอ ธุรกิจของพ่อคืออยู่กับลูก ๆ

ลูกกลายเป็นเพชรพลอยที่ไม่มีวันสูญสลาย และดังนั้นขอแสดงความยินดี! ขอแสดงความยินดี เพราะลูกได้รับชัยชนะเหนือมายาเป็นเวลา 10 หรือ 15 ปี อย่างไรก็ตามเวลานี้จงมีชีวิตอยู่ตลอดยุคบรรจบพบกัน ลูกทั้งหมดมีความเข้มแข็ง ดังนั้นบัพดาดาพอใจที่ได้เห็นลูกที่ไม่สั่นคลอนและมั่นคงเช่นนั้น คุณสมบัติพิเศษของลูกแต่ละคนที่ได้ทำให้เขาเป็นของพ่อ ไม่มีแม้แต่ลูกคนเดียวที่ไม่มีคุณสมบัติพิเศษ ด้วยเหตุนี้บัพดาดาจึงพอใจที่ได้เห็นคุณสมบัติพิเศษของลูกแต่ละคน มิฉะนั้นทำไมจึงมีเพียงแต่ลูกที่จะเป็นกำมือเดียวจากหลายล้านและไม่กี่คนจากกำมือเดียวนั้น ลูกแต่ละคนมีคุณสมบัติพิเศษอย่างแน่นอน บ้างก็เป็นเพชรพลอยประเภทหนึ่ง บ้างก็เป็นเพชรพลอยประเภทอื่น เพชรพลอยทั้ง 9 ของคุณสมบัติที่ต่างกันได้รับการจดจำ เพชรพลอยแต่ละเม็ดเป็นผู้ที่ทำลายอุปสรรคพิเศษ ดังนั้นลูกๆทั้งหมดเป็นผู้ที่ทำลายอุปสรรคด้วยเช่นกัน

บัพดาดากำลังให้การตอบแทนต่อความรัก ความทรงจำระลึกถึง และจดหมายของลูกๆดับเบิ้ลฟอเรนเนอร์ชายหญิง:


บัพดาดาได้รับความรักของลูกๆที่รัก ความจริงจังและความกระตือรือร้นในหัวใจของลูกแต่ละคนได้มาถึงพ่อ และเช่นเดียวกับที่ลูกก้าวไปข้างหน้าด้วยความจริงจังและความกระตือรือร้น ดังนั้นลูกก็จะได้รับพรพิเศษจากบัพดาดาและครอบครัวเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ ลูกจะเฝ้าแต่ก้าวไปข้างหน้าด้วยพรเหล่านี้และลูกก็จะเฝ้าแต่ทำให้ผู้อื่นเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยเช่นกัน ลูกกำลังแข่งกันอย่างดีในงานรับใช้ เช่นที่ลูกแข่งกันด้วยความจริงจังและกระตือรือร้น ดังนั้นเช่นกัน จงเฝ้าแต่มีความก้าวหน้าต่อไปที่ไม่มีวันสูญสลาย ดังนั้นลูกจะได้รับอันดับที่ดีในอันดับต้นๆ ลูกทั้งหมดยอมรับการจดจำระลึกถึงเป็นการส่วนตัวตามชื่อและคุณสมบัติ แม้กระทั่งขณะนี้ลูกทุกคนก็อยู่เบื้องหน้าบัพดาดาด้วยคุณสมบัติพิเศษของเขาเอง ดังนั้นด้วยความรักและการจดจำระลึกถึงเป็นหลายล้านเท่า

ดาดี้จันทรมณีลาบาบาเพื่อไปปัญจาบ:
ให้ความรักและการจดจำระลึกถึงแก่ลูกทุกคนและให้สาสน์พิเศษแก่พวกเขาให้อยู่ในสภาพที่โบยบินด้วยเช่นกัน ในการที่จะทำให้ผู้อื่นโบยบิน จงดูดซับรูปที่มีพลัง ไม่ว่าบรรยากาศจะเป็นเช่นไร ลูกสามารถให้ประสบการณ์ของสภาพที่โบยบินแก่ดวงวิญญาณมากมายด้วยสภาพที่โบยบินของลูก ดังนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เตือนทุกคนเป็นพิเศษว่า การจดจำระลึกถึงและงานรับใช้นั้นจะต้องดำเนินไปด้วยกัน พวกเขาทั้งหมดเป็นลูกพิเศษที่จากหายไปนานและเวลานี้ได้พานพบ พวกเขาเป็นดวงวิญญาณที่มีคุณสมบัติพิเศษที่ดี ขอให้พวกเขาแต่ละคนรับความรักและการจดจำระลึกถึงด้วยคุณสมบัติพิเศษของพวกเขา เป็นสิ่งที่ดีที่ลูกกำลังเล่นสองบทบาท สิ่งชี้บอกของดวงวิญญาณที่ไม่มีขีดจำกัดคือ พวกเขาจะไปที่ใดก็ตามที่เป็นที่ต้องการในเวลานั้น อัจชะ

พร:
ขอให้ลูกพิจารณาอุปสรรคในงานรับใช้ว่าเป็นบันไดสำหรับความก้าวหน้าของลูกเองและก้าวไปสู่จุดที่สูงอย่างเป็นผู้ที่ปราศจากอุปสรรคและผู้รับใช้ที่แท้จริง

งานรับใช้เป็นหนทางสำหรับลูกที่จะทำให้ชีวิตบราห์มินของลูกปราศจากอุปสรรคตลอดเวลาอยู่เสมอ และเป็นงานรับใช้เช่นกันที่ลูกมีข้อสอบเกี่ยวกับอุปสรรคมากขึ้น ผู้รับใช้ที่ปราศจากอุปสรรคนั้นถือว่าเป็นผู้รับใช้ที่แท้จริง สิ่งนี้ถูกกำหนดไว้ในละครสำหรับอุปสรรคที่จะมา พวกเขาจะมาและพวกเขาจะมาอย่างต่อเนื่องเพราะมันเป็นอุปสรรคและข้อสอบที่ทำให้ลูกมีประสบการณ์ อย่าได้คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรค แต่ให้มองว่าเป็นหนทางสำหรับลูกที่จะก้าวหน้าในประสบการณ์ของลูก และลูกจะสัมผัสว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นบันไดแห่งประสบการณ์และจะยังคงปีนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

คติพจน์:
อย่าได้รับรูปของอุปสรรค แต่เป็นผู้ทำลายอุปสรรค